แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 เมษายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ชา สุภทฺโท
    วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี


    “แหม ปีนี้ผมแย่เหลือเกิน”

    “ทำไม ?”

    “ผมป่วยทั้งปี ไม่ได้ปฏิบัติเลย”

    โอ้โฮ..มันจวนจะตายแล้วก็ยังไม่ปฏิบัติอีก
    จะไปปฏิบัติเมื่อไหร่ล่ะ ?

    ถ้าหากว่ามันสุขจะปฏิบัติไหม ?

    มันสุขก็ไม่ปฏิบัติอีก มันติดสุขเท่านั้นแหละ
    แต่ทุกข์มันไม่ปฏิบัติ ก็ติดทุกข์อยู่นั่นแหละ !

    หลวงปู่ชา สุภทฺโท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.9 MB
      เปิดดู:
      95
  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
    วัดอรัญญวิเวก ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม


    “...ปฏิบัติคืออะไร ปฏิบัติกาย ปฏิบัติวาจา และปฏิบัติดวงใจของเจ้าของ ให้หมดจากความเห็นผิด สร้างจิตใจของตนให้มันมีความเห็นถูก เห็นถูกใน ทางพระพุทธศาสนา

    ผลสุดท้ายก็เอาธรรมพินิจ จิตของพวกเราก็เลยสูงขึ้น
    สูงกว่าความโลภ สูงกว่าความโกรธ สูงกว่าความหลง

    ผลสุดท้ายจิตก็เป็น กองกาลกุศล คือ จิตเป็นบุญ ต้นทุนที่เราได้บำเพ็ญ คือ ปฏิบัติชอบทางกาย ทางวาจา จิตใจ โดยบำเพ็ญศีลวัตร ทานวัตร ภาวนาวัตร กำจัดอาสวกิเลส ความหลง ออกจากจิตใจนั้นหนะ พระพุทธเจ้าถือว่าเป็นผู้ประเสริฐ มันเป็นอย่างนั้น เป็นมนุษย์ที่ดี เรียกว่า มนุสฺสธมฺโม มีธรรมประจำจิตประจำใจ”

    อบรมภาวนาญาติโยม
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสมปนฺโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี


    “...สำหรับธรรมมีแต่ความอ่อนโยน เมตตาสงสาร กรุณาช่วยให้สัตว์โลก พ้นจากความโง่เขลาเบาปัญญา ให้พ้นจากความทุกข์ทรมานต่าง ๆ พึงส่งเสริมให้บรรเทาเบาบางจากทุกข์ ให้มีความสงบสุขโดยถ่ายเดียว

    ระหว่างกิเลสกับธรรมต่างกันมาก จนหาส่วนเทียบกันไม่ได้ เดินสวนทางกันร้อยเปอร์เซ็นต์

    กิเลสหลอกลวงสัตว์ ผูกมัดสัตว์ให้จมอยู่ในวัฏทุกข์โดยถ่ายเดียว ส่วนธรรมพยุงส่งเสริมสัตว์ รื้อขนสัตว์ให้ขึ้นจากวัฏทุกข์โดยลำดับจนถึงวิมุตติหลุดพ้น ไปได้โดยสิ้นเชิง ฉะนั้น ระหว่างกิเลสกับธรรมจึงต่างกันมากดังที่กล่าวมาดังนี้”

    จากหนังสือประวัติหลวงปู่ขาว อนาลโย
    โดยหลวงตามหาบัว ญาณสมปนฺโน
    (พ.ศ. ๒๔๓๑ – ๒๕๒๖)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    "ทุก ๆ คนปรารถนาสุข ไม่ต้องการทุกข์ แต่ทำไมคนเราจึงต้องเป็นทุกข์ และไม่สามารถจะแก้ทุกข์ของตนเองได้ บางทียิ่งแก้ก็ยิ่งทุกข์มาก

    ทั้งนี้ ก็เพราะไม่รู้เหตุผลตามเป็นจริงว่า อะไรเป็นเหตุของทุกข์ อะไรเป็นเหตุของสุข ถ้าได้รู้แล้วก็จะแก้ได้ คือ ละเหตุทีให้เกิดทุกข์ ทำเหตุที่ให้เกิดสุข อุปสรรคที่สำคัญอันหนึ่งก็คือใจของตนเอง เพราะคนเราตามใจตนเองมากไป จึงต้องเกิดเดือดร้อน"

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญกู้ อนุวฑฺฒโน
    วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน จ.กรุงเทพฯ

    เกิดมาทั้งที ต้องเอาดีให้ได้
    อยู่ในโลกทั้งที ต้องทำดีฝากไว้
    จะตายไปทั้งที อย่าลืมเอาดีติดตัวไป

    หลวงปู่บุญกู้ อนุวฑฺฒโน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำพู


    เมื่อผู้วางภาระ คือ " ว่าง "
    ไม่ยึดถือว่าขันธ์ห้านี้เป็นตัวเป็นตนแล้ว
    ไม่ยึดถือแล้วปลงเป็นผู้วางภาระก็มีความสุข จะยืน เดิน นั่ง ก็มีความสุข
    ไม่ยึดถือ เพราะรู้ตามความเป็นจริงของมันแล้ว
    ไม่ถือเอา ไม่ยึดเอา ได้ชื่อว่าเป็นผู้ขุดตัณหาขึ้นได้ทั้งราก
    เป็นผู้เที่ยงแล้ว เที่ยงว่าจะเข้าสู่ความสุข
    ตามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้เที่ยงแล้ว

    เมื่อจิตมันรวมมันก็รู้ตามความเป็นจริง
    มันจะวางขันธ์นี้
    เมื่อมันรวมนั้นแหละ

    ถ้าจิตรวมแล้วมันก็วาง วางแล้วก็มีแต่ว่าง ๆ
    แล้วค้นหาตัวก็ไม่มี เมื่อค้นหาตัวไม่มีแล้ว ก็อันนั้นแหละ

    จิตพอสงบลงแล้วปัญญาก็เกิดขึ้นเองน่ะแหละ
    ถึงตอนนั้น แม้จิตมันฟุ้งขึ้นมาแล้วมันก็ไป มันไม่มีอันใด
    แม้แสงสว่างหมดทั้งโลกก็ตาม มันไม่ไปยึด

    หลวงปู่ขาว อนาลโย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
    วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร


    จะทำ จะพูด จะคิดสิ่งใด
    ก็จงทำ พูด คิด
    แต่ในทางที่จะเป็นประโยชน์แก่ตน
    และผู้อื่นเถิด

    หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
    วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร


    ความดีอันตนทำไว้นั้น
    มันซึมซาบเข้าถึงหัวใจ
    มันซาบซ่านอยู่ในใจ
    นี่เรียกว่า สุขใจ
    สุขสัมผัสของเรา
    สุขอันคนอื่นไม่มีส่วนด้วย
    ด้วยเหตุนี้ จึงให้ตั้งใจทำความดี

    หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สรวง สิริปุญโญ
    วัดศรีฐานใน จ.ยโสธร


    ความตายไม่มีใครรอ
    ต่างคนต่างรอ มันจะรออย่างไร
    ดินน้ำลมไฟ มันแตกดับเมื่อไหร่ ใครจะไปรู้
    ต่างคน ต่างไป ในวันสุดท้าย
    ไม่ว่าจะหญิง หรือชาย หาผิดกันไม่
    จากไปเพียงร่างกาย แต่คุณความดียังอยู่

    หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.8 KB
      เปิดดู:
      103
  10. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    ก่อนจะมาเป็นเราแต่ละคนในภูมิของมนุษย์นี้ ต่างก็ได้เป็นอะไรต่อมิอะไรมากมาย นับชนิดนับชาติไม่ได้ เป็นกันทั้งเทวดา สัตว์ใหญ่สัตว์เล็ก รวมทั้งมนุษย์ชายหญิง คนมีคนจน คนสวยคนไม่สวย คนพิการคนไม่พิการ อายุสั้นอายุยาว ขาวดำ ไทยจีน แขกฝรั่ง ต่างเคยมีเคยเป็นกันมาแล้วทั้งนั้น แม้เป็นผู้ระลึกชาติได้ก็จะสลดสังเวชยิ่งนัก และอาจจะสละละวางความโลภ ความโกรธ ความหลงได้เป็นอันมาก

    เห็นสุนัขขี้เรื้อนสักตัว แล้วลองนึกว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นเช่นเดียวกัน เคยกระเซอะกระเซิงเที่ยวหาอาหารกิน ถูกคนตี ถูกสุนัขด้วยกันกัด ถูกใครทั้งหลายที่ได้มาประสบพบผ่านแสดงกิริยาวาจารังเกียจเกลียดชัง แม้ก้อนอิฐก้อนหินก็ถูกทุ่มถูกขว้างใส่ ให้ต้องถึงเลือดตกยากออก ตกใจกลัวภัยนานา แต่จะบอกกล่าวอ้อนวอนให้ผู้ใดเห็นใจก็ทำไม่ได้ อย่างมากก็เพียงเปล่งเสียงโหยหวนที่หามีผู้เข้าใจในความทุกข์ร้อนไม่

    แม้นึกไปในอดีตเช่นนี้ สมมุติตัวเองว่าในภพชาติหนึ่งเป็นเช่นนี้ นึกให้จริงจังเช่นนี้ จะเกิดความกลัวกรรม เพราะย่อมได้ความเข้าใจว่า กรรมไม่ดีแน่แท้ ที่ทำให้ชีวิตต้องเป็นเช่นนั้น

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร
    วัดป่าแก้วบ้านชุมพล จ.สกลนคร


    "พวกเราท่าน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะประพฤติปฏิบัติได้ อย่าไปอ้างกาล อ้างเวลาว่า วันนี้ฝนตกทำไม่ได้ วันนี้เวลาใดเราควรจะทำ ทำกันไป ชำระกันไป เพราะกิเลสมันไม่หากาลหาเวลา มันเกิดขึ้นได้ทุกระยะ"

    หลวงปู่สิงห์ทอง ธมฺมวโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
    วัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี

    อย่างไปอยู่วัดก็เป็นการฝึกอยู่แบบยากจน
    อยู่กินตามมีตามเกิด

    เขาจัดอาหารอะไรมาให้กินก็กินไป
    เขาจัดที่นั่งที่นอนให้ตรงไหนก็อยู่ไป
    มีเวลาว่างก็ช่วยกันทำงาน รับใช้สังคม
    ช่วยกันล้างส้วม กวาดลานวัด
    ช่วยกันทำอะไรต่างๆ เหล่านี้

    ซึ่งโดยปกติแล้วคนที่อยากเป็นใหญ่เป็นโต
    จะไม่ชอบทำกัน แต่เรามาฝึกสวนทางกับกิเลส
    กิเลสชอบขึ้นสูงเป็นเศรษฐี เป็นคนใหญ่โต
    แต่เราจะมาฝึกเป็นคนยากคนจน คนต่ำคนต้อย

    ทำตัวให้เป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วใครจะเอาไปเช็ดไปทำอะไรก็ได้
    ให้ล้างส้วมก็ล้างได้ ให้ล้างแก้วก็ล้างได้
    ล้างกระโถนก็ล้างได้ ให้ทำอะไรได้ทั้งนั้น
    ถ้าไม่ผิดศีลผิดธรรม
    ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

    หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2016
  13. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    " การระลึกถึงพระพุทธโอวาท
    เป็นเหตุให้จิตผ่องใสเป็นสุข ไม่มากก็น้อย
    ถ้าความระลึกถึงพระพุทธโอวาทมีมากขึ้นทุกๆ วัน
    ก็จะทำให้ผู้ระลึกถึงลดบาป เพิ่มบุญ
    หนุนใจให้ผ่องใสมากขึ้นทุกวัน "

    พระนิพนธ์จากหนังสือ 'ความสุขอันไพบูลย์'
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.8 KB
      เปิดดู:
      92
  14. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

    ไม่เคยเห็นหวั่นไหวในเหตุการณ์อะไร

    เวลา ๔ ทุ่มผ่านไปแล้ว เห็นหลวงปู่ยังนั่งพักผ่อนอยู่ตามสบาย จึงเข้าไปกราบเรียนว่า หลวงปู่ครับ หลวงปู่ขาวมรณภาพเสียแล้ว หลวงปูก็แทนที่จะถามว่า ด้วยเหตุใด เมื่อไร ก็ไม่ถาม กลับพูดต่อไปเลยว่า

    “เออ ท่านอาจารย์ขาว ก็หมดภาระการแบกหามสังขารเสียที พบกันเมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมาเห็นลำบากสังขารต้องให้คนอื่นช่วยเหลืออยู่เสมอ เราไม่มีวิบากของสังขาร เรื่องวิบากของสังขารนี้แม้จะเป็นพระอริยเจ้าชั้นไหนก็ต้องต่อสู้จนกว่าจะ ขาดจากกันได้ ไม่เกี่ยวข้องกันอีก แต่ตามปกติสภาวะของจิตนั้น มันก็ยังอยู่กับสิ่งเหล่านี้เอง เพียงแต่จิตที่ฝึกดีแล้วเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ย่อมละและระงับได้เร็ว ไม่กังวล ไม่ยึดถือ หมดภาระเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้น มันก็แค่นั้นเอง”

    ที่มา : หนังสือหลวงปู่ฝากไว้ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
    รวบรวมบันทึกไว้โดย พระโพธินันทมุนี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 146535.jpg
      146535.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.4 KB
      เปิดดู:
      83
  15. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี


    การภาวนา คือวิธีอ่านตัวเรา
    ให้รู้ความผิด ถูก ชั่ว ดี ได้อย่างถูกต้อง
    ยิ่งกว่าผู้อื่นจะมาคอยชี้แจ้งความบกพร่อง
    ของเราให้ทราบเสียอีก
    ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีกำจัด
    หรือลดละความผิดของตัวที่เคยมีมา
    และปิดกั้นสิ่งไม่ดีทั้งหลายมิให้เกิดขึ้นอีกต่อไปด้วย

    หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เสน ปัญญาธโร
    วัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี


    "สมาธิ คือสภาวะอันมั่นคงของจิตที่ไม่หวั่นไหวในรูป รส กลิ่น เสียง ตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบันรู้เท่าทันการปรุงแต่งในใจตน

    หลวงปู่เสน ปัญญาธโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
    วัดธรรมมงคล จ.กรุงเทพฯ


    "การทำสมาธิต้องใช้เวลา อันนี้คือข้อสำคัญ เพราะการทำสมาธิแต่ละครั้งคือการสะสม การสะสมนั้นก็ต้องทำให้สม่ำเสมอ เช่นเดียวกัน คนรับประทานอาหาร เขาก็ต้องรับประทานอย่างสม่ำเสมอ อาหารก็จะไปหล่อเลี้ยงร่างกายให้มีชีวิต
    เกิดความเจริญวัยใหญ่โตขึ้น การทำสมาธิก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องทำอย่างสม่ำเสมอสะสมไปเรื่อย ๆ ก็จะเจริญมีความพอเพียงแก่ความต้องการ แต่จะมาเรียนลัดเอาไม่ได้ เหมือนนักบิน เขาก็จะต้องเรียนจนครบชั่วโมงบิน จึงจะเป็นนักบินได้"

    จากหนังสือครูสมาธิ เล่ม ๑ หน้า ๑๑๔
    หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จวน กุลเชฎโฐ
    วัดภูทอก อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ


    " ถ้ารู้ธรรม ก็ขอให้สักแต่ว่ารู้ เมื่อรู้แล้วก็นำธรรมนั้น
    มาฟอกซักชำระเสียให้สะอาด ใจเรามันสกปรกมานาน
    ต้องล้างมันออกเสียที อวิชชามันเยอะ มันห่อหุ้มไว้จนหมดมิด

    เมื่อจิตใจหมดจดแล้ว จิตใจผู้รู้นั่นแหละ
    รู้ด้วยสติ ปัญญานะ มันก็จะปล่อยวางธรรมนั้นไป
    จิตของผู้รู้นั่นแหละก็จะทรงอาณุภาพด้วยปัญญาจริง

    ไม่เกาะเกี่ยว ไม่ข้องแวะกับอะไรทั้งสิ้น เป็นปกติใสสว่าง
    เป็นจิตเดิมแท้ๆ ทีนี้แหละอะไรที่ไม่รู้ มันก็จะรู้สิ่งไหน
    ไม่อยากรู้ มันก็รู้ มันก็ตื่น มันก็เบิกบานของมันไป
    รับไปปฏิบัติซะเอามาแล้ว ถ้ามาวางไว้เฉยๆ
    มันจะไปได้ประโยชน์อะไรเล่า "

    หลวงปู่จวน กุลเชฎโฐ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.6 KB
      เปิดดู:
      78
  19. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เพียร วิริโย
    วัดป่าหนองกอง จ.อุดรธานี


    "ครั้งพุทธกาลมีพระองค์หนึ่ง ชอบในรูป ( พระวรกาย ) พระพุทธเจ้า และได้ตามดูท่านอยู่หลายวัน พอพระพุทธเจ้ารู้เข้า ก็บอกว่า เธอตามดูเราตลอดก็ได้ดูแต่อสุภะร่างกายเน่าเปื่อยของไม่เที่ยงนี้เท่านั้น แต่เธอหาได้เห็นเราแท้จริงไม่

    พอพระพุทธเจ้าพูดเท่านี้ พระองค์นั้นถึงได้สติกลับไปประกอบความพากความเพียรไม่ช้าไม่นานก็สำเร็จ ถ้ายังมีความเพียรอยู่ มันก็อยู่ใกล้มรรคใกล้ผล

    ถ้าชอบกายก็ให้พิจารณาร่างกายนี้ ว่ามีแต่ของเน่าเหม็น มันไม่ได้ว่าสวยว่าขาวว่าดำนะ มีแต่เรานี้แหละที่ว่า ตอนนี้เราโชคดีแล้วให้รีบทำเอา ถ้าร่างกายแก่เฒ่ามา ไม่สบายมา เจ็บป่วยมา อยากทำความดีความพากความเพียรมันก็ไม่ได้แล้ว ทำได้ก็ไม่มาก เพราะร่างกายนี้ไม่อำนวยซะแล้ว"

    หลวงปู่เพียร วิริโย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.2 KB
      เปิดดู:
      79
  20. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา


    สัจจบารมี

    “การนอนเป็นเวลา การตื่นเป็นเวลา การรับประทานเป็นเวลา ทำอะไรให้ตรงต่อเวลา ก็ให้มีสัจจะไว้ในใจว่า เราจะทำอะไรให้มันจริงใจสักอย่างหนึ่ง ให้เป็นวิหารธรรมเครื่องอยู่ของใจ ที่คือแผนการสร้างพลังจิตพลังใจ การทำอะไรเป็นเวลาตรงไปตรงมา

    เป็นการสร้างสัจจบารมี ถ้าใครมีสัจจะบารมี มีสัจจะบารมี ใกล้ต่อการตรัสรู้ ถ้าขาดสัจจะความจริงใจแล้วยังห่างพระพุทธเจ้า ผิดรู้ตัวว่าผิด ถูกรู้ตัวว่าถูก ไม่โกหกใคร ผิดรับไปตามผิด ถูกรับไปตามถูก นั่นเป็นการสร้างสัจจบารมี เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายก็ควรจะได้ฝึกตัวเองให้มีสัจจบารมีบ้าง”

    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.1 KB
      เปิดดู:
      86

แชร์หน้านี้

Loading...