นักวิชาการแนะ ป้องกันตนเอง จาก PM2.5

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 21 มกราคม 2020.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    0b8b2e0b881e0b8b2e0b8a3e0b981e0b899e0b8b0-e0b89be0b989e0b8ade0b887e0b881e0b8b1e0b899e0b895e0b899.jpg
    กาญจนบุรี – อ.สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ ม.มหิดล แนะวิธีป้องกันตนเองเบื้องต้น และวิธีตรวจสอบข้อมูล พร้อมทั้งการเลือกอุปกรณ์ป้องกันตนเอง จาก PM2.5

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอริกา พฤฒิกิตติ อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ) มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ได้เปิดเผยว่า จากที่มีรายงานดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) เผยแพร่ทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในรูปแบบที่ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป เพื่อได้รับทราบถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่ว่าอยู่ในระดับใด มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่นั้น

    สำหรับในส่วนของ พื้นที่ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ความเสี่ยงของบุคลากรและนักศึกษา และประชาชน ในพื้นที่ ในช่วงที่ระดับดัชนีคุณภาพอากาศบ่งชี้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพนั้น จะสามารถเห็นผลกระทบได้อย่างฉับพลันโดยสังเกตจาก อาการเจ็บป่วย เช่น โรคระบบทางเดินหายใจทั่วไป ได้แก่ เจ็บคอ ไอแห้ง จาม หายใจไม่สะดวก ง่วง มึนเหมือนนอนไม่เต็มที่

    บุคลากร นักศึกษาหรือประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้แก่ กลุ่มที่เป็นโรคหอบหืด โดยเฉพาะเพศหญิงและเด็กที่มักอ่อนไหวมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ บางคนรุนแรงถึงไอเป็นเลือดก็มีมาแล้ว ความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว หากไม่มีการแก้ไขปัญหาและปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ต่อเนื่อง

    ประชาชนจะมีความเสี่ยงต่อโรคที่รุนแรงมากขึ้น ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังต่าง ๆ, โรคหัวใจ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ/แตก รวมถึงความจำเสื่อม, เบาหวาน และส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กด้วย โรคภัยเหล่านี้มีรายงานทางวิชาการว่าเกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ

    คำแนะนำวิธีป้องกันในสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศระดับที่น่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ (แนะนำให้พิจารณาจาก AQI ของไทย มากกว่า 100 หรือ US AQI มากกว่า 150)

    1 งดกิจกรรมที่ใช้แรงงานหรือออกกำลังกายภายนอกอาคาร เนื่องจากต้องลดการรับสัมผัสฝุ่นละออง 2. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจส่วนบุคคลเมื่อออกภายนอกอาคาร ได้แก่ หน้ากากป้องกันฝุ่น ทั้งนี้ N95 เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

    แต่ค่อนข้างราคาสูง อาจเลือกแบบที่ขายในท้องตลาดทั่วไปที่ดูน่าเชื่อถือ โดยพิจารณาเบื้องต้น ดังนี้ 1.) สวมใส่กระชับ ไม่มีรอยรั่วระหว่าง หน้ากากกับผิวหนัง 2.) หายใจสะดวกแต่ควรมีแรงต้านเวลาหายใจบ้าง ส่วนเรื่องการวัดประสิทธิภาพสินค้านั้น ตรวจสอบทันทีได้ยาก 3. ดื่มน้ำมาก ๆ และ รับประทานอาหารที่เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย เช่น วิตามินซี ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นต้น

    สำหรับ แหล่งข้อมูลติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ณ เวลาปัจจุบัน บุคลากร นักศึกษา และประชาชนทั่วไป สามารถติดตามข้อมูลเบื้องต้น ได้ที่

    1. เว็บไซด์ air4thai ของกรมควบคุมมลพิษhttp://air4thai.pcd.go.th/webV2/region.php?region=7 ให้ข้อมูลระดับสารมลพิษที่ตรวจวัด ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของไทย และแสดงข้อมูลเป็นดัชนีคุณภาพอากาศ AQI ของไทย ซึ่งระดับที่น่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพแนะนำไว้ที่ AQI ไทย > 100
    2. AirVisual App ขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ให้ข้อมูล US AQI จากการคำนวณโดยพิจารณา ค่า PM2.5 อย่างเดียว ซึ่งระดับ US AQI PM2.5 แนะนำไม่ควรเกิน 150 (ทั้งนี้ AQI ของไทย และ US AQI คำนวณต่างกัน) โดยข้อมูลจาก AirVisual เหมาะสำหรับใช้ประเมินผลกระทบต่อสุขภาพตนเองในระดับเบื้องต้น แต่อาจมีข้อจำกัดการใช้งานข้อมูลด้วย

    8b2e0b881e0b8b2e0b8a3e0b981e0b899e0b8b0-e0b89be0b989e0b8ade0b887e0b881e0b8b1e0b899e0b895e0b899-1.jpg

    8b2e0b881e0b8b2e0b8a3e0b981e0b899e0b8b0-e0b89be0b989e0b8ade0b887e0b881e0b8b1e0b899e0b895e0b899-2.jpg


    ขอบคุณที่มา
    https://mgronline.com/local/detail/9630000006798
     

แชร์หน้านี้

Loading...