ลองวิธีเปิดตาทิพย์แบบต่าง ๆ พร้อมทั้งคาถา

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย อำนวยกรณ์, 4 มีนาคม 2011.

  1. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    <CENTER>วิธีเปิดตาทิพย์แบบต่างๆ ๗ วิธี

    </CENTER>



    วิธีเปิดตาทิพย์แบบต่างๆ ๗ วิธี




    ๑) เพ่งกสิณสิบ (วิธีแบบดั้งเดิม)

    เป็นวิธีเก่าแก่ดั้งเดิม ง่ายสำหรับท่านที่มีบารมีเก่าทางด้านกสิณ หรือรูปฌาน เมื่อท่านหลับตาแล้วเห็นดวงกสิณ เป็นสีต่างๆ วูบๆ วาบๆ ให้ท่านฝึกเพ่งดวงกสิณนั้น การเพ่งกสิณใช้เวลานานหรือไม่นาน ขึ้นอยู่กับวาระบุญวาสนาของแต่ละบุคคล ในที่นี้จะไม่อธิบายมาก เพราะเป็นวิธีเก่าแก่ที่มีเผยแพร่มากมายในหลายสถานที่




    ๒) ทะลวงด้วยลมปราณ (อานาปานสติ)

    โดยการกำหนดลมหายใจที่ท้องน้อย หายใจเข้า “พองหนอ” หายใจออก “ยุบหนอ” จนชำนาญ จากนั้น ให้กำหนดรวมลมปราณหายใจเข้าที่ท้องน้อย ลมปราณรวมศูนย์ที่ท้องน้อย จากนั้น หายใจออกให้ออกทางตาที่สาม แล้วบริกรรม “ทะลวงออก”ๆๆ วิธีนี้เป็นวิธีเปิดตาทิพย์ของเทพสามตา ร่วมกับสมถะแบบอานาปานสติ เมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จอย่าลืมขอบคุณเทพสามตา และนับท่านเป็นครูทางตาทิพย์ผู้หนึ่ง




    ๓) เดินจงกลมทะลวงตาที่สาม

    โดยการกำหนดจิตรวมไว้ที่ตาที่สาม แล้วเดินจงกลม แบบเร็วๆ และหนักแน่น เหมือนทหารเดินสวนสนาม ทุกครั้งที่เดิน ให้กระแทกดันพลังที่ท้องน้อย ให้ทะลวงตาท่อตาที่สาม (แกนกลางกาย) ออกทางตาที่สาม ทะลวงไปเรื่อยๆ จนสำเร็จ หากรู้สึกหมดแรงให้หยุดพัก (หากพลังหมดจะเสียสุขภาพได้) วิธีนี้เป็นวิธีเปิดตาทิพย์ของหลวงพี่รอง เมื่อเปิดตาทิพย์สำเร็จ ให้ระลึกถึงคุณของท่านเป็นดั่งอาจารย์




    ๔) อัดพลังเข้าตาที่สาม (วิธีแบบเซียน)

    โดยการใช้นิ้วจิ้มเข้าที่ตาที่สาม ไว้ระยะหนึ่ง แล้วให้ผู้จิ้ม เดินลมปราณถ่ายเข้าที่ตาที่สาม ทะลวงท่อตาที่สามแล้วอัดพลังลมปราณเติมเข้าไปจนเต็มท่อตาที่สาม ผู้รับการเปิดตาทิพย์ให้หลับตาเพ่งจุดที่ถูกจิ้มตาที่สามไว้อย่าลืมตา หากตาที่สามเปิดจะเห็นแสงวาบเข้ามาสว่างมากอย่าตกใจ หากเปิดออกอีกจะเห็นกายทิพย์ของผู้ทำการเปิดตาทิพย์ให้ ให้กราบขอบคุณผู้เปิดตาให้ ระลึกพระคุณท่านที่สละพลังลมปราณเพื่อเปิดตาที่สามให้เรา นับท่านเป็นอาจารย์ จะเจริญก้าวหน้าในทางธรรมต่อไป




    ๕) ใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปด

    โดยการใช้ขี้ผึ้งหมื่นแปด ป้ายที่ตาที่สาม สำหรับผู้ไม่มีปัญหาเรื่องพลังในท่อตาที่สาม หรือตาที่สามเคยเสื่อม แล้วต้องการฟื้นตาที่สามใหม่ จะได้ผลทันตา แต่หากไม่มีพลังในตาที่สามเลย ไม่เคยฝึกเลยอาจไม่ได้ผลนัก (ไม่รับประกันผล) สำหรับวิธีนี้ เมื่อสำเร็จแล้ว ให้ระลึกถึงพระคุณของหลวงพี่เอก ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดด้วยวิธีนี้ แต่เนื่องจากขี้ผึ้งหมื่นแปดในโลกหากยากและมีน้อย จึงไม่ขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ หากสามารถหาขี้ผึ้งหมื่นแปดมาได้ด้วยตนเอง ก็ลองทำดู แต่ไม่ควรขอขี้ผึ้งหมื่นแปดจากผู้ใดเพราะเป็นของหายาก ตามบุญวาสนาของแต่ละท่านที่จะบำเพ็ญเพียรได้




    ๖) ใช้คาถาเพ่งภาพพระพุทธรูป

    ใช้คาถา “พุทธธัง เมฆนิมิตต์ จิตตัง มะอะอุ, ธัมมัง เมฆนิมิตต์ จิตตัง อุอะมะ, สังฆัง เมฆนิมิตต์ จิตตัง อะมะอุ” ให้บริกรรมโดยเพ่งภาพพระพุทธรูปทุกวัน วันละ ๕ นาที จำนวน ๗ ถึง ๑๕ วัน ถ้าไม่ได้ผล ให้ลองตรวจกรรม แก้กรรม สร้างบุญบารมีก่อน




    ๗) ใช้คาถาอาบน้ำมนต์

    ใช้คาถา “นะมะพะธะ พุทธโธ โลทีปัง อาโลกสิณัง วิโสธายิ, ธัมโม โลทีปัง อาโลกสิณัง วิโสธายิ, สังโฆ โลทีปัง อาโลกสิณัง วิโสธายิ” โดยให้ใช้ธูป ๗ ดอก เทียน ๗ เล่ม (หนักเล่มละบาท) ดอกไม้ ๗ กระทง, ข้าวตอก ๗ กระทง บาตรใส่น้ำมนต์หนึ่งใบ ภาวนาคาถานี้ จนจุใจ แล้วเอาน้ำมนต์ไปอาบให้ครบ ๗ วัน สำเร็จตามวาระบุญ

    ที่มา:http://www.oknation.net/blog/print.php?id=314858
    [​IMG]

    สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพพจักขุง วิโสทายิ

    " สหัสสเนตโต " นี่เขาแปลว่า มีตาตั้งพัน
    คำว่าตานี้คือปัญญา ตาท่านไม่มีถึง 1,000 มี 1,000 ตาไม่รู้ติดตรงไหน หมายความพระพุทธเจ้าทรงอธิบายว่า ท่านใช้ปัญญาคิดเรื่องเดียว ในขณะเดียวกันคิดหนึ่งเรื่องได้พันเรื่อง นี่อาศัยความเป็นทิพย์ มีนามว่า " สหัสสเนตโต "
    นี่คาถา สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพพจักขุง วิโสทายิ คือทรงชำระจิตดวงตาที่เป็นทิพย์ คืออาศัยชำระที่มีอารมณ์เป็นทิพย์ ก็หมายถึงชำระดวงตาสะอาด
    คือสามารถคิดเรื่องได้คราวเดียวกันได้ 1,000 เรื่อง " สหัสสะ " แปลว่า พัน ไอ้คนแปลตรงตัวนะ พระอินทร์มีนัยน์ตาตั้งพัน
    " เทวินโท ทิพพจักขุง วิโสทายิ " ทรงชำระทิพยจักษุนัยน์ตาเป็นทิพย์ให้สะอาด "นี่ก็เป็นคาถาด้วย?"
    คาถา 7 จบ
    ที่มา: http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=tammatan&topic=19&Cate=2

    คาถาทิพจักษุ(คาถาตาทิพย์)
    นะ มะ พะ ทะ จะ ตุ ระ ภู ตา นัง
    อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิติ วัตตัพโพ อาคัจฉาหิ ฯสวด ๕ จบขอนิมิตที่บันดาลโชคลาภแก่ตน อธิษฐานจิต
    ตั้งสมาธิขอเห็นชัดเจนในสิ่งที่ปรารถนา

    คาถาเพ่งนิมิต
    อิทธิ ฤทธิ พุทธานิมิตตัง ทิสวานะตังฯ
    สวด ๕ จบ ตั้งสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้เกิดนิมิตที่ดี เห็นในสิ่งที่ดีนำมาซึ่งโชคลาภแก่ตน

    ที่มา : http://www.facebook.com/note.php?note_id=129021200446108

    คาถาพระเจ้าเปิดโลก
    พุทธัง บังเกิด เปิดโลก โลกะวิทู วิโสธายิ ธัมมังบังเกิด เปิดโลกโลกะวิทู วิโสธายิ สังฆังบังเกิด เปิดโลกโลกะวิทู วิโสธายิ พุทโมทะลุโปร่งฟ้า พุทโปร่งดิน โปร่งสายสิญจ์ โปร่งมหาสมุทรสาคร พุทธะโกษา ลังกาสิงหละภาษา พุทโธเปิดปล่อง ธัมโมเปิดช่อง สังโฆเปิดเปิด สําเร็จ สําเร็จ สําเร็จ/

    ของหลวงพ่อ อะระหันต์บาตรใหญ่ สระบุรี ท่านกล่าวไว้ว่า ถ้านําคาถานี้มาภาวนา นั่งสมาธิ จะบังเกิดตาทิพย์ มีเสน่ห์เมตตามหานิยมในตัวเอง


    อีกบทหนึ่งนะครับ
    "นะกุกกุสันโธ มหิตธิโก มหิตธิโย มหิตธิโส สะหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพพะจักขุง วิโสธายิ"


    ที่มา : http://www.e-sarnsakyan.com/webboard/index.php?topic=349.0



    [​IMG]
    พลอยตาเสือ สิ่งที่ทำให้ตาทิพย์มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2015
  2. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    [​IMG]
    พลอยตาเสือ(Tiger's Eye) มีสีเหลืองเคลือบลายน้ำตาล บางคนเรียกว่า แคท'ส อาย หรือตาแมว
    ลายหินที่คล้าย กับลายเสือนี้มีลักษณะวาววับเหมือนตาแมว ในบรรดาหินตาแมวนี้ หินพื้นฟ้าอมเขียวที่ชื่อ Hawk's Eye เป็นที่รู้จักกันมากเช่นกัน
    หินพลอยตาเสือ เรียกกันว่า
    เป็นหินตาที่สาม มีคุณสมบัติ ในการช่วยอ่าน และคาดเดาสถานการณ์และ
    มีความ หนักแน่น ในการตัดสินใจ เป็นหินที่เหมาะกับการแข่งขันคุณสมบัติ ช่วยส่งผลดี ต่อจิตใต้สำนึก สามารถค้นหาสิ่งดี ๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่
    ภายในตัวเราได้ สร้างความ แข็งแกร่ง เป็นศูนย์รวมแห่งพลังความคิด และจินตนาการ เหมือนเป็นการโฟกัส จุดให้กับเป้าหมาย ในชีวิต
    นอกจากนั้น ยังช่วยบรรเทาอาการ ปวดศรีษะ เป็นหินที่มีพลัง ในการปกป้อง คุ้มครองสูงเมื่อมีความเครียด
    หรือปวดศรีษะ เมื่อสวมใส่แล้ว สามารถบรรเทา ให้คลายลงได้


    ที่มา : http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://1.bp.blogspot.com/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2015
  3. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,212
    ขอบคุณมากครับ

    อยากมีตาทิพย์บ้างจัง
     
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,949
    ค่าพลัง:
    +43,556
    แล้วตาที่ ๓ นี่ อยู่ตรงไหนของร่างกายอ่ะจ๊ะ พี่ติ๋ง ตรงกลางหน้าผากหรือเปล่า...???
     
  5. PHI CHED

    PHI CHED สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +7
    วิชาปลุกธาตุตาทิพย์ (พระอนุรุทธ)
    ข้าพเจ้าขอน้อมเชิญมหาธาตุตาทิพย์ จงมาเป็นแสงเทียนและแสงธรรม เป็นเปลวเทียน เปลวไฟแห่งสัจธรรมอยู่ธรรมะที่ส่องสว่าง
    ข้าพเจ้าขอน้อมเชิญด้วยใจสัทธาและเคารพยิ่งพร้อมขึ้นบูชา
    พระอนุรุทธ คือ ผู้เลิศแห่งตาทิพย์ ข้าพเจ้าขออนุญาตนำวิชาท่านมาเผยแผ่เป็นธรรมทาน
    การสร้างบุญบารมีอันเป็นเหตุให้เกิดตาทิพย์
    การสร้างบุญบารมีอันเป็นเหตุให้เกิดตาทิพย์ นั้นคือ การทำบุญด้วยแสงสว่าง หลอดไฟแสงไฟ เทียนเข้าพรรษา น้ำมันตะเกียงถวายพระ
    หลักการฝึกตาทิพย์
    การฝึกตาทิพย์ มีหลักใหญ่อยู่ 3 อย่าง ฝึกใช้กสิณทั้ง 3 นำอันเป็นเหตุให้เกิดตาทิพย์ คือ กสิณสีขาว กสิณไฟและกสิณแสงสว่างนั้นเอง
    การฝึกตาทิพย์ด้วยกสิณสีขาว
    เพ่งสีขาว เป็นอารมณ์ของสมาธิให้เกิดตาทิพย์ คือ เจริญกสิณสีขาว นำแผ่นกระดาษ สีขาวมาวางไว้ด้านหน้าเป็นแผ่นวงกลม เพื่อเจริญเป็นดวงกสิณสีขาว จะเพ่งหลับตาและลืมตา แบบพิสดารจนจำดวงกสิณสีขาวเป็นนิมิตติดตา เมื่อจำดวงกสิณสีขาวเป็นนิมิตติดตาได้แล้ว เวลาเข้าสมาธิก็ไม่จำเป็นต้องเพ่งสีขาวอีกต่อไป เพราะจำนิมิตสีขาวจนติดตาได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้นิมิตติดตา หมายความว่า จะหลับตาเข้าสมาธิกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถนึกและเห็นภาพเป็นดวงกสิณ สีขาวได้ ต้องพยายามฝึกต่อไปทุกวัน จนได้นิมิตติดตา จึงสำเร็จสมาธิแห่งฌานดวงกสิณสีขาว อานุภาพแห่งจิตสมาธิ สามารถใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณสีขาว ดังนี้
    หลักการใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณสีขาว พึงเข้าสมาธิด้วยกสิณสีขาวจะหลับตาหรือลืมตาก็ได้ หลับตาเพื่อดูภาพระยะไกล หรือคนละมิติ ลืมตาเพื่อดูสิ่งลี้ลับ ที่คนอื่นมองไม่เห็นระยะใกล้ เป็นต้น เมื่อเข้าฌานสมาธิด้วยกสิณสีขาวแล้ว จะเกิดเป็นดวงกสิณนิมิตขึ้นมา ถ้าหลับตาเข้าสมาธิแล้วใช้ตาทิพย์ ภาพก็จะมาปรากฏอยู่ในดวงนิมิตสีขาวของตาทิพย์ ถ้าลืมตาเข้าสมาธิแล้วใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณสีขาว ภาพก็จะมาปรากฏให้เห็นอยู่ที่ดวงตา ดังนี้
    การฝึกตาทิพย์ด้วยกสิณไฟ
    เพ่งไฟ เป็นอารมณ์ของสมาธิให้เกิดตาทิพย์ คือ เจริญกสิณไฟ นำเทียนไขจุดไฟหรือตะเกียงน้ำมันแล้วจุดไฟขึ้นหรือจะเพ่งพระอาทิตย์ในเวลาเช้าและเวลาเย็น สำหรับผู้เริ่มต้นฝึกกสิณไฟไม่ควรเพ่งพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน เพราะจะทำให้เสียสายตาได้ (แต่สำหรับผู้สำเร็จ ตาทิพย์ด้วยกสิณไฟแล้ว จะเพ่งพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวันก็จะไม่รู้สึกปวดสายตา) จะเพ่งหลับตาและลืมตา แบบพิสดารจนจำดวงกสิณไฟเป็นนิมิตติดตา เมื่อจำดวงกสิณไฟเป็นนิมิตติดตาได้แล้ว เวลาเข้าสมาธิก็ไม่จำเป็นต้องเพ่งไฟอีกต่อไป เพราะจำนิมิตไฟจนติดตาได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้นิมิตติดตา หมายความว่า จะหลับตาเข้าสมาธิกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถนึกและเห็นภาพเป็นดวง
    กสิณไฟได้ ต้องพยายามฝึกต่อไปทุกวัน จนได้นิมิตติดตา จึงสำเร็จสมาธิแห่งฌานดวงกสิณไฟ อานุภาพแห่งจิตสมาธิ สามารถใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณไฟ ดังนี้
    หลักการใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณไฟ พึงเข้าสมาธิด้วยกสิณไฟจะหลับตาหรือลืมตาก็ได้ หลับตาเพื่อดูภาพระยะไกล หรือคนละมิติ ลืมตาเพื่อดูสิ่งลี้ลับที่คนอื่นมองไม่เห็นระยะใกล้ เป็นต้น เมื่อเข้าฌานสมาธิด้วยกสิณไฟแล้ว จะเกิดเป็นดวงกสิณนิมิตขึ้นมา ถ้าหลับตาเข้าสมาธิแล้วใช้ตาทิพย์ ภาพก็จะมาปรากฏอยู่ในดวงนิมิตกสิณไฟของตาทิพย์ ถ้าลืมตาเข้าสมาธิแล้วใช้ ตาทิพย์ด้วยกสิณไฟ ภาพก็จะมาปรากฏให้เห็นอยู่ที่ดวงตา ดังนี้
    การฝึกตาทิพย์ด้วยกสิณแสงสว่าง
    เพ่งแสงสว่าง เป็นอารมณ์ของสมาธิให้เกิดตาทิพย์ คือ เจริญกสิณแสงสว่าง เพ่งหลอดไฟหรือแสงสว่างจากหลอดไฟหรือโคมไฟหรือแสงสว่างของพระจันทร์ เพื่อเจริญเป็นดวงกสิณแสงสว่าง จะเพ่งหลับตาและลืมตา แบบพิสดารจนจำดวงกสิณแสงสว่างเป็นนิมิตติดตา เมื่อจำดวงกสิณแสงสว่างเป็นนิมิตติดตาได้แล้ว เวลาเข้าสมาธิก็ไม่จำเป็นต้องเพ่งแสงสว่าง อีกต่อไป เพราะจำนิมิตแสงสว่างจนติดตาได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้นิมิตติดตา หมายความว่า จะหลับตาเข้าสมาธิกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถนึกและเห็นภาพเป็นดวงกสิณแสงสว่างได้ ต้องพยายามฝึกต่อไปทุกวัน จนได้นิมิตติดตา จึงสำเร็จสมาธิแห่งฌานดวงกสิณแสงสว่าง อานุภาพแห่งจิตสมาธิ สามารถใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณแสงสว่าง ดังนี้
    หลักการใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณแสงสว่าง พึงเข้าสมาธิด้วยกสิณแสงสว่างจะหลับตาหรือลืมตาก็ได้ หลับตาเพื่อดูภาพระยะไกลหรือคนละมิติ ลืมตาเพื่อดูสิ่งลี้ลับที่คนอื่นมองไม่เห็นระยะใกล้ เป็นต้น เมื่อเข้าฌานสมาธิด้วยกสิณแสงสว่างแล้ว จะเกิดเป็นดวงกสิณนิมิตขึ้นมา ถ้าหลับตาเข้าสมาธิแล้วใช้ตาทิพย์ ภาพก็จะมาปรากฏอยู่ในดวงนิมิตกสิณแสงสว่างของตาทิพย์ ถ้าลืมตาเข้าสมาธิแล้วใช้ตาทิพย์ด้วยกสิณแสงสว่าง ภาพก็จะมาปรากฏให้เห็นอยู่ที่ดวงตา ดังนี้
    อุปสรรคของตาทิพย์
    สำหรับผู้เริ่มต้นฝึกตาทิพย์ใหม่ๆ มักจะมีอุปสรรคและไม่กล้าใช้ตาทิพย์ คือ กลัวเห็นสัมภเวสี ความจริงแล้วสัมภเวสี ก็เหมือนคน แต่อยู่กันคนละโลก เขาอยู่โลกวิญญาณ แต่เราอยู่โลกมนุษย์ อาจจะดูธรรมดาหรือดูน่ากลัว แล้วแต่เวรกรรมของสัมภเวสีตนนั้น
    เมื่อใช้ตาทิพย์ เห็นสัมภเวสีก็ต้องรู้สึกปลงสลดสังเวชใจ เพราะคนเราเกิดมาทุกคนต้องตาย ไม่มีอะไรน่ากลัวที่ต้องเห็นสัมภเวสี (คนส่วนใหญ่กลัวที่จะเห็นผี แต่ชอบเห็นเทวดานางฟ้า) นี้คือเรื่องปกติของมนุษย์ แต่สำหรับผู้จะสำเร็จวิชาตาทิพย์ อย่ากลัวที่จะมอง ถ้ากลัวที่จะมอง ก็คงไม่สำเร็จตาทิพย์ (แล้วอย่างนี้จะใช้ตาทิพย์ได้อย่างไรกัน)
    อุปสรรครองลงมา อย่ากลัวสิ่งยั่วยวนของเพศตรงข้าม ความจริงแล้วเนื้อหนังมังสาของอิสตรีหรือเพศตรงข้าม ก็สักแต่ว่าเป็นเบญจขันธ์ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็แต่ว่ามันไม่เที่ยง เห็นแล้วก็ปลง (คืออย่ายินดีในรูปสวย หรือการยั่วยวนต่ออิสตรี และอย่ายินร้ายต่อการเห็นรูปไม่สวยงาม) เห็นก็สักแต่ว่าเห็น จะสวยหรือไม่งาม ก็สักแต่ว่ารูปภายนอก รู้แล้วปล่อยวาง จึงเป็นอุเบกขาฌาน เมื่อปล่อยวางได้ จึงสมควรที่จะฝึกและสำเร็จตาทิพย์ ดังนี้
    อำนาจฌานหลายระดับ แห่งอารมณ์ฌานของตาทิพย์
    ตาทิพย์ที่เกิดขึ้นจากบุญฤทธิ์ เพียงเข้าสมาธินิ่งๆ ไม่ต้องสูงมาก ก็ใช้ตาทิพย์ได้ แต่ ตาทิพย์ที่เกิดจากอำนาจฌาน ต้องเข้าสมาธิให้นิ่งไม่หวั่นไหวในอารมณ์ต่างๆ จึงสำเร็จและใช้ ตาทิพย์ได้ อำนาจฌานในอารมณ์สมาธิของทิพย์ ที่สามารถใช้ตาทิพย์ได้ มีดังนี้ คือ
    1. ขณิกสมาธิ สมาธิชั่วขณะหนึ่ง สมาธิเช่นนี้จะใช้ตาทิพย์ได้เป็นครั้งคราวเพราะจิต
    ยังไม่แน่วแน่
    2. อุปจารสมาธิ สมาธิแบบเฉียดๆ สมาธิเช่นนี้สามารถกำหนดจิตใช้ตาทิพย์ในระดับ
    หนึ่ง คือเห็นบางไม่เห็นบาง เพราะจิตยังไม่มั่นคง (แต่ส่วนมากมักเห็น
    เกือบทุกครั้ง เพราะสมาธิเริ่มแน่วแน่ แต่ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์)
    3. อัปปนาสมาธิ สมาธิแบบแน่วแน่ สมาธิเช่นนี้สามารถกำหนดจิตใช้ตาทิพย์ได้ทุกครั้ง
    หมายเหตุ การเข้าฌานสมาธิเพื่อใช้ตาทิพย์นั้น จะเข้าหมดความรู้สึกจิตตกภวังค์เป็นอุเบกขาสมาธิก็ได้ เป็นการนั่งสมาธิหลับตาใช้ตาทิพย์ หรือเข้าแบบยังรู้สึกตัวเป็นการเข้าอิริยาบถอื่นที่ไม่ต้องนั่งสมาธิ แต่จิตปล่อยวางอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว ที่จะใช้ตาทิพย์ ร่างกายยังรู้สึกตัว เพราะจิตไม่ตกภวังค์ตัดความรู้สึกออกจากร่างกาย กล่าวคือ เป็นการเข้าสมาธิอิริยาบถนั่งหรือยืน เป็นต้น ที่เข้าสมาธิแบบลืมตานั้นเอง เป็นการลืมตาแล้วใช้ตาทิพย์ดูสิ่งลี้ลับที่คนอื่นมองไม่เห็นในระยะใกล้ นั้นเอง
     
  6. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    คุณ อำนวยกรณ์ คะ
    ข้อ 6 ใช้คาถาเพ่งภาพพระพุทธรูป ส่วนที่เป็นคำว่า "มะอะอุ" นี่พิมพ์ผิดรึเปล่าคะ? หรือว่า คาถาสลับคำกันอย่างงั้นอยู่แล้ว...(มะอะอุ อุมะอะ อะมะอุ)
     
  7. Pinbow

    Pinbow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +297
    มีตาที่ 3 เอาไปทำอะไรหรือคะ ทำไมคนถึงอยากมีกัน มีแล้วดีอย่างไร
     
  8. phai_unghaiyi

    phai_unghaiyi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +75
    คิดว่าน่าจะเอาไว้เห็นสิ่งที่คนปกติไม่เห็นนะครับ เ่ช่น เทวดา หรือบาง ทีอาจจะเป็นผี ถ้าคุณกลัวผี ก็อย่าไปอยากมีเลยครับ เพื่อนผมมีตาทิพ เห็นสัมปะเวสีบ่อย ต้องแผ่เมตตาบ่อยมาก ทางที่ดี ตั้งตนเป็นคนดี ไม่ทำชั่ว สวดมนต์ทุกคืนก่อนนอน ก็พอแล้วครับ
     
  9. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" สุภาษิตนี้ยังใช้ได้เหมือนเดิม


    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  10. jitpol

    jitpol สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +16
    คาถาถูกต้องแล้วครับ(มะอะอุ อุอะมะ อะมะอุ)

    คาถาถูกต้องแล้วครับ
    (มะอะอุ อุอะมะ อะมะอุ)
     
  11. wangwang

    wangwang เมตตาคุณณัง อะระหังเมตตา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +629
    ข้อ 2 ไม่ทราบพิมพ์สลับกันหรือไม่ (อาการของท้อง)
    หายใจเข้า "พองหนอ"
    หายใจออก "ยุบหนอ"
     
  12. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เอาไปตีกับยายที่ 3
     
  13. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    ขอโทษค่ะ

    แก้ไขแล้วนะค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  14. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    มีท่านใดเคยเปิดตาที่สามแล้ว
    ช่วยเล่าประสบการณ์ได้มั้ยคะ เป็นวิทยาทานค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...