ช่วยสอนเปิดจักระ ด้วยครับ

เค้าบอกถ้าคนชอบพิซซ่ามากๆ เค้าจะชอบกินพิซซ่า เอาพิซซ่ามาประดับตัว แต่ไปซื้อพิซซ่าบางตลาดแม่ค้าบอกว่านี้แหละคือพิซซ่า แต่เรารู้ว่ามันไม่ใช่มันคือขนมเครปญีปุ่น พิซซ่ามันต้องใส่ไสกรอก ใส่แฮม เนื้อแป้งฟูๆซิ

ผมเอามาเล่าให้ฟัง rabbit_run_away

 

คนโบราณ นานกาลมา ยุคลุงกระต่ายเกิดรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ และป้าจารุ
เฃื่อว่าลาพิซูลี มีผลกระตุ้นจักระ เปิดตาที่สาม

(ป้าทดสอบแล้วว่าจริง)

ทุกสิ่งล้วนสัมพันธ์ ข้างขึ้น ข้างแรม ยามเช้า ยามราตรี น่ะจ๊ะ มั้งนะ

ป.ล.ป้าจารุก็ชอบใส่ มีกำไลหินลาพิซูลีกับเค้าเหมือนกัน น่าจะแท้นะ

 

เขียน ๙.๔๘

นี่เจ๊มนุษย์ป้า จะแก่ก็แก่ไปคนเดียวเหอะน่า ๕๕๕ เรายังไม่เป็นลุงนะ ขอบอก
ถึงอายุจะแยะแล้ว แต่ก็ยังเหลืออายุอีกตั้งแยะกว่าอีก ขอบอก หึหึหึ

ยุคโน้น อาจจะใช้ไอเท็มช่วย ก็ทำตามกระแสน่ะ
ยุคไหน เค้าฮิตอะไร เราก็ไหลตามสังคมรอบตัวไปน่ะ เนอะ
ตามประสาผู้เชี่ยวในการปรับตัว สงสัยเคยเกิดเป็นจิ้งจกด้วยอ่ะ หึหึหึ

แต่มายุคนี้ เวอร์ชั่นล่าสุด ไม่ต้องใช้ตัวช่วยแล้วครับ ๕๕๕
ใช้พลังจิตและปราณเป็นหลัก ก็เหลือๆ แล้วครับ เอาอยู่
ตัวช่วยภายนอก ก็ไม่ค่อยขอให้ช่วยด้วยอ่ะนะ เนอะ

การเปิดตาที่สาม เราใช้หลักการของโยคี
ด้วยปราณยามและโยคะอาสนะ เป็นพื้นฐานน่ะนะ
แล้วปิดงาน ด้วยการเพ่งกลางหน้าผาก ผ่านกระจกเงา

เพ่งมันทุกวัน วันละหลายชั่วโมง เพ่งจนมีแผลเป็นโผล่ออกมาเลย ขอบอก
มีครั้งนึง ออกมาเป็นวงกลม และมีจุด อยู่รอบๆ ได้ระยะและสัดส่วนงดงาม
จนปัจจุบันนี้ มันเหมือนจะนูนๆ ออกมาหน่อยนึงอ่ะ ตรงกลางหน้าผาก
คล้ายกะคนในดาวอะไรน๊า ในเรื่องสถาบันสถาปนาน่ะ ที่มีพลังจิตกันทั้งดาว
เค้าพัฒนากัน จนมีชิ้นส่วนสร้างพลังจิต งอกออกมาจากหลังหูเลยอ่ะ เจ๋งมากเลย

หลายปีก่อนอ่านเจอน่ะ ยังเคยคิดเลย ว่า แหม..ถ้าเรามีแบบนี้บ้าง ก็น่าจะดีนะ เนอะ หึหึหึ


กระต่ายป่า แห่งสุริยะจักรวาล / ชาวสถาบันบันสถาปนา แห่งที่สอง
.

 

ขอบคุณครับ

 

ป้าจารุและคุณกระต่ายป่าพูดถูกต้องแล้วคับคุณเจ้าของกระทู้ ส่วนคอร์สต่างๆและเอฟเฟคชั่นต่างๆต้องถามลุงกระต่ายป่านะ
คุณเจ้าของกระทู้อาจารย์จะบอกว่ามิตรหมายที่รับรู้ว่าตาที่สามเปิดแล้วละคือจะสามารถรู้สึกรับรู้ถึงวิญญานต่างๆเริ่มเห็นเงาๆต่างๆปรับมาเป็นรูปคนและธรรมต่างๆจะผุดขึ้นมาเลยแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติก็จะเกิดเกิดรู้บางสิ่งบางอย่างหรือเวลามีปัญหาก็มีสติหรือมีทางแก้ไขแบบนี้ในที่สุดตาที่สามก็เปิดออกและต้องมีสติอยู่ด้วยเพราะถ้าเห็นวิญญานต่างๆภพภูมิต่างๆแล้วยิ่งไปกว่านั้นถ้าเห็นพญานาคในภพภูมิเว้งว้างในบางถิ่นอย่ากลัวพญานาคเป็นสัตว์ทิพย์มนุษย์ก็ได้แต่ว่าพญานาคมีตัวมีตนมีอยู่ในแหล่งน้ำจับต้องสัมผัสได้ที่แท้จริงมนุษย์คิดผิดเพราะที่พระสงฆ์ระดับสูงๆระดับพระอริยะหรืออรหันต์ในจีนจะเรียกนักพรตหรือเทพเซียนเทพเซียนมีหลายแบบมากๆมีทั้งคนที่เป็นมนุษย์และวิญญานหรือผู้มีความรู้ชำชองวิชาต่างๆทางจีนจะเรียกเทพเซียนหรือเซียนเซียนที่ท่านมีญานท่านเห็นด้วยทิพย์จักษุไม่ใช่จับต้องเป็นตัวเป็นๆและยิ่งกว่านั้นถ้าไปเห็นพญานาคที่มีหลายๆเศียรแล้วท่านเจ้าของกระทู้อาจจะเป็นบ้าหรือกลัวไปได้เพราะเหตุนี้อาจารย์จึงให้ไปคิดเป็นปริศนาแต่ในที่สุดป้าจารุก็ได้บอกและลุงกระต่ายก็ได้บอกเฮ้ย.......เจ้าของกระทู้ตั้งสติให้ดีหากเห็นแล้วติดอาวุธคือสติด้วยละ อาจารย์ละเหนื่อยใจ ท่านเจ้าของกระทู้หากเห็นแล้วต้องหาอาจารย์หรือหาอาจารย์ที่สอนสติให้ดีอาวุธคือสติไม่หลงไหลฤทธิ์เดชหรือมิติทิพย์เป็นอันพออันที่จริงพระพุทธเจ้าเรานั้นสอนแค่ให้มีสติกับการมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันมหายานจะเน้นโพธิสัตว์มากกว่าพระอรหันต์เพราะว่าพระโพธิสัตว์มีเมตากรุณาอันใหญ่หลวงเพราะต้องช่วยเหลือภพภูมิหรือไม่ก็อาจจะช่วยคนในมนุษย์ภูมิเพราะฉะนั้นพระโพธิสัตว์ท่านจึงมีความสำคัญมากๆในมหายานแต่ทางพุทธเถรวาทท่านเน้นสำเร็จอรหันต์เพราะไม่อยากเกิดอีก มหายานอยากละสังขารเป็นพระโพธิสัตว์ เถรวาทอยากเป็นพระอรหันต์ไม่อยากเกิด เต๋าเน้นชีวิตยืดยาวเป็นเซียนเซียนจนกระทั่งบรรลุคุณธรรมสูงสุดคือเป็นวิญญานไม่มีเกิดดับอีก นี้แหละระดับสูงของสิ่งต่างๆแต่เรามีที่เดียวที่สำคัญคือพุทธอันเดียวกัน นะอย่าลืมละป้าจารุและลุงกระต่ายได้บอกไปแล้วลุงกระต่ายและป้าจารุต้องบอกเจ้าของกระทู้ถึงวิธีสร้างสติด้วยนะไม่งันจะหลงและจะเป็นบ้าได้

สิ่งที่อาจารย์บอกและสือไปนั้นก็คือ อาจารย์ใช้หลักการการดูดซับพลังงานเพราะฉะนั้นอาจารย์ถึงต้องใส่เสื้อสีน้ำเงินเข้มและมีลาพีสลาซูลีติดตัวหรือไม่ก็ต้องมีสีน้ำเงินเข้มติดตัวอาจจะเป็นเสื้อกล้ามภายในตาที่สามจะมีประสิทธิภาพมากๆหากได้ซึมซับพลังงานหรือแม้แต่ของเครื่องใช้เพราะจะใช้ในการดูดซับพลังงานจากหินพลังงานจากหินมีมากมายถึงจะดูดซับก็จะสร้างมาไม่มีวันหมดการดูดซับเป็นการเสริมอำนาจจิต


ป้าจารุ และลุงกระต่ายป่า ติดอาวุธด้วยละนะคับอาวุธคือสติ อาจารย์ส่งสัยนิทานลุงกระต่ายป่าจะเป็นเรื่องจริงที่เกิดในมิติทิพย์ เฮ้อย......นักรบแสงสว่างพิทักษ์มิติทิพย์

แซวๆป้าจารุ และลุงกระต่ายป่าเล่นๆเน้อๆคับ

 

ป้าจารุคนสวย(มั้ง) จะเล่าต่อไปว่า ในคนที่จักระเดินพลังงานแล้วนั้น ย่อมมองเห็น
เส้นสายพลังงานในตนเอง บางคนก็มองเห็นของผู้อื่น สีขาว สีเหลือง สีเขียว ฯ

แต่ที่เห็นได้ยากสุด คือ สีน้ำเงิน ต้องมาจากฐานสมาธิ ระดับเซียน หรือ สุญญตา
ปล่อยวาง ว่างงงง

ซึ่งจะพบในพลังของหลวงจีนโบราณ เข้มข้นมากๆ

เกี่ยวกับการเปิดจักระมั้ย??

นอกจากวัตถุ เช่นหินหรือแร่ธาตุ ที่เราดูดซับพลังงานเพื่อกระตุ้นจักระแล้ว

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นที่ ที่ครูบาอาจารย์เคยบรรลุธรรมมาก่อน
ก็มีผลต่อการกระตุ้นจิตวิญญาน

เราเรียกว่าการเชื่อมพลัง ดูดซับพลังงานบวกเข้าไปปั่นพลังงานภายใน
ปั่นจากด้านใน ผลักดัน ไม่ใช่ขับเคลื่อน

นะจ๊ะ เอาไปอ่านเล่นดูนะจ๊ะ พ่อหนุมหน้ามล ป้าเขียนไว้นานแล้ว เพิ่งนึกได้ หน้า 80 81 หาๆเอล่ะกัน สาระป้าน้อย แมงโม้บินว่อน กรองๆเอานะจ๊ะ

http://palungjit.org/threads/ฝันไปถึง-เมืองบังบด-เมืองผี-แดนลับแล-แล้วแต่จะเรียก.544536/page-82

 

@กระต่ายป่าผู้พิทักษ์

สัญลักษณ์ วงกลุม กับแปดจุดล้อมรอบหรือเปล่าคะ

ปล. ภาพสองกระตุ้นจักระดีมาก

 

ที่อ่านมา เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้างครับ

แต่ ขอ เล่าประสบการณ์ 2-3 วัน มานี่หน่อยนะครับ

ประสบการณ์สมาธิที่เคยปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ กรรมฐาน มรณานุสสติ / อานาปานสติ

กสิณแสงสว่าง / กสิณไฟ




เมื่อวาน

พอดี ได้เทคนิค เพ่งกลางระหว่างคิ้วมาครับ จากหนังสือสมาธิสมเด็จโต

พอ เพ่ง ไป เรื่อยๆ จักระที่หก หมุนเอง จิตแยก ทำ งาน ออกเป็น 2 ส่วน

ส่วนแรก เห็นนิมิตสมเด็จพระพุทธเจ้า ปาง นิพพาน ( พระวิสุทธิเทพ )

จึง นำนิมิตไปวางไว้ไกลๆประมาณ 2 วา อีกส่วนหนึ่ง ไว้ที่ท้ายทอย เหมือน

ดีด ตัวออกผ่าน จักระที่ 6 ครับ เมื่อไปถึงนิมิตสมเด็จองค์ปฐม ก็ก้มกราบ

ท่าน ท่านลูบศีรษะ ผม ผมเห็น ตัวเองใส่ชุดเหมือนแก้ว มีชฎาแหลมๆ

สักพัก ตัวผมเล็กลงเรื่อยๆๆๆ จนรวมตัวกัน เป็นแสง แล้วเห็นเส้นทางยาว

เหมือนถูกดึงกลับมา แล้วก็รู้สึกที่ร่างกายครับ

ท่านบอกว่า ถ้าหากท่านมาหาอีก ท่านอาจจะมาในลักษณะ

พระวิสุทธิเทพ ปางยืนครับ

ช่วงนี้ก็กลัวอุปาทานไม่มั่นใจตนเอง


ส่วนของวันนี้ พอเพ่ง ที่ จักระที่ 6 เห็นแสงสว่างๆ พอเพ่งๆ ไป กลายเป็น

แก้วใส จึงจับแก้วใส มาเป็นนิมิตกสิณ

เมื่อสักครู่ ได้มีเวลา เพ่งที่จักระที่ 6

ช่วงแรกเพ่ง แล้ว กำหนดนิมิต เป็นแก้ว ใส

ช่วงที่ 2 เลิกกำหนดนิมิต แก้วใส เพ่งจักระที่6 อย่างเดียว ภาพแก้วปรากฏ

แต่ว่า ภาพแก้ว มีสี น้ำเงิน อยู่ด้วยครับ กลัวอุปาทาน จึงเลิก

ช่วงที่ 3 กำหนดเพ่งไปอีก คราวนี้ เห็นเป็นคลื่นสีต่างๆ 7 สีครับ

พอดีมาเห็นรูปคลื่นพลังงานในนี้ ครับ เลย อยากถาม ว่า ถ้าเป็น เช่นนี้

เกิดจากสาเหตุอะไร และ กระทำอย่างไรต่อไปครับ

 

คุยอะไรกัน หรา..ครับ.
ถามด้วยคนนะครับ.
เวลานั่งสมาธิ แล้วจะเป็นเส้นสว่างแนวตั้ง กลางตัว ทะลุจากก้น แทงทะลุกระหม่อม พุ่งโลด ขึ้นฟ้า ทะลุอวกาศ
เป็นเส้นสายสว่าง ขึงตรงดิ่ง. เลยทีเดียวเชียว.
.นอกจากนี้ จะมีเส้นลม หวิวๆ ขึงแนวดิ่งเช่นกัน
ขึงตรงภายในตัว เยื้องแนวกลางตัว ไปทางขวาเล็กน้อย
ถ้าไม่สังเกตจะนึกว่า อยู่กลางตัวจริงๆ
ความจริงเส้นนี้อยู่เยื้องภายในกลางตัว ไปทางขวาเล็กน้อย.
และ จะรู้สึกหวิวๆ เหมือนหัวใจจะวาย. ที่อกขวา.
ราวกับว่า หัวใจอยู่ด้านขวา และ กำลังจะหัวใจวาย.
แต่ ไม่ตาย.
มันจะสมารถนั่งสมาธิไปเรื่อยๆ
แบบนี้แล.
ส่วนเส้นสายสว่างกลางตัว ทะลุกระหม่อม ทะลุอวกาศนั้น
ก็สามารถ คลี่แผ่ซ่าน เป็นเส้นแขนง แผ่ออก ได้โดยรอบ
ราวกับน้ำพุ แผ่เซนซ่าน อยู่ท่ามกลาง จักวาล อันเวิ้งว้าง
ที่มีดวงดาว ต่างๆมากมาย.

..มันคืออะไร เหรอลูก ช่วยอธิบายขยายความ ที..
..สา...ธุ...

 

มีอยู่ช่วงหนึ่งหลายปีก่อน พิจารณา ธรรม "ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ"

ช่วงแรกอารมณ์จิตของคนอื่น มากระทบเรา เช่นความเศร้า เราก็เศร้าด้วย

แต่พอพิจารณา เห็นความไม่เที่ยงของ ร่างกาย (เห็นผู้หญิงสวยก็พิจารณาไปเรื่อย)

พิจารณาไปสักพักร่างกายเพิกออก เห็น คล้ายๆดวงจิต ของเขามั๊ง อันนี้ไม่ทราบ

เป็นดวงกลมๆ มีสีหลากสี เห็นเป็นคลื่นพลังงาน ลักษณะพูด

คือ แรงอารมณ์ของเขาแผ่มากระทบเรา เรามีสติแยกออก อ่อนี่อารมณ์เขา

นี่อารมณ์เรา แยกกัน อารมณ์เรา ไม่คล้อยตามเขา


คำถามนะครับ

ไออาการที่เห็นดวงจิตของเขามีหลากหลาย สี คืออะไรคล้ายพลังงานจักระวาล

ในร่างกายตามแบบรูป ตัวอย่าง ครับ เป็นดวงกลมๆ

 

อั้ยยะ นี่มัน. กระทู้รวม เซียน
นางมารน้อยอย่างเราเห็นทีต้อง ชิ่ง 555

 

รอผู้ทรงภูมิ มาตอบจ้า อยากรู้ด้วยคน

 

วันนี้ผมเพ่งจักระ ที่หก กำหนดนิมิตพระพุทธรูป คราวนี้ เห็นสีแดงมาเต็มเลย

อยากทราบว่า สีต่างๆ ในที่นี้ หมายถึงอะไร

และสีแต่ละสีสื่อความหมายว่าอย่างไรบ้างครับ

 

เด่วจะเล่าให้ฟังอย่างนี้นะครับ กิริยาแบบคุณ Center in Center
เล่าให้ฟังนั้นคือระบบพลังงานแนวใหม่ครับ เป็นการทำงานร่วมกับของระบบภาคทิพย์
คือสายครูบาร์อาจารย์ที่มีเด่นทางสมาธิกับสายครูบาร์อาจารย์
ที่เด่นด้านพลังงานครับ เกิดขึ้นมาได้ประมาณเมื่อซัก
๖ ถึง ๘ เดือนก่อนแล้วครับ ตั้งแต่แกนโลกมันเอียงและเชื่อกันว่าเป็นไป
ทั้งระบบดวงดาวอื่นๆด้วยครับ สังเกตุง่ายๆ ว่าท่อพลังงาน
ตรงกลางจะเป็นท่อๆประมาณข้อมือเราครับ และท่อนี้มันจะเริ่มต้น
ตรงกลางหน้าอกเราคับ และวิ่งผ่านร่างกายภายในไปทะลุ
ตรงกลางกระหม่อม และพอเราเริ่มสัมผัสได้ว่ามันทะลุกลางกระหม่อม
ท่อพลังงานอีกฝั่งเริ่มจากหน้าอกตรงส่วนล่าง
มันก็จะวิ่งมาทะลุออกที่ก้นครับ..มันก็นั่งสมาธิต่อได้ครับ
แต่ถ้าอยากให้ครบวงจรจริงๆ และให้พลังงานมันเดินเรียบร้อย
เหมือนรถเครื่องยนต์เดินเบา
ก่อนที่จะเข้ากิริยานี้ ให้ท่านไล่เปิดตั้งแต่ จักระ ๑ ถึง ๗ ตามลำดับ
ก่อนครับระวังอย่าข้ามนะครับ เปิดที่ละจุด
และก็ไปไล่พลังงานที่แนวกระดูกสันหลังให้ขึ้นที่ศรีษะในลำดับต่อมา
ถ้ามันติดขัดก็ให้จัดเรียงเส้นสายพลังงานตรงนี้ก่อน
หลังจากนั้นมันจะมี เส้นพลังงานคลายๆเกลียวเชือกหมุนอ้อมรอบตัว
เราบริเวณจักระ ๑ ถึง ๗ ไอ้ที่มันหมุนๆนี่หละครับ
ให้เราไล่เส้นเกลียวนี้ขึ้นไปยังกระโหลกศรีษะเช่นกันครับ...
หลังจากนั้น ค่อยมาดันท่อพลังงานภายในนี้จากตรงกลางหน้าอก
ให้ไปทะลุตรงกลางกระหม่อม และย้อนมาดันตรงใต้หน้าอกให้
มาออกที่ก้นครับ พลังงานทั้งหมดก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียว
และนิ่งและก็พร้อมสำหรับการนำไปใช้งานทางด้านต่างๆ
ตามแต่จริตที่เราถนัดครับ...ส่งผลให้การใช้งานทางจิต
ซึ่งส่งผลให้การใช้งานทางด้านพลังงานต่างๆง่ายขึ้น เร็วขึ้น ได้ผลดีขึ้นครับ

ปล.ประมาณนี้ครับ

 

ขอบคุณครับ

 

เขียน ๒๐.๕๑

่ใช่แล้วครับ วงกลม กับแปดจุดล้อมรอบ
วงใหญ่ประมาณดินสอ หรือกว่านิดนึง
จุดทั้งแปด ก็วางห่าง ระยะเท่ากัน

เกิดขึ้นประมาณยี่สิบปีก่อนครับ ก่อนทิ้งโลกเข้าสวนโมกข์
ตอนนั้นยังไม่เชี่ยวเรื่องธรรมะ กสิณหรืออภิญญา ยังไม่รู้จักเลย
แต่ฝึกโยคะอย่างหนัก ปราณยาม การเดินกำลังภายใน ไปมาทั่วร่าง

แต่มองไม่ค่อยชัดนะ ต้องเอียงรับแสงให้ดี ถึงจะมองเห็น
ให้เพื่อนดู เค้าก็ว่าไม่เห็นมีอะไร เราก็เห็นแต่ในกระจก
ปรากฏอยู่แค่ไม่กี่วัน ก็หายไป เหลือรอยแผลเป็น




ส่วนรูปที่สอง คล้ายกับรูปจักระ ที่เราเคยใช้ฝึกเลยครับ
จากหนังสือ ชื่อไรน๊า ของจ้าวก็อกสุ่ย ลืมชื่อแฮะ
แต่เคยโพสท์ชื่อหนังสือไว้นะ ที่ไหนหว่า

ในเล่มนั้น มีรูปจักระครบทั้งหมด สีสันสดใส เร้าใจหลาย
เค้าอ้างว่า มีคนตาทิพย์มองเห็น และวาดได้เหมือน
เราใช้รูปชุดนั้นแหละ เป็นต้นแบบจัดสร้างจักระ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

เรียนคุณพี่กระต่ายป่า ข้างวัด

ช่วยอธิบายคำว่า จัดสร้างจักระ ซิจ๊ะ ตรงประเด็นกระทู้เป๊ะๆๆๆ เลยยย

 

เล่าขำๆ ป้าเคยเป็นแบบคุณพี่ กระต่ายป่า

one ป้าเวลามองกระจก แล้วคนในกระจกที่มองตอบกลับมา เหมือนไม่ใช่ตัวเรา

และ เคยเห็นสัญลักษณ์ สุริยะแปดทิศ เหมือนที่คุณพี่กระต่ายป่าเล่า เห็นในกระจก
แต่มันไม่ได้เป็นแผลเป็นและนูนออกมา แต่ไม่เคยถามใคร และเห็นเฉพาะในกระจกเท่านั้น แต่ตอนที่เห็นพยายามบังคับให้มันหายไป ปรากฏว่า ปวดตาสามแทบเดี้ยง
อ่อนระโหยโรยแรง แถมมีเส้นพลังงานพรุ่งตรงไปเชื่อมกับเงาสะท้อนในกระจก เลยหยุด ตัดบัวไม่เหลือใย

two ป้าชอบเล่นจัดเรียงเส้นสาย ขนมชั้นสีรุ้ง หรือจะเรียกจักระก็แล้วแต่ ...ขออุบไว้ก่อน อยากฟังผู้ทรงภูมิเล่าๆๆๆๆ

ป.ล.ป้าไม่มีตำรา มีแต่ มโน จบนะ

please...................................................อิอิ 555

 

เห็นแสง สีขาว วาววับ
จิตโผ เข้าจับ ทันที
เริ่มต้น แค่นี้ ก็แสนดี
จักค่อยเผย เฉลย ถ้อยวจี

วอนคนดี จงคอย อย่าน้อยใจ
ดวงแก้ว สีใส เป็นปฐม
ส้มแดง ม่วงน้ำเงิน จิตจะดล
แล้วจงยล ด้วยผู้รู้ เอาอีกที

มันไม่มี แม่สี หรอกลูกเอ๋ย
จะเฉลย ให้เลย ต้องผสาน....

 

สรุป เพ่ง แล้ว ครั้งหนึ่งเปลี่ยนสี หนึ่ง สลับกันไป

บางทีเห็นเป็นแสงเป็น 7 สี ดวง จิตผู้อื่นเราก็เคยเห็นคล้ายๆสีรุ้งเหมือนกัน

ครั้งก่อนยัง ไม่รู้จัก กับ จักระ