คนดังมีดี : มาตรฐานความดี ในนิยามของนักแสดงรุ่นใหญ่ 'กลศ อัทธเสรี'

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 5 มิถุนายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มิถุนายน 2553 11:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>งานในฐานะนักแสดงละครโทรทัศน์และละครเวทีหลายเรื่อง ทั้งที่กำลังออกอากาศและเข้าคิวรอ ทำให้นักแสดงรุ่นใหญ่ “กลศ อัทธเสรี” ไม่สามารถจัดสรรเวลาเพื่อไปบวชให้คุณพ่อผู้ที่จากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อสองปีก่อน ได้อย่างที่ตั้งใจไว้

    แต่เขาไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจนี้และหากจัดสรรเวลา ได้เมื่อไหร่ ก็ขอเลือกที่จะไปบวชที่วัดเทพศิรินทราวาส เพราะนอกจากทั้งเขาและคุณพ่อมีความศรัทธาในเจ้าคุณนรฯ (เจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต ธัมมวิตกโกภิกขุ) ที่เวลานี้ท่านได้ละสังขารไปแล้ว ซึ่งจำวัดอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ เขายังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์อีกด้วย

    “เจ้าคุณนรฯ เป็นพระนักปฏิบัติ ผมประทับใจท่านในเรื่องของการปล่อยวาง ไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องใดๆ ท่านเป็นพระที่ไม่เจ้ายศเจ้าอย่าง สมถะ และไม่นิยมสะสมพระเครื่องใดๆ ช่วงที่ท่านอาพาธเป็นมะเร็งที่คอ ตอนหลังท่านไม่ยอมรักษา ปล่อยให้มันตายไปกับตัว เพราะท่านถือเป็นกรรมเวรที่จะต้องใช้ให้จบในชาตินี้ ผมคิดว่าถ้ากรรมฐานท่านไม่ดี ท่านก็คงไม่จากไปโดยสงบเช่นนั้น”

    ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้เขาเป็นนักแสดงผู้ไม่นิยมในวัตถุมงคลต่างๆ แต่เชื่อในผลของการกระทำเป็นสำคัญ

    “ผมไม่แขวนพระอะไรเลยครับ หนักคอเปล่าๆ ไม่ได้ดูถูกอะไรมาก แต่เป็นคนที่เชื่อในเรื่องของคุณงามความดี ถ้าคุณไม่ทำความดีอะไรเลย พระเครื่องก็เป็นแค่พระที่มีกรอบ ช่วยอะไรคุณไม่ได้”

    นอกจากนี้ “การไม่คาดหวัง” ยังเป็นปรัชญาในชีวิตที่เขายึดถือมาตลอด แม้แต่กับการเลี้ยงดูลูกสาว “ดวง อัทธเสรี” ที่ตอนนี้เติบโต และเข้าสู่วงการบันเทิงเช่นเดียวกัน เขาก็เป็นพ่อที่เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด มากกว่าการไปตั้งมาตรฐานว่าลูกต้องเป็นในแบบที่เขาต้องการ

    “การไม่คาดหวัง มันทำให้ผมดำรงชีวิตแบบไม่อิจฉาริษยาใคร และไม่คาดหวังให้ใครต้องมาทำอะไรอย่างนั้นอย่างนี้ให้เรา ฉะนั้นลูกของผม เขาอยากจะเรียน อยากจะทำอะไร ผมไม่บังคับ แต่ไม่ใช่ว่าคุณอยู่บ้านเฉยๆ คุณไม่ต้องทำอะไรก็ได้
    เพียงแต่ผมเป็นพ่อที่ไม่คาดหวังในแบบที่ว่า ตอนเด็กๆ ลูกต้องเรียนบัลเล่ต์ โตมาต้องเรียนเปียโน ซึ่งผมคิดว่าในสังคมเรา เด็กถูกพ่อแม่ครอบงำและคาดหวังด้วยเรื่องแบบนี้เยอะ แต่ผมไม่เคยคาดหวังให้ลูกต้องทำ”

    ไม่เพียงเท่านั้น คุณพ่อท่านนี้ยังเชื่ออีกด้วยว่า ตัวอย่าง ที่ดีมีค่ากว่าคำสอน

    “ลูกเขาจะดูผมเป็นตัวอย่างในเรื่องของการประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไป เมื่อเขาได้เห็นในสิ่งที่ดีจากเรา แม้เขาจะได้พบเห็นสิ่งที่เลวร้ายในสังคมมา แต่เขาก็ยังมีเราเป็นฮีโร่ โดยที่เราไม่ต้องไปสอนอะไรมากมาย”

    และหากถามว่าชีวิตนี้เขายังอยากจะทำความดีอะไรเพื่อสังคมบ้าง เขาตอบว่างานแสดงที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ก็ถือเป็นการทำความดีเช่นกัน เพราะเป็นงานที่ให้ความสุขกับผู้คน และที่ผ่านมาเขาได้ร่วมกับมิตรสหายหยิบยื่นน้ำใจให้กับผู้ด้อยโอกาสในสังคมอย่างสม่ำเสมอ เพียงแต่ไม่ได้ป่าวประกาศบอกให้ใครรับรู้เท่านั้นเอง

    “ผมทำอะไรดีๆ ให้กับสังคมตั้งเยอะแยะ ผมเล่นละคร ผมทำให้คนดูได้สนุก หัวเราะ ร้องไห้ และดื่มด่ำไปกับการ แสดงของผม นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมถือว่าเป็นการทำความดี และทุกปีผมกับเพื่อนจะไปทำบุญเลี้ยงเด็กสมองพิการ ตรงข้ามวัดมหาไถ่ หรือไม่ก็ไปบ้านปากเกร็ดและไปให้กำลังใจคนเป็นโรคเอดส์ ที่โรงพยาบาลบำราษฎร์นราดูร เพียงแต่ผมไม่ได้ลงข่าว เพราะผมไม่ชอบสร้างภาพ ตอนหลังผมไปน้อยลง หมายถึงการเข้าไปพบผู้ป่วย เพราะทุกครั้งที่เราไป เราได้พกพาเชื้อโรคติดตัวไปด้วย ขณะที่ผู้ป่วยเขาไม่แข็งแรงเหมือนเรา”

    สำหรับใครหลายคนการทำความดีอาจเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับเขามองว่า การทำความชั่วต่างหากที่เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า หากมีมาตรฐานความดีอยู่ในใจ

    “ใครที่คิดว่าทำความดีเป็นเรื่องยาก ขอเพียงแค่คุณ ทำความดีให้เป็นเรื่องปกติธรรมดา คุณก็เป็นคนดีได้แล้ว แต่สำหรับผมคิดว่าทำความชั่วนี่มันโคตรยากเลยนะ นอกจากคนที่เขาหาทางเดินชีวิตไม่เจอ เช่น คนที่ฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังในความรัก หรือตำรวจที่มันยิงลูกเขาตาย ที่มันเป็นเช่นนั้นเพราะคนเหล่านั้นเขาสิ้นคิดมากกว่า

    และด้วยสภาพการเจริญเติบโตของสังคม รวมถึงการแข่งขันของผู้คนในสังคมเช่นทุกวันนี้ มันทำให้คนเราใช้ชีวิตหยาบลง มีความเห็นแก่ตัวเยอะ ทำให้บางครั้งคุณต้องทำชั่วไปโดยปริยาย เช่นเด็กบางคนมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ดีกว่าเพื่อน ก็อาจจะนำมันไปใช้ไม่ถูกทาง นำไปใช้เพื่อโกงข้อสอบ เพื่อที่กูจะได้ชนะ เด็กทุกวันนี้มันเป็นอย่างนี้ มุ่งหวังที่จะเอาชนะ อาจจะเกิดจากพ่อแม่ด้วยที่คาดหวังเอาจากลูก จึงทำให้สันดานเด็กเป็นอย่างนี้

    อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าถ้าคุณมีมาตรฐานความดีของคุณอยู่ในใจ คุณล้ำเส้นไปทำชั่วได้ยาก ยกตัวอย่าง เช่น มีคนมาบอกให้คุณช่วยขนยาจากเชียงใหม่ แล้วจะให้สองร้อยล้าน สำหรับคุณอาจจะไม่ทำ แต่กับบางคนแล้วไม่ต้องถึงสองร้อยล้านหรอก แค่หลักแสน มันก็ทำแล้ว”

    ตลอดมา คนที่แบบอย่างที่ดีในชีวิตของ “กลศ อัทธเสรี” ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือคุณพ่อของเขาเอง ด้วยเหตุที่ว่าท่านเป็นผู้ชายที่รักในศักดิ์ศรี และปลูกฝังให้ลูกชายใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเอง

    “คุณพ่อของผม ท่านเป็นแบบอย่างของคนดีที่อยู่ในสังคมโดยไม่เบียดเบียนใคร ผมจำได้ว่าตอนที่ท่านป่วย ท่านไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใครหรือเบียดเบียนใคร จนกระทั่งท่านตาย คุณพ่อเป็นคนที่สอนผมว่ามนุษย์เราต้องศรัทธาในเรื่องความดี ต้องมีศักดิ์ศรี นอกจากนี้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของผม ท่านไม่เคยฝากผมให้ทำงานกับใครเลย

    ดังนั้น ถ้ามีใครสักคนเดินเข้ามาหาผม แล้วบอกผมว่า พี่ครับ ผมฝากน้องคนนี้ให้น้องเขาได้เข้าวงการหน่อย ผมจะรู้สึกเลยว่า พ่อแม่ผมยังไม่เคยฝากผมเข้าทำงานที่ไหนเลย แล้วคุณเป็นใคร สิ่งเหล่านี้ที่คุณพ่อและคุณแม่ปฏิบัติให้ผมเห็น จึงเป็นสิ่งที่ติดตัวผมมาจนถึงวันนี้ และทำให้ผมเชื่อเสมอว่า ถ้าคุณมีความสามารถ และคุณกล้าที่จะทำมันจริงๆ ทุกอาชีพ มันเปิดโอกาสให้คุณ”

    แม้คุณพ่อจะเป็นแบบอย่างให้เขาได้เดินตามในหลายๆ ด้าน แต่ในช่วงที่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ ใช่ว่าระหว่างเขากับคุณพ่อจะไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งทางความคิดเลย มิหนำซ้ำเคยมีเหตุให้ต้องทะเลาะกันรุนแรง และตัวเขาก็ยังรู้สึกผิดจนถึงวันนี้

    “เพราะบางทีมันขัดกันในเรื่องความคิด และรุนแรง ถึงขั้นมีปากมีเสียงกันอย่างแรง แล้วก็ตายจากกันไป วันนี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้เหตุการณ์นั้นกลับคืนมาได้ เพราะคุณพ่อผม ท่านได้ดับสูญไปแล้ว แต่อย่างน้อยผมก็ยังรู้สึกดีว่า ถึงผมกับคุณพ่อจะทะเลาะกัน แต่เราก็เป็นพ่อลูกที่รักกันมาก”

    ในชีวิตบั้นปลาย นักแสดงมืออาชีพ ผู้เคยผ่านการศึกษาจากรั้ววิทยาลัยช่างศิลป์ ตั้งใจไว้ว่าอยากจะใช้ชีวิตส่วนหนึ่งอยู่กับการเขียนภาพ โดยมีรถโฟล์คคันเก่าๆ สักคัน ไว้ขับออกไปเขียนภาพตามต่างจังหวัด

    “พอถึงวันศุกร์วันเสาร์ก็ค่อยกลับเข้ามากรุงเทพ เพื่อเล่นละคร หวังว่าจะมีละครให้เล่นไปจนแก่ แค่ปีละเรื่องสองเรื่องก็พอ เวลาที่เหลือก็อาจจะไปบรรยายให้ความรู้เรื่องการแสดง ตกกลางคืนก็ไปเล่นดนตรี”

    เกือบยี่สิบปีที่เขาหลงใหลในเสน่ห์ของดนตรีบลูส์ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยว่า เหตุใดเราจึงพบว่าเขาเข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงดนตรี “บางลำพูแบนด์” เป็นเจ้าของเสียงร้องในเพลง “ไอติมแมน” ตลอดจนมีคิวร้องเพลงขับกล่อมผู้คนในทุกวันศุกร์และเสาร์ ระหว่างเวลาสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน ณ ร้าน Adhere ย่านบางลำพู

    เพราะนั่นมันเป็นอีกภาคหนึ่งในชีวิตของนักแสดงมืออาชีพผู้นี้ ที่ไม่ค่อยได้ออกอากาศ และมันคือความสุขอีกด้านที่เขาเติมเต็มให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา และยืนยันว่าไม่ได้ทำไปเพราะอยากดัง

    “ผมรู้สึกว่าชีวิตของผมทุกวันนี้มีความสุขและมีความร่มเย็นในตัวเองมาก เพราะผมใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการเขียนภาพสีน้ำ ถึงเวลาหนึ่งผมอาจจะเปิดแสดงผลงานภาพเขียนของตัวเอง และถ้าสถานการณ์บ้านเมืองไม่โป้งป้างมาก ผมก็จะออกไปเล่นดนตรีมีความสุขอยู่กับเพื่อนฝูง

    ฝรั่งบางคนบอกว่าผมเป็นเหมือน Chuck Berry (มือกีตาร์ที่เป็นต้นตำรับดนตรีร็อคแอนด์โรล) เมื่อสมัยก่อน ผมทำให้คนอื่นมีความสุข ผมเองก็มีความสุข อาจจะเป็นเพราะคุณพ่อที่เป็นผู้วางแนวทางชีวิตให้กับผม ทำให้ผมเป็นคนที่รักสันโดษ

    คนอื่นที่เขามีเงินเยอะๆ เวลาที่ออกไปข้างนอก เขาอาจจะหาผู้หญิงมาเป็นแฟน หรือหาสิ่งมาบำรุงบำเรอชีวิตได้มากกว่าผม แต่การที่คุณจะมีฝรั่งมาเทคแคร์ มาจับมือ หรือเวลาไปต่างจังหวัด แล้วมีพ่อแม่พี่น้องมาให้กำลังใจ เพราะเคยดูผมเล่นละคร ผมว่าความสุขตรงนี้ คนที่มีเงิน ซื้อรถคันละสิบล้านก็ซื้อไม่ได้ เขาอาจจะมีความสุขแค่ว่า ขายรถคันนี้ไปยี่สิบล้านแล้วเพิ่มอีกห้าล้านเพื่อจะซื้อคันละยี่สิบห้าล้านบาทมาใหม่ แต่ผมไม่ได้มีความสุขตรงนั้น แล้วคุณดูสิ บางคนมีตังส์ตั้งสี่หมื่นล้าน ยังไม่สามารถอยู่ในประเทศได้เลย “

    เขาเชื่อเช่นที่ใครหลายคนเชื่อว่า ธรรมมะคือธรรมชาติ และทุกวันนี้เขาได้พยายามนำมาปรับใช้กับชีวิตของตัวเอง อีกทั้งเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันขณะ จึงพลอยทำให้ภรรยาและลูกของเขา ยึดเป็นแบบอย่างและไม่ใช้เงินเป็นธงนำเพื่อแสวงหาความสุข

    “ผมเชื่อเรื่องวันนี้ ถ้าคุณมีความสุขในแต่ละวัน แต่ละขณะ มันก็จะมีความสุข และความสุขของคุณมันก็จะเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นด้วย ผมจะไม่เป็นคนแบบว่า เฮ้ย.. จะสิ้นปีแล้ว เรายังไม่มีสิ่งนั้นสิ่งนี้เลย เฮ้ย...ลูกเราเป็นลูกดารา ไม่ได้ใช้บีบี (โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Blackberry)

    เพราะความที่ผมเป็นแบบนี้ ลูกเมียก็เลยไม่อายในเรื่องแบบนี้ ทุกวันนี้ผมใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Wellcom ที่ใช้เพราะหนึ่งได้มาฟรี เพราะแต่ก่อนทำรายการ และสองผมเอาไปวางในกองถ่ายที่ตรงไหนก็ได้ มันไม่หาย มีแต่ลืม แถมมีคนมาคอยถามคอยเตือนอีกด้วยซ้ำว่า นี่ใช่มือถือของพี่หรือเปล่าครับ ถ้าผมใช้ของแพง ป่านนี้ มันหายไปแล้ว

    และเวลาไปถ่ายละคร ส่วนใหญ่ผมจะนั่งแท็กซี่ ครั้งหนึ่งผมสวมแว่นตาลงจากแท็กซี่ มีคนเข้ามาทัก เท่ห์จังเลยพี่ ซื้อมาเท่าไหร่เหรอ ซื้อจากที่ไหน ผมบอก ซื้อมาอันละร้อยห้าสิบบาท ซื้อจากจตุจักร ด้วยความที่เราเป็นดารา ทุกคนมันก็มักปรุงแต่งความคิดไปว่า ไอ้นี่มันต้องใช้ของแพงแน่เลย ทั้งที่บางทีของถูกและของแพงที่เราใช้มันดูไม่แตกต่างกันเลย หรือถ้าลองเอาของปลอมมาหลอกว่าเป็นของจริง คนยังเชื่อเลย”

    เขายอมรับว่าตัวเองเป็นพุทธศาสนิกชนที่ค่อนข้างห่างไกลธรรมะถ้าเทียบกับผู้ที่เข้าวัดฟังธรรม หรือนุ่งขาวห่มขาวไปปฏิบัติธรรมสม่ำเสมอ

    “ผมจะเป็นคนที่ไม่ชอบลุกขึ้นมาเรียกร้องให้คนทำความดี เพราะผมรู้สึกยี้กับภาพลักษณ์แบบนั้น คุณทำตัว ของคุณอย่างไรมันสำคัญกว่า ถ้าคุณทำดี แล้ววันหนึ่งคน จะเห็นเอง หรือถึงไม่เห็นก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่คุณจะไปเรียกร้องให้ใครมามองเห็นความดีของคุณ”

    ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ปล่อยตัวเองให้กระทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ ชนิดไม่รู้ดีรู้ชั่วใดๆ เลย จึงทำให้คนไกลวัดเช่นเขา ถึงอย่างไรก็ยังใกล้ศีลใกล้ธรรม

    “ผมมีบรรทัดฐานของตัวเองอยู่ว่า ผมไม่สามารถที่จะไปล่วงละเมิดทางเพศใครได้ ไม่สามารถไปขโมยสตางค์คนอื่นได้ หรือไปฆ่าคนได้ เพราะผมคิดว่าตัวเองยังมีความละอายในเรื่องเหล่านี้อยู่มาก”

    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 115 มิถุนายน 2553 โดย พรพิมล)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    โมทนาสาธุครับ
    เรียนเชิญสร้างสมเด็จองค์ปฐมพร้อมพระเจดีย์จุฬามณี(พร้อมรับวัตถุมงคลเสาร์ ๕)
    http://palungjit.org/threads/เ�...��.153668/<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...