ตามล่าหาพระพุทโธน้อย วัดอาวุธ

สวัสดีครับ ผมตั้งกระทู้นี้มุ่งหมายให้เป็นกระทู้เฉพาะกิจ คือเป็นเรื่องเล่าถึงประสพการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้วที่ได้ผมตามล่าหาพระพุทโธน้อยที่วัดอาวุธ ทำให้ได้มีโอกาสฟังหลวงพ่อสุวรรณ ปภัสสโร พระอริยะเจ้าแห่งวัดอาวุธ ศิษย์คุณแม่บุญเรือนผู้ซึ่งกระดูกเปลี่ยนเป็นพระธาตุและรู้วาระอายุขัยของท่าน เล่าถึงคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมและพระพุทโธน้อย ไฮไลท์ของกระทู้นี้จะนำเอาคำบอกเล่าของท่านที่ผมถอดเทปที่บันทึกเสียงของท่านไว้มาทะยอยลงให้ได้อ่านกันครับ จบเมื่อไรก็จบกระทู้เมื่อนั้น ขอเรียนว่าผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกระทู้หรือเวปใดๆที่ให้เช่าพระหรือวัตถุมงคลของคุณแม่บุญเรือนและไม่มีอาชีพทางด้านนี้แต่อย่างใด จุดมุ่งหมายหลักคือต้องการอนุรักษ์เรื่องราวของคุณแม่บุญเรือนเพื่อสืบทอดให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจอย่างถูกต้องเท่านั้นครับ

 

อนุโมทนาครับ

 

ติดตามครับ............

 

ผมเป็นคนที่สนใจในพระเครื่องตั้งแต่เล็กๆ เคยฟังผู้ใหญ่เล่ากันถึงอิทธิฤทธิ์ต่างๆของพระเครื่อง จึงสนใจศึกษาหาความรู้เรื่อยมา แต่สมัยนั้นยังไม่มีเวปไซด์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่อง หนังสือพระเครื่องก็มีไม่กี่ฉบับ การเรียนรู้ตอนนั้นจึงมีทั้งให้คุณและให้โทษแก่ตัวเอง ที่ให้โทษคือไปจำเอาความรู้ผิดๆมา เช่น ห้อยพระแล้วห้ามโน่นห้ามนี่ เดี๋ยวพระจะเสื่อม จะไม่สามารถคุ้มครองได้ ถึงขนาดว่าเข้าห้องน้ำแล้วห้ามพูดกับใคร มันเป็นความทรมานสุดๆ เวลาที่เข้าห้องน้ำที่โรงเรียนแล้วเพื่อนที่อยู่ข้างๆมาพูดคุยกับเราแต่เรากลับไม่พูดกลับเขา บางคนบอกว่าห้อยพระแล้วห้ามด่าคน พอนำพระมาห้อยแล้วจิตเกิดอยากด่าคนทั้งวัน รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขเลย
จนมาประมาณช่วงปลายปี 2530ได้มีโอกาสอ่านหนังสือพระเล่มหนึ่ง ในเล่มกล่าวถึงเรื่อง
พระพุทโธน้อย ที่วัดอาวุธ เล่าประวัติของผู้อธิฐานจิตว่ากระดูกเปลี่ยนเป็นพระธาตุใสเป็นแก้วแล้วโดยตั้งให้บูชาอยู่ที่ศาลาของทางวัด และที่สำคัญคือเขาเขียนเล่าว่าพระพุทโธน้อยนี้ไม่มีคำว่าเสื่อม จึงเกิดความสนใจอย่างมากและเดินทางไปหาเช่าพระพุทโธน้อยที่วัดอาวุธทันที ตอนนั้นไม่แน่ใจว่ายังมีพระหลงเหลืออยู่ที่วัดอีกหรือเปล่าเพราะพระนี้สร้างมาร่วม 30 ปีแล้ว

 

เมื่อเดินทางไปถึงที่วัดอาวุธ ก็ไปพบศาลาคุณแม่บุญเรือน ขึ้นไปกราบสักการะท่านด้านบนและสอบถามคนเฝ้าศาลาถึงการขอบูชาพระพุทโธน้อย เขาบอกว่าให้ไปหาหลวงพ่อสุวรรณ ปภัสสโร ท่านเป็นลูกศิษย์คุณแม่ อยู่กุฎิเลยเมรุไปหน่อยเดียว ผมตรงไปที่กุฎิท่านและได้พบท่านสมใจ ท่านเป็นพระมีอายุมากแล้ว คาดประมาณตอนนั้นคือเจ็ดสิบกว่า แปดสิบปีแล้ว สำรวมและใจดีมาก กุฎิที่ท่านพักเป็นเรือนไม้เล็กๆ มีกั้นเป็นห้องเล็กมาก 2 ห้อง ด้านในเป็นห้องนอน 1 ห้องและด้านนอกเป็นห้องสำหรับทำกิจทั่วไปเช่น ฉันภัตตาหาร พบญาติโยมที่มาหา ท่านมีสติและความจำเป็นเยี่ยม ได้กราบเรียนท่านว่าจะขอมาบูชาเช่าพระพุทโธน้อยของคุณแม่บุญเรือน ท่านตอบว่าของท่านตอนนี้ไม่มีแล้ว แจกคนไปหมด แล้วท่านก็มอบพระพุทโธน้อยอีกแบบหนึ่งมาให้ ท่านว่ารุ่นนี้ท่านสร้างเอง ให้นำเอาไปบูชา ผมตอนนั้นค่อนข้างผิดหวัง มารู้ที่หลังว่าตัวเองเหมือนไก่ได้พลอย พระที่ท่านมอบให้คือ พระพุทโธสัมมาสติ เป็นพระที่สร้างโดยนำเอามวลสารสำคัญคือผงแตกหักจากพระพุทโธน้อยที่ชำรุด และที่สำคัญยิ่งคือ อัฐิธาตุของคุณแม่บุญเรือนมาเป็นส่วนสำคัญในพระนี้
ผมคิดว่าไหนๆท่านก็ให้พระมาแล้ว ควรจะร่วมทำบุญกับท่านด้วย จึงนำเงินมาถวายท่าน
ท่านไม่รับและท่านตอบว่าท่านไม่ได้ขายพระกิน ท่านมอบให้ไปบูชา ผมคะยั้นคะยอท่านหลายครั้ง ท่านจึงให้ลูกศิษย์นำใบอนุโมทนาบัตรของทางวัดมาแล้วบอกว่าถ้าอยากทำบุญก็ให้ทำกับทางวัดแล้วกัน ท่านให้ลูกศิษย์ออกใบอนุโมทนาบัตรให้แล้วให้ลูกศิษย์นำเงินนั้นไปให้กับพระที่ดูแลเรื่องเงินของทางวัดแทน ผมประทับใจในตัวท่านมาก ต่อมาจึงหาโอกาสแวะเวียนไปกราบท่านบ่อยๆ และจึงเป็นที่มาของความรู้ที่ท่านมอบให้เกี่ยวกับพระพุทโธน้อยและคุณแม่บุญเรือน

 

เทปบรรยาย โดยหลวงพ่อสุวรรณ วัดอาวุธ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2531...
.........
เรื่องพระพุทโธเล็ก
ท่านเจ้าคุณเก่า ท่านเจ้าคุณสิทธิสารโสภณ เมื่อท่านเป็นพระครูวัดอาวุธ ดำริว่าจะสร้างพระ ท่านพระครูว่าต้องถามคุณแม่บุญเรือนดูก่อนว่าท่านจะอธิษฐานได้หรือไม่ ตอนนั้นคุณแม่บุญเรือนอยู่ที่สามัคคีวิสุทธิ์กษัตริย์ ท่านพระครูก็ไปบอกว่า ที่มาหาพี่ จะให้อธิษฐานพระพุทโธเล็ก คุณแม่ท่านว่าท่านจะอธิษฐานได้หรือ ท่านพระครูก็ตอบว่าถ้าพี่อธิษฐานไม่ได้ พระในประเทศไทยก็ไม่ต้องทำกันละ คุณแม่ท่านว่าจะได้หรือไม่ได้ท่านจะอธิษฐานถามพระธรรมดู จะอธิษฐานให้ต้นมะม่วงเล็กของท่านที่ปลูกไว้ 13 เดือน ถ้าจะอธิษฐานพระให้วัดอาวุธสำเร็จให้ต้นมะม่วงออกช่อมาภายใน 5 นาทีจากอธิษฐาน ถ้าหากไม่สำเร็จไม่ต้องออก ขอให้นั่งดูกัน
คนก็มากพอควร พอครบ 5 นาที ดอกมะม่วงก็ออกมายาวสัก 5 ซม. คุณแม่ท่านก็รับปากอธิษฐานได้ พระธรรมอนุญาตให้แล้ว ถ้าจะทำวันพระไหนให้ข้ามมาเอาไปผสมเป็นผง
ต่อมาท่านก็ปล่อยช่อมะม่วงไว้ 3 วัน คนก็มาดูกัน เข้าใจว่าคุณแม่เล่นกลใด เอาช่อมะม่วงมาติดหรือยังไง ก็ไปจับดู ดึงดูก็ไม่มี ท่านปล่อยไว้ 7 วันให้คนหายสงสัย หากหักมาต่อ
ครบ 7 วันก็จะเหี่ยวหมดแล้ว พอครบ 7 วันท่านก็อธิษฐานให้ช่อมะม่วงกลับเข้าไปอย่างเดิม ทางวัดก็เตรียมเครื่องเสร็จจะทำผงก็กลับไปบอกท่าน จะเอาช่อมะม่วงมาผสมเป็นเนื้อผงด้วย ท่านก็อธิษฐานให้ช่อมะม่วงออก ช่อมะม่วงออกมาตรงที่เดิม ยาวประมาณหนึ่งศอก
มีกลิ่นหอมคล้ายๆดอกพิกุล ท่านก็หักออกมาให้เขาผสมเป็นผงเนื้อพระ.......
(ยังมีต่อครับ......)

 

แวะปูเสื่อฟังด้วยคนครับ

 

ขอเล่าถึงหลวงพ่อสุวรรณนะครับ หลายคนที่วัดอาวุธเรียกท่านว่า หลวงตาสุวรรณ ส่วนท่านจะเรียกผมว่า ไอ้หนู .. ปกติเวลาไปกราบท่านที่วัด ท่านมักจะสอนเทศน์สอนธรรมะเป็นบทสั้นๆ จะตั้งเป็นหัวข้อและอธิบายความหมาย มักจะเน้นคำสอนของหลวงปู่บุดดา ถาวโร และท่านพุทธทาส ไม่น่าเชื่อว่าอายุขนาดท่านยังนั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่ประจำ ท่านจะมีสมุดอยู่ 2-3 เล่มแล้วจดบันทึกข้อธรรมต่างๆที่ท่านได้ศึกษามา ท่านเคยนำเอาพระธาตุของคุณแม่บุญเรือนที่ท่านมีมาให้ดู จะเป็นลักษณะเหมือนเม็ดทรายแต่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ทรงกลม
และใสเป็นแก้ว สวยงามมาก ท่านว่าท่านไม่นิยมแจกพระธาตุคุณแม่ให้ใครเพราะผุ้ที่ได้ไปบูชาแล้ว ในยุคชั่วอายุของคนนั้นก็คงได้ตั้งบูชาไว้อยู่ แต่พอถึงรุ่นลูกรุ่นหลานที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จักคุณแม่บุญเรือนอาจนำไปไว้ในที่ไม่สมควรหรือทิ้งขว้างไปได้ ท่านจึงนำเอามาผสมสร้างเป็นพระองค์เล็กๆ ท่านว่าคนที่เห็นพระแล้วจะไม่นำพระไปทิ้งขว้าง แม้ไม่ศรัทธาก็คงได้วางไว้ในที่อันเหมาะควร
ระยะต่อๆมาผมไม่ค่อยได้ไปกราบท่านที่วัดด้วยติดภาระกิจทางบ้าน ทำให้ห่างเหินท่านไป ได้ทราบว่าต่อมาท่านย้ายไปจำพรรษาที่วัดทุ่งสามัคคีธรรมกับหลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก พระอรหันต์แห่งสุพรรณบุรี ด้วยว่าทางวัดทุ่งมีพระเณรที่คอยช่วยดูแลท่านได้ วันที่ท่านมรณะภาพ ท่านฉันอาหารเสร็จแล้วก็กล่าวกับพระเณรและญาติโยมที่ตรงนั้นว่าจะไปแล้วนะ แล้วท่านก็เอนกายลงและละสังขารในช่วงตอนนั้น หลังจากงานศพของท่านกระดูกของท่านก็ได้เปลี่ยนเป็นพระธาตุไปแล้วครับ

 

ขอบคุณครับ
รอฟังต่อ

 

ขอบคุณครับ มารอติดตามด้วยคนครับ

 

...เทปบรรยาย เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2531 (ต่อ)..
...
เรื่องพระพุทโธ ฉันเคยเรียนถามว่าคุณแม่ครับ พระคุณแม่นี่ อยุ่ยงคงกระพันอะไรหรือเปล่า
ท่านบอกว่าเหนือนั้นอีก เหนืออยู่ยงคงกระพัน ท่านว่าอยู่ยงคงกระพันยังเจ็บ ของแม่นี่เหนือนั้น ไม่ต้องเจ็บเลย ว่างั้นเถอะ โดนฟันหัวไม่เข้านี่เจ็บนะ ปืนยิงไม่เข้านี่เจ็บ ท่านว่ามันเจ็บทั้งนั้น ของแม่นี่เอาไม่ถูกกันเลย ไม่ถูกยิง ไม่ถูกฟัน ไม่ถูกอะไรทั้งนั้น ปลอดภัยทุกอย่าง ท่านว่าแม่อธิษฐานให้เป็นพระปลอดภัย ไม่ใช่เป็นพระอยู่ยงคงกระพัน แต่ท่านว่าเหนืออยู่ยงคงกระพัน ท่านว่าคงกระพันนี่ไม่แน่ คนที่อยู่ยงคงกระพันนี่ท่านว่าดับ เอาไม้สวนปาก สวนทวารนี่ตายทั้งนั้น ของแม่ดีกว่านั้น ไม่ถูก มันปลอดภัยไปเลย ไม่มีเรื่อง แต่ต้องมีติดตัวไปนะ
ที่มีติดตัวไปท่านบอกหนหลัง ครั้งหนึ่งฉันโดนไฟลวกหมด ลูกชายเล่นดินระเบิด เอาดินมากวน ของเราก็มีพระพุทโธหลายองค์ใส่พานบูชาไว้ ไฟลวกตัวหมด ไปหาคุณแม่ที่บ้าน ท่านว่า เออ มึงโตแล้ว น่าจะมีพระติดตัวไว้สักองค์ ไม่เอา บอกว่ามีครับ แต่ผมเก็บไว้ข้างบน.. แม่อธิษฐานให้ติดตัวไว้นะ ให้อยู่กับตัว ท่านจะคุ้มครอง ให้มีติดตัวไว้ ท่านว่าอยู่ห่างตัวไม่ได้ แม่ไม่ได้อธิษฐานอย่างนั้น อธิษฐานว่าใครมีติดตัวไปให้ปลอดภัย

ที่ดินปืนมันระเบิดนี่ มันนั่งกวนอยู่ เราเห็นเละๆก็ถามว่าอะไร มันบอกว่าดิน.. ดินอะไร ? ..พรุ่งนี้นัดกับเด็กนักเรียนไว้ว่าจะไปทำจรวดกัน ..แล้วมันจะติดไฟไหม ?.. ติดนะ ถูกลมหนักๆก็เอาเหมือนกัน พอว่าอย่างนั้นมันก็ระเบิดเลย บรึม.. มันระเบิด ลืมตายังงี้มองไม่เห็นอะไรเลย ควันเต็มไปหมด พอซักประเดี๋ยวได้ยินเสียงถัง เสียงปรี๊ด คนมันมาเพราะนึกว่าไฟไหม้ เราก็ห่วงลูก ไอ้นี่ตายแน่ เอาตีนไปเที่ยวควานหาเนื้อมันก็ไม่พบ สักประเดี๋ยวควันมันจาง เห็นมันวิ่งเข้ามาจากถนน ถนนติดกับหน้าบ้าน มันมาถามว่าเมื่อกี้อะไรพ่อ.. บอกว่าไอ้ที่มึงกวนระเบิดไม่ใช่หรือ ..บอกว่าไม่รู้ ที่มันระเบิดฉันอยู่ที่ถนน .. อือ ก็มึงพูดกับกูอยู่นี่หว่า .. ไม่รู้หรอก ฉันมันกวนก็พูดกับพ่อ แต่เมื่อมันระเบิดนั้นผมอยู่ที่ถนน พอควันหายก็มาดูพ่อ ..ผมไฟไหม้หมด ลวกตัวทั้งหมด ลวกตัวทั้งแถบ ตอนนั้นจอมพลสฤษฎิ์เข้มงวดเรื่องไฟ เกิดที่ไหนจะเอาให้หนัก ตำรวจก็มาแต่ไม่ได้พูดเรื่องไฟ บอกว่าตา จัดอะไรไว้ เดี๋ยวผมจะพาไปส่งโรงพยาบาลพระพุทธบาท ตอบว่าไม่เป็นไรหรอกคุณ .. ไม่ได้หรอกตา คนเราถ้าดี 3 ส่วน ไฟไหม้ 1 ส่วนยังพอทนไหว ของตานี่ลวก 3 ส่วน เหลือดี 1 ส่วน ส่วนนี่ตายนะ ก็บอกว่า ถ้าเป็นอะไรมากจะไปบอกผู้หมวดให้ไปส่ง ถ้าเป็นอะไรไม่มากก็ไม่ต้องไป .. เอางั้นก็เอา.. ก็เอาศิลาน้ำคุณแม่อธิษฐาน ขอให้ศิลาน้ำศักดิ์สิทธิ์ของคุณแม่บุญเรือนดับพิษไฟ เหมือนยังกับน้ำดับไฟ เอาใส่ปากอม ก็ไม่รู้สึกแสบร้อน หลับพอตื่น คนมาเห็นบอกว่าตายแน่ คนใจแข็งแต่ก็ต้องตาย ไม่รอดหรอก ลวกแบบนี้ .. พอครบ 7 วัน หนังลอกเป็นกระบิ เนื้อแดงเหมือนเด็กออกมาใหม่ ก็หายไปเป็นไร...
(ยังมีต่อ)...

 

มารอติดตามเช่นกันครับ
พี่มีเทปเสียงต้นฉบับไหมครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นดิจิตอลไฟล์และอัพไว้บนเว็บได้
ผมคิดว่าทุกๆ ท่านที่เป็นลูกศิษย์คุณแม่ท่าน ก็คงอยากได้รับฟังเช่นกันครับ
อนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

.. เทปบรรยาย เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2531 (ต่อ)..
...
(สอบถามท่านเรื่องข้อห้ามของการคล้องพระพุทโธน้อย ว่ามีข้อห้ามอะไร พระจะได้ไม่เสื่อม)
...
พระพุทโธน้อยไม่มีข้อห้ามอะไรเลย ขอให้มีติดตัวอย่างเดียว ใส่นอนใส่อาบน้ำได้ทั้งนั้น เรื่องห้ามไม่มี ลอดราวได้ทั้งหมด ให้มีติดตัวเท่านั้น ถามแม่ว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง ท่านว่าไม่มี ให้มีติดตัวเท่านั้น แต่ห้ามไม่ให้เอาไปเลี่ยมทอง
ท่านว่าที่ห้ามเพราะพระเลี่ยมทอง เอาไปลืม ไปเผลอไว้ที่ไหน คนเห็นมันเอาเชียวละ ท่านว่าเลี่ยมพลาสติคนี้ไม่เอาหรอก มันหาว่าพระใหม่ พระอะไร ถ้าเผื่อเลี่ยมทองบางทีมันไม่อยากได้พระ มันอยากได้ทอง ท่านว่าห้ามแค่นั้น กลัวว่ามันจะเอาไปซะ ลูกศิษย์ลูกหาเขาก็เลี่ยมกัน เลี่ยมต้องเอาไว้ติดกับตัวเรื่อยๆนะ ไปอาบน้ำแขวนไว้บางทีลืม ใครจะมาเอาไปซะ พระนี่ปลดเอาออกจากคอแขวน สมมุติว่าจะถ่ายอุจจาระ ปลดแขวน ๆ ไม่กี่ครั้ง..ลืม
สัญญาเราชอบกล บางทีมันจำได้ บางทีมันก็เผลอ ท่านเลยให้คล้องติดตัวไว้
อภินิหารพระพุทโธนี่ท่านเหลือเกิน..ปลอดภัย

เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันให้มันไปองค์ บอกว่าวันหนึ่งไปสอบ สอบวันสุดท้าย ลืมเอาบัตรผ่านเข้าสอบไป นึกปุ๊ปใจหายเลย..ไม่ได้สอบแล้ว ถ้าไม่ได้สอบแล้วก็หมดโอกาสเลย ต้องผ่านเครื่องอัตโนมัติ เครื่องจะเคาะให้คนเฝ้ารู้ เลยอธิษฐานพระพุทโธเข้าไปขอให้ปลอดภัย
พอเดินเข้าไป เครื่องนี่ไม่เคาะเลย ก็เลยสอบได้ พอสอบเสร็จเอาเงินมาถวายหลวงพ่อสุวรรณ 500 พร้อมเล่าเรื่องให้ฟัง ..
(ยังมีต่อครับ.. ขอเป็นวันจันทร์จะมาเล่าต่อนะครับ)

 

คุณ Bearkery ครับ เป็นความคิดที่ดีครับ แต่ผมยังหาเทปคาสเซทชุดนี้ไม่เจอด้วยเก็บไว้นาน 25ปีแล้ว จำได้ว่าเก็บไว้ในห้องพระ แต่ห้องพระก็มีของเยอะมาก ผมตามหาพระของผมหลายชุดเป็นปีแล้วก็ยังหาไม่เจอเลย และยังไม่แน่ใจเรื่องคุณภาพของเสียงเพราะเครื่องอัดเสียงและเทปสมัยนั้นไม่เหมือนกับยุคนี้ ถ้าเจอแล้วจะลองเช็คคุณภาพดูครับ ตอนนี้ลองตามอ่านไปเรื่อยๆก่อนนะครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ศรัทธานับถือคุณแม่บุญเรือนบ้างครับ เรื่องราวที่นำมาลงนี้ผมถอดเทปและพิมพ์ดีดเป็นหนังสือเล่มบางๆไว้ตั้งแต่ปี 2532 และถวายหลวงพ่อสุวรรณเอาไว้ด้วยครับ

 

สุดยอดครับ

 

อนุโมทนาบุญครับพี่รักษ์พระ ผมเป็นคนนึงที่เคารพและศรัทธาคุณแม่ท่านเช่นกัน
อย่างไรแล้วผมจะขอติดตามอ่านต่อนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม

 

รอฟังต่อ เป็นประโยชน์มาก

 

มารอฟังเรื่องราวดี ๆ ครับ

 

อนุโมทนาครับ และ รอคอยข้อมูลอย่างต่อเนื่องครับ เพราะด้วยส่วนตัวแล้วผมก็เคารพนับถือคุณแม่ชีบุญเรือนเหมือนกันครับ

สาธุ

 

กราบคุณยายบุญเรือนครับ