เพลิดเพลินกับกิเลส แต่ไม่ยึดติดกับกิเลส

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ตั้งฉาก, 4 มกราคม 2014.

  1. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    สาธุ ...^_^
     
  2. chaiwat88

    chaiwat88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +275
    กามคุณ 6
    รูปสวย
    เสียงไพรเราะ
    กลิ่นหอม
    รสชาติอร่อย
    สัมพัสที่น่าพอใจ
    จิตใจรื่นรม
    เสพไปเถอะครับแต่ต้องได้มาด้วยความไม่เบียดเบียนผู้อื่น
     
  3. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    เป็นไปไม่ได้จ้า
    ตราบใดที่ยังเสพ ตราบนั้นยังยึดติด
    หากจะยืนยัน บอกว่าเพลิดเพลินแต่ไม่ยึดติดนั้น
    คำพูดแบบนี้ เป็นแค่การเล่นคำหรือสำนวน เฉย ๆ
    หาได้ใช่ความเป็นจริงไม่

    บุคคลผู้ยังเสพกามอยู่ แล้วบอกว่าตนไม่ยึดติดกับกามนั้น คนแบบนั้น มีด้วยหรือ ?
    เหมือนมีคนบอกว่า
    ตนไม่ยึดติดกับบุหรี่ แต่ยังเสพบุหรี่อยู่ ?
    ตนไม่ยึดติดกับสุรา แต่ยังดื่มสุราอยู่ ?
    ตนไม่ชอบการเที่ยวกลางคืนแต่เมื่อวานก็พึ่งไปมา
    หากมีคนบอกแบบนี้ คุณฟังแล้วจะเชื่อหรือ ?

    แท้จริงแล้ว คนที่ไม่ยึดติดในบุหรี่ คือคนที่ไม่สูบบุหรี่
    คนที่ไม่ยึดติดสุรา คือคนที่ไม่ดื่มสุรา
    คนที่ไม่ยึดติดการเที่ยวกลางคืน คือคนที่ไม่เที่ยวกลางคืน
    ไม่ยึดติดสิ่งใด ก็ไม่เสพสิ่งนั้น

    ตราบใดที่ยังเสพอยู่ ก็ยังมีการยึดติด
    เพียงแต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความถี่
    ติดมาก ก็เสพมาก
    ติดน้อยก็เสพน้อย
    ไม่ติด ก็คือไม่เสพ

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่เพลิดเพลิน กับ กิเลส แต่ไม่ยึดติด จึงไม่มี
    มีแต่ผู้ที่ยังติดอยู่ในกิเลส กับผู้ที่ออกจากกิเลสได้แล้ว แค่นั้นเอง

    ในส่วนของผู้ที่ยังติดในกิเลส ก็แบ่งออกอีกเป็น
    ผู้ที่รักในการเสพ กับผู้ที่พยายามหาทางออก และกำลังจะเลิกเสพ

    ผู้ที่ออกจากกิเลสได้แล้ว ก็คือพระอรหันต์
    ผู้ที่รักในการเสพ ก็คือ ฆราวาส คนธรรมดา นี้เอง

    ในบรรดาฆราวาส คนธรรมดา ก็แบ่งออกเป็น
    บัณฑิต กับคนพาล

    คนพาลก็คือผู้ที่รักในการเสพ
    ส่วนบัณฑิตนั้นเอง คือผู้ที่กำลังพยายามออกจากกิเลส

    ทำไมคนพาล รักการเสพ
    เพราะคนพาลถูกมิจจาทิฐิ ครอบงำ จึงเห็นเรื่องของการเสพ เป็นสิ่งประเสิรฐที่สุด
    เมื่อเห็นการเสพเป็นสิ่งประเสริฐ ก็จะผิดศีลได้ง่าย ๆ
    เพราะผิดศีลมาก ๆ ก็เป็นคนพาลเต็มตัว
    วัดคนพาลง่าย ๆ วัดจากศีล

    ส่วนบัณฑิตเพราะมีสัมมาทิฐิ จึงรู้ว่า การเสพ(กาม กิเลส) มีแต่นำไปสู่ความทุกข์
    จึงเร่งทำกิจ ที่ควรทำ หมั่นฝึกฝน เพื่อประโยชน์ของเขาในภายภาคหน้า

    บัณฑิตเมื่อปฏิบัติมาก ๆ ก็ไปจบที่ บรรพชิต คือ บุคคลที่บวช เพราะต้องการออกจากกิเลส
    อย่างแท้จริง

    เมื่อเป็นบรรพชิต ปฏิบัติมาก ๆ จนละกิเลสได้ทุกตัว ก็สำเร็จ อรหันต์ผล
    ไม่ต้องติดอยู่ในบ่วงแห่งความทุกข์ต่อไป

    แล้วท่านละเป็นแบบไหน?
     
  4. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ความหมายของคำว่า บัณฑิต กับ คนพาล หาก ดูที่ตัวคำ อาจจะนึกว่า คนพาล เป็นความหมายที่แย่
    บัณฑิตเหมือนเป็นอะไรที่ยกย่องตัวเอง

    จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่

    ความหมายจริง ๆ ของบัณฑิตกับคนพาล ก็คือ

    บัณฑิต คือผู้ที่ทำตัวเองให้พบแต่ความผา สุข
    ส่วนคนพาล คือ ผู้ที่ทำตัวเองให้พบแต่ความทุกข์ นั้นเอง
    หากจะเสพสุข ก็จะเสพเฉพาะสุขข้างหน้า แต่แท้จริงแล้ว ความทุกข์ที่จะตามมาข้างหน้า ช่างหนักยิ่งนัก

    ในขณะเดียวกันบัณฑิตเอง หากต้องพบกับความทุกข์ แต่เพื่อความผาสุขข้างหน้า อันมากมายมหาศาล
    สิ่งเหล่านั้นย่อมคุ้มกว่า

    ยกตัวอย่าง ง่าย ๆ เช่น
    การรักษาศีล
    หากคน ๆ นั้น จะต้องเดือดร้อน ถูกคนเข้าใจผิด เจอคนด่า นินทา เล่าเรื่อง เสียเพื่อน เสียเงิน
    เสียผลประโยชน์ ฯลฯ
    แต่มันสามารถทำให้ศีลของเขานั้น ไม่ขาด เขาก็ยอม แบบนี้แหละ เรียกว่าบัณฑิตแท้
    เพราะประโยชน์ที่เขาจะได้หลังจากนั้น เยอะยิ่งกว่า

    ส่วนคนพาลเห็นประโยชน์แค่ตรงหน้า เฉพาะกาลปัจจุบัน แม้คนอื่นจะเดือดร้อน เขาก็ทำได้
    เพื่อความผา สุข ของตน แบบนี้แล้ว ก็มีแต่ความทุกข์อันน่าสะพรึงกลัว รอเขาอยู่ นั้นแหละ
     
  5. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    สักแต่โง่ไปวัน แต่หลงความคิดนี้สักแต่ว่าหลง
    ด้วยรึเปล่า หลงตัวเองจริงๆเจ้าตัวจะยอมรับไหม
    มัวเมาสอนแต่คนอื่น ขี้เต็มหัวสมองยังไม่รู้ตัว
     
  6. Jan2014

    Jan2014 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2014
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +143
    (deejai)
     
  7. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ผู้ที่ละเพลินไม่ได้จะปรินิพพานไม่ได้. แต่มัพระสูตรที่กล่าวว่าเนื้อที่นอนจมบ่วงแต่ไม่ติดบ่วง. ลองวินิจฉัยดูนะครับว่า จะสมควรประมาณใดกับการติดในกาม
     

แชร์หน้านี้

Loading...