อาถรรพ์ทางรถไฟสายมรณะ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย F-5E, 18 มีนาคม 2010.

  1. F-5E

    F-5E เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +964
    เรื่องนี้เป้นประสบการณ์ของเพื่อนสมาชิก ในบอร์ดพลังจิต เล่าให้ฟัง ครับ
    พอดีเขานิมนต์พระคุณเจ้า3รูป ไป ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ วิญญาณเชลยศึกที่มาสร้างทางรถไฟให้ทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามดลกครั้งที่สอง
    ได้มีการนำเอา อาหาร เครื่องเซ่น ไปวางไว้ แล้ว พระคุณเจ้าก้ทพิธีอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณที่เสียชีวิตที่นั่น พระคุณเจ้ารูปหนุ่ง เมื่อกลับถึงวัด
    ท่านได้นั่งภาวนา ตาม ปกติของทุกวัน ท่านได้ พิจรณาทราบว่า ที่ช่องเขาขาด ที่ไปวางอาหารนั้น มีคน(วิญญาณ)ตัวผอมโซเสื้อผ้าแทบไม่มีปิดกาย
    เดิน นั่ง ยืนพิง ช่องเขาที่ทางรถไฟนั้นเอง และบางคนก็นั่งรุมล้อมกัน กินอาหารที่ทำไปวาง เพื่อนผมเล่าว่า ท่านเห็น วิญญาณ ที่อยู่ที่นั่งเยอะแยะมากมาย แทบจะเดินชนกัน

    นี้เป้นเพียงเรื่องราวบางส่วนบางตอนของเส้นทางสายมรณะนี้ ส่วนอาถรรพ์ของรถไฟสถานีและเส้นทางสายมรณะนี้ ยาวมากเป็นหางว่าว จะนำมาเล่า ในตอนต่อไปครับ

    ขอบคุณ ภาพ จากคุณ binpardet
    ***ขอให้เชลยศึกที่เสียชีวิตทุกท่านพักผ่อนอย่างสงบ***(สุสานกาญจนบุรี)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • rujmb.jpg
      rujmb.jpg
      ขนาดไฟล์:
      158.4 KB
      เปิดดู:
      6,438
  2. F-5E

    F-5E เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +964
    [​IMG]
    ช่องเขาขาดเป็นทางแคบๆ ตัดผ่านเนินเขา มูลดิน ทางรถไฟ และสะพาน ปัจจุบันได้กลายเป็นโครงการพิพิธภัณฑสถานช่องเขาขาด เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่ต้องทุกข์ทรมานจากการก่อสร้างเส้นทางสายทาสนี้ โดย เจ จี ทอม มอรีส ชาวออสเตรเลีย หนึ่งในเชลยศึกที่อยู่ร่วมชะตากรรมนรกบนดินครั้งนั้น เป็นคนริเริ่มพัฒนาและบำรุงรักษาไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ถึงความโหดร้ายที่เชลยศึกได้รับระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

     
  3. F-5E

    F-5E เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +964
    [​IMG]

    ภาพการทำงานของเชลยศึกทหารพันธมิตรกำลังทำงานสร้างทางรถไฟที่ช่องเขาขาด
     
  4. ดาวจรัสแสง

    ดาวจรัสแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ทำไมคุณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->F-5E<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3089442", true); </SCRIPT>
    เล่านิดเดียวคะ? อยากฟังเยอะๆ แห่ะๆ

    ขอดวงวิญญาณเชลยศึกที่เสียชีวิตเหล่านั้น ได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆนะคะ สาธุ

    ขอบพระคุณที่เล่าเป็นวิทยาทานและอนุโมทนาสาธุค่ะ แต่เรื่องหน้าขอยาวๆนะคะ
     
  5. วิจิตร

    วิจิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +514
    ขอขอบคุณที่เล่าให้พวกเรารุ่นหลังได้รับรู้ถึงความลำบากของพวกที่เป็นเชลย ขอให้ดวงวิญญานของพวกเขาไปสู่สุขคติด้วยเทอญ สาธุ
     
  6. pechklang

    pechklang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    400
    ค่าพลัง:
    +829
    ขอบคุณในเนื้อหา และภาพประกอบ ที่ดีเยี่ยม
    อ่านและเห็นภาพแล้ว ให้นึกสงสารเหล่าเชลยศึก
    เป็นอย่างมาก โดยขออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับ
    เชลยศึกที่เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วยครับ.....สาธุ


    สาธุ
     
  7. พญาไท010

    พญาไท010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +281
    ขอเสริมข้อมูลนิดนึงนะค่ะ ช่องเขาขาด กาญจนบุรี

    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารลูกพระอาทิตย์หรือญี่ปุ่น ซึ่งเข้าเป็นพันธมิตรกับเยอรมัน ซึ่งนำโดยฮิตเลอร์ ได้ฟาดหัวฟาดหางในประเทศต่างๆ ในย่านนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งก็ได้ถล่มเอาประเทศในย่านนี้ยับไปไม่เป็นท่า นอกจากนี้ ยังได้สร้างความทุกข์อยากให้กับประชาชนอย่างแสนสาหัส เช่น การบังคับสตรีมาเป็นนางบำเรอให้กับทหารของตน ส่วนผู้ชายก็ถูกบังคับใช้แรงงานอย่างทารุณ

    สถานอนุสรณ์ที่แสดงถึงความโหดเหี้ยมของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศไทยคือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ในจังหวัดกาญจนบุรี และมีอีกสถานที่หนึ่งที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ ช่องเขาขาด ซึ่งก็อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีเช่นกัน

    ช่องเขาขาดเป็นเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ที่ญี่ปุ่นต้องการสร้างผ่าน และดำเนินการสร้างโดยเชลยศึกชาวออสเตรเลีย และเชลยศึกฝ่ายพันธมิตร เล่ากันว่าช่องทางที่เรียกว่าช่องเขาขาดนี้ ทหารญี่ปุ่นใช้ทหารเชลยเป็นทาสในการก่อสร้างทาง ชีวิตทหารเหล่านั้นล้มตายกันเป็นเบือ เพราะทำงานหนักและโรคภัยไข้เจ็บที่ชุกชุม โดยเฉพาะไข้ป่า

    ช่องเขาขาดเป็นทางแคบๆ ที่ตัดผ่านเนินเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ และสะพานซึ่งมีอยู่มากมาย ต่อสถานที่เหล่านี้กลายมาเป็นโครงการพิพิธภัณฑสถานช่องเขาขาด เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่ต้องทุกข์ทรมานเหล่านั้น

    การตัดทางผ่านภูเขา มูลดิน ขอบทางรถไฟ และสะพานมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทหารญี่ปุ่น ในการลำเลียงทหารและเสบียงไปช่วยทหารญี่ปุ่นในประเทศพม่า ซึ่งขณะนั้นทหารญี่ปุ่นสามารถตั้งมั่นอยู่ในประเทศพม่าแล้ว

    การก่อสร้างช่องเขาขาดเริ่มด้วยแรงงานของเชลยศึกชาวออสเตรเลียจำนวน 400 คน และญี่ปุ่นได้เพิ่มเชลยศึกขึ้นอีกเพื่อให้การก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด ส่วนทหารเชลยศึกที่เพิ่มเข้ามาส่วนมากยังเป็นทหารชาวออสเตรเลีย และทหารจากสหราชอาณาจักร

    มีบันทึกว่า บรรดาเหล่าเชลยศึกจะใช้ค้อนหนัก 8 ปอนด์ สว่าน ระเบิด เสียม พลั่ว จอบ และตะกร้าหวายอันเล็กๆ เพื่อขนดินออกไปเททิ้งข้างนอกทาง และพวกเขาทำงานอย่างทรมาน บางคนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาในที่ทำงาน

    ในขณะที่ก่อสร้างเส้นทางสายนี้นั้น เป็นช่วงมรสุมที่รุนแรง และการก่อสร้างช่องเขาขาดยังต้องเผชิญกับความกดดันอย่างสูงจากวิศวกรชาวญี่ปุ่น และผู้คุมชาวเกาหลี ที่ได้บังคับให้พวกเขาทำงานวันละ 12-18 ชั่วโมง นับจากเดือนมิถุนายน 2486 จนเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน

    ระหว่างการสร้างสะพานรถไฟให้เสร็จทันกำหนดนั้น เหล่าทหารเชลยศึกฝ่ายพันธมิตรขนานนามช่องเขาขาดว่า ช่องนรกŽ ด้วยเหตุที่ผู้คุมชาวญี่ปุ่นบังคับให้นักโทษทำงานในเวลากลางคืน ใช้แสงสว่างจากคบไฟ ซึ่งให้ความรู้สึกว่าที่นี่คือขุมนรกบนโลกจริงๆ

    ในช่วงที่เร่งสร้างทางรถไฟให้เสร็จตามกำหนดเรียกว่าช่วง สปิโต หรือตอนเร่งรัด
    ช่องเขาขาดยังเป็นอนุสรณ์สถานที่ทหารญี่ปุ่นกระทำไว้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยากจะมีผู้ลืมเลือน
     
  8. aumking

    aumking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +814
    น่ากลัวอ่ะครับ
     
  9. sittitada

    sittitada สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5
    ไม่เห็นแก่ตัวก็จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขอให้คนไทยทุกคนดูใว้เป็นตัวอย่างเตือนสติเลิกเห็นแก่ตัวจะใด้ไม่ต้องมีเหตุการณ์เว่นนื้อีก
     
  10. chachamnan

    chachamnan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +344
    อยากฟังต่อครับขอขอบคุณที่นำเรื่องราวเหล่านี้มาเล่าให้ฟังครับ
     
  11. เหมยหลิน

    เหมยหลิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +220
    น่าสงสารค่ะ
     
  12. F-5E

    F-5E เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +964
    ขอโทษที่ทำให้คอย ครับ พอดี หนังสือ ผมไม่ได้เอาติดมาด้วย กลัวว่าข้อมูลจะไม่ตรงกัน ขอเล่าดดยคร่าวๆ เรียกน้ำย่อยไปก่อน นะครับ
    คือว่าเชลยศึก ส่วนใหญ่นี้เป้น ทหาร ชาว อังกฤษ ดัตช์ อาจจะมีอเมริกัน บ้างเล็กน้อย
    พวกเขาถูกจับเป็นเชลย เนื่องจากการ ได้ชัยชนะ ของญี่ปุ่นในการ ยึด มาลายู ได้
    โดย ทหารอังกฤษนั้น ถูกล้องและยอมจำนน ใน สิงค์โปร์ โดยญี่ปุ่นได้ยึดเอาเป็นเมืองท่า แล้วเปลี่ยนชื่อเกาะ สิงโปร์เป็น เมือง โชนัน ได้มีการกวาดต้อน พลเมือง ทหาร หลเรือน ที่มีสสัญชาติยุโรป อเมริกัน มา กักไว้ในค่ายเชลย จากนั้น ก็ เตรียมขบวนรถไฟ เพื่อที่จะ ขน เชลย ขึ้นมายังมาเลเซีย เพื่อ เข้ามายังประเทศไทย เพื่อาร้างทางรถไฟ เริ่งต้นสร้างที่ราชบุรี แต่ด่อนที่จะถึง ได้เดินทางผ่านเส้นทางรถไฟสายใต้ของไทย

    ไม่ใช่ที่อื่นที่ใดครับ ทุกคนรู้จักกันดี ในชื่อสถานีโคกโพธิ์ ปัตตานี ตั้งอยู่หน้าวัดช้างไห้ ตรงเจดีย์หลวงปู่ทวดพอดี ทหารญี่ปุ่นได้ขับรถไฟมาถึงหน้าบริเวณ หน้าสถูป หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ จู่ๆ รถจักรก็ เกิด หยุด เหมือน ถูกห้ามล้อ นายช่างญี่ปุ่นก็ได้ ตรวจระบบห้ามล้อแล้ว ก็ยังไม่ปรากฎว่า มีแรผิดปกติ จึงได้เริ่งความเร็วเพื่อ เดินรถ แต่ รถไม่ยอมเคลื่อนไปข้างหน้า นายช่างและทหารญี่ปุ่นต้องเหงื่อกาฬไหล เพราะ ล้อเหล็กของหัวรถจักนั้น หมุนฟรี บนรางครับ นายช่างจึง ทำการ นำทรายมาโรย บริเวณรางรถไฟ
    เพราะคิดว่า น้ำมันหล่อลื่น อาจจะรั่วใส่รางทำให้รางลื่น ประกอบกับขบวนรถมีน้ำหนักมาก เนื่องขากชักจูงมาหลายคันรถ ตราบนั้นก็ยังไม่ขยับ เขยื้อน นายช่างญี่ปุ่นก็พยายาม เพิ่งแรงดันไอน้ำ ให้เครื่องยนค์ เร่งเต้มที่ ล้อก็หมุนฟรี จนเป็น สเก็ดไฟ ฝ่ายญี่ปุ่น พสกันคิดไม่ตกกับปัญหา จนต้อง ถอย ขบวยรถน้นไป แล้ว เร่งความเร็ว ผ่านไป แต่พอกลับมา ที่จุดเดิม บริเวณ หน้าสถูป ก็พบกับเหตุการณ์เช่นเดิม คือ รถ เบรค หยุดชะงัก ที่ หน้าสถูป หลวงปู่ทาด นั่นเอง ตราวนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นได้ถอยรถ ไปด้านหลังแล้ว ปลก พ่วง ตู้ โดยสารออก แล้ววิ่งมาแต่หัวรถจักร เปล่า ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์เดิม คือ รถไม่เขยื้อน

    ทั้งนี้มีการบันทุกไว้โดยนายอนันต์ คณานุรักษ์ ว่าหลวงพ่อหยียบน้ำทะเลจืดโกรธทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
    ทดลองเเล่นมาเเละถอยหลังกลับอยู่ตั้งเเต่ 15.00 นาฬิกา จนกระทั่งใกล้จะค่ำก็ผ่านไปไม่ได้ ประชาชนชาวบ้านใกล้เคียงชวนกันมายืนดูความัศจรรย์ครั้งนี้อย่างล้นหลาม

    ฝ่ายท่รานอาจสียงเครื่องจักรรถไฟดังสั่นสะเทือนไปมาอยู่หน้าวัด เเต่ธุระไม่ใช่ท่านจึงไม่ได้สนใจออกจากกุฎิมาดูอย่างผู้อื่น เเต่เมื่อเวลาใกล้จะค่ำอยู่เเล้วรถไฟขบวนนี้ก็ยังคงวิ่งไปมาอยู่ที่เดิมท่านนึกสงสัยจึงคิดว่าทหารญี่ปุ่นมาทำอะไรอยู่หน้าวัด นจึงลงจากกุฎิไปดูกับเขาบ้างเมื่อปรากฎเเก่สายตาของท่านว่าหัวรถจักรติดอยู่เพียงสถูปทุกๆ ครั้งที่ขณะกลับไปมา ท่านจึงนึกว่น่าจะเป็นอภินิหารของท่านหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเล่นงานขบวนรถไฟนี้เสียเเล้ว ท่านอราจารย์จีงเดินเข้าสถูปเเล้วนึกในใจว่า ถ้าหากหลวงพ่อทวดลงโทษยึดขบวนรถไฟนี้เเล้วก็ขอให้ยกโทษ ปล่อยให้เขาไปทำงานตามหน้าที่ของเขาเถิด เขาเป็นพวกนอกศาสนาไม่รู้จักอะไร อย่าถือโทษเขาเลยเเละทันทีนั้นรถไฟก็ค่อย เคลื่อนจากที่เดิมวิ่งไปได้เป็นปกติ เเละในคืนวันนั้นท่านอาจารย์นอนพอเคลิ้มใกล้จะหลับ ก็ได้ยินเสียงพูดที่ช้างหูเป็นเสียงคนเเก่พูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า

    --อ้ายญี่ปุ่นมาดูถูกพวกเรา(ชาติไทย) มันข่มเหงเอารถไฟเราไปใช้ดีเเต่มีลูกๆอยู่บนรถสองตัว มิฉะนั้นกูจะผลักให้ตกจากรางกูไม่ยอมให้มันเอาไปใช้เป็นอันขาด

    ท่านอาจารย์ทิมไม่ทราบว่าอะไรที่ท่านหลวงพ่อทวดเรียกว่าลูก 2 ตัวอยู่บนรถ ต่อมาประมาณ 7-8 วัด ได้มีชายสองคนมาหาท่านที่วัดเเละขอถวายตัวเป็นศิษย์ เเละเล่าให้ท่านอาจารย์ทิมฟังว่า เขาสองคนเป็นพนักงานหัวรถจักรเเละวันที่ขบวนรถไฟติดอยู่หน้าวัดนั้นเขาสองคนเป็ฯคนไทยอยู่บนรถขบวนนั้น นอกจากนั้นเป็นทหารญี่ปุ่นทั้งหมด จึงได้ทราบว่าลูกสองตัวก็คือคนไทยสองคนนี่เอง


    ครั้งที่ 2 ต่อจากขบวนรถไฟญี่ปุ่นถูกหลวงพ่อทวด ยึดครั้งทีประมาณเดือนเศษวันหนั่งเวลาเข้ามีพวกเด็กๆ เล่นอยู่หน้าวัดเเละใกล้ๆ กับสถูปนั้นได้พูดเล่ากันถึงหลวงพ่อทวด ยึดขบวนรถไฟคราวเเรกมีเด็กคนหนึ่งพูดท้ากันว่าวันนนี้หลวงทวด ยึดรถไฟหรือไม่ยึด อีกฝ่ายหนึ่งว่าไม่ยึดอีกฝ่ายที่ว่ายึดก็ได้เก็บเอาก้นเทียนเเละธูปที่เหลืออยู่หน้าสถูปจุดไฟขึ้นมาเเละอาราธนาขอให้หลวงพ่อทวดยึดขบวนรถไฟซึ่งกำลังวิ่งมาวันนั้นเวลาเช้ามีขบวนรถไฟเช้าระหว่างยะลา-หาดใหญ่ พอหัวรถจักรเคียงขนานกับสถูปดิ์สิทธิ์ก็หยุดนิ่งอยู่จะเคลื่อนที่ต่อไปก็ไม่ได้อย่างครั้งเเรก รถทั้งยบวนติดอยู่ประมาณ30นาที จึงเคลื่อนที่ไปได้ตามปกติ

    อันนี้เป้น สถานีแรก ที่ เริ่มเรื่องราวของทางรถไฟสายมรณะ

    ส่วนสถานีอื่นๆ ติดตามอ่านได้ ในโอกาสต่อไปครับ

    (รู้สึกว่าเปิดหลายเว็บ มาหลายเว็บมาก๊อบข้อความจากที่นี่ไปผมไม่ได้หวงครับแต่ผมเอง กลัวว่าข้อมูลผมจะผิดเพี้ยนไป หากว่า ข้อมูลผิดถูกอย่างไร ผมต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ สำหรับท่านผู้อ่านและท่านผู้นำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อ )
     
  13. F-5E

    F-5E เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +964
    ขอบคุณ คุณ พญาไท010 ที่ช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
     
  14. พลูโตจัง

    พลูโตจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    358
    ค่าพลัง:
    +554
    ขอบคุณเรื่องดีๆ ที่มาเล่าค่ะ
     
  15. ฮกหลงขงเบ้ง

    ฮกหลงขงเบ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,143
    ผีแบบนี้น่าสงสารครับ รีบๆไปผุดไปเกิดเถอะ อนุโมทนากับเรื่องดีๆที่มาเล่าสู่กันฟังครับ
     
  16. 65lovetv

    65lovetv สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    F-5E อยากทราบเรื่องราวอีกครับ ติดต่อที่ Email: lokgomearth@gmail.com
     
  17. camrymax

    camrymax นายองครักษ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,257
    เคยมีสมาชิกท่านหนึ่ง มาเล่าเหตุการณ์ซื้อที่ ในรายการ The shock.
    กับการค้นพบกระดูกชาวต่างชาติมากมาย บริเวรใกล้ๆสถานที่แห่งนี้ด้วยครับ
    ซึ้งเขาต้องการ ให้ บุคคลที่เล่าเรื่องมาช่วยปลดปล่อยเขาจากสถานที่แห่งนี้
    โดยจากการเล่าเรื่องของสมาชิก The shock ได้มีตอนหนึ่งเล่าว่า เฉลยศึก ส่วนใหญ่
    มากมายต่างอาชีพ บ้าง หมอ ,ทหาร โดนฝั่งทั้งเป็นครับ
     
  18. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เรามัวแต่มองภาพลักษณ์ความลำบากจากฝ่ายฝรั่ง
    ถ้ามองในมุมมองคนไทย
    ญี่ปุ่นก็ได้รับกรรมที่ทำไว้เยอะเหมือนกัน
    ญี่ปุ่นแพ้ในการโจมตีอินเดีย แถมโดนตีร่นจากพม่า ถอยมาตั้งมั่นในประเทศไทยที่อำเภอ ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน มาแบบสภาพไม่เหลืออะไรดีเลย มีแต่คนเจ็บ คนป่วย ไม่ต่างกับเชลยศึกในเมืองกาญจน์เลย แต่... คนขุนยวมยังพอมีน้ำใจ ช่วยเหลือคนป่วย คนเจ็บบ้าง
    จนญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม จึงได้ถยอยกลับ เส้นทางหลักที่กลับ คือ อ.ขุนยวม -เมืองแม่ฮ่องสอน-ปาย-แม่แตง -เชียงใหม่ แล้วนั่งรถไฟลงกทม. นายทหารใหญ่ก็คว้านท้องตนเอง ที่มอบตัวกับอังกฤษก็นั่งเครื่องไปพม่า ตลอดเส้นทางขุนยวม-เชียงใหม่ ทหารญี่ปุ่นที่ป่วยตายกันเป็นเบื่อ ตามรายทาง เพราะบ้างก็นั่งรถกลับ แต่ส่วนใหญ่เดิน แรกๆก็เผา เผาไม่ไหวตายเยอะก็ฝัง เรียกว่าฝั่งกันตามหมู่บ้านรายทางตลอด ตายกันหลายพันคนเลย ตายเพราะไข้ป่า มาลาเรีย บาดแผลสมัยรบในฝั่งพม่า นี่ยังดีนะที่ญี่ปุ่นกลับทางแม่ฮ่องสอน ถ้ากลับทางตาก หรือเมืองกาญจน์ คนไทยคงจะไปแอบดักยิงแก้แค้นกันเป็นว่าเล่น นี่แหละบาปกรรม ตอนญี่ปุ่นแพ้และเข้ามาในไทย สภาพไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนตอนที่บุกพม่าเลย เหมือนคนที่สิ้นหวัง หมดแรง และหมดกำลัง จริงๆเป็นช่วงเวลาที่น่าจะกระทืบที่สุดเพราะสิ่งที่เคยทำมา แต่คนแม่ฮ่องสอนกลับสงสารและดีเกินกว่าจะทำลง กลายเป็นคอยดูแล คอยช่วย หลายคนรอดมาได้เพราะเหตุนี้
     
  19. Mali Loi

    Mali Loi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +1,218
    เพิ่งทราบว่า ตอนญื่ปุ่นแพ้สงคราม แล้วต้องผ่านเข้าทาง จ.แม่ฮ่องสอน ปาย แม่แตง
    และเชืยงใหม่ ขอขอบคุณในข้อมูลที่เล่ามาค่ะ
     
  20. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เส้นทางหลักครับ แต่ก็มีส่วนหนึ่ง เดินทางจากพม่าเข้าด่านหัวยต้นนุ่นขุนยวม- แม่แจ่ม-เชียงใหม่
    ส่วนกลุ่มย่อยก็ ไปขุนยวม-แม่สเรียง เพื่อมอบตัว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทางเสนารักษ์ซึ่งทางอังกฤษและรัฐบาลไทย คอยปลดอาวุธอยู่

    สมัยก่อนป่าทึบกว่าสมัยนี้ เส้นทางจากแม่แตง(แม่มาลัย) - ปาย - ปางมะผ้า -แม่ฮ่องสอน - ขุนยวมนั้น เป็นเส้นทางที่ทหารญี่ปุ่นเป็นคนทำนะครับ เดิมไม่มีเส้นทางเส้นนี้ สมัยก่อนเป็นแค่ทางคนเดิน หรือทางเกวียน ญี่ปุ่นมาสร้างทางเพื่อส่งกำลังบำรุง กล่าวกันว่าตอนที่ญี่ปุ่นถอยทัพมาที่ไทย ญี่ปุ่นก็รู้นิสัยคนไทยไม่ไว้ใจไทยเพราะไทยจะเปลี่ยนไปเข้ากับฝ่ายสัมพันธมิตร เวลาตั้งปืนกล จึงตั้งหันหน้าเข้าทางโรงพักของไทยไว้ก่อนเลย แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนขุนยวม(ซึ่งสมัยนั้นส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายไต หรือไทยใหญ่) กลับคอยช่วยเหลือ ดูแลคนญี่ปุ่นที่ลำบาก บาดเจ็บ จนความสัมพันธ์ของคนที่นี่กลับเป็นไปในทางเกื้อกูลกัน ประกอบกับญี่ปุ่นสมัยนั้นไม่ได้บ้าอำนาจเหมือนกับสมัยบุกพม่า ญี่ปุ่นรับรู้ความจริง รับรู้ความพ่ายแพ้ ด้วยพื้นเพนิสัยคนญี่ปุ่นจริงๆ ไม่ได้โหดร้ายแบบที่เราเห็น แต่เค้าถูกปลูกฝั้งให้ยโสโอหัง คิดว่าตนเองดีกว่าชาติอื่น ถึงดูถูกและเหยียดหยามเหมือนชาติอื่นไม่ใช่คน แต่พอแพ้มาบ้างก็ตาสว่างว่าตัวเองก็ไม่ได้เก่งกว่าชาติอื่นเท่าไหร่เลย
    ข่าวจากปากชาวบ้านแถวนั้น เค้าบอกว่าตอนญี่ปุ่นถอยทัพมานั้น ช่วงระยะเวลาเพียง 7 เดือนที่อยู่ในแม่ฮ่องสอน ทหารญี่ปุ่นตายไปทุกวัน รวมๆแล้วตายไปเกือบ 7,000 คน หรือ มากกว่านั้น (แต่เป็นการตายจากการบาดเจ็บและโรคภัยไม่มีการฆ่ากันตาย ยกเว้น ฆ่าตัวตาย แล้วที่เมืองกาญจ์เชลยศึกตายกันกี่คน) เพราะตามรายทาง ก็ฝั่งกันเรื่อยๆ พวกที่หลงทางอีก พวกที่ตายในฝั่งเชียงใหม่อีก ที่แม่แตงเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา พบศพทหารญี่ปุ่นที่ตายหลงเหลืออยู่อีก 3 ศพ ซึ่งอาจจะหลบไปฆ่าตัวตาย หรือไม่งั้น คงจะหลงทาง เพราะตามหมู่บ้านมีหลุมศพที่ฝั่งเกือบทุกหมู่บ้าน ที่แม่แตงพื้นที่ร.ร.แม่แตงเดิมก็คือที่ทิ้งศพทหารญี่ปุ่น ที่ปายก็เช่นกัน ที่แม่ฮ่องสอนอีก แต่ทีขุนยวมเยอะที่สุด

    สถาบันไทใหญ่ศึกษา วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน www.taiyai.org
     

แชร์หน้านี้

Loading...