พอจะมีใครทราบบ้างว่า ท่านพญานาคสีทององค์นี้มีนามว่าอะไร

พอดีดิฉันไปกราบสรีระหลวงพ่อจรัญที่สิงห์บุรี ขากลับผ่านตรงข้างทางที่ขาย

พวกรูปปั้นต่างๆ แต่ดิฉันไปรู้สึกผูกพันกับรูปปั้น พญานาคองค์นี้มากคือเห็นปุ๊ปก็แบบว่าใช่

เลยค่ะที่ตามหามานาน เพราะฝันเห็นพญานาคสีทองมาหลายปีแล้ว

แต่ดิฉันก็ยังไม่ได้เอากลับมาบ้าน พอตกกลางคืนดิฉันก็ฝันเห็นรูปปั้นพญานาคนี้

อีก ท่านลอยมาหยุดตรงหน้าดิฉันค่ะ ในฝันดิฉันก็ยกมือกราบท่าน ตกใจตื่นมาประมาณ

ตี4 กว่าๆ ดิฉันก็เลยพูดขึ้นมาลอยๆว่า ถ้าอยากมาอยู่ด้วยก็ให้ลูกมีปัจจัยไปนำท่านมาบูชา

ซิ ลูกจะได้บูชาท่านเพื่อสร้างบารมี

ดิฉันก็พูดไปแบบไม่ได้คาดหวังอะไรจริงจัง (คือความรู้สึกมันไม่แน่ใจว่าท่าน

ต้องการอะไร มาหามาเข้าฝันก็ไม่พูดไม่บอกกับดิฉัน ต้องการให้ทำอะไรก็ไม่พูด ดิฉันก็ไม่

รู้ว่าท่าน ต้องการให้ดิฉันทำอะไร คือฝันเห็นท่านร่วม 3 ปีอ่ะค่ะ แต่เคยได้เพรชพญานาคมา

2 เม็ด เข้าไปตอบคำถามในเฟสบุ๊ค และก็เพื่อนสมาชิกเว็บพลังจิต ให้หินดิฉันมาทุบ

ก็เป็นสีทอง ทั้งคู่ค่ะ) พอตกสายๆ มีงานเข้ามาค่ะ ได้กำไรแน่ๆ อยู่หลักหมื่น เง้อ...


ดิฉันก็เลย ต้องไปนำท่านมาบูชาค่ะตามที่ได้พูดไว้ แต่กว่าจะได้ไปต้องรอ

อีก 3 วันเพราะต้องทำงานให้เสร็จก่อนถึงจะได้เงิน ทีนี้ดิฉันก็ปวดหัวอยู่ 3 วันนั้นค่ะคือ

ปวดหัวโดยไม่มีสาเหตุ กินยาก็ไม่หาย จนในที่สุดต้องจุดธูปบอกว่า จะไปรับท่านมาบูชาแน่

นอนค่ะ ก็เลยหายปวด วันรุ่งขึ้นดิฉันก็เลยทำ ขนมวุ้นกะทิไปเลี้ยงเพลผู้ปฏิบัติธรรมที่วัด

อัมพวันด้วย เพราะต้องขับรถข้ามไปอีก 3 จ.เพื่อกลับไปเอารูปปั้นพญานาคที่สิงหบุรี ก็เลย

ได้ไปกราบสรีระหลวงพ่อ จรัญ ท่านอีกครั้งนึง


พอนำท่านกลับมาบ้านวันนั้นตรงกับวันพฤหัส ดิฉันก็จัดบายศรีปากชาม

ผลไม้ 5 อย่าง ดอกบัว 9 ดอก จุดธูป 16 ดอก บอกเจ้าที่เจ้าทาง อันเชิญท่านมาอยู่ด้วย

( ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าท่านชื่ออะไร ก็เลยเรียกท่านว่าพญานาคสีทองในฝัน ) พออีกไม่กี่วันหวย

ออก ( ดิฉันซื้อหวยไม่เป็น แต่ก่อนหวยออกได้ฝันว่า มีงูจงอาง 3 หัวมาไล่กัดดิฉัน ในบ้าน

ไม่ว่าจะหนีไปไหนก็ตามจะกัดตลอด ) ดิฉันก็เลยลองซื้อหวยดู ซื้อ63 36 แหะ แหะ ไม่ถูก

ค่ะ เพราะมันออก 364 ที่น่าเจ้บใจคือ ทะเบียนรถดิฉัน 1264 หวยออกเต็มๆ 1+2= 3

364 เชิญท่านขึ้นรถ หวยก็ออกทะเบียนรถ



ดิฉันก็เลยอยากทราบว่าท่านมีนามว่าอะไร เผื่อว่าจะมีเพื่อนสมาชิกท่าน

ใดรู้บ้าง ดิฉันจะได้เรียกท่านถูกค่ะเวลาบูชา

 

เราก็เคยฝันเห็นพญานาคสีทองเหมือนกันค่ะ เป็นพญาสุวรรณนาคราชหรือปล่าวค่ะ ลองเสริชดูนะค่ะ ท่านเป็นผู้ครองนครบาดาลฝั่งลาวรึปล่าวเราไม่ค่อยแน่ใจค่ะ

 

ดิฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ว่าใช่ท่านพญาสุวรณนาคราชรึไม่ เท่าที่

อ่านในเน็ต ท่านเป็นพญานาคที่สร้างแม่น้ำน่านอยู่ในประเทศไทย เคยเป็นเพื่อนกับพ่อปู่

ศรีสุทธโธแห่งเวียงวังคำชะโนด แต่มีเหตุให้ผิดใจและหมางใจกัน


แต่ที่ฝันเห็นบ่อยๆก็จะเป็นพญานาคสีทอง เศียรเดียวบ้าง 7 เศียรบ้าง

มาหาและพาไปไหว้น้ำ พอตัวดิฉันสัมผัสกับผิวน้ำก็จะกลายเป็นพญานาคสีทองเช่นกัน

ลงตามท่านไปเมืองบาดาล ความรู้สึกดิฉันผูกพันกับพญานาคสีทองมากกว่า พญานาคสี

อื่นๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ มันก็แปลกที่ท่านมาหามาเข้าฝันแต่ไม่ยอมบอกว่า

ท่านชื่ออะไร

 

พญานาคตระกูล ท้าววิรูปักษ์ นาคราชค่ะ
มีกายสีทอง

 

เคยไปกราบหลวงพ่อจรัญเช่นกันค่ะ เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว กลับมาคืนนั้นฝันถึงพญานาคสีแดง
ปล.แค่อยากบอกค่ะ

 

มันก็น่าแปลกนะคะที่คุณdawlong ฝันเห็นพญานาคสีแดง ส่วนของ

ทัศนั้นจะฝันเห็นท่านอยู่บ่อยๆค่ะ แต่เป็นพญานาคสีทอง ท่านมาก็ไม่พูดอะไรค่ะไม่บอกด้วย

ค่ะ ว่าท่านชื่ออะไร

 

น้องผมไปทอดกฐิน ที่วัดถ้ำผาเกิ้ง ภูเวียง มีหลวงพ่อสุบรรณเป็นเจ้าอาวาส พอตอนหลับน้องผมฝันเห็นพญานาค...อาจจะเป็นได้ว่า เราได้พบพระที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ท่านพญานาคที่ดูแลอยู่ที่นั่น
จึงมาสื่อถึง

 

ถึงเวลาท่านคงบอกเองนะคะคุณทัศ
ถ่าท่านไม่อนุญาติก็รู้ไม่ได้นะคะ

เราเคยเห็นแต่เป็น
กายทิพย์....ที่มาทั้งองค์
แบบ...ฟับๆๆ...ล้นบ้านเลย
และคนห่มขาว....
ประมาณนั่น....

เราจะเห็นแบบองค์สีเขียว.....
อาศัยบนอากาศ
และแบบ
ทะลุจอ.....
แบบฉันจำเธอได้แล้ว.....
ดวงตาสะกดจายยยยย.....

ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง.....

 

ข้อมูลพวกนี้ หาจากทางเนทก็พอทราบได้บ้างครับ
ว่าเป็นตระกูลอะไรครับจากสีที่เราเห็นนะครับ...
แต่ถ้าตามหน้าที่เท่าที่เคยพอมีประสบการณ์มาบ้าง
สีดำส่วนมากเป็นทหาร ดูแลตามป่า ตามแม่น้ำ ตามภูเขา
กลุ่มนี้ถ้าปรากฏเป็นนาคลำตัวประมาณรถหกล้อได้ครับ
ถ้าเป็นคนก็แต่งตัวคล้ายๆชุดจงกระเบนขาสั้น เสื้อพอดีตัว
มีบ่าหน้าตาดูจริงๆจังเล็กน้อย
ยังมีที่ดูแลท้องฟ้าด้วย บางคนที่อาจเห็นอาจจะสับสนว่าเป็นมังกรได้
แต่ให้สังเกตุดีๆตรงเขาครับ จะพอแยกกันได้
สีเขียวดูแลวัดวาอารามหน้าหน้ายิ้มแย้มถ้าเป็นเห็นเหมือนคน
และจะเด่นทางด้านป้องกันครับ
สีขาวชอบทำบุญปรากฏตัวชุดขาวทั้งชุดคล้ายชุดที่เราใส่ไปถือศีลที่วัด
สีแดงแผนกเน้นฤิทธิ์หน้านิ่งๆหน่อย แม้ว่าจะอมยิ้ม
แต่จะแฝงความน่าเกรงขามไว้เล็กน้อย
ยกเว้นสีขาวกับดำ ที่เฝ้าอะไรบางอย่างของผู้เป็นเลิศในเมืองบาดาล
ที่ใครที่เคยผ่านเข้าไปได้จะต้องได้เจอครับ..
ส่วนการแสดงฤิทธิ์แสดงได้ทุกสี ขึ้นอยู่กับว่าจะทำไปเพื่ออะไร
แต่สีแดงแสดงได้แม้กระทั่งในสภาพแวดล้อมปกติแบบลืมตา
และมักจะไม่ยอมให้ถ่ายรูปครับ..
สีทองเป็นตระกูลสูงหน่อยมีทั้งทองล้วนๆ ปรากฏกายสวยงามเหมือนเทวดาทั่วๆไป
กับทองปนขาวตามรูป ซึ่งก็รวมทางที่ชำนาญทางวิชาเดินธาตุโบราณด้วย
ส่วนสีเทา สีคล้ายๆไม้ สีดำ ก็อาจพบได้บ้าง
ตามสถานที่ต่างๆ ตามวัด ตามบ้าน
ไม่เว้นแม้กระทั่งในเมืองเพราะเค้าอาศัยมาก่อน
แต่ถ้าตามภูเขา ที่มีประตูเชื่อมไปยังเมืองเค้า
ก็อาจจะเจอได้หลายสีเช่นเดียวกันครับ
ส่วนเรื่องชื่อ ส่วนมากยิ่งระดับสูง ยิ่งไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้
นอกจากว่า ท่านจะบอก และที่สำคัญจะไม่ค่อยพูด
ถ้าพูดให้สังเกตุดีๆว่า พูดเป็นประโยคแต่ว่า
เราจะคล้ายๆได้ยินเป็นคำเดียวครับ...
ที่พูดๆส่วนมากพวกวิญญานมีฤิทธิ์ปลอมตัวเป็นพยานาค..
หรือพวกมาทางสายอสูรกายที่แอบเนียนทั้งหลายครับ
พวกนี้ถ้าเราเผลอไปมีสัมพันธ์ด้วยร่ายกายเราจะป่วย
เป็นโรคอย่างใดอย่างหนึ่งที่หมอรักษาไม่หาย
และสุดท้ายเราก็จะตายเร็วกว่าปกติครับ
เพราะฉนั้นถ้าเจอแบบไม่ค่อยพูดกับเรา
ถือว่าดีแล้วครับ....

ส่วนพระระดับหลวงพ่อที่สิงห์บุรีนั้น ไม่ว่าสีไหนก็ให้
ความเคารพท่านทั้งนั้นครับ. ถ้าสมมุติว่าผมเป็นคนนอก
แล้วไปเห็นว่าวัดนั้น มีพยานาคสีทองปนขาวอยู่
ส่วนตัวจะเข้าใจได้ทันที ๒ ประเด็นว่า ที่วัดนี้หลวงพ่อที่นั้น
นอกจากความสามารถทางจิตจะสูงและระดับสมาธิสูงแล้ว
ยังสามารถฝึกให้บุคคลอื่นๆรักษาตัวเองได้ในสมาธิระดับสูง
หรือท่านก็ต้องมีความสามารถในการรักษาคนอื่นๆได้
ด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งตามแบบของท่านครับ....
ส่วนใหญ่ถ้าบูชาก็ให้ช่วยทางค้าขาย มีโชคบ้างตามกำลังบุญ
ส่วนใครมีที่ตามมาคุ้มครองตัวเราก็ถือว่าดีแล้วครับ ประมาณนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรให้ความเคารพแต่ไม่ควรไปยึดติดครับ
ถ้าไม่งั้นเด่วเราตายไปจะได้ไปเกิดเป็นพยานาคครับ

 

สรุปแล้ว ดิฉันว่าตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเดียวดีกว่า ไม่ต้องไปสนใจอะไรในความฝันให้มากมาย อันนี้ความคิดส่วนตัวนะคะ

 

คุณนพ
อยากฟังนิทาน
...ในภพของพยานาค
คุณนพเล่าให้ฟังหน่อยน๊าาาา
ไม่เอานิทานแห่งความหนาวเย็น
ขอแบบ...อบอุ่นอบอุ่น
เต็มไปด้วย...ที่นี่มีรักนะ

 

สำหรับ....ภาวนา.....
ข้าพเจ้าไม่น่าหนักใจ....
5555+

 

ขอแบบโรแมนติคเลยนะคุณนพ
เล่ามา......
ขอแบบวีดวิ๊วๆ...
แล้วเดี๋ยวข้าพเจ้าล้างความซวยให้ตัวเองเสร็จ
ข้าพเจ้าก็จะเล่าให้ท่านฟังบ้าง
คนละ...1....ภพ
โอเค

 

รอ........

 

รอ:'(

 

ถวายบุญก็ รู้พระนามก็ดี มิรู้พระนามก็ดี

สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

 

ความฝัน นิมิต สัมผัสกิริยาต่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าตอนนั่งสมาธิ
ไม่ว่าจะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิต
จะเป็นตอนนอนหลับสนิท ตอนกึ่งหลับกึ่งตื่น
หรือแม้ว่าจะเห็นผี เห็นวิญญานแบบลืมตาเห็น
ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม...
จำเอาไว้เลยว่า ถ้าเราไม่สามารถทราบวัตถุประสงค์
ได้เลย ณ เวลานั้นหรือทราบภายในเสี้ยววินาที..
ถ้าเป็นไปได้ ให้ถือซะว่ามันไม่เคยเกิดเหตุการณ์
แบบนี้บนโลกใบนี้กับเรา...และควรที่จะ
เลิกไปคิด ไปสนใจ ไปวิเคราะห์ ไปแสวงหา
คำตอบทุกๆกรณี ว่าทำไมฉันถึงเห็น ทำไมผมถึงรู้
แล้วมันคืออะไร เพราะอะไร...ให้เราถือว่า
ฮาๆขำๆก็พอ รู้ก็ช่าง ไม่รู้ก็ช่าง
และให้มาเพิ่มการฝึกเจริญสติทางธรรมให้มันต่อเนื่อง
ฝึกสมาธิสะสมเพิ่มเติมให้มันต่อเนื่องซะ....
เพราะการที่เราไม่สามารถทราบวัตถุประสงค์
และเข้าใจในสิ่งที่เห็นได้นั้น ทางปฏิบัติมันฟ้องว่า
กำลังสติทางธรรมเรามันไม่พอ และการที่เรา
ไม่สามารถตัดในสัมผัสต่างๆได้ ไม่ว่าทางตา หู
จมูก ปาก ลิ้น กาย ใจ และจิต มันก็ฟ้องว่า
ปัญญาทางธรรมเรามันก็ยังไม่พอครับ...

ถ้าเราอยากเข้าใจ และเผลอไปยึด..
จะเป็นการไปสร้างกำลังให้ตรงจุดนั้น..
มันจะขวางการสร้างตัวสติทางธรรมของเรา..
มันจะปิดกั้นตัวจิตเราไม่ให้เป็นกลางทำให้เรา
ไม่สามารถเดินปัญญาทางธรรมเพื่อ ลด ละ คลาย
กิเลสต่างๆได้ ซึ่งพวกนี้เป็นหลักสำคัญทางพุทธศาสนาครับ....

ถ้าเรามั่นใจและไปยึดในสิ่งที่เห็น...
สำหรับทั่วๆไป..
นอกจากกำลังสติและปัญญาเราจะน้อยแล้ว...
ซึ่งมันจะทำให้เราขาดภูมิต้านทาน กระแสพลังงาน
ภายนอกที่ไม่ดีต่างๆ ทุกๆกรณี ภูมิต้านทานของร่าง
กายเราก็จะน้อย ทำให้เราผลักเคลียร์กระแสไม่ได้
จะเป็นเหตุหลักที่จะทำให้เราต้องป่วยเป็นโรคร้ายแรงได้
หรือป่วยเป็นโรคอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่การแพทย์ปัจจุบัน
ไม่สามารถรักษาให้หายได้ และทำให้เราเป็นเรื้อรังด้วยครับ
ซึ่งทุกโรคที่เราเป็นสามารถทำให้เราเสียชีวิตได้ อายุสั้นได้...

และในทางปฏิบัติสำหรับนักปฏิบัติ..
มันจะขวางความก้าวหน้าในทางปฏิบัติของเราครับ..
มันจะหลอก จะสร้าง จะทำให้เรากลายเป็นคนหลงตัวเอง
อย่างที่เราคาดไม่ถึงครับ..มันจะทำเหมือนให้เรามั่นใจ
ในสิ่งที่เราทำได้ ในสิ่งที่เรามี ในสิ่งที่เราเป็น ว่าตัวว่าตน
ทั้งๆที่ปัญญาทางธรรม ในการถ่ายทอด ในการการสอน
ในการแนะนำเราไม่มี มันก็ยังสร้างให้ตัวจิตเราคิดว่าตัว
เองเป็นที่สุด คิดว่าง่าย คิดว่าหมู ทั้งๆที่เราไม่มีความสามารถ
ที่จะแสดงให้คนอื่นๆ รับรู้ รับทราบ ถ่ายทอดได้ สัมผัสได้
ใช้งานจริงๆที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆก็ไม่ได้
มันก็ยังทำให้เราหลงตัวเองได้อย่างประหลาดครับ...
ตรงนี้ต้องระวังให้ดีๆนะครับ...

และยิ่งถ้าตัวเองพอมีสัมผัสบ้าง และยิ่งไปยึดติด
อดีตต่างๆ สัมผัสต่างๆที่ผ่านมาอย่างเป็นวรรคเป็นเวร
ประกันได้ว่า นอกจากหลงตัวเองว่าเก่งกว่าใครเขา
คิดว่าการปฏิบัติของตัวเองเป็นที่สุด(คิดหลงยึดว่าเป็นที่สุด)
ทั้งๆที่ไม่มีความสามารถแสดงให้เกิดประโยชน์
เป็นรูปธรรมได้ แนะไม่ได้ ถ่ายทอดไม่ได้
ไปยึดเรื่องโน้น นี่นั้นไปเรื่อยๆ พอเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา
จากเรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ มองว่าเรื่องตัวเองเป็นที่สุด
ขาดกำลังจิต ขาดกำลังสมาธิในการใช้งานภายนอก
รับรู้ รู้สึก เห็นสัมผัสอะไรต่างๆอยู่แค่ตัวเองคนเดียว...
ที่สำคัญ ร้อยละร้อย จะเจ็บป่วยทุกราย ตามด้วยโรค
ที่ตัวเองรักษาไม่หาย หมอหาสาเหตุไม่เจอ และเอาไป
เอามาก็จะมีอาการเพี้ยนๆได้อย่างที่เราเองคาดไม่ถึงครับ
ที่สำคัญคือ คนอื่นๆบอกได้ยากครับ...

ท้ายนี้คิดอะไรไม่ออก ก็ไม่ต้องไปคิดครับ จะเรื่องสัมผงสัมผัส
อะไรเกิดมา ไม่ว่าหลับตา ลืมตาก็ช่างมัน ไม่ต้องไม่คิด วิเคราะห์
ระลึก อยากค้นคำตอบอะไร ฝึกสติเดินปัญญาไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ใข่
นักปฏิบัติหรือนักปฏิบัติ ก็พอฮาๆ ขำๆไป ไม่ต้องไปยึดไปอะไรกับมันครับ
เรื่องนามธรรมพวกนี้ ไม่เข้าถึงได้จากการปฏิบัติไม่ใช่การคิด วิเคราะห์
แยกแยะ ตัวที่จะบอกเราเกี่ยวกับนามธรรมคือ ตัวสติทางธรรมครับ
ตัวที่จะทำให้เราไม่ยึด ไม่เผลอติด ไม่หลง ก็คือ ตัวปัญญาทางธรรมครับ
ถ้าเรามีทั้งสติทางธรรมเพียงพอ ปัญญาทางธรรมเพียงพอ
พวกอะไรต่างๆเกี่ยวกับนามธรรม ตัวจิตเรามันจะมีเครื่องรู้
ย้อนระลึกรู้ได้ทุกเรื่องในอดีตของมันเอง
และการรู้แค่เพียงวิสองวิ บางทีเราต้องอธิบายหรือ
เขียนเป็นหน้ากระดาษเลยครับ..
และที่สำคัญปัญญาทางธรรมตรงนี้
ก็จะเป็นตัวทำให้จิตเราคลาย จิตเราตัดเรื่องต่างๆเหล่านี้ได้เอง
ในเวลาปกติ จิตเราถึงจะคลายตัวได้ของมันเองครับ...
อย่างท่านที่พ้นแล้วคือ ตัวจิตท่านจะคลายตัวเองได้
เพราะไม่ยึดเรื่องอะไรตลอดทั้งวันครับ เราเป็น
มนุษย์ ปถุชน คนธรรมดา เราก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
เริ่มจากวินาทีให้ได้ก่อนครับ และก็อย่าไปสร้างเหตุ
คิด ระลึก วิเคราะห์ แยกแยะ วิพากษ วิจารณ์นามธรรมอะไร
หรืออะไร เพื่อให้จิตมันก่อตัวอย่างที่เราคาดไม่ถึงครับ

ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังนะครับ...

 

ร

สมาธิรักษาโรคได้นะคุณนพ
อดีตเป็นสิ่งที่สอนเราได้
เพิ่มกำลังจิตใจนะคุณนพ
เช่น....
ทำไมคนนี้..ทำอย่างนี้..เป็นอย่างนี้..ไปตรงนี้
อ้อเขาทำตรงนี้เขาถึงได้ตรงนี้
เขาทำกรรมอย่างนี้เขาเลยไปเกิดอย่างนั้น
จิบมากคุณนพที่คนปฎิบัติและค่อยๆละกิเเลส
จะเป็นบ้าหลงในภพ
นะคุณนะ...
เพราะเมื่อเห็นเหตุและรู้ผลแล้ว
ใครอยาก..กลับไปเสวยเมื่อเรารูควทมจริงแล้ว
ว่ามันไม่เที่ยง
มันเป็นทุกข์
แค่สนุกๆขำๆ..เว้นภาวนาก็พักผ่อนหย่อนใจ
ด้วย...อดีต...ปัจจุบัน...อนาคต
ก็อาบน้ำ..แต่งตัว.เตรียมใจ.รอ
เพราะไม่มีอะไรบนโลกใบนี้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ
เว้นแต่กรรมมาบันจบ
ว่าจะเอ๊...ได้เวลาเจอกันแล้ว
เอ๊...เราเคยเจอกันที่ใหนรึป่าวคับ
5555+

 

ขอบพระคุณมากนะคะคุณนพ ที่ช่วยเตือนสติ อ่านเม้นท์ของคุณนพแล้วก็พอ

จะเข้าใจค่ะ ทัศเองก็ละเว้นการปฏิบัติมาพอสมควร แรกๆทัศก็สงสัยนะคะพยามหาคำตอบ

อยากรู้ อยากเห็น อยากสัมผัสได้ ( ตอนนี้ก็ยังรู้สึกอยู่ค่ะ แต่ใจเย็นขึ้นเยอะเลย ) ทัศเองมี

ความเชื่อความศรัทธาในสิ่งลี้ลับ ค่อนข้างพอสมควรเพราะเคยได้สัมผัสพบเจอมากับตัวเอง

ก็หลายครั้ง แต่บนพื้นฐานความเชื่อทัศไม่งมงายนะคะ พระรัตนตรัยคือสิ่งสูงสุดในชีวิตที่

ตัวทัศ ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต อาจจะมีหลงทางบ้าง เดินถูกทางบ้าง นั่นเพราะ

บางช่วงขาดสติระลึกรู้ แต่ก็จะนำพาตัวเองกลับมาให้ถูกทางได้เสมอแม้จะทำได้ไม่ดีที่สุด


หลายครั้งที่ฝัน ส่วนใหญ่จะจำเรื่องราวได้พอสมควร ถ้าเกี่ยวกับพญานาค

องค์นี้ เพียงแต่ท่านไม่พูดมากจะใช้สายตาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสายตาที่ทัศมองแล้วรู้สึก

อบอุ่นทุกครั้งเพราะท่านจะเปี่ยมไปด้วยความเมตตาปราณีอย่าล้นเหลือ และมีความน่าเกรง

ขามปนอยู่ด้วย ลักษณะของท่านที่ทัศเห็นเป็นร่างพญานาคและเป็น มานพหนุ่มนั้น สง่างาม

มีรัศมีสีทองอยู่รอบๆตัวของท่านตลอดเวลาที่เห็น ท่านพูดน้อยมากค่ะ และไม่ได้บอกว่า

ท่านมีนามว่าอะไร " ทัศเองบางครั้งก็คิดนะคะว่ากินมากก็ฝันมาก รึว่าจิตเรามโนภาพไปเอง

รีเป่ลา" แต่ก็พอจะมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่า ไม่ได้คิดไปเอง

ส่วนรูปปั้นพญานาค ทัศก็ไม่คิดอะไรค่ะ คิดว่าเป็นเหมือนของตกแต่งบ้าน

เพราะทัศเองรู้สึกผูกพัน กับพญานาคสีทองมาตั้งแต่จำความได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

วันนึงถ้าทัศปฏิบัติจริงจัง พบแนวทางการปฏิบัติ ที่ถูกต้องและเหมาะสม อาจมีหนทางที่จะ

หาคำตอบได้ รึอาจจะไม่มีวันรู้ก็ได้ แต่ความรักความศรัทธาต่อพญานาคทุกสายญานก็จะ

คงอยู่ แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทัศยกให้อยู่เหนือเกล้า....










ขอบพระคุณมากค่ะคุณนพ ช่วงนี้ทัศเองก็ละเว้นการปฏิบัติมาพอสมควรค่ะ

ตอนนี้เริ่มเฉยๆแล้วค่ะ ถ้าเป็นตอนแรกๆที่ฝัน ก็จะอยากรู้อยากหาคำตอบ ใจไม่ค่อยสงบสุข

เท่าไหร่ ขอบพระคุณมากนะคะที่เตือนสติ การอยากรู้รึว่าระลึกชาติ

 

จะถาม..คุณนพ
เป็นอะไรกับ."ลม"มั๊ย
รู้สึกนะ