ถาม-ตอบ โดย หลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย pump - อภิเตโช, 16 พฤศจิกายน 2009.

  1. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    พระธรรมเทศนา ณ ศาลาปันมี บ้านอารีย์ วันนี่ 14 กันยายน 2551

    โยม : นมัสการหลวงพ่อครับ กระผมเคยปฏิบัติด้วยการนั่งสมาธิดูลมหายใจ หลังจากที่ได้ฟังซีดีหลวงพ่อ ก็ปฏิบัติตามแนวหลวงพ่อมาตลอด ขอกราบเรียนถามเรื่องการปฏิบัติเพิ่มเติมครับ

    หลวงพ่อ : จริงๆ แล้วการรู้ลมหายใจก็เป็นกรรมฐานที่ดีอันหนึ่งนะ แต่ทำยาก อาจารย์อภิธรรมบางท่านถึงกับบอกว่า อานาปานสติเป็นกรรมฐานของมหาบุรุษ ของคนที่เลิศกว่าคนทั้งหลาย เพราะมันเป็นของละเอียด แต่ถ้าเราจะรู้ลมหายใจนะ เราพลิกนืดหนึ่ง ให้มารู้ทันจิตแทน หายใจไปแล้วรู้ทัน จิตหนีไปคิดก็รู้ ของคุณติดเพ่งนะ จิตยังติดเพ่งอยู่ คุณต้องปล่อยให้ได้ ถ้าเราเพ่งไว้ กายก็นิ่ง ใจก็นิ่ง ถ้ากายนิ่งใจนิ่งนะ มันก็ไม่มีไตรลักษณ์ให้ดู เราภาวนา เราทำวิปัสนา เพื่อให้เห็นกาย เห็นใจ แสดงไตรลักษณ์ เพื่อจะดูไตรลักษณ์ ถ้าหากเราเพ่งกาย เราเพ่งใจ กายก็นิ่ง ใจก็นิ่ง ไม่มีไตรลักษณ์ให้ดู ปล่อยซะ ปล่อยที่คุณฝึกน่ะ โดยพื้นฐานมันดีขึ้นเยอะแล้ว คุณไม่ได้ถลำไปอยู่ที่ลมก็ดีแล้ว คอยดูไป เห็นร่างกายมันหายใจไป เห็นร่างกาย ยืนเดิน นั่ง นอนไป เห็นใจแอบไปคิดไป นึกไปปรุงไปแต่งไป นี่ฝึกอย่างนี้แหละ รู้กาย รู้ใจเรื่อยๆ

    โยม : เพื่อนฝากถามหนึ่งข้อครับ เรื่องความแตกต่าง ระหว่างความคิดกับจิต สมองกับจิต ทำงานแตกต่างกันอย่างไรครับ

    หลวงพ่อ : โอ นี่เราไม่รู้จักสัตว์บางชนิด ไม่มีสมองนะ มันก็คิดได้ อย่างพวกเทวดานะ ใครว่างๆ ลองผ่าหัวดู สมองนี่มันเป็นเครื่องมือให้จิตของมนุษย์ทำงาน เป็นเครื่องมีเท่านั้นเอง

    คัดลอกจาก วารสารธรรมะ บ้านอารีย์ 2 พฤษจิกายน 2552
     
  2. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาคอยโจมตีหลวงพ่อปราโมทย์ ผมเห็นตั้งแต่ในเว็ป
    พันธทิพย์แระ เอาธรรมที่หลวงพ่อเทศน์บางประโยคมาโจมตีบิดเบือน แล้ว
    ก็พวกลูกศิษย์หลวงพ่อสงบอะไรนี่แหละ เอาประโยคบางส่วนไปให้ หลวงพ่อ
    สงบฟัง แล้วท่านก็เทศน์ แล้วพวกลูกศิษย์ก็เอาคำของหลวงพ่อสงบ มาโจม
    ตีหลวงพ่อปราโมทย์ ในที่สุดแกงค์โจมตีหลวงพ่อปราโมทย์ ก็โดนอัปเปหิ
    ออกมาจากเว็ปพันทิพย์ สงสัยแกงค์นี้คงจะมาปักหลักที่เว็ปนี้มั๊ง เห็นโจมตี
    กันหลายกระทู้แระ ใครที่อ่านก็ขอให้ใช้หลักกาลามสูตร น๊ะครับ ขอให้ไปฟัง
    ซีดีธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ซักหลายๆแผ่นก่อน แล้วค่อยคิดว่าควรจะ
    เชือแกงค์โจมตีแกงค์นี้มั๊ย.... ปล. บางคนพึ่งสมัครล๊อคอินเข้ามาใหม่ มา
    กระทู้แรกก็โจมตีหลวงพ่อปราโมทย์ แล้วก็ประกาศตัวเป็นพระอรหันต์ซะอีก
    ดูเอาล๊ะกันครับ สงสัยคงจะยกมาทั้งแกงค์ล๊ะมั๊งเนี่ย....กรรมที่พวกคุณทำ
    มันหนักน๊ะครับ ผมไม่สนและไม่แคร์สิ่งที่พวกคุณทำหรอก เพราะหลวงพ่อ
    ท่านของจริง ธรรมล้วนๆ แต่ผมสงสารคนที่หลงเชื่อพวกแกงค์นี้แล้วจะทำให้
    พลาดของดีไปซะ....
     
  3. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ขอโทษ..นะ..

    ใครจะแกงค์ไหน..ไม่รู้..
    ผมมาตัวเดียว..โด่ด ๆ

    ก่อนฟัง..ก็ทำใจให้เป็นกลาง ๆ ที่สุดแล้ว..ก็ฟังจากวิทยุพลังจิต..ของเรานี้แหละ

    ไปไม่เป็นเลยผมนะ..หาทางลงสู่อริยะสัจ 4..จากการ..ไม่เพ่ง..ตามดูรู้ไปเฉย ๆ ..ไม่เจอ..ก็เลยมาสรุปกับตัวเองได้ว่า..ปัญญาเราคงน้อยเกินไปหน่อย..ไม่เพียงพอ..ที่จะเข้าใจเรื่องแบบนี้ได้..มันทึบ ๆ

    ไปหาที่โปร่ง ๆ เหมาะกับตัวดีกว่า..

    ว่าแล้ว..ก็หันไปหาหลวงพ่อพิชัย..หลวงตาบัว..หลวงพ่อฤาษี..ตามเดิม..มันโล่งดี:cool:
     
  4. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    แรก..ผมไม่คิดจะเกลียดคุณ..เลยนะ

    แต่เห็นโพสต์..นี้ของคุณ..แล้วอยากจะบอกคุณว่า..

    ผมละเกลียดคุณ..จริง ๆ เล้ย :boo:

    เขียนมาด้าย..

     
  5. เสฏฐวุฒิ

    เสฏฐวุฒิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +173
    แรกๆผมก็แอนตี้หลวงพ่อปราโมทย์เช่นกัน จะไม่ฟังเทศน์ของหลวงพ่อเลย ฟังไม่รู้เรื่อง ฟังแล้วเหมือนพูดกลับไปกลับมา อันนี้ไม่ได้โดนใครเป่าหูมานะ แต่จิตเราไม่ถึงเอง เราก็ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 ปี ก็กลับมาฟังท่านอีกที จึงรู้ว่า ที่ผ่านมาจิตเราไม่ถึง ฟังไม่รู้เรื่อง โทษท่านแต่ไม่ได้พิจารณาตัวเอง ทีนี้เข้าใจแจ่มแจ้ง ก็ฟัง CD ท่านเรื่อยมา ท่านเป็นพระแท้รูปหนึ่งในพระพุทธศาสนาแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย อย่าไปกล่าวร้ายท่านเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  6. pantham phuakph

    pantham phuakph เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +444
    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับคุณ jiradech panatuhk

    ขอเป็นกำลังใจและขอบคุณสำหรับข้อธรรมดีๆ

    "อย่าส่งจิตออกนอก"
     
  7. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    การที่เราจะยอมรับนับถือพระสงฆ์ซักองค์นี่ ผมอยากถามว่าเราพิจารณาจากอะไรเป็นสำคัญ

    บางท่านว่าดูที่ อภินิหาร ว่ามีฤทธิ์ หรือ ปลุกเสกเครื่องรางของขลังศักดิ์สิทธ์ หรือ ฟังเค้าบอกเล่ามาว่า ท่านเป็นพระอริยะเจ้าบ้าง พระโพธิสัตว์บ้าง และอีกมากมาย ตามจริตของแต่ละท่าน อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ

    แต่สำหรับผมแล้ว จะดูจากธรรมที่ท่านสอนว่า
    1. เป็นธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่
    2. ธรรมที่ท่านพูดขัดต่อพระธรรมของพระพุทธเจ้าหรือไม่
    3. ธรรมของท่านมีโทษหรือไม่
    4. ธรรมของท่านพัฒนาจิตเราให้ไปในทางที่ดีหรือไม่
    5. เราได้อะไรบ้างจากธรรมของท่าน

    ถ้าเป็นไปในทางที่ดีทั้งหมดแล้วนั้น พิจารณาแล้วไม่มีโทษ ต่อตนเองและผู้อื่น เป็นทางออกจากทุกข์ได้ ผมก็นับถือท่านด้วยความจริงใจครับ
     
  8. aum hermit

    aum hermit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +124
    ๓๑ ภูมิ ประกอบไปด้วย
    ( อรูปพรหม ๔ + รูปพรหม ๑๖ + เทวภูมิ ๖ + มนุษยโลก ๑ + อบายภูมิ ๔ )

    ส่วนพระอรหันต์ไม่นับรวมใน ๓๑ ภูมิ เพราะพระอรหันต์พ้นจากวัฏฏสงสารแล้วดับกิเลสโดยสิ้นเชิงไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว

    ใครอยากอยู่ภพไหนก็ ปฏิบัติตนให้เหมาะกับภพนั้นๆครับ
    หรือใครอยากตาม ครู บาอาจารย์ ท่านไหนไปภพนั้นๆ ก็ตามวาสนาบารมีเลยครับ
    สมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนอยู่ก็ มีมีมนุษย์ทั้งหลายเดินไปนรก หรือสวรรค์ชั้นนั้นๆ อยู่เต็มไปหมด ที่ดับกิเลส เข้าพระนิพพานน่ะ มีไม่มากเท่าไรหรอกครับถ้าเทียบกับจิตวิญญาณที่โดน อวิชชา ครอบนำน่ะ

    ธรรมะ แท้ๆ ไม่มีโฆษณา ชวนเชื่อ หรอกครับ มีแต่ของจริงที่กิเลส มันรับไม่ได้

     
  9. Dongky

    Dongky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +84
    เหอะๆ


    อย่างนี้มีด้วยหรอ

    สำเร็จเป็นอรหันต์ จริงหรอ

    สำเร็จจริงเค้าไม่มาว่า พระอย่างนี้หรอก


    และถ้าสำเร็จจริงอ่ะนะ ต้อง บวช เป็นพระเท่านั้นครับ

    ถ้าไม่บวช ก็จะต้อง จบชีวิต ลงอย่างรวดเร็ว

    ในสมัยพุทธกาลก็มี สำเร็จเป็นอรหันต์แล้วไม่บวช เพราะต้องดูแลพ่อ แม่ ซึ่งตาบอด
    แต่ก็ต้องตาย ในวันนั้น(ถ้าจำไม่ผิด)เพราะโดนวัวบ้าขวิด


    ถ้าสำเร็จจริง คงไม่มาว่าพระหรอกครับ

    แล้วแถม อวดธรรมวิเศษที่มีในตน และ ไม่มีในตนอีก(คือ..อวดว่าสำเร็จอรหันต์แล้ว)
     
  10. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ การพิจารณาที่จะนับถือหรือศรัทธาพระสักองค์นั้น
    ไม่ใช่ดูเฉพาะรูปลักษณ์ พูดจาไพเราะเสนาะหู ติดดีอยู่เท่านั้น
    .ท่านจะรู้ได้ยังไงว่า เป็นธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    แค่แนะนำเริ่มต้นก็ผิดแล้ว อานาปานสติกรรมฐานนั้น เป็นพื้นฐานที่สำคัญมากที่จะเข้าถึงสติปัฏฐาน๔ได้
    เริ่มต้นก็ดูจิต ทั้งที่ยังไม่รู้จักจิตที่แท้จริง การดูจิตก็มีแต่ติดความคิดเท่านั้นเอง
    ๒.ธรรมที่ท่านพูดขัดต่อพระธรรมของพระพุทธเจ้าหรือไม่
    ท่านครับ ข้อแรกที่พูดก็ขัดแล้วนิครับ
    ๓. ธรรมของท่านมีโทษหรือไม่
    โทษน่ะไม่มีในทางโลก
    แต่ในทางธรรมแล้ว ธรรมที่ท่านสอนน่ะไม่เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์
    ๔. ธรรมของท่านพัฒนาจิตเราให้ไปในทางที่ดีหรือไม่
    เป็นการติดดีในดี พลิกออกจากทุกข์ไม่ได้
    ๕. เราได้อะไรบ้างจากธรรมของท่าน
    ได้แต่ระดับศีลธรรม จริยธรรม ที่ทุกศาสนาก็สอนกัน คือ ละชั่ว ทำดี
    ไม่สามารถที่จะนำเอาคำสอน มาปฏิบัติเพื่อให้ออกจากทุกข์ได้

    ปล.ผมไม่ได้สนใจในจริยาของพระท่าน
    แต่คำสอนของพระพุทธองค์เป็นสากล ไม่มีลิขสิทธิ์
    ถ้าสอนไม่ตรงต่อจอมศาสดา เป็นธรรมดาอยู่เองที่ผมจะต้องถามแย้ง

    http://palungjit.org/threads/การสอนดูจิตตอนนี้-ไม่ต่างไปจากท่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล.212378/

    ;aa24
     
  11. innertruth

    innertruth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอออกความเห็นหน่อยนะครับ (ตัวสีน้ำเงิน)

     
  12. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แล้วแต่มัก เอ้ยไม่ใช่ มรรค ที่มีที่เกิด ทางสำเดินสำหรับคนหนึ่งๆอาจไม่ใช่ทางเดินสำหรับคนหนึ่งๆเช่นกัน เมื่อเกิดมามีโอกาสพบพระพุทธศาสนาอันเป็นสมบัติอันล่ำค่า ยากนักจะมีได้พบได้ ก็จงใคร่ครวญพิจารณาธรรมทั้งหลายให้เห็นประจักษ์แจ้งด้วยจิตด้วยใจตนนั่นแหละ แม้ไม่รู้ไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตามขอจงอย่าลืม พระรัตนตรัย ให้เป็นสรณะทุกขณะจิต เมื่อชีวิตในอัตภาพนี้ดับลง ยังจะส่งผลต่อไปให้พบกับทางที่แท้แห่งพุทธะ สืบต่อไปได้ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง นั่นเพราะ สัตว์โลกทั้งหลายล้วนตกในอาณัติแห่งกรรม อันมีอวิชชาเป็นต้นเหตุ วางเสีย แม้ธรรมทั้งหลายเมื่อถึงที่หมายเราก็ต้องรู้จักวาง ให้คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ถ้าทำมากไปกว่านี้ กรรมอันเป็นอกุศลจะส่งผลต่อตน นั่นเพราะความห่วงหวงอาลัยในธรรมทั้งหลาย ที่เป็นไปแล้วกำลังจะเป็นนั้นล้วนเป็นผลแห่งกรรม ที่เขาทั้งหลายได้กระทำร่วมกันมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  13. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    ตอนแรก...ผมไม่คิดจะเกลียดคุณเลยนะ
    แต่มาเห็นโพท์สนี้ของคุณแล้ว
    ผมละเกลียดคุณจิงๆเลย
    เขียนมาได้

     
  14. Picolo Fanta

    Picolo Fanta ต้นคต ปลายตรง ไม่มี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +651
    หลวงพ่อ : จริงๆ แล้วการรู้ลมหายใจก็เป็นกรรมฐานที่ดีอันหนึ่งนะ แต่ทำยาก อาจารย์อภิธรรมบางท่านถึงกับบอกว่า อานาปานสติเป็นกรรมฐานของมหาบุรุษ ของคนที่เลิศกว่าคนทั้งหลาย เพราะมันเป็นของละเอียด แต่ถ้าเราจะรู้ลมหายใจนะ เราพลิกนืดหนึ่ง ให้มารู้ทันจิตแทน หายใจไปแล้วรู้ทัน จิตหนีไปคิดก็รู้ ของคุณติดเพ่งนะ จิตยังติดเพ่งอยู่ คุณต้องปล่อยให้ได้ ถ้าเราเพ่งไว้ กายก็นิ่ง ใจก็นิ่ง ถ้ากายนิ่งใจนิ่งนะ มันก็ไม่มีไตรลักษณ์ให้ดู เราภาวนา เราทำวิปัสนา เพื่อให้เห็นกาย เห็นใจ แสดงไตรลักษณ์ เพื่อจะดูไตรลักษณ์ ถ้าหากเราเพ่งกาย เราเพ่งใจ กายก็นิ่ง ใจก็นิ่ง ไม่มีไตรลักษณ์ให้ดู ปล่อยซะ ปล่อยที่คุณฝึกน่ะ โดยพื้นฐานมันดีขึ้นเยอะแล้ว คุณไม่ได้ถลำไปอยู่ที่ลมก็ดีแล้ว คอยดูไป เห็นร่างกายมันหายใจไป เห็นร่างกาย ยืนเดิน นั่ง นอนไป เห็นใจแอบไปคิดไป นึกไปปรุงไปแต่งไป นี่ฝึกอย่างนี้แหละ รู้กาย รู้ใจเรื่อยๆ
    -------------------------------------------------------
    มีอะไรที่ดีเท่าการดูจิตของท่านใหมครับ อ่านบ้างฟังบ้างเห็นท่านบอกโน่นก็ดี นี่ก็ดี แต่สุดท้าย ดูจิตดีสุด ถ้าดูจิตดีขนาดนี้ คงต้องเรียกได้ว่ากรรมฐานครอบจักรวาลซะละมั๊ง ที่สำคัญ มันง่ายดีด้วยนะครับ
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ผมจะค่อยๆทยอยตอบไปเรื่อยๆที่ละข้อไม่ต้องรีบร้อน
    ท่านครับ พระท่านพูดแบบนี้
    "ปล่อยซะ ปล่อยที่คุณฝึกน่ะ โดยพื้นฐานมันดีขึ้นเยอะแล้ว คุณไม่ได้ถลำไปอยู่ที่ลมก็ดีแล้ว"
    ทั้งที่ทุกๆกรรมฐานในมหาสติปัฏฐาน๔นั้น ต้องอาศัยใช้ลมเป็นพื้นฐานทั้งสิ้น
    เพื่อให้เข้าถึงกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรมให้ได้ก่อนสิ
    ยังเข้าไม่ถึงสิ่งเหล่านี้เลย เท่ากับยังไม่รู้จักจิตที่แท้จริงเป็นยังไง มาให้ดูจิตซะแล้ว

    ท่านยังพูดทำนอง "พระท่านเพียงชี้ว่า ทำอย่างไรให้ถูกต้อง"
    ที่พระท่านชี้นั้นตรงข้ามกับพระพุทธพจน์ชี้ไว้เลย ซึ่งทรงเน้นให้เพียรเพ่ง(รู้อยู่อย่างต่อเนื่อง)
    ดังมีพระบาลีกล่าวไว้ดังนี้

    "อาศัยเหตุนี้ เป็นอันเราแสดงปฏิปทาเครื่องข้ามพ้นโอฆะ คือวิโมกข์ของพระอริยะแล้ว
    ดูกรอานนท์ กิจใดอันศาสดาผู้แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล ผู้อนุเคราะห์ อาศัยความอนุเคราะห์
    พึงทำแก่สาวกทั้งหลาย กิจนั้นเราทำแล้วแก่พวกเธอ

    ดูกรอานนท์ นั่นโคนไม้ นั่นเรือนว่าง เธอทั้งหลายจงเพ่งฌาน อย่าประมาท
    อย่าได้เป็นผู้เดือดร้อนในภายหลัง นี้เป็นคำพร่ำสอนของเราแก่พวกเธอ ฯ"

    การที่จะเจริญภาวนาอานาปานสติกรรมฐาน จนทำให้จิตสงบตั้งมั่นได้นั้น ไม่ใช่เพียงกายสงบ จิตสงบเท่านั้น
    จิตจะต้องเห็นความไม่สงบวุ่นวายต่างๆนั้น ล้วนเป็นสภาวะพระไตรลักษณ์ทั้งสิ้น จิตจึงจะสงบตั้งมั่นลงได้

    และในระหว่างภาวนาอานาปานสติกรรมฐานอยู่นั้น ยังเห็นกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรมอีกด้วย

    ;aa24
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับพระท่านพูดว่า การทำอานาปานสติกรรมฐานนั้นเป็นเพียงแค่ กายสงบ ใจสงบเท่านั้น
    ซึ่งมองไม่เห็นไตรลักษณ์ในขณะนั้น
    ก็แสดงว่าพระท่านไม่รู้จักอานาปานสติกรรมฐานที่แท้นะสิ

    การที่พระพุทธองค์ทรงพร่ำสอนให้เพียรเพ่งฌานนั้น
    การเพ่งลมหายใจนั้นเป็นการเพ่งฌาน เห็นไตรลักษณ์ได้ชัดเจนยิ่ง
    ลมหายใจนั้นเมื่อเราเพ่ง(รู้อยู่อย่างต่อเนื่อง) จะทนอยู่ไม่ได้ จะแสดงอาการไม่เที่ยงให้เห็น
    จากลมหายใจที่หยาบจะกลับกลายเป็นลมหายใจที่ละเอียด เบาบางจนกระทั่งแทบจับลมหายใจไม่ได้
    จะเห็นความไม่เที่ยงของลมหายใจ ซึ่งเป็นกายสังขารอย่างหนึ่ง
    จิตย่อมรู้ว่าการเกิดมานั้น ล้วนเป็นทุกข์

    เมื่อจิตรู้ว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ย่อมไม่ยึดถือเอาร่างกายที่มีลมหายใจอยู่นี้ เป็นที่พึ่งที่อาศัย
    มีพระบาลีกล่าวไว้ชัดเจนดังนี้

    อานาปานสติ ภิกฺขเว ภาวิตา พหุลีกตา จตฺตาโร สติปฏฺฐาเน ปริปุเรนฺติ
    จตฺตาโร สติปฏฺฐานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปุเรนฺติ
    สตฺต โพชฺฌงคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชา วิมุตฺตึ ปริปุเรนฺติ.

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานาปานสตินี้ ถ้าทำให้เกิดขึ้น ทำให้บ่อยๆแล้ว
    ย่อมได้ชื่อว่า ทำสติปัฏฐานสี่ให้บริบูรณ์

    สติปัฏฐานสี่นี้ ถ้าทำให้เกิดขึ้น ทำให้บ่อยๆแล้ว
    ย่อมได้ชื่อว่า ทำโพชฌงค์เจ็ดให้บริบูรณ์

    โพชฌงค์เจ็ดนี้ ถ้าทำให้เกิดขึ้น ทำให้บ่อยๆแล้ว
    ย่อมได้ชื่อว่า ทำวิชชาจิตหลุดพ้นทุกข์ให้บริบูรณ์ ดังนี้

    ;aa24
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ที่ท่านพูดว่า
    "แล้วกรรมฐานที่พระพุทธเจ้าแจงไว้ มีตั้งหลายกอง ไม่จำเป็นต้องใช้อานาปานสติเสมอไปไม่ใช่เหรอ ถ้าเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วยครับ"
    การพูดถึงกรรมฐาน จะต้องมีอานาฯเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องมีอานาฯเป็นบาทฐาน
    นั่นคือ จะต้องฝึกอานาฯจนชำนาญคล่องแคล่วเป็นวสีแล้ว จากนั้นจะฝึกกองไหนก็ได้

    ;aa24
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ที่ตอบข้อแรกไปก็เห็นชัดเจนแล้วนะครับ
    ข้ออื่นๆมีอีกมาย เช่น จิตเป็นกองทุกข์

    ในพระสูตร ไม่เคยมีตรงไหนที่ตรัสไว้ว่า จิตเป็นกองทุกข์
    มีแต่ขันธ์ ๕ เป็นกองทุกข์
    จิตเป็นผู้รู้อยู่ ผู้เห็นอยู่ว่า ขันธ์ ๕ ไม่เที่ยง ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ ขันธ์ ๕ ไม่ใช่ตน
    จิตเป็นผู้รู้อยู่ ผู้เห็นอยู่ว่า ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา เราไม่ใช่ขันธ์ ๕

    ถ้าจิตเป็นกองทุกข์ ก็ดับจิตซะ(ไปตายซะ) ก็คงพ้นทุกข์ได้สิ
    แต่โดยความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย ยังต้องกลับมาเกิดอยู่ดี
    เพราะอวิชชาที่ครอบงำจิต กดดันให้กลับมาเกิด

    ถ้าจิตเป็นกองทุกข์จริงแล้ว ทำไมในบางครั้งจิตยังมีสุขหละ
    แล้วโลกุตตรจิต เป็นกองทุกข์ด้วยมั๊ย

    ;aa24
     
  19. loveyoutoo2

    loveyoutoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +207
    การดูจิตเป็นสิ่งไม่ยากหรอกครับ จะยากเฉพาะสำหรับคนไม่มีสติน่ะครับ
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เพราะการดูจิตโดยไม่มีพื้นฐานจากการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา
    จนจิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิแล้ว
    จิตไม่มีพลังในการปล่อยวางอารมณ์ที่เข้ามากระทบจิต
    จึงไม่เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์

    เป็นแต่การตามดูอาการของจิต ปล่อยจากอารมณ์หนึ่ง ไปสู่อีกอารมณ์หนึ่ง
    เมื่อดูบ่อยๆ เนืองๆเข้า ก็รู้จักกับอาการของจิตเป็นอย่างดี

    รู้ทันอาการของจิต(เจตสิก)ที่เป็นชนิดของจิต
    ที่เกิดดับตามชนิดอารมณ์ที่เป็นแขกจรเข้ามาตลอดเวลา
    จากอารมณ์หนึ่งสู่อารมณ์เฉย(เฉยโง่ในภาษาธรรม)
    จากนั้นก็จะมีอารมณ์ใหม่หมุนเวียนเข้ามาอีก ทำให้รู้สึก(คิด)ถึงอารมณ์ได้เร็วขึ้น
    สู่อารมณ์เฉยเช่นเคยจนเป็นวัฏฏะ โดยปล่อยวางอารมณ์ไม่เป็นเลย

    เป็นได้แค่คนดีคนหนึ่งที่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขึ้น
    จน “ติดดีในดี” กระทั่งหลงตนเองไปว่าตนดีกว่าคนอื่น
    เพราะผู้อื่นไม่สามารถเก็บอารมณ์หรือเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วเท่าตนเอง

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...