บทสวดเหมือนกันแต่คนสวดต่างกันผลก็ผิดแผก

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 25 กรกฎาคม 2023.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    0CE925F8-2F81-46CA-A635-EC4602A56903.jpeg

    บทสวด
    ที่ให้ผลข้ามชาติ
    ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในสังสารวัฏ
    มีอยู่จริง

    อย่างไรก็ดาม
    บทสวดเหมือนกัน
    แต่คนสวดต่างกัน
    ผลก็ผิดแผกเป็นคนละเรื่อง

    อย่างเช่นพระจุนทะ
    ซึ่งเป็นหนึ่งในพระสาวกระดับอัจฉริยะ
    สำเร็จอรหัตตผลตั้งแต่ยังเป็นสามเณรนั้น
    ครั้งหนึ่ง ท่านรับใช้พระพุทธองค์คราวทรงประชวรหนัก
    พระพุทธองค์ก็ทราบด้วยพระญาณว่า
    จะมีพลังรักษาอันใด ที่ทำให้ทรงหายประชวรได้
    ท่านสั่งพระจุนทะให้สาธยายมนต์เกี่ยวกับโพชฌงค์
    คือ พูดถึงการจะได้ตรัสรู้ธรรมว่า
    ต้องขึ้นต้นด้วยสติ
    สตินั้นต้องใช้ไปในการพิจารณาธรรมอย่างมีความเพียร
    เพียรจนเกิดปีติ เกิดความสงบระงับ จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ
    เป็นกลาง รู้ตามจริงอย่างลึกซึ้งจนพ้นอุปาทานได้

    พระอรหันต์เช่นพระจุนทะ
    แสดงธรรมอันจะยังผลให้เกิดการตรัสรู้แก่สรรพสัตว์อยู่
    ย่อมบังเกิดความสว่างโลก
    และความสว่างโลกนั้น
    ก็มีพลังยิ่งใหญ่พอจะสมน้ำสมเนื้อ
    คู่ควรให้รักษาอาการอาพาธของพระพุทธเจ้าได้

    แต่ปัจจุบันมีการนำการแสดงธรรมเพื่อการตรัสรู้
    มาเรียกกันเป็นบทสวดศักดิ์สิทธิ์
    คือ โพชฌังคปริตร ซึ่งเชื่อกันว่า
    ใครก็ได้ สวดให้คนป่วยฟังแล้วจะหายป่วย
    อันนี้เป็นความเชื่อที่คลาดเคลื่อน
    เพราะถ้าผู้สวดไม่มีศีล ไม่มีธรรมจากการเจริญสติ
    ไม่รู้ว่าจะหลุดจากอุปาทานในตัวตนอย่างไร
    พลังก็ไม่สว่างพอจะปัดเป่าบรรเทาไข้ให้ใครได้

    เช่นกัน บทสวดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
    ช่วยปกป้องคุ้มครองจากภัยบาปได้ในปัจจุบัน
    แล้วก็ช่วยนำร่องไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ในอนาคตนั้น
    มีอยู่ และหลายคนสวดกันทุกเมื่อเชื่อวัน
    แต่สวดกันแบบนกแก้วนกขุนทอง
    จึงไม่ค่อยเกิดผลเท่าใด
    บทสวดนั้น คือ ไตรสรณาคมน์
    ข้าจะยึดพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์เป็นสรณะ

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    บทนี้ถ้าสวดแต่ปาก
    ก็ได้แค่ความสว่างระดับปาก
    กล่าวคือ ปากว่าคำศักดิ์สิทธิ์
    แต่จิตไปไม่ถึงความศักดิ์สิทธิ์
    ใจไม่เปิดรับพุทธคุณ ธัมมคุณ และสังฆคุณ
    เพราะขาดต้นทุน ขาดฐานที่จะรองรับของสูงระดับนั้น

    แต่หากผู้สวด เป็นผู้มีศรัทธาตั้งมั่น
    เคยตั้งใจรักษาศีลแล้วรักษาได้
    เรียกว่ามีทุน มีความเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าบ้างแล้ว
    พอสวดบทไตรสรณคมน์ ยิ่งบ่อยขึ้นเท่าไร
    ก็ยิ่งเกิดทิศทางความเป็นพุทธมากขึ้นเท่านั้น
    ผลแห่งความเป็นพุทธ คือ เส้นทางกรรมที่โปร่งสบาย
    ใจรู้สึกหายหนัก หายกังวล หายกลัว
    และมองไปข้างหน้า รู้สึกว่าวันหนึ่งจะถึงความปลอดภัยจริง

    ยิ่งหากเป็นผู้ศึกษาธรรม เป็นผู้เจริญสติ
    กระทั่งเห็นกายใจไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวเดิม ไม่ใช่ตัวของตน
    อย่างน้อยแยกออกว่านั่นสักว่ารูป นี่สักว่านาม
    เมื่อสวดบทนี้ ก็จะเกิดพลังเจตจำนงที่แน่วแน่
    ชนิดที่เกิดกับผู้สวดทั่วไปไม่ได้
    กล่าวคือ แม้สวดบทไตรสรณคมน์สั้นๆครั้งเดียว
    ก็บังเกิดความสว่างศักดิ์สิทธิ์
    คุ้มครองตนและคนใกล้ตัว
    อาจจะยิ่งกว่าคนอื่นสวดบทอื่นยาวๆร้อยรอบ

    นอกจากจะเกิดเกราะแก้วในระยะสั้น
    ยังรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณทางจิตว่า
    ถ้าสวดบทนี้ด้วยใจตั้งมั่นแล้ว
    ก็จะเกิดสัญญาณนำร่อง
    นำความปลอดภัยไปสู่ฝั่งแห่งการพ้นทุกข์
    ในอนาคตกาลอย่างแน่นอนด้วย!

    ---------------

    เป็นบทความของคุณดังตฤณอ่านแล้วชอบมาก

    ที่มาของบทความ:
    https://www.facebook.com/1000039461...c4GbXau5JnropJkZBYPLZcf9XnYl/?mibextid=r5uJeJ
     

แชร์หน้านี้

Loading...