เพื่อการกุศล หลวงพ่อกวย ชุตินธโร "พระหนุมาน ย้อนยุค รุ่นมนต์พระกาฬ" เพื่อสบทบทุนสร้างโบสถ์วัดหนองเฒ่า หน้า 85

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย ๑๖โสฬส, 31 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    4n71o8.md.jpg
    4n7wwz.md.jpg

    ท่านพระครูนักรบนั่งกดพิมพ์พระด้วยตัวท่านเองเลยบนกุฏิที่ท่านอยู่ ตอนท่านกดพิมพ์มักจะกดพิมพ์ตอนที่ไม่มีแขกหรือญาติโยม หากมีเเขกท่านจะไม่กดพิมพ์เพราะจะไม่สงบ พระอาจารย์ชุมพลบอกว่าขณะที่ท่านกดพิมพ์ท่านก็จะไม่ปล่อยให้ลมหายใจทิ้งเปล่าเช่นกัน ก่อนกดพิมพ์ท่านจะสรรเสริญด้วยบทพุทธคุณทุกครั้งเเละระหว่างกดพิมพ์ท่านจะบริกรรมด้วยบทบริกรรมกดพระ(บทนี้ท่านได้เล่าให้ฟังว่ามีโยมได้ถวายบทกดพิมพ์พระซึ่งโยมคนนั้นได้บทนั้นมาจากท่านชีปะขาวมาบอกในนิต) พระครูท่านจะบริกรรมให้ใช้บทกดพิมพ์นี้กับพระที่กดทุกองค์ และจากที่เห็นลูกอมในพานนั้นคือมวลสารที่พระเณรได้ตำได้ที่ละเอียดแล้วเเละผสมส่วนผสมลงไปตามตำหรับหลวงพ่อซึ่งท่านพระครูจะคอยกำกับการผสมด้วยทุกครั้งเมื่อผสมคลุกเคล้าได้ที่พอกึ่งหมาดกึ่งเเห้งก็จะปั้นเป้นลูกอมเตรียมนำไปกดพิมพ์โดยท่านพระครูต่อไป และเศษมวลสารที่ได้จากการพิมพ์พระนั้นจะปั้นเป็นลูกอมอีกเช่นกันเเล้วเเกไว้ต่างหากเพื่อเก็บเป็นมาลสารในการสร้างพระครั้งต่อไป จะเห็นว่าทุกขั้นตอนท่านพิถีพิถันมากเพื่อให้มั่นใจว่าพระที่สร้างนี้มีคุณค่ามหาศาลทั้งทางด้านคุณค่าเเละพุทธคุณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2018
  2. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    วันนี้เอามวลสารที่ใช้สร้างพระผง "รุ่นมนต์พระกาฬ" บางส่วนที่ได้ผ่านการอฐิษฐานจิตจากครูบาอาจารย์มาอัพเดทให้ชมครับ

    พระสมเด็จวัดินทรวิหาร / ผงพุทธคุณ108 / ผงธูปและทรายเสกหลวงพ่อสุนทรวัดหนองสะเดา / ผงนะทรหดหลวงพ่อกลั่น
    4n7oEN.md.jpg
    4n7lhE.md.jpg
    4n7DVV.md.jpg
    4n7PYQ.md.jpg

    ผงปูนฤษีวัดสะเเก / ผงมหาจักรพรรดิหลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก-ผงหลวงพ่อเเสวงวัดสว่างภพ / ปูนเเดงหลวงพ่อเฉลิมตำหรับหลวงพ่อกลั่น-หลวงพ่ออั้น-หลวงพ่อเภาวัดพระญาติ / ผงลวงพ่อเกิดวัดโพธิ์แทน
    4JPH9b.md.jpg
    4JPrmJ.md.jpg
    4JPVjf.md.jpg
    4JPXpa.md.jpg

    เเร่อุกาบาทหลวงพ่อกวย / สีผึ้งหลวงพ่อกวย (ขวดในหนังสือปกเขียวทนายคเชนท์) / ผงพุทธคุณหลวงพ่อปี้ วัดด่านลายหอย / ทรายเสกหลวงพ่อปี้วัดด่านลายหอย
    4JsqBa.md.jpg
    4Js5qq.md.jpg
    4JsEHz.md.jpg
    4Jsb78.md.jpg

    ผงพุทธคุณหลวงพ่อกวย / ทรายเสกหลวงพ่อกวย / ผงพุทธคุณหลวงพ่อสนมวัดพระปรางค์เหลือง / อิฐโบราณ
    4JslC0.md.jpg
    4JsoFu.md.jpg
    4JsAtZ.md.jpg
    4JsPlI.md.jpg

    กระเบื้องหลังคาโบสถ์เก่าวัดหนองสเดาหลวงพ่อสุนทรเสก / ผงธูปและทรายหลวงพ่อกวยที่หน้ารูปหล่อที่วัดโฆสิตารามครึ่งกระถาง / ผงวัดระฆังผสมผงต่างๆหลวงพ่อพระครูอุดมปัญญาวุธ / พลอยเสกหลวพ่อวิชชา รติยุตโตวัดชอนทุเรียน
    4JsrSk.md.jpg
    4Js8gv.md.jpg
    4JsHCE.md.jpg
    4JsVIN.md.jpg

    ผงว่าเสน่ห์จันทร์และว่านต่างๆหลวงพ่อพระครูอุดมปัญญาวุธ / ผงรักและตะไบทองหลวงพ่อโตวัดตลิ่งชัน / ข้าวตอกพระร่วงตำผง / ข้าวตอกพระร่วงบางส่วน
    4JsFi1.md.jpg
    4JsMID.md.jpg
    4J2dw9.md.jpg
    4J20oJ.md.jpg

    ผงสมเด็จวัดอินทรวิหารยุบผง / ผงพุทธคุณพระครูวรธรรมประยุต (หลวงพ่อทุเรียน วัดท่าดินเเดง สุโขทัย) / ผงพุทธคุณหลวงพ่อเจ็ก วัดหัวฝ้าย สุโขทัย)
    4J2huR.md.jpg
    4J2fi8.md.jpg
    4J2kM0.md.jpg

    สำหรับต่อไปนี้เป็นเพียงบางส่วนของเเผ่นชนวนที่ได้รับความเมตตาจาก พ่อ-เเม่คูรอาจารย์จากทั่วประเทศ จารเเละอธิษฐานจิตให้ครับ ซึ่งกว่าจะได้ชนวนมวลสารนี้มาใช้เวลาสะสมอยู่หลายปีโดยท่านพระอาจารย์ชุมพลได้บอกว่า ผู้ที่ได้นำมาถวายนี้สะสมเดินสายพบครูบาอาจารย์มาก็นำมาถวายเพื่อเป็นมวลสารในการหล่อเหรียญและรูปหล่อหลวงพ่อกวย
    4J21hP.md.jpg
    4J2tJI.md.jpg
    4J2KEt.md.jpg
    4J2U1N.md.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4JPH9b.md.jpg
      4JPH9b.md.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.9 KB
      เปิดดู:
      97
    • 4JPrmJ.md.jpg
      4JPrmJ.md.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41 KB
      เปิดดู:
      88
    • 4JPVjf.md.jpg
      4JPVjf.md.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.7 KB
      เปิดดู:
      92
    • 4JPXpa.md.jpg
      4JPXpa.md.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43 KB
      เปิดดู:
      84
    • 4J2U1N.md.jpg
      4J2U1N.md.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.5 KB
      เปิดดู:
      71
    • 4J2U1N.th.jpg
      4J2U1N.th.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12 KB
      เปิดดู:
      74
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  3. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723

    ขอบคุณครับ อนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ
     
  4. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    ทางพระอาจารย์และทางวัดเเจ้งมาว่าจะอัพเดทเรื่องราคาพระผงให้ทราบกันในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ครับ ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาลงให้ทราบครับ ซึ่งตอนนี้ทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่าจะมี พระผงทั้งสองพิมพ์ที่โรยเกศาหลวงพ่อกวย และรุ่นที่โรยทรายเสกหลวงพ่อกวย+หลวงพ่อปี้ จัดเป็นชุดให้บูชา ซึ่งรายละเอียดจะมาแจ้งข่าวให้ทราบอีกทีครับ

    ทั้งนี้เกศาของหลวงพ่อกวยมีไม่อยู่มาก ดังนั้นจึงต้องขอเวลาสักนิด เพราะยังกำหนดไม่ได้ว่าจะโรยเกศาของหลวงพ่อได้พิมพ์ละกี่องค์ (มีเกศาจำนวนจำกัดครับ)หายากแล้วครับเกศาหลวงพ่อแท้ๆ
     
  5. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    ท่านพระครูท่านนั่งกดพิมพ์เองทุกครั้งที่มีเวลาว่าง วันหนึ่งๆกดได้ประมาณวันละ 200 องค์ กดเสร็จก็นำใส่ถาดไม้ที่เตรียมไว้ตากผึ่งลมรอเนื้อมวลสารเเห้งครับ บางองค์กดพิมพ์เสร็จท่านพระครูนั่งฝังพลอยไปด้วยเลย ดังนั้นพระผงชุดนี้ จะมีทั้งโรยทรายเสกหลวงพ่อกวย+ทรายเสกหลวงพ่อปี้ / เกศาหลวงพ่อกวย / พลอยเสกหลวงพ่อวิชา
    4JCdnk.md.jpg
    4JC7Wv.md.jpg
    4JCSKE.md.jpg
    4JCYPN.md.jpg
    4JCzeV.md.jpg
    4JCN3Q.md.jpg
    4JCBbS.md.jpg
    4JCfan.md.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  6. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    ปรกโพธิ์ฉ่ำดีจังเลยครับ
     
  7. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    สวยๆน่าบูชา...รอๆครับ
     
  8. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    ขอกราบนมัสการหลวงพ่อกวย ชุตินธโรและคุณครูบาอาจารย์ กราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ชุมพล ท่านพระครูและอาาจรย์เฒ่าสุพรรณ ที่ได้ให้นำข้อมูลต่างๆมาลงเผยเเพร่ให้เพื่อนพี่น้องสมาชิก ได้อ่านเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับหลวงพ่อ เพื่อเป็นประวัติและความทรงจำของลูกหลานสืบไป สาธุ (เพื่อนพี่น้องท่านใดทราบข้อมูลนี้กันเป็นอย่างดีเเล้ว ผมต้องขออนุญาติเผยเเพร่อีกครั้งหนึ่งเพื่อพี่น้องหลายๆท่านจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับหลวงพ่อกวยและเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆกันอีกครั้งหนึ่งครับ)

    "ตำนานพระสมเด็จวัดโฆสิตาราม"
    ต่อไปจะกล่าวถึงกรรมวิธีสร้างพระพุทธพิมพ์รูปแบบที่เรียกว่าสมเด็จ พระสมเด็จนั้นหมายถึงพระเครื่องที่มีรูปแบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สร้างตามแบบของพระสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆษิตาราม ผู้ยิ่งยง วิธีการสร้างพระสมเด็จนั้น หมอเฉลียว เดชมา ศิษย์ใกล้ชิดเป็นผู้เล่าไว้ สำหรับหมอเฉลียวนี้บางคนอาจจะสงสัยว่า หมอเฉลียวกับผมใครใกล้ชิดหลวงพ่อมากกว่ากัน อันนี้ขอให้เข้าใจด้วยว่า หมอเฉลียวเขาใกล้ชิดมากกว่าผม ถ้าเทียบกับผมเป็นเพียงศิษย์หางแถวเท่านั้น คำว่าผมต่อไปนี้หมายถึงหมอเฉลียว เดชมา

    พระสมเด็จของหลวงพ่อเป็นพระที่ทำได้ยากมาก เพราะพระของหลวงพ่อ หลวงพ่อต้องทำเอง ไม่ได้จ้างใครทำมาส่งให้ ส่วนผสมที่เป็นผงวิเศษนี้ เป็นผงวิเศษจริง ๆ ไม่ใช่ผงปูนปาสเตอร์หรือปูนขาว หลวงพ่อต้องใช้กระดานชนวนสมัยโบราณมาลงอักขระเรียกสูตรอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ แล้วลบผงปลุกเสกอีกทีหนึ่งเรียกว่า ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงปถมัง ผงนะร้อยแปด ฯลฯ เป็นต้น แม้ดินสอที่ใช้เขียนลบผง หลวงพ่อยังปั้นเองด้วย ดินสอพองผสมว่าน ๑๐๘ เกสร ๑๐๘ ดินต่าง ๆ อีก ปั้นตากแดดปลุกเสกเอาไว้ก่อนแล้ว เมื่อได้ผงมากแล้วก็นำมาผสมกับว่าน ๑๐๘ ข้าวตอกพระร่วง แร่อาถรรพณ์ แม้แต่อาหารในปากท่าน ถ้าท่านฉันอาหารมีรสอร่อยหลวงพ่อจะคายออกจากปาก แล้วตากแดดเอาไว้ผสมทำพระ นอกจากผงทั่ว ๆ ไปแล้ว หลวงพ่อยังใช้ไม้ตีระฆัง ชื่อไม้คันทรง เอามาบดทำผง หลวงพ่อบอกว่าเอามาทำสมเด็จจะค้าขายดี เป็นเคล็ดลับของหลวงพ่อ นอกจากผงของหลวงพ่อแล้วยังมีผงวิเศษของครูบาอาจารย์ของท่าน และที่สำคัญคือ ผงวิเศษของสมเด็จพุฒาจารย์โตผสมอยู่ด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คือประมาณ พ.ศ.๒๔๗๗ พี่ชายผมได้มาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ได้พักที่วัดระฆังโฆษิตาราม พี่ชายเล่าว่าปีนั้นมีพระจำพรรษามาก พระเลยให้เด็กวัดไปนอนที่กุฏิเก่ารกรุงรัง ที่กุฏิเก่านี้ปกติไม่มีใครเข้าไปอยู่ เขาว่าผีดุเป็นที่เก็บโลงศพ ตู้เก่า ใบลานเก่า สมุดข่อยเก่า ๆ ของวัด ที่ตู้โบราณหลังหนึ่ง พี่ชายผมได้เจอผงวิเศษพร้อมผ้ายันต์และตำรายันต์เก่าของสมเด็จโต ที่สำคัญคือ มีสมเด็จวัดระฆังที่ทำแล้วปนอยู่กว่า ๑๐ องค์ สมัยนั้นพระสมเด็จของสมเด็จโตก็ไม่ดังอะไร ราคาก็ไม่แพง ภายหลังยังเปิดกรุที่วัดบางขุนพรหมอีกประมาณ พ.ศ.๒๕๐๐ กว่า ๆ พระมีมาก เมื่อพระรู้เรื่องที่พี่ชายผมได้พระสมเด็จโตก็มาขอเอาไปเกือบหมด เหลืออยู่แต่ที่ติดตัวกับได้ถวายหลวงพ่อกวยเอาไว้ ส่วนผงได้ถวายหลวงพ่อกวยจนหมด ผงมีมาก ๑ ห่อใหญ่ พระสมเด็จที่เหลือที่พี่ชายผมนี้ภายหลังมีคนมาให้ราคาเป็นแสนบาท หลวงพ่อได้นำผงวิเศษของท่านมาผสมกับผงของสมเด็จโตทุกพิมพ์และทุกรุ่น เมื่อได้ผงได้ว่านได้เกสรแร่ดี ๆ แล้วเอามารวมกันทำพระสมเด็จ บางทีมีหนูมากินผงของท่าน หนูยังแทงไม่เข้า ตอนกลางคืนถ้าไม่ปิดให้ดีจะมีค้างคาวมารุมกินผงของท่าน เมื่อหลวงพ่อว่างก็พิมพ์พระ พอลงมือโขลกผสมผงเกิดอัศจรรย์ ลูกศิษย์จะมารอหน้ากุฏิเต็มไปหมด ถ้าไม่ทำก็ไม่มาเท่าไร เพราะขณะหลวงพ่อโขลกผงหลวงพ่อจะว่ามนต์ไปด้วย พระก็จะทำลูกศิษย์ก็จะคอย ยุ่งไปหมด ถ้าไม่ทำพระลูกศิษย์ก็ไม่ค่อยมาอัศจรรย์ หลวงพ่อถึงกับเอ่ยปากชมว่า “ผงสมเด็จโตนี่ก็แน่เหมือนกันนะ โขลกผสมผงไม่ได้เลย ลูกศิษย์คอยจะมา เมตตา โชคลาภดีแท้ ๆ แต่กูซิชักรำคาญแล้ว ไม่เป็นอันทำอะไร ยิ่งยุ่งก็ยิ่งมา”หลวงพ่อจะเลือกวันพิมพ์พระ เลือกเวลาด้วย เช่น ยามกากบาทหลวงพ่อจะไม่ทำพระเด็ดขาด ต้องเลือกทำยามสี่ศูนย์ ยามปลอดศูนย์ เป็นต้น ทีนี้หลวงพ่อปิดกุฏิทำพระ แขกก็มารอ บางคนก็หาว่าหลวงพ่อพบยาก แถมหมาคอยจะกัดอีก เรื่องหมาของหลวงพ่อ มันไม่กัดใครจริง ๆ เลย มันกัดขู่ ๆ แต่กางเกงขาด จริง ๆ แล้วหลวงพ่อท่านลงอาคมเย็บปากมันไว้ มันอ้าปากกัดใครแทบไม่ได้เลย ได้แต่ขู่ ๆ เท่านั้น
    การทำพระลงพิมพ์ของหลวงพ่อจะผสมเนื้อในวันเดียวกันเนื้อหนึ่ง อ่อนแก่ต่างกันกะ ๆ เอา แล้วกดพิมพ์ลงในแม่พิมพ์ประมาณสอง-สามพิมพ์ ฉะนั้นบางครั้งจะพบพระคนละพิมพ์แต่เนื้อเดียวกัน หรือ พิมพ์เดียวกันแต่คนละเนื้อ เป็นต้น อันนี้ต้องดูให้เป็นจริง ๆ แต่ถ้าเคยเห็นก็ดูได้ พระของหลวงพ่อทำได้ยาก ท่านไม่ต้องการให้เอาออกจำหน่าย แค่แลกกับเงิน ๑๐-๒๐ บาท แต่ท่านอยากให้คนที่มีความทุกข์ร้อน เพราะค่าของพระท่านนั้นมีมาก หลวงพ่อจึงแจกให้คนมีทุกข์ร้อน กับคนที่อยากได้คือขอท่านนั่นเอง ท่านบอกท่านไม่อยากแจกให้คนที่ไม่ขอ ไม่อยากได้ ท่านว่าเดี๋ยวมันเอาไปทิ้งกันหมด มันนึกว่าตุ๊กตา ท่านว่าคนไม่รู้ค่าก็เหมือนไก่ที่ไม่รู้จักพลอย แต่ผมพูดกับท่านว่าผมไม่ใช่ไก่นะ หลวงพ่อเลยพูดว่า “มึงเก็บไว้เถอะดี เก็บไว้เยอะ ๆ เมื่อกูตายไปแล้วจะหาพระที่ทำผงเอง พิมพ์พระเองแบบกูนี้ จะหาแทบไม่มีอีกแล้ว พระกูในวันหน้า จะหายาก และแพงมาก แล้วมึงคอยดูก็แล้วกัน”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 สิงหาคม 2015
  9. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    ประสบการณ์เรื่องเล่าที่ดูว่าธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาครับ อยากให้หลายท่านที่ได้อ่านได้เรียนรู้นี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ เพราะเป็นเรื่องเล่าที่ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงแต่ เป็นเรื่องเล่าที่หลายๆคนในวัดหนองเฒ่าได้เห็นได้ยิน ได้รับรู้ ได้ประสบพบเจอเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยตัวเองจริงๆ ลองอ่านกันดูตามนี้ครับ

    ประสบการณ์พระสมเด็จรุ่นมนต์พระกาฬวัดหนองเฒ่าตามคำบอกเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์เมื่อแรกทำพระเป็นปฐมโดยบอกกล่าวต่อองค์หลวงพ่อกวยเมื่อวันที่3ก.ค.2558และเริ่มพิมพ์พระทั้ง2พิมพ์หลังจากนั้น 3-4 วันลูกศิษย์พระครูฯก็มาทำบุญที่วัดที่วัดประจำเมื่อมาเห็นที่วัดกำลังพิมพ์พระกันอยู่เลยขอบูชาพระพิมพ์ละ3องค์แล้วนำให้พระครูมอบให้เมื่อรับพระจากพระครูแล้วได้นำพานที่ใส่พระไปข้างวัดแล้วใช้คันกระสุนขนาด9มม.ลองยิงพระผู้ที่ิอยู่ในเหตุการณ์บอกว่าคนยิงไม่สามารถกดไกคันกระสุนได้กดจนตัวโน้มไปข้างหน้าก็กดไม่ได้จึงเลิกทดสอบแล้วไปกราบขอขมาต่อรูปหล่อหลวงพ่อที่กุฏิพระครูฯเมื่อกลับไปบ้านได้ไปเล่าให้วัยรุ่นแถวตลาดฟังก็มีหลายคนมาขอบูชาแต่ท่านพระครูไม่ให้ต่อมาพระชุมพลทราบเรื่องจึงบอกพระครูให้บอกคนยิงมาอาบน้ำมนต์แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วคันกระสุนที่ซ่อนภรรยาไว้หายแต่เจ้าตัวคนยิงกลับดีใจบอกว่าดีที่ไปลงที่ของไม่เข้าตัวเค้าบอกนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไงคนยิงชื่อจ่าถ้าอยากทราบว่าเรื่องนี้จริงไหมให้ถามหัวหน้าช่างทำโบสถ์วัดชื่อช่างสุชาติ

    ทั้งนี้ผมขออนุโมทนาบุญกุศลกับครูบาอาจารย์เจ้าของผงทุกท่านทุกองค์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ พระผงชุดนี้ยังไม่ได้ผ่านการอธิษฐานจิตหรือผ่านการเข้าพิธีใดๆ แต่ด้วยบารมีของครูอาจารย์ เจตตนาการสร้างเเละ ความตั้งใจของพระเณรที่มีส่วนร่วมในการสร้างพระผงชุดนี้ การกดพิมพ์พระผงด้วยจิตที่จดจ่อต่อคำบริกรรมของท่านพระครูฯ รวมถึงแรงอฐิษฐานที่พระอาจารย์ชุมพลได้ตั้งจิตขอบารมีหลวงพ่อให้มาช่วยยืนยันตำราของท่าน และในที่สุดเหตุการณ์ที่เกิดก็เป็นเครื่องยืนยันและให้กำลังใจผู้สร้างได้ในระดับหนึ่ง
     
  10. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    ขอกราบนมัสการหลวงพ่อกวย ชุตินธโรและคุณครูบาอาจารย์ กราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ชุมพล ท่านพระครูและอาาจรย์เฒ่าสุพรรณ ที่ได้ให้นำข้อมูลต่างๆมาลงเผยเเพร่ให้เพื่อนพี่น้องสมาชิก ได้อ่านเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับหลวงพ่อ เพื่อเป็นประวัติและความทรงจำของลูกหลานสืบไป สาธุ (เพื่อนพี่น้องท่านใดทราบข้อมูลนี้กันเป็นอย่างดีเเล้ว ผมต้องขออนุญาติเผยเเพร่อีกครั้งหนึ่งเพื่อพี่น้องหลายๆท่านจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับหลวงพ่อกวยและเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆกันอีกครั้งหนึ่งครับ)



    " ความผูกพันกับความศรัทธา "

    ต่อไปจะขอเล่าอภินิหารของพระพิมพ์แหวม่านเอาไว้สัก ๑ เรื่อง เรื่องของพระเครื่องนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความผูกพัน เป็นเรื่องลึกซึ้ง เป็นเรื่องของจิตใจถ้ามีอยู่ไม่บูชาก็ไม่เกิดประโยชน์ คล้องคออยู่ไม่ระลึกถึงองค์ผู้สร้างก็ไม่เกิดประโยชน์เท่าไร ต้องผูกพันกัน คนดี พระดี จึงจะดี เรื่องนี้เป็นเรื่องอุทาหรณ์ และเปรียบเทียบ มีลูกศิษย์ของหลวงพ่ออยู่คนหนึ่งชื่อเกษม ในสมัยที่หลวงพ่อมีชีวิตอยู่ เวลาทางวัดมีงานประจำปีอะไรเขาจะมาช่วยเสมอ ถ้าเป็นงานบุญเขาจะมาไม่ขาดเลย เขาจะมาทำบุญกับหลวงพ่อทุกครั้ง มีน้อยทำน้อย ครั้งละสิบบาทยี่สิบบาท ตามกำลังเพราะความยากจน หลวงพ่อเห็นว่าเป็นคนดีได้แจกพระสมเด็จให้ไปแทบทุกครั้ง นายเกษมก็เอาไปเก็บไว้ไม่ได้บูชาอะไร อาชีพของแกก็รับจ้างเขากินไปวัน ๆ หนึ่ง จนกระทั่งหลวงพ่อมรณภาพ เวลาทางวัดมีงานแกก็มาทุกปี เมื่อมาก็ยังได้กราบหลวงพ่อ แต่ปีนี้ไม่มีหลวงพ่ออีกแล้ว เดินไปทางไหนก็ว้าเหว่เงียบเหงา นึกถึงความเมตตาของหลวงพ่อที่มีต่อกัน นึกไปนึกมาน้ำตาพาลจะไหลออกมาให้ได้ คิดถึงหลวงพ่อจับใจ ทำอย่างไรก็ไม่หายคิดถึง กลับไปบ้านก็ไปกราบรูปหลวงพ่อ หยิบพระท่านมาดูจะได้สบายใจ ความคิดถึงจึงได้หยิบสมเด็จพิมพ์แหวกม่านออกมากะว่าจะนำไปเลี่ยมคล้องคอ แล้วก็นำพระไปเลี่ยมไม่มีสายสร้อยก็คล้องเชือกร่ม คล้องคออยู่ได้ ๒-๓ วัน พอดีเจอกับนายบุญสมเพื่อนกัน นายบุญสมเห็นเข้าก็แหย่นายเกษมพูดทำนองว่า หมู่นี้คล้องพระเลยหรือระวังฝนจะแล้งใหญ่ แล้วถามว่า แล้วนี่สมเด็จที่ไหน สวยดี นายเกษมก็พูดตอบว่า ก็หลวงพ่อกวยไงที่เราไปกราบด้วยกัน หลวงพ่อก็ให้แกมานี่หว่า นายสมบุญก็พูดว่าเคยได้มาแต่ให้ใครไปหมดแล้ว มันหลายปีแล้วนี่ ก่อนจากกันวันนั้น นายสมบุญได้ขอเช่าพระนายเกษมโดยให้ราคา ๑๐๐ บาท แต่น่ายเกษมอ้างว่า ให้ไม่ได้เพราะมีองค์เดียว อยู่ต่อมาพระสมเด็จพิมพ์แหวกม่านมีการเช่าหากันมากขึ้น นายสมบุญเกิดอยากได้ขึ้นมา ได้เพิ่มราคาให้นายเกษมเรื่อย ๆ พร้อมทั้งติดต่อเพื่อนบ้านให้มาเปลี่ยนหน้าเช่าพระจากนายเกษมอยู่เรื่อย ๆ จนชาวบ้านรู้กันมากขึ้นว่า สมเด็จพิมพ์แหวกม่าน นั้น มีราคา มีคนอยากได้กันหลายคน ร่ำลือกันไปใหญ่โต นายเกษมซึ่งเป็นคนจนหาเช้ากินค่ำ ไปทางไหน มีแต่คนขอดูพระ เถ้าแก่คนโน้นก็ให้ราคาคนนี้ก็ให้ราคา คนโน้นก็ให้ยืมเงินคนนี้ก็ให้ยืมเงิน โดยหวังจะยึดเอาพระ นายเกษมก็ไปขอยืมเงินเขามาทำทุนค้าขาย เพราะเขาไม่คิดดอก นายเกษมค้าขายดีจะเป็นด้วยเขาเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ขยันด้วย หรือเป็นเพราะพระพิมพ์แหวกม่านไม่แน่ชัด เขาค้าขายอยู่ไม่นานก็มีเงินเป็นแสนฝากธนาคาร พระพิมพ์แหวกม่านก็เลี่ยมทองใส่สายทอง

    เรื่องนี้ก็เล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริง เขาเป็นคนสรรคบุรี เป็นเรื่องน่าคิดเขาได้พระนี้มาหลายปี แต่ทำไมเพิ่งมารวย และนายบุญสมก็ได้มาเช่นกันทำไมไม่รวย ทั้ง ๆ ที่เขาก็เคยทำบุญกับหลวงพ่อคนละ ๑๐ บาท ๒๐ บาท เช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 สิงหาคม 2015
  11. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    เเบบเหรียญรุ่น
    เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อกวย (หลังยันต์มหามงกุฏพระพุทธเจ้าขนาดเท่าเหรียญรุ่นเเรก)
    เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อกวย (หลังยันต์หนุมานยกพลขนาดเท่าเหรียญรุ่นเเรก,ยันต์เหรียญหนุมานรุ่นสาม)

    4JCG8W.md.jpg

    4JCDpP.md.jpg
    4JCobI.md.jpg

    เหรียญรุ่นนี้จะมีขนาดเท่ากันกับเหรียญของหลวพ่อรุ่นเเรกครับ
    รูปด้านหลังเหรียญขอติดว้ครับเนื่องจากพระอาจารย์ชุมพลบอกกำลังแก้เเบบอยู่ สาเหตุที่เเก้เพราะช่างเเกะไม่ได้เเกะอักขระล้อมหนุมานครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4JC6Zv.md.jpg
      4JC6Zv.md.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.7 KB
      เปิดดู:
      84
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  12. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    " ความผูกพันกับความศรัทธา " (ต่อ)

    อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นลุงคลี่ ยิ้มจันทร์ บ้านอยู่บ้านคู เป็นลูกเขยพ่อแก่อุ้ยซึ่งเคยตีมีดให้หลวงพ่อทั้ง ๒ คน ลุงคลี่เคยเป็นเด็กวัดรับใช้หลวงพ่อ ลุงคลี่กับเพื่อนเล่นกันอยู่ใต้ถุนกุฏิ หลวงพ่อได้โผล่หน้าต่างออกมา หลวงพ่อพูดว่า “เฮ้ย พวกมึงจะเอาพระกันบ้างไหม” เด็กวัดก็ตอบด้วยความดีใจว่า เอา หลวงพ่อหยิบถาดออกมาที่หน้าต่าง แล้วสาดลงมาด้านล่าง เป็นพระองค์เล็กองค์น้อยเต็มไปหมด องค์ขนาดเม็ดน้อยหน่าก็มี ดำ ๆ ขาว ๆ เมื่อเด็กวัดแย่งพระกัน บ้างก็ได้กำหนึ่ง บ้างก็สองกำ บ้างก็ใส่กระเป๋าเสื้อ เมื่อพระหมดแล้ว เด็ก ๆ ก็เอาพระมาดู มาอวดกัน ผลคือเป็นขี้แมวทั้งหมด ไม่รู้ว่าหลวงพ่อทำอย่างไร ทำให้เห็นขี้แมวเป็นพระ คือตอนนั้นท่านเลี้ยงแมวอยู่ แมวจะขี้ใส่ถาด ในถาดมีขี้เถ้าอยู่ พอเด็กวัดรู้ว่าหลวงพ่อหลอก ก็หัวร่อกันใหญ่ พอดีท่านโผล่หน้าต่างออกมา ในมือถือถาด แล้วท่านก็สาดลงมาใหม่ เป็นพระเช่นกัน คราวนี้เด็กวัดแหยง ๆ กลัวจะเป็นขี้แมวอีก ลุงคลี่หยิบมา ๑ องค์ ไม่แย่งกับใคร เพราะกลัวเป็นขี้แมว ปรากฎว่าไม่เป็น ผมได้ถามว่าพระองค์นั้นยังอยู่หรือไม่ เขาหยิบให้ดูเป็นพระสมเด็จสีขาวองค์เล็ก ๆ หน้าตาถลอกกะเทาะออกหมดเลย เพราะเก็บรักษาไม่ดี เขาบอกว่านี่ไงสมเด็จรุ่นขี้แมว เขาตั้งชื่อรุ่นเอาเองผมเห็นเข้าเลยขอมา เพราะพระนั้นเป็นสมเด็จพิมพ์แหวกม่านนั่นเอง พระองค์นั้นเข้าใจว่า ปัจจุบันอยู่กับคุณละเอียด เพชรลอม เรื่องนี้ก็เล่าให้ฟังแปลกดี ปัจจุบันพระสมเด็จพิมพ์นี้มีปลอม ไม่เหมือนนัก

    หมายเหตุ พระแหวกม่านพิมพ์นิยม เท่าที่พบมีทั้งชนิดมีเม็ดไข่ปลารอบ ๆ ตรงริม และไม่มีเม็ดไข่ปลา พระทั้ง ๒ พิมพ์นี้สร้างพร้อมกันครั้งแรก ส่วนพิมพ์ทรงเจดีย์หรือยันต์นั้น บางคนก็เรียกว่าพิมพ์แหวกม่านหลังยันต์ พิมพ์แหวกม่านนี้เคยพบชนิดที่เป็นเนื้อดินก็มี มีทั้งชนิดมีเม็ดไข่ปลา และชนิดไม่มีเม็ดไข่ปลา แหวกม่านพิมพ์ใหญ่อาจารย์ไพ่ อยู่วัดหนองอีดุก แกะพิมพ์ถวาย ส่วนพิมพ์เดิมหลวงพ่อได้ถอดพิมพ์จากพระสมเด็จของอาจารย์ถมยา คืออาจารย์ถมยานี้ไม่ทราบว่าอยู่วัดใด หมอเฉลียว เดชมา เป็นผู้ให้ข้อมูล

    นับถือ

    ฒ.สุพรรณ
     
  13. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    4J6rOQ.md.jpg


    "สมเด็จปรกโพธิ์ ๙ ใบ”

    พระสมเด็จเดิมหมายถึง พระพิมพ์รูปสี่เหลี่ยม ของสมเด็จพุฒาจารย์(โต) ภายหลังเกจิอาจารย์มักนิยมสร้างพระพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยมขึ้น จึงเรียกว่าพระสมเด็จ หลังจากหลวงพ่อกวยสร้างพระเนื้อดิน พิมพ์สรรค์ และพิมพ์อื่น ๆ เรื่อยมา ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๓ จนกระทั่ง พ.ศ.๒๕๑๓ ท่านได้เก็บรวบรวมผงวิเศษ ผงจินดามณี ว่านวิเศษ ฯลฯ ท่านได้สร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้นเป็นพระสมเด็จปรกโพธิ์ เป็นปรกโพธิ์ ๙ ใบ เป็นมงคลนาม ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ แบบขวามือของรูปท่าน เนื้อหาแบ่งออกเป็น ๓ เนื้อ คือ เนื้อดำสนิทแบบถ่าน เป็นเนื้อผงใบลานล้วน ๆ เนื้อละเอียดมาก อีกเนื้อหนึ่งเป็นเนื้อผงใบลานดำแต่ดำไม่สนิทแบบสมเด็จขาโต๊ะ คือมีเนื้อว่านผสม อีกเนื้อหนึ่งเป็นสีขาวอมน้ำตาล เป็นเนื้อผงผสมว่าน

    พิมพ์ทรงของสมเด็จนี้ใหญ่โตกว่าสมเด็จธรรมดา และมีการเล่นหากันสูงมาก และหาคนปล่อยไม่ได้ เพราะท่านเลือกแจกให้เป็นรายบุคคลไป ท่านจะพูดว่าดี ให้เก็บรักษาให้ดี ท่านจะบอกทุกคนที่ได้ไปว่า สมเด็จนี้ดีมีเกศาของ..(คือมีส่วนผสมของเกศาของผู้มีบุญสูงมากท่านหนึ่ง ศิษย์ท่านนำมาถวายให้ท่าน คือผมไม่กล้าพูดออกไปกลัวจะเป็นว่าผมแอบอ้าง) เมื่อท่านพิมพ์พระพิมพ์นี้เสร็จแล้ว ท่านไม่อาจตัดใจโยนแม่พิมพ์ลงสระน้ำทิ้งไปได้ ท่านทิ้งแต่แม่พิมพ์ยันต์ด้านหลัง ส่วนด้านหน้าท่านยังคงเก็บรักษาเรื่อยมาภายหลังท่านมอบให้อาจารย์ตั้วเอาไว้ สมเด็จปรกโพธิ์ ๙ ใบนี้ คนที่ได้ไปจะประสบกับความสุขความเจริญ จะร่มเย็นเป็นสุขเหมือนร่มโพธิ์ และใครได้ไปบูชาจะรวยทุกคน

    จะขอเล่าอภินิหารไว้ดังนี้ เรื่องที่ ๑ นายจันทร์ ทับบุรี คนปากน้ำ อ.เดิมบาง ได้รับสมเด็จพิมพ์นี้จากหลวงพ่อ ๑ องค์ เมื่อบูชามีโภคทรัพย์ร่ำรวย ปลูกบ้านฝากระดานยาวประมาณ ๑๐ วา วันที่แกจะหมดบุญแกได้ตอบตกลงนำพระปรกโพธิ์สีดำนี่แลกเปลี่ยนกับพระของผม คือผมอยากได้เอาไว้ เขาว่าใครได้ไว้จะร่ำรวย ผมพยายามหามาหลายปีวันที่แกแลกพระของผม แกได้หยิบพระจากบนหลังตู้เอามา เกิดอัศจรรย์พระหลุดมือตกแตก แตกตรงคอเลยผมงี้เสียดายจับใจนึกอยู่เสมอว่าบุญผมไม่พอ แม้ปัจจุบันนี้ ๑๐ กว่าปีล่วงมาแล้วเคยเจออีก ๓ องค์ แตก ๑ องค์ ดี ๒ องค์ขอเช่าเขาไม่มีใครให้ ส่วนนายจันทร์ เมื่อพระแตกแล้วก็ทรุดเรื่อยมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

    เรื่องที่ ๒ นายเจน คนโพธิ์งาม อ.สรรคบุรี มีพระปรกโพธิ์ของหลวงพ่ออยู่องค์หนึ่ง ขณะไปทำนาฝนตกพรำ ๆ มีคนลักยิง คือแอบยิงด้วยปืนลูกซอง ๙ เม็ด โดนตรงหน้าอกแรงปะทะของลูกปืน ถึงกับหงายท้อง ยัง ยังครับยังไม่ตาย คือแกเจ็บ จุก และกลัวโดนยิงซ้ำน่ะ แกเลยแกล้งตาย เรื่องนี้คนร่ำลือกันมาก นายแรม คนโพธิ์งาม แกเห็นรอยลูกปืนชัดเจน แกเลยหาเอาไว้ใช้ ๑ องค์ ปัจจุบันแตกแล้ว แต่เจ้าตัวยังใช้อยู่ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมจึงยิงออก

    เรื่องที่ ๓ นายแถม เข็มทอง คนปากน้ำ อ.เดิมบาง นายแถมนี่เป็นศิษย์หลวงพ่อใจถึงมาก เคยฟันกับพ่อเลี้ยงชื่อสง พ่อเลี้ยงอยู่บนบ้านมีมีดปาดตาลขนาดใหญ่กำลังลับมีดอยู่ นายแถมมีมีดหวดหญ้า(มีดหวดหญ้ายาว ๑ วา โค้งงอ) ถือพาดบ่ามาพอดี พ่อเลี้ยงอยู่บนบ้านโดดลงมาจะฟันนายแถม นายแถมฟันสวนไปด้วยมีดหวดหญ้าซึ่งยาวกว่าชั้วเดียวคอขาดเป็นฤทธิ์ดาบวงพระจันทร์เลย ตั้งแต่นั้นมาทางญาติของพ่อเลี้ยงก็ตามล้างตามล่าแกเรื่อยมา แกไปหาหลวงพ่อ ๆ ให้สมเด็จปรกโพธิ์มา โดนดักยิงเป็นสิบ ๆ ครั้ง ให้แคล้วคลาดไปทุกครั้ง เจ้าตัวกลัวจะไม่แคล้วคลาดจริงได้อพยพไปอยู่ดง อ.ด่านช้าง ติดเมืองกาญจนบุรี อยู่ในหุบเขา ไม่มีน้ำบ่อ น้ำคลอง ใช้น้ำซับจากภูเขา อยู่ดงยังเจออิทธิพลมืด ขอซื้อแกมบังคับให้ขายที่ให้ แกถือว่าแกมาจนสุดแดนแล้ว แกไม่ยอมขาย แกโดนลักยิงอีกหลายครั้ง แคล้วคลาดทุกครั้ง ขนาดนักเลงอิทธิพลให้คนมาติดต่อขอเช่าพระแกองค์นั้นเท่าไหร่เท่ากัน ผมยังแกล้งยุให้ขาย แกบอกว่า“ถ้าขาย มึงก็เตรียมไปเผาผีกูได้ มันเอากูแน่” ปัจจุบันนี้ฐานะแกมั่นคงดีมาก เรียกว่าในถิ่นที่แกอยู่แกมีฐานะดีกว่าเขา แกบอกพระปรกโพธิ์ ๙ นี้ร่มเย็นดีจริง ๆ


    ว่าจะจบเรื่องปรกโพธิ์ ๙ ใบก็จบไม่ลงขอต่ออีกนิ๊ดนายชาติ คนหนองหินเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อคนหนึ่งวันหนึ่งได้รับพระปรกโพธิ์ ๙ ใบจากบิดา แกนำไปเลี่ยมคล้องคอ แล้วนำมาอวดหลวงพ่อทำนองถามความเห็น พระปรกโพธิ์ ๙ ใบ องค์นั้นด้านหลังเป็นรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม เมื่อหลวงพ่อเห็นเข้าท่านพูดว่า “ดีรุ่นนี้ไม่มีออก”นายชาติแกก็ดีใจคิดว่ารุ่นนี้ ทางวัดไม่ได้ออกจำหน่ายคงจะให้เป็นบุคคลไป วันหนึ่งแกมาเที่ยวที่หนองแขม โดนนักเลงสามเอกยิงติด ๆ ๓ นัดไม่ออกเลยแม้นัดเดียว แกถึงเข้าใจว่าที่หลวงพ่อพูดว่าไม่มีออก คือยิงไม่ออกนั่นเอง ปัจจุบันพระสมเด็จปรกโพธิ์ ๙ ใบนี้ถือว่าเป็นพระชุดผงชั้นหนึ่งของหลวงพ่อทีเดียว หายากแพงมากพระสมเด็จปรกโพธิ์ที่มียันต์ข้างหลังนั้น มีคนเอาไปบูชาได้ผลมาก ผมจึงสะสมสมเด็จของหลวงพ่อเอาไว้เพราะเห็นสรรพคุณ ถ้าคนรู้จักใช้เขาร่ำรวยกันมาหลายคน บางคนเป็นหนี้เป็นสินเป็นล้าน ๆ จนหมดปัญญาจนแทบจะตกงานหรือแทบจะเป็นโรคประสาทตาย ได้มาหาหลวงพ่อ ๆ ให้สมเด็จปรกโพธิ์ไปบูชาอยู่ต่อมาไม่นาน คน ๆ นั้นก็หมดหนี้หมดสินอย่างน่าพอใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2018
  14. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    "ปลงอายุสังขาร“

    ต่อไปเป็นเรื่องของหลวงพ่อ ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพ ก่อนงานฝังลูกนิมิต พ.ศ.๒๕๒๑ ทางคณะกรรมการวัดได้ประชุมปรึกษาหารือเรื่องงานกันมาก มาที่กุฏิหลวงพ่อบ่อย ๆ เพราะเป็นงานใหญ่ ต้องมีการวางแผนงาน มีการปลูกสร้างกองอำนวยการ เพื่อขายดอกไม้ ธูปเทียน และจำหน่ายวัตถุมงคล มีการเตรียมงานก่อสร้างกุฏิหลวงพ่อขึ้นใหม่ชื่อตึก ชุตินฺธโร มีหมายกำหนดการรื้อกุฏิเก่าของหลวงพ่อออก เพื่อให้หลวงพ่ออยู่กุฏิใหม่ให้สมเกียรติ โดยมีการประชุมกันทั้งเงียบ ๆ และเปิดเผย

    แต่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจในตัวท่าน ท่านได้ถามกรรมการวัดใกล้ชิดคนหนึ่งว่า “เขาจะรื้อกุฏิกูออกหรือ แล้วเขาจะให้กูไปอยู่กุฏิปูนหรือ” กรรมการวัดก็ตอบ “ครับ” ท่านได้พูดว่า “กูไม่ค่อยชอบปูน ปูนมันเย็นตีน” แล้วท่านได้พูดว่า “เขาจะหล่อรูปกูหรือ” กรรมการวัดได้ตอบว่า “ครับ” แล้วท่านก็หัวร่อหึหึ คือหลวงพ่อเป็นพระที่แปลก ถ้าท่านหัวร่อหึหึ ฟังชอบกลล่ะก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก แม้ท่านจะไม่ใช่พระปฏิบัติ แต่ท่านก็เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ท่านถือธุดงควัตร คือ ฉันครั้งเดียว แม้เวลาท่านจำวัด(นอน) ท่านยังเอากะลามาหนุนศีรษะ ถ้าท่านพลิกตก ท่านก็จะตื่นขึ้นมาภาวนาทันทีในกุฏิ ท่านจะจุดธูป เทียนเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า

    เรื่องกุฏิท่าน เมื่อกรรมการวัดเขาจะรื้อ ท่านก็ไม่พูด ทั้ง ๆ ที่ท่านไม่อยากไปอยู่กุฏิปูน กุฏิเก่าท่านเป็นไม้ ท่านเคยอยู่มานาน ท่านลงอาถรรพณ์เอาไว้ ขนาดยุงยังเข้าไม่ได้ ถ้าเป็นคนธรรมดาก็คือต้องมีการอาลัยอาวรณ์ในบ้านหลังเก่า แล้วเรื่องหล่อรูปท่านก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การสร้างรูปหล่อแทนองค์ เขานิยมทำกันต่อเมื่อมรณภาพไปแล้ว ฉะนั้นการสร้างรูปหล่อท่านขึ้น เหมือนเป็นการสร้างตัวแทนท่าน รู้สึกท่านไม่ชอบ ใจ แต่ท่านก็ไม่พูดอะไร ท่านได้แต่พูดว่าเมื่อฝังลูกนิมิตเสร็จแล้ว ท่านก็จะไปแล้ว ทางศิษย์ก็ใจคอไม่ดี คือท่านจะมรณภาพก่อนสร้างรูปหล่อ ฝังลูกนิมิต พ.ศ.๒๕๒๑ สร้างรูปหล่อ พ.ศ.๒๕๒๒ คณะกรรมการต่างก็รู้ดี ในคืนฝังลูกนิมิต คืนสุดท้ายทางศิษย์ได้จัดดอกไม้ธูปเทียน เข้าไปกราบท่านขอให้ท่านเลื่อนวันมรณภาพออกไป เพราะศาลายังไม่ได้สร้าง ถ้าสิ้นหลวงพ่อไปแล้วใครจะสร้างได้ ได้ขอร้องอยู่นาน และได้นิมนต์ท่านขึ้นรถขี่ออกไปให้ไกลจากเสียงปี่เสียงกลองในคืนสุดท้าย ท่านเห็นกับศิษย์ ท่านได้ตอบว่าก็ได้ แม้เมื่อสร้างศาลาขนาดใหญ่ ท่านยังสั่งเร่งให้สร้างให้เสร็จภายในเวลา ๖ เดือน คืนที่ไปท่านได้มาจำวัดที่วัดหนองอีดุก เมื่อท่านกลับมาท่านได้เล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ท่านไปจำวัดที่หนองอีดุก ไม่ได้หลับได้นอนเลย เปรตบ้าง ผีบ้าง มาขอส่วนบุญท่านเต็มศาลาไปหมด ที่ลอยอยู่บนอากาศก็มี(เข้าใจว่าเป็นเทวดา)

    ในปี พ.ศ.๒๕๒๑-๒๕๒๒ ทางวัดได้สร้างศาลา สร้างรูปหล่อขนาดใหญ่เท่าองค์จริง วันหนึ่งเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๒๒ ท่านได้เรียกหลวงตาสมานเข้าไปหา คุยไปคุยมา ท่านหยิบกระดาษส่งให้หลวงตาสมาน ๑ แผ่น มีเลขเต็มไปหมด หลวงตาสมานนึกว่าเป็นตำราเลขล็อคเลยแอบเก็บไว้ ตอนหลังไปอ่านดูเป็นดวงชะตาของหลวงพ่อ ท่านได้กำหนดวันมรณภาพของท่านวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๒๒ เวลา ๗ นาฬิกา ๕๕ นาที ตอนเช้า พร้อมทั้งมีกำหนดวันที่ท่านล้มป่วยเอาไว้ด้วย เป็นเวลา ๑ เดือน วันที่ท่านป่วยท่านวงไว้เป็นตัวสีน้ำเงิน วันมรณภาพท่านวงไว้ด้วยสีแดง ภายหลังได้มาดูที่ปฏิทิน ท่านก็วงไว้เช่นกัน

    ในคืนวันที่ ๑๑ คนมาเยี่ยมท่านมาก คอยจนจะสว่างท่านก็ไม่มรณภาพ ท่านไม่พูด นาน ๆ จะลืมตาสักครั้ง พูดรู้เรื่องหมดทุกอย่าง สั่งเอาไว้หมดทุกอย่าง ท่านภาวนาอย่างเดียว แต่ลมหายใจอ่อนมาก ศิษย์รักท่านมากก็จริง แต่รู้ว่าท่านต้องมรณภาพแน่ ๆ เพราะท่านผอมมากไม่มีกำลัง ศิษย์เก่า ๆ คิดได้ว่าในกุฏิของท่านนั้นครูท่าน คือ อาจารย์ท่าน ตลอดจนตำรายันต์ท่าน ท่านเคยพูดว่าครูท่านแรงมาก คือตำรายันต์และรูปอาจารย์ หรือท่านอยู่ที่กุฏิท่าน จะไม่มีใครกล้ามารับท่าน จึงได้ปรึกษากันอยากให้ท่านไปดี จึงได้อุ้มท่านออกมานอนที่หอสวดมนต์ พอจัดที่ให้ท่านนอนที่หอสวดมนต์เรียบร้อย เวลา ๗.๕๕ น. ของวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๒ ลมหายใจท่านก็ขาดหายไป อัศจรรย์คือระฆังที่หอระฆัง ระฆังใบใหญ่มาก ได้ขาดลงมา แล้วมีเสียงดัง หง่างๆๆๆๆๆๆ ดังยาวนานเป็นทอดๆ คนที่ศาลา กำลังเตรียมงานร้องไห้โฮ ไม่รู้ว่าเขารู้ได้อย่างไรว่า หลวงพ่อมรณภาพ หมาในวัดร้องโหยหวน ศิษย์หลายคนที่คล้องพระท่านอยู่สายสร้อยหล่นขาดลงมา เวลา ๘ นาฬิกา คนมาวัดเต็มไปหมด มืดฟ้ามัวดิน หอสวดมนต์แทบพัง

    เรื่องระฆังขาดนี้นับว่าอัศจรรย์มากเพราะโซ่ขนาดใหญ่ เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว ทางกรรมการวัดได้รื้อกุฏิเก่าท่านเอาไปทำโรงครัว ที่ท้ายศาลาหลังใหญ่ จะรื้อให้ได้ นับว่าปัญญานิ่มจริง ๆ และที่กุฏิเก่าที่รื้อมาไปทำโรงครัว ไม่ค่อยมีใครกล้านอนค้างคืน เพราะพอตกกลางคืน ท่านมักมาปรากฏตัวให้เห็น คนมักเห็นท่านมาเดินจงกลม หรือนั่งสมาธิที่โรงครัวกุฏิท่านเสมอ

    นับถือ

    ฒ.สุพรรณ "
     
  15. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    "พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่น จตุรพิธพรชัย วัดจีน"

    ฝ่ายหลวงพ่อทั้ง ๑๖ องค์ ก็นั่งปลุกเสกกันเต็มที่ กลัวจะเสียชื่อ เมื่อดับเทียนชัยแล้ว ท่านพัศดีเรียนได้ปรึกษากับพระผู้ใหญ่ว่า สมควรจะให้หลวงพ่อองค์ไหนประพรมน้ำพระพุทธมนต์ดี ตกลงมีมติให้หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพราะตอนนั้นหลวงพ่อนอกำลังดังทะลุฟ้าเลย เมื่อพัศดีเรียนอุ้มบาตรน้ำมนต์ไปนิมนต์ให้หลวงพ่อนอประพรมน้ำพุทธมนต์ หลวงพ่อนอได้ปฏิเสธ และชี้ให้ไปนิมนต์หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พัศดีเรียนได้มานิมนต์หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่โต๊ะกลับปฏิเสธและชี้มาให้นิมนต์หลวงพ่อกวย โดยท่านพูดว่า “งานนี้ต้องพระครูชัยนาท” ตกลงหลวงพ่อกวยท่านประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เรื่องนี้ถ้าท่านเคยอ่านประวัติของหลวงพ่อตอนวัตถุมงคลวัดท่าทอง ท่านจะจำได้ว่าหลวงพ่อกับหลวงปู่โต๊ะเคยพุทธาภิเษกร่วมกันครั้งหนึ่งแล้ว ที่วัดท่าทองในคืนวันนั้นหลังจากพักสวดพุทธาภิเษก หลวงปู่โต๊ะได้เอ่ยปากถามชาวบ้านว่า“พระครูองค์นี้ชื่ออะไร อยู่วัดไหน อาคมแก่กล้าเหลือเกิน” บังเอิญคืนวันนั้นฝนตก หลวงปู่โต๊ะได้ชี้ไปที่สายสิญจน์ที่วนรอบพิธี ท่านพูดว่า “ดูซิแมลงเม่ายังบินเข้ามาในวงสายสิญจน์ไม่ได้เลย” คือหลวงพ่อกวยท่านสำเร็จวิชาลงอาถรรพณ์ คืนวันนั้นแมลงเม่า ตัวที่ปีกหลุดยังไต่เข้ามาในสายสิญจน์ไม่ได้ ได้แต่ไต่ที่สายสิญจน์ นับว่าแปลกมาก ทำให้หลวงปู่โต๊ะเชื่อมั่นในหลวงพ่อกวย ให้หลวงพ่อกวยจัดการ

    เมื่อหลวงพ่อพรมน้ำพระพุทธมนต์เสร็จ ท่านได้หยิบเหรียญรูปท่านขึ้นมากำมือหนึ่ง ท่านได้เดินออกมาหน้าพระอุโบสถที่วัยรุ่นจับกลุ่มอยู่ จะด้วยอำนาจตบะในตัวท่านหรืออย่างไรไม่แน่ชัด พอวัยรุ่นกลุ่มนั้นเจอท่าน บางคนกำลังเมาอยู่เกิดอาการหายเมาเป็นปลิดทิ้ง บางคนเกิดอาการตกประหม่า ท่านได้พูดว่า “คนไหนจะเอาเหรียญไปลองยิง” ปรากฏว่าไม่มีใครตอบ ได้แต่ก้มหน้านั่งนิ่ง หลวงพ่อเลยส่งเหรียญแจกให้ไปคนละ ๑ เหรียญ พร้อมทั้งพูดทิ้งท้ายอบรมว่า“พระเขาสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึก และกำลังใจในการทำมาหากิน และทำความดี ไม่ได้ทำเอาไว้เพื่อลองยิง”

    เมื่อหลวงพ่อกลับมาจากพุทธาภิเษก ท่านได้เล่าให้ศิษย์ฟังว่า พระวัดบ้านช้าง (หมายถึงหลวงพ่อออด) เก่งปลุกเสกของตัวเฑาะว์ออกมาจากปากเลย พระวัดโบสถ์(หลวงพ่อพริ้ง) ดีทางกำบัง ส่วนพระวัดกลางท่าเรือ(หมายถึงหลวงพ่อนอ) องค์นี้ดีทางมหาอุด เมื่อศิษย์ของหลวงพ่อที่ได้ฟังก็อยากไปกราบ อยากไปเรียนวิชา ได้ไปกราบหลวงพ่อนอ หลวงพ่อออด หลวงพ่อพริ้ง ท่านทั้ง ๓ นี้กลับไล่ลูกศิษย์ของหลวงพ่อ โดยท่านพูดว่า “ให้กลับไปอยู่กับพระครูชัยนาทเถิด เขาไม่ใช่พระธรรมดา
     
  16. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    รอบูชาอยู่นะครับ
     
  17. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723

    อนุโมทนาบุญด้วยครับ

    วันนี้ค่ำๆ จะเปิดให้จองครับ ขอบคุณครับ
     
  18. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    สวัสดีครับติดตามอ่านมาตลอดหลายวัน เลยอยากถามว่า พระชุดนี้ได้เข้าทำพิธีอธิษฐานจิตที่ไหนอีกมั้ยครับ นอกเหนือจากมวลสารที่ทำมาดีแล้ว...ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ
     
  19. ๑๖โสฬส

    ๑๖โสฬส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    1,690
    ค่าพลัง:
    +8,723
    สาธุ ขอบคุณครับ
     
  20. apedet

    apedet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +837
    รอทำบุญครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...