คงต้องให้ธรรมชาติส่งบทเรียนให้เขาเหล่านั้นเอง ... ลุงเทพอภิบาล

เขาเหล่านั้น สะกดจิตตนเอง มานานคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือการเลื่อนระดับ
เขาเหล่านั้น ไม่เข้าใจเรื่องของคลื่น เปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตัวตน
เขาเหล่านั้น คิดว่าว่าตนเองมี ญาณ หยั่งรู้ในสิ่งที่เกิด

เขาเหล่านั้น คงไม่รู้ว่า ญาณ หรือเสียงที่เกิดขึ้น สามารถเกิดขึ้นได้
กับทุกคน (ที่รู้ระบบการฟัง) แต่ นั่นไม่ใช่เสียงที่เกิดขึ้นจากผู้รู้

เพราะเสียงที่มา ยังไม่ใช่ ผู้รู้แจ้ง เป็นแต่เพียงผู้หลงในมิติของตนเอง
ที่คิดว่าเป็นผู้รู้แจ้ง (เพียงแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น) พวกเขาหลงอยู่ใน
มิติของตนเอง (เข้าใจว่าญาณเหล่านั้นคือของจริง) โดยเฉพาะผู้ที่เป็น
หัวหน้า

คำว่ามิติของตนเอง หมายถึงอย่างไร ...หมายถึงว่า ในภาคอดีตของตนเอง
ยังมีพลังงานหลงเหลือ และติดต่อกับภาคปัจจุบัน และมาให้ความรู้ แก่ญาติ
ของตนเองในภาคปัจจุบัน จึงมีเสียงเหล่านั้น ต่อเชื่อมอยู่ ซึ่งหลายคนหลงตน
เองว่าเป็นผู้มี ญาณ หยั่งรู้ .... สิ่งเหล่านั้น ไม่ใช่ ญาณ หรอก

เป็นเพียงแค่ พลังงานเก่าของ ตนเอง มาหา ก่ คล้ายๆ กับคลื่นบาป ของตนเองมากระทบ นั่นแล .... เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ( ลุงเอ๋ย มันไม่ใช่ เลื่อนระดับ
ดอก .... เพราะว่าบางอดีต ตัวตนของเขา ก่ ฝึกพลังงานมาดี เมื่อคลื่น
ของตัวตนอดีตนั้น ตัวตนนั้นเวียนมาบรรจบ มากระทบอีกครั้ง มันก็จะ รู้สึก
ดี เป็นของธรรมดา ลุงเทพฯ )

อยากรู้มั๊ย ลุงเทพ ฯ ว่า ทำไม พวกที่ดื้อ จึงสอนแล้ว ยังดื้ออยู่
ลุงเทพฯ รู้มั๊ย อสูร เกิดขึ้นได้ อย่างไร ....

 

สมัยที่ องค์พุทธ กล่าวต่อ อานนท์ ภิกขุ เรื่องอายุขัย
พญามาร อยู่ใกล้ อานนท์ ส่งผลทำให้ อานนท์ ไม่ได้เฉลียวใจ
เลยแม้นแต่น้อย เพื่อทูลขอ สมัยหรืออายุขัยขององค์พุทธะ

มนุษย์ อยู่ใกล้ กับสิ่งใด ฤ (ท่านลุงเทพฯ) ที่จะทำให้ ใจมืดบอด ได้

ใครแสดงธรรม อย่างไร แต่ยังคงมืดบอดเหมือนเดิม

ลุงเทพฯ รู้หรือไม่ เพราะเหตุใด

 

ใจตัวเองจะดีหรือเลวกับสิ่งที่กระทำต้องวันเวลาผ่านไปจิตตัวเองจะรับรู้ด้วยว่าดีหรือเลวอย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานของความถูกความผิด ใจที่มืดบอดเท่านั้นจะไม่ยอมรับก้บสิ่งที่ดีหรือเลวของคนอื่นๆ รักษาภาวะใจของตนให้ดีเสียก่อนจะไปว่าหรือวิจารณ์ผู้อื่น เรื่องทางโลกก็คือเรื่องทางโลกเรื่องทางธรรมก็คือเรื่องทางธรรม ผู้ที่ขึ้นชื่อว่ามีธรรมะในใจย่อมเข้าใจความเป็นไปของโลก

 

หากใจ ของฉันผิดเพี้ยน ใจของเธอ ยอมถูกล่ะสิ
ออ งั้นก็คงต้อง เดินตามใจที่เธอ แนะนำงั้นใช่หรือเปล่า
------------------
ฉันจะถูก หรือผิด สิ่งที่ฉัน กล่าวพยากรณ์ ไว้จะเป็นบทพิสูจน์เอง
ว่าใจของฉันถูกหรือผิด

เมื่อสิ่งที่ฉันกล่าวผิด ฉันจะรับเองและรู้เอง และรับผิดชอบเอง
ไม่ต้องอ้าง สิ่งอื่น เพราะเป็นสิ่งที่ฉันกล่าวเอง
ไม่จำเป็นต้องอ้าง สิ่งอื่น เพราะฉันไม่ได้แปลจากที่อื่น

เพราะสิ่งที่ฉันกล่าว มาจาก ฉันเอง
ดังนั้น ฉันจึงไม่จำเป็นต้องกล่าว อ้าง จากสิ่งใด

 

ออ และฉันจะบอกอะไร ให้ สิ่งที่ฉันกล่าว ฉันไม่ได้ประโยชน์ อะไร ที่จะต้อง
กระทำอะไร มากมาย หลายครั้ง หลายหน

เพราะเป็นเรื่องไม่ใช่ ของฉัน

แต่สิ่งที่ฉันเห็นและรู้ ย่อมเป็นเรื่องที่ ฉันจะให้ความรู้

ต่อใคร ที่จะหลงทาง (กลุ่มของเธอ ย่อมมีสิทธิ์ ที่จะกระทำได้

คือ จะเดินอย่างไร ก่ ได้ นั้น เป็นสิทธิ์ของเธอ)

ดังนั้น เรื่องที่ฉันจะให้ความรู้ หรือ เป็นการเตื่อนกลุ่มของเธอ

เพื่อให้ได้รู้ในสิ่งที่เป็นมุมมองที่เห็นต่าง ว่า กำลังเดินหลงผิดทาง

เธอคิดว่า การเตื่อน ในสิ่งที่กำลังเดินหลงผิดทาง (ในมุมมองของฉัน)

คือสิ่งอกุศล นั่น เป็นความคิดของเธอ .... เธอก็จงมองดูตัว มองดูความ

คิดของเธอเอาเอง

อนึ่ง สิ่งที่เธอเห็น ว่า เพื่อนมนุษย์ ของเธอ กำลังเดินหลงทาง

(หากเธอมองในมุมมองของฉัน)

แล้วเธอ ก็ยืนมองดูเพื่อนมนุษย์ ที่เดินหลงทางแล้ว ไม่เตือน

เหมือนอย่างที่ ฉัน และลุงเทพฯ ได้ กระทำ ....เธอจงคิดดูว่า

เธอคือผู้ที่สมควรทำอย่างไร .... หรือว่า เธอมองคนอื่น เป็นศัตรู ไปหมด

หรืออย่างไร ....

 

อีกประการ สิ่งที่ฉันรู้ หรือสิ่งที่ฉันได้กล่าว และสิ่งที่ฉันได้สอนไป
ล้วนเป็นความรู้ที่เกิดจากฉัน เอง ฉันไม่จำเป็นจะต้องไปอิจฉา ความรู้
ของใคร เพราะสิ่งที่ฉันรู้ หรือสิ่งที่ ฉันได้แนะนำใครไป ได้แสดงบทพิสูจน์
ความจริง ในสิ่งที่สอน สิ่งที่แนะนำ ไปแล้ว เกิดขึ้นจริง(มิได้แสดงใน พลังจิต)
ดังนั้น เมื่อฉันรู้ในสิ่งที่ พวกเธอทั้งหลาย ที่เดินหลงทาง ฉันจึงได้เตือน
แต่เธอไม่ฟัง ฉัน ก็ ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เตือน ขอให้เป็นเพียงไม่ให้ คนอื่น
ที่ไม่รู้ทาง อย่าได้เดินทางในสิ่งที่ เธอทั้งหลาย พวกเธอทั้งหลาย
ได้หลงทางเดินในสิ่งที่ ไม่ควรจะเดิน ....
เธอและพวกของเธอ เดินหลงทางไป และ จะอหังการ หรือ หลงว่าเป็นสิ่งถูก
และ หรือ ไม่ตระหนักในสิ่งที่เตือน จึงเป็นเรื่องของเธอ และพวกของเธอ
มนุษย์ มีอิสระที่จะเป็น แต่ ต้องยอมรับในสิ่งที่เลือกจะเป็นด้วย

การจะมากล่าวหา ฉัน เป็นคน ที่ไม่ดำรงตน ในทางที่ไม่ถูกต้อง
เธอมีสิทธิ์ ที่จะกล่าวได้ แต่ ทิศทางของเธอ ถูกต้องแล้วหรือ ...

ทิศทางของฉันที่เดิน ฉันได้พิสูจน์ ในสิ่งที่ปรากฎแล้ว และ สอนผู้อื่น
ได้ปรากฎตามความเป็นจริง และปรากฎตามที่ฉันกล่าวตลอด ไม่มีผิดเพี้ยน
จากสิ่งที่กล่าว เลย

ดังนั้น

สิ่งที่ฉันกล่าว ฉันไม่เคยที่จะลังเล ในสิ่งที่กล่าว ว่าไม่เป็นตามที่กล่าว

ประการที่สำคัญ ความรู้ที่เกิดแก่ฉัน ฉัน ไม่เคยอ้างจากตำรา ใดๆ

และฉัน ไม่มีความจำเป็น จะต้องไปเรียน หรือ ไม่ลอกตำรา ที่ไหน เพื่อมา

กล่าวหา พวกของเธอ

ดูที่ชื่อของฉัน ฉันกระทำอะไร จะไม่เคลือบแคลง ในสิ่งที่กระทำ

ชื่อของฉันที่แสดง คือ ตัวตนของฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะปลอมแปลง ตัวตน

เป็นอื่น

 

สงสารจัง

 

ถ้าเข้าใจคำพรหมวิหารสี่ได้ดีพอ คุณphudit999 คงไม่ออกมาเชิญชวนให้คนอื่นๆเชื่อตามที่คุณphudit999 พูดหรือเตือนใครๆได้หรอก เพราะในเมื่อคนนั้นๆมีเจตนาแล้ว กรรมดีหรือกรรมชั่วย่อมเป็นไปตามกฎของกรรมนั้นๆในตัวของเขาอยู่แล้ว หลวงฤาษีท่านสอนลูกศิษย์เสมอๆว่า อย่าไปเสือกเรื่องของชาวบ้านควรจะรักษาใจของตัวเองจะดีกว่า เราไม่อยากให้ใช้เวปพลังจิต เป็นสื่อในการแสดงความเห็นต่างจากคนอื่นๆ อันเป็นเรื่องไม่สมควร เราอ่านเวปนี้มาตั้งแต่ตั้งแรกๆ ที่มีสามชิกไม่กี่ร้อยคน จนถึงทุกวันนี้ หลายๆคนต่างมีความรู้ของตัวเองมากมายมีญาณวิเศษมากมายเก่งๆ กันทั้งนั้น หรือจะมีพระอริยะองค์ไหนมาพยากรว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์พร้อมที่จะพาสัตว์โลกไปนิพพานได้หมด และเราคงไม่ตอบโต้อะไรอีก สงสารครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่มีใครฝาฝืนกฎของกรรมหรือทดแทนกรรมของใครได้