ความไม่แน่...

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 10 พฤศจิกายน 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    “อะไรอะไรมันก็ไม่แน่ อย่าดีใจ อย่าเสียใจ”

    มีนิทานของชาวจีนเรื่องหนึ่งเล่าว่า
    สามีภรรยาคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ในชนบท
    กับท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่ง
    และมีม้าฉลาดแสนรู้อีกตัวหนึ่ง
    ทั้งสองสามีภรรยารักม้าตัวนี้มาก
    วันหนึ่งม้าหนีไป ทั้งสามีภรรยาเสียใจมาก
    ท่านผู้เฒ่าก็ได้ปลอบใจว่า
    “อย่าเสียใจเลย เพราะชีวิตนี้ไม่แน่”

    เวลาผ่านไปหลายวัน
    ม้าตัวนั้นก็กลับมาที่บ้าน
    แต่คราวนี้ได้พาแฟนมาด้วยเป็นม้าป่าอีกตัวหนึ่ง
    สามีภรรยาต่างก็ดีใจมาก
    แต่ท่านผู้เฒ่าก็บอกว่า
    “อย่าเพิ่งดีใจ เพราะชีวิตนี้ไม่แน่”

    ต่อมาวันหนึ่ง
    สามีพาม้าตัวใหม่มาหัดขี่เล่นไปรอบๆ บ้าน
    ม้ายังไม่เชื่องดี จึงยังไม่สามารถบังคับได้ดังใจ
    ม้าพาวิ่งลอดเข้าไปใต้ถุนบ้าน
    ตัวเขาชนกระแทกเข้ากับตัวบ้านอย่างแรง
    ตกลงมาพิการแขนขาหัก
    ทั้งสามีภรรยาต่างก็เสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก
    ท่านผู้เฒ่าก็ปลอบว่า
    “อย่าเสียใจเลย เพราะชีวิตนี้ไม่แน่”

    ต่อมาเกิดสงคราม
    ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านถูกทางราชการเกณฑ์ไปเป็นทหารทุกคน
    สามีได้รับการยกเว้นเนื่องจากเป็นคนพิการ
    การสู้รบเป็นไปอย่างรุนแรงทำให้ทหารตายเกือบหมด
    สามีภรรยาก็ดีใจที่ตัวเองไม่ต้องไปเสียชีวิต
    ในสงครามครั้งนี้

    นิทานเรื่องนี้สอนเราว่า......
    บางครั้งเราอาจเกิดความรู้สึกว่าเราได้สูญเสียมากมาย
    เราเสียเปรียบ น่าเสียใจ
    แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว เราอาจจะเห็นว่า
    สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าเสียใจอะไรมาก
    อาจจะกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีก็ได้
    บางสิ่งบางอย่างที่เรารู้สึกว่าดี
    แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว
    สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีก็ได้
    มันก็กลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น

    เป็น อนิจจัง ไม่แน่นอนจริงๆ
    เราจึงควรทำความเข้าใจกับเรื่องของ “ความไม่แน่”
    และรู้จัก “ปล่อยวาง”

    อนิจจัง คือ ไม่แน่ เราต้องเข้าใจ

    โลกธรรมแปดฝ่ายที่ไม่น่าปรารถนา ที่ได้เกิดขึ้นกับเรา
    การตกงานก็ดี การถูกลดเงินเดือนก็ดี
    การไม่มีเงินใช้เช่นที่เคยก็ดี
    ไม่มีเงินให้ลูกเรียนหนังสือเช่นเคยก็ดี
    เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เรา ทุกข์ใจ เสียใจ น้อยใจ
    เบื่อหน่าย ท้อถอย
    เราต้องพิจารณาให้เห็นว่า
    สิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ไม่แน่
    เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    เอาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    มาตั้งไว้ที่หัวใจของเรา
    เพื่อรักษาสุขภาพใจที่ดี ให้ใจดี ใจมีกำลัง ใจมีเมตตา
    เมื่อใจมีกำลัง ใจสงบแล้ว เราจะสามารถแก้ไขปรับปรุง
    ให้สถานการณ์ดีขึ้นได้
    เราก็จะสามารถทำหน้าที่ของเราได้อย่างถูกต้อง
    แล้วเราก็จะอยู่อย่าง มีความสุขได้ในทุกสถานการณ์
    สิ่งเลวร้ายต่างๆ ในอดีตปล่อยวางเสีย
    ให้เรา คิดดี พูดดี ทำดี ในทุกสถานการณ์
    อริยมรรคมีองค์ 8 คือ
    ศีล สมาธิ ปัญญา
    ให้ตั้งมั่นอยู่ในหัวใจของเรา

    ให้เอาทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นอาจารย์
    เป็นเพื่อนที่ให้กำลังใจแก่เรา
    ให้ทุกข์เป็นปุ๋ย เป็นยาบำรุง
    การคิดดี พูดดี ทำดี ของเรา
    เหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
    ทำให้เราต้องผิดหวังต้องเสียใจมากๆ
    ให้เราเห็นชัดๆ ว่าสิ่งเหล่านี้คือ วิบากกรรมของเรา
    เป็นสิ่งที่ต้องเกิดตามเหตุปัจจัยของมัน
    ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ ถ้าเราสามารถ คิดดี พูดดี ทำดีได้
    ก็จะทำให้จิตของเรามีกำลังมากขึ้น
    เป็นการยกจิตใจของเราให้สูงขึ้น
    เป็นการเสริมสร้างบารมีให้แก่ตัวเอง

    จงมองดูทุกข์ที่เกิดขึ้นแก่เรา
    ทั้งทุกข์ทางกายและทุกข์ทางใจ
    ด้วยจิตใจที่ดี จิตใจที่สุขุมอ่อนโยน
    มีเมตตา มีขันติ
    ด้วยความอดกลั้นและด้วยปัญญา
    เมื่อมีทุกข์มาก
    เราต้องมีขันติธรรม
    คือความอดกลั้น
    ผู้มีปัญญาเท่านั้นที่จะอดทนและอดกลั้นได้
    ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่เมื่อเราทำได้แล้ว
    เราก็จะสามารถตั้งอยู่ในความดี ความถูกต้อง
    และเจริญก้าวหน้าต่อไปได้

    เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่เราเคยคิดว่าเลวร้าย
    ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไป
    และอาจจะนำสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของเราก็ได้
    และถ้าใจเรามีกำลัง ใจสงบ ใจดี ใจมีเมตตาแล้ว
    จะไม่มีอะไรที่เราแก้ไขไม่ได้
    ฉะนั้นขอให้เราตั้งอยู่ในความดี ความถูกต้อง
    คิดดี พูดดี ทำดี ในทุกสถานการณ์
    ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลก อยู่ในวัฏสงสาร
    แม้จะทำดี ทำความดีขนาดไหนก็ตาม
    พายุแห่งการเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์
    มันก็ยังมีอยู่ ไม่มีใครหนีพ้น

    แม้แต่พระบรมศาสดาของเราก็ต้องประสบเหมือนกัน
    หลังจากท่านตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญานแล้ว
    แม้จิตใจท่านจะบริสุทธิ์ขนาดไหน มีปัญญาลึกซึ้งขนาดไหน
    มีเมตตาขนาดไหนก็ตาม เหตุการณ์ต่างๆ ก็ยังคงเกิดขึ้นกับท่าน
    ซึ่งตามความรู้สึกของเรา
    ก็คิดว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นกับพระองค์
    แต่นั่นเป็นเพียงความคิดของเรา
    ตามความเป็นจริง โลกธรรมฝ่ายไม่น่าปรารถนา
    ก็มีมากระทบพระพุทธองค์เหมือนกัน

    สนใจเพิ่มเติม ติดต่อ
    วัดป่าสุนันทวนาราม
    บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

    เส้นทางไปวัดป่าสุนันทวนาราม
    บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

    ..... ..... ปากทางเข้าวัดอยู่ กม. 90 ของทางหลวงหมายเลข 323
    ช่วงอำเภอไทรโยค-อำเภอทองผาภูมิ

    -- ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงวัดประมาณ 220 กม.
    -- จากตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงน้ำตกไทรโยคน้อยประมาณ 60 กม.
    -- จากน้ำตกไทรโยคน้อย ถึงปากทางเข้าวัดประมาณ 47 กม.
    -- จากปากทาง ถึงวัด 3 กม.

    ..... ..... การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ
    ไปวัดป่าสุนันทวนาราม

    -- ขึ้นรถ กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่
    ต่อรถ กาญจนบุรี - อ.ทองผาภูมิ ที่สถานีขนส่ง จ.กาญจนบุรี
    ไปลง กม. 90 (ปากทางเข้าวัดป่าสุนันทวนาราม)

    -- รถตู้จากหน้าโรงแรมรอยัล มุมถนนราชดำเนิน เชื่อมติดต่อจาก
    ท้องสนามหลวง ไปสถานีขนส่ง จ.กาญจนบุรี
     

แชร์หน้านี้

Loading...