ขอความรู้เรื่อง"แสงเล็กๆเล็ดรอดออกมาจากขอบตาดำจุดที่บรรจบกับตาข้างขวา"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย วสุธรรม, 16 กันยายน 2011.

  1. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ประเด็นที่ผมสนใจ
    นัยตาของลูน่า มีแสงเล็กๆเล็ดรอดออกมาจากขอบตาดำจุดที่บรรจบกับตาขาวข้างขวา นั่นทำให้มีแสงส่องเข้าไปในเรติน่าเกิดเป็นรูปจันทร์เสี้ยว
    จากอ้างอิงด้านบนนี้มีสิ่งหนึ่งซึ่งผมสนใจ เพราะว่าผมได้พบผู้ที่มีลักษณะดังกล่าวอยู่ในโลกนี้จริง ขอสอบถามความรู้จากเพื่อนๆดังนี้

    คำถาม
    1.ผมเกิดข้อสงสัยว่าลักษณะดังกล่าวนี้ สามารถพบได้ทั่วไปหรือไม่ หรือในโลกนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
    2.มีเพื่อนๆท่านใดทราบข่าวหรือพบเห็นผู้มีลักษณะดังกล่าวข้างต้นนี้อีกไหม
    3.รับฟังคำวิจารณ์อื่นๆ

    ขอบพระคุณที่กรุณาสละเวลามาตอบข้อสงสัยของผมครับ:cool:
     
  2. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    อย่าให้เมีย ดูระครมากเกินไป เพราะตอนหลับจะละเมอ น้ำลายไหล อิ อิ
     
  3. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    ข้อมุลเท่านี้ผมว่ามันก็ครบแล้วนะครับ อย่าสงสัยต่อเลยครับ เพราะตัวสงสัยจะทำให้เสียเวลาไปมากว่าเดิมอีกเยอะครับ
     
  4. พิทย

    พิทย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +32
    ประเด็นแสงลอดผ่านเข้าช่องตา. แล้วตีความเป็นอภิมหาอวตาร ที่สำคัญ พระศรีอริยะเมตไตรท่านเกิดสมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน. ได้บวชเป็นพระ. แล้วจะลงมาเกิดเป็นหญิงนอนเพ้อน้ำลายไหล มีแสงที่ตา. ผมว่าคิดสั้นไปมาก. จะกล่าวอ้างใครก็คงไปห้ามคุณห้ามเขาไม่ได้ แต่ขอพระศรีอริยะเมตไตรไว้สักองค์เถอะครับ แนะนำให้คุณไปดูคลิปยูทูป. ที่มีเด็กที่มีน้ำตาเป็นคริสเติล ร้องไห้ออกมาเป็นแก้วได้เลยนะครับ
     
  5. wood

    wood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +359
    ต้องให้คนเขียนไปคุยกับคุณจำผมได้ไหมซักครั้ง
     
  6. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ขอบคุณสำหรับความเห็นของท่านwacaholic ขออนุโมทนา...
    ผมสงสัยตามประเด็นที่ตั้งไว้ครับ ว่าปรากฏการณ์ลักษณะนี้ สามารถพบได้เพียงผู้เดียว หรือมีเพื่อนๆท่านอื่นก็พบได้มากมายในโลกใบนี้
    ******************************************************
    1.คุณพิทยครับ คุณอ่านไม่ละเอียด ได้ตีความผิดนะครับ ในบรรทัดที่3ได้กล่าวว่า
    "เธอเล่าเรื่องราวของคนคนหนึ่งที่เธอเรียกว่า-ลูน่า-ทั้งๆที่ตั้งแต่ผมรู้จักเธอมานั้นเธอไม่เคยพูดถึงชื่อนี้เลยเธอพูดกับผมทั้งๆที่หลับ "ในบทความนี้เธอกล่าวถึงบุคคลที่3ครับ
    2.เรื่องน้ำตาไหลออกมาเป็นผลึกแก้วผมได้เคยอ่านมาแล้ว มันคนละประเด็นกันครับ
    ขอบคุณท่านพิทย ที่แสดงความเห็นมานะครับ บทความนี้ได้มีผู้นำมาเผยแพร่ไว้นานมากแล้ว ขออนุโมทนา
    ******************************************************
    เชิญร่วมกันแสดงความคิดเห็นตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ ผมไม่โกรธเคืองใครหรอก
    ขอบคุณทุกท่านที่เข้าโพสต์แสดงความคิดเห็นของท่าน
     
  7. J_Shaman

    J_Shaman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +15
    ลูน่าจะเป็นผู้กำหนดพลังงานของโลก ซึ่งไม่ใช่น้ำมัน เป็นพลังงานที่ทุกเผ่าพันธุ์ทั้ง 46 เผ่าของจักรวาลใช้กันอยู่ เป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนยานให้บินข้ามกาแล๊กซีเป็นระยะทางหน่วยที่เรียกว่า โคโด ( 1โคโด = 10,000 ปีแสง ) พลังงานนี้รีชาร์จกับแสงอาทิตย์ได้เหมือนโซลาร์เซลล์แต่มันประจุได้เกือบจะล้านส่วนต่อล้านส่วน คือรับแสงอาทิตย์ได้พลังงานที่มหาศาลดุจดั่งมันเป็นดวงอาทิตย์เอง และมันไม่มีวันหมด มีมากพอให้ทั้ง 47 เผ่าพันธุ์ ( รวมทั้งมนุษย์ด้วย )ใช้ได้อีกเป็นล้านปี การมีและครอบครอง ไม่มีคำว่าค้าขายหรือเก็งกำไร แต่เราก็ไม่มีทางเดินทางไปเอามันมาใช้ได้ มีแต่รอเวลาที่เค้าจะเอามาให้ เวลาที่ว่ามีทางออกแตกต่าง 2 ทาง คือ
    -เราได้ใช้ถ้ามนุษย์ถึงเวลาและสามารถทลายกำแพงความคิดของเราเองได้
    -หรือเราได้ใช้เพราะเค้ามารับเราบางคนไปจากโลกที่กำลังดับสลาย เค้าจะรับเราบางคนเท่านั้นไปเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ ใครที่คิดว่าเคยเห็นยูเอฟโออันนั้นแสดงว่าเค้ามาร์คคุณแล้ว
    *วิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทุกวันนี้ยังถือว่าอนุบาลมากๆเมื่อเทียบกับนานาเผ่า เมื่อไรที่ เราเอาวิทยาศาสตร์กับจิต ผนวกกันได้ เมื่อนั้นเราจะทะลุขีดขั้น ครับ เธอว่า

    ลูน่า เกิดเป็นคนแต่ไม่ใช่คน เป็นสิ่งที่สถิตย์มาในวิญญานของเค้าเองนับแต่เกิด มีรูปแบบของเซลล์ที่สามารถที่แบ่งตัวได้ เหมือนกับสัตว์เซลล์เดียว แต่เซลล์สมองของลูน่าก็แบ่งตัวได้เรื่อยๆเช่นกัน ไม่มีกติกาว่าเซลล์สมองหยุดแบ่งตัวตอน 5 ขวบเหมือนมนุษย์ทั่วไป นัยตาของลูน่า มีแสงเล็กๆเล็ดรอดออกมาจากขอบตาดำจุดที่บรรจบกับตาขาวข้างขวา นั่นทำให้มีแสงส่องเข้าไปในเรติน่าเกิดเป็นรูปจันทร์เสี้ยว

    ลูน่า ท่าจะเปรียบแล้วคือพลังงานของระจันทร์ สิ่งที่คุณกล่าวมานั้นถูกต้องหมดคือการพยายามให้มนุษย์เข้าใจในพลังงานรอบๆตัวของธรรมชาติและร่างกายตัวเราเองโดยมีโลกเป็นตัวแปร ความรู้ของลูน่านั้น พยายามทำให้มนุษย์ที่ถูกเลือกให้พยายามฝึกร่างกายตัวเองกับพลังงานเก่าที่มีอยู่ตามธรรมชาติที่เรียกว่าพลังงานเก่ามาช่วยสมดุลย์จากสภาวะโลกและมนุษย์ยุคนี้ที่ขาดความสมดุลย์หรือที่เรียกว่าพลังงานใหม่ ส่วนน้ำตาหรือกระแสพลังงานที่ออกมาจากมุมตาที่บรรจบกันตรงดั้งจมูกคือการปล่อยกระแสพลังงานอย่างหนึ่งที่ถูกใจที่บริสุทธิ์ออกมา ยังมีอีกคนหนึ่งที่ประจำอยู่บนดวงอาทิตย์ไม่ใช่เอเลี่ยนซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ผมเคยติดต่ออยู่ร่วมกับลูน่า เป็นคนเดียวกันกับที่ให้ข้อมูลกับกลุ่มอาจารย์เทพพนม ซึ่งจะขออนุญาติไม่กล่าวถึง น้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะความสงสารต่อหายะต่อมวลมนุษย์และโลกต่อสิ่งที่หลายๆท่านเอาไปใช้ในทางที่ผิดและยังไม่เข้าใจเพราะใจยังไม่เปิกพอกับความรู้ในทางธรรมที่เกี่ยว้องกับวิทยาศาสตร์ให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้ ขอออกความเห็นแค่นี้ครับจากประสบการณ์
     
  8. Yurichan

    Yurichan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +97
    ผมหาข้อมูลแล้ว อาการที่ นัยตาของลูน่า มีแสงเล็กๆเล็ดรอดออกมาจากขอบตาดำจุดที่บรรจบกับตาขาวข้างขวา นั่นทำให้มีแสงส่องเข้าไปในเรติน่าเกิดเป็นรูปจันทร์เสี้ยว

    เป็นโรคเกร็ดกระดี่ขึ้นตา เกิดจาก เรติน่าเสื่อมเนื่องจากขาดวิตามินเอ ทำให้เรติน่าโหว่เป็นช่อง ตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเทาและเงิน ซึ่งบางทีอาจจะดูคล้ายรูปจันทร์เสี้ยว http://thaiwonders.com

    อย่าไปยึดติดกับที่เขาเขียนเลยครับ ตัวผู้เขียนก็ไม่ได้มาเล่ารายละเอียดต่อเนื่องมาตั้งนานแล้ว คิดว่าเป็นนิยายเรื่องหนึ่งไปดีกว่า ที่สำคัญอย่าไปเชื่อสิ่งที่เขียนในพลังจิตมากเกินไป ในนี้มีทั้งคนที่สติดีและไม่ดี บางครั้งทำให้เราหลงเชื่อในสิ่งที่เราคิดอยู่แล้วว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ยิ่งอ่านยิ่งพาให้เพี้ยนหนักไปอีกถ้าขาดสติ

    [​IMG] [​IMG]

    [FONT=&quot]โรคขาดวิตามินเอยังพบได้ในท้องที่ชนบทบางแห่ง (พบบ่อยทางภาคอีสาน) และในเขตที่ยากจน มักพบในเด็กวัยแรกเกิดถึงอายุ 5 ปี เกิดจากการกินอาหารที่มีวิตามินเอน้อยไป เช่น กินแต่นมข้นหวาน กล้วยบด และข้าวโดยไม่ได้อาหารเสริมอื่น ๆ โรคนี้มักพบร่วมกันไปกับโรคขาดสารอาหาร (130) บางคนอาจเป็นหลังจากเป็นโรคติดเชื้อ (เช่น หัด ปอดอักเสบ) หรือท้องเดินเรื้อรัง ในผู้ใหญ่พบได้น้อย ถ้าพบมักมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ เช่น โรคตับเรื้อรัง โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เป็นต้น มีผลทำให้การดูดซึมวิตามินเอน้อยลง[/FONT]
    [FONT=&quot] ภาวะขาดวิตามนเอ ทำให้ประสาทตาส่วนที่เรียกว่า จอตา หรือ เรตินา ([FONT=&quot]retina[/FONT][FONT=&quot]) เสื่อม ทำให้เยื่อบุตาแห้ง และต่อมน้ำตาไม่ทำงาน จึงอาจทำให้เด็กเป็นโรคนี้ตาบอดได้ ดังที่ชาวบ้านรู้จักกันดีกว่าเป็น โรคเกล็ดกระดี่ขึ้นตา[/FONT][/FONT]

    [FONT=&quot]เริ่มแรกจะมีอาการตาฟางหรือมองไม่เห็นเฉพาะตอนกลางคืน หรือในที่มืด ๆ (แต่มองเห็นเป็นปกติในเวลากลางวันและในที่สว่าง ๆ ) เนื่องจากจอตาเริ่มเสื่อม ต่อมาเยื่อตาขาวแห้ง เมื่อเป็นมากขึ้น เยื่อตาขาวจะย่นอยู่รอบ ๆ กระจกดำดูคล้ายเกล็ดปลา และกระจกตาดำซึ่งปกติสะท้อนแสงวาววับ จะแห้งและไม่มีประกาย ตาขาวจะเปลี่ยนเป็นสีเทาและสีเงิน เห็นเป็นจุดใหญ่ทางด้านหางตาเรียกว่า จุดบิทอตส์ (Bitot’s spot) หรือ เกล็ดกระดี่ อาจเป็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง ถ้ารักษาในระยะนี้จะแก้ได้ทัน แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้กระจกตาจะเกิดการอ่อนตัว เป็นแผลและเกิดรูทะลุมีเชื้อโรคเข้าไปในลูกตา ทำให้เกิดการอักเสบภายในลูกตา ตาบอดได้ ถ้าเป็นระยะนี้ โอกาสหายก็มีน้อย

    [/FONT] [FONT=&quot] ในเด็กเล็กมักตรวจพบเมื่อมีการอ่อนตัวของกระจกตาดำแล้ว จะพบหนังตาบวม ปิดตาแน่น ไม่ยอมลืมตา[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2011
  9. J_Shaman

    J_Shaman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +15
    อ้อจึงเป็นเช่นนั้นเอง สังเกตุดวงตาของท่านกำหนดไว้ที่ไหนบางรูปจะเห็นว่าดวงตาทั้งคู่ชิดเข่ามาท่งจมูกมากขึ้น ลองคิแบบธรรมชาตินะครับพระจันทร์มีผลกับโลกอย่างไรในตอนกลางคืน คาร์บอนไดอ๊อกไซค์ตามธรรมชาติไม่ใช่ที่มาจากมลพิษเกิดขึ้นช่วงไหน สั้นๆง่ายๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • chohae2.jpg
      chohae2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      120
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2011
  10. phuttata

    phuttata สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    มืจริงอยู่ทื่ตาดำทั้งสองข้างและมือืกหลายอย่างนะ.....เยอะมาก
     
  11. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    การ featuring ขั้นเทพ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก:boo:
     
  12. pattat

    pattat สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    เรื่องแสงเล็ดรอดที่ตาข้างขวา อาจจะมีหลายคนก็ได้มั้งครับ เพราะผมก็เคยเจอมาคนนึง ถ้าปกติมองไม่ออกครับว่ามีแสงเล็ดรอดออกมา ต้องให้แสงส่องผ่านด้านข้าง แสงจึงจะเข้าไปในดวงตาด้านข้างแล้วก็โผล่ออกมาที่ขอบตาดำหนะครับ เป็นลักษณะสว่างเป็นขอบเสี้ยวเท่านั้นครับไม่ได้กินเนื้อที่เข้าไปในตาดำ แต่ก็แปลกคนที่ผมเจอเป็นที่ข้างขวา แต่ข้างซ้ายไม่เป็น
     

แชร์หน้านี้

Loading...