ข้อสังเกตุ "เมื่อจิตเป็นสมาธิดีแล้ว"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปราบเทวดา, 26 พฤศจิกายน 2019.

  1. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เกร็ดธรรม
    หลวงปู่พุธ ฐานิโย

    วัดป่าสาละวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา


    เมื่อสมาธิธรรมชาติ มันเกิดขึ้นแล้ว
    นักปฏิบัติ ไม่สามารถที่จะน้อมจิตน้อมใจไปไหนได้ดอก
    นอกจาก จิตจะปฏิวัติตัวไปเอง
    โดยพลังของ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ประชุมพร้อมแล้ว

    ซึ่ง เราสวด สติปัฏฐานสี่ เมื่อซักครู่นี้ว่า
    เอกายะโน มัคโค สัมมะทักขาโต สัตตานัง วิสุทธิยา
    เมื่อ อริยะมรรค เมื่อศีล สมาธิ ประชุมพร้อมรวมเป็นหนึ่ง
    ศีลก็เป็นอธิศีล สมาธิก็เป็นอธิจิต ปัญญาก็เป็นอธิปัญญา
    ในเมื่อศีล สมาธิ เป็นอธิ ผู้ยิ่งใหญ่
    ก็สามารถปฏิวัติ ภูมิจิต ภูมิธรรม ไปตามขั้นตอน
    ซึ่งสุดแท้แต่ พลังนั้น จะบันดาลให้เป็นไปอย่างไร
    ผู้ปฏิบัติ ไม่มีทางที่จะมีสัญญาเจตนาจะน้อมจิตไปอย่างไร
    จิตจะออกนอกเป็นเรื่องของจิต
    จะจะเข้าในเป็นเรื่องของจิต
    จิตจะมากำหนดรู้อยู่ที่จิตเป็นเรื่องของจิต
    ซึ่งเค้าจะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ ในขณะที่จิตเป็นไปเช่นนั้น

    จะไปรู้ไปเห็นอะไรก็เพียงแต่ว่าเฉยๆ นิ่งๆ อยู่เฉยๆ เท่านั้นแหล่ะ
    เช่นอย่างรู้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    รู้ความเปลี่ยนแปลง ของสภาวะทั้งหลายทั้งปวง
    ก็สักแต่ว่ารู้อยู่เฉยๆ

    คำว่าอนิจจังก็ไม่มี ทุกขังก็ไม่มี อนัตตาก็ไม่มี
    ถ้าขืนไปมีแล้ว สมาธิมันจะถอน

    เราอาจจะพิจารณา รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    ว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยงเป็นทุกเป็นอนัตตา
    เราว่าได้ตั้งแต่จิตยังไม่สงบเป็นสมาธิ
    เมื่อจิตเป็นสมาธิดีแล้วนี่
    มันจะปรากฎแต่ สิ่งที่ เกิด-ดับ เกิด-ดับ อยู่เท่านั้น

    แล้วคำพูดที่ว่า อะไรเป็นอะไร มันจะไม่มี

    มันจะมีต่อเมื่อ จิตถอนจากสมาธิมาแล้ว
    มันจึงจะพูดเป็น เพราะมันมีกายเป็นเครื่องมือแล้ว
    อันนี่ ทางเป็นไปของจิตทางหนึ่ง

    (อ่านต่อที่นี่ http://palungjit.org/threads/การปฏิบัติภาวนาจิต-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.522295/
     
  2. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ธีโร จ สุขสํวาโส ญาตีนํว สมาคโม
    อ่านว่า : ธีโร จะ สุขะสังวาโส ญาตีนังวะ สะมาคะโม

    แปลว่า
    อยู่ร่วมกับปราชญ์นำสุขมาให้ เหมือนสมาคมกับญาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2020
  3. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    หายากน่ะ นักปราชน์

    นี่ไม่ใช่คนพิมพ์นะ เป็นคนไม่มีตัวตน
     
  4. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    หายาก ก็ใช่ว่าจะไม่มี

    ปราชญ์ ในพุทธศาสนา ก็มีพระโสดาบันเป้นเบื้องต้น
     
  5. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    พระโสดาบัน ไปดูอ่านของเขาเองเลย
    หมายถึงผู้ที่สำเร็จจาก โสต หรือการฟัง
    มรรค คือ ผู้ที่แน่วแน่ในแนวทางเห็นทางนั้นใช่
    ผล คือ ผู้ที่แทงตลอดในขณะที่กำลังเดินมรรค

    สงสัยอย่างคือ ตอนที่พระสารีบุตร ที่ฟังพระอัสชิ ท่านสำเร็จ มรรค หรือผลไม่รุ ได้
     
  6. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    บุคคล 4 จำพวก
    คือ
    โสดาปฏิผล
    สกทาคามิผล
    อนาคามิผล
    อรหันตผล

    บุคคล 8 จำพวก

    โสดาปฏิมรรค
    โสดาปฏิผล

    สกทาคามิมรรค
    สกทาคามิผล

    อนาคามิมรรค
    อนาคามิผล

    อรหันตมรรค
    อรหันตผล

    .............

    คือ ความเห็นเรา มรรคผลอยู่ห่างกันไม่พอก้าว

    แต่ ตำราต้องแจกแจง ออกมาเพื่อความสมบูรณ์ของธรรม
     
  7. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    เราสงสัยว่า ท่านพระสารีบุตรสำเร็จโสดามรรค หรือผล
    ในตำราของต่างชาติไม่มีแจ้ง หรือหาไม่เจอ
     
  8. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    อันนี้เราอ่านพระไตรก็ไม่มีบอก บอกแต่ ว่าบรรลุพระโสดาบัน
    หรือเรายังหาบริบทไม่เจอ

    แต่สำหรับเรา ไม่ได้มุ่งประเด็นตรงนี้ เลยเฉยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2020
  9. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    เรารู้อยู่แล้วว่าไม่มี
    เราเห็นคำว่าปริยัติงูพิษ เลยทำค้นให้เข้าใจ
    เราใส่ใจ สัมมาทิฐิมาก
    เพราะเรามีเวลาไม่มากแล้ว
     
  10. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ปริยัติที่ถือเอาไม่ดี
    คือเรียนเพื่อเหตุแห่งการโต้แย้งเป็นต้น

    ชื่อว่า อลคัททูปมปริยัติ

    ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอา ตรัสไว้ว่า

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้มีความต้องการอสรพิษมีพิษร้าย
    ย่อมแสวงหาอสรพิษมีพิษร้าย เมื่อเที่ยวแสวงหาอสรพิษมีพิษร้าย
    เขาเห็นอสรพิษมีพิษร้ายด้วยใหญ่ ก็พึงจับอสรพิษนี้นั้น ที่ขนดหรือที่หาง
    อสรพิษนั้นพึงแว้งขบเอาที่มือ หรือแขน หรืออวัยวะน้อยใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่ง
    ของบุรุษนั้น บุรุษนั้นพึงเข้าถึงความตาย หรือทุกข์ปางตาย
    เพราะการขบกัดนั้นเป็นเหตุ

    ข้อนั้นเพราะเหตุแห่งอะไร

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อสรพิษร้ายอันบุรุษจับแล้วไม่ดี
    แม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษบางพวกในธรรมวินัยนี้
    ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตะ ฯลฯ เวทัลละ
    บุรุษเหล่านั้นครั้นเรียนธรรมนั้นแล้ว ย่อมไม่ใคร่ครวญเนื้อความแห่งธรรมเหล่านั้น
    ด้วยปัญญา เมื่อโมฆบุรุษเหล่านั้นไม่ใคร่ครวญอรรถด้วยปัญญา ธรรมเหล่านั้น
    ย่อมไม่ทนต่อการเพ่ง โมฆบุรุษเหล่านั้น มีการโต้แย้งเป็นอานิสงส์
    และมีการยังตน ให้พ้นจากวาทะนั้น ๆ เป็นอานิสงส์ ย่อมเรียนธรรม
    และย่อมเรียนธรรมเพื่อประโยชน์แก่ธรรมใด ย่อมไม่เสวยผลแห่งธรรมนั้น

    ธรรมเหล่านั้นอันโมฆบุรุษเหล่านั้นเรียนแล้วไม่ดี
    ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์สิ้นกาลนาน
    ข้อนั้นเพราะเหตุแห่งอะไร

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่
    ธรรมทั้งหลายอันโมฆบุรุษนั้นเรียนแล้วไม่ดี ดังนี้.



    ปริยัติเพื่อประโยชน์แก่การสลัดออก
    ส่วนปริยัติใด อันบุคคลเรียนดีแล้ว
    คือหวังอยู่ซึ่งความบริบูรณ์แห่งคุณมีสีลขันธ์เป็นต้น
    เรียนแล้ว
    มิใช่เรียนเพราะเหตุการโต้แย้งเป็นต้น


    ปริยัตินี้ ชื่อว่า นิสสรณัตถปริยัติ ( มีความต้องการเพื่อสลัดออก)

    ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายถึงตรัสไว้ว่า ธรรมเหล่านั้น
    อันกุลบุตรเหล่านั้นเรียนดีแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
    และเพื่อความสุขสิ้นกาลนาน ข้อนั้น เพราะเหตุแห่งอะไร

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะธรรมทั้งหลาย อันกุลบุตรเรียนดีแล้ว.




    ปริยัติเปรียบด้วยขุนคลัง
    ส่วนพระขีณาสพผู้มีขันธ์อันกำหนดรู้แล้ว ละกิเลสแล้ว มีมรรคอัน
    เจริญแล้ว มีธรรมไม่กำเริบอันแทงตลอดแล้ว ทำนิโรธให้แจ้งแล้ว
    ย่อมเรียนปริยัติใด เพื่อรักษาประเพณี เพื่อรักษาวงศ์อย่างเดียว

    ปริยัตินี้ ชื่อว่า ภัณฑาคาริกปริยัติ ( ปริยัติเปรียบด้วยขุนคลัง) ดังนี้

    บัณฑิตพึงทราบประเภท
    แห่งปริยัติ ๓ อย่าง ในพระไตรปิฎกเหล่านั้น ดังกล่าวมาแล้ว.




    ศึกษาเพิ่มเติม
    https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=12&siri=22#p245
     
  11. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เพิ่มเติม

    ปริยัติ มีสองส่วน

    ส่วนวิปัสนาธุระ คือ เรียนส่วน วิธีทำ สำหรับมีเวลาน้อย
    ส่วนคันธะธุระ เรียนทั้งหมดใช้เวลานาน




    ก็อ่านประกอบ ด้านบน แบบไหนเหมาะกับตัวเอง
     
  12. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ถ้าเวลาไม่มาก ก้เรียนแต่ วิธีทำ อย่าไปหานิวรณ์ มาสะสม

    แล้วจะตามนิวรณ์ไปเรื่อย ตกม้า ตกกะป๋อง
     
  13. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ปราบ คิดถูกแล้วบางเรื่อง
    อืมดูกันยาวๆ
     
  14. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    วิธีทำ หรือ มรรค เป็นเรื่องงาย
    แต่คนไม่รู้ ชอบทำไปเป็นเรื่องยาก

    ผลงานจะตามมาเอง อย่างที่หลวงปู่พุธ บอก
    ช่วงที่ท่านพูด ช่วงความเป็นไปเอง จะมีแต่จิต ที่เป้นไปเอง ไม่มีเรา

    แต่หากนักภาวนา คอยแต่ จะยกอันนั้น ยกอันนี้ พินาอันนั้น พินาอันนี้
    ในระหว่างที่เริ่มภาวนามาถึงจิตนี่ ตกม้าตาย แทนที่จะก้าวหน้า
    แต่ วนในอ่างแทน
     
  15. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ปรับชอบใช้ชีวิตที่มีจังหวะหรอ
     
  16. ชื่อใหม่นะ5

    ชื่อใหม่นะ5 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    917
    ค่าพลัง:
    +346
    มันก็มีสองแบบจริง อ่านเพราะสงสัย กับอ่านแล้วยิ่งสงสัย สงสัยอะไรก็เฟ้นหาในสิ่งที่ตนสงสัย มรรคทั้งแปดเป็นกลุ่มของการกระทำที่ประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา บางคนว่า เอาสัมมาทิฐิให้ได้ก่อน หรือไปพร้อมกันหมดเลย ที่จริงมันก็เริ่มจากทั้งสองแบบนั่นแหละ แบบแรกรู้ทุกข์ แบบที่สองไม่รู้รูแต่อะไรทำแล้วดีทำหมด จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ มรรคของภิกษุครอบคลุมกว่าปุถุชน มรรคแบบเดียวกันแต่ความละเอียดอ่อนต่างกัน เป็นไปพร้อมกันทั้งรูปและนาม ถ้ามาพูดแบบปุถุชนแบบไม่รู้ทุกข์แต่รู้จักสิ่งดีคืออะไร มรรคก็เริ่มแล้ว ส่วนเรื่องความดีหรือสิ่งดี นี่ก็ปัจจัตตังเต็มขั้น เพราะคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น เรื่องทานบุญ คนมีเขาว่าการให้ร้อย ให้พัน ให้หมื่น ให้แสน ให้ล้าน ของเขามันเรื่องธรรมดา เช่นเดียวกัน คนธรรมดาเราให้แบบนั้นไม่ได้ แต่ค่าจริงมันขึ้นอยู่กับทำเพราะอะไร บาทนึงของเราไม่เท่ากันในสภาพที่มองเห็นได้ แต่เท่ากันหรือมากกว่าเจตนาที่คิดทำลงไป ส่วนศีล โดยรวมก็เน้นสติ แต่ก็มีความแตกต่างอีกนั่นแหละระหว่างปุถุชนคนธรรมดากับภิกษุในธรรมวินัย ยิ่งไปกว่านั้นพระอริยะเจ้าที่เป็นฆราวาสหรือภิกษุสงฆ์ ก็แตกต่างกัน
     
  17. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    ไม่ใช่ฐานนะจะมีได้ ที่จะหยั่ง ให้ สัมมาทิฏฐิบริบรูณ์แบบอยู่ที่บ้าน เล่นอินเตอร์เน็ต

    การจะทำให้ ฐานนะบริบรูณ์ได้ เริ่มต้นของการ เห็นโทษ
    ม้าอาชานัย เห็นโทษ 4 จำพวก

    ของการเรียนรู้ ดอกบัว 3 เหล่า การพัฒนาจนเบิกบาน
     
  18. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ไม่เสมอไปหรอก ว่าจะเริ่มจากการเห็นโทษ

    บางคนไม่ต้องรอเห้นโทษ มีใจฝักใฝ่มาตั้งแต่เด็ก ในคำสอน

    ฟังแล้วทำตามเลยไม่มีกั๊ก
     
  19. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    ม้าอาชานัย มี 4 จำพวก คงเป็นเป็นพวกแรก เห็นปุ๊บ ฉลาดปั๊บ ปฏิบัติเลย
     
  20. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    อะหะ ก็ไปตามกรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...