คำภาวนาเพื่อพระนิพพาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 26 กุมภาพันธ์ 2024.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,521
    121_4301.jpg

    คำภาวนาเพื่อพระนิพพาน


    อาจารย์ยกทรง : เดี๋ยวก็มาเรื่องนิพพานนะหลวงพ่อ เขาบอกว่าภาวนาอย่างนี้จะไปนิพพานได้หรือเปล่า

    หลวงพ่อ : ลองภาวนาให้ฟังซิ

    อาจารย์ยกทรง : นิพพานัง สรณัง คัจฉามิ นิพพานัง สรณัง คัจฉามิ อย่างนี้เป็นต้นว่าทั้งวันเลยครับ จะไปได้หรือเปล่า

    หลวงพ่อ : ถ้าไปได้ก็ได้ ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่ได้

    อาจารย์ยกทรง : อ้าว...

    หลวงพ่อ : นิพพานัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถือนิพพานเป็นที่พึ่ง แต่ว่าพอยุงมา ตบเพียะ (หัวเราะ)

    อาจารย์ยกทรง : มีอย่างนี้เหมือนกันหรือครับ

    หลวงพ่อ : ภาวนาว่าจะไปจะไป เนื้อแท้จะไปหรือเปล่า นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานัง สุขัง ใช้ได้ทั้งหมด แต่ว่าต้องพยายามลด โลภะ ความโลภ โทสะ ความโกรธ โมหะ ความหลง ต้องลดจิตจะเป็นสุข จิตเป็นสุข
    แม้จะไม่หมดเลยก็ตาม เวลาใกล้จะสิ้นชีพสังขาร จิตจะดับ อารมณ์มันจะจับนิพพาน ถ้าหากว่าถ้าเราไม่พยายามลดตัวนี้ เกิดโทสะ เวลาใกล้จะตาย เจ๊งเลย ลงนรกไปเลย ใช่ไหม
    ต้องทำจิตให้เป็นสุขก่อน จิตเป็นสุขเพราะตัดความโลภ ด้วยการให้ทาน คือ เมตตาใช่ไหม จิตระงับความโกรธ จิตจะได้ไม่เดือดร้อน ฟุ้งซ่านเกินไป จิตตัดความหลง คือเห็นว่ามนุษยโลก เทวโลกไม่เป็นเรื่อง ต้องการนิพพานเพียงจุดเดียว
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มป่วยใหม่ๆ ต้องยึดอันนี้ให้เป็นอารมณ์ใช่ไหม
    ยึดไปเลย นิพพานัง สรณัง คัจฉามิ ยึดในใจสบาย ถ้าจิตเป็นสุข ดับจิตเมื่อไรไปนิพพานเมื่อนั้นเหมือนกัน

    อาจารย์ยกทรง : แค่อย่างนี้ ยังไปนิพพานได้หรือขอรับ

    หลวงพ่อ : สั้นกว่านี้ยังไปได้ เขาภาวนา นิพพาน นิพพาน นิพพาน เขายังไปได้
    ไม่ต้อง สรณัง คัจฉามิ เพราะว่าถ้าจิตเป็นเอกัคตารมณ์ในเวลานั้น ใช่ไหม เพราะว่าไอ้ตัวไปนี่ขันธ์ 5 ไม่ได้ไป

    อาจารย์ยกทรง : ใช่ ใช่

    หลวงพ่อ : ในเมื่อจิตว่าด้วยความจริงใจ มีความผูกพันจริงๆ มันหลุดจากร่างกายก็ไปยังจุดนั้น อย่างที่พูดเมื่อคืนนี้ ท่านโกตุหลิกะ ไง แกเป็นคนจิตไปนึกถึงหมา ออกจากร่างเข้าท้องหมาไปเลย
    แล้วนี่จิตเขาจับนิพพานอยู่ เขาก็ไปนิพพานเป็นของไม่ยาก

    อาจารย์ยกทรง : ถ้าเวลาจะตายจริงๆ นึกถึงสิ่งไหนก็มักจะไปสิ่งนั้นหรืออย่างไร

    หลวงพ่อ : ก็ถูกนะ ถ้านึกโกรธลงนรกไปเลย นึกว่า แหม เมื่อคืนนี้โกงไอ้นั่นมันน้อยไปหน่อยว้า ความจริงมันควรได้มากกว่านั้น ลงนรกไปอีกใช่ไหม

    อาจารย์ยกทรง : ครับ ครับ

    หลวงพ่อ : มันขึ้นอยู่กับอารมณ์จิตว่าง จิตต้องว่างจากกิเลส การนึกถึงนิพพานนี่จิตต้องว่างจากกิเลส
    ทีนี้จะให้ว่างจากกิเลส ใช่ไหม จะต้องหาทางบรรเทาจากกิเลสเสียก่อน ถ้ากำลังของกิเลสสูง มันว่าแต่ปากอย่างเดียว จิตมันไม่ได้ไปด้วย ยังไม่ได้หวังแท้แน่นอน ไม่เป็นเอกัคตารมณ์


    ขณะที่ว่างอยู่นั่นจิตอาจจะส่ายไปสู่อารมณ์อื่น เอกัคตารมณ์นี่เป็นอารมณ์หนึ่งอันเดียว ใช่ไหม จับเฉพาะนิพพานอันเดียวแน่นอน อันนี้ควรจะซักซ้อมกันตั้งแต่เมื่อดีๆอยู่
    อย่าไปหวังเอาเมื่อตาย ขณะที่ดีๆ ภาวนาอย่างนี้เรื่อยๆไป คำภาวนายืนตัวเดียว ความจริงไม่ต้อง นิพพานัง สรณัง คัจฉามิ หรอกจะเหนื่อย "นิพพานะ สุขัง" ก็พอ

    อาจารย์ยกทรง : นิพพานะ หรือ นิพพานัง สุขัง ครับ หลวงพ่อ

    หลวงพ่อ : "นิพพานะ สุขัง" เอาแค่นี้ก็พอ


    นอกนั้นยาวไปว่านิพพานเป็นสุข หรือจะว่า "นิพพานัง" "นิพพานัง" ก็ได้ให้มันสั้นลงมา มันจะได้ไม่เหนื่อย จิตจะได้ดี

    ทีนี้ให้ภาวนาเรื่อยๆ จนกระทั่งอารมณ์ชิน ถ้ามันหยุด มันคิดอย่างอื่น มันจะภาวนาของมันเอง ยามปกตินี่น่ะ อันนี้ใช้ได้ไปได้แน่นอน


    (จาก หนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 15 หน้า 486-488)
     

แชร์หน้านี้

Loading...