ความสุขอันอิ่มเอม..บนเส้นทางธรรมของภัทริน ซอโสตถิกุล

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Aek9549, 17 มิถุนายน 2008.

  1. Aek9549

    Aek9549 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +1,031
    ด้วยความรัก ความศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าจึงหนุนน ำให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ “แป้ง-ภัทริน ซอโสตถิกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีโนวา จำกัด ผู้พัฒนาและบริหาร ซีซัน เทรนดี้ มอลล์ มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางแห่งธรรมอย่างจริงจังควบคู่ไป กับการใช้ชีวิตทางโลกอย่างมีสติ

    “สนใจธรรมะมาตั้งแต่เด็กค่ะ นอกจากคุณพ่อ-คุณแม่พาไปทำบุญที่วัดเป็นประจำแล้ว การที่ได้เห็นคุณแม่นั่งสมาธิทุกเช้า กลายเป็นสิ่งที่ซึมซับเข้ามาอยู่ในตัวเองโดยไม่รู้ตั ว พอโตขึ้นจึงเริ่มมีคำถามกับตัวเองว่า เราเกิดขึ้นมาทำไม ชีวิตคนเรามีสาระอะไรมากกว่านี้ไหม เหมือนกับว่า ทุกวันนี้เราเกิดมาเพื่อดำเนินชีวิตที่เป็นแพทเทิร์น โตขึ้นก็เรียนหนังสือ จากนั้นก็ทำงาน จนเกษียณเมื่ออายุมากขึ้น เป็นวัฏจักรวนเวียนแบบนี้” ลูกสาวคนสวยของเกริกชัย-ร.ศ.รัชนี ซอโสตถิกุล เกริ่นที่มาที่ไป

    ...แสงสว่างจากพระธรรม เริ่มส่องนำทางชีวิตของหญิงสาวให้แจ่มชัดขึ้น นับตั้งแต่การเข้าวิปัสสนากรรมฐาน ขณะที่เธอยังศึกษาเพียงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในตอนนั้ นการปฏิบัติธรรมของเธอเพียงรู้สึกว่าทำแล้วสบายใจ แต่ยังมิได้ซาบซึ้งเข้าไปถึงแก่นแท้ของธรรมะเท่าใดนั ก อาจเป็นเพราะชีวิตในช่วงวัยเรียนยังมิได้พบเจออุปสรร คมากมายเข้ามาในชีวิต กระทั่งเริ่มมีความรู้สึกเข้าใจ และซาบซึ้งในพระธรรมเมื่ออายุล่วงเข้า 27 ปี

    “พอทำงานมาชั่วระยะหนึ่งได้เห็นถึงความวุ่นวายของจิต ใจตัวเอง อาจเป็นเพราะทำงานเยอะด้วย จึงเริ่มรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่ค่อยสงบ แต่เมื่อได้มีโอกาสไปวิปัสสนาประมาณ 7 วันได้เริ่มฝึกการเจริญ สติปัฏฐาน 4 อย่างจริงจัง

    ทำให้เริ่มเข้าใจคำถามที่มีอยู่ภายในใจมาโดยตลอดว่า “คนเราเกิดมาทำไม” และคำตอบที่ได้รับก็คือ “คนเราเกิดมาเพื่อหาทางพ้นทุกข์ที่ถาวร” ซึ่งวิธีเดียวที่จะสามารถไปถึงตรงจุดนั้นได้ คือ การปฏิบัติธรรม การเจริญภาวนา

    หลังจากการฝึกวิปัสสนากรรมฐานครั้งนั้นก็พยายามหาควา มรู้เพิ่ม และใช้ชีวิตให้เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนามากข ึ้น จนเริ่มเห็นความแตกต่างหลายๆ ด้านในชีวิตของตัวเอง ได้สัมผัสถึงความสงบที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา

    เป็นความสุขที่เกิดมาจากการมีสติด้วยตัวเราเอง แม้มีเงินทองมากมายเท่าไหร่ก็ซื้อหามาไม่ได้ ขณะนี้ก็ยังอยู่ในระหว่างการเดินทางหาคำตอบว่าเกิดมา ทำไม จึงพยายามปฏิบัติให้มากขึ้นในทุกๆ วัน” เจเนอเรชั่นที่ 3 ทายาทกิจการศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ถ่ายทอดความรู้สึก

    ...นับแต่บัดนั้นมุมมองของชีวิตจึงมาถึงจุดเปลี่ยน เธอดำเนินการตั้งเป้าหมายใหม่ในชีวิต จากเดิมที่จุดหมายในชีวิตมีเพียงต้องทำหน้าที่ในแต่ล ะบทบาทของตัวเองให้ดีที่สุด หากยังมีอีกงานสำคัญที่สุดคือ “งานทางธรรม” ซึ่งตั้งใจว่าจะปฏิบัติควบคู่กันไปโดยตลอด

    โดยงานทางธรรมของเธอ นอกจากจะรับเป็นเจ้าภาพในการจัดปฏิบัติธรรมแล้ว ยังหมายรวมไปถึงการได้ชักชวนผู้คนที่สนใจ และต้องการเข้ามาปฏิบัติธรรมให้ได้มีโอกาสมาสัมผัสคว ามสุขอันเกิดจากธรรมะซึ่งส่งผลให้ชีวิตมีความหมายมาก ยิ่งขึ้น

    “เดินจงกรม และนั่งสมาธิทุกเช้าก่อนไปทำงาน รู้สึกเลยว่าถ้าช่วงไหนมีเวลาปฏิบัติได้มาก จิตใจของเราจะมีพลัง เมื่อเจอปัญหาต่างๆ หรือเจอสิ่งเร้าที่เข้ามากระทบก็สามารถที่จะผ่านพ้นไ ปด้วยสติโดยที่ใจเราจะไม่ขึ้นลงตามสิ่งเร้าที่เข้ามา กระทบ

    แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ปฏิบัติน้อยอาจจะด้วยงานยุ่ง หรือไม่มีเวลา รู้สึกเลยว่าช่วงนั้นใจของเราจะขึ้นลงได้ง่ายมาก สำหรับตัวเองมั่นใจเลยว่า การได้ปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เป็นคนมีสติ ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามากระทบจะส่งผลต่อจิตใจได้น้อยลง การปฏิบัติธรรมจึงทำให้เรามีความสุขได้ง่ายขึ้น ไม่ทุกข์ไปกับสิ่งต่างๆ อันเป็นปัจจัยภายนอก ทำให้ได้เห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น

    ความสุขแท้จริงของคนเราเกิดจากความสงบภายในจิตใจ มีสติในการใช้ชีวิต เรียกว่าเป็นความสุขที่อิ่มบุญ และอยู่ได้นาน ตรงกันข้ามกับความสุขทางโลกที่เกิดมาจากการมีเงินทอง สิ่งของ ลาภยศสรรเสริญซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำตลอดเวลา พอหยุดเมื่อไหร่ก็คือจบเป็นความสุขที่ไม่เที่ยงแท้

    เมื่อได้สัมผัสความอิ่มเอมใจนี้ถึงได้บอกกับตัวเองว่ า คนเราต้องพัฒนาจิตใจของตัวเองทั้งใน เรื่องของศีล ทาน ภาวนา และฝึกสติ ยิ่งพัฒนาตัวเองมากขึ้นเท่าไหร่ คนรอบข้าง และสิ่งต่างในชีวิตๆ ก็จะดีขึ้นไปด้วย” หญิงสาวบอกเล่าความสุขในการปฏิบัติธรรม

    เช่นนั้น กัลยาณมิตรของเธอจึงมีหลากหลายวัย ที่สำคัญวัยรุ่นยังหันมาปฏิบัติธรรมกันมากขึ้น ด้วยคนรุ่นใหม่มีทัศนคติที่เริ่มมองว่า ธรรมะไม่ใช่เรื่องของคนแก่ ธรรมะไม่ใช่เรื่องเชย และไม่ใช่เรื่องของคนเฉพาะกลุ่ม หรือเฉพาะคนที่สูงอายุ หรือคนที่มีความทุกข์ในชีวิตเท่านั้น

    เธอกล่าวเสริมว่า อาจเป็นเพราะประโยชน์ที่พวกเขาได้จากการเริ่มปฏิบัติ ซึ่งจะเห็นผลได้จากการที่จิตใจสงบ เยือกเย็น และมีความประณีตเพิ่มขึ้น นอกจากชีวิตจะมีความสุขแล้วก็ยังสามารถอยู่กับความทุ กข์ได้ดีอีกด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว ้ในเรื่องของการปล่อยวาง สิ่งต่างๆ ไม่เที่ยง ยิ่งยึดถือมากเท่าไหร่ก็ทุกข์มากเท่านั้น

    “สำหรับตัวเองพยายามปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรประจำ วัน และตั้งใจไว้เลยว่าใน 1 เดือนจะต้องไปปฏิบัติธรรมไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง ถึงจะไม่ค่อยมีเวลาแต่คนเราต้องเลือกทำในสิ่งที่สำคั ญก่อน นี่ก็เพิ่งกลับมาจากการปฏิบัติธรรม 9 วัน ที่วัดไกลกังวล จ.ชัยนาท ไปอยู่ในกุฏิคนเดียวในป่า เป็นการได้อยู่กับตัวเองโดยไม่ได้เจอกับใครเลย รับประทานอาหารมื้อเดียว ถือศีล 8

    สำหรับสิ่งที่ได้จากการอยู่คนเดียว คือ ทำให้เราได้ดูสติของตัวเอง และรู้ข้อบกพร่องของตัวเอง เห็นตัวเอง ซึ่งถ้าเราอยู่ในโลกภายนอกก็จะไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับต ัวเอง เมื่อได้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองแล้ว เราจะเกิดปัญญาในการคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิต

    อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ การเจริญสติปัฏฐาน 4 คือ การมีสติระลึกรู้ รู้ทันในปัจจุบัน อย่างที่บอกว่าถ้าเรารู้ในสิ่งที่จะเข้ามากระทบ และจับทัน คือ เรารู้ทัน เราก็จะไม่ให้ความโลภ ความโกรธ ความหลง เข้ามาอยู่ที่ตัวเราได้ ซึ่งการฝึกสติปัฏฐาน 4 มีประโยชน์ในการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ” ภัทรินเล่าประสบการณ์อันได้จากการปฏิบัติธรรม

    นักธุรกิจรุ่นใหม่ หัวใจใฝ่ธรรมะทิ้งท้ายว่า ตั้งใจจะปฏิบัติธรรมในส่วนที่สามารถทำได้ในชีวิตประจ ำวันให้มากที่สุด และคิดว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของตัวเองเช่นกัน ทุกวันนี้มองว่าธรรมะ คือ ชีวิต เรียกว่า ธรรมะเป็นสิ่งสำคัญมากจนต้องนำมาอยู่ในชีวิตของเธอเล ยทีเดียว นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นที่จะเดินบนเส้นทางธรรมตลอดไป



    .................................................. ...............

    โดย ผู้จัดการออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...