ตรุษจีน งดไหว้เนื้อสัตว์

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย terryh, 1 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    ตรุษจีน งดไหว้เนื้อสัตว์


    ตรุษจีน งดไหว้เนื้อสัตว์

    หนังสือร้องทุกข์ของสัตว์เดรัจฉาน
    เจ้าแม่ถือมังสวิรัติ อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเอามาเซ่นไหว้

    http://mindcyber.com/home/index.php?page=2

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    <!-- /Aria Categoty Bottom --><!-- / close content container --><!-- / post #6508 --><!-- / close content container --><!-- / post #6508 --><!-- post #16063 --><!-- open content container -->

    <!-- this is not the last post shown on the page --><!-- post #19270 --><!-- open content container -->
    <!-- this is not the last post shown on the page -->
    <!-- Aria Cat Top Start --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(images/aria/misc/top_bg.gif)" vAlign=top align=left width=21 height=31></TD><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(images/aria/misc/top_bg.gif)" vAlign=center align=left width="80%" height=31>
    </TD><TD vAlign=center align=left width=19></TD><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(images/aria/misc/top_center.gif)" vAlign=top align=right></TD><TD vAlign=top align=right width=14 height=31></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- /Aria Cat Top End --><TABLE class=tborder id=post19270 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=left colSpan=2> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=aria_userinfo_bg width=175>






    </TD><TD class=alt2 id=td_post_19270><!-- icon and title -->[​IMG] <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->มีข้อให้คิดพิจารณา ว่าทำไมผู้มีอาชีพค้าขายสัตว์เพื่อฆ่า หรือเลี้ยงเพื่อ ฆ่า ต่างต้องประสพเคราะห์กรรมร้ายแรง จนถึงขั้นหายนะ ป่วยหนักจนพิการแม้แต่ลูกหลานต่างต้องรับผลกรรมหนักจ ากการทำปานาติบาต เจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ พิกลพิการก็มากหลาย ดังที่มีข่าวอยู่เนือง ๆใน สื่อหนังสือพิมพ์หรือหนังสือกฎแห่งกรรม ของ ท่าน ท เลียงพิบุล กินเนื้อสัตว์ บาปหรือไม่

    แม้แต่ ศีลข้อ 1 ก็ระบุชัดเจน ถึงการไม่ฆ่า ไม่ทำลายชีวิต คนทานเนื้อจะรู้หรือไม่รู้ ต่างก็มีส่วนไม่มากก็น้อยในการทำให้เกิดวงจรการฆ่า การทำลาย

    และยังระบุถึงผลกรรม ต่อการทำปานาติบาต ก่อให้เกิดโรคภัยร้าย เจ็บป่วย อายุสั้น และก่อนตายส่วนใหญ่จะทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยเรื้อรังด้วยโรคต่าง ๆ หรือบางรายป่วยเป็นอัมพฤษ อัมพาต เป็นเวลานาน ๆ

    ---คำตอบมีอยู่แล้วในท้ายบทความนี้
    มารู้จักศีลกันดีกว่า


    ชีวิต คือ.......

    ..........ความเป็นอยู่ที่ควรดำเนินตามหลักแห่งจริยธ รรมในการประพฤติที่ถูกต้องจึงจะมีความสุขเป็นส่งที่ม นุษย์ทกคนปรารถนาอันเป็นผลที่จะพึงได้ แต่จะเกิดผลได้จะต้องมีหลักการที่จะต้องปฏิบัติ
    ในทางพระพุทธศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้สั่งสอนให้ม นุษย์ตั้งอยู่ในคุณธรรมขั้นพื้นฐานที่เหมาะสมแก่การป ระพฤติปฏิบัติ พระพุทธองค์จึงได้กำหนดวางแบบแผนแห่งการประพฤติปฏิบั ติไว้เป็นหลักฐาน แบบแผนที่พระพุทธองค์ได้วางไว้เป็นแนวทางแห่งการประพ ฤติปฏิบัติ คือ หลักของเบญจศีล หรือ ศีล ๕ ประการนั้นเอง
    การตั้งใจประพฤติปฏิบัติงดเว้นในศีล ๕ ประการนี้ ชื่อว่า เป็นการรักษากายวาจาให้เรียบร้อย เบญจศีลนั้นเป็น จริยธรรมในระดับต้น หรือขั้นพื้นฐาน สำหรับให้มนุษย์ประพฤติความดีให้คงที่ ดังนั้นมนุษย์ทั้งหลายผู้ต้องการความสุข จะต้องพยายามปฏิบัติตามหลักแห่งเบญจศีลและหลักของเบญ จธรรมซึ่งเป็นหลักธรรมที่เป็นของคู่กัน
    การปฏิบัติตามหลักแห่งเบญจศีลนี้ได้เรียกว่า ผู้มีมนุษยธรรม คือเป็นผู้มีธรรมที่ทำให้บุคคลเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์


    การรักษาศีล


    รักษาศีลข้อที่ ๑ คือข้อ ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปังทังสัมมาฐิยามิ

    การรักษาศีลข้อนี้คือห้ามฆ่าสัตว์ทุกชนิดรวมทั้งมนุษ ย์ด้วย การฆ่าสัตว์ทำให้ศีลขาดนั้นมีองค์ประกอบ ๕ อย่าง ดังนี้

    ๑. สัตว์นั้นมีชีวิต
    ๒. รู้อยู่ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
    ๓. มีความตั้งใจที่จะฆ่า
    ๔. มีความพยายามที่จะฆ่า
    ๕. สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น

    เมื่อครบด้วยองค์ ๕ นี้ศีลจึงขาด แต่ถ้า ๑ - ๔ ศีลยังไม่ขาด แต่มีความเศร้าหมองไม่สมบูรณ์ การฆ่าสัตว์นั้นทำให้ศีลขาดเท่ากัน แต่บาปกรรมนั้นไม่เท่ากัน

    สมมุติว่าฆ่าสัตว์ตัวที่มีบุญคุณแก่เรา มีส่วนช่วยเหลือช่วยงานแก่เรา ทำประโยชน์ให้แก่เรา เช่น วัว ควาย ช้าง ม้า เป็นต้น ถ้าฆ่าธรรมดาก็มีบาปมากอยู่แล้ว ถ้าฆ่าด้วยความโกรธก็จะได้รับผลของบาปมากขึ้นเท่าตัว

    แต่ถ้าสัตว์ตัวที่ถูกฆ่านั้นเป็นพระโพธิสัตว์ลงมาใช้ ชาติ ก็จะได้รับผลของบาปนั้น ๑๐ เท่าทีเดียว เมื่อตายไปก็จะได้ลงไปสู่นรกทันที จะได้รับกรรมถูกไฟนรกแผดเผาให้เกิดความทุกข์ทรมานยาว นานทีเดียว เมื่อพ้นจากนรกแล้วก็จะได้มาเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ให้เขาฆ่ามาเป็นอาหารหลายร้ายชาติ

    ถ้าได้มาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะยังมีวิบากกรรมติดตามมาสนองได้อีก เช่นทำให้อวัยวะไม่สมประกอบ จะทำให้ตาบอด หูหนวก ง่อยเปลี้ยเสียขา แขนหัก ขาขาด ปวดหลัง ปวดเอว ปวดตามร่างกาย หาความสุขไม่ได้เลย หรือเป็นโรคนานาชนิด ทำให้ชีวิตทนทุกข์ทรมาน หรือเกิดมาแล้วมีอายุสั้นพลันตายด้วยอุบัติเหตุต่าง ๆ นี้คือผลกรรมที่ตามสนอง

    ถ้าฆ่าสัตว์อื่นที่ไม่มีบุญคุณแก่เรา ถ้าฆ่ามากไปก็ตกนรกได้ เมื่อพ้นจากนรกแล้วจะเกิดมาเป็นมนุษย์ก็ทำให้ชีวิตหา ความสุขไม่ได้ อายุยังไม่ถึงกาลเวลาของอายุขัยก็ตายไปเสีย

    ถ้าฆ่าสัตว์เล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดมาในชาติหน้าผลของบาปกรรมนั้นจะทำให้ร่างกายเศร้ าหมอง ผิวพรรณหยาบกร้านมีโรคผิดหนังประจำตัว มีการเจ็บป่วยเมื่อยตัวเป็นประจำ ดังที่ได้อธิบายมานี้เป็นผลบาปกรรมในการฆ่าสัตว์นั่น เอง


    การใช้ปัญญาพิจารณาในผลของบาปกรรมที่ผิดศีลข้อ ๑ นี้ ก็เพื่อให้เข้าใจในผลของกรรมที่ตามสนองให้ได้เกิดควา มกลัวในบาปกรรมนั้น ๆ ให้เกิดความสำนึกในชีวิตเขาและชีวิตเรา ที่มีความรักความหวงแหนในชีวิตเหมือนกับเรา

    สัตว์ทุกตัวตลอดเราด้วยก็ไม่อยากตายเพราะถูกฆ่าเหมือ นกัน ฉะนั้นจึงไม่ควรที่จะอ้างว่า สัตว์เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ แต่ถ้าจับตัวมนุษย์ที่ชอบพูดอย่างนี้ไปให้เสือกินไปใ ห้จระเข้กินดูซิเขาจะว่าอย่างไร สัตว์ทุกตัวมีความกลัวต่อความตายทั้งนั้น เห็นมนุษย์อยู่ที่ไหนก็ต้องหลบหลีกปลีกตัวเพื่อความป ลอดภัยแก่ชีวิตของเขา ถึงขนาดนั้นก็พ้นเงื้อมมือมนุษย์ใจบาปนี้ไปไม่ได้ พากันตามไล่ตามฆ่าเอามาเป็นอาหาร ไม่มีความเมตตาสงสารเขาบ้างเลย แต่ละวันมีความสะดุ้งหวาดผวากลัวต่อความตายอยู่ตลอดเ วลา ไม่กล้าที่จะออกหากินอะไรได้ตามใจ

    ถ้าเราตกอยู่ในสภาพอย่างนี้จะมีความทนทุกข์ทรมานขนาด ไหน ถึงอย่างไรก็ขอให้คิดถึงชีวิตเขาชีวิตเราดูบ้าง หัวอกเขาอย่างไรหัวอกเราก็เป็นอย่างนั้น ไม่ควรเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ให้ถือว่าเขาเป็นญาติเป็นเพื่อนที่เกิดแก่เจ็บตายเหม ือนกันกับเรา มนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีจิตใจสูง แต่ขอให้สูงด้วยความรัก ให้สูงด้วยความสงสารต่อสัตว์ทั้งหลาย จึงจะชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นมนุษย์ที่มีคุณธรรม ให้สัตว์อื่นได้พึ่งบารมีสมกับที่ว่ามนุษย์มีจิตใจสู งนี้ด้วยเถิด

    ถ้าเราใช้ปัญญาพิจารณาในลักษณะนี้อยู่บ่อย ๆ ใจเราก็จะค่อยเปลี่ยนแปลงไปในทางดี จะมีความเมตตาต่อสัตว์ มีความสงสารสัตว์มากขึ้น ในที่สุดเราก็จะไม่กล้าฆ่าสัตว์อีกเลย นี่คือมีปัญญาในการรักษาศีล หรือศีลเกิดขึ้นจากปัญญาก็ว่าได้

    ถ้ารับศีลมาแล้ว แต่ขาดปัญญาในการรักษา ศีลนั้นจะขาดหายไปโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น สุตมยปัญญาและจินตมยปัญญา ต้องเกิดมาก่อนศีลแน่นอน นี้คือสัมมาทิฏฐิ คือปัญญาความเห็นชอบในการรักษาศีลนั้นเอง

    เริ่มต้นจะรักษาศีลสัก ๑ - ๒ ข้อก็ได้ เพื่อฝึกความพร้อมของตัวเองให้มีความกล้าหาญขึ้น จะรักษาศีลข้อใดข้อหนึ่งก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นจะรักษาเรียงตามตำรา ศีลข้อไหนที่จะรักษาได้ง่ายที่สุดก็ต้องรักษาข้อนั้น จะทิ้งช่วงในการรักษาห่างกันอย่างไร ก็ให้อยู่กับความสามารถของตัวเราเอง ต่อไปจะเพิ่มการรักษาข้อไหน ก็ให้เราเลือกเอง

    ใช้เวลาไม่นานนักเราก็จะมีศีล ๕ ได้อย่างสมบูรณ์ การรักษาศีลด้วยวิธีนี้จะไม่มีการเสื่อม และศีลก็ไม่ขาดด้วย เพราะมีสติปัญญาในการรักษา มีศรัทธาความเชื่อมั่นว่า กรรมชั่วย่อมเกิดขึ้นจากผู้ไม่มีศีล ความเพียรพยายามจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ก็เพี ยรพยายามอยู่เสมอ ดังคำว่าความเพียรอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น นี้เป็นสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบระดับศีล ๕ นั่นเอง



    คัดลอกจากหนังสือสัมมาทิฏฐิ
    โดย หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ



    กระเพาะ ของคนไงครับ เพราะมีซากศพนับล้านๆร่างอยู่ในนั้น


    "ชีวิตใครใครก็รัก ไม่ว่าคนหรือสัตว์
    ทำไม ถึงต้องเบียดเบียนกัน"

    เป็นมนุษย์ เป็นได้ด้วยใจสูง
    เหมือนหนึ่งยูง มีดีที่แววขน
    เข้าใจต่ำ เป็นได้แต่เพียงคน
    ย่อมเสียที ที่ตนได้เกิดมา
    (พระพุทธทาส ภิกขุ)

    (ที่มา จากหนังสือธรรม และบทความธรรมของวัพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร พิษณุโลก http://mcu.rip.ac.th/watraj/sil1.in.html
    และรวมทั้งขอบคุณพี่ผ่องศรี ประกรแก้ว ที่ส่งบทความดีๆมาฝากครับ)



    แก้ที่แต่ละคนด้วยการ ที่เราแต่ละคน ไม่เป็นต้นเหตุของการเบียดเบียน และเหตุของการเบียนใหญ่ที่สุด คือการกิน

    *********************************************

    ในปัจจุบันมีข้อยืนยันจากการวิจัย งานวิชาการแพทย์ โดยแพทย์ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก หลากหลายมหาวิทยาลัยชื่อดัง นานาชาติ ต่างมีข้อมูล คล้าย ๆ กัน ว่า อาหารเนื้อสัตว์ก่อให้เกิดโรคร้าย แรง หลาย ๆ ชนิด ต่อมนุษย์ เช่น มะเร็ง ร้าย โรคหัวใจ ไขมันอุดตัน มีผู้ป่วยกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก และเสียชีวิตปีละกว่า 50 ล้านคน

    ดังเอกสารอ้างอิงจาก

    สถาบันมะเร็ง แห่ง สหรัฐ
    สมาคมโรคหัวใจแห่ง สหรัฐ
    สถาบันสุขภาพนานาชาติ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>






     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. marty

    marty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +439
    เป็นประโยชน์มากๆค่ะ ขอนำไปโพส์เป็นวิทยาทานต่อนะคะ อนุโมทนาค่ะ
     
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    เจ้าแม่ถือมังสวิรัติ อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเอามาเซ่นไหว้
    [​IMG] ประวัติเจ้าแม่เป็นชาวเมืองมี้จิว อำเภอโป้วชั้ง มณฑลฮกเฮี้ยน ในสมัยราชวงศ์ซ้องชื่อฮุ้งมิก แซ่ลิ้ม ตั้งแต่เล็กก็กินเจสวดมนต์ไหว้พระ ฝึกฝนความเพียรจนบรรลุนิพพาน ได้รับราชโองการจาเง็กอ้วงฮ่องเต้ ให้เป็นเจ้าแม่แห่งสรวงสวรรค์ โดยปกติมักอวตารมาช่วยชาวประมงอยู่เป็นนิจด้วยเหตุฉะนี้ ชาวเมืองทางมณฑลตะวันออกเฉียงใต้จึงนับถือยิ่งนัก เจ้าแม่มีความเมตตา กรุณาผู้สวดอ้อนวอนมักจะได้รับการช่วยเหลือ มีปรากฏเป็นหลักฐานสืบทอดกันมานับร้อยๆปี จึงเป็นที่นับถือของชาวประมงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ชาวประมงจึงเซ่นไหว้และนับถือเป็น “เจ้าแห่งท้องสมุทร”
    ไม่กี่ปีมานี้ ด้วยการปกครองของรัฐบาลไต้หวัน ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมั่งมีศรีสุข ถึงแม้วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าก็ตาม แม้แต่ชาวเมืองที่ไม่ได้เป็นชาวประมงก็พากันเคารพนับถือมากมายนับไม่ถ้วน เนื่องจากคมนาคมสะดวก ศาลเจ้าทุกแห่งจะมีพวกนับถือไปกราบไหว้มากมาย โดยเฉพาะวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 23 เดือนสามของปฏิทินจันทราคติ จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย
    อย่างไรก็ตาม พวกที่นับถืออย่างจริงใจ ก็ยังมีความผิดพลาดที่มหันต์อยู่อันหนึ่งนั้นก็คือ เมื่อเจ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ เจ้าแม่ถือมังสวิรัติแต่ปัจจุบัน พวกสาธุชนก็ยังคงฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเอาสัตว์ไปเซ่นไหว้เจ้าแม่แม้จะได้รับการเซ่นไหว้เช่นนี้ แต่เจ้าแม่รับไม่ได้ ยังไม่พอเจ้าแม่ทุกข์โศกหลั่งน้ำตาสงสารเหล่านั้นที่ถูกฆ่า อันนี้เป็นนิสัยที่สืบทอดมา และก็ไม่มีใครแนะนำชักจูงให้ใช้ใช้ดอกไม้สดและผลไม้มาเซ่นไหว้ก็พอ
    เนื่องจากเจ้าแม่มีมหาเมตตา กรุณา ช่วยเหลือมวลมนุษย์มากมาย ให้พ้นจากเคราะห์กรรม ถ้าหากพวกเราจะตอบแทนบุญคุณเจ้าแม่ นับถือเจ้าแม่ละก็ พยายามทำความดีก่อกุศล ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยสังคม จึงจะเป็นที่ต้องประสงค์ ประกอบความเพียรและกินเจ ถ้าจะมากราบไหว้ที่ศาลเจ้า ก็ควรกินเจอาบน้ำให้สะอาดจิตใจผ่องใสสำรวมมารยาทเพียงคำนับ หรือไหว้ หรือคุกเข่าไหว้ก็ตาม จิตใจเต็มไปด้วยความนับถือ เท่านี้ก็เป็นการเพียงพอแล้วทำไมต้องตัดชีวิตสัตว์มาเซ่นไหว้? หรือพวกที่อยากจะขอความเมตตาให้ช่วยเหลือเพียงธูปเทียนดอกไม้ และผลไม้แล้วนั่งอธิษฐานแสดงความในใจเจ้าแม่ก็จะรับรู้ ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ทำไมต้องฆ่าสัตว์อีกเล่า? หากว่าระลึกถึงบุญคุณ เมื่อเข้ามายังศาลเจ้าแล้วกล่าวถวายสิ่งที่ปฏิบัติดีคุณธรรมที่สร้างไว้กราบเรียนต่อหน้าเจ้าแม่ก็จะเป็นที่ชื่นชมของเจ้าแม่มาก? ดีกว่าต้องเสียเงินเสียทองไปซื้อกระดาษเงินกระดาษทองมาไหว้เจ้าแม่ซึ่งท่านไม่ได้ใช้? หากจะฉลองวันคล้ายวันเกิดของเจ้าแม่ ยิ่งไม่ควรฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นอันขาด มีประวัติกล่าวว่า ตอนเจ้าแม่มีชีวิตอยู่ในโลกเป็นลูกที่กตัญญูมาก วันลาโลกของแม่ จะต้องสวดมนต์สักการบูชาพระ เพื่ออุทิศกุศลให้พ่อแม่มีอายุยืนยาว แต่ทุกวันนี้ เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดเจ้าแม่มีการฆ่าสัตว์เป็นการใหญ่ เป็นวันที่สูญเสียชีวิตสัตว์ แล้วเอาสัตว์นั้นมาไว้บนโต๊ะบูชา เพื่อขอพรให้อายุพ่อแม่ยืนยาว หรือขอพรกับเจ้าแม่ หรือเอามาแก้บนต่อเทพเจ้า ยิ่งดุน่าเศร้าสลด แม้แต่มดน้อยตัวหนึ่งที่ไร้ปัญญา เจ้าแม่ก็ยังเมตตาไม่ถือโทษ เจ้าแม่ผู้มีมหาเมตตาจะไม่เศร้าสลดใจได้อย่างไร? กับการกระทำข้างต้นนี้
    เจริญพร! สวรรค์อยากเอ่ยแต่ไม่มีวจี อยากพูดก็ไม่มีเสียงมีใครรู้บ้างไหมว่าวันคล้ายวันเกิด เจ้าแม่เพ่งมองมายังเบื้องล่างสรรพสัตว์ไม่ยอมฝึกฝนความเพียร เอาแต่เล่ห์เหลี่ยมต้มตุ๋นเงินทองไม่สะสมบุญบารมี ตรงกันข้ามก็เอาแต่ขอให้พระช่วยเหลือ หรือถามหมอดูวุ่นวายไม่หยุดหย่อน สูญเปล่าไปชั่วชีวิต ตกอยู่ในทะเลทุกข์วนเวียนไม่จบ ตอนนี้จิตของเจ้าแม่คงทุกข์โศกยิ่งมิใช่หรือ?และยิ่งได้เห็นวันคล้ายวันเกิดของตนเอง ผู้คนกลับสร้างบาปก่อเวรหนักยิ่งขึ้น (ฆ่าสัตว์เอามาเซ่นไหว้) ชาวบ้านไม่เข้าใจ “กฎแห่งกรรม”กันเลย ตรงข้ามซากสัตว์บนโต๊ะบูชา เอามาขอบุญต่อชีวิต เจ้าแม่ก็ได้แต่เศร้าเสียใจหลั่งน้ำตามิใช่หรือ? ดังนั้นจึงใคร่วิงวอนผู้คนที่อยากกราบไหว้เจ้าแม่ จงประพฤติแต่กรรมดี อ้อมอกสวรรค์แผ่กรุณา โดยเฉพาะผู้ที่จะตอบแทนเจ้าแม่ ควรประพฤติดีต่อสังคม สร้างคุณงามความดี ตัดโลภโกรธหลง เคารพฟ้าดินเคารพเจ้าเทวดาเคารพพ่อแม่ เคารพบัณฑิต ต้องไม่พูดกล่าวร้ายพูดแต่ความดีอย่าพูดปลิ้นปล้อน อย่าพูดส่อเสียด จงพูดแต่หลักธรรมตักเตือนให้ผู้อื่นประพฤติดี รักษาศีล ประกอบความเพียร ถ้าจะสร้างบุญบารมี ก็จงบริจาค ข้าว โลงศพ สร้างสะพาน สร้างทางซ่อมสร้างศาลเจ้าวัดวาอาราม สร้างพระ พิมพ์หนังสือธรรมะบริจาคทรัพย์อย่าขี้เหนียว ออกแรงก็ไม่บ่น ไม่คิดให้ผลตอบแทนไม่ต้องให้คนรู้ ทำบุญอยู่ตลอดถ้าหากอวยพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ใช้แต่มังสวิรัติ เช่น ขนมท้อ เส้นหมี่ ผลไม้ ถ้าหากใคร่ใช้สัตว์ ก็ใช้ถั่วทำรูปจำลองร่างสัตว์ ไม่ควรฆ่าสัตว์ต่างๆ เหล่านี้ แม้จะไม่ขอพรสวรรค์ก็บันดาลให้ เจ้าแม่ก็คุ้มครองด้วย
    ถ้าหากจิตศรัทธา ก็ใช้อาหารเจและผลไม้
    ถ้าหากท่านอยากจะเลี้ยงแขกที่กินเจสักคนหนึ่ง แต่ท่านก็เอาอาหารเนื้อสัตว์มาเลี้ยง ท่านลองคิดดูซิว่า แขกผู้นั้นจะกล้ากินหรือ? การกระทำเช่นนี้จะมีความเกรงใจหรือไม่?
    เหตุผลก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากเธอรู้ว่าเจ้าแม่เป็นผู้ถือมังสวิรัติแล้วเราเอาอาหารเนื้อไปเซ่นไหว้ เธอคิดดูว่าเจ้าแม่จะรับหรือ? แล้วเรายังนับว่าเคารพนับถือหรือ? แต่ก็มีคนพูดว่า ลูกศิษย์ลูกหาของเจ้าแม่อาจกินเนื้อ แต่ชื่อที่เราเซ่นไหว้ก็คงเป็นชื่อของเจ้าแม่มิใช่หรือ? ดังนั้น “ถ้าหากเป็นเทพเทวดา ก็ต้องไม่เสพเนื้อสัตว์” เทพเทวดาที่เที่ยงธรรม ย่อมพอใจลูกศิษย์ลูกหากราบไหว้แต่ของเจงดเว้นการฆ่าสัตว์ เพื่อตอบแทนฟ้าดินที่รักทุกชีวิต เมื่อเจ้าแม่ถือเจลูกศิษย์ลูกหาย่อมได้รับการขัดเกลา อบรมบ่มนิสัยจากเจ้าแม่มานานแล้ว ก็ย่อมไม่ชอบเสพเนื้อ มิฉะนั้นจะได้รับเป็นลูกศิษย์เจ้าแม่หรอกหรือ ดังนั้น เมื่อเธอมีจิตศรัทธาจริงก็จงใช้อาหารเจไหว้พระ ย่อมได้รับการคุ้มครองจากพระแน่นอน
    ถามไม่ตอบ เนื่องจากไม่ควรใช้ซากสัตว์
    ประมาณ 2 ปี ได้ยินเขาเล่าว่า ในหมู่บ้านฮกเฮงมีบ้านแซ่อึ้ง เป็นครอบครัวที่ซื่อสัตว์และประพฤติธรรมอันดีงาม มีแม่ผัวและลูกสะใภ้ 2 คน ใช้อาหารเจไหว้พระ เนื่องจากในครอบครัวมีคนกินเนื้ออยู่มาก ปีนั้นวันคล้ายวันเกิดของเจ้าแม่ ลูกสะใภ้คนเล็กของตระกูลอึ้ง ได้เตรียมเป็ดไก่ไปไหว้เจ้าแม่ชุดหนึ่งไปไหว้เจ้าแม่ที่ศาลเจ้า พอไหว้เสร็จก็เอาไม้ปวย (คือไม้คู่รูปร่างคล้ายรูปไต่ผ่าซีกมักวางไว้บนโต๊ะบูชา ใกล้ๆกับกระบอกเซียมซีมีไว้ใช้ถามเจ้าว่าดีหรือว่าไม่ดี ได้หรือไม่ได้ โดยการโยนไม้คู่ขึ้นไปบนอากาศแล้วปล่อยให้ตกลงมายังพื้น ถ้าไม้ข้างหนึ่งหงาย อีกข้างหนึ่งคว่ำ ก็ถือว่าเจ้าเห็นด้วย หรือว่าดี หรือได้ แล้วแต่คำถามถ้าไม้ออกมาในรูปคว่ำทั้งสองอันแสดงว่า ไม่ตอบ ถ้าไม้หงายทั้งคู่แสดงว่าไม่เห็นด้วย)ขึ้นมา ทำท่าไหว้ แล้วก็ถามเจ้าแม่ไปว่าของที่นำมาไหว้นี้ พอใจหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่ทรงตอบ แม้จะโยนสักกี่ครั้งๆ ก็คงเหมือนเดิม เลยถามว่า กระดาษเงินกระดาษทองน้อยไปหรือ? ก็ไม่ใช่เพราะลืมเอาเหล้ามาถวายใช่หรือไม่? ก็ไม่ตอบ หรือไก่ที่นำมาไหว้เล็กไปหรือ? ก็ไม่ใช่ หรือเพราะของที่นำมาไหว้น้อยไปหรือ? ก็ไม่ใช่ ถามไปถามมา คิดไม่ออกฉับพลันจิตใต้สำนึกก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ เลยถามไปว่า “เป็นเพราะว่าศิษย์กับแม่ย่ากินเจ แล้วนำอาหารสัตว์มาไหว้ เจ้าแม่ไม่พอใจใช่หรือไม่ถ้าใช่ก็โปรดตอบ” พอถามเสร็จก็โยนไม้ปวย ปรากฏว่าไม้คว่ำหงายอัน แสดงว่า “ใช่”เธอรู้สึกกลัว เลยบอกว่า ถ้างั้นก็ขออภัยและคราวต่อไปจะงดอาหารเธอรู้สึกกลัว เลยบอกว่า ถ้างั้นก็ขออภัยและคราวต่อไปจะงดอาหารสัตว์มาไหว้ จะนำอาหารเจมาไหว้ ดังนั้นสองปีที่ผ่านมานี้ ลูกสะใภ้บ้านแซ่อึ้ง ก็นำแต่ของเจมาไหว้
    อาหารเนื้อสัตว์ หมูเห็ดเป็ดไก่เต็มโต๊ะ
    เจ้าได้รับแต่เพียงอาหารเจชุดเดียว
    มีตระกูลแซ่จัง ในเมืองจั้งฮัว ตั้งแต่ ปู่ ย่า จนถึงลูกหลายต่างก็กินเจทั้งสามชั่วโคตร ทั้งครอบครัวมีสุข บุญบารมีล้นฟ้า มีวันหนึ่ง เป็นวันคล้ายวันเกิดของเจ้าองค์หนึ่ง ผู้คนนำหมูเห็ดเป็ดไก่ไปไหว้กันเต็มโต๊ะไปหมด ยังกับแข่งขันแสดงอวดกัน คุณนายจังไปทีหลัง เนื่องจากครอบครัวกินเจ ก็เลยใช้ถั่วลิสงทำเป็นรูปสัตว์ต่างๆกัน ชุดเล็กๆ หนึ่งชุดมาไหว้ ตอนนี้บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยเป็ดไก่ ไม่มีที่จะวางได้ คนเฝ้าศาลเห็นดังนั้นก็เลยช่วยนำอาหารเจชุดนี้ไปวางไว้เหนือโต๊ะ พอดีลูกสะใภ้ตระกูลจังมาถึง แลเห็นว่าอาหารของบ้านตนเป็นอาหารชุดเล็กๆ เป็นที่สนใจของผู้พบเห็นในใจรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่ว่าไม่นานนัก พอเจ้าเข้าทรงเขียนออกมาว่า ในบรรดาของที่นำมาไหว้มากมาย เจ้าได้รับเพียงอาหารเจชุดเดียวเป็นของศิษย์ตระกูลจัง ทำให้บรรดาเทพเทวดาต่างยินดีเป็นอย่างยิ่ง
    จากจุดนี้เอง ทำให้รู้ว่าเทพเทวดาไม่ต้องการให้ผู้คนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ดีใจที่คนเอาอาหารเจมาไหว้ ดังนั้น ที่ๆ เทพเทวดาอยู่จะปราศจากคาวโลกีย์ ก็ย่อมพอใจความสะอาดของอาหารเจ เกลียดอาหารเหม็นคาวของเนื้อสัตว์


    ที่มาตามลิงค์ข้างบนของเจ้าของกระทู้ เพื่อความสะดวกของผู้ที่เข้ามาอ่าน จ้า....

    http://mindcyber.com/home/index.php?page=2
     
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    แต่ถ้าจะให้งด คงทำได้ยาก เพราะเป็นประเพณี ธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว

    สร้อยฟ้าฯ มักพูดเสมอกับญาติๆ ว่า ถึงเวลาล้างเผ่าพันธุ์อีกแล้วหรือ น่าสงสารพวกเขานะ... ก็ได้แต่ยืนดูซากเป็ดซากไก่บนเขียงด้วยความสลดใจ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...