เล่าประสบการณ์การฝึกมโนมยิทธิและสอบถามผู้รู้ต่อไป

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย degba4567, 5 พฤศจิกายน 2015.

  1. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    บันทึกการฝึกมโนมยิทธิที่วัดท่าซุง
    ต้องขอบอกก่อนนะครับเพื่อความเข้าใจ ผมเป็นคนที่รักษาศีล 5 มาตลอดไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว สมาธิก็ทำไม่ได้ขาด ได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ก็ทำ โดยพื้นฐานจะฝึกสมาธิตามแนว พุทโธ
    ผมตั้งใจ สนใจ และต้องการไปฝึกมโนมยิทธิมานานแล้ว อ่านประสบการณ์ที่คนอื่นไปฝึกมาแล้วก็ชอบครับ บอกเลยว่าชอบ ในความเห็นส่วนตัวของผม มโนมยิทธิเป็นแนวที่ผมชอบ เพราะได้เห็นจริง ไม่ใช่แค่อ่านจากหนังสือหรือฟังคนอื่นพุดมา ว่า นรกมี สวรรค์มี นิพพานมี เปรตมี อสุรกายมี ซึ่งผมคิดว่าพยายามเชื่ออยู่นะไม่ใช่ไม่เชื่อแต่มันยังไม่สนิทใจเพราะเราไม่เห็นเอง ยังมีความสงสัยอยู่ ครั้นจะฝึกแบบปกติที่ต้องให้ได้ ฌาน 4 ก่อน ก็คงตายก่อนละชาตินี้ ไม่ทันใจวัยรุ่นครับ
    จุดประสงค์จริงๆของผมในการเลือกที่จะฝึกนั้นคือ ถ้าเราเห็น มีตาใน เราจะตัดกิเลสได้ง่ายขึ้น วันไหนจิตมันเป็นอกุศล คิดทำชั่ว ห้ามไม่ฟัง ก็ไปดูนรกเลยครับ ว่าถ้าทำแล้วตามที่คิดจะต้องส่งผลยังไง อันนี้ตัดปุ๊บเลยครับ หรือถ้าเราเผลอทำอะไรผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการ เราจะสามารถถามพระพุทธเจ้าได้โดยตรง ชัวร์กว่าครับ จะทำอะไรก็ถามพระพุทธเจ้าได้เลย ติดขัดตรงไหนก็ถามพระพุทธเจ้าได้เลยจะได้ไม่ผิด และผมก็เลือกมาฝึกที่วัดท่าซุงเลยเพราะคิดว่ามาที่ต้นกำเนิดจะได้ไม่ผิด
    ****พิมพ์ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาโพสต์ต่อ***
     
  2. Chosen

    Chosen สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +3
    ถามพระพุทธเจ้าแล้วถามจริงหรือแค่จินตนาการตัวเองละครับ ถ้าจะเอาธรรมของจริงมันต้องเข้าใจถึงสัจธรรม และไม่หลอกตัวเองไปวันๆ จริงก็ว่าจริง จินตนาการก็คือจินตนาการ

     
  3. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    วันแรก ผมมาถึงวัดท่าซุงนะครับ จะมีแม่ชีท่านรับลงทะเบียนอยู่สำหรับผู้ที่จะฝึกตอนกลางวัน ผมก็ไปลงทะเบียน ในใบลงทะเบียนเขาก็จะให้ตอบว่าเคยฝึกมาไหม ได้ถึงไหนแล้ว ผมก็ติ๊กขั้นเริ่มต้นเลยครับถึงแม้จะเคยลองฝึกตามเทปที่หลวงพ่อเคยสอนไว้มาบ้างแต่มันก็ไม่ได้อะไร รอเวลาสักครู่ทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องเราครับห้องละประมาณไม่เกินสิบคน เป็นห้องกระจกติดแอร์ครับ และจะมีพวกที่อยู่ข้างนอกครับ คือคนที่สามารถท่องเที่ยวได้แล้ว ก็ถือจานใส่ดอกไม้ ธูป เทียน เงินและครับ ถึงเวลาก็จะมีครูเข้ามาสอน บางห้องก็เป็นฆราวาส บางห้องก็เป็นพระภิกษุครับ จากนั้นก็จะมีเสียงหลวงพ่อแนะนำการฝึกและพากล่าวคำสมาทานพระกรรมฐานครับ แล้วทุกคนก็หลับตา

    หลังจากหลับตาครูก็จะให้ทำสมาธิครับ หายใจเข้า นะมะ หายใจออก พะธะ ประมาณ 10 นาที จากนั้นจะพาตัดร่างกาย สมาทานศีล แล้วครูก็บอกว่าหลวงพ่อมาแล้ว เห็นไหม หรือเห็นพระพุทธเจ้าไหม คนอื่นตอบว่าเห็นหมดเลย แต่ผมไม่เห็นอะไรเลย คนเรา หลับตาลงก็มืดใช่ไหมครับ แล้วจะไปเห็นอะไร ก็เห็นแต่ความมืดสนิท และครูฝึกก็จะพูดไปเรื่อยๆถึงตรงนั้นแล้วตรงนี้แล้วคนอื่นก็ตอบเราก็ยิ่งสงสัยหนักขึ้นว่าเขาเห็นอะไร ทำไมเราไม่เห็นทั้งที่เราตั้งใจมากขนาดนี้ ครูฝึกบอกให้ขอบารมีพระพุทธเจ้าขอบารมีหลวงพ่อ เราก็ขอแต่ก็ยังไม่เห็นอะไรอยู่ดี และที่สำคัญคือผมยังมาหงุดหงิดกับคำพูดของครูฝึกมากๆเพราะอะไรรู้ไหมครับ ครูพูดเร็วมากกกกกกกกกกก แบบว่าจนคิดอะไรไม่ทันเลย เช่น บอกให้ขอบารมีหลวงพ่อนะขอให้........โน่นนี่นั่น แล้วเราก็กำลังคิดว่า ขอบา......... ไปแล้วครับ ครูฝึกไปแล้ว มั่วไปหมดเลย งง สิครับ โดดออกจากเรื่องนี้ชนเรื่องนั้น ป่นปี้หมด อาจเป็นไปได้ว่าครูฝึกนะจิตละเอียดพอสมควรแล้วจึงเร็ว แต่พวกผมคนฝึกใหม่สิครับ จะตายให้ได้ อ้อ มีประมาณ 2-3 คนในห้องครับที่รู้สึกแบบผม สรุปวันนี้ไม่เห็นอะไรเลย เอวัง พออกมาจากห้องเราก็มาคิดทบทวนสิครับ หลายอย่าง ทำไมเราทำไม่ได้เหมือนคนอื่นนะ ที่บอกว่าเห็นนะ เห็นยังไง สงสัยมากมายเลยครับ เราไม่ใช่ลูกหลานหลวงพ่อมาก่อนใช่ไหม การฝึกแบบนี้ไม่เหมาะกับเราหรือไร และอีกหลายอย่าง
    พอตอนเย็นครับผมเลือกพักที่วัดครับ กลางคืนก่อนนอนจะมีการเปิดเสียงตามสาย ฟังดูหลวงพ่อก็มาเลยครับ เสียงนะครับ การฝึกกัมฐานจะมามัวแต่คิดว่าตัวเองไม่มีบุญไม่ได้ ทุกคนล้วนมีบุญทั้งนั้น ถ้าไม่มี จะไม่มาเกิดในขอบเขตของพระพุทธศาสนา จะไม่ได้ยิน หรือได้ยินก็ไม่สนใจเลย แต่นี่เราม่ใช่ บลาๆๆๆหลายอย่างครับ ผมนี่สะดุ้งเลยครับ เหมือนหลวงพ่อเทศน์ให้ผมเลยอ่ะ ตรงผมหมดเลย ที่แปลกใจมากเมื่อมาคิดดูแล้วคือ ถ้าบอกว่าบังเอิญคนเปิด เปิดตรงกับใจเราพอดีก็จะบังเอิญไปไหมเพราะมันตรงแทบทุกคำ 2 ถ้าเป้นการปฏิบัติแบบเป็นคอร์สคือมีกำหนดเวลาเริ่ม เวลาจบ วันนี้เป็นวันแรกก็ยังจะพอเดาได้ว่าวันนี้คนส่วนมากจะคิดยังไง แต่นี่ไม่ใช่ แต่ละวันมีทั้งคนมาใหม่และคนอยู่เดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2015
  4. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    วันที่ 2 ครับ ผมไปฝึกใหม่ขั้นตอนก็เหมือนเดิม แต่วันนี้ผมมีกำลังใจมากขึ้นจากที่ได้ฟังเสียงหลวงพ่อเมื่อคืน ตั้งใจใหม่ โดยก่อนถึงเวลาฝึกผมไม่ลืมที่จะไปกราบขอพรพระพุทธเจ้าตรงพระพุทธรูปองค์ประธานในวิหารแก้ว จากนั้นก็ไปกราบหลวงพ่อตรงทางเข้าขอให้ได้เห็นบ้างยังดี วันนี้ครับตอนครูฝึกบอกว่าเห็นไหมผมก็เหมือนจะเห็นอะไรบ้างครับ แต่เหมือนคิดไปเองมากกว่า ที่สำคัญมี 2 อย่างครับ อย่างแรกวันนี้เปลี่ยนครูฝึกครับ แต่ยังพูดเร็วมากกกกกกกก เหมือนเดิมครับ ไม่ทัน อย่างที่ 2 คือในตอนฝึกผมรู้สึกปวดหัวมากและร้อนมากครับทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ ได้แต่นั่งฟังคนอื่นครับ สรุปไม่ได้อะไรเลย ตอนหลังฝึกทุกคนก็เล่าว่าตัวเองเป็นยังไง เห็นอะไร ยังงั้น ยังงี้ ผมก็ได้แต่นั่งฟังและโมทนาครับ เพราะผมยังมืด ออกมาจากห้อง ถามตัวเองว่า ทำไงดี เรามาไกลมาก เสียค่าน้ำมันมาตั้งไกลแต่ไม่ได้อะไรเลยหรอ ทำไงดี
    ตกกลางคืนเสียงหลวงพ่อมาอีกแล้วครับพูดถึงการฝึก อย่าฉลาดเกินไป ต้องวางที่ตัวเองรู้ทุกอย่างก่อน ผมตัดสินใจครับ ไหนๆก็ได้มาแล้ว ไกลก็ไกล ลองอีกสักวัน ถ้าวันนี้ยังไม่เห็นอะไรเลย คงต้องตัดใจกลับบ้านมือเปล่า
     
  5. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    อันนี้ผมไม่ทราบนะครับ เพราะยังทำไม่ได้ว่าจริงไม่จริง
     
  6. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    พี่ๆเขาฝึกทั้งชีวิตก็มีนะพี่นะ
    พี่กะ2วันฉับๆๆเลยเหรอ
    คือน้องจะบอกพี่ว่า
    ปล่อยใจให้ว่างและตามเขาไป
    มโนมยิทธิ ให้ยึด อารมณ์แรกใช่
    อย่าลังเลสงสัยไปเรื่อยๆตามไปเรื่อยๆ
    ไอ้โน้นนี่นั้นพี่ก็อย่ามาเป็นอารมณ์ตัดดีตัวเอง
    ปล่อยวาง ว่าง ตาม ถามมา ตอบตามอารณ์แรก
    ตาม ตาม ไปเรื่อยๆ
    ใจเย็นๆนะพี่นะ
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ใจเย็นๆ กลับไปอ่านโพส จขกทให้ดีๆก่อน ...
     
  8. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    วันที่ 3 ก่อนเข้าห้องฝึกไปลงทะเบียน ผมบอกว่าฝึกมา 2 วันแล้ว วันนี้วันที่ 3 ยังไม่เห็นอะไรเลย ครูฝึกนี่ทำหน้าแบบว่าอธิบายไม่ถูกเลย ท่านคงไม่อยากเชื่อมั้งครับ 555 ว่าจะมีคนโง่ขนาดนี้ วันนี้ผมตัดสินใจเลยครับ กูเป็นคนโง่ ไม่รู้อะไรเลย วันนี้ครูบอกอะไร จะทำตามหมด วันนี้กลับเห็นครับ 555 ครูฝึกวันนี้อธิบายดีมาก ชัดเจน และที่สำคัญช้าครับ รอคนทุกคน แต่อาการร้อนและปวดหัวผมก็มาเหมือนเดิม ผมจะจำลองเหตุการณ์นะครับ
    ครู: ตอนนี้หลวงพ่อมาแล้วนะ เห็นไหม
    ผม: ไม่เห็นครับ (ตอบในใจ ยังไม่พูด คนอื่นตอบเห็นหมด แต่ตอนนี้ที่ผมไม่ตอบครูเพราะ ผมไม่เห็นหลวงพ่อ ครูฝึกบอกให้นึกถึงพระพุทธเจ้าคือพระพุทธรูปที่อยู่ด้านนอกขอบารมีท่าน แต่พอผมนึกออกไปด้านนอกก็เห็นด้านนอกคือรู้สึกได้ถึงด้านนอกว่ามีคนอยู่เยอะและทุกคนแต่งกายแบบเทวดา เอ ยังไง)
    ครูก็บอกต่อ ใครเห็นหลวงพ่อแล้วก้มกราบหลวงพ่อนะ บางคนหลวงพ่อก็จะลูบหัว แต่ผมยังไม่เห็นอยู่ดี ขอหลวงพ่อให้พาขึ้นไปนะที่พระเกศแก้วจุฬามณี(ถ้าพิมพ์ผิดขออภัยนะครับ) บางคนก็บอกเกาะชายจีวรหลวงพ่อพาขึ้นไป แต่ผมพอครูบอกปุ๊บ ตัดสินใจขึ้นไปก็เหมือนไปโผล่อยู่บนที่หนึ่ง มีเมฆแต่ไม่ได้เกาะใครมา มองไปข้างหน้าเห็นบันไดเหมือนวัดเฉียงๆขึ้นไป ยาวๆ และปลายทางจะมีเหมือนเจดีย์ ครูถามว่าตรงบันไดเป็นรูปอะไร ผมไม่เห็นครับแต่คนอื่นบอกเป็นรูปพยานาค บันไดทำด้วยอะไร ผมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็นบันได พอคิดว่าจะไปที่เจดีย์ก็ถึงเลย ยืนหน้าเจดีย์ ครูถามเห็นประตูไหม ผมก็เหมือนว่าจะเห็นนะแต่ลางๆ ประตูเปิดไหม ผมก็ไม่รู้ มีเทพท่านเฝ้าประตูอยู่เห็นไหม ผมก็ไม่เห็นอะ ทำไงดี จะถามครูบอกไม่ให้ถาม เลยคิดว่าชั่งมันเถอะ คนอื่นบอกประตูปิดบ้างครูก็บอกรอก่อนนะสมาทานศีลใหม่ก่อนศีลแสดงว่าศีลไม่บริสุทธิ แล้วครูก็บอกเข้าประตูไปถ้าประตูเปิดแล้ว ผมก็คิดว่าเข้าไปเลยเพราะผมไม่เห็นประตูเนาะ ทำไง แต่ก็เข้าไปได้นะครับ ตอนมองจากด้านนอกเหมือนเจดีย์ไม่ใหญ่ แต่พอเข้าไปข้างใน โอ้โห กว้างมากครับ แต่ก็ยังเป็นมืดๆไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่ ครูบอกมีเทพเยอะแยะ ผมก็ไม่ค่อยเห็น ช่วงนี้เวลาผมเห็นจะเห็นเหมือนกับว่าตาเราไปลอยอยู่ข้างบนเจดีย์แล้วมองลงมาดูยังไงยังงั้น เหมือนตัวเราไม่ได้อยู่บนนั้นแต่บางทีก็เหมือนตัวเราเองอยู่บนนั้นสลับไปมาครับแต่ผมก็ไม่ได้สนใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2015
  9. tuk187

    tuk187 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2011
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +1,068
    มารออ่านค่ะ อยากฝึกได้มั่งจังค่ะ ทุกวันนี้ก็มืดเหมือนเดิม ไม่ได้ไปฝึกที่ไหนเลย ฝึกจากหนังสือเหมือนกันค่ะ :'(
     
  10. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    สู้ๆครับ ทำไปเรื่อยๆ ต้องรอโอกาศนะครับ มันยังไม่ถึงเวลาของเรา:d
     
  11. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    ขอบคุณมากครับ สำหรับคำชี้แนะ
     
  12. choto

    choto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +330
    ลองหาเทปที่คุณอุวาลีพูดเกี่ยวกับมโนมยิทธิสิครับ

    คุณอุวาลีกว่าจะฝึกได้ก็นานมาก ลองหาในยูทูปดูครับ ทั้งตลกทั้งได้สาระการฝึกด้วย
    ส่วนการฝึก สำหรับผมเอง ผมเน้นการจับพระพุทธรูปที่เราชอบไปก่อน
    อย่างอยู่บ้านเราอาจจะไปเองไม่ได้ ก็ฝึกจับภาพพระพุทธรูปก่อน ให้จำติดตา
    ให้เป็นกสิณ พอไปฝึกมโนมยิทธิจะได้ไปง่ายขึ้น
     
  13. ann@namaste

    ann@namaste เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +134
    รออ่านด้วยคน
     
  14. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    กำลังใจแรงส์
     
  15. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    มาเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ...
    สมัยก่อนตอนฝึก ผมก็มืดแบบนี้เองครับ สงสัยก็มาก พยายามจะเห็นด้วยตา...
    โดยลืมไปว่า มโนมยิทธิ ท่านให้เห็นด้วยใจ...
    อยากจะให้เห็นชัดๆ เหมือนตาเห็น โดยลืมไปว่า มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่เห็นชัดสว่างไสว...บางครั้งมโนมยิทธิ เพียงสัมผัสตามความรู้สึกทางใจ ไม่เห็นภาพก็มี คิดว่าคงเคยได้ยินได้ฟังมาจากเทปหลวงพ่อที่เปิดให้ฟังตอนเย็นแล้วครับ...

    สมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ใครจะมาเป็นครูฝึกส่งเดชไม่ได้นะครับ...หลวงพ่อท่านดูอยู่ แล้วเวลาจะสอน ครูฝึกทุกคนจะเข้าสมาธิก่อน ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอให้คุมกำลังใจของคนที่มาฝึกทุกคนได้...
    ครูฝึกสมัยนั้น จะเห็นในสิ่งที่คุณเห็นได้...คุณไปไหน เห็นอะไร หรือไม่เห็นอะไร เห็นชัดหรือไม่ชัด มีอารมณ์ติดขัดตรงไหนเขารู้หมด...เขาจะเอามือมาแตะหัวเข่าเบาๆ แล้วบอกกับแต่ละคนที่ไปรู้ไปเห็นแต่ละที่ต่างๆกันครับ...

    อารมณ์ใจแต่ละคนละเอียดหยาบไม่เท่ากัน ไปได้ไม่พร้อมกัน เห็นได้ไม่เหมือนกันครับ มีวงละ7-10คน ครูฝึกต้องสามารถแยกอาทิสมานย์กาย ไปกับแต่ละคนได้หมด..นี่ครูฝึกสมัยนั้น เขาทำได้กันขนาดนั้น...พี่ชายผมไม่เห็นแต่รำคาญครับ คนอื่นเขาไปโน่นไปนี่ได้ ตัวเองไปไม่ได้ รำคาญคำถามเลยตอบไปว่า เห็นโน่นๆนี่ๆ ตามที่เคยอ่านจากหนังสือหลวงพ่อมาหลายรอบแล้ว...ตอบได้ครับ..แต่ครูฝึกสมัยนั้นก็รู้ครับว่า พี่ชายผมไปไม่ได้ แล้วโกหก...แกก็ไม่แนะนำพี่ชายผมต่อนะครับ หันไปแนะนำคนอื่นๆต่อไปจนหมดเวลา...

    เกือบ30ปีแล้วสินะครับ พี่ชายผมฝึกสมาธิอยู่สม่ำเสมอ ก็ยังไม่รู้ไม่เห็นตามวิชามโนมยิทธิเลยครับ...แต่แกก็ยังฝึกต่อไปนะครับ...เพราะพวกเรารู้กันแล้วว่า ความสำคัญของวิชาต่างๆในพระพุทธศาสนา ไม่ได้อยู่ที่การเห็นสิ่งเหล่านี้ แต่อยู่ที่การเห็นสิ่งชั่วในดวงใจ แล้วนำอุบายไป ตัดสังโยชน์ 3 ข้อต้น เป็นสำคัญ...

    มโนมยิทธิ ฝึกไม่ยากหรอกนะครับ... ให้คุณเอาอารมณ์ใจสบายๆ และผ่อนคลายร่างกาย เป็นตัวตั้งต้นก่อน...ไม่ต้องไปเพ่ง ไม่ต้องไปเกร็งครับ...ไอ้เรื่องว่าอย่าไปอยากรู้อยากเห็นนี่ ไม่ต้องมาพูดกันแล้วนะครับ...ถ้าไม่อยากรู้อยากเห็น จะเดินทางมาฝึกทำไมล่ะครับ ไกลออกปานฉะนั้น...แต่ว่าระหว่างที่กำลังฝึกนั้น ขอให้ระงับความอยากรู้อยากเห็น เป็นการชั่วคราวก่อน...พูดแบบนี้จะเข้าใจง่ายกว่า....
     
  16. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ใหนๆก็ผ่านการฝึกมาเหมือนกัน
    อันนี้เล่าสู่กันฟัง
    อารมณ์ที่ละเอียดแต่ละชั้นก็สัมผัสได้ในแต่ละภพภูมิเหมือนกัน
    หรือการเห็นเงินที่ซ่อนอยู่ เอกสารที่หาย เขาหยิบอะไรไป...
    มันก็ทั้งสนุกและรู้แล้วเก็บๆไปขำคนเดียว
    แบบนั้นก็มีแบบนี้ก็มี
    สุดท้าย มันก็เรื่องของเขา....ช่างเขา
    เราก็พัฒนาตัวเองดีกว่านะ
     
  17. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    ต่อไปครูบอกว่าจะไปกราบปู่พระอินทร์ ตัดสินใจปุ๊บ ก็ถึงเลยครับ แหม๋ ที่นี่ชัดกว่าที่ที่ผ่านมาครับมากพอสมควร เห็นเป็นเหมือนห้องโถงกว้างๆโล่งๆ มีอะไรสีขาวๆเยอะแยะเต็มเลย ตรงกลางข้างหน้าก็มีเหมือนโต๊ะและๆๆ ปู่พระอินทร์ก็อยู่ตรงนั้นครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองอยู่ไกลมากครับแต่มองเห็นชัดเลย ครูบอกให้ขอทางเข้าไป คิดปุ๊บก็เหมือนว่ามีทางขึ้นมา อะไรสักอย่างสีขาวที่เคยขวางทางก็แยกออกอยู่ 2 ข้างเป็นทางเดินเข้าไปครับ ครูบอกให้เข้าไปกราบแค่คิดก็ถึงแล้วครับ ข้างหน้าปู่พระอินทร์เลย ผมดูตัวเล็กมากเลยครับตอนนี้เห็นปู่ค่อนข้างชัดแต่ย่าไม่เห็นครับแต่รู้สึกว่ามีอยู่ข้างๆ ปู่นั่งข้างขวามือของผม ส่วนย่านั่งซ้ายครับ ปู่หย่อนขาข้างนึงลงมา น่าจะเป็นขาขวานะครับ ผมก็ก้มลงกราบ ตอนนี้พอเงยหน้าขึ้นครูให้มองดูตัวเองครับแต่ผมมองไปดูข้างๆก่อน สิ่งที่เห็นคือ สีขาวๆที่เห็นตอนแรกนั้นเป็นเทวดาครับ เทวดาที่นั่งอยู่ 2ข้างผมนี่ชัดมากครับ สีขาวค่อนข้างใสครับ ทีนี้พอมองดูตัวเองก็ทำให้ผมตกใจนิดๆคือ คนอื่นขาวหมดทำไมผมสีแดงครับ ตัวผมสีแดงใสครับ ดูตั้งหลายรอบก็ยังแดง แล้วครูก็พูดขึ้นว่า สงสัยอะไรก็อย่าเพิ่งถาม กราบลาปู่พระอินทร์แล้วต่อไปจะไปที่นิพพาน
     
  18. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    พอกราบเสร็จตัดใจว่าจะนิพพานเท่านั้นแหละครับ ตัวผมจากที่ร้อนอยู่แล้วก็ร้อนนนนมากกกก หัวจากที่ปวดมากอยู่แล้วก็ปวดมากกกกกกกครับ จนจะหมดสติแต่ก็พยายามประคองไว้ ขึ้นไปก็ไม่ชัดครับ เห็นเป็นอะไรสักอย่างเยอะๆเป็นหลังๆ แต่ก็ไม่ชัด เห็นพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่มาก แต่ไม่เห็นสี แปลกคือลักษณะเหมือนพระพุทธรูปจีนนะครับ ไม่ใช่เหมือนพระพุทธรูปตามบ้านเรา และก็ที่นี่ไม่ค่อยเห็นเพราะปวดหัวมาก ครูบอกให้นึกเนรมิตของขึ้นมา บอกว่าแต่ละคนจะได้คนละอย่างอยู่ที่ว่าจะได้อะไร แต่ผมเห็นคือ 1ดวงแก้วใสๆเป็นประกายครับ สว่างมาก 2. พวงมาลัยแก้วบนพาน 3. เทียนที่มีที่ครอบ ครูบอกให้นึกอาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ให้มาพร้อมกันแล้วนึกกราบเพราะเวลาไม่เยอะจะหมดแล้ว ผมก็นึกตามครับและก้มกราบถวายของที่เนรมิตได้ แปลกคือเสามารถกราบทุกองค์ได้พร้อมกัน จากนั้นก็ขอพรครับ ใครเรา และลงมาครับ
     
  19. Jsus Christ

    Jsus Christ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +82
    สิ่งที่ดำเนินอยู่นั้น ยังไม่เป็นธรรม จึงปวดกบาลสุดๆ ... นี่แหละ วิบากของแท้

    มันเกิดจากการปรุงแต่ง เนื่องจากผัสสะที่กล้าเกินควร ไปกระทบ บีบอัด เค้นจินตนาการออกมา
    (บางส่วนอาจจริง หรือ ไม่จริง ปะปน กันเละเทะ ด้วยจิตที่แยกสิ่งเป็นธรรม และ ไม่เป็นธรรม ไม่ออกนี่แหละ มันจึงกระทืบกันและกัน แหลกลานเลย )

    พระพุทธเจ้า ท่านบอกว่า ให้ถึง จตุตถฌานก๋อน จึงโน้มจิตไปหา มโนยิทธิ

    ทำตามท่าน ไม่ดีกว่า หรือ ... ไม่ปวดหัวด้วย ตัวเบาพริ้ว จิตเบาพริ้ว แล้วสิ่งที่ประสบนั้นจะเป็นธรรม ... ทุกชั่วขณะ หัวจะโปร่งโล่ง สบายทั้งกายและจิต

    หลายคนที่เราเห็นฝึก มโนยิทธิ แบบเอ๊กเซ๊กคลูทีฟ มักจบลงไม่สวย
    บางคน ระดับปริญโทจากอเมริกา ยี่สิบใบ ถึงขนาดเป็นนางฟ้าเดินตาลอย กู่ไม่กลับ ก็มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2015
  20. คุณกันฌามี

    คุณกันฌามี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +65
    แวะมาอ่าน ผมมองว่าการฝึกแบบนี้มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

    1.ไปบังคับจิตให้เพ่ง คุณเห็นนั้นหรือยัง คุณเห็นนั้นไหม หลวงปู่มาแล้วนะ ...บลา บลา บลา เมื่อคุณไม่เห็นก็อยากจะเห็นเลยบังคับจินตนาการออกมา การที่ อ.หลายๆท่านบอกให้ละทิ้งความอยากเสียก่อนก็เพราะจะได้ไม่เพ่งมากเกินไปนั้นแหละ ความอยากมันมีกันทุกคนแหละ

    2.การฝึกมโนยิทธิ เป็นการฝึกทางจิตควรพิจารณาให้มากๆ ใช่จิตจริงไปได้ทุกหนแห่งจริงไหมแค่ให้เช็คจากที่เรานั่งมันถูกสัก80+เปอเซ็นหรือยัง ไม่ใช่แค่นั้นคือจินตนาการ ระวังจะหลงจนเป็นบ้า

    3.อยากไปนิพพานแต่มานั่งอย่างงี้คงเห็นทางอยู่หรอก

    ขอให้โชคดีกับการฝึกครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...