แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 เมษายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บัว สิริปุณโณ
    วัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี


    เพราะสตินี้จะเป็นฐานสู่ความสงบของจิต จนเข้าสู่กระแสของปัญญาได้โดยง่ายทำไมต้องมีการฝึกหัดปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะไปที่วัดไหน สำนักไหน ก็มีการให้ฝึกสมาธิ ฝึกเพื่ออะไร ก็ฝึกเพื่อให้สติเรากล้าแข็งนี่แหละ

    เมื่อเรามีสติอยู่เสมอ จะทำการทำงาน หรือคิดอะไรก็เป็นของง่ายไปหมด จึงเป็นที่มาของคำว่า "สติมา ปัญญาเกิด"

    หลวงปู่บัว สิริปุณโณ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.1 KB
      เปิดดู:
      71
  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี


    "ใช้ปัญญาพินิจพิจารณาเรื่องภูเขาภูเราคือร่างสกลกายนี้ หนังห่อกระดูกเท่านั้นละดูไป เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ ตโจนี้คือหนังหุ้มแล้วนั่น พอว่า ตโจ เท่านั้นครอบไปหมดทั่วสกลกาย เปิดหนังออกแล้วมีแต่เนื้อมีแต่กระดูกตับไตไส้พุง
    มีแต่ถังขยะเต็มไปหมดภายในร่างกายของเรา นี้หรือสัตว์นี้หรือบุคคล นี้หรือหญิงนี้หรือชาย รักกันที่ตรงไหน ติดพันกันที่ตรงไหน ราคะตัณหาเกิดขึ้นจากอะไร เกิดขึ้นเพราะกระดูกนี้หรือ

    ถ้ามีแต่กระดูกล้วน ๆ ราคะไม่เกิด มีแต่หนังล้วน ๆ ราคะไม่เกิด ตับไตไส้พุงล้วน ๆ ราคะไม่เกิด มันเกิดขึ้นจากความเสกสรรปั้นยอของกิเลสที่เอาหนังมาหุ้มเข้าปั๊บทันทีแล้วข้างในจะสกปรกขนาดไหนก็ตาม ข้างนอกมีผิวบาง ๆ ห่อไว้ เพราะฉะนั้นท่านจึงสอนให้ทำลาย นี่ละเรียกว่าปัญญา พินิจพิจารณาแยกแยะหลายครั้งหลายหน เที่ยวกรรมฐานอยู่ในสกลกายของเรานี้ ข้างบนข้างล่างด้านขวางสถานกลางดูให้ตลอดทั่วถึง หลายครั้งหลายหนไม่นับเที่ยว เอาความชำนิชำนาญเป็นประมาณ

    จิตใจเมื่อได้เข้าใจตามสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ตามหลักความเป็นจริงนี้แล้ว ย่อมจะคลายความกำหนัดยินดี คลายความยึดมั่นถือมั่นออกมาเป็นลำดับลำดา เห็นชัดเข้าไปตรงไหนถอนตรงนั้น ๆ นี่ท่านเรียกว่าปัญญา พิจารณาเห็นชัดเจนตามหลักความเป็นจริงแห่งสกลกายนี้ ราคะตัณหาพังเลย"

    เทศน์อบรมคณะวัดโพธิสมภรณ์ ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘


    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7 KB
      เปิดดู:
      70
  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร


    มีคำถามว่า การ "ข้ามหลง" จะข้ามด้วย "วิธีไหน" ได้หนอ

    ตอบย่อ ๆ พอฟังได้ง่าย ๆว่า ข้าม "ผู้รู้".

    "รู้"ได้โดย "มิได้ยึด" ถือว่า "ผู้รู้" เป็น "เรา เขา สัตว์ บุคคล ตัวตน" ใน "ขณะจิตใด" ๆ เลย แล้วได้เรียกว่าเรา "ข้ามความหลง" ได้โดย "สิ้นเชิง" โดยประการทั้งปวง

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      211.9 KB
      เปิดดู:
      172
  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อชยสาโร ภิกขุ
    ที่พักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา


    ทุกวันนี้ปรากฏว่ามีชาวพุทธมากมายที่ถือว่าความร่ำรวย การมีอำนาจ ชื่อเสียง ยศฐาบรรดาศักดิ์ ความพรั่งพร้อมด้วยวัตถุ คือยอดความสุขของฆราวาส ความคิดอย่างนี้ท่านเรียกว่า “มิจฉาทิฐิ”

    เพราะจะเป็นเหตุของการประพฤติที่เป็นพิษเป็นภัยแก่ตนเอง ต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อม มันไม่เป็นความจริง ความสุขดังกล่าวเป็นแค่ความสุขระดับล่าง ย่อมมีทุกข์ไม่มากก็น้อยเจือปนอยู่เสมอ

    ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็น “เอหิปัสสิโก” คือชวนมาดู ทนต่อการพิสูจน์ ท่านไม่ต้องการให้เราเชื่ออะไรง่ายๆ ท่านต้องการให้เราเอาคำสอนไปดู เทียบเคียงกับชีวิตของเราว่าจริงไหม

    พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า โดยปกติชีวิตของมนุษย์ไม่เป็นสุข เพราะหลงยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ว่าเป็นเรา เป็นของเรา การฝึกให้เห็นสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ถอดถอนอุปทานจนจิตเป็นอิสระพ้นการบีบคั้นของกิเลส คือการเข้าถึงความสุขที่แท้จริง ในสายตาของนักปราชญ์ เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ความสุขอย่างอื่นก็เป็นเหมือนของเด็กเล่น

    หลวงพ่อชยสาโร ภิกขุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.4 KB
      เปิดดู:
      66
  5. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
    วัดญาณสังวราราม จ.ชลบุรี


    สติ คือ เหตุ สมาธิคือ ผล ถ้ามีสติใจจดจ่ออยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง นั่งไปนานๆ มันก็จะรวมเข้าไปสงบ พอสงบก็เป็นสมาธิ สติเหมือนตัวกินข้าว กินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพออิ่มแล้ว คำว่าอิ่มนี้ก็คือสมาธิแล้ว ผล เวลานั่งพุทโธๆ อย่างนี้เรียกว่า สติ พอจิตสงบปั๊บ พุทโธหายไป ทุกอย่างสงบนิ่ง อันนี้ก็เป็นสมาธิแล้ว

    แต่คุณไม่เคยเจอสมาธิคุณเลยไม่รู้ นั่งเจริญสติเพื่อให้มันเป็นสมาธิเพื่อให้จิตสงบ คำว่า สมาธิแปลว่าสงบ สติแปลว่าการจดจ่อ การเพ่งอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง เช่นอ่านหนังสืออยู่การอ่านหนังสือนี่ก็เรียกว่ามีสติ อยู่กับการอ่านหนังสือ แต่ทางโลกเรากลับไปใช้คำว่าสมาธิแทน ความจริงมันต้องใช้คำว่าสติ แต่กลับไปใช้คำว่าสมาธิ ผิด ผิดภาษาเข้าใจไหม มันไม่ใช่สมาธิ เวลาตั้งใจทำงานนี้เรียกว่า มีสติในการทำงาน ไม่ใช่มีสมาธิในการทำงาน เพราะสมาธินี้มันไม่ทำอะไร มันหยุดทุกอย่าง

    สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
    หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.6 KB
      เปิดดู:
      86
  6. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมท่านพ่อลี ธมฺมธโร
    วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ


    ขณะที่เราจะทำอะไรก็ตาม ต้องหมั่นตรวจดูว่าตัว บุญกุศลที่แท้จริง นั้นมีอยู่ในใจเราหรือไม่

    บางคนทำบุญ แต่ใจเป็นบาป ก็เปรียบเหมือนข้าวหลามที่ข้างหน้าปากกระบอกมันก็สุกขาวดี แต่ก้นกระบอกยังเป็นข้าวสารดิบอยู่ หรือไหม้ดำเกรียม เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าวหลามนั้นก็ไม่เป็นอันกิน เพราะมันดีไม่ทั่ว

    คนเรานั้นโดยมากกายกับใจมักไม่ค่อยจะตรงกัน บางคนทำทานแต่ใจก็ยังโลภอยู่ เช่นคนที่ทำทาน เพราะปรารถนาอยากร่ำรวยเป็นเศรษฐี ทำบาทเดียวจะขอแลกเอาตั้งหมื่นตั้งแสนก็มี

    บางคนรักษาศีล แต่ใจก็ยังโกรธเกลียดพยาบาทอิจฉาริษยาคนนั้นคนนี้อยู่ บางคนนั่งสมาธิภาวนา เพราะอยากไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้าอยู่บนสวรรค์

    บางคนก็อยากจะเป็นนั่น เป็นนี่ ล้วนแต่ต้องการสิ่งตอบแทนทั้งนั้น บุญกุศลอย่างนี้ก็ยังใช้ไม่ได้

    ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      144
  7. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี


    "กรรมแก้ไม่ได้ เพราะเป็นหลักธรรมชาติ จึงสอนให้ปรับปรุงตัวเองให้เข้าสู่กรรม กรรมดีให้บำเพ็ญ กรรมชั่วให้ละท่านสอนอย่างนั้นด้วยกันทั้งนั้น"

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47 KB
      เปิดดู:
      62
  8. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก
    วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น


    “เรามาก็มาด้วยความเป็นอนิจจัง ที่เราจะไปข้างหน้าก็เพราะอนิจจัง เมื่อเขาตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ตัวเราเองตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหนเราก็ไม่รู้ ความแก่ ความเจ็บ ความตายมันมีประจำกันทุกคน มันน่าสังเวช อยู่กันดี ๆ แล้วก็จากกันไปซึ่ง ๆ หน้า โดยไม่มีการปรานีปราศรัย ไม่มีการยกเว้นแก่ใครเลย

    เมื่อถึงคราวของเขา เราจะมีงานหรือสมบัติที่จะต้องรักษาอยู่ก็ตาม เมื่อความตายมาถึง มันก็จัดการไปตามหน้าที่ เราก็อยากอยู่อย่างนี้ไปตลอด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ไม่มีอะไรป้องกันได้เลย เราจะมีเงินทองมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้หนีจากอนิจจังไปได้

    เราจึงต้องมาทำความดี มาหาความดีให้ตัวเอง ก่อนที่อนิจจังมาถึง”

    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก
    อบรมภาวนาค่ำ 23/5/2555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67 KB
      เปิดดู:
      170
  9. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
    วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม จ.นครราชสีมา


    "สิ่งที่ผ่านมาก็เหมือนพยับแดดเดี๋ยวมันก็สลายไป ผ่านไปแล้ว ให้เรารู้จักรู้แจ้ง ตรงนี้เองที่เราจะต้องปฏิบัติ ว่าเราจะไม่ตามอารมณ์ ไม่ตามสิ่งแวดล้อมไป ถ้าเราตามไปก็จะมีความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก
    มีความทุกข์มาก มีความทุกข์หลาย เลยเป็นคนไม่มีพุทธะ พุทโธ เพราะพระพุทธเจ้าให้เราฝึกไปทุก ๆ วัน อย่าไปทอดธุระ อย่าไปพลั้งเผลอ อย่าประมาท อย่าใจอ่อน มันชอบใจอ่อนคนเรานะ มันต้องใจแข็ง ใจเด็ดขาด ใจตั้งมั่น
    มีความซื่อสัตย์ จริงใจต่อตนเอง ต่อการประพฤติปฏิบัติธรรมของเรา

    อย่าเป็นคนอยู่เหมือนกับคนไม่มีเจ้าของ มีจิตใจล่องลอยเหมือนคนนอนหลับแล้วก็ฝันไป วันหนึ่ง ๆ ก็ลอยไปลอยมา ไม่มี 'พุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน' คนเราถ้าทำดีไม่หยุดมันต้องได้ดี ทำดีทั้งทางจิตใจ ทั้งคำพูด ทำดีในการกระทำให้ทำไปเรื่อย ๆ"

    หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.6 KB
      เปิดดู:
      68
  10. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ก้าน ฐิตธัมโม
    วัดราชายตนบรรพต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์


    "เราเป็นลูกเราเกิดมาได้อย่างไร เราเกิดมาจากพ่อจากแม่ใช่ไหม การที่เราเป็นตัวเป็นตนมาได้ ก็เพราะเราเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อแม่ใช่ไหม เรามีแต่วิญญาณ ร่างกายเป็นของพ่อของแม่ ดังนั้นเวลาที่เราไปไหนมาไหน ก็ให้คิดเสมอว่า
    เราไม่ได้ไปเพียงลำพังคนเดียว เราไปกันสามคน เราเอาพ่อเอาแม่ไปด้วย เอาเงาไปด้วย เงาก็คือบุญบาปนั่นเอง จะทำอะไรต้องคิด ว่าเราทำไปแล้วเป็นเรื่องผิดเรื่องไม่ดี เป็นเรื่องที่ต้องได้รับความเดือดร้อนไหม ถ้าเป็นเรื่องผิด เรื่องไม่ดี เรื่องเดือดร้อน

    พ่อแม่ของเราก็จะได้รับไปด้วย นั่นเท่ากับเราทำบาปให้กับพ่อแม่ แต่ถ้าเราหมั่นแต่ทำสิ่งที่ดีงาม พ่อแม่ก็จะได้รับสิ่งที่ดีงามไปกับเราด้วย นั่นเรียกว่าเราทำบุญให้กับพ่อแม่ ก็ขอให้ลูก ๆ ทุกคนรู้จักคิดให้ดี"

    หลวงปู่ก้าน ฐิตธัมโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.7 KB
      เปิดดู:
      67
  11. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต
    วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง


    " ตัณหา มีคุณค่า เพราะความอยาก
    มีพิษมาก อยู่ภายใน ไม่ใคร่เห็น
    ไฟเผาขันธ์ คันแล้วเกา เผาคนเป็น
    จิตตื่นเต้น เห็นรูปนาม เมื่อยามเมา
    ความเห็นผิด จิตเชื่อตา พาให้หลง
    เห็นรูปทรง ว่าสวยงาม เพราะความเขลา
    หลงด้วยรส หวานมัน คันแล้วเกา
    พิษความเมา หุ้มห่อจิต ปิดหนทาง "

    หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวันโต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104 KB
      เปิดดู:
      59
  12. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    ทำไมต้องภาวนา

    "ทำไมต้องภาวนากัน ภาวนาทำไมจึงต้องหลับตา ทำไมจึงต้องนั่งขัดสมาธิ นี่แหละมันมีหลายเรื่อง คำว่า "ภาวนา" นั้นไม่ใช่แต่ว่า จะนั่งสมาธิหลับตาเท่านั้น จะอยู่ในท่าใดอริยาบถใดได้ทั้งนั้น"

    "ภาวนาไม่ใช่การได้ เป็นการทิ้ง ทิ้งของไม่ดี ชำระของไม่ดีที่มันติดที่ใจของเรา" แต่เราไม่ทราบ ถ้าไม่ค้นหาก็ไม่ทราบและไม่ทราบจะเอาไปทิ้งที่ไหนด้วย เพราะเหตุนั้น จึงมาหัดภาวนา "ให้มันเห็นของไม่ดี ที่อยู่ในใจเรา แล้วทิ้งของอันไม่ดีนั้นเสีย" นี่คือการภาวนา

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.3 KB
      เปิดดู:
      61
  13. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
    วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม จ.นครราชสีมา


    "ส่วนใหญ่นักปฏิบัติจะเน้นแต่เรื่องข้างนอก
    แล้วก็ส่งใจออกไปข้างนอก
    จะพยายามแก้ไขแต่ข้างนอก
    มันเป็นความเข้าใจผิด เป็นความเห็นที่ผิด
    เป็นมิจฉาทิฏิฐิ เป็นอัตตาตัวตน

    “ปัญหาต่างๆ มันอยู่ที่ตัวเรา
    พระพุทธเจ้าท่านให้เราเข้าใจเสียใหม่
    ถ้าไม่อย่างนั้นมันพุ่งไปข้างนอกเรื่อยนะ”

    เราอยู่ที่ไหนเราก็สบายอยู่ที่นั้น
    ถ้าเราไม่มีกิเลส ไม่มีตัว ไม่มีตน
    ที่สบายของเราก็คือ
    ไม่มีกิเลส ไม่มีตัว ไม่มีตน
    ถ้าเราไม่มีตัวไม่มีตน
    จิตใจของเราจะสัมผัสกับพระนิพพานได้"

    ที่มา: สมบัติของพ่อ เล่มที่ ๒
    หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97 KB
      เปิดดู:
      103
  14. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จันทา ถาวโร
    วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร


    เรือที่ออกทะเลปฏิเสธความจมไม่ได้เช่นใด
    ชีวิตของเราปฏิเสธอุปสรรคไม่ได้เช่นกัน

    หลวงปู่จันทา ถาวโร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      222.1 KB
      เปิดดู:
      65
  15. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตาศิริ อินทสิริ
    วัดถ้ำผาแดงผานิมิต อ. น้ำพอง จ. ขอนแก่น


    "ผู้ที่มีกายดี วาจาดี ใจดี
    กายประเสริฐ วาจาประเสริฐ ใจประเสริฐ

    เรียกว่าปิดอบายภูมิให้เจ้าของได้"

    หลวงตาศิริ อินทสิริ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.3 KB
      เปิดดู:
      60
  16. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
    วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร


    "โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ต้องอาศัยการควบคุมตนให้ได้ ใจให้สงบระงับ มั่นคง บริสุทธิ์อยู่ ไม่เบียดเบียนใครผู้ใด เช่นนี้ ก็พอจะอยู่ได้บ้างอย่างมีสุข"

    หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.8 KB
      เปิดดู:
      57
  17. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


    เราเกิดมานับเป็นแสนชาติอนันต์
    ซึ่งจะได้พบปะโอวาทคำสั่งสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธนี้ ก็สุดวิสัย
    อย่าพึงพากันเข้าใจว่าเป็นของหาได้ง่าย

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      165.2 KB
      เปิดดู:
      66
  18. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระคติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    อย่าเป็นผู้ปฏิเสธในเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรม
    อย่างปราศจากเหตุผล
    คือ อย่าปฏิเสธดื้อๆ ว่า
    ใครจะเคยเกิดเป็นอะไรมาก่อนก็ตาม ก็ไม่ใช่เรา
    เราไม่เคยเกิดเช่นนั้นแน่ คนจะเกิดมาเป็นสัตว์ไม่ได้
    สัตว์จะไปเกิดเป็นคนก็ไม่ได้ ไม่มีเหตุผล
    เป็นความเชื่อที่ปราศจากเหตุผล
    เป็นคนสมัยใหม่แล้วจะเชื่ออย่างนั้นไม่ได้
    เพื่อความไม่ประมาท จงอย่าปฏิเสธโดยไม่รู้จริงเช่นนี้
    เพราะวันหนึ่งจะหนีไม่พ้น ผลที่น่ากลัวนักของกรรม

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.4 KB
      เปิดดู:
      70
  19. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ
    วัดระหาน (เกาะแก้วธุดงคสถาน) จ.บุรีรัมย์

    จงปรารถนาพระนิพพาน

    “นิพพานัง ปรมัง สูญญัง”
    ให้สูญจากเงินจากทอง จากข้าวจากของ
    คือละวางได้ แม้แต่ร่างกายนี้ก็ให้สูญญัง
    ญังคือญังตัวจิต หรือญังตัวผู้รู้
    ญังตัวดีๆน่ะ สูญหมด มันไม่เป็นตัวประโยชน์
    ทำไมมันจะไม่สูญหล่ะ
    เราเกิดมาควบคุมก็เอาไม่อยู่ร่างกาย
    แต่ละอย่างๆ มันสูญไป สูญไป
    ถึงที่สุดก็ตาย “ละ” แปลว่า “สูญจากกัน”
    แล้ววัตถุสิ่งของที่สร้างเอาไว้ๆ
    ไร่นาสาโท มรดกเงินทอง สูญอีก ทิ้งหมด
    เพราะของเหล่านี้เป็นได้ชั่วคราวในโลกนี้
    คนได้มากๆ คนได้น้อยๆ ก็ชั่วคราว
    แค่ประดับศักดิ์ศรีเกียรติยศเอา

    หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.6 KB
      เปิดดู:
      79
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2016
  20. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตาผนึก สิริมงคฺโล
    วัดป่าเขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์


    ตั้งใจปฏิบัตินะ ชาตินี้ไม่ได้ ก็ปฏิบัติต่อไปอีก
    อย่าเบื่อหน่ายต่อการปฏิบัตินะ
    ชีวิตจริง ๆ แล้วไม่มีอะไร มีแต่เกิด
    เกิดแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย
    ไม่มีสุดหรอก ถ้าเราเอาจิตพิจารณาให้ถึงธรรมแล้ว
    โอ๊ย สังเวชนะ

    หลวงตาผนึก สิริมงคฺโล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.2 KB
      เปิดดู:
      64

แชร์หน้านี้

Loading...