(ข้าว.10) ชาวนาจะมาขายปลีก..อาชีพค้าขาย มันใช้การสร้างความเชื่อถือ ถ้าขายๆเลิกๆ คุณภาพไม่สม่ำเสมอ..ไปไม่รอด

(ข้าว.10) ชาวนาจะมาขายปลีก..อาชีพค้าขาย มันใช้การสร้างความเชื่อถือ ถ้าขายๆเลิกๆ คุณภาพไม่สม่ำเสมอ..ไปได้ไม่นาน

(ขายๆ เลิกๆ และยังหยุดตามฤดูกาล .. แบบนี้ไม่ได้นะ .. ส่งต่อข้าวแปรรูปสำเร็จให้ร้านค้าปลีกที่มีคนเฝ้า 365 วันดีกว่า)

แต่ถ้าจะเอาทางนี้กันจริงๆ ก็ต้องแนะนำกันจริงๆ จังนะ
เพราะชาวนามีไม่ใช่น้อยๆ นะ แต่ละคนพื้นฐานก็ไม่เท่ากัน

 

การรวมตัวเป็นชุมชนเข้มแข็งนั้น ในภาพใหญ่มีความเป็นไปได้มากกว่า

ส่วนจะเป็นชุมชนหรือกลุ่มรูปแบบไหน ก็ต้องมาดูกัน

 

ขายๆ หยุดๆ ได้ครับ
ถ้าวันที่ขาย และวันที่หยุดถูกประกาศต่อสาธารณะและรับรู้
ในระดับอินเตอร์( เน็ต )555

แต่ถ้าหยุดๆ ขายๆ แบบขี้เมาก็จบเห่

 

.
เขียน ๑๔.๓๑

มโนเอานะ ถ้าสหกรณ์ในพระราชดำริล่ะก็ แก้ปัญหาได้หมด จริงนะ
ทั้งเรื่องความเชื่อถือ คุณภาพ ทำตลาด ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
ความสม่ำเสมอ ซื่อสัตย์ ยุติธรรม กระจายอำนาจ และก็พอเพียง
คำตอบเพียงหนึ่งเดียว ที่ครอบคลุมได้ทุกด้าน และให้ผลยั่งยืน

เป็นสหกรณ์ใหญ่ยักษ์ ถือหุ้นในสหกรณ์ย่อย ที่มีอยู่ทั่วประเทศ
ทำการบริหารและจัดการในภาพรวม และเชื่อมต่อความภักดี
เชื่อมโยงคนชนบทเข้ากับคนในเมือง โยงใยไปได้ทั่วโลก
เมื่อเป็นมรดกของในหลวง ย่อมมีพลังงานสูง ครบถ้วน
จะเรื่องเงินทุน คน องค์ความรู้ หรือตลาด มากมาย
ลูกค้ารอซื้อ ทุกคนพร้อมจะช่วยงาน สำเร็จแน่

ถ้าถอดองค์ความรู้ ทั้งการบริหารและจัดการ จากดอยคำ
จะได้สมการทุกด้านครบถ้วน เอามาแทนค่าให้ถูกต้อง
ก็จะได้แผนการบริหารและจัดการ ที่สามารถทำได้
ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก แนวทางมีอยู่แล้ว แกะง่าย

ที่สำคัญที่สุด คือพลังงานคงเหลือของในหลวง
ถ้ารวบรวมกันไว้ได้ ด้วยคำว่า "รู้รักสามัคคี"
จะส่งผลได้ นับร้อยปีเชียวนะ จะบอกให้
อย่าปล่อยให้พลังงาน กระจายหายไป


สายฟ้าฝากงาน / กระต่ายป่า ข้างวัง
.

 

ยินดีด้วย .. ตอนนี้ยอดส่งออกข้าวทำ new high
.. มาถึงกลางปี 2560 ยอดส่งออกจะแตะ 11 ล้านตันแล้ว

อย่างที่บอกไว้เมื่อปีที่แล้ว.. เรื่องข้าวนี้ ..ต้องเน้นคุณภาพเป็นสำคัญที่สุด

"รมว.พาณิชย์" เผยปีนี้มีโอกาสที่ข้าวไทยจะส่งออกสูงถึง 11 ล้านตัน จากเป้าหมายที่ 10 ล้านตัน หลัง 6 เดือนส่งออกข้าวกว่า 5.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20%
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/762152