ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 4 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    มีมวลสารอะไรเลิศๆก็ส่งมาให้พี่ได้นะ...
     
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    อนุโมทนาบุญค่ะคุณนพ
    ขอร่วมบุญด้วยค่ะ
    ขอบพระคุณที่บอกข่าวงานบุญนะคะ
     
  3. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    อยากร่วมบุญกับหลวงพ่อกล้วยผ่านพี่นพด้วยคนค่ะ
    แต่ไม่มีมวลสารกะเค้าอะ รอรับพระก็แล้วกันเนอะ

    รีบบอกหมายเลขบัญชีเลยนะคะ
     
  4. ถวายบูชา

    ถวายบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +560
    มวลสารเน้นทางด้านไหน ผงพุทธคุณ ผงว่าน ผงตะไปต่างๆ จีวร สีผึ้ง
    เช่นจีวรคลุมหลวงพ่อพระพุทธเมตาอินเดีย กับ ใบโพธิ์พุทธคยา รับไหมครับ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    รับครับ เพียงแต่เขียนรายละเอียดให้ด้วยครับ..
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    อย่ามาเนียนเรียกพี่... เจ้ก็นะ..๕๕๕
     
  7. Snow_Princess

    Snow_Princess เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +219
    ขอเลขบัญชีด้วยคนได้ไหมคะ
     
  8. chaiwat88

    chaiwat88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +275
    มีเรื่องรบกวนพี่นพช่วยใช้สมาธิส่องตัวผมให้หน่อยได้ไหม
    และถ้ามีอะไรแนะนำเกี่ยวกับตัวผมPMหรือโพสบอกทีครับ
    อยากเป็นสหายธรรมกับสมาชิกห้องนี้ครับฝากตัวด้วยครับ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ถามมาเลยถ้าพอตอบได้ก็จะตอบให้จร้า
    ปล.กันเองไม่มีไร ขำๆ
     
  10. chaiwat88

    chaiwat88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +275
    ช่วงนี้ผมไม่รู้เป็นไรพอล้มตัวนอนพอเคลิ้มๆมันมีอาการเหมือ่นตัวแกว่งไปมาซ้ายขวา
    บ้าง หมุนเป็นวงกลมบ้าง บางทีเหมือนจิตจะกระเด็นออกจากตัว
     
  11. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    หลังจากได้รับคำตอบจากการรับรู้ทางผิวหนัง
    ซึ่งทำใหเราพลอยได้รับรู้การวางอารมณ์แบบที่จิตมันคลายตัวแล้ว
    อาการคันที่เป็นมาร่วม ๒ สัปดาห์ ที่คันมากเกาจนเป็นแผลมีเลือดออกหลายจุด
    ชนิดที่ว่าแทบจะถลกหนังออกมาเกาเลยถ้าทำได้

    พอได้รับคำตอบแล้ว น่าแปลกมากที่อาการคันนั้นหายไปเป็นปลิดทิ้งเลยทันทีค่ะ ยังคงเหลือแค่ความคันจากสะเก็ดแผลแบบเล็กน้อยเท่านั้นเอง ๕๕๕
    นี่ถ้าเราไม่คันผิวหนังนะ เราก็คงลืมไปแล้วว่าเราเคยสงสัยว่ารูขุมขนนั้นก็สามารถรับรู้ได้ด้วยหรือ ?

    และในคืนนั้นเองหลังจากปิดไฟแล้วเข้านอน แต่ยังลืมตาอยู่นั้น มองเห็นเส้นสีพลังงานต่าง ๆ มากมายอยู่ตรงหน้าค่ะ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะพี่นพบอกว่าช่วงนี้ถ้าเห็นอะไรให้ทำเฉย พอหลับแล้วก็ฝันไปว่า ย้อนไปก่อนที่เราจะมาเกิดนี้ คนที่จะมาเกิดพร้อมกับมีพลังงานมาด้วยนั้นมีเป็นกลุ่ม และในการมาจะต้องมีคู่หูที่ทำงานบางอย่างร่วมกันด้วยอะ

    ปล.เรื่องฝันนี้คงจะเพี้ยน ๆ หน่อยนะ เพราะวันนั้นกินมื้อเย็นเยอะไปหน่อย ปกติไม่กินมื้อเย็นค่ะ แต่เล่าให้ฟังขำ ๆ เน้อ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    อาการใจคิดว่าขยับแต่ร่ายกายไม่ขยับไปด้วย.อาการลักษณะนี้เรียกอีก
    อย่างว่าสภาวะความเป็นทิพย์ของจิตคงค้าง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่า
    จะยังหลับตาอยู่หรือว่าลืมตา แต่ปกติจะเป็นตอนที่หลับตาก่อนแล้วค่อย
    มาเป็นตอนที่ลืมตา.อาการพวกนี้มันมักจะเป็นกันได้ถ้าจิตเรามันเริ่ม
    มีความเป็นทิพย์ได้ใหม่ๆและเป็นได้บ่อยๆควบคู่กัน.
    .
    .ส่วนที่รู้สึกตัวว่าแกว่งๆหมุนต่างๆนั้น
    มันเป็นเพราะว่า ลักษณะของกระแสในตัวตอนนี้
    มันไม่เหวี่ยงพ้นกายทีเดียวคือปกติถ้าเรามีกระแสจะจับได้หรือ
    ไม่ได้ตอนนี้ไม่เป็นไรเล่าให้ฟังก่อน กระแสปกติมันจะหมุนรอบๆกาย
    เช่น หมุนรอบแขนคือจะไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งหมุนเข้ามาในแขน

    (งงไหมแต่อ่านสาเหตุมันก่อนนะเพื่อจะได้งงซ้ำอีก ๕๕๕)
    คือมันหมุมไปแต่ว่ามันยังหมุนย้อนกลับผ่านเข้ามาในร่างกายไม่ว่าช่วงแขน
    ช่วงขา ช่วงลิ้นปี่บริเวณที่เป็นฐานของจิต และก็ช่วงบนศรีษะของเราเอง
    และในขณะที่มีอาการอย่างนี้ จิตมันมีความเป็นทิพย์บ้างแล้ว..
    และไปสัมผัสกับเรื่องของกระแสพลังงาน แต่สภาวะความเป็นทิพย์
    ในขั้นนี้มันจะตัดในเรื่องของระบบประสาทสัมผัสที่ควบคุมการเคลื่อนไหว
    ของร่างกายเรา แต่ว่าตัวจิตกับกายยังไม่แยกกันเด็ดขาดนะ..

    และพอกระแสจิตเรามันไปเกี่ยวไปสัมผัสกับเรื่องของพลังงานได้..
    แต่ว่าในขณะที่เราอยู่ในสภาวะที่มันเป็นทิพย์นั้น ตัวจิตเรามันดันไป
    สร้างความคิดที่เกิดจากจากจิตขึ้นมา..ตัวความคิดนี้หละ
    ที่มันไปเหนึ่ยวคล้ายๆว่า ความคิดที่เกิดจากจิต มันทำให้ทั้ง
    จิตทั้งพลังงานมันครึ่งๆกลางๆนั้นเอง
    พอมันครึ่งๆกลางๆและจิตจะยังมีความเป็นทิพย์ มันก็เลยเกี่ยวกายไว้
    และไปดึงเอากระแสในกายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสัมผัสภายใน
    มันจึงแสดงเป็นอาการออกมาให้เรารู้สึกอย่างที่เล่ามานั่นหละ..
    พอมีกระแสพลังงานให้ย้อนหมุนกับมาที่กาย แทนที่จิตที่เป็นทิพย์มันจะวาง
    กายเราไว้และก็ปล่อยให้กระแสพลังงานเป็นไปของมันตามธรรมชาติ..
    เรียกง่ายๆว่า จิตเป็นทิยพ์ไม่ขาด และไปกระแสพลังงานไม่ขาด
    ถ้ากะแสมันหมุนบริเวณแขนขา เราจะรู้สึกเหมือนตัวแกว่ง ถ้ามันหมุนที่
    ลิ้นปี่หรือหน้าอก จะรู้สึกเหมือนจิตกระเด็น คล้ายๆโดนหมุน
    ถ้ามันหมุนบริเวณศรีษะจะรู้สึกเหมือนจะทำให้รู้สึกว่ามันไร้ทิศทางแบบ
    ทำให้เรางงๆเล่น..


    วิธีแก้คือ มันจะเป็นอะไรก็ช่างมัน ไม่ต้องไม่คิด ไปสนใจ.
    ปล่อยมันไปเลยไม่ต้องสนใจ ถ้ากลัวค่อยคิด เด่วจะกลับสู่สภาพ
    ปกติได้ภายในเสี้ยววิ .และให้มาฝึกเจริญสติในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น
    เพื่อสร้างสติทางธรรมเอาไว้คอยควบคุมตัวจิต และให้มา
    สะสมกำลังสมาธิเล็กๆน้อยๆให้มากขึ้นที่เราจะได้จากการเจริญสตินั้นหละ
    พอเริ่มมีกำลังสติทางธรรมและสมาธิสะสมมากขึ้น อาการที่เป็นอยู่มันจะ
    เริ่มน้อยลงน้อยลงเรื่อยๆ ไม่หายขาดนะ และน้อยลงจนกิริยาต่างๆมันนิ่ง
    และกลายเป็นปกติ คือไม่ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าทางกายและต่อตัวจิต..

    ปล.กิริยาที่น้องทอง เป็นเค้าเรียกว่า จิตทำงานได้พร้อมกัน
    ทั้งเห็นเส้นสาย แอน เห็นแสง คือปกติทั่วๆไป จิตจะทำงานได้
    เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง...
    เป็นข้อดีจากการที่มีพื้นฐานภายในมาก่อน..ถ้าคนมาแนวๆสายหลวงพ่อ
    ที่สอนวิชาพิเศษ ถ้าเปลี่ยนมาทางพลังงานจะรับรู้ทั้ง ๒ อย่างที่กล่าวมา
    พร้อมกันได้.ซึ่งเอกลักษณอย่างหนึ่งของการที่จิตพลิกเข้าสู่พลังงาน
    หรือเห็นเส้นสายได้นั้นก็คือ มันจะปรับธาตุภายในเพื่อรักษาตัวเองได้
    ให้กลับเป็นสภาพเดิมๆ ณ ปัจจุบันได้..
    และก็ใช้รักษาคนอื่นๆก็ได้เด่วค่อยว่ากันอีกที
    และถือว่าการเห็นดีนะ เห็นละเอียดกว่าพี่อีก ๕๕๕
     
  13. chaiwat88

    chaiwat88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +275
    ขอบคุณพี่นพมากครับตอบได้ละเอียดยิ้ปเลย แม้ว่าจะเข้าใจยากนิดหน่อย555
     
  14. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    ขอบคุณพี่นพมากค่ะ แต่ข้าพเจ้าก็ยังมึนและงงอยู่เช่นกันค่ะ

    และสอบถามพี่นพเกี่ยวกับธาตุดินค่ะ เคยอ่านผ่านกระทู้ไหนจำไม่ได้ที่บอกว่าคนที่หนักธาตุดินตัวจะหนัก ๆ และร้อนที่มือ คือเมื่อตอนที่ฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังครั้งแรกที่วัดท่าซุง ภาวนา นะ มะ พะ ธะ ไปสักพัก ตัวเราแข็งโป๊กเป็นหินไม่สามารถขยับเยื้อนส่วนใดของร่างกายได้เลยค่ะ

    ส่วนอาการร้อนที่ฝ่ามือเคยเป็นเมื่อสมัยยังไม่เคยฝึกสมาธิบ่อย ๆ ค่ะ
    และย้อนไปเมื่อสมัยเด็กมักจะฝันว่าตัวเราดำดินและเหาะได้บ่อย ๆ ค่ะ แบบว่ารับสัมผัสขณะที่หัวเรากำลังดำนั้นสัมผัสทั้งดินทั้งหินได้ชัดอยู่ค่ะ


    เอื้อมไม่ถึงดาว เพราะบ้าพระนิพพาน
    ระยะนี้นิพพานขึ้นสมอง บ้านิพพาน มนุษย์ สวรรค์ พรหม ไม่เอา ตั้งเป้านิพพานอย่างเดียว
    หลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้.......รู้อีกทีก็......ตัวเราเป็นชายนั่งสมาธิอยู่ และเนื้อตัวเรามันเป็นคล้ายหินศิลาแลง ที่เขาใช้ปั้น นั่งในท่าสมาธิ และจู่ ๆ ตัวเราก็ลอกออกลักษณะเป็นแผ่น คล้าย ๆ การถล่มเป็นแผ่นของหน้าผา ถล่มออกมาเป็นชั้น ๆ จนกระทั่งตัวเราเริ่มค่อย ๆ กลายเป็นทอง ทีละนิด จนกระทั่งเป็นทองทั้งตัว จิตขณะนั้นบอกว่านี่คือพรหม แล้วก็หยุดไม่ยอมกลายเป็นแก้วต่อ (เป็นแก้วคือกายนิพพาน) แต่เราตั้งเป้าไว้ว่านิพพาน พอรู้ว่าเราไม่เป็นแก้วแน่แล้ว ก็เสียใจ.......เสียใจจนร้องไห้ออกมา.....

    ปล. ด้วยความเขลาของเรา ตั้งเป้าหมายเพื่อพระนิพพาน แต่ไม่พิจารณาตัดร่างกาย สรุปก็คือ ต่อให้เราตั้งเป้าหมายไว้สูงสุดไว้เพียงใด แต่ปฏิบัติไม่ถึง เราก็ยังไปไม่ถึงเป้าหมายได้เพราะโง่เขลาเบาปัญญา ไปนิพพานไม่ได้เพราะขาดสติตรองเพื่อเอาปัญญามาใช้......โง่อีกตามเคย เฮ้อ..

    (คัดลอกจากกระทู้ผีอำ)

    เรื่องนี้ เคยถาม อ.ที่ฝึกมโนมยิทธิท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าเราเคยได้กสิณดินในอดีตชาติ เป็นความจริงไหมคะ
    และควรจะเริ่มฝึกแบบใดดีค่ะที่สามารถเรียกคืนความสามารถเดิมในอดีตแบบง่าย ๆ สำหรับคนขี้เกียจแบบไม่ต้องฝีกมากมีไหมอะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2015
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ดีจร้า น้อง ทองชมพู ดีแล้วหละที่ปัจจุบันคิดได้ประมาณนี้ ไม่มีไรหรอก
    ดีกว่าไม่รู้ตัวเนาะ ๕๕๕...

    ธาตุดิน จะเข้าไปเพิ่มหนาแน่นในระบบธาตุ ๔ ที่รวมเป็นร่างกาย ด้วยเอกลักษณ์
    อย่างหนึ่งของมัน ที่ตัวลักษณะพลังานบางส่วนมันจะแยกย่อยๆ
    ไอ้เอกลักษณ์ที่มันแยกย่อยๆนี่หละ
    พอมันมากขึ้นๆ(นึกภาพเราอัดทรายละเอียดใส่ในแก้ว) เราจึงรู้สึกตึงๆ
    หรือแน่นหรือหนักอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเรื่องปกติ
    และที่รู้สึกร้อนก็เพราะเป็นผลมาจากธาตุดินที่มัดอัดเพิ่มนั้นหละ..
    ถ้าจะรู้สึกชัดเจน ให้ลองกำหนดเป็นจุดๆเดียวมัน
    จะเหมือนเราใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้พยายามบีบให้ผิวหนังติดกันนั่นเอง
    ลองทำดูได้นะ ๕๕๕ เพราะฉนั้นส่วนตัวถือว่า ธาตุดิน ค่อนข้าง
    อันตรายที่ซู๊ดดดดด

    ส่วนที่ถามพี่ ที่ อ.สอนมโนเคยบอกว่าเคยได้กสิณดินไม่ผิดหรอก..
    เริ่มฝึกแบบใดส่วนตัวเข้าใจว่าจะฝึกกสิณกองไหนก่อน แม่น บ่...
    แต่มันเหนื่อยนะถ้าจะถามว่า ควรจะเริ่มฝึกแบบใดก่อน ๕๕๕๕
    เพราะมันต้องไล่ดูทีละกอง ทีละกอง มันถึงจะเอามาบอกได้ แฮ่ๆ(ขู่ๆ)...:mad::mad:
    ไล่ดูแล้ว :':)':)'( ตัวจิตที่อยู่ในร่างกาย น้อง ทอง มันเรียกเป็นพลังงานได้ทั้ง ๑๐ กองนั้นหละ..
    แต่ว่า กสิณสีแม้เรียกได้ แต่ว่ามันยังไม่หนาแน่นแต่ว่ามันเร็วดี
    ..ส่วนกสิณกลาง ไม่ว่า ดิน น้ำ ลม อากาศ แอน ไฟ
    นี่ได้หมดและเคยใช้งานได้มาก่อนทุกกอง

    เพราะมันสามารถเรียกรวมเป็นพลังงานเอามารวมกันทั้ง ๕ กอง
    เพื่อใช้งานได้เช่นกัน...ส่วนถ้าจะฝึกก่อนให้เริ่มที่กสิณน้ำ เพราะไม่งั้น
    จะอันตรายมากๆ เนื่องจากน้ำ มันจะไปรวมกับ ไฟได้ เวลาใช้งานปกติ
    มันถึงจะไม่ส่งผลต่อร่างกายและจิตๆใจ จะฝึกดินก่อนยังไม่เหมาะ..เพราะ
    ลำดับในการฝึกนั้น ลักษณะกระแสพลังงงาน มันบอกว่าให้ฝึกน้ำก่อน
    กองที่จะได้ต่อมา คือ ไฟ ตามด้วย ลม และ ดิน จร้า...ส่วนอากาศมัน
    มาเองได้ตอนที่เรียกเป็นพลังงานขึ้นมาได้ของมันอยู่แล้ว

    เอาวิธียากๆก่อนคือ นั่งสมาธิจนถึงระดับที่กายกับจิตแยกกันอย่างเด็ดขาด
    ในกำลังระดับฌาน ๔ แล้วบังคับให้จิตอยู่ในกายให้ได้แบบนิ่งๆ
    แล้วเข้าไปในจิตอีกทีเรียกว่าจิตในจิต ย้อนไปเรื่อยๆจนมันระเบิด
    ดังกึกก้องกัมปนาทเป็นสีขาวนั่นหละมันถึงจะกลับมา ซึ่งอารมย์
    ตรงนี้บังคับไม่ได้นะ มันจะไปเองไม่แบบที่บอกก็ไปดูร่างกาย มี ๒ อย่าง
    เท่าที่ทราบตอนนี้นะ...

    ส่วนวิธีง่ายๆ คือ อย่างน้อยต้องเรียกเป็นพลังงานขึ้นมาให้ได้ก่อน
    ต้องนี้ต้องอาศัย ผู้ชายเท่ห์ๆบางคนเค้าช่วยทำให้ก่อนนะ ๕๕๕
    เพราะต้องให้จิตมันคุ้นสัญญาในตัวจิตว่ามันเคยทำอย่างนี้ได้มาก่อนในอดีตชาติ
    ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในระหว่างวันว่า สามารถเคลียร์ให้จิตมัน
    โปร่ง โล่ง คลายตัวและขยายออกไปข้างนอกได้นานแค่ไหนในระหว่าง
    วันนั่นหละ เดี๋ยวความสามารถพวกนี้มันจะค่อยๆขึ้นมาเองตามเนื้อหา
    ของจิตดวงนี้นั่นหละ..
    ปล.ประมาณนี้เน้อ..พอ ฮาๆ ขำๆ.
     
  16. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ขั้นตอนที่ถูกต้องในการทำพิธีขอขมากรรมบิดามารดา เป็นอย่างไรคะ การล้างเท้าบิดามารดาควรล้างด้วยสิ่งใด ล้างกี่ครั้ง แลน้ำนั้นได้ยินว่าให้นำมารดศรีษะเรา โดยไม่ต้องล้างออกใช่รึไม่คะ .(มีกำหนดเป็นจำนวนวันรึไม่คะว่า จะชำระผมครั้งต่อไปได้เมื่อไหร่ เช่น3วัน7วัน

    รบกวนและขอขอบคุณค่ะ
     
  17. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    สวัสดีค่ะคุณดาวเรือง

    อันนี้ขอแชร์เล่นๆนะคะ โดยส่วนตัวเชื่อว่าจิตก็เหมือนฮาร์ดดิสก์ ทำหน้าที่บันทึกทุกเรื่องในสิ่งที่เราคิด พูด และทำ ทั้งดีและไม่ดี ไม่ว่าจะทำด้วยความไม่รู้ หรือ รู้ก็ตาม เพียงแค่คิด จิตก็ทำงานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ค่อยไปสนใจพิธีกรรม พิธีการมาก ส่วนใหญ่จึงแก้ลงไปตรงๆที่จิตเลย

    ตอนที่เคยทำ ก็กราบห้าครั้ง พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ พ่อแม่ผู้มีพระคุณ และครูบาอาจารย์ทุกพระองค์ ตั้งจิตให้อยู่กับว่าง แล้วขอครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือช่วยดึงความรู้สึกไม่ดี ความรู้สึกผิดที่เคยคิด เคยพูด เคยทำกับคุณแม่ออกมาให้หมด แล้วก็ถอยออกมาเป็นผู้ดู ปล่อยให้จิตทำงานของมันเอง ช่วงนี้จิตจะระลึกได้ถึงสิ่งต่างๆที่เคยทำ ความรู้สึกผิดต่างๆจะแสดงออกมา อาจจะมีร้องไห้บ้างค่ะ จนความรู้สึกต่างๆมันคลายลงไป กลับมารู้สึกโล่ง เบา (อาจรู้สึกโหวงๆ) แล้วจึงขอครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือช่วยลบความรู้สึกผิดนี้ให้หมด แล้วลองรีเช็คดูนะคะว่ายังมีความรู้สึกไม่ดี ความรู้สึกผิดตกค้างมั้ย ถ้ายังไม่หมดก็ทำอีกรอบ จนไม่รู้สึกอะไรอีก หลังจากนั้นก็ตั้งจิตว่าจะรู้สึกตัว และรู้เท่าทัน ไม่กระทำความผิดที่เคยทำมาอีก

    แล้วก็หาซื้อพวงมาลัยงามๆไปกราบเท้าแม่ และบอกท่านว่าขอให้ท่านช่วยอโหสิกรรมในสิ่งที่เราเคยทำไปเพราะความไม่รู้ค่ะ แค่นี้ท่านก็ให้อภัยแล้วค่ะ

    ปล แชร์วิธีการส่วนตัวแบบขำๆนะคะ
     
  18. วิชญ์24

    วิชญ์24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +6,273
    โอนเงินรวมบุญเรียบร้อยแล้วครับ และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่่านด้วยครับ
    ปล. พี่นพมวลสารให้ส่งไปที่ไหนครับ ขอที่อยู่ด้วยครับ และมีกำหนดการให้ส่งก่อนวันไหนครับ ตอนนี้กำลังหามวลสารอยู่ :cool:
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010

    โมทนาด้วยเน้อ..ส่วนมวลสารก็ยังไม่รีบ ให้เลือกพิจารณา
    สิ่งที่จะนำมาผสมให้ดีที่สุดไว้เลย แต่ภายใน ๒ เดือนนี้นะ...
    เด่วรวบรวมมวลสารได้พร้อมเมื่อไร จะบอกที่อยู่ให้เน้อ.
    ส่งมาที่บ้านพี่นี่หละ.เด่วจะได้รวบรวมแล้วไปถวายทีเดียวเลย..:cool:.
     
  20. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    ขอบคุณค่าพี่นพ คำภาวนาว่า สัมปจิตฉามิ และคำว่า โสตัสตะภิญญา คงจะเป็นแบบยากสินะ รอผู้ชายเท่ห์ ๆ จิ้มแขนให้แหละง่ายสุดแล้ว หุหุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...