พระเครื่องวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง(แท้ ดูง่าย)

รายการที่ 342 เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน



ปฐมบท
ท่านเป็นอีกหนึ่งพระคณาจารย์ดังของ จ.อ่างทอง ควบคู่ไปกับหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ วัตถุมงคลที่สร้างและปลุกเสกเอาไว้ มีมากมายหลายชนิด แต่ที่รับความนิยมสูงพร้อมทั้งมากล้นประสบการณ์ก็คงหนีไม่พ้น เบี้ยแก้ ท่านได้ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมพร้อมทั้งสรรพวิชาต่างๆ กับพระอธิการพ่วง และพระครูธรรมสารรักษา(อ้น) วัดบุปผาราม พระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ต่อมาท่านได้ศึกษาด้วยตนเองจากตำราโบราณต่างๆอย่างเชี่ยวชาญ ท่านเป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ได้แลกเปลี่ยนวิชาเวทย์วิทยาคมกับอีกหลายพระคณาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ จะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ




ความเป็นมา
เบี้ยของท่าน จะเป็นเบี้ยเปลือยไม่มีการถักเชือก ส่วนการเลี่ยมจับขอบด้วยเนื้อทองคำ เงิน นาค นั้น แล้วแต่ลูกศิษย์ที่ได้รับจะนำไปเลี่ยมกันเองไม่ได้เลี่ยมมาจากทางวัด มักนิยมนำเบี้ยไปที่ร้านทองในตลาดวิเศษชัยชาญ เป็นร้านเดียวกันกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ นำไปเลี่ยมกัน ฉะนั้นลักษณะการเลี่ยมเบี้ยแก้ของทั้งสามสำนักนี้จึงมีลักษณะคล้ายกัน เพราะเลี่ยมร้านเดียวกันนั่นเอง การพิจารณา ในการจะแบ่งแยก เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์จะตัวใหญ่กว่าของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ และหลวงพ่อนุ่น วัดนางใน




จุดที่ใช้ในการสังเกต
เบี้ยลูกนี้เป็นของหลวงพ่ออะไร ดูจากการปิดท้องเบี้ยภายหลังบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ยแล้วจะปิดทับด้วยชันโรง
-เบี๊ยแก้หลวงพ่อนุ่ม จะวางแปะแผ่นตะกรุดเนื้อตะกั่วแล้วปิดทับด้วยชันโรงทับอีกชั้นหนึ่งปิดแผ่นตะกรุดตะกั่วไว้ด้านใน
-หลวงพ่อภักตร์ จะใช้ตะกรุดเนื้อตะกั่วชินเงินแปะทับ
-หลวงพ่อคำ วางแปะด้วยแผ่นตะกรุดเนื้อทองแดง และที่สำคัญมากๆคือเสียงของปรอทของหลวงพ่อคำ จะแตกต่างจากของหลวงพ่อภักตร์และหลวงพ่อนุ่ม โดยสิ้นเชิง



พุทธคุณ
มีคุณวิเศษเหนืออนันต์ และประสบการณ์มากมายไม่แพ้เบี้ยแก้ดังๆของสำนักอื่นใด ป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุการณ์ร้ายให้กลับกลายเป็นดี คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตาค้าขาย และเหมาะที่จะใช้พกพาติดกายไปทุกๆที่ ไม่เว้นแม้แต่สถานที่ “อโคจร”



เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน
บูชา 4300 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

***กราบ กราบ กราบ ขอแสดงความเคารพ และขอขมาลาโทษต่อ หลวงปู่ ทอง และขอน้อมส่งหลวงปู่ ทอง สู่ พระนิพพาน ***

 

รายการที่ 343 ตะกรุดหลวงพ่อปาน คลองด่าน ยาว 1 นิ้วครึ่ง



ปรมาจารย์สายตะวันออก
หลวงพ่อปาน เป็นพระเกจิอาจารย์ ยุคเก่าสมัยโบราณ ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายองค์ เช่น หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อนก วัดสังกะสี หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้วหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ฯลฯ

บรมครูแห่งเสือ
หลวงพ่อปานได้ศึกษาเวทย์วิทยาคม ในการสร้างเสือมาโดยสมบูรณ์แบบจากพระอาจารย์แตง วัดอ่างศิลา ท่านปลุกเสกเสือที่อยู่ในบาตรกระโดดกัดเนื้อหมูเสียบกับไม้ ที่ชูหมูไว้เหนือบาตร จนข่าวแพร่สะพัดโด่งดัง ประชาชนต่างก็เห็นเป็นอัศจรรย์ เป็นที่เล่าลือกันจนมาถึงทุกวันนี้

ความศักดิ์สิทธิ์
ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารของหลวงพ่อปานเป็นที่เลื่องลือกันทั่วไป เป็นพระอาจารย์ที่มีญาณแก่กล้ามีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น เครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ เขี้ยวเสือ นอกจากนี้ท่านฯ มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง ในเรื่องการสร้างตะกรุด ผ้ายันต์ต่างๆ ด้ายผูกข้อมือ รดน้ำมนต์ จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามากของประชาชนสมัยนั้น

สุดยอดเครื่องรางของขลัง
เขี้ยวเสือ เป็นสุดยอดเครื่องรางอันดับ๑ ของเมืองไทย ปัจจุบันมีค่านิยมบูชาสูงตัวละหลายแสนบาทจนถึงหลักล้านบาท หาของแท้ได้ยากยิ่งนัก เขี้ยวเสือของหลวงพ่อปานที่ว่าหายาก ยังสร้างมากกว่าตะกรุด เขี้ยวเสือส่วนใหญ่ชาวบ้านทำมาแล้วนำมาขอให้ท่านช่วยลงอักขระและปลุกเสกให้ท่านไม่ได้แกะเขี๊ยวเสือเอง แต่ตะกรุดท่านทำการสร้างและปลุกเสกเองทุกขั้นตอน ครบสูตรทั้งลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกเต็มที่จนเป็นที่เข้มขลัง

พุทธคุณ
เป็นที่เล่าลือกันมานมนาน ประสบการณ์ล่ำลือไปไกลเจ็ดคุ้งน้ำ ครบเครื่องทั้งมหาอำนาจ คงกะพัน เมตตามหานิยม คุ้มครองป้องกันภัยอันตราย กันกระทำคุณไสย ฯลฯ

ตะกรุดหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ขนาด 1 นิ้วครึ่ง สภาพสวย แท้ ดูง่าย จารยันต์ครูเต็มสูตร หายากยิ่งกว่าเสือหลายเท่า




ตะกรุดหลวงพ่อปาน ยาว 1 นิ้วครึ่ง
หลวงพ่อปาน คลองด่าน
บูชา 6500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 344 ตะกรุดหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม ขนาด 1 นิ้วครึ่ง



ปฐมบท
หลวงพ่อคง ท่านเป็นหนึ่งในสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง เป็นพระอภิญาจารย์ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า ท่านได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในพระปรมาจารย์ 5 เสืออินโดจีน เป็นผู้มีอิทธิปาฏิหารย์ศักดิสิทธิ์ ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ และเครื่องรางของขลังได้เข้มขลัง ชื่อเสียงของท่านเป็นที่โจษจันและกล่าวขวัญเลื่องลือยิ่งนัก ทหารที่ไปรบในสงครามอินโดจีนต่างรอดตาย โดนยิงเท่าไรก็ไม่ตาย คงกระพัน หนังเหนียว แคล้วคลาดจากลูกระเบิด จนทหารไทยได้รับสมญานามจากทหารต่างชาติว่าเป็น "ทหารผี"

เหรียญของท่านเป็นที่แสวงหา จนเป็นเหรียญยอดนิยมจนติดอันดับในเบญจภาคีเหรียญของเมืองไทย เสื้อยันต์วิรุณจำบังที่ท่านเป็นผู้สร้าง จนเป็นตำนานเล่าขานสืบมาถึงความศักดิสิทธิ์ ถูกยกย่องให้เป็นเสื้อยันต์อันดับ1 ของเมืองไทย ท่านเป็นพระอภิญญาจารย์ผู้มีอิทธิปาฏิหารย์สูง เป็นผู้สร้างตะกรุดมหาปราบและมหาระงับ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ จนขนามว่าเป็นสุดยอดแห่งมหาตะกรุด


พุทธคุณ
เล่าขานสืบกันมา... แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี กำบังกายหายตัว บารมีมหาอำนาจ สะกดผู้คนเป็นนะจังงัง ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง รวมทั้งภูติผีปีศาจไม่ให้มาทำร้าย ระงับเหตุคดีความ ศัตรูกลายเป็นมิตร ขอโชคขอลาภ เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ครบเครื่องสุดยอดแห่งยอดตะกรุดเมืองสยาม

สำคัญที่สุด
ตะกรุดหลวงพ่อคง ดอกนี้ แท้ ดูง่าย ไร้ข้อกังขา รับประกันชั้น 1



ตะกรุดหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม ขนาด 1 นิ้วครึ่ง
บูชา 6100 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

จองครับ[


QUOTE=อโศ;9959746]รายการที่ 344 ตะกรุดหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม ขนาด 1 นิ้วครึ่ง



ปฐมบท
หลวงพ่อคง ท่านเป็นหนึ่งในสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง เป็นพระอภิญาจารย์ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า ท่านได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในพระปรมาจารย์ 5 เสืออินโดจีน เป็นผู้มีอิทธิปาฏิหารย์ศักดิสิทธิ์ ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ และเครื่องรางของขลังได้เข้มขลัง ชื่อเสียงของท่านเป็นที่โจษจันและกล่าวขวัญเลื่องลือยิ่งนัก ทหารที่ไปรบในสงครามอินโดจีนต่างรอดตาย โดนยิงเท่าไรก็ไม่ตาย คงกระพัน หนังเหนียว แคล้วคลาดจากลูกระเบิด จนทหารไทยได้รับสมญานามจากทหารต่างชาติว่าเป็น "ทหารผี"

เหรียญของท่านเป็นที่แสวงหา จนเป็นเหรียญยอดนิยมจนติดอันดับในเบญจภาคีเหรียญของเมืองไทย เสื้อยันต์วิรุณจำบังที่ท่านเป็นผู้สร้าง จนเป็นตำนานเล่าขานสืบมาถึงความศักดิสิทธิ์ ถูกยกย่องให้เป็นเสื้อยันต์อันดับ1 ของเมืองไทย ท่านเป็นพระอภิญญาจารย์ผู้มีอิทธิปาฏิหารย์สูง เป็นผู้สร้างตะกรุดมหาปราบและมหาระงับ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ จนขนามว่าเป็นสุดยอดแห่งมหาตะกรุด


พุทธคุณ
เล่าขานสืบกันมา... แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี กำบังกายหายตัว บารมีมหาอำนาจ สะกดผู้คนเป็นนะจังงัง ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง รวมทั้งภูติผีปีศาจไม่ให้มาทำร้าย ระงับเหตุคดีความ ศัตรูกลายเป็นมิตร ขอโชคขอลาภ เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ครบเครื่องสุดยอดแห่งยอดตะกรุดเมืองสยาม

สำคัญที่สุด
ตะกรุดหลวงพ่อคง ดอกนี้ แท้ ดูง่าย ไร้ข้อกังขา รับประกันชั้น 1



ตะกรุดหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม ขนาด 1 นิ้วครึ่ง
บูชา 6100 บาท


โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7
[/QUOTE]

 

รายการที่ 345 ตะกรุดหนังลูกกรอกควายตายพราย ครูบาชุ่ม โพธิโก



ปฐมบท
ท่านเป็นศิษย์เอกผู้ใกล้ชิดครูบาศรีวิชัย ผู้เป็นประดุจเทพเจ้าของชาวลานนา ท่านเป็นทายาทผู้รับมรดกครอบครองไม้เท้าและพัดหางนกยูงอันเป็นตราสัญลักษณ์ประจำองค์ครูบาศรีวิชัย เป็นพระเถระเจ้าผู้บริสุทธิ์ ผู้ทรงศีลาจารวัตร และมุ่งมั่นในการปฏิบัติ ไม่สะสมทรัพย์สิน ไม่ยึดติดในลาภสักการะ มีเมตตาธรรมประจำใจ



นิโรธสมาบัติ
ท่านเป็นพระอรหันต์ทรงปฏิสัมภิทาญาณ ผู้มีกำลังจิตแข็งกล้า มีบุญบารมีสูงยิ่ง หลวงพ่อฤาษี กล่าวว่า “หลวงปู่ชุ่ม ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เข้านิโรธสมาบัติได้ทุกอิริยาบถ"

ความเป็นมา
วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ตระกรุดหนังลูกกรอกควายตายพรายพอกครั่ง ได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดเจ็ดวัดเจ็ดคืนภายในวิหารวัดวังมุย ก่อนที่จะทำพิธีใหญ่ในวันที่ 5 ธันวาคม 2517 โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดลำพูน สวดเจริญพุทธมนต์ นั่งบริกรรมตลอดคืน

กรรมวิธีการสร้าง
เคล็ดวิชานี้ตามตำราระบุว่าใช้หนังลูกควายเผือกที่ตายอยู่ในท้องแม่ควายเผือกตายทั้งกลม เป็นเคล็ดทางมหาอุตม์ (ตายในท้องแม่ที่โดนฟ้าผ่า) ที่สำคัญเขาลูกควายที่อยู่ในท้องต้องไม่ทะลุท้องแม่ควาย ครั่งพุทรา ทางเหนือเรียกว่า "บะตัน" แปลเป็นไทยว่า ไม่ทัน ถือเป็นเคล็ด ว่า "สิ่งชั่วร้ายหรืออัปมงคลทั้งหลายจะตามเราไม่ทัน" เนื่องจากครั่งบะตันหายากมาก จึงใช้ครั่งจากต้นไม้ชื่อมงคล และเป็นครั่งที่พอกอยู่บริเวณกิ่งไม้ที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น ก่อนจะตัดก็ต้องทำพิธีพลีกรรม เพื่อขออนุญาตเจ้าที่ ผีสางนางไม้ที่ปกปักษ์รักษาต้นไม้นั้น จากนั้นลงจารโลหะแล้วม้วน จารหนังควายม้วนทับเป็นชั้นที่สอง แล้วพอกครั่ง เสกอีกที เป็นวิธีการที่สร้างยากมาก

อภินิหาร
เหตุการณ์หนึ่งนายตำรวจ เขต.สารภี ได้รับคำสั่งไปจับกุมผู้ค้ายาเสพติดหนีการจับกุมมาหลายครั้งแล้วที่บ้านพัก ผู้ร้ายไหวตัวทันได้วิ่งหนี้ออกมาทางหลังบ้าน ใช้ปืนยิ่งยิงต่อสู้เพื่อหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงสวนไปหลายนัดโดนตัว แต่ไม่เป็นไรผู้ร้ายก็วิ่งหนี นายตำรวจได้ยิ่งสวนไปอีกหายนัด จนผู้ร้าย ได้ถึงแก่ความตาย พอนายตำรวจได้เข้าไปดูศพ ต่างก็ตกใจว่าทำไมยิ่งไปหลายนัดแล้วไม่เป็นไร ตามร่างกายเห็นแต่รอยช้ำ และนัดที่โดนถึงแก่ ความตาย คือลูกกระสุนไปโดนที่สร้อยจนขาด สร้อยที่ผู้ร้ายใช้ห้อยมีตะกรุดอยู่หนึ่งดอก คือ ตะกรุดหนังลูกกรอกควายตายในท้องแม่ ครูบาชุ่ม โพธิโก สร้างขึ้นนั้นเอง



ตะกรุดหนังลูกกรอกควายตายพราย
บูชา 4500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 346 ตะกรุดหยุดมัจจุราช หลวงพ่อเนียม วัดน้อย



บรมครูแห่งเมืองสุพรรณ
สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี เกียรติคุณชื่อเสียงของหลวงพ่อเนี่ยมที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน พระเกจิจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

ศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง
หลวงพ่อเนียม ท่านฯได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณ วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า

รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
ครั้งหนึ่งมีภิกษุจากวัดสุวรรณภูมิ ๔ รูป ไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อขอฤกษ์ลาสิกขาบท พอเห็นหน้าภิกษุทั้งสี่ ท่านร้องทักขึ้นว่า "จะมาขอฤกษ์ลาสิกขาบทใช่ไหมล่ะ" ภิกษุทั้งสี่ตอบว่าใช่ ท่านให้ฤกษ์ไปสามรูป อีกรูปหนึ่งท่านท้วงว่าอย่าเพิ่งเลย ชะตากำลังไม่ใคร่ดี ท่านไม่ให้ฤกษ์ แต่ภิกษุนั้นหายอมฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม ทนไม่ไหวจีวรร้อนเป็นไฟ ตัดสินใจสึกโดยไม่ฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม เมื่อออกจากวัดกลับมาหาบิดามารดาที่บ้าน ค่ำวันนั้นเองขณะที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่บนบ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายเอาปืนยิงเข้าไปในกลุ่มสนทนา กระสุนถูกศีรษะทิดสึกใหม่คนนั้นตายคาที่

ผู้มีญาณวิเศษ
วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล สำรับที่ขอชาวบ้านทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวน แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ไม่เห็นมีวี่แววจะ มีใครจะมาจากที่ไหน เสียงกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระที่มาด้วยกันแล้ว
" เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อย พาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป
.
คำประกาศิต
ในงานทำบุญคล้ายวันเกิด ชาวบ้านจัดงานใหญ่โต มีแสดงพระธรรมเทศนาพร้อมด้วยมหรสพสมโภช ร้านค้าตั้งเต็มลานวัด ค่ำวันนั้น เมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าขายต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่น วุ่นวายไปทั่วทั้งลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่ "ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าและท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโขอยู่ พองานเลิกทุกคนต้องเดินลุยน้ำขนาดครึ่งหน้าแข้ง

ถ่ายรูปไม่ติด
เล่าลือกันว่าการถ่ายรูปหลวงพ่อเนียมถ่ายไม่ติด พระประมาณต้อง การพิสูจน์ความจริง ตามเสียงที่เล่าลือกันจะเป็นจริงเพียงใด จึงไปที่วัดน้อยแล้วนิมนต์พระทั้งวัดมานั่งถ่ายรูปพร้อมด้วยหลวงพ่อเนียม เมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อเนียมอยู่ในกลุ่มนั้นจริงๆ จึง ขอทดลองถ่ายอีกโดยขอให้หลวงพ่อเนียมเดินไปที่โอ่งน้ำมนต์ ถ่ายขณะที่หลวงพ่อกำลังเดินไปและขณะอยู่ที่โอ่งกำลังทำน้ำมนต์ก็ไม่ติดอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก



ท่าน้ำศักดิสิทธิ์
ปัจจุบัน แม่น้ำที่ไหลผ่านวัดน้อย ทางวัดได้สร้างแพให้ลงไปเป็นที่ตักดื่มน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ ตามอมตะวาจาของหลวงพ่อเนียมบรมครูเฒ่าพระอาจารย์ใหญ่ผู้ศักดิสิทธิ์ทรงอิทธิปาฏิหารย์ แม้วันเวลาจะล่วงเลยผ่านมาเป็นร้อยปี แต่ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ของท่านไม่เฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็ศักดิสิทธิ์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย" มาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเนียม ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิ อยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยไปตักน้ำมาแล้วเอามาให้ท่านหลวงพ่อบอกให้จุดธูป พอจุดเสร็จท่านบอกกับเจ๊กโต้ผ่วยว่าเสร็จแล้ว เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียมเป็นเชิงสงสัย และนึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ อะไรกัน ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร แต่จะไม่เอาไปก็ไม่ใช้ที่ จึงเอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยรำพึงขึ้นอย่างแค้นใจ จึงคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์ น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่! บังเอิญพลัดหลุดมือแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจรีบตาสีตาเหลือกเก็บก้อนน้ำแข็งนั้นใส่ภาชนะอื่นทันที นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขออภัยในใจ ที่หมิ่นหลวงพ่อและเอาก้อนน้ำแข็งน้ำมนต์นั้นไปเก็บไว้จนละลาย



ตะกรุดหยุดมัจจุราช หลวงพ่อเนียม ขนาด 5 นิ้ว
บูชา 11000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271[/B]

 

รายการที่ 348 ลูกอมยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน



ปฐมบท
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชามาจากหลวงพ่อเนียม วัดน้อย และหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน สุดยอดพระเกจิอาจารย์เมืองสุพรรณบุรี ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เป็นที่เคารพนับถือของชาวอยุธยา และเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระเครื่องที่ท่านสร้างมีหลายพิมพ์ เป็นที่เสาะแสวงหา และมีค่านิยมสูงมีราคาหลักหมื่นยันหลักแสน

สุดยอดพระเกจิอาจารย์
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นผู้สร้างยันต์เกราะเพชร วัตถุมงคลหลวงพ่อปาน เป็นที่เสาะแสวงหาของศรัทธาสาธุชนทั่วไป คือ พระพิมพ์เนื้อดิน รูปสี่เหลี่ยมมุมตัด เป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทับนั่งบนบัลลังก์บัวตุ่ม เหนือสรรพสัตว์ประเภทต่างๆ เช่น ไก่ ครุฑ หนุมาน นก เม่น ปลา เป็นต้น

ขั้นตอนการปลุกเสก
ท่านปลุกเสกด้วยพระคาถาปัจเจกโพธิ์ มีอานุภาพทางโชคลาภและการทำมาค้าขาย ซึ่งท่านเรียนมาจากครูผึ้ง และคาถายันต์เกราะเพชร ที่มีอานุภาพทางปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ

อานุภาพยันต์เกราะเพชร
๑.จะไม่ตายโหงอย่างเด็ดขาด
๒. จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด
๓. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
๔. ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง
นอกจากนี้"ยันต์เกราะเพชร"ยังมีอานุภาพส่งเสริม ค้ำจุนดวง เสริมบารมีมิให้ตกอับอีกด้วย

พุทธคุณ
ครอบจักรวาล ปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย ป้องกันเสนียดจัญไร เสริมบารมี เจริญโภคทรัพย์ ใช้ทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ กันคุณไสย โดยอฐิษฐานแช่น้ำดื่มรักษาโรค

ขั้นตอนการสร้าง
การทำผงพระพุทธคุณ และลบผงด้วยตัวท่านเอง ทำเฉพาะในระหว่างวันเข้าพรรษาเท่านั้น ผงที่ทำได้แก่ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห และผงมหาราช ทำโดยปั้นขึ้นเป็นแท่ง เขียนอักขระลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงรวบรวมไว้ นำไปอุดที่ฐานพระพิมพ์ต่างๆ ดังนั้นพระพิมพ์อะไร ตะกรุดของท่าน มีสรรพคุณเหมือนกันอย่างเดียวกัน



ลูกอมยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน
บูชา 3500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 349 ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว



สุดยอดพระเกจิอาจารย์
หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองแปดริ้ว เหรียญรุ่นแรก ปีพ.ศ.2481 ของท่านเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเหรียญ หรือแม้แต่เครี่องรางของขลัง “ลิง” ก็เป็นหนึ่งในทำเนียบเครืองรางของขลังเช่นกัน มีกรรมวิธีการสร้างที่พิศดาร นำรากพุดซ้อนที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกมาแกะเป็นรูปลิง ท่านจะปลุกเสกโดยจะ ให้ลูกศิษย์หาอาวุธเท่าที่จะหาได้ จำพวกปืนผาหน้าไม้ ระเบิด คมแฝก เหล็กหลาว เอาอาวุธมาวางรวมกัน จากนั้นท่านนั่งทับอาวุธต่างๆที่คลุมด้วยหนังเสือเพื่อข่มอาวุธ ท่านจะเรียกอาการสามสิบสองของลิงให้ครบ แล้วเสกจนเสร็จพิธี เป็นหนึ่งในเครื่องรางที่กรมหลวงชุมพรฯเคยทดลองยิงแล้วไม่ออก เรื่องพุทธคุณในพระเครื่องหรือเครื่องรางของหลวงพ่อดิ่ง จึงเป็นที่เลืองลือมานานตราบจนเท่าปัจจุบัน

ลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสาร
เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมาก เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ "ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว" หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวนั้นทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ ทำอันตรายได้ ปืนยิงไม่ออก มีดแทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์ ตำรวจชุดไล่ล่าได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันเป็นการผิดศีล"
ตำรวจชุดไล่ล่าล่าหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ ที่เป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง ท่านเป็นสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวเสือขาวถึงกับทรุดสิ้นลายของคำว่า"จอมโจรหนังเหนียว" ต่อมาเสือขาวถูกจับกุมและพิพากษาโทษประหารชีวิต ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองทุกนัด

กรมหลวงชุมพรฯยกย่อง
วัตถุมงคลทุกชนิดที่หลวงพ่อดิ่งได้สร้างไว้ิ ล้วนแต่เข้มขลังทรงพุทธานุภาพ ไม่ว่าจะเป็นลูกอม พระปิดตา หรือลิงจับหลัก ฯลฯ ดังเหตุการณ์ตัวอย่างเช่น

กรมหลวงชุมพรฯรับขวัญทหารใหม่ที่ชลบุรี หลังจากที่กรมหลวงฯกล่าวทักทายต้อนรับอย่างเป็นทางการ ขั้นตอนสุดท้าย ท่านกรมหลวงฯจะอาราธนาน้ำมนต์ของหลวงปู่ศุข ผู้เป็นอาจารย์ของท่านมาประพรมให้แก่เหล่าทหารเพื่อความเป็นสิริมงคล ในขณะที่ท่านประพรมน้ำมนต์อยู่นั้น ปรากฏว่ามีทหารหลายนายที่มีอาการของขึ้นคล้ายกับลิง สร้างความวุ่นวายภายในแถว ทหารที่มาสมัครใหม่บริเวณใกล้กันก็ช่วยกันจับ แต่ก็เอาไม่อยู่ กรมหลวงฯจึงชมทหารพวกที่ของขึ้นว่า พวกนี้เป็นศิษย์มีครูดี ซึ่งทหารเหล่านั้นมีลิงจับหลักของหลวงพ่อดิ่งติดตัวอยู่ มีอีกเหตุการณ์ที่ท่านกรมหลวงฯขอทดลองยิงลิงหลวงพ่อดิ่ง เมื่อท่านสังเกตเห็นลิงจับหลักที่ทหารห้อยอยู่ก็ทรงตรัสถามว่า ลิงตัวนี้ของใคร ทหารก็ตอบว่า ของหลวงพ่อดิ่ง แห่งวัดบางวัว ท่านก็ถามกลับทันทีว่า..ลองยิงได้ไหม...ทหารจึงถอดลิงที่คล้องคอไว้ออกไป แขวนที่ต้นไม้ แล้วท่านกรมหลวงฯก็ลองยิง ปรากฏว่ายิงอย่างไรก็ยิงไม่ออก




ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร
บูชา 3500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 350 ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว



สุดยอดพระเกจิอาจารย์
หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองแปดริ้ว เหรียญรุ่นแรก ปีพ.ศ.2481 ของท่านเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเหรียญ หรือแม้แต่เครี่องรางของขลัง “ลิง” ก็เป็นหนึ่งในทำเนียบเครืองรางของขลังเช่นกัน มีกรรมวิธีการสร้างที่พิศดาร นำรากพุดซ้อนที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกมาแกะเป็นรูปลิง ท่านจะปลุกเสกโดยจะ ให้ลูกศิษย์หาอาวุธเท่าที่จะหาได้ จำพวกปืนผาหน้าไม้ ระเบิด คมแฝก เหล็กหลาว เอาอาวุธมาวางรวมกัน จากนั้นท่านนั่งทับอาวุธต่างๆที่คลุมด้วยหนังเสือเพื่อข่มอาวุธ ท่านจะเรียกอาการสามสิบสองของลิงให้ครบ แล้วเสกจนเสร็จพิธี เป็นหนึ่งในเครื่องรางที่กรมหลวงชุมพรฯเคยทดลองยิงแล้วไม่ออก เรื่องพุทธคุณในพระเครื่องหรือเครื่องรางของหลวงพ่อดิ่ง จึงเป็นที่เลืองลือมานานตราบจนเท่าปัจจุบัน

ลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสาร
เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมาก เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ "ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว" หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวนั้นทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ ทำอันตรายได้ ปืนยิงไม่ออก มีดแทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์ ตำรวจชุดไล่ล่าได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันเป็นการผิดศีล"
ตำรวจชุดไล่ล่าล่าหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ ที่เป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง ท่านเป็นสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวเสือขาวถึงกับทรุดสิ้นลายของคำว่า"จอมโจรหนังเหนียว" ต่อมาเสือขาวถูกจับกุมและพิพากษาโทษประหารชีวิต ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองทุกนัด

กรมหลวงชุมพรฯยกย่อง
วัตถุมงคลทุกชนิดที่หลวงพ่อดิ่งได้สร้างไว้ิ ล้วนแต่เข้มขลังทรงพุทธานุภาพ ไม่ว่าจะเป็นลูกอม พระปิดตา หรือลิงจับหลัก ฯลฯ ดังเหตุการณ์ตัวอย่างเช่น

กรมหลวงชุมพรฯรับขวัญทหารใหม่ที่ชลบุรี หลังจากที่กรมหลวงฯกล่าวทักทายต้อนรับอย่างเป็นทางการ ขั้นตอนสุดท้าย ท่านกรมหลวงฯจะอาราธนาน้ำมนต์ของหลวงปู่ศุข ผู้เป็นอาจารย์ของท่านมาประพรมให้แก่เหล่าทหารเพื่อความเป็นสิริมงคล ในขณะที่ท่านประพรมน้ำมนต์อยู่นั้น ปรากฏว่ามีทหารหลายนายที่มีอาการของขึ้นคล้ายกับลิง สร้างความวุ่นวายภายในแถว ทหารที่มาสมัครใหม่บริเวณใกล้กันก็ช่วยกันจับ แต่ก็เอาไม่อยู่ กรมหลวงฯจึงชมทหารพวกที่ของขึ้นว่า พวกนี้เป็นศิษย์มีครูดี ซึ่งทหารเหล่านั้นมีลิงจับหลักของหลวงพ่อดิ่งติดตัวอยู่ มีอีกเหตุการณ์ที่ท่านกรมหลวงฯขอทดลองยิงลิงหลวงพ่อดิ่ง เมื่อท่านสังเกตเห็นลิงจับหลักที่ทหารห้อยอยู่ก็ทรงตรัสถามว่า ลิงตัวนี้ของใคร ทหารก็ตอบว่า ของหลวงพ่อดิ่ง แห่งวัดบางวัว ท่านก็ถามกลับทันทีว่า..ลองยิงได้ไหม...ทหารจึงถอดลิงที่คล้องคอไว้ออกไป แขวนที่ต้นไม้ แล้วท่านกรมหลวงฯก็ลองยิง ปรากฏว่ายิงอย่างไรก็ยิงไม่ออก




ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร
บูชา 3500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

จองลูกนี้ครับ

 

รายการที่ 349 ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว
ขอจองลูกนี้ครับ

 

***กระผมได้โอน เงิน 3500 ให้ท่านอาจารย์แล้วครับ
วันที่17/03/59 เวลา12.34
ส่งที่อยู่
กฤษดา ตรีทิพย์
โรงแรมรุ่งอรัญ เดอ ชา เลต์
263/26 ซอย ชะอำใต้ 4
ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 76120
กราบขอบพระคุณ ขอรับ พระอาจารย์***

 

โอนเงิน

ผมได้โอนเงิน 2 รายการ
รายการเเรก ตะกรุดหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย 6500 บาท วันที่ 16/3/16
เวลาประมาณ 19:00 เเละโทรเเจ้งเเล้ว

รายการ 2 ตะกรุดหลวงพ่อคง 6100 บาท วันที่ 16/3/16 เวลา
20:30 น

ผมได้เเนบหลักฐานโอนมาด้วย

 

รายการที่ 351 ตะกรุดมหากาฬ หลวงพ่อกวย



ปฐมบท
หลวงพ่อกวยเป็นศิษย์พระอริยสงฆ์หลายองค์ เช่น
-หลวงปู่เฒ่า วัดค้างคาว เป็นพระรุ่นพี่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ศึกษาวิชาจากตำราเดียวกัน มีการเเลกเปลี่ยนวิชากันหลวงพ่อกวยได้ไปศึกษาการทำผ้ายันต์ค่ายกลกับหลวงปู่เฒ่า
-หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ พระเกจิที่โด่งดังของสิงห์บุรี มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากมายมาขอเรียนวิชา เช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น หลวงพ่อกวยได้สร้างเเหวนตามตำรับของหลวงพ่อศรี
- หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ ผู้สร้างมีดเทพศาสตราวุธอันดับ 1 ท่านได้ไปเรียนวิชาทำ แหวนแขน, ตะกรุด, มีดหมอฯลฯ

หลวงพ่อกวย ท่านเป็นพระอภิญญาจารย์จอมขมังเวทย์ เจ้าแห่งมนต์มหากาฬ ฉายาท่าน คือ ผู้วิเศษแห่งสรรค์

ผู้วิเศษแห่งสรรค์

การปลุกเสกวัตถุมงคล
พระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ จะปลุกเสกเองทั้งหมด มนต์พระกาฬ เป็น มนต์ที่ท่านต้องปลุกเสกด้วยทุกครั้ง มนต์นี้ ใครทำไม่ดี คิดไม่ดี จะแพ้ภัยตัวเอง ท่านจะสั่งศิษย์ของท่านไว้เสมอว่า อย่าเอาวัตถุมงคลต่างๆของท่านไปลองเดี๋ยวจะเข้าตัว เพราะท่านได้ปลุกเสกมนต์พระกาฬเอาไว้

วิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล
ท่านจะปลุกเสกตามฤกษ์มงคล แล้วจึงปลุกเสกด้วยฤกษ์โจร ฤกษ์บุญพญามาร คือพระของท่านนั้น คนดีก็ใช้ โจรก็ใช้ ท่านมีวิธีการปลุกเสกที่เข้มขลังมาก ปลุกเสกตอนเช้า สาย บ่าย เย็น หัวค่ำ เที่ยงคืน ค่อนสว่าง ท่านจะปลุกเสกทุกวัน เพื่อป้องกันคนชะตาขาดใช้ คือจันทร์ถึงอาทิตย์ หาก วันไหนเป็นวันอ่อน ยิ่งต้องปลุกเสกให้มาก วิธีปลุกเสก เช้าสายบ่ายเย็นกลางคืนกลางดึกนี้ ตรงกับไสยดำทุกอย่าง คือ ท่านกันเอาไว้ เพราะไสยดำเขาจะทำช่วง ๗ เวลานี้ คนจิตอ่อนหรือคนธรรมดาจะกันไม่ได้เลย

ข้อห้ามในวัตถุมงคลของท่านคือ ห้ามด่าแม่เด็ดขาด



ตะกรุดมหากาฬ หลวงพ่อกวย
ราคาพิเศษ 3500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

จอง 351 ครับ

 

รายการที่ 352 ลูกอมมัทรี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่



ปฐมบท
ลูกอมมัทรี เนื้อบอนซ์ทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หนึ่งในสุดยอดเครื่องรางของขลัง ของดีที่สุด เมตตามหาเสน่ห์อันดับ 1 ของ หลวงปู่ทิม หายากที่สุด

กรรมวิธีการสร้าง
ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงปู่สังฆ์เฒ่า สุดยอดวิชาซ่อนความลับอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ คือข้างในตรงกลางลูกอมมัทรีจะมีผงพรายกุมารยุคแรกใส่ไว้ข้างใน และผสมด้วยสีผึ้งหลวงพ่อทาบ และบรรจุด้วยกระดาษลงยันต์ เทียนที่นำมาหุ้มลูกอมมัทรีเป็นเทียนในพิธีเทศน์มหาชาติ สาวพรหมจารีที่เกิดวันเสาร์และวันอังคารจะเก็บน้ำตาเทียน ก่อนพิธีการเทศน์มหาชาติ หญิงพรหมจารีจะปักเทียนเต็มไปหมดหน้ากัณฑ์เทศน์และคอยใช้ผ้าขาวป้องไปที่เทียนปักอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เทียนดับ และต้องตั้งใจฟังเสียงพระสวด พอถึงบทที่พระเวสสันดรกำลังยกลูกของตนให้เฒ่าชูชกและนางมัทรีมาเห็นเข้า เกิดการยื้อแย่งไม่ยอมให้ลูกของตนแก่เฒ่าชูชกและได้ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เศร้าโศกคร่ำครวญ หญิงสาวพรหมจารีที่อยู่ในพิธีจะต้องรีบเก็บน้ำตาเทียน แม้ว่าจะร้อนมือแค่ไหนต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงมาก การเก็บน้ำตาเทียนจะเก็บไปเรื่อยๆ จนพระเสร็จพิธีก็รุ่งอรุณของวันใหม่พอดี และการเก็บแต่ละครั้งจะเก็บอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องฟังเสียงพระเทศน์ในแต่ละกัณฑ์ให้เข้าใจด้วยว่า ถึงบทไหนควรเก็บ บทไหนไม่ควรเก็บ เมื่อได้น้ำตาเทียนมาพอสมควรแล้ว หลวงปู่จะรวบรวมมาใส่ไว้ในขันสำริด ภายในก้นขันท่านจะลงเลขยันต์ไว้ เมื่อถึงวันเสาร์ หลวงปู่จะนำมาตากแดดในช่วงขณะที่พระอาทิตย์กำลังอยู่ตรงหัว ท่านจะตากไว้ประมาณ 2 เสาร์ พอถึงครั้งที่ 3 หลวงปู่จะนำมาตากแดดในวันจันทร์ เมื่อน้ำตาเทียนเริ่มอ่อนตัวลงพอที่จะนำมาแผ่บางๆ ได้ท่านจะรีบลงเลขยันต์บนน้ำตาเทียน ต่อจากนั้นท่านจะนำมาตัดเป็นแผ่นเล็กๆ กะให้พอหุ้มกระดาษที่ลงอาคมไว้ แล้วจึงนำมากลึงเป็นลูกกลมๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ ลูกอมเทียนมัทรีนี้จะสร้างไม่มาก หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก




พระเครื่องและเครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ลูกอมเทียนมัทรีนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมาย แคล้วคลาด และโชคลาภไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นที่สุด เพราะถือเคล็ดลับ นางมัทรี เป็นแม่ที่รักลูกที่สุด แม้แต่ลูกที่สุดรักสุดหวง ยังยอมยกลูกให้แก่เฒ่าชูชก




ลูกอมมัทรี หลวงปู่ทิม
ราคาพิเศษ 6000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 353 ลูกอมมัทรี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่



ปฐมบท
ลูกอมมัทรี เนื้อบอนซ์ทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หนึ่งในสุดยอดเครื่องรางของขลัง ของดีที่สุด เมตตามหาเสน่ห์อันดับ 1 ของ หลวงปู่ทิม หายากที่สุด

กรรมวิธีการสร้าง
ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงปู่สังฆ์เฒ่า สุดยอดวิชาซ่อนความลับอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ คือข้างในตรงกลางลูกอมมัทรีจะมีผงพรายกุมารยุคแรกใส่ไว้ข้างใน และผสมด้วยสีผึ้งหลวงพ่อทาบ และบรรจุด้วยกระดาษลงยันต์ เทียนที่นำมาหุ้มลูกอมมัทรีเป็นเทียนในพิธีเทศน์มหาชาติ สาวพรหมจารีที่เกิดวันเสาร์และวันอังคารจะเก็บน้ำตาเทียน ก่อนพิธีการเทศน์มหาชาติ หญิงพรหมจารีจะปักเทียนเต็มไปหมดหน้ากัณฑ์เทศน์และคอยใช้ผ้าขาวป้องไปที่เทียนปักอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เทียนดับ และต้องตั้งใจฟังเสียงพระสวด พอถึงบทที่พระเวสสันดรกำลังยกลูกของตนให้เฒ่าชูชกและนางมัทรีมาเห็นเข้า เกิดการยื้อแย่งไม่ยอมให้ลูกของตนแก่เฒ่าชูชกและได้ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เศร้าโศกคร่ำครวญ หญิงสาวพรหมจารีที่อยู่ในพิธีจะต้องรีบเก็บน้ำตาเทียน แม้ว่าจะร้อนมือแค่ไหนต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงมาก การเก็บน้ำตาเทียนจะเก็บไปเรื่อยๆ จนพระเสร็จพิธีก็รุ่งอรุณของวันใหม่พอดี และการเก็บแต่ละครั้งจะเก็บอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องฟังเสียงพระเทศน์ในแต่ละกัณฑ์ให้เข้าใจด้วยว่า ถึงบทไหนควรเก็บ บทไหนไม่ควรเก็บ เมื่อได้น้ำตาเทียนมาพอสมควรแล้ว หลวงปู่จะรวบรวมมาใส่ไว้ในขันสำริด ภายในก้นขันท่านจะลงเลขยันต์ไว้ เมื่อถึงวันเสาร์ หลวงปู่จะนำมาตากแดดในช่วงขณะที่พระอาทิตย์กำลังอยู่ตรงหัว ท่านจะตากไว้ประมาณ 2 เสาร์ พอถึงครั้งที่ 3 หลวงปู่จะนำมาตากแดดในวันจันทร์ เมื่อน้ำตาเทียนเริ่มอ่อนตัวลงพอที่จะนำมาแผ่บางๆ ได้ท่านจะรีบลงเลขยันต์บนน้ำตาเทียน ต่อจากนั้นท่านจะนำมาตัดเป็นแผ่นเล็กๆ กะให้พอหุ้มกระดาษที่ลงอาคมไว้ แล้วจึงนำมากลึงเป็นลูกกลมๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ ลูกอมเทียนมัทรีนี้จะสร้างไม่มาก หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก




พระเครื่องและเครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ลูกอมเทียนมัทรีนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมาย แคล้วคลาด และโชคลาภไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมเป็นที่สุด เพราะถือเคล็ดลับ นางมัทรี เป็นแม่ที่รักลูกที่สุด แม้แต่ลูกที่สุดรักสุดหวง ยังยอมยกลูกให้แก่เฒ่าชูชก




ลูกอมมัทรี หลวงปู่ทิม
ราคาพิเศษ 6000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

จองรายการที่ 352 ลูกอมมัทรี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

 

รายการที่ 353 ขอจองครับ