การเห็นในสมาธิมี ๓ อย่าง โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย มันไม่แน่, 22 กรกฎาคม 2014.

  1. มันไม่แน่

    มันไม่แน่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,956


    การเห็นในสมาธิ หลังจากที่บำเพ็ญจิตให้บังเกิดสมาธิ
    อันแน่วแน่แล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต
    ได้ประทานข้อแนะนำไว้ว่า....

    การเห็นในสมาธิมี ๓ อย่าง

    ๑.การเห็นในสมาธิที่ตั้งใจหมายไว้อย่างหนึ่ง ที่เกิดจาก
    ความปารถนาของจิตเอง อันนี้ไม่ถือว่าเป็นสมาธิ
    หากเป็น อุปทาน ต้องลบภาพที่เห็นเช่นนี้

    ๒.การเห็นอย่างที่๒ เป็นการเห็นเพื่อขอส่วนบุญ
    หรือชักนำไปสู่ ความกำหนัด เกิดกามราคะ
    เพราะเหตุแห่งมารนำจิตไปหรือมิฉะนั้นดวงวิญญาณ
    ทั้งหลายที่มีความทุกข์ต้องการมาติดต่อขอส่วนบุญ
    เพื่อบรรเทาความทุกข์เดือดร้อนอดอยาก การเห็นเช่นนี้
    เห็นโดยจิตมิได้ปารถนา มิได้ตั้งปณิธานหรืออุปทาน
    อย่างหนึ่งอย่างใดไว้ เมื่อเกิดภาพนี้ขึ้นให้แผ่ส่วนบุญ
    ส่วนกุศลแก่เขาไป อาจเป็นบรรพบุรุษ ญาติพี่น้อง
    เจ้ากรรมนายเวร เป็นต้น

    ๓.การเห็นในสมาธิอย่างที่ ๓ นั้น เป็นการเห็นโดยนิมิต
    อันประเสริฐ เช่น เห็นพุทธนิมิต เทพนิมิต พรหมนิมิต
    ทั้งหลาย เป็นต้น การเห็นแสงสว่างทั้งปวงก็ดี การเห็น
    เช่นนี้เป็นเครื่องบอกว่า ได้เดินเข้าไปในทางที่จะสามารถ
    ติดต่อกับทิพย์วิญญาณทั้งหลายได้

    พึงพิจารณาแยกให้ออกว่าอันไหนเป็นนิมิต อันไหนเป็น
    เรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อขอส่วนบุญ อันไหนเป็นอุปทานที่เกิด
    จากความปารถนาของดวงจิต

    จงมีสติตั้งมั่นคุ้มครองดวงจิตโดยที่ไม่ต้องคิดหรือหวัง
    จะให้เกิดนิมิต อันเป็นที่พึงปารถนาในทางที่จะชักนำ
    ดวงจิตเข้าไปสู่ทางอกุศลได้ต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      144

แชร์หน้านี้

Loading...