ทำไมเวลาสวดมนต์ รู้สึกพื้นห้องมันไหวๆ สั่นๆ

ผมสังเกตุมาหลายครั้งแล้ว เวลาผมสวดมนต์ คือ ค่อนข้างเปล่งเสียงดัง ชอบสวดเต็มเสียง บางครั้งเหมือนพื้นมันสั่น บ้านสั่นๆ หรือ เหมือนมีคนมาเดินรอบๆ คือพื้นบ้านเป็นไม้กระดาน มันจะรู้สึกได้ดี (บางครั้งแม่ก็แกล้ง ขย่มพื้นให้แรง แม่กลัวผมสวดมนต์จนจิตหลุดมั้ง 55 เลยต้องทำเตือน แต่เราก็สวดมนต์จนจบ) มีใครเคยรู้สึกแบบนี้ไหมครับ เราไม่ควรสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นใช่ไหมครับ

 

มีหลายสาเหตุ เช่น ร่างกายอาจจะขาดการออกกำลังกาย ทำให้เวลานั่งนิ่งๆแล้วเกิดอาการวิงเวียน หรือ เป็นอาการของปีติอย่างหนึ่ง หรือ อาจจะมีใครมาลองดูว่าเราตั้งใจสวดมนต์จริงมั้ย ถ้าตั้งใจสวดจริงเราก็จะตะเกียกตะกายสวดจนจบได้

สรุปก็ ควรออกกำลังกายบ้าง เพราะเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกจะได้ไม่สงสัย และก็สวดต่อไปไม่ต้องไปสนใจ เพราะยังไงเวลาสวดมนต์เราก็ได้บุญอยู่แล้ว ตรงที่เราได้จากการที่จิตของเราทรงสมาธิระดับอุปจารสมาธิ เพราะถ้าไม่มีสมาธิเราจะสวดผิด สวดไปเรื่อยๆไม่ต้องไปใส่ใจ

 

โลกทั้งโลกมันก็มีแค่แรงสั่นสะเทือน. เมื่อสะสารเกิดการขยับตัวย่อมมีพลังงานเกิดขึ้น. ทั้งจักวาลมีแต่การเปลี่ยนแปลงถ่ายทอดพลังงานจากสิ่งนี้ไปเป็นสิ่งนั้นจากสิรงนั้นมาเป็นสิางนี้กันตลอดอยู่แล้ว.

 

ต่อไปสวดมนต์ แล้วเกิดความรู้สึกว่าพื้นกระดานมันสั่นๆไหวๆอีก พึงสังเกตดูให้ชัดว่ามันไหวจริงๆหรือความรู้สึก (จิต) ของเราไหวสั่น ควรดูพื้นให้ชัดเดี๋ยวนั้นเลย (ตัดปัญหาปัญหาแม่ขย่มพื้่นออกนะ) และควรถามแม่อีกทีว่าเมื่อเวลาเท่านั้นๆ ลูกกำลังสวดมนต์ฺอยู่แม่ขย่มพื้นหรือเปล่า ถ้าท่านบอกว่าเปล่า ก็แสดงว่าจิตเราไหว ความรู้สึกเราไหว กล่าวคือสติไม่ชัด จึงบอกให้ดูให้ชัด

มีครับ บางคนเห็นรถวิ่งเป็นภาพสโลว์ บางคนเห็นใบไม้หล่นเป็นภาพสโลว์ บางคนได้ยินเสียงเหมือนหลอดไฟระเบิดตูม แต่พอดูแล้วมันยังอยู่ปกติ สารพัดครับ ถึงบอกว่า ต้องพิสูจน์ดูชัดๆ

จะพูดว่าไม่สนใจ ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว คิดทำแบบนี้เหมือนปัญญาไม่เกิด คือไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ จึงบอกว่า เมื่อรู้สึกว่าพื้นไหวๆ ต้องดูชัดๆว่ามันไหวจริงมั้ย

 

ฝันธงสังขารปรุงแต่งหนะครับ อิอิ

 

สังเกตไปที่ จิตเรามันส่งออกไปคิด หรือว่า จิตมาอยู่กับตัว

ปรกติ คนทั่วไป จิตจะไหลไปคิด ลืมกายลืมใจ " ไม่มีสติไม่มีสัมปชัญญะ "

คำว่า " ไม่มีสติไม่มีสัมปชัญญะ " ในทางธรรม ไม่ใช่คำต่อว่า หรือ คำด่า

เป็น คำที่ให้ผู้ปฏิบัติ สังเกตว่า จิตขณะนั้น ตั้งอยู่ที่ไหน

ถ้า จิตของนักปฏิบัติ รู้อยู่กับกาย ภายในกายหนาคืบกว้างศอก เราจะเรียกว่า
มีสติระลึกอยู่ หากจิตไม่ไหลไปรู้ที่พื้น จิตจะรู้อยู่ที่กาย

กายที่สัมผัสรับรู้พื้น ....... กายมันเป็นอยาตนะ ไปรู้ ธาตุน้ำ ที่พื้น จึงรู้สึกว่า มันดึ๋งๆ (แรงดึงดูด)
ถ้าจิตไปรับรู้กายว่ารู้สึกว่า กนะทบพื้นแข็งๆ นี่จิตไปรู้ ธาตุดิน
ถ้าจิตไปรับรู้กายว่ารู้สุกเย็น หรือ ร้อน นี่จิตไปรู้ ธาตุไฟ
ถ้าจิตไปรับรู้กายว่ารู้โยก หรือ โคลง นี่จิตไปรู้ ธาตุลม

" สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนารู้สิ่งกระทบจิตกระทบลงเป็น มหาภูตรูป เป็นยากิน "

แต่ถ้า จิตส่งออกนอก ไปรู้ที่พื้น ลืมกายลืมใจ จิตขณะนั้นจะเกิด ดำริ
จะทำให้ จิตเกิดวิตกสาม เช่น กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก

พอเกิด วิตกสาม เกิดที่จิตเราเอง หลังจากนั้น สิ่งอื่นจะสบช่อง หลอกเรา
นักภาวนาด้วยกันเอง ก็หลอกกัน หลอกกรรมฐานกัน

แต่ถ้าเรากำหนดรู้ วิตกสาม ว่าเกิดจากจิตเรา แล้ว มีสติ มีสัมปชัญญะ(แค่กลับ
เข้ามารู้ภายในกายหนาคืบกว้างศอก ) วิตกสาม ก็อันตรธานหายไป

การหายไปของวิตกสาม ด้วยการรู้เข้ามาที่กายที่ใจ เราเรียกว่า กายคตาสติ

 

คนๆนี้กล่าวธรรมว่า อัตถีย์ ภาษาบาลีแปลไทยว่าผู้หญิง
อวิชชา ภาษาบาลี แปลไทยว่าโง่ รวมความภาษาบาลีว่า
อัตถีย์ อวิชชา. แปลไทยว่า ผู้หญิงโง่ๆ
นั้นรวมถึงทุกคนที่มีสรีระเป็นผู้หญิงตามพจนานุกรมฉบับภาษาไทย
ไม่เวันแม้แต่พุทธมารดา และแม่ของทุกคนในโลกรวมทั้งแม่ของคนนี้ด้วย. เหตุเพราะผู้หญิงทั้งโลกล้วนมีสรีระตรงตามพจนานุกรมหมดครับ. ผมจะตามโพสทุกกระทู้ครับ เค้ากล่าวธรรม แบบนี้ครับ
ผมมีหลักฐานครบครับ
ป.ล. อวิชชา (ภาษาบาลี)แปลตามพจนานุกรมฉบับภาษาไทย แปลว่า ไม่รู้แจ้งในอริยสัจ4 เป็นสิ่งแรกในการเกิดภพ-ชาติ แต่นายคนนี้แปลเองว่าโง่เค้าแปลตามศาสนาที่เค้าเป็นศาสดาเอง..
คำว่า โง่ ตามพจนานุกรมฉบับภาษาไทย แปลว่า เขลา. ไม่ฉลาด
มิได้แปลว่า อวิชชา ตามคำกล่าวอ้างของนายคนนึ้แต่อย่างใด คนนี้กล่าวตู่ภาษา
ด่าว่าผู้หญิง ว่า ผู้หญิงโง่ๆฯลฯ แล้วยัง กล่าวอ้างข้อความอันเป็นเท็จ ไม่ควรอยู่ในนี้เพื่อสร้างความเสื่อมเสียแก่เวป พลังจิต เวปแห่งการเผยแพร่สาระธรรมแก่สาธุชนที่ดีมีประโยชน์

 

เรื่องการสวดมนต์แล้วรู้สึกว่าพื้นสั่นๆ บ้านสั่นๆ หรือเหมือนมีคนมาเดินรอบๆ
ไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปคิดครับ..
มันเป็นอาการลึกๆว่าภายในจิตเราเหมือนๆ
จะสนใจสิ่งที่มันพิเศษเหนือธรรมชาติอยู่ครับ..
ทั้งเรื่องการอยากเห็นและเรื่องสัมผัสต่างๆอย่างที่เราคาดไม่ถึงครับ..
พวกกิริยาอย่างนี้คุณต้องเลิกคิดและไม่สนใจเลยจริงๆนะครับ
และไม่ต้องไปพยายามค้นคว้าหรือหาคำตอบอะไรทั้งนั้นครับ
เกี่ยวกับเรื่องนี้.ให้เฉยๆไปเลยครับ. ไม่งั้นอนาคต
ตัวจิตคุณมันจะสร้างกระแสตรงนี้จนถึงขั้น
ไปทำลายสมองจนเป็นเหตุให้คุณอาจจะถึงขั้นวิปลาสได้ครับ...
ปล.ขอบคุณครับ

 

"พระอาทิตยพันธุ์ (พระพุทธเจ้า) ได้ตรัสแสดงไว้ว่า รูปอุปมาเหมือนฟูมฟองแม่น้ำ เวทนาอุปมาเหมือนฟองน้ำฝน สัญญาอุปมาเหมือนพยับแดด สังขารอุปมาเหมือนต้นกล้วย วิญญาณอุปมาเหมือนมายากล ภิกษุพินิจดู พิจารณาโดยแยบคาย ซึ่งขันธ์ห้านั้นด้วยประการใดๆ ก็มีแต่สภาวะที่ว่างเปล่า พระผู้ทรงปัญญาดังผืนแผ่นดิน ทรงปรารภร่างกายนี้แล้ว ทรงแสดงการละธรรม ๓ อย่าง (โลภะ โทสะ โมหะ หรือตัณหา มานะ ทิฐิ) ไว้

จิตหรือวิญญาณอุปมาเหมือนมายากล

​

https://www.youtube.com/watch?v=TeQO7BnyvbM&spfreload=1

 

เห็น คคห.นี้แล้ว(u)

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <woNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <wontVertAlignCellWithSp/> <wontBreakConstrainedForcedTables/> <wontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]-->

เป็นห่วง จขกท. จะหวาดกลัวคิดเลยเถิดไปถึงเชื้อไวรัสขึ้นไปทำลายสมองจนวิปลงวิปลาสเอา

จึงขอนำสองตัวอย่างคล้ายๆกับ ให้จขกท.ดูเป็นอุทาหรณ์

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <woNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <wontVertAlignCellWithSp/> <wontBreakConstrainedForcedTables/> <wontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]-->

[FONT=&quot]

[/FONT]

เห็นมั้ยครับ

มันไม่เป็นไวรัสอะไรหรอก ผู้ปฏิบัติใหม่ๆก็อย่างนี้แหละ ไม่ใช่เรื่องแปลก มันเกิดจากการกำหนดรู้อารมณ์ไม่ชัด เบลอๆ หมายความว่า กัมมัฏฐานที่ใช้ คือ ลมหาใจเข้า-ออก พอง-ยุบ ต้องชัด เข้าเป็นเข้า ออกเป็นออก พองเป็นพอง ยุบ เป็นยุบ ชัดๆ กำหนดทันทุกขณะ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป กำหนดรู้มันไปเรื่อยๆ อย่าใจร้อนเอาแต่ใจอยาก