กาลจักรมันดาลา กงล้อพลังจิต มนตราหิมาลัย

การสวดภาวนามอานิสงส์อันประมาณค่ามิได้ เป็นที่สรรเสริญของพุทธะทั่วทศทิศ การเขียนอักขระหกคำดุจดังการเขียนพระไตรปิฎก ดับอวิชชาเปิดปัญญาสู่มรรคผล (มณีในดอกบัว, ปัญญาดั้งเดิมซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยจิตและกายหยาบ, มณีคือปัญญาดอกบัวคืออุปายะหรือพลังหรือเมตตาต่อสรรพสัตว์ ผู้บันทึก) พระสูตรกานจูเอ่อของทิเบตได้บันทึกไว้ว่าอนิสงส์ของอักขระศักดิ์หกคำมี10อย่างดังนี้


1 ขจัดเภทภัยจากภูตผีปีศาจทั้งปวง
2 ขจัดโรคภัยจากความหวาวร้อนของดินฟ้าอากาศ
3 ช่วยให้ผ่านพ้นความทุกข์ที่เกิดจากน้ำไฟ
4 ดำรงตนด้วยบุญวาสนา อายุวัฒนะ
5 ขจัดรากเง้าของความทุกข์ คือ โลภ โกรธ หลง
6 ขจัดความชั่วทั้งปวง ปิดหนทางสู่การกระทำผิดศีล
7 ขจัดอุปสรรคทั้งหลายในการบรรลุโพธิทศภูมิ
8 ภาวนาหนึ่งแสนจบ สามารถปิดทวารทั้งสาม
9 ภาวนาหนึ่งล้านจบสามารถโปรดสรรพสัตว์ทั้ง6 ภพภูมิ
10ภาวนาสิบล้านจบขึ้นไปบรรลุพุทธะภาวะอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ไม่ได้เขียนนะครับ พึ่งรู้มาว่า ใช้ ทราย(ผสมสี) ล้วนๆ เลย ไล่ทีละเม็ดเลย เป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ นานๆ จึงจะ จัดทีหนึ่ง ขณะทำไป พระลามะจะสวดมนต์ เพ่งกระแสจิตตลอด และ จิตคนทำอีก มีความพยายาม แนวแน่ อดทนสูง เพราะกว่าจะได้เป็น ภาพแต่ละส่วน จากทรายเม็ดเล็กๆ หลังแอ่นเลย ต้องใช้กำลังสมาธิ และ สติสูงมาก หายใจแรงก็ไม่ได้ ถ้าจามละก็ เริ่มต้นใหม่เลย

 

กาลจักรมันดาลา การสร้างจากทรายสีด้วยจิตวิญญาณ จากทรายละเอียดด้วยจิตละเอียด ด้วยศรัทธา
จากวินาที นาที ชั่วโมง ผ่านไป สมาธิแน่วแน่ บริกรรมเจริญภาวนาทุกขณะจิต

 

คำว่า

 

แผนผังมันดาลา ใครแปลได้บ้าง ช่วยผม หน่อย ผม แปลไม่สละสลวย

1. Mandala of Great Bliss with a lotus flower center housing six deities including Kalachakra and Vishvamata, Askshobhya and Prajnaparamita, Vajrasattva and Vajradhatvishvari surrounded by eight shaktis

2. Mandala of Enlightened Wisdom

3. Mandala of Enlightened Mind

4. Mandala of Enlightened Speech

5. Mandala of Enlightened Body

6. Animals representing the months of the year

7. Half vajras with half-moons, each adorned with a red jewel

8. Geometric shapes symbolizing the six elements, which are the five physical elements (fire, water, earth, air, space) plus the wisdom element (consciousness)

9. Thirty-six offering goddesses represented by Sanskrit seed-syllables

10. Double vajras which correspond to each of the four directions

11. Hanging garlands and half-garlands of white pearls surrounding the eight auspicious signs

12. Downspouts, which release rainwater from the palace roof

13. Half-lotus petal design symbolizing protection from afflictive emotion

14. Seven animals pulling a chariot that holds two protective deities; seven elephants are here in the western quadrant

15. Western gate of the Mandala of Enlightened Body

16. Offering garden

17. Earth element circle filled with interlocking crosses representing earth's stability

18. Water element circle containing wavelike ripples

19. Senge Kangpa Gyepa, an eight-legged lion pulling a cart containing two wrathful protective deities

20-21. This whole area is known as the cemetery grounds and is composed of the fire element circle (20) and the wind element circle(21)

22. Wheel of Dharma with a pair of protective deities in the center

23. Sanskrit seed-syllables

24. Space element circle containing an interlocking fence of golden vajras

25. Wisdom element circle, also known as the Great Protective Circle

 

ทางบ้านเราก็มีครับเรียกว่า กงล้อ "ธรรมจักร"

ธรรมจักร หมายถึงเครื่องหมายทางพระพุทธศาสนา เป็นรูปวงล้อมี 8 ซี่บ้าง 12 ซี่บ้าง ถือเป็นสัญลักษณ์เริ่มแรกของพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาครั้งแรก ด้วยการแสดงพระธรรมเทศนาชื่อ "ธรรมจักรกัปปวัตตนะ" โปรดพระปัญจวัคคีย์ นักปราชญ์ทางศาสนาจึงกำหนดธรรมจักรเป็นสัญลักษณ์ของวงล้อ ธรรมะอันจะหมุนเคลื่อนตัวไปรอบแล้วรอบเล่า เพื่อจะให้เข้าถึงประชา หมู่สัตว์ทั่วๆ ไปดุจวงล้อของราชรถที่พระราชประทับเคลื่อนไป

ตราธรรมจักรถ้ามี 4 กง อาจหมายถึง หลักอริยสัจ 4

ตราธรรมจักรถ้ามี 8 กง อาจหมายถึง มรรคมีองค์ประกอบ 8 ประการ

ตราธรรมจักรถ้ามี 16 กง อาจหมายถึง ญาณ 16 ในวิปัสสนากรรมฐาน

กงในตราธรรมจักรอาจมีหลายกง สุดแต่จะกำหนดความหมายตามหลักธรรมที่ผู้สร้างเลื่อมใส หรือปฏิบัตินำมาย่อเข้าไว้


มีอีก อ่านเอง เหอะ
http://www.uamulet.com/articleAmuletBoardDetail.asp?qid=500&sort=DESC

 

ไม่ค่อยรู้เรื่องของทางทิเบตเลย

น่าสนใจดีนะ คาเมน

อืมๆ ริชาต เกียร์

 

เคยอ่านเรื่องตาที่สามเหมือนกัน น่าสนใจดีมากหนังสือเล่มนี้

 

เอ .... ใช่ที่เป้นการเพ่ง จักระที่ อยู่กลางหน้าผากรึเปล่าครับ ในการเปิด ตาที่ 3

ถ้าเจาะจริงๆ ไม่แย่เรยเหรอครับ

 

อืม มีเรื่องแปลกอีกอย่างนงนะ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นแดนที่พทธศาสนาเข้มแข็งที่สดในโลกเนี่ย กลับมีแต่ชาวตะวันตกออกไปแสวงหาคำตอบให้กับวิญญาณมากกว่าชาวพทธจริงๆซะอีก มีคัมีร์ต่างๆที่น่าสนใจมากมายทางจิตวิญญาณ อันที่จะต้องพิสจน์ด้วยตนเอง ตอนนี้ข้าพเจ้ามี "คัมพีร์มรณะแห่งธิเบต" ที่กำลังอ่านอย่

อ้อ เรื่องการเจาะดวงตาที่ 3 ของฮินดไม่ใช่เหรอ พิธีการมองเห็นทั่วจักวาลนี้ มาจากลัทธิโยคี โดยการเปิดดวงตาที่ 3 ต้องมีบคคลที่ 2 คอยช่วย ซึ่งบคคลนั้น จะต้องมีวาระทางจิตที่เหนือกว่าผ้จะเปิดดวงตา (เอาคร่าวๆนะ) คือพอเดินปราณึงจดกลางกระหม่อม (มงกฏจักระ) ผ้ที่ตามวาระจิตจะต้องลงมือทันที...และพลาด....เหอๆๆๆ....(เก๊าะมรณะพาพอะเด๊....)

 

เพลง ธิเบต ครับ เพราะ เพียบ ดาว์โหลดเอง นะจ้ะ


http://www.xtczjd.cn/ReadNews.asp?NewsID=230

 

ขอบคุณมดเอ๊กส์มาก เน้อ

 

เคยอ่านเหมือนกันค่ะ หนังสือเรื่องตาที่ 3 เกี่ยวกับชีวิตของลามะธิเบต ในหนังสือบอกว่า ต้องเจาะกระโหลกที่บริเวณจักระที่3 จริงๆ แล้วเอารากไม้เหน็บไว้ พอหายแล้วลามะท่านนั้นก็จะเห้นแสง ออร่าที่ออกมาจากร่างกายคน

 

อ้อ พระทางทิเบตนี้เอง

อ่ะโห ภาวนาหนึ่งแสนจบ ปิดอบายทัง 3 แค่ภาวนา 3 จบเด็กบ้านยางก็จะนอนสวดมนต์อยู่แล้ว หุ หุ

 

ได้ความรู้อีกแล้วขอบคุณค่ะ