ถ้ามีคนมาถามว่าเวลาคืออะไร

ถ้าสมมุติถ้ามีคนหนึ่งเข้ามาถามคุณว่า เวลาคืออะไร คุณจะตอบว่าไงคับ

)))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))0))))

 

ตอบยากนะ เวลาคืออ่ะไร

ในความเห็นของผมนั้น คิดว่า เวลาคือมิติหนึ่งในสี่มิติ ซึ่งมีมิติร่วมคือกว้าง ยาว สูง
เวลาเป็นตัวควบคุมเหตุการณ์ต่างๆเพื่อให้เกิดแตกต่างกันแม้ในกรอบเดียวกัน
เป็นตัวควบคุมว่าวัตถุนี้จะอยุไหนเมื่อเวลาผ่านไป

คงจะประมาณนี้เนอะ
........................................................................................

 

เวลาเป็นแค่คำหลอก

 

ขอโทษครับ ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ
...

 

หน่วยที่ใช้แทนค่าของช่วงเมื่อวานถึงวันนี้ หรือ วันนี้ถึงวันพรุ่งนี้ เป็นต้น ฮี่ ๆ

 

นั่นดิคือไร สว่างกับมืด

จริงๆแล้วไม่น่าจะคืออะไรเลย ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แค่มนุษย์ตั้งขึ้นมาเพื่อให้มีหล่วยนับได้ เวลาคุยกันจะได้รู้เรื่อง ไง ถ้าบอกแค่เจอกันตอนสว่างนะ อีก คนก็ไปรอตั้งแต่ ไก่โห่ ยัน พระอาทิตย์ตก แต่เมื่อคนเราตั้งเวลาขึ้นมา ก็ทำให้เกิดหน่วยนับที่แคบลง เช่น เจอกันตอน 12.00 น. นะ อืมมมมม กระผมว่าน่าจะประมาณนี้ ครับ

สรุป หากถามว่าเวลาคืออะไร กระผมขอตอบว่า เวลาคือ หน่วย นับ ครับ ของจริงมีแค่ สว่างกับมืด ครับ อิอิ ถูกปล่าวไม่รุ

 

อ้าววววววว

แล้วทฤษฎีการย้อนเวลา ก็ไม่มีจริงดิ งงงงงง

 

เอาคำว่า เวลา ก่อนนะครับ เวลา ก็คือ สมมุติ ครับ
เป็นเช่นนี้ แนนอน ครับ
เพื่ออะไร คือ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ครับ
มันจึงต้องมีการสมมุติขึ้นมา

ส่วนเวลาในความหมายที่เข้าใจนะครับ มันคือกระแสการใหล
ของเหตุและผล

สรุปเวลาก็คือการใหลของเหตุและผลครับ ง่ายๆแค่นี้แหละครับ:boo:

 

ชักเข้าเค้า

 

ในทางพุทธศาสนาแล้ว เวลาก็คือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ

ใช่ป่ะ

 

มันต้องมีแน่นอนครับ ขนาดคนเรายังเดินถอยหลังได้เลย
ทำไมเวลาจะเดินถอยหลังไม่ได้ ถ้ามนุษย์สามรถย้อนเวลาได้โลกคงปันป่วนวุ่นวายนาดูจริงไหมครับ

 

ช่ายยยยย เวลาก็คือสิ่งสมมุติขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์โลกเข้าใจตามเวลาของโลก แต่ถ้าเราลองนั่งอยู่ที่เงียบๆลมพัดสบายๆ แล้วหลับตา มองตามลมหายใจเข้าออก เวลามันไม่มีอยู่จริงหรอก มีแค่ปัจจุบันขณะเท่านั้น

 

เอ่อ ถึงคนจะเดินถอยหลัง แต่เวลายังไปข้างหน้านะ

 

ถ้าหากสามารถทำได้ กระผมว่า กรุงศรี คงไม่แตกแน่ ครับ :boo:

 

ใช่ครับ แต่ทว่า ประเทศที่เป็นมหาอำนาจที่สุด ก็อาจย้อนไปครองโลกซะมากกว่านะครับ แล้วปัญหาอื่นก็ตามมากมาย

 

มันก็ถูกของคุณนะครับ

แต่ถ้าเราเชื่อในเรื่องของเหตุและผลแล้วนั้น
ทางพระพุทธศาสนา กล่าวว่า อดีต ไม่มีอยู่จริง เป็น แต่เพียง ความจำได้หมายรู้ ส่วน อนาคตเป็นแต่เพียงความนึกฝัน ปัจจุบันเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง แต่หลายคนก็มักที่จะอยู่กับอดีตหรือความจำได้หมายรู้ หรือไม่ก็อยู่กับความฝันลมแล้งๆจนลืมปัจจุบันไปครับ

 

เมื่อก่อนตอนเรียนเคยสงสัยว่าถ้าเวลามีอยู่จริงนี่ เราจะสามารถย้อนอดีตหรือไปอนาคตก็น่าจะได้ โดยการทำให้โลกหมุนเร็วขึ้นหรือช้าลง(ถ้าอยากไปอนาคตก็ทำให้โลกหมุนเร็วๆถ้าย้อนอดีตก็แค่ให้โลกหมุนกลับเร็วๆ)น่าขำความคิดของตัวเองจริงๆ ลองคิดดูสิ สิ่งที่ดำเนินไปอยู่ ณ ตอนนี้ตลอดเวลามันไม่ได้ขึ้นอยุ่กับสมมุติบัญญัติอะไรเลย สว่าง แล้ว มืด ปฎิทินของวันก็หมดไปอีกวัน มืดแล้วก็สว่าง มันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ....มันเป็นเช่นนั้นเอง....(คำของใครนะ ขอยืมมาก่อนเน้อ)แต่คนเรามักมองจากภายนอกมากกว่าภายในแล้วเอาภายนอกที่เจอมายึดเป็นรูปแบบ(มิน่าถึงทำให้เราต้องเกิดต้องตายอยู่มิรู้จบ) ตอนนี้รุ้แล้วค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้ได้ไง อยู่ดีๆมันก็ ปิ้งแว๊บ คนเดียว

 

ยกตัวอย่าง ครับ ตอนที่เราอยู่ที่ห้องเรียน เรากำลังเรียนหนังสืออยู่ ช่ายเปล่าครับ
นั้นก็เป็นปัจจุบันของเราถูกต้องหรือเปล่าครับ
ตอนที่เรากลับมาถึงบ้าน ก็เท่ากับว่าห้องเรือนก็เป็นอดีตไปใช่เปล่าครับ
แต่ในทางกลับกัน ครูยังนั่งตรวจหนังสืออยู่ในห้องเรียน แสดงว่านั้นก็คือปัจจุบันของครู
ถูกต้องหรือเปล่าครับ เพราะฉะนั้นก็เท่ากับว่า...................

 

เวลาคือ ความเสื่อม ทุกๆสิ่งที่อยู่ภายใต้เวลา ต้องแตกและดับสลายในที่สุด

เวลาจะกลืนกินทุกๆสิ่ง แม้กระทั่งตัวมันเอง

มีอย่่างเดียวที่พ้นจากความเสื่อมไปได้ นั่นคือนิพพาน

จึงกล่าวได้ว่า นิพพานอยู่เหนือกาลเวลา

 

เวลา คือ สิ่งที่อื้ออึงอยู่อย่างนั้น