มีวิธีฆ่าผีไหมครับ เพราะโดนผีตามรังควาน

ผีตนนี้ชอบทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับผมหลายครั้ง

โดยการทำชอบให้เกิดเรื่องไปทะเลาะกับคนนั้นคนนี้ แล้วผีจะยุยงให้ผมไปฆ่าเขา โดยการดลจิตดลใจให้ผมไปฆ่าเขา

ทำไมถึงรู้ว่าเป็นการกระทำของผี ชัดเจนหลายครั้งแล้วครับ เรื่องมันยาวครับ

ผมเลยสาปแช่งผีตนนี้ว่าให้มันไปเกิดเป็นหมาชี้เรื้อนขาด้วนทั้ง 4 ข้าง 8 ล้านชาติ แล้วขอให้ผมได้ฆ่ามันทุกชาติ ตะโกนแช่งมันประจำ เหมือนมันจะกลัวนะ หยุดไป แต่ผมกลัวว่ามันจะกลับมาอีก

ขณะนี้ผมไปคืนดีกับคนที่ผมมีเรื่องด้วยแล้ว และจะทำการดัดหลังกลับโดยการฆ่าผีแทน

ที่คนฆ่ากันตายเพราะผีมีเสี้ยมเป็นเรืองจริงนะครับ มีเยอะด้วย พวกนี้ไม่กลัวบาปกรรม ทั้งที่เห็นนรก สวรรค์มาแล้ว แทนที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้มนุษย์ จึงสมควรแล้วทีมนุษย์จะทำตัวเป็นศาลเตี้ยสั่งสอนผีพวกนี้

ผมจึงขอทราบวิธีฆ่าผีหน่อยครับ

 

ลองเผาพริก เผาเกลือ แบบในหนังดูคับ อาจจะเหม็นแสบจมูกผีก้ได้คับ...:boo::boo::boo:

 

ฆ่านั้นคงไม่ได้ไม่ตายหรอกครับ เพราะเขามีกรรมมีอายุของเขา และเท่าที่ฟังดูอาจจะไม่ใช่เหตุบังเอิญก็ได้ แต่เขาอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่มีจิตผูกอาฆาต พยาบาท หวังให้เราประสพหายนะก็ได้ พวกนี้ต้องชนะด้วยความดี ด้วยวาจาที่อ่อนโยน ด้วยการทำบุญให้ แผ่กุศลให้ครับ การด่า ชาบแช่งเขามีแต่จะทำให้ผูกใจเจ็บพยาบาทต่อเรายิ่งๆขึ้นไปด้วยซ้ำ เหมือนเราโดนคนที่เราไม่ชอบหน้าอยู่แล้วด่านั่นแหล่ะ ...หากเชื่อว่าเป็นผีจริง ก็ต้องเชื่อเรืองกรรมครับ

 

หมั่นไหว้พระสวดมนต์ค่ะ จิตที่เข้มแข็งไม่มีอะไรมาทำร้ายได้ค่ะ

 

พวกนี้เป็นกระแสจรจากภายนอก หรือพูดง่ายว่าเป็นดวงจิตอื่นๆ
ที่ส่งกระแสมาคอยแหย่ตัวจิตเรา เพื่อที่จะดูว่าเราจะเล่นด้วยหรือไม่ครับ..
การที่เราพอรู้ตัวได้แสดงว่า เราพอมีกำลังสติทางธรรมพอสมควร
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ..วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือการยุติครับ
ยุติในทีนี้ก็คือ การตัดกระแสต่างๆของเค้าที่ส่งมาแหย่ตัวจิตเรานั้นหละครับ
มันถึงจะได้ผลครับ เพราะใช้วิธีอื่นๆใดๆแล้ว แม้ได้ผลแต่ก็เพียงแค่ชั่วคราวครับ.
และมันจะยิ่งทำให้เราก่อภพก่อชาติผูกพันธ์กับดวงจิตพวกนี้ไม่รู้จบสิ้นซะทีด้วยครับ.
และในชาตินี้ยังไงๆ เด่วพอเราระลึก นึกถึง
หรือนึกขึ้นได้เกี่ยวกับพวกนี้ เค้าก็จะเข้ามาทันที
เข้ามาในลักษณะที่เป็นกระแสวิบาก(วิบากคือ จรเข้ามาเรื่อยๆ)
และก็จะรบกวนจิตใจเราอยู่เรื่อยๆครับ...

วิธีแก้ปัญหานะครับ เนื่องจากกระแสจรภายนอกพวกนี้
มันเป็นกระแสร้อนครับ และการที่ตัวจิตเราพอมีความสามารถทางตาที่ทำให้เห็น
อะไรได้จากสนับสนุนชั่วคราวของครูบาร์อาจารย์เรา มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวจิต
เราจะไวในเรื่อง ของตัววิญญานที่ส่งออกไปรับรู้กระแสที่มันเข้ามาแหย่พวกนี้ครับ
ถามว่ามีอะไรเสียหายไหม ก็ไม่มีครับ ถ้าเรารู้จักตัดมันได้คับ
ตัดยังไง ก็ตัดตั้งแต่ตอนที่มันเข้ามาเลยครับ โดยที่ไม่ต้องไปรู้ ไปสนใจอะไรทั้งสิ้น
ปัญหามันเริ่มเกิดจาก การไปรับรู้ จากตัววิญญานที่ส่งออกจากจิตนี่หละครับ..
ให้เรากำหนด อโหสิกรรมออกจากกลางลิ้นปี่ในใจ กำหนดให้ขยายออกไปกว้างๆ
จากกลางลิ้นปี่ ซัก ๓ ถึง ๔ ครั้ง เพื่อผลักกระแสที่เข้ามาแหย่ตัวจิตเราให้มันมันนิ่งๆก่อน
ตัวจิตเราถึ่งจะเริ่มนิ่งๆได้ แต่ว่ามันจะยังไม่เย็นนะครับ
ผลของอารมย์ต่างๆมันจะยังอยู่ เพราะกระแสจะยังอยู่ใกล้ๆตัวจิตเรา
และในตำแหน่งเดียวกันนี้ให้เราน้อมอุทิสส่วนกุศล
และให้มันขยายออกไปกว้างๆ ให้กว้างให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ครับ
กระแสเย็นๆที่ออกจากตัวจิตเราที่มาจากบุญกุศลที่เราเคยทำมาทั้งหมด
มันก็จะไปผลักพวกกระแสที่มาแหย่ ที่มันยังอยู่ใกล้ๆเราจากการที่เราอโหสิให้นั้น
เรียกว่า ใช้เย็นมากๆเพื่อให้กระแสร้อนเค้าอ่อนแรงลงนั้นหละครับ
หรือจะเรียกว่า ใช้กระแสเย็นไล่กระแสร้อนก็ได้ครับ..ทำบ่อยๆหน่อยครับ
เพราะว่า ถ้าเค้ามาแหย่เราได้บ่อยๆ แน่นอนว่า เค้าจะมีกำลังพอสมควร
ตรงนี้ใช้เวลาจริงๆ ประมาณ ๒ เดือนถึงจะยุติได้ครับ ในช่วง ๒ สัปดาห์แรก
เราต้องอดทนหน่อยครับ จะดีขึ้น ใน ๑ เดือน ใน ๑ เดือน ๑/๒ เราจะเริ่มอยู่สึกได้ว่า
มันเริ่มคลายออกไปแล้วแต่ช่วงนี้ห้ามประมาทนะครับ
และถ้าสามารถทำได้ถึง ๒ เดือน
คุณจะลืมไปเลยว่าเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเองครับ..
ปล.ประมาณนี้ครับ ทั่วๆไปถือว่าไม่มีอะไรครับ

 

อาการทางประสาทรึเปล่า ไม่ได้ลบหลู่นะ

 

:อย่าพูดยังงั้นสิครับ ขนาดผมคิด ผมยังไม่พูดเลย เกรงใจ อิอิ

 

ในหนังผี ไม่เห็นมีวิธีฆ่าผีนะ
มีแต่จับผีใส่หม้อแล้วถ่วงน้ำ(สงสัยคงเป็นเพราะผีฆ่าไม่ตาย)

 

คือสงสัยนิดนึงคะ ตามรากศัพย์เดิมๆ ผีแปลว่าซากศพ...คือตายไปแล้วจึงแปลว่าผี
นี่ตายแล้วยังจะให้ตายอีกเหรอคะ?!!! ไม่รู้สึกใจร้ายปนงงๆเหรอคะ (จะตายอะไรนักหนา)
เขามีซัมติงอะไรกะคุณรึเปล่าไม่งั้นจะมาตะบี้ตะบันขยันตามทำไม
เราเจ็บเป็นเขาก็เจ็บเป็น คุณแน่ใจน่ะว่าหาเหตุผลลึกๆเจอแล้ว

 

อย่าไปจริงจังเรื่องรากศัพท์กับจุดประสงค์ในการใช้ครับ
บางครั้งการใช้คำเพื่อให้หมายถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดอาจไม่ตรงกับความหมายในศัพท์
ก็ได้ อาทิเช่นการเรียกกองดินขนาดใหญ่ว่า ภูเขาทอง
ถ้าแปลตามศัพท์ควรหมายความว่า ภูเขาลูกนี้เกิดจากโลหะที่เป็นทอง แต่ที่จริงไม่ใช่

 

วิธีฆ่าผี

1.สวดมนต์
2.นั่งสมาธิ
3.ใส่บาตรพระ
4.แผ่เมตตา
5.อุทิศบุญ / โอนส่วนบุญ โดยอ้างเอาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

ส่วนคาถาที่ทำให้ผีทรมานก็มี คือ "โอมมณี ปัทเมหุม"


*** หากว่าดังนี้ ผีจะหาย กลับกลายร่างเป็นเทวดาแทน***
"ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงดลบันดาลให้บุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยบำเพ็ญมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันชาติ จงถึงแก่ท่าน (ผี) ขอให้พวกท่านมีความสุข หากท่านยังมีทุกข์ ไม่ว่าทางกายหรือทางใจ ขอโปรดอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้า และได้ไปสู่สุขคติภพภูมิใหม่ที่ดีกว่าเทอญ สาธุ" (นี่แบบย่อ)

ปล. หากผีไม่ยอมรับส่วนบุญ อย่างน้อยก็คงทำให้ใจอ่อนลง ก้าวร้าวน้อยลง เหมือนผู้ชายจีบผู้หญิง ผู้หญิงยังใจอ่อน หรือกระทั่ง น้ำหยดลงหินทีละหยด หินยังกร่อน หินงอกหินย้อยยังเกิดขึ้นได้ตามถ้ำผา นับประสาอะไรกับผี ที่ไม่ได้แข็งแกร่งดังหินผา จะไม่สะเทือนใจเล่า!

 

ฆ่าผีภายนอก ยังไม่ประเสริฐเท่า

ฆ่าผี! ภายในใจ

 

เรามีวิธีถอดจิตออกจากร่างสนใจหลังไมล์นะ

 

แช่งผีมีด้วยหรือ
คือผีจะมาทำไรเราได้ ก็ต้องเกิดจากกรรมร่วมกันมาก่อน
แต่เรื่องผีดลใจอันนี้เชื่อค่ะ ถ้าเจ้าตัวจิตไม่แข็งพอ (ในเมื่อคุณรู้ว่าผีดลใจ แล้วทำไมทำตามละคะ)

อีกอย่าง ผีหรือมาร ไม่กลัวการแช่งอะ
ถ้าจะฆ่าก็ไม่ตายหรอก เขามีอายุขัยของเขา

 

ผีบางตนเกเรมาก แม้เราจะทำดีกับเขาแค่ไหนก็ตาม
ดังนั้นอเสวนาดีที่สุดค่ะ อย่าคิดฆ่าเขาเลย
สวดมนต์ สมาธิ
หรือทำตามคุณนบแนะนำค่ะ

 

ถ้าพัฒนาจิตวิญญาณจนถึงระดับเป็น god
จะสามารถทำได้

 

เข้าใจดีเลยครับ ประสบการณ์เดียวกัน 5 ปีกว่าครับ ถ้าใครไม่รู้ หรือไม่เคยเจอ ผมบอกเลยครับ เรื่องจริงครับ
ผีพวกนี้ ที่มาตามคน เพราะ มันจะแย่งร่างของเราครับ เพื่อไปเป็นของมัน คือ มันตายไปแล้ว และเป็นผู้ได้รับทุกข์แล้ว นานแล้ว
แต่มันคอยหาจังหวะที่คนไหนเผลอ ในช่วงเวลาของการใช้ชีวิต การเดินทาง ไปไหนมาไหน พอมันเจอ จะด้วยการไปทำบุญ หรือ เจอโดยบังเอิญ แล้วสบโอกาส มันจะตามมาเฝ้าก่อน พอจังหวะเหมาะ มันจะเข้าสิงเราครับ จากไหน จากการใช้การข้องแวะทางจิต ทางเสียง แม้แต่เวลานั่งสมาธิ มันก็แทรกมาในรูปแบบให้เราเห็นภาพอะไรแบบชัดหรือไม่ชัด แล้วให้เราตามดู เวลาเราเผลอ พอเราส่งจิตออกไปหา มันจะรับแล้วส่งบางอย่างกลับมา เพื่อให้เราส่งอีก ส่งอีก จนกลายเป็นจิตผูกกัน แล้วมันก็ครอบงำเราสำเร็จ เราจะได้ยินเสียงมัน คนอื่นไม่ได้ยิน เห็นภาพที่มันส่งมา คนอื่นไม่เห็น
และจากประสบการณ์ ที่สังเกตุมานานแล้ว พวกนี้เป็นสิ่งชั่วร้ายมากๆ
ลืมเรื่องทำบุญให้ได้เลย เพราะผมลองหมดแล้ว ผมชอบปฏิบัติธรรม ชอบทำบุญครับ แต่ไม่ได้ผล แม้การวางจิตอภัยทาน

เพราะมันจะเอาแต่ร่างเรา เพื่อจะได้ใช้ชีวิตของมันในโลกนี้อีก เท่านั้น โดยไม่สนว่าเราก็ยังมีชีวิตอยู่ มีภาระหน้าที่อะไรต้องรับผิดชอบ มันไม่สน มันต้องการได้ร่างของเรา และมันจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด หลังจากที่มันได้ผูกจิตกับเราได้แล้ว
มันเลวร้ายมาก หลอกหลอน ว่าเป็นครูบาอาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ที่ตายไปแล้ว หรือคนใกล้ชิด ที่เราศรัทธา หลอกทุกรูปแบบ

เพราะเมื่อมันเข้าสิงทางจิตของเราแล้ว จากการส่งจิตมาข้องแวะเราตลอดเวลา จนผูกจิตเราได้ พอเราคิดอะไร ถึงใคร รู้สึกกับใครอย่างไร ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน มันจะรู้เรื่องเราไปด้วย แล้วมันจะเอามาเป็นสิ่งที่บังคับเรา โดยการปลอมเป็น แสดงเป็น เพื่อให้เรายอมรับมัน

ย้ำอีกครั้งมันเป็นผีที่เลวร้ายมาก อันตรายมาก ไม่มีศีล ไม่มีคุณธรรม


ที่จับมันได้ ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี เพราะ สังเกตุ บันทึก ไตร่ตรอง พฤติกรรมมัน
โดนมันหลอก หลงเชื่อ ลองทำตามมันมาแล้ว จนเข้าใจอย่างชัดเจน ว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ดี มาช่วยเรา แต่ ชัดเจนว่า มันคือสิ่งที่เลวร้ายมาก เพราะการแสดงออก พฤติกรรม ความต้องการต่างๆของมัน
วัดจากความคิดผม การใช้ชีวิตผม ก่อนที่โดนมัน ผมทำเลวบางอย่างไม่ได้ แต่หลังจากที่มันติดต่อหรือบังคับได้แล้ว ผมทำความเลวมากๆได้ จนรู้สึกได้เลยว่า ไม่ได้มาจากเรา เช่น การไม่ฆ่าสัตว์ และอะไรอีกหลายอย่าง ที่ผมจับความเลวของมันได้ เพราะผมไม่เคยทำ หรือแม้แต่คิด แต่พอโดนมันแล้ว กลับทำได้อย่างบ้าคลั่ง
กว่าจะจับพฤติกรรมมันได้
ก็สูญเสียอะไรๆ ไปหลายอย่าง ทั้งทรัพย์สิน โอกาส ความสัมพันธ์อันดี ความรู้สึกที่ดี จากคนรอบข้าง เสียทั้งเค้าทั้งเรา

ตอนนี้กำลังค้นหาทางแก้แบบตัดขาดอยู่เหมือนกันครับ แต่ควบคุมมันได้อยู่ประมาณนึง

เรื่องนี้ไม่ใช่อาการป่วยทางจิตนะครับ เพราะพิสูจน์มาแล้ว ด้วยการบันทึก เหตุการณ์ ก่อน-หลัง ดูผลจากการประสบผลหลายครั้ง
หาข้อมูลประกอบการสังเกตุตลอดมา
ตรวจร่างกายละเอียดแล้ว บางอย่างไม่ต้องตรวจก็ตรวจครับ
สังเกตุและบันทึก ดูลักษณะอารมณ์ ดูคำพูด การแสดงออก ของมัน และของเรา ประกอบกันตลอด

ถ้าใครมีวิธีแก้ พร้อม ป้องกัน มาเผยแพร่ แนะนำ ให้เพื่อนมนุษย์ได้มีวิธีแก้และป้องกันเอาไว้ แบบชัดเจน ทำแล้วรู้ผลแบบเด็ดขาด จะดีมากครับ
เพราะมันยิ่งอยู่นาน ตัวคนที่โดนยิ่งอันตรายมาก อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกครับ มันส่งกระแสมาดลใจเรา พูดชี้นำ ตลอดเวลา จนเราต้องคล้อยตามจนได้
ผมก็พยามบังคับตนเองมากๆ แต่เพราะมีภาระหน้าที่ ต้องทำงาน คิด ดูแลอะไรๆ พอเหนื่อยเพลีย ก็โดนมันชี้นำไปอีก เพราะอ่อนเพลีย แต่ความที่โดนมานาน ก็ ฝืนได้บ้าง พยามควบคุม และต่อต้านมันตลอดครับ
ใครมีวิธีตัดขาดแบบชัดๆ รบกวนด้วยครับ (การทำบุญใช้ไม่ได้นะครับ) มันไม่เอา เพราะมันเข้ามาใช้ชีวิตกับเราได้ มันก็กิน พักผ่อน เที่ยวเล่น ดู หรือ เรียกได้ว่า มันมามีชีวิตแบบมนุษย์ใหม่อีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องรับกรรมรับทุกข์ของมันต่ออีก เรื่องทำบุญ มันเลยไม่จำเป็นต้องเอาน่ะครับ เพราะมันเข้าเราได้แล้ว มันก็ได้ทุกอย่าง พร้อมร่างมนุษย์เลยครับ เข้าใจที่ผมอธิบายนะครับ

 

อย่างที่เคยบอก ว่าเหตุในการเกิด
มันต่างกัน ดังนั้นจึงย่อมมีวิธีการแก้ปัญหา
แตกต่างกันไปครับ
ส่วนที่แก้อยากที่สุด จะเรียกว่า วิบาก
หรือกระแสที่ผูกเกี่ยวเฉพาะบุคคลครับ
โดยมากถ้าอยากจะจบ
ต้องให้บารมี ให้บุญ ให้ไปเรื่อยๆ
โดยไม่ต้องสนใจอะไร ไม่ต้องหวังผลอะไร
แต่ว่าต้องให้เวลาในการแก้ปัญหา
กับตรงนี้ด้วยครับ
อย่างเพื่อนที่เคยเจอ ใช้เวลาประมาณ ครึ่งปี
ก็เคยพาไปหาท่านที่เก่งๆ แต่ว่าท่านเหล่านั้น
ก็ไม่ได้ใช้วิธีพิเศษอะไร อย่างที่บอกเพราะเหตุ
ที่เกิดแตกต่างๆกัน. และเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว
เผลอๆจะเป็นการสร้างวิบาก ก่อภพก่อชาติเพิ่มขึ้น
อีกโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ครับ

กรณีที่เราจะใช้วิธีเด็ดขาด จะเป็นกรณีที่
เจอดวงจิตนิสัยไม่ดี ที่ส่งมาจากคนไม่ดีครับ

ถ้าใครอยากแก้ปัญหาเรื่องนี้
กรณีที่เป็นวิบากเฉพาะบุคคล
ให้ลองไปวัดป่าฉัพพรรณรังษี
ถามหา พระครูปลัดจิตไว ให้ท่านดู
และช่วยก็ได้ อยู่ที่ อ.จตุรัส ชัยภูมิ ครับ
ปล.ควรติดต่อก่อนล่วงหน้าเพื่อการเตรียมตัวครับ

 

ผมก็โดนลักษณะคล้ายคุณคับ