ขุนแผนนะร่ำไรมหาละลวยแรงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา หลวงปู่ปั้มเองกับมือทุกองค์

ขอเชิญทุกท่านร่วมบูชาวัตถุมงคลเพื่อสร้างที่พักสงห์เขายางหัก หลวงปู่สมาน สุธมฺโม ศิษย์หลวงปู่สุด วัดกาหลง หลวงพ่อมา วัดนางตะเคียน หลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์ และ อาจารย์รวม หนังแห้ง (อาจารย์ของพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่) หลวงปู่ท่านชี้แนวเขตบริเวณที่ดินให้ช่างทราบ เพื่อก่อสร้างที่พักสงฆ์เขายางหัก จ.ราชบุรี โดยจะสร้างให้เสร็จก่อนออกพรรษา หลังจากออกพรรษาแล้วท่านก็จะกลับจากประเทศมาเลย์เซียมาอยู่ที่พักสงฆ์แห่งนี้

ผ้ายันต์ ผืนละ 99 บาท
สายคาดเอวตะกรุด 108 เส้นละ 399 บาท
วัตถุมงคลทุกชิ้นมีโค๊ดและหมายเลข

<a href="http://www.mx7.com/view2/ziBZlJJZTyteBjC5" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/d9b/wAHtbf.jpg" /></a>

<a href="http://www.mx7.com/view2/ziBZlJJZTvYwEec5" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/aed/FFFWrp.jpg" /></a>

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/ziC6MA6AwM81xju8" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/93f/o5Dc7v.jpg" /></a>

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/ziC73f6DR1Ru3ztY" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/ef2/VFsFvP.jpg" /></a>

 

‪#‎หลวงปู่สมานประกาศจะอยู่ในที่พักสงฆ์เขายางหักตลอดไป‬
เมื่อชี้แนวเขตเสร็จแล้วหลวงปู่สมานท่านได้ประกาศว่า หลังจากออกพรรษาและกุฏิในที่พักสงฆ์เขายางหักสร้างเสร็จแล้ว ท่านจะกลับจากมาเลเซียมาอยู่ที่นี่ตลอดไป พร้อมกับกล่าวขอบใจล่วงหน้าสำหรับศิษยานุศิษย์ทุกท่านที่จะร่วมกันสร้างที่พักสงฆ์ให้ท่าน แล้วก็สั่งให้นำผ้ายันต์แดง (สร้าง 500 ผืน) และสายคาดเอวตะกรุด 108 ดอก (สร้าง399เส้น) ที่ปลุกเสกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกให้บูชาตั้งแต่วันที่ 25 นี้เป็นต้นไป โดยวัตถุมงคลทั้งหมดมีโค๊ตและหมายเลขกำกำกับทุกชิ้น (วัตถุมงคลทั้ง 2 อย่างนี้ในสมัยที่หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จัดสร้างนั้นโด่งดังมากและปัจจุบันหาของแท้ๆแทบไม่ได้แล้ว)

<a href="http://www.mx7.com/view2/ziC8oU5AMajB9JIE" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e63/ILLIW0.jpg" /></a>

 

ประวัติหลวงปู่สมาน

หลวงปู่สมานปัจจุบันอายุ 85 ปี เป็นชาวสมุทรสงคราม เมื่อสมัยเป็นเด็กๆเรียนหนังสือที่ วัดน้อยแสงจันทร์ เป็นที่เอ็นดูของหลวงพ่อรักษ์ ฐิตธมฺโม หรือ พระครูสุธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์เป็นอย่างมาก เมื่อเจริญวัยขึ้น ได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมต่างๆจากอาจารย์รวม หนังแห้ง อาจารย์ฆราวาส ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ โดยหลวงปู่สมานเป็นศิษย์คนแรกของอาจารย์รวม นอกจากนั้นหลวงปู่สมานยังได้รับการประสิทธิอาคมจากหลวงพ่อสุด วัดกาหลง อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาคร
ด้วยการศึกษาพุทธาคมจากอาจารย์ทั้งสอง จึงทำให้หลวงปู่สมานเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีสรรพวิชาและความชำนาญในอักขระเลขยันต์เป็นอย่างสูง การทำวัตถุมงคลเครื่องรางของท่านจึงมีประสบการณ์ขลังๆมากมาย


<a href="http://www.mx7.com/view2/z5g6d8fFdytMszJm" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c8b/MbkwTh.jpg" /></a>

 

‪#‎เชื่อว่าต่อไปวัตถุมงคลยุคต้นๆของหลวงปู่สมานราคาจะสูงขึ้นมาก‬
หลังจากที่หลวงปู่สมานกลับมาอยู่ประเทศไทยในที่พักสงฆ์เขายางหัก จังหวัดราชบุรีแล้ว ท่านก็จะสามารถสงเคราะห์ญาติโยมชาวไทยจนเป็นที่ศรัทธาอย่างกว้างขวางแน่นอน เพราะหลวงปู่สมานเป็นพระเกจิที่มีสายครูบาอาจารย์ดี และมีพุทธาคมครบเครื่อง สามารถสักเสกเลขยันต์ได้เอง ทั้งวิชาคงกระพันชาตรี โชคลาภและเมตตามหานิยม
ที่สำคัญคือในวัย 85 ปี ท่านยังแข็งแรง สามารถเขียนยันต์เองและอาบน้ำมนต์ได้ ประกอบกับระยะทางจาก สนามหลวง กทม.ไปถึง ที่พักสงฆ์เขายางหักนั้น มีระยะทางเพียง 140 กม.เท่านั้น บรรดาผู้ศรัทธาชาวไทยคงหลั่งไหลไปกราบท่านได้สะดวก ทำให้มีฐานลูกศิษย์เพิ่มขึ้นตลอด วัตถุมงคลยุคต้นๆของหลวงปู่ดังภาพที่ท่านเห็นก็จะมีลูกศิษย์รุ่นใหม่ๆ ต้องการมากขึ้น ในขณะที่ท่านสร้างวัตถุมงคลออกมาจำนวนน้อยและมีโค๊ดพร้อมหมายเลขทุกรุ่น ราคาจึงสูงขึ้นมากตามความต้องการในของที่มีเพียงน้อยนิด

 

ประวัติหลวงพ่อสุด วัดกาหลง พระอาจารย์ผู้ประสิทธิยันต์ตระกร้อให้หลวงปู่สมาน
หลวงพ่อสุด เกิดวันที่ 7 พฤษภาคม 2445 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล ณ บ้านค้อใหญ่ หมู่ที่ 8 ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด บิดาชื่อ นายมาก สัตตัง มารดาชื่อ นางอ่อนศรี สัตตัง ในแผ่นดินของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพี่น้อง 3 คน คือ 1.นางบุตรดี มูลลิสาร 2.นางสาวหวด สัตตัง 3.พระครูสมุทรธรรมสุนทรบรรพชา อายุ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ.2461 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดิอน 5 ปีมะเมีย ณ วัดฟ้าหยาด บ้านคำไฮ ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด โดย มีพระครูม้าว เจ้าคณะอำเภอกิตติมศักดิ์ วัดกลางพนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้เป็นอาจารย์องค์สำคัญที่หลวงพ่อให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อุปสมบท
อายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบท เมื่อวันอังคาร ที่ 20 มิถุนายน 2465 ตรงกับวันแรม 11 ค่ำเดือน 7 ปีจอ ณ พัทธสีมาวัดกลางพนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพระครูม้าว เจ้าคณะอำเภอกิตติมศักดิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระ อธิการจันทา วัดฟ้าหยาด บ้านคำไฮ ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการบุดดา วัดพองยาว ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ด้านการศึกษาทางพระพุทธศาสนา
พ.ศ. 2481สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดกาหลง
พ.ศ.2482 เป็นผู้อุปการะโรงเรียนวัดกาหลง
พ.ศ.2485 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม
พ.ศ.2495 เป็นกรรมการการตรวจธรรมสนามหลวง
การศึกษาด้านวิชาอาคม
1.หลวงปู่ม้าว วัดกลางพนมไพร (พระอุปัชฌาย์ของท่าน)
2.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ (ในปี 2484 หลวงพ่อรุ่งได้จัดสร้างเหรียญรุ่นแรกของท่าน หลวงพ่อสุดขณะนั้นเป็นเจ้าคณะตำบล ได้อยู่ในการร่วมสร้างเหรียญนี้ด้วยเช่นกัน)
3.หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม (เป็นพระที่หลวงพ่อสุดนับถือมาก) อื่นๆอีกหลายท่าน
ด้านการปกครอง
พ.ศ.2478 เป็นเจ้าอาวาสวัดกาหลง
พ.ศ.2479 เป็นเจ้าคณะหมวด
พ.ศ.2484 เป็นเจ้าคณะตำบล
พ.ศ.2495 เป็นสาธารณูปการอำเภอ
มรณภาพ
พระครูสมุทรธรรมสุนทร เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย รักสันโดษมีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ยึดพรหมวิหารและสังคหวัตถุธรรมเป็นหลักปฏิบัติ ได้บำเพ็ญศาสนกิจอันเป็นหิตานุหิตประโยชน์เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เพื่อความวัฒนาสถาพรแก่พระศาสนาและปวงชนอย่างแท้จริง พ.ศ.2521 ได้อาพาธด้วยโรค โพรงจมูกอักเสบ ได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วได้กลับมาปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ วัน ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2524 พระครูสมุทรธรรมสุนทร ได้อาพาธด้วยโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ได้เข้าพักรักษาตัวและทำการผ่าตัดกระเพาะที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ถนนพหลโยธิน กทม.หลังจากออกจากโรงพยาบาลเปาโลแล้วได้กลับมาปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดกาหลงตามปกติ และเนื่องจากหลวงปู่ชราภาพมากสุขภาพไม่แข็งแรง ร่างกายอ่อนเพลียเดินไม่สะดวกเจ็บออดๆแอดๆเรื่อยมา ครั้น ถึงวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2526 ตรงกับขึ้น 6 ค่ำ เดือน 9 ปีกุน เวลา 13.15 น. หลวงปู่สุด สิริธโร ก็ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุได้ 81 ปี 3 เดือน 8 วัน ยังมาซึ่งความเศร้าโศกและอาลัยรักของบรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ใกล้ชิดทั้งใกล้และไกลเป็นอย่างยิ่ง พิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูสมุทรธรรมสุนทร (สุด สิริธโร) อคีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง ณ เมรุวัดกาหลง อ.เมือง จ สมุทรสาคร วันอาทิตย์ ที่ 1 ธันวาคม 2545 เวลา 16.00 น.
ข้อมูลจากหนังสือ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูสมุทรธรรมสุนทร (สุด สิริธโร)

 

ขอร่วมสร้าง จองผ้ายันต์ 1 ผืน และตะกรุด 1 เส้นครับ

 

ยืนยันการจองคะ

 

ประวัติอาจารย์รวม หนังแห้ง
ลุ่มน้ำแม่กลองที่ไหลผ่านจังหวัดสมุทรสงครามในอดีต มีอาจารย์ฆราวาสผู้แก่กล้าที่มีเรื่องราวเล่าขานสืบต่อกันมามากมาย อาทิ
อาจารย์ปั้น เป็นครูสัก(สักหมึก) พอสักเสร็จจะบอกว่าไปเถอะ พอลุกไป หันหลังให้ ไม้รวกก็พุ่งตามหลังลูกศิษย์ทันที คือเอาไม้รวกปากฉลามแหลมๆที่ทำไว้ทดสอบลองวิชานั้นพุ่งใส่เลย เหนียวไม่เหนียวเป็นอันรู้กันทันที ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีเรื่องผิดพลาดว่าใครจะเป็นอะไร
อาจารย์เพิก มีวิชาอาคมแก่กล้า สามารถเอามือเปล่าๆผ่าไม้ไผ่ได้ตลอดทั้งลำ มีครั้งหนึ่งเมากลับบ้านไม่ถูก นอนในเรือแต่ก็น่าแปลกที่ว่าเรือนั้นกลับมาถึงบ้านเองได้

 

อาจารย์รวมหนังแห้ง ซึ่งเป็นครูสักเหมือนกัน ตัวอาจารย์รวมเองก็หนังเหนียวคงกระพันมาก จนได้ฉายาว่า “แมงวันไม่ได้กินเลือด” วิชาของอาจารย์รวมนั้นเชื่อมั่นได้จริงๆ และท่านก็ทำให้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่างเช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านอยากกินเนื้อหมู แต่ไม่มีเงินซื้อ ท่านเลยท้าคนขายหมูว่า ช่วยเอามีดฟันข้าที “ฟันข้า 1 ที ข้าขอหมู 1 ชิ้น” แต่ตอนนั้นคนขายหมูไม่กล้าฟัน ท่านเลยเอามีดมาฟันตัวเองให้ดู ซึ่งก็ไม่เข้าทำให้เหตุการณ์นั้นเป็นเล่าลือโจษขานกันในสมัยต่อมา
เรื่องความแก่กล้าในวิชาของอาจารย์รวมไม่ใช่มีเพียงเท่านี้เพราะเมื่อตอนที่ท่านพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มาบวชเป็นพระอยู่วัดประจันตารามได้พรรษาแรกก็ได้พบกับ “หลวงตารวม” อยู่ด้านหลังโบสถ์ของวัด หลวงตารวมนี้เป็นพระที่มีอาคมขลังและหนังเหนียว มีฉายาในกลุ่มลูกศิษย์ว่า “ตารวม หนังแห้ง” อดีตท่านเป็นอาจารย์สักที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะ “ยันต์หมูทองแดง”
หลังจากที่ทั้งสองได้พบกันแล้ว ทั้งสองก็เริ่มสนิทกันทำให้พระมหาสุรศักดิ์ได้เห็นความแก่กล้าในวิชาอาคมของอาจารย์รวมกับตาของท่านเองในตอนที่ไปถางหญ้าในป่าช้าด้วยกัน แล้วเจอผึ้งทำรังอยู่ในซองใส่ศพ ตอนนั้นอาจารย์รวมได้ตักน้ำใส่ขันมาทิ้งไว้ให้ผึ้งกินพร้อมกับเอ่ยปากบอกผึ้งว่า “พวกเอ็งกินซะ” ทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดคือผึ้งที่เกาะกันเป็นรวง ค่อยๆย้อยรวงลงมากินน้ำกันจนเต็มขัน อาจารย์รวมเห็นผึ้งลงมากินน้ำแล้วท่านก็ไปถางหญ้าต่อจนเสร็จ ก่อนกลับมาดูที่ขันน้ำอีกที แต่..อ้าว!!.. ผึ้งกินน้ำจนท้องป่องนอนตายกันเกลื่อนเต็มอยู่ในขัน พออาจารย์รวมเห็นผึ้งตายเต็มขันเข้า ท่านก็คงรู้สึกผิด เพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พวกมันตาย ท่านอาจารย์รวมเลยไปหาแผ่นสังกะสีปิดปากขันนั้นไว้ แล้วเอาไปตั้งหน้าพระประธาน จากนั้นก็ร่ายมนต์เป่าลงไป ทิ้งไว้สักครู่ จึงบอกให้พระที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยไปเปิดดูใหม่ พระก็ถามท่านว่าจะไปเปิดทำไมอีกหลวงตา ผึ้งก็ตายหมดแล้ว แต่พอไปเปิดจริงผึ้งทั้งหมดกลับบินออกมาได้ โดยไม่มีตัวใดตายเลย
อาจารย์รวมนี้บางท่านว่าเป็นลูกศิษย์อาจารย์ปั้น หนุนภักดี ที่บางป่า ซึ่งเรื่องนี้หลวงปู่สมานท่านไม่ยืนยันเพราะไม่ได้สอบถามท่านเอาไว้ แต่ที่แน่ๆหลวงปู่สมานท่านทราบว่า อาจารย์รวมนั่นท่านเป็นลูกเขยอาจารย์เพิก ส่วนพระมหาสุรศักดิ์ท่านเล่าเสริมว่า มากไปกว่านั้นอาจารย์รวมยังได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้างขุนทะเล(ปลัดขิก)จากหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยหลวงพ่อบุศย์ท่านได้รับวิชานี้มาจากหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก จ.เพชรบุรีอีกทอดหนึ่ง
ในช่วงบั้นปลายชีวิตของอาจารย์รวมท่านนี้ได้ลาสิกขามาเป็นฆราวาสเหมือนเดิม และหลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ได้รับท่านมาเลี้ยงดูที่วัดประดู่ตราบจนกระทั่งเสียชีวิต

 

ขอร่วมสร้าง จองผ้ายันต์ 1 ผืน และตะกรุด 1 เส้นครับ

ยังมีเสือยอดยันต์ ให้ร่วมบูชามั้ยครับ

 

ยืนยันการจองคะ

 

หลวงปู่เอี่ยม วัดปากลัด(วัดลัดด่าน)
หลวงปู่เอี่ยม เถวโร ท่านเป็นเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่มีวิชาอาคมเก่งกล้า เพราะขนาดหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ที่สร้างปิดตาองค์เป็นล้าน ยังเป็นลูกศิษย์ของท่าน ดังประวัติหลวงปู่ไข่ที่ถูกบันทึกไว้ดังต่อไปนี้
หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ท่านเป็นชาวแปดริ้ว เกิดที่ตำบลท่าไข่ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2400 โยมบิดาชื่อกล่อม โยมมารดาชื่อบัว เมื่อท่านอายุได้ 6 ขวบโยมบิดาได้นำท่านไปฝากกับหลวงพ่อปาน วัดโสธรฯ เพื่อให้เรียนหนังสือ ต่อมาจึงได้บวชเป็นสามเณร และได้ฝึกหัดเทศน์จนมีชื่อเสียงในทางเทศน์มหาชาติ เมื่อหลวงพ่อปานมรณภาพลงหลวงปู่ไข่จึงได้เดินทางไปอยู่กับพระอาจารย์จวง วัดน้อย อำเภอพนัสนิคม ชลบุรี จนท่านอายุได้ 15 ปี พระอาจารย์จวงก็มรณภาพลง ท่านจึงเดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหงษ์รัตนาราม บางกอกใหญ่ เรียนพระปริยัติธรรมอยู่ 3 ปี แล้วจึงย้ายไปอยู่กับพระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน สมุทรสงครามศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรมจนอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดลัดด่าน โดยมี
พระอาจารย์เนตร วัดบ้านแหลม เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์ภู่ วัดบางกะพ้อม เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
มากไปกว่านั้น หลวงปู่เอี่ยม ยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่นาค วัดหัวหิน ตามบันทึกประวัติของหลวงปู่นาคที่ถูกบันทึกไว้ดังนี้
หลวงปู่นาคเกิดเมื่อปีพ.ศ.2400 เป็นบุตรของนายพ่วง นางสุ่ม พ่วงไป มีพี่น้องรวม 5 คน ท่านเป็นคนที่ 2 บ้านเดิมอยู่ที่บ้านลัดโพ อ.คลองกระแซง จ.เพชรบุรี หัดเรียนเขียนอ่านอักขระสมัยที่วัดลัดโพ กับพระอธิการเมืองอยู่ 1 ปี แล้วย้ายไปอยู่กับพระอธิการสุก วัดหลักป้อม จ.สมุทรสงคราม เรียนทางพระปริยัติธรรมและบาลีธรรมอยู่หลายปี จนอายุย่าง 19 ปีจึงบรรพชาเป็นสามเณร
กระทั่งอายุ 21 ปี จึงอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดหลังป้อม ได้รับฉายาว่า “ปุญญนาโค” เริ่มศึกษาวิปัสสนาธุระและรับการถ่ายทอดพุทธาคมจากหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อเอี่ยม วัดลัดด่าน และหลวงพ่อภู่ วัดบางกะพ้อม จนมีเกียรติคุณเลื่องลือด้านวิทยาคมอย่างยอดเยี่ยม
นอกจากหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน และหลวงปู่นาค วัดหัวหินแล้ว หลวงปู่เอี่ยมท่านยังเป็นอาจารย์ของเกจิสายแม่กลองอีกมากมาย อาทิ เช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่บ่าย วัดช่องลม และพระเกจิอาจารย์อีกหลายๆท่านยังต้องมาขอเรียนวิชากับหลวงปู่เอี่ยมเลย
วัตถุมงคลของหลวงปู่เอี่ยม วัดปากลัด(วัดลัดด่าน) ที่โด่งดังในพื้นที่มากคือ ตะกรุดที่เก่งทางสะกดและมหาอุดคงกระพันถึงกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อมยังต้องมาเรียน วิชาตะกรุดของหลวงปู่เอี่ยมนี้ปัจจุบันแทบสาบสูญไปแล้ว ดีแต่ว่าโยมปุ่น (อยู่ทับสะแก) ผู้ที่ได้สืบทอดเอาไว้จากหลวงปู่เอี่ยม ได้ถ่ายทอดวิชานี้สู่หลวงปู่สมาน

 

หลวงปู่สมานเล่าว่า สมัยนั้นอาจารย์รวมท่านมาพักอยู่กับพี่สาวของท่านซึ่งอยู่ใกล้บ้านของหลวงปู่ เวลาหลวงปู่พายเรือผ่านไปทีไร ท่านอาจารย์รวมก็มักกวักมือให้แวะเล่นหมากรุกกับท่าน หลวงปู่ท่านก็เป็นคนเรียกง่ายใช้ง่าย พออาจารย์รวมเรียกทีไรหลวงปู่ก็แวะเล่นหมากรุกด้วยทุกที และด้วยความเป็นคนว่าง่ายของหลวงปู่สมานนี้เอง อาจารย์รวมจึงได้ให้ท่านยกครูกับอาจารย์รวม โดยหลวงปู่สมานเป็นศิษย์คนแรกของอาจารย์ เมื่ออาจารย์รวมได้ลายสักอะไรใหม่ๆมาก็ตาม ท่านก็จะมาทดลองสักกับหลวงปู่สมานเพื่อเป็นการซ้อมมือก่อนไปสักให้คนอื่นๆทุกครั้ง ต่อมาท่านอาจารย์รวมก็ได้สอนให้หลวงปู่สมานอ่านเขียนอักขระขอมและเลขยันต์ โดยคงหวังให้หลวงปู่เป็นลูกมือของท่านในกาลต่อไป

 

ต่อมาหลวงปู่สมานเห็นเพื่อนไปสักยันต์ตระกร้อจากหลวงปู่สุด วัดกาหลงแล้วเกิดชอบใจ อยากสักบ้าง เพื่อนจึงพาไปสักกับหลวงปู่สุด ไปๆมาๆจนในที่สุดหลวงปู่สุดประสิทธิวิชายันต์ตระกร้อพร้อมอนุญาติให้หลวงปู่สมานสักยันต์นี้ให้กับผู้อื่นได้ เมื่อหลวงปู่เริ่มสักยันต์ให้ลูกศิษย์ก็เริ่มเกิดประสบการณ์ตามมาอยู่เสมอๆ

 

ทุก 99 บาท รัยผ้ายันต์ลายมือ หลวงปู่สมาน 1 ผืน

<a href="http://www.mx7.com/view2/ziC6MA6AwM81xju8" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/93f/o5Dc7v.jpg" /></a>

 

เมื่อสักยันต์แล้วก็มีการทำปลัดขิก โดยเวลาว่างหลวงปู่มักจะนั่งเหลาไม้ทำปลัดขิกเก็บเอาไว้ แล้วก็นั่งเขียนยันต์และปลุกเสกเก็บเอาไว้ครั้งละ 2-3 ตัว กระทั่งวันหนึ่งมีลูกศิษย์ (แถวข้างๆสำนักสงฆ์ที่ท่านเคยไปพัก) ไปได้สามีเป็นชาวจีนและพาสามีกลับมาเที่ยวบ้านเลยแวะไปกราบหลวงปู่พร้อมขอของดีกลับไปทำมาค้าขายที่ประเทศจีน หลวงปู่จึงมอบปลัดขิกให้ไป ปรากฏว่าอยู่ต่อมาอีกไม่นาน สามีชาวจีนได้พาเพื่อนมาขอปลัดขิกในย่ามของหลวงปู่ไปจนหมด เพราะเมื่อครั้งที่แล้วได้ปลัดขิกของหลวงปู่กลับไปบูชาแล้วเห็นผลจนเพื่อนๆของเขาต่างก็อยากได้เหมือนกัน จึงให้เขาพามาขอปลัดขิกของหลวงปู่ไปบูชาบ้าง หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ทำปลัดขิกติดย่ามไว้คราวละสามสี่ตัวไว้แจกตลอด
มาถึงวันนี้หลวงปู่เลยต้องทำปลัดขิกออกให้บูชาเป็นเรื่องเป็นราวอย่างเป็นทางการขึ้นเป็นครั้งแรกจำนวน 300 ตัว บูชาตัวละ 300 บาท (ตอกโค๊ดเรียงหมายเลข)

 

ร่วมบุญ

ผ้ายันต์ ผืนละ 99 บาท ............................... 2 ผืน
สายคาดเอวตะกรุด 108 เส้นละ 399 บาท .................... 2 เส้น
ปลัดขิก 300 ตัว บูชาตัวละ 300 บาท (ตอกโค๊ดเรียงหมายเลข) ....... 2 ตัว

99*2+399*2+300*2+100 = 1,696 บาท


.

 

ยืนยันการจองคะ โอนเงินแล้วแจ้งได้เลยนะคะ