ชาติที่แล้วเคยได้อะไรมาบ้าง แล้วตอนนี้จะเริ่มฝึกด้วยอะไร ใครรู้ช่วยบอกผมหน่อยครับ

อยากรู้แค่ว่าผมจะต้องเริ่มที่กสิณ อะไรดี
ตอนนี้ฝึกอาโลกสิณ อยู่ถูกต้องไหมครับ

แล้วต้องใช้อะไรบ้างครับ เอาแค่ชื่อสกุล หรือว่า รู้ได้เองเลยคับ
ช่วยบอกผมหน่อยครับ

 

ถ้าอยากรู้จริงๆว่ากรรมฐานใดเหมาะกับตัวคุณเอง ผมแนะนำว่าให้ลองปฎิบัติทุกวิธีเอาวิธีละ 3 วัน ในขณะที่ปฎิบัติกรรมฐานกองไหนนั้นก็ให้ตัดความคิดการปรุงแต่งและความกังวลในเรื่องอื่นๆออกให้หมด ให้จดจ่ออยู่แต่กรรมฐานกองที่คุณกำลังกำหนดนั้น ไล่ปฎิบัติไปเรื่อยๆทุกกอง แล้วคุณก็มาสรุปผลว่ากรรมฐานกองไหนที่คุณปฎิบัติแล้วเกิดผลดีที่สุดสำหรับคุณครับ

 

อดีตชาติ เพื่อนๆเคยได้อะไรมาบ้าง ผมไม่รู้น่ะครับ
เมือก่อน...ตอนผมสนใจเรื่องนั่งสมาธิใหม่ๆ ก็มีปัญหาแบบนี้มากวนเหมือนกัน
พยายามค้นหากรรมฐานที่คิดว่าเราน่าจะบำเพ็ญมาในอดีตชาติ

--------------------------------------------------------
ถ้าจะให้แนะนำจากประสบการณ์ตนเอง ขั้นแรกอย่าไปมัวค้นหากรรมฐานโดยการคิด หรือถามคนอื่นมากเกินไป แต่ควรจะลงมือปฏิบัติไปเลยครับ แล้ว ก็ค่อยๆดูผลไปเป็นระยะๆ

เบื้องต้น...ลองฝึกอะไรก็ได้น่ะครับ จะกรรมฐานกองไหนใน 40 กอง หรือ มหาสติปัฏฐานก็ได้ แต่พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่า "อานาปานสติ" เป็นกรรมฐานกลาง และเป็นมงกุฏกรรมฐานฝกึกได้ทุกจริต อย่าลืมเป้าหมายที่ว่ากรรมฐานทุกกอง จุดมุ่งหมายเบื้องแรกเพื่อทำให้เกิดสมาธิ แค่นั้นเอง เรามีหน้าที่..ทำแบบสบายๆ ไม่ฝืนธรรมชาติ ทำปัจจัยเพื่อเอื้อต่อการเกิดสมาธิก็พอครับ

ไม่ต้องไปนั่งเกร็ง นั่งเพ่ง เพื่อรักษา ดวงกสิณหรือนิมิตต่างๆน่ะครับ ให้รู้สึกสบายๆครับ ถ้ามันหายหรือเลือนลางไป ก็น้อมใจถึงนิมิตนั้นขึ้นมาใหม่ เกิดแบบนี้เกิดได้ก็หายได้ ขอย้ำ!! ว่าอย่าพยายามเกร็ง เพ่ง กสิณหรือนิมิตต่างๆแบบเสียดาย แบบไม่อยากสูญเสียมันไป
ถ้าเราทำบ่อยๆ และสม่ำเสมอเพียงพอแล้ว เราจะไม่กลัวสูญเสียมันเลย แต่ปกติคนเราจะกลัวสูญเสียมันไปเพราะวิริยะยังมีน้อยเกินไป พอถึงสภาวะขั้นต่างๆก็เลยไม่อยากสูญเสียมันไป

เพราะคำว่า "ทรงอารมณ์" ไม่ได้หมายถึงให้ไปเกร็ง ไปเพ่ง อารมณ์นั้นนะครับ (ตรงนี้นักปฏิบัติสมาธิ พากันไปติดกับตรงนี้กันเกือบหมด รวมทั้งผมด้วย) แท้ที่จริงแล้ว คำว่า" ทรงอารมณ์ " หมายถึงการรักษาอารมณ์แบบนั้นให้เกิดขึ้นบ่อยๆน่ะครับ และเมื่ออารมณ์แบบนั้นมันหายก็อย่าไปฝืน อย่าไปเสียดาย " มันเกิดได้ หายไปได้ มันก็สามารถเกิดขึ้นมาอีกได้ " เพราะทุกอย่างมันไม่เที่ยงน่ะคับ เราอย่าไปทำของที่มันไม่เที่ยงให้มันเที่ยงน่ะครับ ( มันจะผิดคำสอนพระพุทธเจ้า) เมื่อสภาวะจิตต่างๆเกิดได้ สภาวะจิตเหล่านั้นก็ย่อมหายไปได้ แต่จะเร็ว จะช้า จะมีกำลังมากหรือน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคุณภาพจิตของแต่ละคน เพียงแต่ทำบ่อยๆ สม่ำเสมอ สภาวะจิตย่อมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆด้วยตัวมันเองแน่นอน

 

ฝึกไปเพื่ออะไร

อานาปานสติ ดีที่สุด แค่คุณฝึกจนมีสติได้
ไม่มีการโกรธ ไม่มีการพยายาท ไม่มีความโลภ ไม่มีความหลง
ควบคุมจิตตัวเองได้ ทำต่อไปจนจิตค่อยๆ ใสขึ้นเรื่อยๆ
วันนึงคุณจะพบความสว่าง