เรื่องเด่น จองเวร ( ตัวอย่างสาเหตุที่พระอริยะบุคคลต้องถูกฆ่าเพราะวิบากกรรมเก่า)

ในอดีตชาติหนึ่ง ลูกเศรษฐี 4 คน เป็นสหายกัน วันหนึ่ง พวกเขาจ้างโสเภณีคนหนึ่งให้มาบำเรอพวกตนทั้งวัน พอตกเย็นปรึกษากันว่า "ในที่นี้ไม่มีคนอื่น พวกเราควรยึดเอาทรัพย์ 1,000 และเครื่องประดับทั้งหมดที่ให้แก่หญิงนี้แล้วฆ่านางเสีย"

หญิงนั้นแอบได้ยินเสียงที่ลูกเศรษฐีเหล่านั้นปรึกษากันจึงคิดว่า "คนพวกนี้ไม่มียางอาย ร่วมอภิรมย์กับเราแล้วจะฆ่าเรา" เมื่อนางถูกฆ่าก่อนตายจึงได้จองเวรว่า "ขอให้เราได้เกิดเป็นยักษิณี และสามารถฆ่าคนเหล่านี้ได้เหมือนที่พวกมันฆ่าเรา"

หลังจากชาตินั้นแต่ละคนก็เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ทำบุญบ้าง ทำบาปบ้าง และรับผลของบุญและบาปที่ทำตามกรรมของตน จนกระทั่งในสมัยพระสมณโคดมพุทธเจ้า ลูกเศรษฐีทั้ง 4 คนนั้นได้มาเกิดเป็น สุปปพุทธกุฏฐิ, พาหิยะ, ปุกกุสาติ และเพชฌฆาตมีเคราแดง
ส่วนหญิงโสเภณีนั้นเกิดเป็นนางยักษิณี ด้วยเวรที่นางผูกไว้ทำให้นางได้เจอและฆ่าคู่เวรทั้ง 4 คนนั้นตาย โดยการแปลงกายเป็นแม่โคนมแล้วขวิดทั้ง 4 คนจนสิ้นชีวิต ดังนี้


1). วันหนึ่ง สุปปพุทธกุฏฐิ ไปวัดพระเวฬุวัน ได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เพราะบุญต่างๆที่ท่านสั่งสมไว้ในหลายภพหลายชาติมาส่งผล ต่อมา วันหนึ่ง ท่านได้ไปสนทนาธรรมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขากลับจากวัดนางยักษิณีตนนั้นแปลงกายเป็นแม่โคนมแล้วขวิดท่านจนเสียชีวิต เมื่อตายเขาไปสุคติโลกสวรรค์เพราะบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันแล้ว
2). วันหนึ่ง พาหิยะ เจอพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาตอยู่ จึงเข้าไปกราบและขอฟังธรรม พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโดยย่อ เขาฟังแล้วได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้วไปแสวงหาบาตรและจีวรเพื่อจะบวช ระหว่างนั้นยักษิณีตนนั้นแปลงร่างเป็นแม่โคนมแล้วขวิดพาหิยะที่ขาอ่อนข้างซ้ายทำให้สิ้นชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นเขานอนตายอยู่จึงทรงบัญชาว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงนำสรีระนี้ไปเผาแล้วทำสถูปใส่อัฏฐิไว้" เมื่อพระภิกษุช่วยกันจัดการเสร็จแล้วได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า "พาหิยะตายแล้วไปเกิดที่ไหน" พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "พาหิยะปรินิพพานแล้ว" และตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พาหิยะทารุจีริยะ (ผู้นุ่งผ้าเปลือกไม้) เป็นเลิศด้านตรัสรู้เร็ว"
3). วันหนึ่ง พระราชาพระนามว่า ปุกกุสาติ แห่งกรุงตักกสิลา ได้สดับพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าที่โรงช่างหม้อแล้วบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี เมื่อบรรลุธรรมแล้ว ท่านถูกยักษิณีตนนั้นซึ่งเป็นคู่เวรกันได้แปลงร่างเป็นแม่โคนมแล้วขวิดจนสิ้นชีวิต
พระภิกษุจำนวนมากกราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ปุกกุสาติที่พระผู้มีพระภาคเจ้าให้พระโอวาทโดยย่อนั้น ตายเสียแล้ว เขามีคติเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า” พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ปุกกุสาติเป็นบัณฑิต ได้บรรลุธรรมสมควรแก่ธรรมแล้ว จึงเป็นโอปปาติกะ (คือผุดเกิดขึ้นในพรหมโลกชั้นสุทธาวาสเพราะเป็นพระอนาคามีแล้ว) จะนิพพานในโลกนั้น ไม่หวนกลับมาจากโลกนั้นอีก”
4). บุรุษผู้หนึ่งชื่อตัมพทาฐิกะ มีตาเหลือกเหลือง มีเคราสีแดง ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเพชฌฆาต มีหน้าที่ประหารชีวิตนักโทษหรือโจร นายตัมพทาฐิกะฆ่าโจรจำนวนมาก คราวละ 500 คนบ้าง คราวละ 1 คนบ้าง 2 คนบ้าง ทำงานนี้อยู่ 55 ปี หลังจากเกษียณแล้ววันหนึ่งเขาได้ถวายภัตตาหารแก่พระสารีบุตร และได้ฟังธรรม ทำให้ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน แต่กรรมเก่าตามมาส่งผลทำให้เขาถูกนางยักษิณีตนนั้นแปลงกายเป็นแม่โคนมขวิดจนเสียชีวิตเช่นกัน เมื่อตายแล้วเขาไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต




ข้อคิด และแหล่งอ้างอิง

1. ยักษิณีเป็นเทวดาประเภทหนึ่งอยู่ในชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งสวรรค์ชั้นนี้มีอาณาเขตส่วนหนึ่งครอบคลุมถึงโลกมนุษย์ เป็นภพซ้อนอยู่บนโลกมนุษย์ การที่นางได้เกิดเป็นยักษิณีนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะบุญที่นางเคยทำไว้และด้วยอำนาจการจองเวร

2. บุญและบาปที่เราทำไว้ในแต่ละชาติจะติดตามเราไปในภพชาติต่างๆที่เราเกิด เมื่อถึงเวลาบุญและบาปเหล่านั้นก็จะให้ผล โดยบุญจะส่งผลให้เราเป็นสุขด้วยสิ่งต่างๆ เช่น ร่ำรวย แข็งแรง อายุยืน เข้าถึงธรรม เป็นต้น ส่วนบาปจะส่งผลให้เรามีอันเป็นไปต่างๆ เช่น อายุสั้นตายก่อนวันอันควร เจ็บป่วย เสื่อมทรัพย์ เป็นต้น ดังนั้น เราจึงควรทำแต่บุญเลิกทำบาปทั้งปวง

3. การฆ่าพระอริยบุคคลแม้คนเดียวก็ได้บาปมาก แต่กรณีนี้นางยักษิณีดังกล่าวฆ่าพระอริยบุคคลถึง 4 รูป/คน ด้วยกัน คือ พระอรหันต์ 1 รูป พระอนาคามี 1 ท่าน และพระโสดาบัน 2 ท่าน เป็นกรรมหนักมาก ตายแล้วจะต้องไปตกมหานรกยาวนานทีเดียว
ดังนั้น อย่าจองเวรใครเด็ดขาด ให้รู้ว่า ทุกข์ โศก โรค ภัย และสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับเราเป็นเพราะกรรมที่เราทำมาเองตามมาส่งผล อย่าไปจองเวรใคร คนที่ทำกรรมกับเราเขาจะได้รับกรรมของเขาเอง ให้เราอดทนและให้อโหสิกรรม อย่าไปสร้างบาปกรรมใหม่เด็ดขาด
หากจองเวรและคู่เวรของเราได้สร้างบุญจนบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล เมื่ออำนาจเวรที่ผูกไว้ส่งผลให้เราทำบาปต่อพระอริยบุคคลนั้น เราจะได้บาปมาก ต้องไปมหานรกยาวนานมากๆ หรือถึงแม้คู่เวรจะไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล การทำบาปต่อกันก็ได้บาปอยู่ดี และส่งผลให้เราต้องทนทุกข์ต่อผลกรรมที่ได้รับในภพภูมิต่างๆ

4. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 23 หน้า 345-345, เล่ม 14 หน้า 402, เล่ม 41 หน้า 425-433, เล่ม 41 หน้า 194-198, เล่ม 41 หน้า 418-424. …

 

ที่มา https://www.youtube.com/@pratripitaka

 

ที่มา https://www.youtube.com/@dhammaiyak

 

ที่มา https://www.youtube.com/@dhammaiyak

 

เพชฌฆาตผู้ฆ่าโจร๕๕ปีกว่า๒๐๐๐คน ตายแล้วไปสวรรค์ชั้นดุสิต??!!!

ที่มา https://www.youtube.com/@Tripitaka-TH