ทำไมพระบัวเข็มต้องวางในพานหล่อด้วยน้ำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 20 มีนาคม 2024.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,804
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,521
    151006.jpg

    ทำไมพระบัวเข็มต้องวางในพานหล่อด้วยน้ำ


    ผู้ถาม : ออ...เป็นเช่นนั้นเอง แล้วก็มีอีกองค์หนึ่ง พระอุปคุต หรือที่เขาเรียกว่า "พระบัวเข็ม" ทำไมรูปร่างเป็นพม่าไปหมดล่ะครับ ?

    หลวงพ่อ : ก็เขาแกะมาจากพม่า ถ้าไทยแกะรูปร่างเหมือนไทย

    ผู้ถาม : แล้วก็เวลาบูชาต้องเอาวางในพานหล่อน้ำด้วยละครับ ?

    หลวงพ่อ : ไอ้นั่นเขาหลอกตัวเอง เขาถือว่าพระอุปคุตจำพรรษาอยู่ที่สะะดือทะเล ใช่ไหม แต่ว่าเอาผ้าพันเอาใบบัวปิดหัว ท่านเนรมิตเรือนแก้วอยู่กลางสะดือทะเลแล้วก็นั่ง ท่านก็อยู่ในน้ำล้อมรอบ ที่ทำแบบนั้นทำเป็นสัญญลักษณ์ เป็นความเห็นของตัวเอง ความจริงไม่มีอะไร

    ผู้ถาม : แล้วตอนที่ท่านอยู่กลางสะดือทะเล ท่านบิณฑบาตที่ไหนครับ ?

    หลวงพ่อ : อ้าว ท่านเข้านิโรธสมาบัติจะไปบิณฑบาตที่ไหนล่ะ

    ผู้ถาม : แล้วที่บอกว่าเป็นคู่ปรับกับพญามาราธิราช ตอนนี้สงสัยที่เขาบอกเทวดานี้ประเสริฐ แล้วทำไมท่านเกเรเล่าครับ ?

    หลวงพ่อ : นั่นละประเสริฐล่ะ

    ผู้ถาม : เอ๊ะ ! ก็แกล้งไม่ให้มารบกวนในการทำสังคายนานี่ครับ

    หลวงพ่อ : ไม่เกี่ยวกับสังคายนา นั่นพระเจ้าอโศกจะฉลองพระนคร ฉลองพระศาสนาต่างหากล่ะ คือว่าพญามาราธิราชนี่ท่านมีความฉลาดมาก เพราะท่านปรารถนาพุทธภูมิเหมือนกัน ก็คิดว่าพระพุทธเจ้าจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก็จะสอนคนไปนิพพานกันหมด เวลาเป็นพระพุทธเจ้าก็ไม่รู้จะไปสอนใคร เลยต้องบังหน้าแกล้งเสียบ้างเป็นธรรมดา

    ทีนี้สำหรับพญามาราธิราชนี่สมัยพระพุทธเจ้าไม่มีใครปราบ ความจริงพระอุปคุตไม่ได้มีฤทธิ์เกินกว่าพระอื่นเลย แต่ทว่าถ้าพระพุทธเจ้าจะปราบก็เป็นเรื่องนิดเดียว แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "เราไม่ใช่คู่ปรับกับพญามาราธิราช ต้องรออุปคุตเขามา เขาเป็นคู่ปรับกัน"

    ปล่อยมาถึง 200 ปีศษ ในฐานะที่เป็นคู่ปรับกัน ในที่สุดทรมานพญามาราธิราชได้จนหมดพยศ เวลานี้จะไปโทษเวลามีอะไรเกิดขึ้น ไปโทษว่าพญามาราธิราชมาแกล้งน่ะ
    ไม่ใช่นะ

    ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมาท่านก็สนับสนุนผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านไม่ได้แกล้งคน
    อย่างพวกเราๆ ท่านแกล้งพระพุทธเจ้าองค์เดียว กลัวจะต้อนคนไปนิพพานหมด

    ทำไปทำมาเวลานี้ก็ลาพุทธภูมิแล้ว

    ผู้ถา : ทำไมลาล่ะครับ ?

    หลวงพ่อ : ขี้เกียจ ตีตั๋วไปเลย พวกนี้ถ้าลาแล้วเขาก็ไม่ลงแล้ว กำลังสูงมากพวกพุทธภูมิเขามีกำลังเกินกว่าสาวกภูมิมาก ถ้าสมมุติว่าคนที่จบปริญญาอาจจะทำงานเงินเดือนสูง ถ้ามาทำภารโรงนี่เขารับเลย นี่เปรียบเทียบกัน

    พวกปรารถนาพุทธภูมิเขาบำเพ็ญบารมีมากกว่าพวกสาวกภูมิมาก

    สาวกภูมิถ้าบำเพ็ญบารมีปกติแค่ 1 อสงไขยกับแสนกัป

    ถ้าพวกพุทธภูมิ ถ้าเป็นปัญญาธิกะก็ 4 อสงไขยกับแสนกัป

    ถ้าเป็นศรัทธาธิกะ ก็ 8 อสงไขยกับแสนกัป

    พวกวิริยาธิกะ ก็ 16 อสงไขยกับแสนกัป

    พลังต่างกันมาก ฉะนั้นถ้าหวลกลับมาเป็นสาวกไม่กี่วันได้อรหันต์


    (จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 41 หน้า 52-53)
     

แชร์หน้านี้

Loading...