ทําไงดีครับเมื่อบางครั้งมันมีอารมณ์หื่นๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 27 พฤศจิกายน 2011.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อันนี้ ผมไม่ได้ทะลึ่งอะไร คือความจริงของผู้ชาย และผู้หญิง เวลาผมไปข้างนอก มีหญิงสวยๆ เยอะมาก แล้วผมก็มอง มองไป พยายาม จะไม่มอง แต่อดไม่ได้ คือสวยจริงๆ แล้วพอกลับมาบ้าน ดูหนังอยู่ดีๆ ดันไปนึก ผู้หญิงคนนั้น แล้วเกิดอารมณ์

    อารมณ์ หื่นๆ มันทําให้ผม กรรมฐาณผมไม่ไปไหน แล้วต้องทําอย่างที่ว่า

    ควรทําไงดีครับ พอผมจะใช้อสุภะ ตอนนั้นก็พิจารณาไป ผมก็ดันไปนึกหน้าตา ไม่ได้ไปนึก ตับไต อ่าครับ ควรทําไงดี
     
  2. จิตสีฟ้า

    จิตสีฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +192
    ปัญหาเดียวกันครับ พยายามทำใจให้คิดว่า ร่างกายไม่ใช่ของเรา เขาม่ใช่ของเรา ร่างดายของเราเเยกออกจากกันเป็นชิ้นๆก็หามีส่วนใดสวยงามไม่ ผมพิจารณาตัวเราเเละตัวเราครับ ว่าเป็นของว่าง เเต่พอออกจากสมาธิมันฝืนได้ยากมากเลยนะ
     
  3. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    พกภาพอสุภะเอาที่คัดไว้แล้วว่าน่ากลัวเน่าสุด ๆไว้กับตัวเลยครับยามใดที่เห็นสาวสวย ๆขึ้นมาก้รีบเอาภาพมาเทียบทันทีว่าข้างในมันเน่าแบบนี้เหมือนกันหมดไม่ว่าหญิงว่าชาย ทำให้เป็นนิสัย น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ
    ปล.อย่าไปสนามหลวงบ่อยน๊ะครับ ม๊อบเยอะ
     
  4. bestsu

    bestsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +617
    ต้อง..คิด..และ..พิจารณา..บ่อยๆ..ให้เป็นปกติ
    ถึงความไม่แน่นอนของร่างกาย ร่างกายเราบอบบางมาก โดนนิดโดนหน่อยก็แขนขาด ขาขาด
    มีดบาดจนไส้ทะลัก ลองคิดว่าเกิดเราแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเขาพิการตัวขาดมา หน้าเบี้ยว เราเลี้ยงเขาได้ไหม รักจนวันตายได้ไหม ลองคิดเล่นๆนะครับ
    ปลงบ่อยๆ..ไม่ใช่จะนั่งสมาธิทีก็ปลงที..อย่างนี้ไม่สำเร็จหรอกครับ
     
  5. Sonaz

    Sonaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +348
    ผมก็เป็นบ้าง ก็อย่างว่า ผู้ชายเห็นผู้หญิง มันก็เป็นธรรมดา เพราะสมัยนี้ พวก She ใส่ซะแทบไม่เหลือเนื้อผ้า ไม่คิดก็ไม่ได้ แต่ คิดแล้ว ผมก็จะให้รู้ว่ามันคิดน่ะ พยายามควบคุม มันไปเรื่อยๆ ไม่ให้มันออกนอกลู่มากๆ

    ส่วนตัว ผมกำหนดรู้เอาครับ ว่า คิด ตอนนี้ เราคิดอยู่นะ ผมตามสติให้ทัน แล้วดับ อารมณ์ นั้นลงซะ แต่การจะดับได้ ผมต้องรู้ก่อนว่า ผมคิดถึงอะไรอยู่ ผมเป็นยังงี้ ท่านอื่น ว่ายังไง ลองแชร์คอมเม้นได้ครับ เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่ติดปัญหาเดียวกัน
     
  6. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ของแว๊ดจะกำหนด เช่น ถ้าเขาสวย ก็กำหนด เห็นหนอ ๆ สวยหนอ ๆ หายใจยาว ๆ

    คือพอเห็นแล้วปรุง มันก็จะติดตา ติดใจ พอกำหนดบ่อย ๆ

    มันจะแค่อ๋อเห็นว่าสวยแล้ว แล้วจบลงตรงนั้นค่ะ
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถามจริงๆ เถอะ มันสวยมันหล่อตรงไหนเนี่ย มีแต่ขี้ตา ขี้ฟัน ขี้มูก ขี้หัว ขี้เล็บ หน้าตาก็เลอะเทอะด้วยอะไรก็ไม่รู้พอกกันไว้ เส้นผมก็สกปรก ต้องสระต้องล้าง ต้องนวด ต้องพอกครีมเพื่อให้หอม ลองไม่พอกซิ กลิ่นหัวเนี่ยเหม็นสุดๆ แขนขาหรือก็สั้นๆ ยาวๆ เสื้อผ้าที่สวมใส่ ถอดมาดูจริงๆ ไม่เห็นมีอะไรน่ามอง มีแต่หนังกำพร้า กระด่างกระดำ อันนี้พิจารณาของตัวเองนะ แล้วมันก็เลยไปเห็นว่าของคนอื่นก็คงเหมือนกัน ยิ่งเห็นศพที่เกิดอุบัติเหตุ โดนรถทับสมองกระจายเนี่ยยิ่งเห็นชัดเลย ไม่ต่างจากสุนัขข้างถนนที่โดนรถเหยียบเลย บางคนโดนทับบริเวณช่วงล่าง ก้นทะลุไส้ทะลักออกมาทางทวารหนัก โอ้โห ไอ้ข้างในเนี่ยมันทุเรศจริงๆ ตัวเล็กนิดเดียว แต่ไส้ยาวเป็นเมตรๆ ขดๆ กันอยู่ในท้อง

    วิธีคิดง่ายๆ ก็คือลองกลับด้านในมาไว้ด้านนอก แล้วยังสวยยังหล่ออยู่มั้ย ลองดูนะ เผื่อว่ามันจะช่วยลดความหื่น ความกำหนัดได้บ้าง
     
  8. nataphat

    nataphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +246
    อันดับแรกพยายามอย่าทิ้งลมหายจับไว้กั้นกิเลส อสุภะน้องยังไม่คล่องทำให้คล่องชนิดมองคนเป็นศพไปหมดต้องไวนิดหนึ่ง แล้วก็ใช้ปัญญาอย่างพี่ๆข้างบนเค้าสอนน่ะนี้กิเลสตัวใหญ่น่ะคนพูดก็ยังไม่ไปไหนเหมือนกัน แพ้มากกว่าชนะยากจริงหน่อนี้เป็นคำแนะนำจากผู้รู้สอนเรามาอีกที่น่ะไม่ใช้เราทำได้แล้วอิอิ
     
  9. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    มันจะไปยากอะไรกับอาการหื่นที่เกิดขึ้น นี่ลองนึกถึงเวลาเอามีดคมๆไปแร่หนังคนรักของเราซึ่งเขาไม่มีลมหายใจแล้วออกดูสิ นี่เป็นการระลึกนึกถึงนะก่อนระลึกนั้นต้องตั้งสติให้ดีๆไม่งั้นคงจะต้องน้ำตาไหลเพราะความพลัดพรากแน่นอน อาการของผู้มีสติอย่างอ่อน...นึกถึงตอนที่แร่หนังออกนะเอาแบบสมจริงเลยนะลักษณะเหมือนกับการปลอกเปลือกผลไม้อะไรสักอย่าง เอามะม่วงก้อได้ เออเอามะละกอดีกว่าเพราะตอนปลอกเปลือกมันมียางออกมาด้วยมันดูคล้ายปลอกหนังคนดี...ลองนั่งระลึกดูสิ...พอปลอกหนังคนนะตอนเอามีดลากลงมาแล้วหนังลอกออกมานะมีเลือดซิบๆติดตามมาด้วยและใต้ผิวหนังที่ลอกออกมานะมันเป็นเนื้อเส้นๆมองแล้วน่าขนหัวลุกดี...คงต้องฝึกสติกันอีกเยอะมากนะกว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ระลึกนั้น...เพราะหากคุณยังรู้สึกว่าน่ารักน่ายินดีกับสิ่งที่เห็นอยู่แสดงว่าอาการทางจิตค่อนข้างรุนแรง...ต้องใช้เวลารักษา...อาจต้องใช้หนามยอกเอาหนามบ่ง...ความกำหนัดถึงจะจางลงได้ ลองๆทำดูแล้วกันแต่อย่าไปฝืนนะถ้ารู้ว่าคุมสติไม่ได้อาจมีอาการแทรกซ้อนทางกายตามมา....สู้ๆนะ
    สาธุคั๊บ
     
  10. หวันเที่ยง

    หวันเที่ยง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +7
    รู้ความรู้สึกตัวเองได้ ก็เฉยๆไว้
    ไม่ไปผิด ละเมิดทำร้ายผู้อื่นและตนเองทั้งกายและวาจาเป็นพอ
    ดูรู้อารมณ์นั้น สักพักมันก็ดับไป
     
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    หื่นหื่นนั้นแหละ ลองแยกดูระหว่างสิ่งเร้า(ผู้หญิง หน้า ตา รูป ร่าง) กับ สภาพธรรมที่ หื่นหื่น(เป็นสภาพธรรมเฉพาะตัวคุณเอง)สติเลยสำคัญตรงนี้แหละ รู้ตัว........รู้ใช่ใหม ว่า มันคือ ความคิดจินตนาการ(รู้ตัว)....ลองหักดิบดู(อดทนอดกลั้น ไม่คิด แต่ทำอย่างอื่นแทน)...ก็จะเห็นได้ว่าทำได้....เหมือนกัน คราวนี้จะเห็นได้ว่า มันมีที่มาก็ต่อเมื่อ เราเพลิน(นันทิ)ไปในความสุขของความคิดอันนั้น..............จริงจริง ในสติปัฎฐาน4คือรู้กาย เวทนา จิต ธรรม จิตมีราคะก็รู้..รู้ว่ามีราคะ สภาพธรรมที่มันหวั่นใหว (ดูตรงนั้น ให้เห็นว่ามันมาทางใหน)(ไม่ใช่ จืนตนาการถึงผู้หญิงนะ คนละอย่างกัน)...อานาปานสติจะบอกเราว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่จริงจริง ...อยู่ในภาวะใหน...ที่แท้กำลังตกอยู่ในราคะ....อนุสติทุกฐานมีประโยชน์หมดแหละครับ.....ต้องโยนิโสมนสิการ พระสัทธรรม กันต่อหละครับ ยังมีอีกเยอะ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  12. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    เจริญสติ คือ รู้ กาย-ใจ ในปัจจุบัน...(คิดเรื่องที่จำมา..คิดในปัจจุบัน)..ทีนี้เจริญสติ กายคตาสติ อานาปานสติ เลยมีความสำคัญ เพราะ ไม่ว่า เดิน นั่ง กินเค้ก เหล่หญิง..รู้ตรงปัจจุบัน ที่ต่อจาก อายตนะ ผัสสะ แล้วมีเวทนาใด(สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์) จิตเป็นไง มีราคะ โทสะ โมหะ..ธรรมใดที่เกิด..กาม พยาบาท (นิวรณ์)เมตตา กรุณา...นั่น คือ เจริญสติ หรือเจริญสติปัฎฐาน4 ในปัจจุบัน.........จะเห็นสภาพธรรม ที่ ต่อกัน จากเหตุปัจจัย(อายตนะ ผัสสะ)..ที่เกิด ดับ สำคัญคือ อภิชฌา และ โทมนัส (ยินดี ยินร้าย) ...ถ้าเห็นตามความเป็นจริงของรูป-นามแล้ว ภาวนา เป็นอย่างไรแล้วแต่บุคคลละครับ
     
  13. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โอ้วขอบคุณมากครับ จะเอาไปทําดู แต่ผมเวลาไปข้างนอก มองไปทิศไหนก็สาวสวยๆ รูปสวย แต่ ใจไม่สวย (ดื่มเหล้า สูบบุหรี่) ผมก็พยายาม ไม่สน ไม่มอง แต่ความกําหนัด อยากมอง มันเลยมองไปสะงั้น
     
  14. roneychai

    roneychai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +156
    คิดในใจเลยว่า เรามองเค้าแล้วเราได้อะไรจากเค้าบ้าง

    หลวงปู่เนตรสอนว่า

    "เมื่อจิตไม่คลายออกจากกาม ฌานก็ไม่เกิดขึ้น"<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    อย่างธรมมดา....อยู่ในวิถีแห่งฝึกตน มันช่วยในเรื่องการตัดกาม

    อย่างเร็วจี๋ต้องเล่นของหน่อยนึงครับ

    ให้กินน้ำมะตูม และ แกงจืดฟัก เพราะน้ำมะตูม มักจะนิยมทำเป็น้ำปาณะ เพื่อให้พระฉัน ซึ่งจะช่วยลดความกำหนัดลง ส่วนฟักก็จะทำให้น้องชายไม่สู้งาน อันนี้เป็นความรู้ที่ได้มาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ฝากมาบอกด้วยจ้า
     
  16. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ถ้าเกิดอาการเเบบนั้น น้องคิดว่า

    เริ่มจากเดินตามไปเลย พอหาที่ลับตาคนได้ ก็ วิ่งเข้าไปต่อยท้อง บริเวณลิ้นปี่ เเล้วใช้ เเป๊ปเหล็กหวด ลงตรงช่วง ท้ายทอย เเล้วใช้ไม้หน้าสาม ติด ตะปู เเปดนิ้วตีซํ้าที่ หน้าผากอีกที ใช้ ผ้าที่เตรียมมามัดปาก กันเขาร้องให้คนช้วย

    หลังจากนั้นก็ จิกผมลากกลับมาบ้าน เอาไฟฟ้าจี้ เเถวๆต้นขา เเล้วเอาคีมปากจิ้งจก ถอด ฟัน ออกทีละซี่ ถ้าเกิดเหยื่อร้องไห้กระจองอเเง ให้ จับไปกดนั้าร้อน จัดๆ เอาเเค่พอสลึมสลือ เเล้ว ลากกลับมา
    เอา เข็ม ตอกเข้าไปบริเวณ เล็บ กับ เนื้อของนิ้วมือ ทีละนิ้ว ทีละนิ้ว

    จากนั้นค่อยลงมือ ควัก ลูกตาออกมาปั่นรวมกับ โยเกิตรสสตรอเบอรี่ เติม นั้ามะขามหนึ่งช้อนช้า เเล้วดื่มกิน บํารุงกําลัง หลังจากนั้นก็ ค่อยๆ ถลกหนัง เริ่มจาก เท้่่่า ขึ้นมาจนสุดที่ หัวคิ้ว จากนั้นเอาเกลือทา ตาม ลงไปอีกที เเล้วค่อยใช้ลิ้น เลียตามบาดเเผล ชิมดู จนหนําใจ เเล้วจึง เอาโซดา ไฟ ราดตามตัวอีกที

    เพียงเท่านี้ อาการหื่น ต่างๆที่เกิดขึ้นกับคุณก็จะหายไป

    เเต่ถ้ายังเหลืออาการดังว่าอยู่ ก็ ให้ หาเหยื่อมากระทําซํ้า บ่อย วันละสองถึงสามคน ลองดูค่ะ

    เเต่ถ้ายังไม่หาย จริงๆ น้องว่า หาเมียซักคน ก็ คงจะดีไม่น้อย เจ้าค๊าาาาาา
     
  17. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    OH MY GOD แนะนำดีจังเน้อน้องภา เดี๋ยวน้องเขาทำตามแล้จะโทษใครเล่า โทษกรรมหรา
     
  18. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ไม่ดีมั้ง อิอิ ทําแบบนั้นไม่ดีหรอกอิอิ หาศพคนตายมาทํายังดีกว่า
     
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    สิ่งที่ นราสภา เขียนออกมา ก็ไม่ใช่ว่า จะเกินความเป็นจริง ของ "หื่น"

    การจัดการกับ อารมณ์ "หื่น" ซึ่งเป็น ธรรมามรณ์ที่ออกมาจาก "สังขารขันธ์"
    ไม่ใช่ออกมาจาก กายภาพ ความต้องการทางเพศ ธรรมดาๆ แต่มาจาก

    "สังขารขันธ์" ซึ่ง ในทางธรรมหมายถึง มันออกมาจาก พฤติกรรมที่ชื่น
    ชอบ(ผู้กระทำ) หรือ รังเกลียด(ผู้ถูกกระทำ) หรือ ทำแสร้งว่าเฉย(พวกนักเขียน
    ,นักบรรยาย) ซึ่งมีมาแต่อดีตกาลนานโพ้น หาที่มาไม่ได้ หาปริมาณไม่ได้

    เช่น ตอนเกิดเป็น สัตว์เดรัจฉาน ก็จะเกิดเหตุปัจจัยสะสม ความพอใจในการ
    กระทำ หรือ รังเกลียดการถูกกระทำ ก็จะสะสม "หื่น" ไว้ลักษณะหนึ่ง

    แล้ว ตอนเกิดเป็น เปรต ก็จะเกิดเหตุปัจจัยสะสม ความพอใจในการเสพการทำ
    หรือ รังเกลียดการถูกกระทำ ก็จะสมสม "หื่น" ไว้พันลึกอีกลักษณะหนึ่ง

    พอมาเกิดเป็นคน สิ่งที่ยินดียินร้าย เที่ยว "อิอิ" โดยไม่ระมัดระวัง ก็จะ รับเอา
    ปัจจัยที่เขาถ่ายทอดเอาไว้ ไม่ใช่ของตัวไปเก็บไว้เสมอกับที่เขาทำมา จมทิ้ง
    ไว้สุดใจอีกลักษณะหนึ่ง

    แล้วก็เวียนว่ายตายเกิด มีพฤติกรรมซ้ำซากในการ "หื่น" มาไม่เคยหยุด

    การแก้ "หื่น" ด้วย อสุภะ หรือ พิจารณากาย นอกจากจะไม่ได้ผล ก็อาจจะ
    ยิ่งเสริมให้ "หื่น" พิศดารซ้ำซ้อนขึ้นไปอีก

    การแก้ "หื่น" จึงต้องแก้ด้วยปัญญา พิจารณาถึง เหตุปัจจัยที่จะนำมาซึ่ง
    โทษเป็นเอนกอนันต ไม่มีวันจบสิ้น และ ยิ่งลึกเรื่อยๆ หากปล่อยให้ มันปรากฏ
    แล้วใจเราไปเผลอหยิบมา "ยินดี ยินร้าย" แทนการ พิจารณาซึ่งโทษ

    ทั้งนี้ จากการที่มันเป็น "สังขารขันธ์" พฤติกรรมที่เคยชื่นชอบฯ ในอดีต มันมี
    เหตุปัจจัยจาก "อวิชชา" "อวิชชา ปัจจยา สังขารา" การแก้ด้วยกรรมฐาน
    ธรรมดาๆ จึงไม่มีทางแก้ได้

    สิ่งที่จะแก้ อวิชชาได้ก็คือ "วิชชา" หรือ "ปัญญาอันยิ่ง" พิจารณาเห็นซึ่งโทษอันเผ็ดร้อน

    พิจารณาเฉยๆ ว่ามันเผ็ดร้อน อย่างไร ยาวนานแค่ไหน แต่ อย่าทำ สะดิ้ง อย่า
    แสร้งทำตัวเป็นคนดี อย่า "ตั้งตน" เพื่อรับสนองความดีไว้แต่ต้น เพราะมัน
    จะพิจารณาแล้ว ก็ทำ สะดิ้ง จิตสะดิ้งนิดเดียว ปัญญาที่พิจารณาอยู่ ก็ผลิกเป็น
    อวิชชา ฝังกลบ "หื่น" ซ้ำซ้อนทันที ยิ่งพิจารณาโดยเอา"ตน"ตั้งไว้ เพื่อทำ
    สะดิ้ง เพื่อแสร้งพูดว่าข้าคือคนดี ข้าจะดีให้ได้ อะไรทำนองนี้ จะโดนมันหลอก

    บางคน จึงพิจารณาแล้วก็ เสร็จมัน พอรู้ตัวอีกที่ ก็เข้าคุกรอวันประหาร หรือ กลาย
    เป็นเปรตหรือ กลายเป็นเดรัจฉาน ไปแล้ว

    ให้พิจารณา เห็นเหตปัจจัย ซึ่ง ทุกข์ และ โทษ อันเผ็ดร้อน ด้วยจิตตั้งมั่น เป็นกลาง
    ทั้งในกาย(ผัสสะภายนอก)อันไม่เกินกายตน(อยานตนะก็เรียก,ขันธ์ก็เรียก)
    ในใจตน(ผัสสะภายใน, นามรูปก็เรียก ) แยกรูป แยกนาม ให้ได้ ปัญญา ที่พิจารณา
    นั้นถึงจะเป็น ปัญญา และ สมังคีเป็น วิชชา ในที่สุด ถึงจะแก้ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2011
  20. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ลักษณะ ของ "หื่น" จะแตกต่างจากการ "ชอบสาว" เพราะ การชอบสาว
    นั้น เป็นเรื่องของ จิตปฏิภัทร คือ รู้สึก ผูกพัน อยากครองชีวิตคู่ร่วม อยาก
    จะคอยเอาใจ

    หื่น เป็น พฤติกรรมที่ต่างจาก ชอบสาว แบบ ธรรมดาๆ

    คนที่มี พฤติกรรมโดน "หื่น" ครอบงำ มายาวนาน สังเกตได้จาก เวลาเขา
    พูดอะไร ที่ดูดี มีสาระ ก็ชอบใจ อยากได้ อยากครอง แต่จะ ขาดการตอบ
    แทนคุณ ไม่รู้คุณ

    เช่น

    ไปห้อง พุทธภูมิ เห็นเขาพูดกันเรื่อง พุทธภูมิ ก็อยากเป็นบ้าง แต่เวลากล่าวก็
    จะพูดว่า ข้าเป็น ทั้งๆที่ พึงเคยสดับ รู้จัก และ พึ่งอยากจะเป็น แต่เวลาไปพูด
    ก็บอกคนอื่นว่า ข้าเป็นฯ อย่างนี้ คือ "หื่น" ย่ำยีแบบไม่รู้คุณค่า

    ไปห้อง กรรมฐาน เห็นเขาพูดเรื่อง การปฏิบัติกรรมฐาน ก็อยากบ้าง แต่เวลา
    กล่าวก็บอกสิ่งที่เกินความเป็นจริง เกินสิ่งที่ตนปฏิบัติ ยิ่งขอคำแนะนำก็ยิ่ง
    ได้สิ่งลวงตาไม่จริง พอได้จังหวะเหมาะ ก็บอกว่า ข้าเป็นฯ ข้าทำกรรมฐาน
    นี้ได้ อย่างนี้คือ "หื่น" ย่ำยีแบบไม่รู้ทำอะไรไปเพื่ออะไร ไม่รู้คุณค่า

    และเนื่องจาก เป็นการทำแบบ ไม่รู้ทำอะไรเพื่ออะไร ไม่รู้คุณค่าตามความ
    เป็นจริงๆ พฤติกรรมแบบ เปรต ก็จะเข้าครอบงำ จะเน้น การทำมากเพื่อ
    ยกเรื่อง ปริมาณว่า ข้าทำมามาก ข้าทำแบบหามรุ่งหามค่ำ ข้าทำแบบ
    ดีเยี่ยมมากกว่าใครๆ อันผู้อื่นจะประณามไม่ได้ แบบนี้ คือ พฤติกรรมอย่าง เปรต
    เน้นปริมาณเข้าว่า เนื่องจาก ไม่รู้คุณค่า ไม่รู้ว่า ทำอะไรเพื่ออะไร นั่นเอง

    เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...