คริสต์กะแฝงร่างพุทธ ช่วนกันเตรียตัวระวังคำสอนลวง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย modxsuper_1, 19 มกราคม 2015.

  1. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ตอนนี้คริสต์จักรกำลังแทรกซึมพุทธนะครับ เริ่มเข้ามาห้องศาสนาวิจารณ์ละ ผมตามข่าวดู น่าเป็นห่วงนะครับ ช่วยแชร์หน่อยก็ดีครับ ชาวพุทธเราจะได้รู้ทันครับ https://www.missionfrontiers.org/issue/article/the-new-buddhists#comments ........https://www.facebook.com/groups/Rel...566954/?ref=notif&notif_t=group_comment_reply
    พระเจ้าคือนิพพาน พระเยซูนิพพานไม่กลับมาเกิดอีก เพราะไปอยู่กับพระเจ้า ทางพ้นบาปมีเพียงพระเจ้าเท่านั้น พระพุทธเจ้าคือผู้ที่พระเจ้าสร้างขึ้นฯลฯ เยอะเลยครับ ฝากๆพี่น้องชาวพุทธเราด้วยครับ
     
  2. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    เข้าไปดู Link มาแล้ว ผมเองก็เคยเจอเรื่องเหล่านี้มาบ้างพอสมควร ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของกาลเวลา ความเสื่อมของศาสนา ความเสื่อมของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆอาศัยเวลาในการหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างละเอียดอ่อน กลายเป็นลัทธิความเชื่อใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของศาสนาเดิม แล้วจะค่อยๆกลายพันธุ์แยกตัวออกไปเป็นลัทธิความเชื่อใหม่อย่างเต็มตัวในที่สุด

    เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วผมได้เริ่มรู้จักกับพวกกลุ่มคนที่ไม่มีศาสนา(Atheist) ตอนแรกผมก็ยังไม่ได้ศึกษาอะไรมากเพราะคิดว่าพวกเค้าไม่นับถือศาสนาอะไรเพราะคงไม่ได้สนใจในเรื่องของศาสนา แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม เมื่อเจาะลึกลงไปผมได้พบว่ามันมีอะไรหลายอย่างแฝงอยู่ในนั้นทั้งการลบล้างศาสนา ลบล้างศาสดา ลบล้างความจริง และพวกคนที่เป็น Atheist นั้นบางคนรู้ตัว แต่อีกหลายๆคนก็ยังไม่รู้ตัว มันมีแบบนี้ด้วย ผมได้เรียนรู้ศึกษารูปแบบความคิดของพวกเค้ามาพอสมควร ผมจึงพอมองออกว่าใครบ้างในเว็บพลังจิตที่เป็นพวก Atheist แต่ยังไม่รู้ตัว

    ซึ่งไม่ว่าจะพวกกลุ่ม Atheist , คริสต์แฝงร่างพุทธ หรือลัทธิความเชื่ออื่นๆ กลุ่มพวกนี้จะทำอะไรไม่ได้มากถ้าไม่มีเงินเป็นทุนในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต พวกเค้าจะยังเป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆที่ไม่มีอำนาจอะไรเหมือนกับพวกปรสิตที่ต้องแฝงตัวหลบซ่อนไปเรื่อยๆ รอว่าสักวันหนึ่งจะมีคนรวยหรือกลุ่มเงินทุนมาลงทุนเพื่อผลประโยชน์ในเรื่องความเชื่อใหม่ เมื่อนั้นกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะมีพลังอำนาจสามารถเปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนแปลงโลกได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ต้องรอเวลาที่เหมาะสมด้วย ดังที่เราจะเห็นพวกลัทธิต่างๆในอเมริกา ลัทธิเหล่านี้ก็จะมีเงินทุนจากสมาชิกมาช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตขึ้น มีการหาผลประโยชน์แอบแฝงจากสมาชิก แต่ลัทธิเหล่านี้ก็ไม่ได้เติบโตอะไรมากนักเพราะยังไม่ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากศาสนายังพอแข็งแรงอยู่

    ที่ผมเข้ามาตั้งกระทู้ในเว็บพลังจิตนี้ ผมหวังแค่ในเรื่องของธรรมทาน หวังแค่ 1 คนที่รู้และเข้าใจได้เป็นประโยชน์แก่ตัวเขาเท่านี้ผมก็พอใจแล้ว(ถ้าใครยังจำได้ผมเคยบอกแบบนี้ไปแล้วตั้งแต่กระทู้แรกที่ผมตั้งขึ้น) การจะหวังให้ทุกคนมาเชื่อทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้ ชีวิตใครชีวิตมัน เมื่อมองย้อนกลับมาที่ชีวิตจริงผมพบว่าสิ่งที่เราทำได้มันมีแค่คนใกล้ตัวเท่านั้น เช่น พ่อ แม่ สามี ภรรยา ลูก หลาน คนที่เราช่วยได้จริงๆมันก็คือคนใกล้ตัวของเรา เราสามารถปลูกฝังสิ่งดีๆให้เค้าได้ ปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่าง สอนให้รู้จักทำความดีเพื่อที่จะได้เป็นภูมิคุ้มกันของตัวเขาในอนาคต สิ่งที่เราทำได้จริงๆมันมีแค่นี้ เราไม่สามารถคาดหวังกับคนนอกครอบครัวของเราได้เลย ทุกอย่างในโลกล้วนอนิจจังอนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคตอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด สักวันนึงศาสนาพุทธก็จะเลือนหายไปกับกาลเวลาเหมือนนิทานที่เล่าสู่กันฟัง
     
  3. LetItGo

    LetItGo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +22
    อนุโมทนาสำหรับการช่วยเตือนสติชาวพุทธด้วยกันครับ

    เดี๋ยวนี้มีหลายรูปแบบครับผมเคยเจอทั้งแบบ
    สร้าง พระไตรปิฎก ฉบับชาวคริสต์
    ทั้งการเปลี่ยนคำว่า โบสถ์ เป็น วัด
    หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนคำว่า บาทหลวง เป็น พระสงฆ์ในพระคริสต์

    เพราะหลายร้อยปีที่ผ่านมา
    วาติกันได้เรียนรู้แล้วว่า
    การจะหาศาสนิกให้มากขึ้นในประเทศไทย
    ด้วยวิธี เปลี่ยนชาวพุทธให้เป็นชาวคริสต์เลยนั้นทำได้ยากมาก

    จึงต้องใช้การ ปรองดอง ซึ่งกันและกันแบบแนบเนียน
    ด้วยการเปลี่ยนคำศัพท์บ้าง เอาคัมภีร์พระสูตรไปประยุกต์บ้าง
    เอาคำเรียกต่างๆ ในพระพุทธศาสนา ไปใช้เรียกคำในศาสนาคริสต์
    เพื่อไม่ให้ชาวพุทธรู้สึกแตกต่าง(ไหวตัวทัน)
    และรู้สึกว่าเป็นสิ่งใกล้ๆ กันกลมกลืนกันได้
    ตัวผมเองก็เคยแอบเข้าไปสังเกตการณ์อยู่ครับ
    เคยเห็นโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัด
    เคยมีกระถางธูปให้จุดวางหน้าเทวรูปได้ด้วย

    แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ผมเห็นว่า
    ต่อให้ศาสนาอื่นๆ จะพยายามบิดเบือนอย่างไร
    ถ้าชาวพุทธเรา ไม่ทิ้งการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
    ก็คงจะไม่เขวไปแน่นอน

    เพราะอย่าลืมว่า ศาสนาอื่นๆ
    ก็มีการปฏิบัติสมถกรรมฐานเช่นเดียวศาสนาพุทธ
    เพียงแต่ใช้ รูปแบบ ที่แตกต่างกัน
    แต่ทำให้มีอิทธิฤทธิ์ได้เหมือนกัน
    (สมัยพุทธกาล บางลัทธิที่มีฤทธิ์หรือใช้กลก็มีปรากฏอยู่ครับ)

    แต่การพ้นทุกข์ การละกิเลสได้นั้น
    ต้องอาศัยคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

    และถ้ามิชชันนารีของศาสนาอื่น
    สามารถเอาคำสอนของพระพุทธเจ้า
    ไปสอนจนสามารถทำให้คนบรรลุธรรมได้จริงๆ
    (อันนี้มโนล้วนๆ :p )
    นั่นก็เป็นเป้าหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนาแล้วครับ
    แสดงว่าเขาก็ช่วยเราเผยแผ่พุทธศาสนาไปโดยไม่รู้ตัว

    แต่แน่นอนครับ
    ในความเป็นจริงนั้น เป็นไปได้ยาก
    หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย

    แต่ทำให้นึกถึงสมัยพุทธกาลครับ
    ตอนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ
    ตอนนั้นมี ชาวพุทธ เพียงแค่คนเดียวในโลก
    ไม่นานปริพาชก หรือเดียรถีย์อื่นๆ
    ก็บรรลุธรรมขั้นต้นบ้าง ขั้นกลางบ้าง
    แล้วจึงแสดงตนเข้าถึงพระรัตนตรัยภายหลัง

    ราวกับว่า
    คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น
    ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของตัวชื่อศาสนา
    แต่เป็นส่วนของ เนื้อหา แก่นธรรม
    ที่เป็นหลักการปฏิบัติจนเห็นผลแบบเดียวกัน
    จากนั้น จึงเกิดศรัทธาตามหลัง

    เคยได้ยินหลวงปู่ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า
    ชาวพุทธสมัยพุทธกาล ทำ(พิสูจน์คำสอน) ก่อนแล้วจึงเชื่อ
    แต่พอยุคหลังๆ เริ่มจะเป็น เชื่อก่อนทำ
    (ท่านว่า บางรายแค่เชื่อแล้วไม่คิดจะปฏิบัติตามอีกด้วย)

    ก็ได้เป็นสิ่งเตือนสติ
    ให้เราได้ชักชวนรีบเร่งกันศึกษาปฏิบัติกันมากๆ ด้วย

    ทั้งนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
    อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...