ตายไป ๒ ปีแล้ว แต่ไปซื้อที่ดินได้

เรื่องนี้เกิดกับคุณปัญญา คน จ.ระยอง มีอยู่ช่วงหนึ่งชีวิตประสบปัญหา จึงขึ้นไปรับใช้พระอาจารย์ฯ ที่วัดแห่งหนึ่ง อยู่มาวันหนึ่ง พระอาจารย์ฯ พูดกับคุณปัญญาว่า บอกขายที่ดินอยู่ไม่ใช่หรือ ให้กลับไปดูสิมีคนจะมาซื้อที่ คุณปัญญาก็ขอยืมรถวัดขับกลับบ้าน ไปจากวัดสัก ๑๐ กม. เกิดหิวข้าวจึงแวะร้านก๋วยเตี๋ยว เข้าไปเจอคนรู้จักก็ทักกัน ถามไถ่เสร็จ คนรู้จักก็แนะนำให้รู้จักเสี่ยมาจาก กทม. บอกจะมาหาซื้อที่ คุณปัญญาเลยบอกว่า ผมก็มี จึงตกลงกันไปคุยต่อที่บ้านของคนรู้จักนั้น แล้วก็ลงเอยที่เสี่ยตกลงซื้อที่ทั้งหมด ๕๐๐ ไร่ โดยที่ไม่ได้เดินทางไปดูที่ดินเลยด้วยซ้ำ

ตกลงซื้อขายกัน สองล้านห้า โดยมัดจำเงินสด ห้าแสน ตีเช็คล่วงหน้า ๒ ล้าน ได้เงินแล้วคุณปัญญาก็ขับรถดิ่งกลับวัด ไปบอกพระอาจารย์ฯ ด้วยความดีใจ ท่านฯจึงแนะนำให้คุณปัญญาไปซื้อรถ เพราะตอนนั้นคุณปัญญาไม่มีรถใช้

หลังจากนั้นสามวัน คุณปัญญาก็ไปเอารถมาเจิม และได้อยู่รับใช้พระอาจารย์ฯ มาไม่กี่วัน พระอาจารย์ฯ บอกคุณปัญญาว่า เสี่ยที่ซื้อที่ดินตอนนี้เดือดร้อนหนักเรื่องเงิน ให้รีบเอาเช็คไปคืนนะ คุณปัญญาจึงรีบขับรถกลับบ้านสวนที่ระยอง

พอกลับเข้าถึงหน้าบ้าน ก็แปลกใจที่เห็นรถอีกคันมาจอดข้างหลังพอดี ทั้งๆที่ตอนขับรถเข้าซอย ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยวเล็กๆ ก็ไม่เห็นมีรถตามมา พอลงจากรถ เสี่ยก็ลงจากรถแล้วบอกกับคุณปัญญาว่า ผมเดือดร้อนเงินมาก ขอเอาเช็ค ๒ ล้านคืนได้ไม๊

ที่ดินไม่เอาแล้ว คุณปัญญาบอกเสี่ยว่า แล้วเงินห้าแสนล่ะ ผมไม่มีคืนให้แล้ว ถ้าวันหน้ามีเงินจะคืนให้ เสี่ยเลยให้นามบัตรพร้อมกับบอกว่า หากวันหน้าไป กทม. หากเดือดร้อนก็ให้โทรหาได้

ต่อมาให้หลัง ๓ เดือน คุณปัญญา ต้องติดตามท่านพระอาจารย์ไปนิมนต์ที่กรุงเทพฯ หลังจากส่งพระอาจารย์ฯเข้าพัก ณ.วัดศรีเอี่ยม แถวถนนบางนา ก็ออกไปทานข้าวกับเจ้าหน้าที่ขับรถท่านอื่นๆ พอไปถึงร้านขายข้าวก็เห็นตู้โทรสาธารณะ นึกขึ้นมาได้เรื่องเสี่ยที่ให้นามบัตรไว้

จึงเดินไปโทรหา พอปลายทางรับสาย ปรากฎว่า คุณปัญญาถึงกับช็อก เสียงปลายสายเป็นผู้หญิง บอกว่า คุณจะมาเล่นตลกอะไร เสี่ยตายไปตั้ง ๒ ปีแล้ว วันนี้ก็พึ่งทำบุญครบ ๒ ปี ไปให้เค้า

พอรุ่งขึ้นเช้าอีกวัน คุณปัญญา ได้เข้าไปกราบเรียนถามท่านพระอาจารย์ แล้วบอกว่า ทำไมเสี่ยที่ซื้อที่ดิน ตายไปตั้งนานแล้ว

ท่านพระอาจารย์ฯ กลับตบไหล่คุณปัญญาเบาๆ แล้วบอกว่า

ให้ลืมไปซะ

สรุป ท่านพระอาจารย์ฯ แสดงอภิญญา เล่นฤทธิ์ให้ผีมาช่วยซื้อที่ดิน เพื่อช่วยคุณปัญญาที่กำลังแย่

ขอน้อมใจเผยแพร่เป็นธรรมทาน
ม

 

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง น่าแปลกใจ ตรงที่วิญญาณมีเงินสดถึง ห้าแสนบาท มามัดจำที่ดิน และมีเช็คอีก สองล้านบาท

วิญญาณมีฤทธิ์สามารถเนรมิตรเช็คหรือเสกเงินสด ขึ้นมาได้ นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก

 

ญาติทำกงเต๊กไปให้แน่เลย ว่าแต่วัดไหนจ๊ะบอกหน่อย

 

เคยฟังครับ คุณปัญญาแกเป็นศิษย์หลวงพ่อสมชายวัดเขาสุกิม

 

ปาฏิหาริย์จริงๆ เคยอ่านเจอแต่ของท่านอื่นโอนเงินผิดบัญชีหลักล้าน

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ เกิดขึ้นกับศิษหลวงปู่
https://www.youtube.com/watch?v=j0qH_Yh-HjU

 

ในรายละเอียดของเรื่อง เสียดายไม่มีชื่อของเสี่ยที่ตายไปแล้ว และนามบัตรเบอร์โทรศัพท์ที่เสี่ยได้ให้ไว้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำให้เนื้อเรื่องมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น และพื่มความเชื่อถือมากยิ่ง ๆ ขึ้นด้วย

 

อ่านจบแล้วขนลุกค่ะ ไม่มีสาเหตุ (ปล. ไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำนะคะ) ฮ่า ๆ

อนุโมทนาค่ะ

 

กลัวอะไรคุณ ladyinblack เจอเสี่ยได้ตั้ง 5 แสนแน่ะ

อันนี้เป็นอุกฤษฎ์ ไม่จวนตัวจริงๆจะไม่ใช้กัน อย่างเราไม่จวนจริงๆจะไม่ตั้งปะรำพิธี

 

ทั้งหมดก็พระอาจารย์เนรมิตรแหละ น่าบอกด้วยนะ ท่านมีนามว่าอะไร

 

ถ้าคุณปัญญาเป็นศิษย์ ลพ.สมชาย พระอารย์องค์ที่ว่าคงจะเป็น ลพ.สมชาย ฐืตวิริโย
วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี เสียดายบุญน้อยไม่ได้กราบท่าน ปัจจุบันท่านละสังขารแล้ว

 

เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก

 

ปลาช่อนยังเสกได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับเงินทอง คนธรรมดาอย่างเราที่ไม่มีฤทธิ์ ไม่มีอะไรก็ไม่มีทางรับรู้ได้หรอกครับว่า ฤทธิ์ นั้นทำอะไรได้บ้าง

ก็เหมือนกันอาหารชนิดหนึ่ง นาย ก.กำลังกินอยู่ แต่ นาย ข.ทั้งชีวิตเกิดมาไม่เคยได้กินเหมือนนาย ก. ต่อให้นาย ข. มโนไปไกลขนาดไหนก็ไม่มีวันได้รู้ว่าอาหารที่นาย ก.กินนั้นรสชาติเป็นยังไง

 

สงสัยว่าเสี่ยจะให้คนที่รับสายแกล้งบอกว่าตาย เพราะกลัวว่าจะเป็นเจ้าหนี้ตามมาทวงหนี้

ในหนังจีนเขามักใช้วิธีแกล้งตาย บางทีทำหลุมศพหรือฮวงซุ้ยเปล่าๆ เพื่อตบตาเจ้าหนี้หรือพวกศัตรู

แต่เรื่องที่พระอาจารย์รู้สามารถรู้ได้ว่าจะมีคนมาซื้อที่ก็นับว่าน่าอัศจรรย์แล้ว

 

ฤทธิ์ มีจริงไหม

นับเวลาได้ 8 ปีแล้ว ที่ wmt ทุ่มเทเวลาศึกษาประวัติ ของ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ซึ่งได้ศึกษาไปถึงสถานที่ต่างๆ ที่ท่านฯ เคยเดินทางไปบำเพ็ญ เช่น ที่ห้วยสัตว์ใหญ่ รอยต่อ อ.แก่งกระจานและเขตป่าละอู อีกทั้งได้ฟังเทปบันทึกเสียงของท่านฯ เรื่อง การบรรลุนิติทางธรรม หมายถึง เรื่องฤทธิ์เรื่องเดช ที่ท่านฯ เคยเล่นในสมัยที่สร้างวัดใหม่ๆ เพื่อปราบพยศคนแถบนั้น

ภายหลัง ท่านฯ ทิ้งหมด เปรียบเหมือนว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นของเล่นเด็กๆ ท่านฯพูดประมาณว่า สมมุติเด็กมันเล่นหินเล่นทราย เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะลงไปนั่งเล่นแบบนั้นได้ไหม สมควรไหม

ท่านฯ ยังบอกอีกว่า ฤทธิ์เดช ผมทิ้งหมด เหลือไว้อย่างเดียว เจโตปริยญาณวิชาปราบพระเณร เอาไว้ปราบพระเณรของผม ที่คิดนอกลู่นอกทาง

ในประวัติที่ผ่านมา เราจึงเห็นศิษยานุศิษย์ ทั้งบรรพชิตและฆราวาส จำนวนมาก ยอมจำนนกับหลวงปู่ฯ แบบศิโรราบ....

เผยแผ่เป็นธรรมทาน