ประวัติของ พรีเดเตอร์ ที่ทุกคนยังไม่รู้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Rasputin, 1 มีนาคม 2010.

  1. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    พรีเดเตอร์ คืออะไร?

    - พรีเดเตอร์ หรือ ย้วดจา (Yautja) เป็นเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่มีเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง โดยพวกเขาจะชื่นชอบการล่าเป็นชีวิตจิตใจ ในแต่ละวัน พวกมันจะเดินทางไปยังดวงดาวแต่ละดวง เพื่อแสวงหาคู่ต่อสู้ที่คู่ควร ในสังคมของย้วดจาจะแบ่งเป็นแคลนต่างๆ แต่ละแคลนจะมีผู้นำของตน ทางกายภาพย้วดจาเป็นนักปืนป่ายที่เก่งกาจ มีร่างกายที่ยืดหยุ่นต่ออาการเจ็บปวด หูของมันยังแยกแยะเสียงได้อย่างหลากหลาย และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงพอที่จะใช้มือต่อยคอนกรีตให้แหลกได้ อีกทั้งยังสามารถกระโดดได้สูงอีกด้วย พวกเขาจะคล่องแคล่วเป็นพิเศษเมื่อเคลื่อนที่ผ่านที่สูงอย่างต้นไม้ หรือหลังคาบ้าน การมองเห็นพื้นฐานของย้วดนั้นเป็นสีดำแดง มันสามารถรับรู้ความร้อนที่ออกมาจากร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้ แต่การมองเห็นนี้ก็มีข้อจำกัดมากมาย ร่างกายของพวกมันต้องการออกซิเจนมากกว่ามนุษย์ 1% และไนโตรเจนมากกว่ามนุษย์ 4% แม้บรรยากาศบนโลกมนุษย์จะไม่ทำให้พวกมันถึงตาย แต่ย้วดจาที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศบนโลกอาจจะต้องสวมหน้ากากไว้ตลอดเวลา

    ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ , พรีเดเตอร์ และซีโนมอร์ฟ
    - พรีเดเตอร์เดินทางยังโลกครั้งแรก เมื่อ 2997 ปีก่อนคริสตกาล บนทวีปที่ปัจจุบันคือ แอนตาร์กติกา พรีเดเตอร์ได้มอบความรู้ในการก่อสร้าง และวัฒนธรรมต่างๆ ให้แก่มนุษย์ และมนุษย์ก็ยกย่องเคารพพวกเขาในฐานะเทพเจ้า ในทางกลับกันมนุษย์จะทำพิธีบูชายัญต่อเทพเจ้าเป็นการตอบแทน ซึ่งการบูชายัญเหล่านี้ คือ การเป็นร่างฝักตัวให้กับซีโนมอร์ฟนั้นเอง ความสัมพันธ์ระหว่างซีโนมอร์ฟ และย้วดจาไม่ทราบแน่ชัด แต่อย่างไรก็ตามอารยธรรมของย้วดจาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาหลังยุคของ Space jockey สิ่งที่เป็นไปได้ คือ พวกเขาค้นพบซีโนมอร์ฟบนดาวเคราะห์ที่ใดสักแห่ง ด้วยความแข็งแกร่ง ดุร้าย และคุณสมบัติที่ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตใด คือ การเปลี่ยนแปลง DNA ไปตามโฮสต์ที่ฝักตัว ทำให้มันกลายเป็นสัตว์ยอดนิยมที่ถูกใช้ในเกมส์กีฬาของพวกย้วดจา เพราะ ซีโนมอร์ฟที่ฝักตัวในสิ่งมีชีวิตจะได้รับคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตนั้นมาด้วย นั่นหมายความว่า ซีโนมอร์ฟที่ฝักตัวในสิ่งมีชีวิตที่ต่างกัน จะมีวิธีรับมือที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งถือว่า เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่แอนตาร์กติกานั้น พวกย้วดจาจะส่งนักรบฝึกหัดมาเข้าพิธีบรรลุนิติภาวะทุกๆร้อยปี เมื่อนักรบฝึกหัดสามารถสังหารซีโนมอร์ฟได้ พวกเขาจะนำเลือดที่เป็นกรดของมันมาทาเป็นสัญลักษณ์ลงบนหน้ากาก และหน้าผากของตน ยิ่งหน้ากากมีลวดลายมากเท่าใด นั้นแสดงให้เห็นว่า ย้วดจาตัวนั้นผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน และมีฐานะทางสังคมอันสูงลิ่ว แต่แล้ว พิธีกรรมครั้งหนึ่งก็จบลงด้วยการนองเลือด เมื่อซีโนมอร์ฟหลุดรอดออกไปนอกพีระมิดพร้อมกับไข่ราชินี นั้นทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่จนคุมไม่อยู่ พวกซีโนมอร์ฟได้เพิ่มจำนวนจนครอบคลุมทั้งทวีป และในเวลาอีกไม่นานจะเป็นโลกทั้งใบ ย้วดจาหลายตัวลงมาช่วยหยุดยั้งหายนะที่เกิดขึ้น แต่สุดท้าย พวกเขาก็ถูกสังหารเรียบ พวกเขาจึงตัดสินใจยุติปัญหาขั้นเด็ดขาด คือ การใช้ระเบิดนิวเคลียร์กวาดล้างทั้งทวีปไปพร้อมกับทุกชีวิตบนพื้นแผ่นดิน นั้น เมื่อเรื่องยุติลง ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ และย้วดจาก็ได้จบลง มนุษย์เพียงหยิบมือที่รอดชีวิตก็ได้แยกย้ายกันไปก่อตั้ง 3 อารยธรรมใหญ่ตามความรู้ที่ได้รับการสืบทอดมาจากย้วดจา บนทวีปที่แตกต่างกัน อันได้แก่ อียิปต์ในทวีปแอฟริกา แอซแท็คในทวีปอเมริกา และกัมพูชาในทวีปเอเชีย ในปัจจุบัน ย้วดจามองมนุษย์เป็นเพียงแค่เหยื่อสำหรับการล่า แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์ก็มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมแคลนของย้วดจาด้วยเช่นกัน หากคนๆนั้น แสดงความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญให้เป็นที่ประจักษ์ได้ มนุษย์ยังสามารถเลื่อนตำแหน่งจนเป็นถึงผู้นำแคลนได้ด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่า ย้วดจาไม่ได้เป็นนักล่าที่ไร้เหตุผล แต่พวกเขาเคารพความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญเหนือความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ (แต่ก็มีบางตัวที่เป็นพวกเหยียดเผ่าพันธุ์ และชอบฆ่าไม่เลือกหน้าเหมือนกัน ซึ่งก็คงคล้ายๆสังคมมนุษย์ที่มีหลากหลายอารมณ์ และอุปนิสัยนั่นแหละ)

    เกียรติยศและศักดิ์ศรีนักล่า
    - สำหรับพรีเดเตอร์ถือว่า หน้ากากเป็นตัวแทนของตน พรีเดเตอร์แต่ละตัวจะมีหน้ากากเพียงชิ้นเดียว และจะอยู่ติดตัวไปจนวันตาย การถูกแย่งชิง หรือ ทำหาย(ข้อนี้ไม่น่าจะมี) เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และเสื่อมเสียเกียรติเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ในการล่าแต่ละครั้ง พรีเดเตอร์จะมีการถลกหนัง และตัดศีรษะของเหยื่อเพื่อแสดงถึงอำนาจ และอวดความสามารถของตนอีกด้วย ยิ่งเหยื่อดุร้าย แข็งแกร่งมากเท่าไร เกียรติยศที่ได้ก็ยิ่งเพิ่มมากตามไปด้วย หนึ่งในกะโหลกที่มีเกียรติสูงสุด และคู่ควรแก่การครอบครองมากที่สุด คือ กะโหลกศีรษะของซีโนมอร์ฟ หรือ เอเลี่ยนที่พวกเรารู้จักกันนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีอยู่เหมือนกัน โดยพวกเขาจะไม่ล่าสัตว์ที่ยังเยาว์วัย รวมไปถึงสัตว์ที่กำลังท้อง เครื่องหมายทางเกียรติยศอีกอย่างหนึ่งของพวกเขา คือ นากินาตะ (Naginata) รูปร่างของมันคล้ายหอก มันเป็นได้ทั้งอาวุธ และเครื่องหมายที่แสดงถึงยศฐานบรรดาศักดิ์ ในกลุ่มย้วดจาชั้นสูงจะมีนากินาตะที่สร้างขึ้นอย่างประณีต และสวยงามกว่าชนชั้นทั่วไป

    [​IMG]
    หล่อไหม?

    หมายเหตุ : เมื่อดูจากพรีเดเตอร์ทั้งสองภาค เราจะเห็นได้ว่า เหยื่อส่วนใหญ่เป็นมนุษย์ที่มีการฝึกฝนอย่างเช่น ทหาร หรือ โจรที่แสดงถึงความดุร้ายและป่าเถื่อน ไม่ค่อยได้เห็นพรีเดเตอร์ล่าชาวบ้านธรรมดาที่ปราศจากอาวุธกัน นั้นแสดงให้เห็นว่า สัตว์ยิ่งดุร้ายและอันตรายมากเท่าใด ยิ่งคู่ควรแก่การล่ามากเท่านั้น

    ลำดับบรรดาศักดิ์ของเหล่านักล่า
    - Non hunters หรือ ผู้ที่ไม่ใช่นักล่า ในสังคมของย้วดจาไม่ใช่ทุกตัวที่ชื่นชอบการล่า กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยออกล่าด้วยเหตุผลต่างๆนานา (บางตัวอาจเพราะ ความกลัว หรือพูดง่ายๆว่า ขี้ขลาด -_-”) พวกเขาเป็นพวกที่สังคมรังเกียจ และมียศต่ำที่สุดในทางสังคม แต่ถึงกระนั้นนี้ก็ยังไม่ใช่กลุ่มคนที่เลวร้ายที่สุดของเผ่าพันธุ์ ซึ่งจะกล่าวต่อไป

    - Unblooded เป็นย้วดจารุ่นเยาว์ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว และเตรียมเข้าสู่พิธีบรรลุนิติภาวะ (พรีเดเตอร์สามหน่อ ที่ยกขโยงกันมาใน AVP ภาค 1 อยู่ในกลุ่มนี้แหล่ะ) โดยพวกเขาจะต้องผ่านการล่าจริงหนึ่งครั้ง จึงจะได้เลื่อนยศเป็น Blooded อย่างเต็มตัว

    - Blooded เมื่อผ่านการทดสอบมาแล้ว ย้วดจาคนนั้นจะได้เข้าร่วมกับแคลนของพวกเขา ในระหว่างนี้ พวกเขาจะเริ่มต้นการล่าอย่างจริงๆจังๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

    - Warriors ย้วดจาในกลุ่มนี้เป็นพวกนิยมความรุนแรง รักสันโดษ พวกเขาไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับแคลน และออกมาล่าตัวคนเดียว ย้วดจาในกลุ่มนี้ มักจะมีทักษะสูง และเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธ (ไม่งั้นคงไม่กล้าออกมาสดเดี่ยวหรอกจริงไหม)
    หมายเหตุ : พรีเดเตอร์ตัวที่ซัดกับอาร์โนลด์ ในภาค 1 น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้

    - Honoured เป็นกลุ่มสังคมของย้วดจาชั้นหัวกะทิ ย้วดจาในกลุ่มนี้ล้วนผ่านการล่ามากว่า 100 ครั้ง มีประสบการณ์สูง โดยแต่ละคนจะมีนากินาตะอันงดงามประจำตัวอยู่

    - Elders ย้วดจาในกลุ่มนี้ คือ นักล่าในระดับสุดยอด ย้วดจาในตำแหน่งนี้จะเป็นผู้นำของกลุ่มแคลนนั้นๆ แต่ละคนล้วนผ่านการล่ามามากกว่าพันครั้ง มีกะโหลกศีรษะเก็บสะสมไว้เป็นโกดัง และมักจะมีกะโหลกของควีนเอเลี่ยนไว้ประดับฝาบ้าน ย้วดจาเหล่านี้มักสวมผ้าคลุมสีแดงไว้บ่งบอกถึงฐานะอีกด้วย

    - Arbitrators ย้วดจาเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนตำรวจที่คอยดูแลรักษาความเรียบร้อยต่างๆ และคอยคุ้มกันย้วดจาชั้น Elders อยู่ข้างๆ

    - Bad bloods หากพรีเดเตอร์ที่คุณรู้จัก คือ เหล่านักล่าผู้มีเกียรติ และศักดิ์ศรี กลุ่มย้วดจาเหล่านี้จะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณรู้จักทั้งสิ้น Bad
    bloods คือ กลุ่มย้วดจาที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ไม่สนใจในกฎเกณฑ์ และศักดิ์ศรีใดๆทั้งสิ้น พวกมัน คือ จุดด่างพร้อยของเผ่าพันธุ์ และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเหล่า Arbitrators ที่คอยตามล่าย้วดจานอกรีตเหล่านี้

    [​IMG]

    ภาษาของเหล่าย้วดจา

    สำหรับผู้ที่สนใจในภาษาของย้วดจา เชิญศึกษาขั้นเบื้องต้นจากรูปด้านล่างได้เลย
    ปล.อย่าถามวิธีออกเสียงภาษาย้วดจาจากผมเลยครับ เพราะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าที่มันขู่ฟ่อๆกัน มันมีความหมายว่ายังไง ^^

    [​IMG]

    บทบาทของเหล่าย้วดจาเพศเมีย

    ในสังคมย้วดจา เพศเมียจะทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกอยู่บนดาวบ้านเกิด หรือบนยานแม่ แต่อย่าคิดว่า พวกเธอทำอะไรไม่เป็นน่ะ ในสังคมของย้วดจาก็เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเหล่านี้ได้มีโอกาสล่าเพื่อ Trophies ของตนเองเหมือนกัน กล่าวกันว่า ย้วดจาเพศเมียแข็งแรงกว่าเพศผู้เสียอีก บางตัวมีการสังหารคู่สมรสของตนด้วย (จากข้อความดังกล่าว ทำให้ได้ข้อสันนิษฐานว่า ย้วดจาหลายตัวน่าจะเป็นพวกกลัวเมีย) แคลนของเพศเมียจะประกอบไปด้วยลูกสาว แม่ และย่า และในกลุ่มแคลนนักล่าหลายกลุ่มมีเพศเมียเป็นผู้นำ เพียงแต่เพศเมียไม่ชอบออกล่าเพื่อเกียรติยศแบบเพศผู้ซักเท่าไร

    เหอๆ พรีเดเตอร์กลัวเมีย

    [​IMG]

    ยานอวกาศของเหล่าย้วดจา

    MAN’DACA – Migratory Craft หรือแปลตรงตัวว่า ยานอพยพ

    [​IMG]

    ภายในยานแมนดาคา ประกอบไปด้วยนักล่า รวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาตั้งแต่เด็กไปจนถึงเพศเมีย และมักจะมีช่างซ่อม-ตีอาวุธอยู่ด้วย แต่ละแคลนจะมียานรูปร่างแตกต่างกัน ยานแมนดาคาไม่ค่อยลงจอดที่พื้นผิวดวงดาว นอกจากเวลาเกิดสงคราม ตัวยานแบ่งได้เป็นสองชั้นหลักๆ ที่ชั้นล่างจะค่อนข้างสกปรก ไม่มีที่นอน ใช้เป็นที่เตรียมอาหาร ส่วนชั้นบนจะกว้างขวาง สะดวกสบาย และมีห้องพัก ย้วดจาที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในยานลำนั้น จะได้รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการเพื่อเริ่มต้นการออกล่า ในบางครั้งก็สร้างสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นมาเอง โดยในยานแมนดาคาจะมีไข่ของซีโนมอร์ฟเก็บอยู่ (ในยานบางลำอาจจะมีควีนอยู่ด้วย) ย้วดจาจะค้นหาดวงดาวที่เหมาะสม ต่อจากนั้น จะให้หุ่นดรอนนำไข่ประมาณ 6-12 ฟอง ลงไปยังพื้นผิวดวงดาว และรอคอย เมื่อซีโนมอร์ฟเจริญสู่ขั้นสุดท้าย หุ่นดรอนจะส่งสัญญาณกลับมายังยานแมนดาคา เหล่านักล่าผู้เตรียมพร้อมอยู่จะถูกส่งไปยังพื้นผิวดวงดาวด้วยกระสวยขนาด เล็ก และเริ่มต้นการล่า

    NER’UDA
    เนอร์อุดาเป็นกระสวยขนาดเล็ก สำหรับ 1 ที่นั่ง ใช้เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศ ก่อนจะถูกส่งออกจากยานแมนดาคา มันจะต้องติดตั้งตำแหน่งที่แน่นอนสำหรับการลงจอด ในระหว่างเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศมันจะเปลี่ยนทิศทางไม่ได้จนกว่าจะลงถึง พื้น ตัวยานนำมาใช้ใหม่ได้ และสามารถเดินทางออกพ้นแรงดึงดูดของโลกในเวลาไม่ถึง 2 นาที แต่ไม่สามารถล่องหนได้เหมือนยานแมนดาคา และยานแม่

    JAG’D’JA ATOLL – The Mothership
    ใน บางครั้งที่ต้องล่าในดินแดนที่ห่างไกลจากดาวบ้านเกิดมากๆ ยานเหล่านี้จึงได้ถูกสร้างขึ้น มันคือสุดยอดเทคโนโลยีทางอวกาศของเหล่าย้วดจา ยานแม่เป็นยานอิสระ และมีขนาดใหญ่โตอย่างน่าเหลือเชื่อ ภายในยานเปรียบได้กับเมืองขนาดเล็ก มีทั้งท่าเรือที่มียานแมนดาคานับร้อยๆลำตั้งตระหง่านอยู่ ร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงที่ทำการแคลน มีย้วดจามากกว่า 500 ตัวมา และไป อยู่เกือบตลอดเวลา สำหรับย้วดจาที่ต้องออกมาผจญภัยสุดโพ้นกาแล็กซี่แล้วเกิดอาการโฮมซิก มันเปรียบเหมือนบ้านที่ให้กลับมาพักผ่อนหย่อนใจ (บางตัวก็เป็นศพกลับมา) ที่แห่งนี้ เหล่าย้วดจายังสามารถหาซื้ออาวุธใหม่ๆ หาคู่ออกเดท รวมไปถึงแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกัน ยานแม่มักไม่เคลื่อนที่ไปจากจุดเดิมนัก ตัวยานยังติดตั้งเทคโนโลยีล่องหนไว้ด้วย

    [​IMG]

    ปกรณ์ต่างๆที่ติดตั้งบนยาน
    1. Radar blanketing : ยานของย้วดจาจะมีระบบป้องกันการตรวจจับโดยเรดาห์ โดยยานจะไม่ปรากฎบนเรดาห์ทุกชนิด ยกเว้น เซนเซอร์พิเศษของมนุษย์ที่ติดไว้กับยานรบชั้น Conestoga หรือสูงกว่าเท่านั้น (ยานรบมี 3 คลาส ได้แก่ Conestoga,Bougainville และ Razzia)
    2. Ghost Imager : ยานทุกชนิดสามารถรบกวนระบบจับเป้าของมิซไซล์ และสามารถหลบหลีกมันได้อย่างไม่ยากเย็น
    3. Turbocharger : ยานทุกชนิดสามารถบูสระบบ และเร่งความเร็วได้สามครั้ง (ลองนึกถึงไนโตรที่ใช้ในรถแข่ง คล้ายๆกัน) ยานเหล่านี้สามารถเร่งความเร็วได้เป็นสองเท่า เพียงแต่การบูสแต่ละครั้งจะมีผลแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น (3 คูณ 1 รวมแล้ว เร่งความเร็วได้ 3 ชั่วโมง)
    4. Reflective coating : อุปกรณ์ตัวนี้สามารถป้องกันความเสียหายจากเลเซอร์ได้ลงครึ่งหนึ่ง แต่ไม่มีผลต่ออาวุธพลาสมา
    5. Environment Protection : ยานของย้วดจาสามารถป้องกันผลจากสภาพแวดล้อมต่างๆได้ ทำให้พวกมันสามารถเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศของโลก ดวงอาทิตย์ รวมไปถึงใต้น้ำได้
    6. Remote Operation : ยานแต่ละลำมีระบบนักบินอัตโนมัติ แม้จะยิงปืนใหญ่โดยอัตโนมัติไม่ได้ แต่ตัวยานก็สามารถเดินทางหลบสิ่งกีดขวางต่างๆได้อย่างสบาย ในกรณีที่ไม่มีย้วดจาอยู่บนยาน ตัวยานเองสามารถรับคำสั่งให้ลงจอดทางรีโมทจากย้วดจาที่อยู่บนพื้นผิวดวงดาว ได้
    7. Mass Destruct Sequence : เมื่อถึงคราวจำเป็น ตัวยานสามารถทำลายตัวเองได้ ด้วยการเร่งปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ โดยย้วดจาต้องควบคุมระบบนี้ทางรีโมท หรือป้อนคำสั่งโดยตรงจากบนยานเท่านั้น แรงระเบิดจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมี 1 กิโลเมตรจนราบคาบ
    8. Self-Destruct : ระบบนี้ทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อย้วดจาเจ้าของยานตายลง ตัวยานจะทำลายตัวเองทันที เพียงแต่ยานจะไม่เกิดการระเบิดเหมือน Mass Destruct Sequence แต่จะสลายไปแบบไร้ร่องรอย
    9. Targeting Analyzer : ระบบนี้ช่วยให้ย้วดจาสามารถสแกนยานของฝ่ายตรงข้าม เพื่อตรวจสอบความสามารถในการรบ รวมไปถึงสัญญาณชีวิตภายในยานลำนั้นได้

    [​IMG]
     
  2. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    เดี๋ยวมาดพสต่อเรื่องอาวุธ แล้วต่อด้วยประวัติเอเลี่ยนครับ

    เป็นประวัติ พรีเดเตอร์ ในภาพยนต์น่ะครับ เดิมทีถูก เขียน เป็นนิยายก่อน แล้วก็มาเป็น หนังสือการ์ตูน แล้วก็หนัง แล้วก้อเกมส์ครับ เดี๋ยวจะมาโพสเรื่องอาวุธแต่ล่ะแบบของพรีเดเตอร์ต่อครับ แล้วก็ตามด้วยประวัติเอเลี่ยนครับ เพื่อเพื่อนเพื่อนจะเข้าใจหนังได้มากขึ้น
     
  3. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    อาวุธแต่ล่ะอย่างของ พรีเดเตอร์ครับ

    ข้อมูลอุปกรณ์ของย้วดจา
    - Bio mask (หน้ากากชีวภาพ)

    [​IMG]

    หน้ากากของพรีเดเตอร์ นอกจากเป็นเครื่องหมายของเกียรติยศแล้ว ยังถือได้ว่า เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากชิ้นหนึ่ง หน้ากากของย้วดจาติดตั้งอุปกรณ์ไว้มากมาย ทั้งหน้ากากกันแก๊ซพิษ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องแปลภาษา เครื่องขยายเสียง ระบบซูมและขยายภาพ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตรวจสอบเหยื่อของมัน ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์สแกนที่จะปล่อยรังสี X-ray ออกมา ในกรณีเหยื่อที่มันตรวจพบกำลังตั้งครรภ์ มันจะละเว้นคนๆนั้นไว้ และออกตระเวณหาเหยื่อคนอื่นต่อไป อุปกรณ์ยังสามารถวิเคราะห์ และตรวจสอบความหนาแน่นของวัตถุต่างๆได้อีกด้วย (ในภาค 2 จะเห็นพรีเดเตอร์กำลังสแกนปืนของเล่นที่เด็กถืออยู่ และผลที่ตรวจสอบได้ คือ ไม่มีภัยคุกคามต่อตัวเอง) รวมไปถึงอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ติดต่อกับย้วดจาตัวอื่นๆ หรือยานของตน นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องส่วนศีรษะไว้อีกด้วย แต่ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ หน้ากากเหล่านี้สามาถเปลี่ยนโหมดการมองเห็นได้ ตัวอย่างเช่น Thermal vision หรือโหมดตรวจจับความร้อน สำหรับตรวจจับอุณหภูมิในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ตัวอย่างเช่น มนุษย์ และเป็นส่วนที่เราเห็นได้มากที่สุดในภาพยนต์ โหมดที่สำคัญอีกรูปแบบหนึ่ง คือ EM vision เป็นโหมดที่ใช้ตรวจจับกระแสไฟฟ้า และมันถูกใช้เพื่อตรวจจับซีโนมอร์ฟโดยเฉพาะ มีทฤษฎีหลายประการที่ใช้อธิบายการทำงานของมัน เช่น การแยกแยะสเปกตรัมของรังสีอัลตราไวโอเลต หรือใช้การเปลี่ยนแปลงของความดันและความหนาแน่นอากาศเป็นตัวตรวจสอบ (เกิดขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต)
    อุปกรณ์เหล่านี้ยังมี ระบบเล็งเป้าไว้อีกด้วย เมื่อใช้คู่กับ Plasma cannon หรือ Smart disc ทันทีที่เปิดการทำงาน มันจะจับเป้าของสิ่งมีชีวิตที่ปรากฎในโหมดการมองเห็นนั้นทันที จุดบอดอย่างหนึ่งของโหมดการมองเห็นเหล่านี้ เมื่อเปิดการทำงานของโหมดใดโหมดหนึ่งแล้ว ย้วดจาตัวนั้นจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นได้โดยสิ้นเชิง ทำให้หลายครั้งพวกเขาต้องพลาดท่าในการต่อสู้ที่มีมือที่สามมาเกี่ยวข้อง
    หน้ากาก เหล่านี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า จะช่วยป้องกันการจู่โจมของเฟซฮักเกอร์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ช่วยได้ไม่มากนัก เพราะ การจู่โจมของเฟซฮักเกอร์สามารถทำลายหน้ากากได้อย่างไม่ยากเย็น

    ภาพ:Thermal vision

    [​IMG]

    EM vision

    [​IMG]


    - Cloaking device

    อุปกรณ์ชื้นนี้ใช้หลักการ เบี่ยงเบนของแสง ทำให้พวกมันดูโปร่งแสงจนคล้ายกับล่องหน (ปรากฎการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นได้ในสถานที่มีความร้อนจัด อย่างเช่น ในทะเลทราย เมื่อแสงถูกเบี่ยงเบนออกไปด้วยความร้อน จะเกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า mirage หรือภาพลวงตานั่นเอง ) แต่วงจรของอุปกรณ์ชิ้นนี้จะเสื่อมสภาพทันทีเมื่อสัมผัสกับน้ำ นอกจากนี้ มันไม่สามารถใช้หลอกตาซีโนมอร์ฟ และสัตว์อื่นๆที่ไม่ใช่การมองเห็นในการตรวจหาศัตรูได้

    [​IMG]

    - Sat-com
    อุปกรณ์ ชิ้นนี้ไม่มีอะไรมากมาย มันเป็นเครื่องตรวจหาตำแหน่ง และแสดงภาพเป็นโฮโลแกรม แต่โดยส่วนใหญ่ทำงานคล้ายกับระบบ GPS ของเรานั่นแหล่ะ

    [​IMG]

    อุปกรณ์ทำความสะอาดกะโหลก
    ไม่รู้จะเรียกชื่อยังไงดี แต่เอาเป็นว่า อุปกรณ์นี้จะช่วยปล่อยเอนไซม์ย่อยเนื้อออกมาละลายผิวหนังจนกะโหลกนั้นเกลี้ยงเกลาสวยงาม

    [​IMG]


    - Wrist blades
    เป็นอาวุธพื้นฐานที่ย้วดจาทุกตัว ต้องมี มันเป็นใบมีดสองคมติดอยู่ที่หลังมือ แต่ละชิ้นจะมีใบมีดประกอบอยู่ 2 หรือ 3 ด้าม และมีความยาว 12-18 นิ้ว นอกจากนี้ มันยังเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ถลกหนังและเลาะกะโหลกของเหยื่อที่ล่าได้ โลหะที่ใช้สร้างค่อนข้างแตกต่างกันในแต่ละอัน จะเห็นว่า Wrist blades ที่พวกพรีเดเตอร์ใน AVP ไม่ทนทานต่อกรดเอเลี่ยน แต่ใน AVP 2 มันสามารถป้องกันกรดได้ ซึ่งเฮีย Celtic (พรีเดเตอร์ตัวที่ใช้ Wrist blades ตัดหางเอเลี่ยน แล้วตัวใบมีดละลาย) คงบ่นตายแหงเลยว่า “ ตูเสียภาษีให้รัฐ แต่เอ็งดันเอาของกะหรั่วมาให้ตูใช้ตอนสอบเลื่อนขั้นเนี่ยนะ ”

    [​IMG]

    [​IMG]


    - Arm blades
    เป็นอาวุธที่ใช้โดยพรีเดเตอร์ที่ชื่อ Chopper หรือ Gill ใน AVP (พรีเดเตอร์ที่โดนหางซีโนมอร์ฟกระซวกตายเป็นรายแรก) มันเป็นใบมีดยาว และมีเพียงด้ามเดียว

    [​IMG]

    - Plasma caster

    ชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น Tri-cannon , Plasma cannon , shoulder cannon มันเป็นหนึ่งในอาวุธที่อันตรายที่สุดของย้วดจา และจะทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเมื่อใช้คู่กับหน้ากากชีวภาพอย่างที่กล่าวไป ข้างต้น กระบอกปืนสามารถยิงกระสุนพลาสมาออกมาได้ โดยมีเลเซอร์ไซส์ เป็นจุดสีแดงสามจุด เพื่อเล็งเป้า และยังสามารถชาร์จพลังงานก่อนยิง เพื่อเพิ่มความรุนแรงได้ เพียงแต่ในการยิงแต่ละครั้งมีเวลาดีเลย์เล็กน้อยก่อนจะยิงในครั้งต่อไปได้

    http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/12/A7321157/A7321157-27.jpg

    - Combi stick
    หอกชิ้นนี้ถือได้ว่า เป็นอาวุธระยะกลางยอดนิยมของย้วดจา หอกมีแรงตัดสูงที่ทำลายได้แม้กระทั่งเหล็ก อีกทั้งยังสร้างจากวัสดุที่ทนทานต่อกรดของซีโนมอร์ฟอีกด้วย ตัวหอกยังติดตั้งอุปกรณ์เบี่ยงเบนแสง ทำให้ตัวหอกโปร่งแสงได้

    [IMG]http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/12/A7321157/A7321157-28.jpg

    - Spear gun
    ปืนชนิดนี้สามารถยิงลูกดอกขนาดเล็ก ออกมาได้ ตัวปืนสามารถซูมเข้าและออกได้เช่นเดียวกับปืนไรเฟิล อีกทั้งยังไม่มีเสียงดังเกิดขึ้นเมื่อยิงออกไป ทำให้มันกลายเป็นอาวุธชั้นเยี่ยมในการลอบจู่โจมและสังหาร ตัวลูกดอกนั้นทำจากวัสดุพิเศษที่เบาจนแทบไม่มีมวลเลยก็ว่าได้

    [​IMG]

    - Smart disc
    อาวุธคล้ายจานกลมนี้อาจจะดูไร้พิษสง แต่มัน คือ หนึ่งในไม้เด็ดของย้วดจา ตัวจานจะติดตามเหยื่อได้เมื่อใช้คู่กับหน้ากากชีวภาพ แถมยังมีแรงตัดที่สูงมาก มันสามารถเฉือนร่างมนุษย์ และซีโนมอร์ฟให้ขาดเป็นสองท่อนได้ในครั้งเดียว ก่อนจะวกกลับสู่มือเจ้าของโดยอัตโนมัติ

    [​IMG]

    - Shuriken
    กงจักรคล้ายบูมเมอแรงชนิดนี้ ถูกใช้ใน AVP ตัวกงจักรมีความคม และความเร็วสูง มันทำมาจากวัสดุเดียวกับ Combi stick ที่ทนทานต่อกรดของซีโนมอร์ฟ กงจักรยังสามารถอัพเกรดให้เป็น Smart disc ได้ (ในเกมส์ Predator: Concrete Jungle)

    [​IMG]

    - Netgun
    ปืนตาข่าย มีใช้สองแบบในภาพยนต์ แบบแรกใช้ใน พรีเดเตอร์ภาค 2 เป็นปืนที่ยิงตาข่ายออกมา และแบบที่สองใช้ใน AVP ภาคแรก ซึ่งประกอบอยู่ในอุปกรณ์ที่แขน และสามารถยิงออกมาได้เมื่อต้องการ จุดประสงค์ของตาข่ายทั้งสองแบบเหมือนกัน คือ ใช้เพื่อตรึง และเฉือนร่างของเหยื่อ ตัวตาข่ายมีความคงทนสูง แต่ยังไม่ดีพอในการต่อกรกับกรดของซีโนมอร์ฟ

    [​IMG]

    - Katana
    เป็นอาวุธที่เหมือนดาบยาว ปรากฎให้เห็นในพรีเดเตอร์ภาค 2 โดยพรีเดเตอร์ชั้น Elders เป็นผู้ครอบครองอาวุธชิ้นนี้

    [​IMG]

    - Wire
    เชือกโปร่งแสงชิ้นนี้ถูกใช้สังหารคณะสำรวจคนหนึ่งใน AVP ภาคแรก

    [​IMG]

    - Glove & Self-destruct device
    อาวุธที่ใช้โดยย้วดจานักกวาดล้างใน AVP:R ถุงมือจะทำการรวมรวบพลังงานไว้ จากนั้นก็ปลดปล่อยออกมาในรูปของแรงระเบิด
    เมื่อ พ่ายแพ้ในการต่อสู้ ย้วดจาจะเปิดแผงอุปกรณ์ตรงข้อมือซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นระเบิดเวลาได้ แรงระเบิดของมันพอกับนิวเคลียร์เลยทีเดียว แต่ระเบิดก็สามารถควบคุมให้มีรัศมีที่แคบลงได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดใน AVP:R คือ ฉากที่ Wolf ใช้มันระเบิดเฉพาะยานที่ตกลงมาเพื่อปกปิดหลักฐาน

    [​IMG]
    [​IMG]

    - Solvent
    เป็นสารเคมีสีฟ้า มันถูกใช้เพื่อปกปิดหลักฐานที่เกิดขึ้นใน AVP:R สารชนิดนี้สามารถละลายวัตถุทางชีวภาพได้ทุกชนิด มันจะเกิดปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ และจะเกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อวัตถุชีวภาพอื่นๆในบริเวณนั้น

    - Laser nets
    อาวุธ ชนิดนี้จะสร้างตาข่ายเลเซอร์ และจะตัดร่างของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่คิดจะข้ามผ่าน มันควบคุมให้เปิด-ปิดได้ตามต้องการด้วยรีโมทคอนโทรล จุดประสงค์ของ Laser nets คือ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อหลบหนี ใน AVP : R มันถูกใช้โดยย้วดจานักกวาดล้าง หรือ Wolf เพื่อขังซีโนมอร์ฟไว้ โดยหวังจะปิดบัญชีพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว

    ข้อมูลอาวุธอื่นๆที่ไม่ปรากฎในภาพยนตร์

    - Bolas
    ปรากฏ ในคอมมิคเรื่อง Predator: Big Game โบลาสจะรวบรวมพลังไฟฟ้าไว้ เมื่อกระแทกใส่ศัตรู มันจะปลดปล่อยพลังงานออกมาทำให้เหยื่อตายทันที

    - Burner
    มัน คือเครื่องพ่นไฟอันร้ายกาจ เมื่อถูกใช้งานมันจะพ่นเปลวเพลิงกว้าง 5 ฟุต และยาว 90 ฟุตออกมา ในนิยาย Alien vs. Predator มันมีลักษณะกับไรเฟิลยาว นอกจากนี้มันยังเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมากในการต่อกรกับซีโนมอร์ฟ เพราะ ไฟคือสิ่งเดียวที่ซีโนมอร์ฟเกรงกลัว แต่มันไม่ค่อยถูกใช้ในการล่าบ่อยนัก แต่มักใช้ในสงครามมากกว่า นอกจากนี้ เครื่องพ่นไฟยังสามารถประกอบเข้าที่หัวไหล่ และสั่งการผ่านรีโมทได้เหมือนกับ shoulder cannon อีกด้วย

    [​IMG]

    - Chemical sprayer
    สเปรย์ทางเคมีชิ้นนี้ จะพ่นสารที่เป็นพิษออกมา พรีเดเตอร์มักจะใช้อาวุธนี้เพื่อจุดประสงค์ในการจับเป็นเหยื่อมากกว่าจะ สังหาร และมันเป็นตัวช่วยที่ดี ในกรณีที่ต้องต้อสู้ในสมรภูมิที่อาวุธพลาสมาไม่อาจใช้ได้ อย่างเช่น บรรยากาศที่ไวต่อการเกิดเปลวเพลิง

    - Maul
    เป็นอาวุธใบมีดยาวติด ไว้ที่แขน คล้ายทอนฟา ตัวใบมีดยาว 2 ฟุตครึ่ง ใบมีดเหล่าสามารถตัดร่างมนุษย์ให้ขาดเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้มันยังใช้แทงจากด้านหลังได้อีกด้วย

    [​IMG]

    - Glaive
    อาวุธชนิดนี้คล้าย Combi stick เพียงแต่มีใบมีดประกอบไว้ที่ปลายทั้งสองด้านแทน มันสามารถใช้ฟันได้เช่นเดียวกับดาบ หรือใช้แทงเหมือนหอกก็ได้ อาวุธชนิดนี้ รุนแรงพอที่จะบดขยี้หรือตัดกระดูกหนาๆได้อย่างสบาย

    - "Hard Meat" armour
    มัน เป็นชุดเกราะที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนกะโหลกของซีโนมอร์ฟ นอกจากจะช่วยป้องกันร่างกายของพรีเดเตอร์จากกรดของซีโนมอร์ฟ มันยังช่วยปกป้องพรีเดเตอร์จากการโจมตีอันรุนแรงของราชินีได้อีกด้วย (โดยทั่วไป เมื่อพรีเดเตอร์เผชิญหน้ากับราชินีมักโดน One hit kill กันแทบทั้งนั้น) แต่ถึงกระนั้น มันก็ช่วยแค่ในระดับหนึ่ง เพราะ การโจมตีของราชินีเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถขยี้ชุดเกราะนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับพรีเดเตอร์ถือว่า มันเป็นตัวช่วยอันทรงคุณค่าอย่างยิ่ง
    หมายเหตุ : Hard meat เป็นคำเปรียบเปรยในภาษาพรีเดเตอร์ที่หมายถึง ซีโนมอร์ฟ ส่วนคำว่า Soft meat เป็นคำที่หมายถึง มนุษย์

    [​IMG]

    - Plasma pistol
    รูปร่างของมันเหมือนปืน เป็นอาวุธระยะกลางที่ใช้ยิงกระสุนพลาสมาออกมา คล้ายกับ Plasma caster แต่มีรัศมีที่กว้างกว่า กระสุนแต่ละนัดสามารถรบกวนเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิคส์ และยังสามารถทำให้ซีโนมอร์ฟหมดสติลงได้

    - Tag
    เป็นอุปกรณ์ ติดตามขนาดเล็ก ถูกใช้ใน Predator : Concrete Jungle ฉบับคอมมิค โดยพรีเดเตอร์จะฝังอุปกรณ์ชิ้นนี้ลงใต้ผิวหนังของเหยื่อ เพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อ และนำทางไปยังแหล่งที่อยู่อาศัยของเหยื่อ อุปกรณ์จะมีลักษณะคล้ายตะขอ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อถอดมันออกได้

    [​IMG]

    - กับระเบิด
    - Fire trap : เป็นกับดักระเบิด
    - EMP mine : ใช้รบกวนเครื่องมือทางกลศาสตร์ทุกชนิดในบริเวณนั้น
    - Sonic trap : ระเบิดชนิดนี้จะทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต และหมดสติ เป็นกับดักที่เลือกเป้าหมายเฉพาะเจาะจง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
    - Plasma mine : ทำลายเป้าหมายจนสิ้นซาก และเหลือไว้แต่หัวกะโหลก
    - Remote bomb : เป็นระเบิดแบบขว้าง มีตะขอสำหรับยึดติดกับผนัง หรือพื้น โดยจะทำงานเมื่อกระทบเป้าหมาย หรือสั่งการผ่านรีโมทที่ข้อมือของพรีเดเตอร์

    เกร็ดเล็กๆน้อยๆ
    - เอเลี่ยน กับ พรีเดเตอร์ เคยมีชื่อเรียกเชยๆว่า Star beast กับ Hunter

    - Predator ความจริงแล้วต้องออกเสียงว่า เพร็ดเดเตอร์ ไปพูดพรีเดเตอร์กับชาวต่างชาติ เขาไม่รู้จักนะครับ ^^;

    - ไอเดียที่จุดประกาย AVP มาจาก Predator ภาค 2 ภายในยานช่วงท้ายเรื่อง นอกจากกะโหลกมนุษย์ และT-rexแล้ว เรายังเห็นกะโหลกของเอเลี่ยนอีกด้วย

    -โหมดการมองไม่ได้มี3แบบครับ มีน่าจะราวๆ5 ใช้หลักๆตอนเล่นเกมก็โหมดจับความร้อนไว้มองมนุษย์กับอีก แ้ล้วก็EMไว้มองเอเลี่ยน
    อย่างในพรีเดเตอร์2จะมีโหมดที่มองเห็นเฉพาะแสงUVอีกโหมด
    x-ray น่าจะเป็นโหมดพิเศษที่ไม่ได้ไว้ต่อสู้ครับ

    -แถมให้นิดนึง ชื่อ Wolf ของพรีเดเตอร์ใน AVP2 เอามาจากชื่อ วินสตัน วูล์ฟ ตัวละครนึงในหนัง Pulp Fiction ของอีตาเควนติน ทารันติโน่
    เพราะว่า Wolf ใน AVP นั้นมาโลกเพื่อล่าพรีเดเลี่ยน และกลบเกลื่อนร่องรอย พูดง่ายๆคือมาจัดการปัญหาให้เรียบร้อย ตรงกับลักษณะของวินสตัน วูล์ฟ ใน Pulp Fiction ที่มาช่วยพวกพระเอกแก้ปัญหาเหมือนกัน
     
  4. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    มาต่อกันด้วยประวัติ ของ เอเลี่ยนครับ คู่ปรับพรีเดเตอร์เขา

    Aliens อสูรร้ายแห่งจักรวาล

    ประวัติของเหล่า Space jockey และต้นกำเนิดซีโนมอร์ฟ(Xenomorph) หรือก็คือ Aliens ที่ทุกคนรู้จักดีนั้นแหละ

    Space jockey คือ เผ่าพันธุ์โบราณผู้เคยรุ่งเรืองด้วยอารยธรรมอันเกรียงไกรที่สุดในกาแล็กซี่ พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิทยาการพันธุกรรม และอินทรียเคมีที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ในเวลานั้นเอง พวกเขากำลังทำสงครามกลางเมืองที่ไม่มีทีท่าจะยุติ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสามารถสร้างอาวุธทำลายล้างที่จะกำชัยต่อศัตรูได้ อย่างเด็ดขาด

    และแล้วการทดลองเพื่อสร้างอาวุธชีวภาพก็เริ่มต้นขึ้น สิ่งที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ Space jockey คาดหวังไว้ คือ สิ่งมีชีวิตชีวภาพที่สามารถดำรงอยู่ได้ในทุกสภาพแวดล้อมในทุกดวงดาวของห้วง กาแล็กซี่ สิ่งมีชีวิตที่เปี่ยมด้วยสัญชาตญาณการล่า และสังหารทุกชีวิตที่มันพบเจอ การทดลองของพวกเขาเริ่มต้นบนดาวที่ห่างไกลที่ชื่อ Proteus ระบบวงจรชีวิตของมด คือ สิ่งที่พวกเขานำมาเป็นต้นแบบ และเพื่อให้สามารถจำกัดการแพร่ขยายพันธุ์ของพวกมันให้อยู่ภายใต้การควบคุม ได้ พวกเขาจึงสร้างนางพญา หรือ ราชินี ที่ทำหน้าที่สั่งการเหล่าเผ่าพันธุ์ชีวภาพของพวกมัน

    การวิจัยของ พวกเขาประสบความสำเร็จ สิ่งมีชีวิตที่พวกเรารู้จักกันในชื่อของ Xenomorph (หรือชื่อที่พวกเรารู้จัก คือ เอเลี่ยน) ได้ถือกำเนิดขึ้นบนดาว Proteus หรืออาจกล่าวได้ว่า Proteus คือ ดาวบ้านเกิดที่แท้จริงของเหล่าซีโนมอร์ฟ เมื่อนำไปปล่อยในดินแดนของข้าศึก อสูรเหล่านี้จะออกจากจากไข่เพื่อฝักตัวในโฮสต์ ออกจากโฮสต์ และเติบโต จากนั้นก็ล่าสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อนำมาฝักไข่ต่อไปเป็นวัฎจักร ในเวลาไม่นาน สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนดวงดาว หรือยานอวกาศลำนั้น ก็จะถูกล้างผลาญจนหมดสิ้น ในตอนนี้ผลงานของพวกเขาพร้อมแล้ว และรุ่นต้นแบบก็ทำหน้าที่ของมันได้ดี ราชินีเริ่มสร้างรัง วางไข่จำนวนมหาศาล และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว พวกเขานำราชินี และเหล่านักรบของเธอ ขึ้นยานไปทิ้งยังดินแดนข้าศึก สิ่งที่เกิดขึ้น บ่งบอกถึงความสำเร็จของเหล่านักวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี สงครามยุติลงอย่างรวดเร็ว ด้วยชัยชนะอันเด็ดขาดของฝ่ายที่สร้างซีโนมอร์ฟขึ้นมา แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นกำลังจะสั่นคลอนต่อทุกชีวิตในจักรวาล และนำจุดจบอันโหดร้ายมาสู่พวกเขาทุกคน

    [​IMG]

    ในตอนแรก ซีโนมอร์ฟไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้มีวิวัฒนาการขึ้น ไข่บางส่วนของพวกมัน ได้เปลี่ยนแปลงตนเอง และได้ให้กำเนิดนางพญา หรือ ควีน ขึ้นมาได้ด้วยตนเอง เมื่อเหล่า Space jockey ค้นพบดวงดาวที่มีการแพร่ระบาดของซีโนมอร์ฟ โดยที่พวกเขาไม่ได้ส่งนางพญาลงไป ทำให้พวกเขาเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เหล่าซีโนมอร์ฟเริ่มหลุดจากการควบคุม ราชินีตนใหม่ไม่ยินดีที่อยู่ใต้การปกครองของพวก Space jockey การก่อกบฎจึงได้เริ่มต้นขึ้น เหล่า Space jockey จึงพยายามหาทุกวิถีทางที่จะเอาชนะพวกมัน แต่เป็นโชคร้ายของพวกเขาที่อาวุธส่วนใหญ่ถูกทำลายไปจากสงครามกลางเมืองที่ เพิ่งยุติลง ความหวังเดียวของพวกเขาคือ ยานอพยพลำสุดท้ายที่เหลืออยู่ มันถูกส่งออกไปเก็บตัวอย่างเหล่าซีโนมอร์ฟที่เกิดการวิวัฒนาการบนดาว Proteus เพื่อนำมาศึกษา แต่สุดท้ายยานลำนั้นก็ไม่ได้มีโอกาสกลับถึงดาวบ้านเกิด มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในยาน เฟซฮักเกอร์ได้หลุดออกมา และจู่โจมนักบิน เมื่อปราศจากคนบังคับ ยานได้หลุดเข้าไปในวงโคจรของดาว LV-426 และกระแทกพื้นจนเสียหายหนัก แม้ jockey คนอื่นๆจะสามารถจัดการซีโนมอร์ฟที่ฟักตัวออกมาได้ แต่ตัวยานก็เสียหายหนักจนไม่อาจซ่อมแซมได้ รวมไปถึงห้องเก็บไข่ที่พังยับเยินเช่นเดียวกัน สิ่งที่พวกเขาทำได้มีเพียงแค่เปิดสัญญาณเตือนภัยไว้เตือนยานลำอื่นๆ และจากไป

    ณ ดาวบ้านเกิดของเหล่า Space jockey เมื่อปราศจากยานอพยพ พวกเขาก็ต้องเผชิญจุดจบอันน่าเศร้า ซีโนมอร์ฟทำลายล้างทุกชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงนั้น อารยธรรมที่เคยยิ่งใหญ่ในจักรวาลถูกกวาดล้างจนสิ้น ซีโนมอร์ฟกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางเศษซาก ปรักหักพังบนดาวของเหล่า Space jockey

    หลังจากนั้นหลายล้านปี จุดจบอันเดียวดายก็ได้มาถึง เมื่อปราศจากสิ่งมีชีวิตให้ฟักตัว ไข่ของเหล่าซีโนมอร์ฟก็กลายเป็นฟอซซิล ร่างของเหล่าซีโนมอร์ฟสึกกร่อน และเน่าเปื่อยไป พวกมันได้พบจุดจบเช่นเดียวกับเหล่า Space jockey แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีซีโนมอฟบางส่วนที่ติดไปกับยานของเหล่า Space jockey ในช่วงยุคสงคราม วันดีคืนดียานเหล่านั้นก็ได้หลุดเข้าไปยังชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ต่างๆ ที่แห่งนั้นซีโนมอร์ฟยังคงอยู่ และแพร่พันธุ์มฤตยูของมันต่อไป อีกทั้งยังมีสองเผ่าพันธุ์ที่ได้รับมรดกอันน่ากลัวเหล่านี้มา หนึ่ง คือ พรีเดเตอร์ผู้แสวงหาความแข็งแกร่ง และมนุษย์ผู้กระหายสงคราม ในนามของบริษัท Weyland-Yutani สิ่งมีชีวิตอันสุดยอดเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อกรกับทุกชีวิตในจักรวาล ด้วยร่างกายที่แปรเปลี่ยนได้ไม่มีที่สิ้นสุดจากการรับ DNA ของสิ่งมีชีวิตบนดวงดาวนั้น พวกมันพร้อมจะบดขยี้ทุกชีวิต จนเหลือไว้เพียงแต่ความว่างเปล่า และฝันร้ายอันไร้ที่สิ้นสุด

    ปล.ดาว LV-426 คือ ชื่อดาวที่ริปลี่ย์ลงไปสำรวจในเอเลี่ยนภาคแรก และเป็นดาวที่มนุษย์มาสร้างอาณานิคม จนเกิดเรื่องขึ้นในเอเลี่ยนภาคสอง


    ภาพ ด้านล่าง คือ Egg Silos เป็นสิ่งก่อสร้างคล้ายปิรามิดที่พบเห็นได้บนดาว Proteus ดาว Rumford และดวงดาวอื่นๆอีกหลายแห่ง มันเป็นสถานที่ที่ใช้เก็บรักษาไข่ของซีโนมอร์ฟเพื่อใช้ในสงคราม หลังอารยธรรมของ Space jockey ล่มสลาย มันก็ถูกทิ้งร้าง กล่าวกันว่า ในบางแห่งยังคงหลงเหลือซีโนมอร์ฟอาศัยอยู่

    [​IMG]


    วัฎจักรของเอเลี่ยน
    - Face Hugger หรือตัวเกาะหน้า เป็นระยะขั้นแรก โดยปกติจะขดตัวอยู่ในไข่ แต่เมื่อได้รับสัญญาณความร้อนจากสิ่งมีชีวิต และแยกแยะเหยื่อด้วยฟีโรโมนแล้ว ไข่ของมันจะเปิดออก และพุ่งเข้าเกาะใบหน้าของเหยื่อทันที เมื่อจู่โจมเหยื่อสำเร็จ มันจะใช้หางรัดเหยื่อให้หมดสติ จากนั้นจะสอดท่อเข้าไปวางตัวอ่อนในทรวงอก เมื่อบรรลุหน้าที่ มันก็จะตายไป
    ปล.ในบรรดาไข่นับร้อยๆใบ จะมีไข่ใบหนึ่ง ที่มีตัวอ่อนชนิดพิเศษ นั้นก็คือ ตัวอ่อนราชินี (ไข่จะมีขนาดใหญ่ และมี 5 แฉก) โดยตัวอ่อนราชินี จะใช้เวลาฝักตัวในโฮสต์นานกว่าเอเลี่ยนธรรมดา

    [​IMG]

    Queen face hugger

    [​IMG]

    ภาพร่างแรกๆของเฟซฮักเกอร์ ออกแบบโดย HR Giger

    [​IMG]

    ภาพร่าง อีกรูป

    [​IMG]

    Chestburster หรือตัวทะลุอก เป็นระยะที่สอง เมื่อตัวอ่อนเติบโตขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง (โดยตัวอ่อนจะมีการรับ DNA ของสิ่งมีชีวิตนั้นมาด้วย) มันจะเจาะทะลุทรวงอกของโฮสต์ออกมา ในระยะนี้มันจะอ่อนแอ แต่ในเวลาไม่นานมันจะลอกคราบ และเติบโตขึ้นเป็นสัตว์ร้ายทรงพลังที่พร้อมจะบดขยี้ศัตรู
    หมายเหตุ : ระยะเวลาการฝักตัวในโฮสต์ของซีโนมอร์ฟ ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ สภาพแวดล้อม หรือก็คือ หากตัวอ่อนเจริญเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างโลก ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ความแข็งแรง และสุขภาพร่างกายของราชินีเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อความแข็งแรง และอัตราการเจริญเติบโตของตัวอ่อนที่เกิดมาด้วยเช่นกัน


    จะมีใครว่าอะไรไหม ถ้าผมจะบอกว่าตอนตัวเล็กๆ ~~มันน่ารักจัง~~ O_-

    [​IMG]

    ภาพร่างแรกๆอีกอัน ออกแบบโดยเจ้าเดิม HR Giger (เหมือนไก่ขี้เรื้อนเลยแฮะ)

    [​IMG]

    - Adult หรือ ตัวโตเต็มวัย เมื่อเติบโตเต็มที่ มันจะกลายเป็นสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่ง และดุร้าย กรงเล็บของมันตะปปมนุษย์ให้ตายได้ในครั้งเดียว ลิ้นอันร้ายกาจที่เจาะได้แม้กระทั่งเหล็ก มีหางอันทรงพลัง เลือดของมันยังเป็นกรดโปรตีนเข้มขึ้น และมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง พร้อมจะทำอันตรายต่อผู้ที่จะมาสังหารมัน นอกจากนี้ เลือดที่เป็นกรดโปรตีนเข้มข้นของมัน ยังทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่ ทำให้พวกมันแทบไม่ต้องการอาหารในการดำรงชีวิต และทำให้พวกมันอยู่ได้แม้กระทั่งในสุญญากาศ

    [​IMG]

    โดยตัวเต็มวัยยังแบ่งแยกย่อยได้อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น

    - Queen มันเปรียบเหมือนหัวใจหลักของเผ่าพันธุ์ เอเลี่ยนทุกตัวเกิดมาเพื่อรับใช้ราชินี และปกป้องรังจนตัวตาย หน้าที่โดยส่วนใหญ่ของมัน หมกหมุ่นอยู่กับการวางไข่ แต่ในบางครั้งเมื่อเผชิญหน้ากับผู้บุกรุก และเห็นว่า ผู้บุกรุกเป็นอันตรายต่อไข่ของมัน มันจะสลัดท่อวางไข่ และเข้าต่อสู้อย่างเกรี้ยวกราด ทางกายภาพราชินีจะมีสี่แขนอันทรงพลัง ลิ้นที่ยาวเป็นพิเศษ และแผงกะโหลกขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับไทรเซราทอป ตัวเธอจะผลิตไข่ทุกๆ 5 นาที และสามารถแบกไข่หกฟองขึ้นหลังเพื่อสะดวกในการขนย้ายได้อีกด้วย เมื่อรังมีขนาดใหญ่มากเกินไป ราชินีจะทำการคัดเลือกไข่ของราชินีขึ้นมา และส่งทหารของเธอออกไปสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การสร้างรังใหม่ เมื่อพบแล้ว ทหารของเธอจะทำการเตรียมพื้นที่ และสร้างรังใหม่ เพื่อรอคอยสำหรับราชินีตนใหม่ที่กำลังจะลืมตาดูโลก

    [​IMG]

    - Praetorian อันที่จริงมันก็คือ ควีน นั้นแหล่ะ เราจะเห็นมันได้ก็ต่อเมื่อมีร่างที่ฝักตัวเป็นราชินีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป มันเปรียบเหมือนตัวตายตัวแทน เมื่อราชินีตัวเก่าตายลง Praetorian จะขึ้นแทนตำแหน่งได้ในทันที

    [​IMG]


    - Runner เป็นเอเลี่ยนที่เกิดจากสุนัข (หรือ วัว ในเวอร์ชั่นเดิม) โดยปกติพวกมันจะคลานสี่ขา มีลำตัวสีแดง และมีความว่องไวสูง

    [​IMG]

    - Predalien เป็นตัวหลักที่ปรากฎในหนัง AVP2 เป็นเอเลี่ยนที่ฝักตัวในร่างของพรีเดเตอร์ ทำให้มันได้รับ DNA ของพรีเดเตอร์มาผสมด้วย ส่งผลให้มันมีกล้ามเนื้อที่ทรงพลัง ส่วนรูปร่างนั้นก็ได้รับผลมาเต็มๆ นั่นคือ ทรงผมเด็ดรอคสุดเก๋ กับ เงี่ยง แบบพรีเดเตอร์

    [​IMG]

    - Carrier ปรากฎในเกมส์ AVP : Extinction เป็นเอเลี่ยนร่างใหญ่ ชื่อของมัน หมายถึง ตัวนำพาหะ ซึ่งก็ตรงความหมาย เพราะ หน้าที่ของมัน คือ ตัวเคลื่อนย้าย และปกป้องเฟซฮักเกอร์อันแสนล้ำค่า หรือเทียบได้กับรถหุ้มเกราะที่ทำหน้าที่ขนส่งทหารราบนั่นเอง

    [​IMG]


    - Ravager ปรากฎในเกมส์ AVP : Extinction เช่นกัน มันเปรียบได้กับสุดยอดนักรบของเผ่าพันธุ์ เพราะ นอกจากจะมีร่างกายขนาดใหญ่แล้ว แขนทั้งสองยังเปลี่ยนเป็นเคียวอันทรงพลังเพื่อเด็ดหัวศัตรูอีกด้วย

    [​IMG]

    - Jockalien หรือ เอเลี่ยนที่เกิดจาก Space jockey ปรากฎในคอมมิค Alien : apocalypse the destroying angels (แต่บทน้อยโ-ตร)

    [​IMG]

    King alien ปรากฎเป็นโมเดลของ Kenner's toy series คิงเอเลี่ยนมีวรรณะพอๆกับราชินี และทำหน้าที่กระตุ้นให้เพศเมีย(ราชินี)วางไข่ด้วยการปล่อยฮอร์โมนออกมาทาง เดือยยาวที่อยู่รอบปากทั้งสองข้าง King เกิดจากการกลายพันธุ์จาก Praetoiran สู่ Ravager ก่อนจะกลายเป็น King โดยส่วนใหญ่ King จะทำหน้าที่ถ่ายทอดฮอร์โมนที่จำเป็นให้ราชินี และเมื่อบรรลุหน้าที่ก็มักจะตายไป แต่มีบางส่วนที่ยังคงอยู่ในรังเพื่อกระตุ้นฮอร์โมนให้ราชินีอยู่เป็นเนื่องๆ แต่อย่างไรก็ตามมันถือได้ว่า เป็นสายพันธุ์ซีโนมอร์ฟที่แข็งแกร่งมากสายพันธุ์หนึ่ง

    [​IMG]

    King อีกแบบนึง

    [​IMG]

    - Prototype
    โปรโตไทป์ถือได้ว่า เป็นรุ่นทดลอง หรือต้นแบบแรกของซีโนมอร์ฟก็ว่าได้ พวกมันมีรูปลักษณ์ที่ตายตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม พวกมันค่อนข้างแตกต่างจากซีโนมอร์ฟในรุ่นต่อมาไม่น้อย รวมไปถึงจุดประสงค์ในการใช้งานด้วย จุดร่วมที่เหมือนกันของโปรโตไทป์ และซีโนมอร์ฟ คือ ร่างกายสีดำ ผิวหนังที่แข็งแกร่งเหมือนเกราะ และความดุร้ายต่อศัตรูของมัน เพียงแต่โปรโตไทป์จะไม่มีการต่อต้านผู้เป็นนายอย่างเด็ดขาด เพราะ ร่างกายของมันเป็นเหมือนโปรแกรมพันธุกรรมที่รอการลงโปรแกรม (คล้ายๆหุ่นยนต์ที่เราต้องป้อนคำสั่งให้ทำงาน แต่โปรโตไทป์จะใช้รหัสพันธุกรรมแทน) โปรโตไทป์ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายในการปกป้องยาน บุคคล หรือสถานที่สำคัญมากกว่า
    ในทางกายภาพพวกมันแข็งแรง และตัวใหญ่กว่าซีโนมอร์ฟในรุ่นต่อมาเสียอีก เหล่าโปรโตไทป์ทนต่อผลกระทบทางชีวภาพทุกชนิด เช่น การติดเชื้อ พวกมันยังไม่กลัวไฟ หรือแม้แต่กระแสไฟฟ้าแรงสูงก็ทำความเสียหายให้มันไม่ได้มากนัก ผิวหนังของมันทนต่อสภาพอากาศทุกรูปแบบ แก๊ซทุกชนิด อยู่ได้ในสภาพที่แรงดึงดูดเป็นศูนย์ (ในอวกาศ) ไม่ใช้อากาศหายใจ และแม้จะไม่มีดวงตา แต่พวกมันก็สามารถจับตำแหน่งของศัตรูได้ด้วยการตรวจจับความดัน และความเคลื่อนไหว อีกทั้งยังมีความสามารถในการดมกลิ่น และหูดีอีกด้วย ที่สำคัญ ตราบใดที่เซลล์ยังทำงานอยู่ พวกมันจะอยู่คงกระพัน แต่อย่างไรก็ตาม พวกมันปราศจากความสามารถในการสืบพันธุ์โดยสิ้นเชิง ไม่มีระบบรัง หรือศูนย์กลางใดๆ ทำให้พวกมันไม่อาจเพิ่มจำนวนเองได้ ซึ่งเป็นจุดบกพร่องสำคัญที่ทำให้เกิดการวิจัยปรับปรุงสายพันธุ์ในเวลาต่อมา (ลดข้อดีไปบางส่วน เพื่อแลกกับความสามารถในการขยายพันธุ์)
    หมายเหตุ : เลือดของโปรโตไทป์ไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นกรดเหมือนซีโนมอร์ฟ

    [​IMG]

    - Newborn

    นิวบอร์นเกิดจากการตัดต่อพันธุ กรรมในการโคลนนิ่งริปลี่ย์ขึ้นมาของนักวิทยาศาสตร์จาก USM Auriga ในภาพยนตร์เอเลี่ยนภาค 4 เนื่องมาจากว่าเอเลี่ยนควีนที่เกิดมาจากโคลนของริปลี่ย์นั้นมี DNA ของมนุษย์ผสมอยู่ด้วยทำให้มันสร้างมดลูกเช่นมนุษย์ได้นอกเหนือจากรังไข่ที่ มันมีอยู่แต่เดิม เอเลี่ยนชนิดนี้เกิดจากมดลูกของราชินี มันสามารถออกลูกเป็นตัวได้เองโดยไม่ต้องอาศัยรังไข่ มีสมองที่เฉลียวฉลาด และอุปนิสัยคล้ายคลึงกับเด็กทารกที่ต้องการแม่ แต่ก็แลกมาด้วยศักยภาพทางกายที่ลดลง (สำหรับผม มันเป็นเอเลี่ยนที่น่าสงสารที่สุด เพราะ นอกจากถูกคุณแม่ริปลี่ย์ทิ้งแล้ว ซ้ำยังตายทรมานอีก)

    [​IMG]

    Royal Guard

    รอยัลการ์ด ไม่ใช่สายพันธุ์พิเศษ แต่เป็นชื่อตำแหน่งองครักษ์ประจำตัว โดยราชินีจะทำการคัดเลือกซีโนมอร์ฟ 3 ตัวขึ้นมา เพื่อเป็นทำหน้าที่เป็นองครักษ์ส่วนตัว โดยบางครั้งราชินีจะทำหน้าที่เลี้ยงดู และฝึกสอนซีโนมอร์ฟเกิดใหม่ด้วยตนเอง เพื่อให้มาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ (เลี้ยงเอง ฝึกเองว่างั้นเถอะ) โดยองครักษ์เหล่านี้จะซื่อสัตย์ต่อราชินีเยี่ยงชีวิต พวกมันพร้อมจะสังหารและต่อสู้ชนิดถวายหัวต่อศัตรูตัวใดก็ตามที่พยายามจะทำ ร้ายราชินีของพวกเขา รอยัลการ์ดจะคอยอยู่เคียงข้างราชินีตลอด 24 ชั่วโมง และไม่เคยพบว่า พวกมันอยู่ห่างจากราชินีเกิน 50 ฟุต (สงสัยจะนั่งวายกับราชินีทั้งวันแหง ) ทางกายภาพรอยัลการ์ดจะพิเศษกว่า ซีโนมอร์ฟตัวอื่นๆ คือ ตัวใหญ่กว่า ฉลาดกว่า และรวดเร็วกว่า แต่ยังไม่จัดเป็นความแตกต่างในระดับพันธุกรรม (เหมือนกับทหารที่เป็นคนธรรมดาแต่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษ และแน่นอนคงไม่มีใครเอาทหารขี้ก้าง และฉลาดน้อย มาทำหน้าที่ปกป้องกษัตริย์ของพวกเขาเป็นแน่) อีกทั้งสติปัญญาที่สูงเป็นพิเศษ ทำให้พวกมันสามารถรับทำหน้าที่สั่งการแทนราชินีได้ในช่วงที่ราชินีไม่อยู่ และหากราชินีตัวเก่าตายลง รอยัลการ์ดจะเป็นผู้คัดเลือกราชินีตนใหม่ขึ้นมาแทนที่

    [​IMG]

    นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์ซีโนมอร์ฟอีกมากมายที่ปรากฏ ในคอมมิค เกมส์ AVP arcade ของนินเทนโด้ และอื่นๆ บางส่วนเป็นเพียงฟิกเกอร์ที่เหล่าแฟนๆได้ทำขึ้นมา โดยมีตัวอย่างเหล่านี้


    - Chrysalis

    เป็น ซีโนมอฟขนาดใหญ่ (ไซส์เดียวกับ Praetorian) มีกะโหลกสีเทา Chrysalis ยังสามารถเคลื่อนที่ และจู่โจมผู้บุกรุกด้วยการกลิ้งเหมือนลูกบอลไปบนพื้นได้อีกด้วย (ปรากฏใน AVP arcade game)

    [​IMG]

    Bodyburster

    เป็นเชสเบิร์นเตอร์กลายพันธุ์ ปรากฏในคอมมิค Aliens : Kidnapped มันมีร่างกายสีดำ เกิดจากไข่ที่มีสีชมพู และขนาดใหญ่กว่าเชสเบิร์นเตอร์ทั่วไป อีกทั้งยังมีการกัดของมันยังปล่อยพิษรุนแรงสู่เหยื่ออีกด้วย

    [​IMG]

    Defender มีกระดองขนาดใหญ่อยู่ที่แขน และศีรษะ (ปรากฏใน AVP arcade game)

    ไม่มีรูป

    - Flying Alien/Queen อธิบายสั้นๆ “ มีปีก บินได้ ” -_-" เจ้าตัวนี้ปรากฏใน นิยาย Earth Hive ของ Steve Perry และเกมส์ Aliens: Extermination ของบริษัทโคนามิ(เป็นบอสของเกมส์) รวมไปถึง AVP arcade game ของ ซูเปอร์นินเทนโด้ด้วย

    นี่ก็ไม่มีรูป

    - K-Series มีลักษณะคล้ายคลึงเอเลี่ยนสายพันธุ์ดั้งเดิมทุกประการ เพียงแต่มันมีร่างกายสีเหลือง และถูกสร้างขึ้นจากน้ำมือของนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อว่า Dr. Samuel Kadinsky โดยจุดประสงค์เพื่อใช้พวกมันกำจัดสายพันธุ์ต้นแบบให้หมดสิ้นไป แต่ก็ลงเอยด้วยความล้มเหลว

    นี่ก็ไม่มีรูปให้ดูเช่นกัน

    - Red Army

    ซี โนมอร์ฟสายพันธุ์นี้แทบจะคล้ายคลึงจะสายพันธุ์ดั้งเดิมทุกประการ นอกจากร่างกายที่เป็นสีแดง ที่มาของมันไม่ทราบแน่ชัด แต่มีบางทฤษฎีบอกว่า มันเป็นผลผลิตจากนักวิทยาศาสตร์ชาว Space jockey ที่สร้างขึ้นมาเพื่อต่อกรกับซีโนมอร์ฟของฝ่ายตรงข้าม (ในอดีต เคยเกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง Space jockey ด้วยกันเอง ซีโนมอร์ฟสีดำที่คุ้นเคยกันดีเป็นผลผลิตของฝ่ายที่ชนะสงคราม) แต่กลับกลายเป็นว่า พวกเขาได้สร้างสัตว์ร้ายที่ดุร้ายยิ่งกว่า อีกทั้งยังเป็นจอมรุกรานไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันเอง พวกมันแพร่กระจายเผ่าพันธุ์บนดาว CL4 แต่ที่นั่นสายพันธุ์สีดำได้อยู่มาก่อนแล้ว ทำให้เกิดสงครามระหว่างซีโนมอร์ฟด้วยกันเอง แต่ในท้ายสุด ชัยชนะตกเป็นของฝ่ายสีดำ เนื่องจากราชินีของเรดอาร์มี่ถูกมนุษย์สังหาร (ปรากฎในคอมมิค Alien : Genocide)

    [​IMG]

    - Bracken’s Terror

    มันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ ซีโนมอร์ฟที่แปลกพิสดารที่สุด พวกมันแพร่พันธุ์อยู่บนดาว Bracken โฮสต์ที่มันฝักตัวไม่ทราบแน่ชัด ทางกายภาพพวกมันมีผิวสีฟ้า มีหางคล้ายล็อบสเตอร์ ไม่มีขา และลิ้นจู่โจม แต่ก็ทดแทนด้วยขนาด เพราะแค่ทหารธรรมดาก็มีขนาดพอๆกับราชินีแล้ว อีกทั้งทหารทั่วไปยังมีผิวหนังที่แข็งแกร่งเหมือนกับราชินี ซีโนมอร์ฟสายพันธุ์นี้จะทำรังอยู่ใต้น้ำ พวกมันจะคอยดักจู่โจมเหยื่อที่บินผ่านมาในรัศมีจู่โจม ปรากฎในคอมมิค Aliens : Colonial Marines (เท่ห์แฮะ)

    [​IMG]

    - Razor Claws

    เป็นซีโนมอร์ฟที่เกิดจากการ ดัดแปลงพันธุกรรมของมนุษย์ มันมีร่างกายสีม่วง มีกรงเล็บขนาดใหญ่ และยังมีความเร็วสูงอีกด้วย มันสามารถพุ่งถลาเข้าหาตัวเหยื่อที่ไม่ทันตั้งตัว และเฉือนเหยื่อเคราะห์ร้ายตัวนั้นเป็น 2 ท่อนได้อย่างง่ายดาย (ปรากฏใน AVP arcade game)

    [​IMG]

    - Rogue Alien

    ปรากฏในคอมมิค Aliens: Rogue เป็นซีโนมอร์ฟเพศผู้ที่เกิดจากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์บ้าคนหนึ่ง (ในคอมมิคจะเรียกชื่อมันว่า King)จุดประสงค์ที่สร้างมันขึ้นมาก็เพื่อใช้กำจัดซีโนมอร์ฟให้หมดสิ้นไปจาก โลก แต่แล้วมันก็ได้หลบหนีออกไป ก่อนจะจบชีวิตลงด้วยเงื้อมมือของราชินี (ในคอมมิคมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ซีโนมอร์ฟถูกนำมายังโลก (Earth Hive, Nightmare Asylum, Female War และ Genocide) แต่การจองจำพวกมันก็ล้มเหลวตามสูตร และแล้วในเวลาไม่ถึงปี ซีโนมอร์ฟก็แพร่พันธุ์จนครอบครองโลกทั้งใบ เหล่ามนุษย์ที่เหลือรอดต้องอพยพออกจากโลกที่เป็นดาวบ้านเกิด หลังจากนั้น พวกเขาก็หาสารพัดวิธีที่จะกำจัดพวกมันให้พ้นไปจากโลกของพวกเขา รวมไปถึงการช่วยเหลือ Space jockey คนสุดท้าย ให้มาร่วมรับผิดชอบต่อผลงานที่เผ่าพันธุ์ของพวกเขาเป็นผู้เริ่มต้นขึ้นมา แต่ภารกิจส่วนใหญ่จบลงด้วยความล้มเหลว)

    [​IMG]

    - Empress(จักรพรรดินี) ปรากฏในเกมส์ Alien versus Predator 2 ของ PC เอ็มเพลส คือ จ้าวผู้ปกครองซีโนมอร์ฟทั้งมวลบนดาว LV 1201 หนึ่งในดาวเคราะห์ที่ซีโนมอร์ฟประสบความสำเร็จในแพร่พันธุ์มายาวนานหลายร้อย ปี และที่แห่งนี้ยังมีหนึ่งในระบบรังที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย เอ็มเพลสจะคัดเลือกมาจากราชินีในแต่ละพื้นที่ทำการต่อสู้กัน และผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติ์นี้

    ไม่มีรูปให้ดู

    - Xenoborg ปรากฏในเกมส์ AVP ของ PC มันเกิดจากการผสมเข้ากับจักรกล ทำให้มีชิ้นส่วนโลหะปรากฏขึ้นปกคลุมผิวของมัน อีกทั้งยังสามารถยิงแสงเลเซอร์ออกมาได้ด้วย จุดอ่อนของมันจะปรากฎขึ้นมาเมื่อกระทบแสงแฟลชสีเขียวเท่านั้น

    นี่ก็ไม่มีรูปให้ดูเหมือนกัน :p

    - Queen Mother

    มัน คือผู้ปกครองที่แท้จริงของเหล่าเซโนมอฟทั้งมวล หากราชินีธรรมดา คือ เจ้าเมือง หรือ ราชินีผู้ปกครองประเทศ Queen Mother ก็คือ พระเจ้าผู้ปกครองโลกทั้งมวล รังของ Queen Mother มีขนาดใหญ่มโหฬาร มี Orb หกชิ้นคอยคุ้มครองตัวเธอ มีองครักษ์จำนวนมหาศาลรายล้อมอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ความสามารถของ Queen Mother คือ เทลาพาธี และสามารถอ่านใจสัตว์อื่น รวมไปถึงมนุษย์ได้ [OoO]

    มันเป็นศัตรูที่แม้แต่ย้วดจาที่เก่งกาจ ที่สุดยังไม่กล้าที่จะต่อกรด้วย (แต่ดันถูกเจ๊ริปลี่ย์ในคอมมิค ลักพาตัวไปได้ซะนี้) Queen Mother ปรากฎในคอมมิกของ Dark Horse และนิยาย The Female War ของ Steve&Stephanie Perry โดยริปลี่ย์รับหน้าที่จับกุมควีนมาเธอร์ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของซีโน มอร์ฟบนโลก

    [​IMG]


    Timeline ใน Aliens Series หลักๆก็จะมี

    1. เกิดเหตุจาก Space jockey ทำให้เกิดเอเลี่ยน แล้วก็วอดวาย
    2. พวกพี่พรีเข้ามาให้อารยธรรมที่แอนตาร์กติกา แล้วเอเลี่ยนหลุดออกมาเลยทำลายทิ้ง
    3. Predator1
    4. Predator2
    5. AVP
    6. AVP2
    7. ALIEN1
    8. ALIEN2
    9. ALIEN3
    10. ALIEN4

    หลัง จากนี้ เรื่องก็ข้ามยาวไปยังยุคอนาคตเลย คือ การเริ่มต้นของเนื้อเรื่องใน Alien ภาคแรกยันภาคสี่ (บริษัทเวย์แลนด์-ยูทานิ น่าจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับเอเลี่ยนมาบางส่วนจากเหตุการณ์ใน AVP ทั้งสองภาค)

    ส่วน ยูทานิ คือ ภรรยาของเวย์แลนด์ ซึ่งทั้งสองคนนี้ได้นำชื่อของตนเองมาตั้งเป็นชื่อบริษัท แต่เฮียเวย์แลนด์คงไม่มีโอกาสได้รู้วีรกรรมที่บริษัทของตนเองจะก่อขึ้นใน อนาคต

    มีต่ออีกภาคสุดท้าย

    ปล.1 ผมชอบเอเลี่ยนมากกว่า มันฉลาดดี (ชั่วด้วย)

    ปล.2 อันที่จริง เรื่องนี่มันเป็นนิยายมาก่อนและการ์ตูน หนัง เกม
     
  5. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    มาต่อด้วย ลำดับเหตุการณ์ ในจักวาล เอเลี่ยน และพรีเดเตอร์ และมนุษย์ครับ

    เพิ่มเติม Timeline แบบละเอียดครับ

    ข้อมูลต่อ ไปนี้ เป็นช่วงเวลา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจักรวาลของ เอเลี่ยนฉบับที่อยู่นอกเหนือจากภาพยนตร์ ซึ่งอาจจะมีบางเรื่องที่ตรง และไม่ตรงกับภาพยนตร์ก็ได้ ในตอนแรกผมลังเลว่า จะแปลต่อดีไหม เพราะ เนื้อเรื่องในคอมมิค และนิยายส่วนใหญ่ ผมไม่ได้อ่าน หรือติดตาม ทำให้เกรงว่า จะมีข้อผิดพลาด แต่ไหนๆก็แปลไปเยอะแล้ว เอาให้จบล่ะกัน
    หมาย เหตุ : Timeline มีอยู่สองแบบ คือ แบบที่เน้นเหตุการณ์จากภาพยนตร์ และเหตุการณ์จากคอมมิค นิยายไปถึงเกมส์ ส่วนเหตุผลที่ทำไมแปลส่วนนี้ก่อน ก็เพราะว่า มันสั้นกว่า (สรุปขี้เกียจว่างั้นเถอะ )

    Timeline ต่อไปนี้ รวบรวมและเขียนโดย Scott Middlebook และ Damon Dellarmagio โดนครอบคลุมเนื้อเรื่องจาก Alien versus Predator comics/novels และ games
    ออกจำหน่วยเมื่อ 12/01/05

    Pre-history
    ประมาณ 3.2 พันล้านปีก่อนคริสตกาล
    - Space Jockey ออกล่าอาณานิคม และครอบครองกาแล็กซี่ในเวลานั้น
    Destroying Angels comic

    ประมาณ 1.6 พันล้านปีก่อนคริสตกาล
    - Space Jockey สูญสิ้นอารยธรรมด้วยเงื้อมมือของซีโนมอร์ฟที่ตนสร้างขึ้น
    Destroying Angels comic

    ศตวรรษที่ 20
    1904 (วันที่ 10 ตุลาคม)
    - เอเลี่ยน และพรีเดเตอร์ เปิดฉากการล่าขึ้นที่สถานีล่าปลาวาฬในโบเวย์โทยา (Bouvetoya)
    Alien vs. Predator film

    ประมาณปี 1950
    - ศาสตร์จารย์ เดเนียล ริปลี่ย์ สังหารควีนเอเลี่ยน ที่บ้านเกิดของเขา (มาได้ไงฟะ สงสัยต้องไปหาโหลดมาอ่านซะแล้ว)
    Earth Angel comic

    2004 (วันที่ 10 ตุลาคม)
    - เกิดเหตุการณ์ใน Alien vs. Predator ฉบับภาพยนตร์

    ศตวรรษที่ 21
    ประมาณปี 2020
    - ค้นพบเทคโนโลยีการเดินทางในอวกาศที่เรียกว่า FTL (Faster-Than-Light)
    Elder Gods comic

    2084
    - อาณานิคมเหมืองแร่ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Omni Tech บนดาวเคราะห์ Mira Ceti 4
    Elder Gods comic

    2099
    - อาณานิคมบนดาว Mira Ceti 4 ถูกถล่มโดยกองทัพเอเลี่ยน
    Elder Gods comic

    ศตวรรษที่ 22
    2101
    - ก่อตั้งหน่วยงานนาวิกโยธินแห่งสหพันธรัฐชาวอาณานิคม (United States Colonial Marine Corps)
    Colonial Marines Technical Manual

    2103
    - ยานกู้ภัยของ Omni Tech เดินทางมาถึง Mira Ceti 4 หน่วยกู้ภัยค้นพบผู้เสียชีวิต 104 ศพ และผู้สูญหายอีก 428 คน ไม่ค้นพบสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น (เอเลี่ยนหายไปไหน และอย่างไร!?)
    Elder Gods comic

    2104
    - สหพันธ์อเมริกา (United Americas) ถูกก่อตั้งขึ้น
    Alien

    2116
    - ยานขนส่งแร่นอสโทรโม (Nostromo) ถูกสร้างขึ้น
    Colonial Marines Technical Manual
    - ดร. ลูเชี่ยน เคอิเทล (Lucien Keitel) ค้นพบร่องรอยของซีโนมอร์ฟ อายุ 1.6 พันล้านปี บนพื้นที่ทะเลทรายของทวีปออสเตรเลีย (เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่อารยธรรมของ Space Jockey ล่มสลาย)
    Destroying Angels comic

    2122 (วันที่ 3-6 มิถุนายน)
    - เกิดเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Alien ภาคแรก

    ประมาณปี 2130
    - ยานขนส่งลำหนึ่งเดินทางไปสำรวจ เดเรลิก(Derelict) ที่อยู่ในวงโคจรของโลก
    Earth Hive novel
    หมายเหตุ : Derelict เป็นชื่อเรียกยานของ Space Jockey

    2137
    - ดร.เคอิเทลค้นพบเดเรลิกลำที่สอง
    Destroying Angels comic

    2138
    - หน่วยตรวจสอบถูกส่งตัวเข้าไปในเดเรลิกลำที่สอง
    Destroying Angels comic

    2140
    - ขาดการติดต่อกับหน่วยสำรวจในเดเรลิกลำที่สอง
    Destroying Angels comic

    2142
    - หน่วยค้นหา และกู้ภัย สามารถระบุตำแหน่งของดร. เคอิเทลได้ ซึ่งเขาอยู่บนดาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาณานิคมของ Space Jockey
    Destroying Angels comic

    2145 (วันที่ 19 ตุลาคม)
    - ไวรัสลึกลับบนยาน USS Emerson เริ่มสังหารกลุ่มผู้ใหญ่
    Alchemy comic

    2147 (วันที่ 1 เมษายน)
    - ยาน Emerson ลงจอดบนดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง เพื่อปล่อยให้ยานซ่อมบำรุงตัวเอง และพวกเขาก็ได้เริ่มก่อสร้างอาณานิคม
    Alchemy comic

    ประมาณปี 2157
    - Hadley’s Hope ถูกก่อตั้งขึ้น (ชื่ออาณานิคมบนดาว LV-426)
    Aliens

    ประมาณปี 2160
    - ยานขนส่งขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนเกาะแห่งหนึ่งในฮาวาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่าหนึ่งแสนคน กฎหมายใหม่จึงได้ถูกตราขึ้น เพื่อจัดการกับปัญหาขยะอวกาศที่ล่องลอยอยู่รอบๆวงโคจรของโลก
    Earth Hive novel

    2179 (มีนาคม-สิงหาคม)
    - เกิดเหตุการณ์ในเอเลี่ยนภาค 2 และ 3

    2179 (วันที่ 12 สิงหาคม)
    - ยานซูลาโค้ (Sulaco) ถูกค้นพบอีกครั้งโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงทางอวกาศ ที่สถานี O’niell หลังจากหายสาบสูญไป แต่ตอนนี้มันกลับเหลือแต่ยานเปล่าๆที่ไร้ผู้คน
    หมายเหตุ : ซูลาโค้ คือ ยานที่ริปลี่ย์ และเหล่านาวิกโยธิน ใช้เดินทางไปยังดาว LV-426 ในภาพยนตร์เอเลี่ยนภาค 2 หลังจบเหตุการณ์ภาคสอง ผู้รอดชีวิตทั้งสามได้แก่ ริปลี่ย์ นู้ด และฮิค ได้ใช้ยานลำนี้เดินทางกลับ แต่แล้วเฟซฮักเกอร์สองตัวที่ราชินีทิ้งไข่ไว้ก็ได้ฝักตัวออกมา และจู่โจมริปลี่ย์ที่กำลังหลับใหล เลือดของมันทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ทั้งสามคนจึงถูกปล่อยไปกับกระสวยกู้ภัย และตกลงบนดาว Fiorina 161 และเกิดเรื่องราวในเอเลี่ยนภาค 3 ตามมา ส่วนยานซูลาโค้ก็ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย จนถูกค้นพบเข้า
    Colonial Marines Technical Manual

    2179 (วันที่ 15 กันยายน)
    - ยานซูลาโค้ถูกควบคุมจากระยะไกลให้เดินทางกลับมายังดาว Acheron ระหว่างนั้นเอง บริษัท Weyland Yutani ก็ได้ค้นพบเอเลี่ยนสองตัวบนเดเรลิก ในที่สุดพวกเขาก็ได้สายพันธุ์มฤตยูนี้มาอยู่ในเงื้อมมือได้สำเร็จ
    Colonial Marines Technical Manual

    2180
    - ยานรบชั้น Conestoga ถูกปลดประจำการ
    Colonial Marines Technical Manual

    2188
    - เกิดคลื่นรบกวนผ่านเมือง Emerson
    Alchemy comic

    2189
    - สถานีวิจัยแห่งใหม่ถูกก่อตั้งขึ้นรอบๆเดเรลิกบนดาวเคราะห์ LV-426 แต่ต่อมา ก็ได้ถูกทำลายลงไปพร้อมๆกับเดเรลิก เมื่อเครื่องปรับเปลี่ยนชั้นบรรยากาศเครื่องใหม่เกิดการขัดข้อง และระเบิดขึ้น
    Alien vs Predator computer game

    2190
    - แอนดรอยด์ที่มีเลือดปลอม และความทรงจำได้รับการพัฒนาขึ้น
    Female War novel

    Alien-Earth War
    2192 (วันที่ 5 เมษายน)
    - ยานเบเนดิกได้เดินทางออกจากโลกเพื่อนำตัวอย่างเอเลี่ยนจากดาวที่ถูกครอบครอง โดยซีโนมอร์ฟ แต่หารู้ไม่ว่า มีควีนเอเลี่ยนตัวหนึ่งบนโลกได้หลุดรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไป และเริ่มให้กำเนิดเหล่าเอเลี่ยนผู้บ้าคลั่ง สงครามที่มีโลกเป็นเดิมพันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    Earth Hive novel

    2192 (สิงหาคม)
    - รังของเอเลี่ยนหลากหลายสายพันธุ์ถูกสร้างขึ้นบนเกาะมาดากัสการ์ หลังจากพวกมันบดขยี้ทุกสิ่งบนเกาะจนราบเป็นหน้ากลอง
    Earth Hive novel
    หมายเหตุ : มาดากัสการ์เป็นหนึ่งในเกาะที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ นั่นทำให้เกิดเอเลี่ยนที่มีความแตกต่างทาง DNA เป็นจำนวนมาก

    2192 (สิงหาคม)
    - จาร์กาตาถูกทำลายจนราบคาบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากมันถูกครอบครองโดยเอเลี่ยน
    Earth Hive novel

    2193 (กุมภาพันธ์)
    - ยานเบเนดิกเดินทางมาถึงดาวที่ถูกครอบครองโดยเอเลี่ยน แต่มันก็ได้ถูกติดตามมาโดยยานของบริษัทคู่แข่ง K104 ส่วนทางด้านโลกนั้น บัดนี้เอเลี่ยนใกล้จะประสบความสำเร็จในการยึดครองดวงดาวแห่งนี้แล้ว
    - ทวีปออสเตรเลียกลายเป็นเขตกักกันโดยสมบูรณ์
    Earth Hive novel

    2193 (พฤศจิกายน)
    - ยานเบเนดิกรีบเดินทางกลับสู่โลก เพื่อช่วยเหลือในการสู้รบ และต่อต้านเหล่าเอเลี่ยน พร้อมกับทหารของ K104 (ยานเบเนดิกใช้เวลาในการเดินทางเป็นเวลาหนึ่งปี เพื่อไปยังดาวที่ถูกครอบครองโดยเอเลี่ยน แต่ขากลับนั้น พวกเขาใช้ความเร็วที่มากกว่าขาไปผ่านเส้นทางเดิม พวกเขาจึงใช้เวลาเพียง 9 เดือน เพื่อกลับสู่โลก)
    Earth Hive novel

    2194 (พฤษภาคม)
    - เริ่มแผนการอพยพออกจากโลกที่ถูกครอบครองโดยเอเลี่ยน เหล่าสมาชิกของยานเบเนดิกอันได้แก่ Wilks , Billie และแอนดรอยด์ชื่อ Bueller ทั้งหมดได้เดินทางไปยังดาวเคราะห์อาณานิคมที่ปกครองโดยแม่ทัพสเปียร์ (Spears)
    Nightmare Asylum novel

    2194 (พฤศจิกายน)
    - สเปียร์ต้องการจะกอบกู้โลก ด้วยความพยายามที่จะฝึกสอนเอเลี่ยน แต่เขาก็ล้มเหลว
    Nightmare Asylum novel

    2195 (กรกฎาคม)
    - ควีนมาเธอร์ ถูกจับตัวมาจากดาวเคราะ ห์ Hiveworld โดยกลุ่มของนาวิกโยธินที่นำโดยวีรสตรีนาม เอลเลน ริปลี่ย์
    Female War novel

    2196 (กุมภาพันธ์)
    - ควีนมาเธอร์ถูกปล่อยลงสู่โลก ใกล้กับที่เก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์ของดร. โอโรน่า (Orona) ในรัฐโอเรกอน
    Female War novel

    2196 (สิงหาคม)
    - ระเบิดของดร. โอโรน่า ได้ทำงานขึ้น
    Female War novel

    2196 (กันยายน)
    - ล้มเหลวในการเจรจากับ Space Jockey คนสุดท้าย
    Dark Horse Presents comic

    EARTH RECONSTRUCTION PERIOD (ยุคการฟื้นฟูโลก)

    2197
    - Christian Bloome ค้นพบ Royal Jelly.
    Music of the Spears novel

    2198
    - Xeno-Zip รูปแบบสังเคราะห์ของ Royal Jelly ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Grant Corporation.
    Genocide novel
    - Caryn Delacroix aka Ash Parnall ผู้ถูกหลอกหลอนโดยฝันร้ายอันไร้ที่มา ได้ช่วยเหลือพรีเดเตอร์เพศเมียตัวหนึ่งในการช่วยเหลือลูกๆของเธอ ระหว่างนั้นเอง เธอก็ไม่รู้ตัวว่า กำลังให้ความช่วยเหลือในการกำเนิดสิ่งมีชีวิตที่รวมสามเผ่าพันธุ์เข้าไว้ ด้วยกัน
    The Deadliest of the Species

    ศตวรรษที่ 23
    2205
    - Ernst Kleist ได้ตัดต่อพันธุกรรมเอเลี่ยน และให้กำเนิดเอเลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ที่ทรงพลังนามว่า Rogue
    Rogue novel

    2206
    - ยาน USS Melville และเหล่านาวิกโยธินได้ออกไล่ล่าและทำลายเหล่ามนุษย์ และเอเลี่ยนกลายพันธุ์ที่รู้จักกันในชื่อของ The Father
    Colonial Marines comic

    2207
    - Anthony Crespi เป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวในหน่วยนาวิกโยธินของเขา หลังจากต้องเผชิญหน้ากับฝูงเอเลี่ยน
    Labyrinth comic

    2212
    - หลังจากยานของเธอตกบนดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง มิชชันนารีสาว Ann McKay ได้ช่วยเหลือกลุ่มอาณานิคมเล็กๆในการต่อสู้กับเอเลี่ยน
    Sacrifice comic

    2216
    - Crespi ได้สอบสวน Dr. Church ที่ Innominata.
    Labyrinth novel

    2217
    - Stan Mayakovsky ได้สร้างเอเลี่ยนสังเคราะห์ชื่อว่า Norbert ต่อมาได้จบชีวิตลงที่ดาวเคราะห์ AR-32 ในระหว่างภารกิจรวบรวม Royal Jelly
    Alien Harvest novel
    - บริษัท Grant Corporation ส่งทีมไปที่ Hiveworld อีกครั้ง หลังจากที่ทีมของริปลี่ย์เคยมายังดาวแห่งนี้เพื่อจับกุมควีนมาเธอร์ในปี 2195 แต่ครั้งนี้ทีมของ Grant Corporation มาเพื่อรวบรวม Royal Jelly ครั้งนี้ นอกจากพวกเขาต้องพบกับควีนมาเธอร์ตัวที่สองแล้ว พวกเขายังต้องติดอยู่ระหว่างสงครามระหว่างออริจินอล และกองทัพเอเลี่ยนสีแดงผู้ดุดัน “เรดอาร์มี่”)
    Genocide novel

    2220
    - เอเลี่ยนจักรกลชื่อ Jerry ถูกสร้างขึ้น
    Stronghold comic

    2224
    - Damon Eddington เสียชีวิตในระหว่างการแต่งบทเพลงแห่งความเกลียดชัง (the Symphony of Hate)
    Music of the Spears novel

    ประมาณปี 2225
    - หน่วย Berserker ถูกว่าจ้างให้กำจัดรังของเอเลี่ยน โดยหน่วย Berserker เคยถูกว่าจ้างจาก Nemesis ในภารกิจบนห้วงอวกาศ Deep Space 949
    Berseker novel
    - Lara, Ellis และ Jess สมาชิกของ Nemesis ได้พบกับ Machiko Noguchi พร้อมกับกลุ่มของพรีเดเตอร์ และภารกิจในการหลบหนีจากดาว Bunda ที่ถูกเอเลี่ยนคุกคาม
    War novel
    หมายเหตุ : Machiko Noguchi เป็นหญิงสาวที่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มแคลนพรีเดเตอร์ เธอ และกลุ่มพรีเดเตอร์ของเธอได้ออกล่าด้วยกันในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อพรีเดเตอร์นำไข่ของเอเลี่ยนลงไปยังดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง เธอและพรีเดเตอร์กลุ่มหนึ่งกำลังรอคอยให้เอเลี่ยนเจริญสู่ขั้นสุดท้าย เพื่อเริ่มต้นการล่า แต่แล้วเมื่อพวกเขาไปถึง สิ่งที่พวกเขาพบคือกองทัพเอเลี่ยนจำนวนศาล มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น สาเหตุมันมาจากหนึ่งในไข่ที่ถูกนำลงไปบนดาวเคราะห์เป็นไข่ของราชินี นั่นทำให้การล่าแปรเปลี่ยนเป็นสงครามเพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อจับกุมราชินีได้ทุกอย่างดูจะจบ แต่แล้วเมื่อการล่าครั้งต่อไปเริ่มต้นขึ้นบนดาว Bunda โศกนาฎกรรมก็หมุนเวียนมาบรรจบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ร้ายแรงยิ่งกว่า ตอนหลังเธอได้ทรยศแคลนของเธอ โดยการปลดปล่อยราชินีที่ถูกคุมขังอยู่บนยานแมนดาคา ราชินีได้สังหารพรีเดเตอร์จนเกลี้ยงทั้งลำ ส่วนตัวเธอได้หลบหนีไปจาก Bunda พร้อมกับสมาชิกของ Nemesis

    ปล. เอเลี่ยนใน AvP คอมมิคชื่อเดียวกันนี้ ไม่ได้ใช้ทฤษฎีการรับ DNA จากโฮสต์ที่ฝักตัว คาดว่า คงขี้เกียจออกแบบ หรือไม่ก็ออกแบบแล้ว บก.ไม่ให้ผ่าน เลยใช้ตัวต้นแบบไป

    ประมาณปี 2227
    - ทีม Strikeforce พยายามที่จะกอบกู้ดาวเคราะห์ Salazar VII.
    Aliens : Xenogenesis comic

    ประมาณปี 2240
    - เกิดเหตุการณ์ The Big Deletion เมื่อระบบคอมพิวเตอร์ของชาวอาณานิคมในอวกาศถูกทำลายโดยไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ ทรงปัญญา ซึ่งส่งผลกระทบต่ออาณานิคมบนดาวเคราะห์ต่างๆนับร้อยๆแห่ง เอกสารและบันทึกหลายอย่างเสียหายจนไม่อาจกู้คืนได้
    Estimate based on AvP: Thrill of the Hunt

    หมาย เหตุ : เหตุการณ์ The Big Deletion ได้ทำลายระบบเครือข่ายอินเตอร์เนตที่เชื่อมต่อระหว่างดาวเคราะห์ รวมไปข้อมูลสำคัญในประวัติศาสตร์ รวมไปถึงบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอันเป็นดาวบ้าน เกิดที่กำลังถูกครอบครองโดยเอเลี่ยน

    ศตวรรษที่ 24

    2310
    - การปกครองอันกดขี่ของLegate Muir ในเมือง Emerson มาถึงจุดจบ
    Alchemy comic

    ประมาณปี 2354
    - อาณานิคมแห่งใหม่ได้พัฒนาระบบ Core และประกาศว่า สิ่งนี้จะช่วยฟื้นฟูมนุษยชาติจากเหตุการณ์ The Big Deletion ที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์มานานนับศตวรรษ การติดต่อกับเอเลี่ยนและพรีเดเตอร์เริ่มต้นอีกครั้ง
    AvP: Thrill of the Hunt

    2381 (มกราคม)
    - เกิดเหตุการณ์ใน Alien Resurrection (!?)
    ปล. ตรงนี้งงๆเหมือนกัน แต่คาดว่า Dark Horse ตั้งใจจะบอกว่า เหตุการณ์ที่เคยติดต่อกับเอเลี่ยนและพรีเดเตอร์ ล้วนสูญหายไปจากสารระบบหลังจาก เหตุการณ์ The Big Deletion อีกทั้งเวลาที่ยาวนาน ทำให้ผู้คนรุ่นต่อมาลืมเลือนเรื่องราวที่เกิดขึ้น (อาจจะมีบางกลุ่มที่ยังข้อมูลเหล่านี้อยู่ แต่ก็สูญหายไปมากจนต้องมาศึกษากันใหม่อีกรอบ)

    เพิ่มเติม
    - ในข้อมูลเหล่านี้ไม่รวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Alien vs Predator vs Terminator (คงไม่รู้ว่า จะไปยัด Timeline ไว้ช่วงไหนดี คงเพราะมีสกายเนต และ T1000 เข้ามาเอี่ยว ด้วยนั่นแหล่ะ งั้นให้มันเป็นจักรวาลคู่ขนานไปล่ะกัน)
    - แม้ว่า ยาน Conestoga จะปลดประจำการไปแล้วในปี 2180 แต่ยานชื่อ USS Melville ยังคงถูกใช้ในกองทัพไปอีก 26 ปี

    นี่คือการ์ตูนเรื่องAVP แบบพิเศษ เพราะมีเทอมิเนเตอร์มาด้วย

    [​IMG]

    ต่อไปก็มาว่าด้วยเรื่องของหนังกันบ้าง


    ปี 2069 - 2123

    ช่วงกลางถึงสิ้นสุดศตวรรษที่ 21
    - ค้นพบเทคโนโลยี FTL หรือการเดินทางที่เร็วกว่าแสง ทำให้มนุษยชาติสามารถเดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของอวกาศได้
    - สถานีควบคุมการเดินทางในอวกาศถูกก่อตั้งขึ้นในแอนตาร์กติกา
    - แอนดรอยด์ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ระบบไฮเปอร์ไดซ์ (Hyperdyne Systems)
    Estimated from evidence in Alien. ‘Hyperdyne’ from Aliens.
    หมายเหตุ : ไฮเปอร์ไดซ์เป็นชื่อบริษัทที่ผลิตแอนดรอยด์ขึ้นมา หุ่นเหล่านี้ถือเป็นรุ่นบุกเบิก แต่ส่วนใหญ่มักมีข้อบกพร่อง

    2069 (วันที่ 13 กรกฎาคม)
    - S.E. Brett (ID# 724/R4-06J) เกิดที่ฮูดตั้น รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา

    [​IMG]

    2076
    - สหรัฐอเมริกาเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสวันครบรอบการก่อตั้งประเทศเป็นปีที่ 300 (ว่าง่ายๆ วันชาติ นั่นแหล่ะ) และร่วมระลึกถึงเเหล่าผู้บุกเบิกอวกาศที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายออกไปสำรวจ กาแล็กซี่อันกว้างใหญ่ ผู้คนเหล่านี้ ได้แก่ นักธุรกิจ และทหาร

    [​IMG]


    2076 (วันที่ 27 กุมภาพันธ์)
    - A.J. Dallas (ID# 032/V4-07C) เกิดที่ Wolf Point รัฐ Montana สหรัฐอเมริกา .

    [​IMG]

    2080 (วันที่ 4 กุมภาพันธ์)
    - J.T. Parker (ID# 313/S4-08M) เกิดที่ซานดิเอโก้ รัฐแคลริฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา.

    [​IMG]

    2083 (วันที่ 20 เมษายน)
    - G.W. 'Thomas' Kane (ID# 825/G9-01K) เกิดที่ Borehamwood , Hertfordshire สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)

    [​IMG]

    2085 (วันที่ 21 มิถุนายน)
    - Brett เริ่มทำงานเป็นช่างเครื่องในบริษัท E-Z-Fly Spacecraft Repair ที่ฮูดตั้น (ซ่อมบำรุงยานพาหนะทางอวกาศ)
    หมายเหตุ : บริษัทดังกล่าวเป็นกิจการส่วนตัวของครอบครัวเขาเอง
    From Alien DVD.

    2092 (วันที่ 7 มกราคม)
    - Ellen L. Ripley (ID# 759/L2-01N) เกิดที่ Olympia รัฐ Luna สหรัฐอเมริกา.

    [​IMG]


    2093 (วันที่ 7 พฤศจิกายน)
    - J.M. Lambert (ID# 971/L6-02P) เกิดที่ Ontario ประเทศแคนาดา (ภายหลังได้เป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์อเมริกา หรือ UA)

    [​IMG]

    2094 (วันที่ 15 พฤษภาคม)
    - Brett เริ่มทำงานใหม่เป็นช่างเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านฮาร์ดแวร์ในบริษัท Solari Energy Corp ที่โอซาก้า (บริษัทนี้วิจัยเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์) และสิ้นสุดสัญญาว่าจ้างในวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2095
    From Alien DVD.

    2096 (วันที่ 1 กุมภาพันธ์)
    - Brett เข้าทำงานกับบริษัท Ridton Corp.
    From Alien DVD.

    2096 (วันที่ 16 กรกฎาคม)
    - Brett ได้รับสัญญาว่าจ้างจาก Ridton Corp
    From Alien DVD.

    2096 (วันที่ 4 ธันวาคม)
    - Brett ใช้เวลา 5 เดือนในการบำบัดโรคติดแอลกอฮอล์ที่ศูนย์การแพทย์ของ Ridton Corp
    From Alien DVD.

    2097 (วันที่ 15 กันยายน)
    - Brett ได้รับการว่าจ้างเป็นผู้ช่วยวิศวกรบนยานสำรวจชื่อ Ozymandias
    From Alien DVD.

    2099 (วันที่ 15 พฤษภาคม)
    - Dallas สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฝึกสอนการบิน Mercaton
    From Alien DVD.

    ช่วงต้นศตวรรษที่ 22
    - สถานีขุดเหมืองแร่ถูกสร้างขึ้นบนดาว Thedus ในเขต Outer Rim* โดยบริษัท Weyland-Yutani
    - ท่ายานอวกาศถูกตั้งขึ้นที่หมู่เกาะ Solomon
    Estimated from evidence in Alien.
    หมาย เหตุ : Outer Rim เป็นชื่อเรียกเขตแดนอวกาศที่กำลังอยู่ในระหว่างการสำรวจเพื่อการก่อตั้ง อาณานิคม รวมไปถึงเขตแดนที่ยังไม่มีการสำรวจ หรือตั้งรกราก โดยดาว LV-426 (ภายหลังได้รับการตั้งชื่อว่า Acheron) เป็นหนึ่งในดาวที่อยู่ในเขต Outer Rim โดยยานนอสโทรโมเคยลงไปตรวจสอบเดเรลิกในปี 2122 (ภาพยนตร์เอเลี่ยนภาคแรก) ต่อมาได้รับการสำรวจอย่างเต็มรูปแบบ และก่อตั้งอาณานิคมชื่อ Hadley’s Hope ขึ้นในอีก 30 ปีต่อมา

    [​IMG]

    2100 (วันที่ 11 มีนาคม)
    - Dallas ได้รับการว่าจ้างเป็นนักบินให้กับยานกู้ภัยชื่อ USCSS Snark
    From Alien DVD.

    2100 (วันที่ 23 พฤษภาคม)
    - Kane จบการศึกษาพร้อมเกียรติบัตรจากโรงเรียนฝึกทหารอากาศ
    From Alien DVD.

    2101
    - องค์กรเคลื่อนไหวเพื่อความมั่นคงแห่งชาติได้ก่อตั้งหน่วยนาวิกโยธินแห่งอาณานิคม (Colonial Marine Corp)

    [​IMG]

    From Aliens : Colonial Marines Technical Manual

    ประมาณปี่ 2101
    - ยานขนส่งระหว่างดวงดาว ชั้น M-Class ชื่อ Nostromo (180924609) ถูกสร้างขึ้น

    2103 (วันที่ 23 มกราคม)
    - Dallas ถูกว่าจ้างให้เป็นนักบินของยาน UTX Ganymede
    From Alien DVD.

    2104
    - ทวีปอเมริกาเหนือ กลาง และใต้ ได้รวมตัวกันเป็นชาติเดียวในชื่อของสหพันธ์อเมริกา (The United Americas : UA)

    [​IMG]

    From The UNITED STATES COMMERCIAL SPACESHIP NOSTROMO: Concepts and Derivations' (Thinking Cap Company 1980)

    2104 (วันที่ 30 พฤษภาคม)
    - Kane จบการศึกษาจากโรงเรียนฝึกทหาร และการยิงปืน ด้วยคะแนนสูงสุดในชั้นเรียน
    From Alien DVD.

    2104 (วันที่ 6 ตุลาคม)
    - หลังจากทำงานเป็นนักแข่ง Maxx High Speed Racing ให้กับทีม Terrafoil เป็นเวลา 4 ปี Parker ก็ได้ลาออกจากทีม เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องค่าตัว
    From Alien DVD.

    2105 (วันที่ 9 มกราคม)
    - Parker ถูกเกณฑ์เป็นทหารในหน่วยกองเรือรบแห่งสหพันธ์อเมริกาประจำเขต Outer Rim (มียศเป็นพลทหาร)
    From Alien DVD.

    2106 - 2108
    - สงครามกลางเมือง Torin Prime* เริ่มต้นขึ้นในเขตปกครอง Outer Rim
    - ร้อยโท Dallas ผู้อยู่ในกองทัพประจำเขตแดน Outer Rim แห่งสหพันธ์อเมริกา ในฐานะนักบินของยาน UAS Leviathan ร่วมรบในเหตุการณ์จนได้รับเหรียญกล้าหาญ Sunburst ส่วน Parker ถูกจับตัวโดยกลุ่มกบฎ J'har ตลอดสงครามที่เกิดขึ้น และถูกคุมขังอยู่ที่ค่ายกักกัน GR-161 (1/8/07) เขาหลบหนีออกมาได้ในช่วงการสู้รบปลดปล่อย Torin Prime โดยหลบหนีออกมาทาง EEV* Dallas ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นกัปตัน เขาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญจนจบภารกิจ และกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย
    From Alien DVD.
    หมาย เหตุ : Torin Prime เป็นชื่อดวงดาวในเขต Outer Rim และเป็นสถานที่เกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง UAORD (UNITED AMERICAS OUTER RIM DEFENSE หรือ กองทัพประจำเขตแดน Outer Rim แห่งสหพันธ์อเมริกา) และกลุ่มกบฎ J'Har ในช่วงปี 2106 ถึง 2108
    หมายเหตุ : EEV ย่อมาจาก EMERGENCY ESCAPE VEHICLE หรือ ยานชูชีพ ซึ่งถูกติดตั้งอยู่บนยานอวกาศขนาดใหญ่

    [​IMG]

    2107 (วันที่ 14 มิถุนายน)
    - จ่าอากาศโท Parker ถูกว่าจ้างจาก UAORD ให้มาประจำการที่ฐาน Skyfire Down ในฐานะหัวหน้าช่างเครื่อง
    From Alien DVD.

    2108 (วันที่ 13 กุมภาพันธ์)
    - Kane ถูกไล่ออกจากโรงเรียนฝึกสอนการแพทย์ Bryce-Watkins ในข้อหาใช้ยาเกินขนาด แต่ต่อมา เขาก็บำบัดอาการติดยา และสภาวะเครียดได้สำเร็จ
    From Alien DVD.

    2108 (วันที่ 21 พฤษภาคม)
    - Brett จบการศึกษาจากโรงเรียนฝึกสอนในฮูดตั้น ในสาขาดาราศาสตร์ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติทางฟิสิคส์ของนพเคราะห์ และสาขาวิศวกรรมระหว่างดวงดาว
    From Alien DVD.

    2108 (วันที่ 14 กรกฎาคม)
    - Brett ถูกว่าจ้างจากบริษัท Weyland-Yutani ให้มาเป็นผู้ช่วยวิศวกรบนยานกำจัดขยะ ชื่อ USCSS Corazon Oscuro
    From Alien DVD.

    2109 (วันที่ 25 ธันวาคม)
    - ยานลำเลียงพลทหาร UAS Archangel ภายใต้การบังคับบัญชาของกัปตัน Dallas ถูกทำลายในระหว่างภารกิจรักษาความสงบบนดาว Thedus ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15293 คน เป็นสาเหตุให้เขาถูก UAORD ลดขั้น และปลดออกจากตำแหน่งกัปตัน
    From Alien DVD.

    2111 (วันที่ 24 มิถุนายน)
    - ลูกสาวของเอลเลน ริปลี่ย์ ชื่อ Amanda Ripley ลืมตาดูโลก (เธอมีชื่อเล่นว่า Amy)
    From Aliens. Amy เสียในชีวิตในปี 2177 ด้วยวัย 66 ปี



    2111 (วันที่ 10 พฤศจิกายน)
    - Brett สอบตกในการตรวจผลแอลกอฮอล์ในเลือด (ไอ้นี่กลับมาติดเหล้าอีกแล้ว)
    From Alien DVD.

    2112 (วันที่ 9 มกราคม)
    - Brett เกิดอาการเจ็บปวดทางสมองเล็กน้อย ในระหว่างกระบวนการขับสารเสพย์ติดออกจากสมอง เพื่อบำบัดอาการติดเหล้า ที่ศูนย์การแพทย์ของบริษัท Weyland Yutani บนดาว Titan (เลิกด้วยตัวเองไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีบังคับล่ะ)
    From Alien DVD.

    2112 (วันที่ 12 พฤษภาคม)
    - Lambert จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย New Ontario ในสาขาวิชาการทำแผนที่เส้นทางระหว่างดาวเคราะห์
    From Alien DVD.

    2112 (วันที่ 1 มิถุนายน)
    - Lambert เริ่มการฝึกงานที่ Ridton Corp ในแผนกการสร้างแผนที่เส้นทางระหว่างดาวเคราะห์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
    From Alien DVD.

    2112 (วันที่ 7 ตุลาคม)
    - Lambert แต่งงานกับ Xander Chapman ผู้อำนวยการแผนกการสร้างแผนที่เส้นทางดาวเคราะห์ที่ Ridton Corp
    From Alien DVD.

    2112 (วันที่ 28 ตุลาคม)
    - Kane ได้พบกับ Dr Elisabeth Monygham ที่ Konor Minor
    From Alien DVD.
    - Lambert เริ่มทำงานเป็นคนส่งสัญญาณนำทางของยานขนส่งที่เหมือง Farside Lunar ที่อาณานิคม Plymouth บนดาว Luna ของ UA
    From Alien DVD.

    2113 (วันที่ 29 มีนาคม)
    - Parker ได้ลาออกจากโรงเรียนกลางคัน หลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนฝึกสอนวิชาวิศวกรรมศาสตร์ระหว่างดวงดาวในซานดิเอ โก้มาเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง
    From Alien DVD.

    2113 (วันที่ 3 เมษายน)
    - Brett ได้รับอนุญาตให้เป็นนักบินอีกครั้ง หลังจากบำบัด และพักฟื้นจากอาการติดเหล้าเป็นเวลา 14 เดือน บนดาว Titan.
    From Alien DVD.

    2113 (วันที่ 19 เมษายน)
    - Brett เริ่มทำงาน (อีกครั้ง) เป็นผู้ช่วยวิศวกรเฉพาะทางที่ศูนย์ควบคุมเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นบนดาว Titan (งวดนี้เมาอีก มีหวังได้ตายกันยกโคโลนี่)
    From Alien DVD.

    2113 (วันที่ 23 เมษายน)
    - Dallas เริ่มทำงานเป็นนักลักลอบขนของเถื่อนบนยานชื่อ Vidar (แค่โดนปลด ถึงกับสติแตกหันมาค้าอาวุธเลยรึ -_-“ เคยเป็นทหารซะเปล่า)
    From Alien DVD.

    2113 (วันที่ 2 ตุลาคม)
    - Parker เริ่มทำงานเป็นช่างเครื่อง และวิศวกรอิสระให้กับบริษัท MexCorp.
    From Alien DVD.

    2114 (วันที่ 7 มกราคม)
    - Parker ได้รับการว่าจ้างมาประจำอยู่บนยานต้นแบบของตัวเร่งความเร็วแสงของ UA ชื่อ Neptune.
    From Alien DVD.

    2114 (วันที่ 10 กุมภาพันธ์)
    - Lambert หย่ากับ Xander Chapman
    From Alien DVD.

    2114 (วันที่ 17 กุมภาพันธ์)
    - Lambert ได้รับการว่าจ้างให้มาเป็นผู้ช่วยต้นหนบนยานท่องเที่ยวของบริษัท Red Star Line ชื่อ Infinity ในการเดินทางไปกลับระหว่างดาวอังคาร และกลุ่มดาว Orion
    From Alien DVD.

    2114 (วันที่ 17 มิถุนายน)
    - Kane แต่งงานกับ Elisabeth Monygham.
    From Alien DVD.

    2114 (วันที่ 21 กรกฎาคม)
    - Dallas ทำงานให้กับบริษัท Weyland-Yutani ในฐานะนักบินยานขนส่ง ตอนนี้ เขามียานเป็นของตัวเอง ชื่อ Tremolino
    From Alien DVD.

    2114 (วันที่ 12 พฤศจิกายน)
    - Van Leuwen เกิดที่ Winnipeg, Manitoba แคนาดา (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์อเมริกา หรือ UA)

    2115 (วันที่ 29 มกราคม)
    - Lambert ได้รับการว่าจ้างเป็นผู้บัญชาการควบตำแหน่งต้นหน ให้กับ Ridton Corp บนยานกู้ภัยชื่อ Leggatt
    From Alien DVD.

    2115 (วันที่ 5 พฤษภาคม)
    - Parker ถูกว่าจ้างจากบริษัท Weyland-Yutani ให้มาเป็นผู้ช่วยวิศวกรบนยานบรรทุกสินค้าชื่อ USCSS Otago
    From Alien DVD.

    2115 (วันที่ 25 พฤษภาคม)
    - Ripley จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Evansbrook ด้วยคะแนนสูงสุดในชั้นเรียน จากวิชาความถนัดทางด้านจริยศาสตร์ กฎหมาย และธุรกิจที่เกี่ยวกับบริษัท
    From Alien DVD.

    2115 (วันที่ 1 มิถุนายน)
    - Ripley เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกสอนจากบริษัท Weyland-Yutani
    From Alien DVD.

    2115 (วันที่ 9 มิถุนายน)
    - ดร. Elisabeth Monygham เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่อาณานิคม Kellerat บนดาว LB-329
    From Alien DVD.

    2115 (วันที่ 16 ตุลาคม)
    - Ellen Ripley ประสบความสำเร็จในการเจรจากับผู้ก่อการร้าย เมื่อพวกเขาบุกเข้าจับตัวประกันบนกระสวยชื่อ Erebus ของบริษัท Weyland-Yutani ผลจากการเจรจาของริปลี่ย์ ทำให้ช่วยชีวิตตัวประกันทั้ง 49 คนไว้ได้ และสามารถจับกุมผู้ก่อการร้ายได้ทั้ง 8 คน
    From Alien DVD.
    หมายเหตุ : Erebus เป็นชื่อของภูเขาไฟในแอนตาร์กติกา ซึ่งถูกตั้งชื่อตามลูกชายของเทพเจ้า Chaos ในตำนานกรีก

    2115 (วันที่ 14 ธันวาคม)
    - Kane ถูกว่าจ้างจากคณะเดินทางแห่งอาณานิคมชาวสหราชอาณาจักรในเครือสหภาพยุโรป ให้ไปสำรวจดาวเคราะห์ในเขต Outer Rim
    From Alien DVD.

    2116
    - ยาน USCSS Nostromo ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ถูกใช้ในเชิงพาณิชย์
    From Aliens : Colonial Marines Technical Manual.

    2116 (วันที่ 21 ธันวาคม)
    - Ripley สำเร็จโปรแกรมการฝึกสอนจากบริษัท Weyland-Yutani พร้อมได้รับเกียรติบัตร
    From Alien DVD.

    2117 (วันที่ 2 มกราคม)
    - Ripley ได้รับการว่าจ้างเป็นพนักงานประกันภัยบนยานบรรทุกสินค้าชื่อ USCSS Kurtz
    From Alien DVD.

    2117 (วันที่ 27 ตุลาคม)
    - Parker ได้รับการว่าจ้างจากบริษัท Weyland-Yutani เป็นวิศวกรบนยานบรรทุกสินค้าชื่อ USCSS Nonnabo
    From Alien DVD.

    2117 (วันที่ 1 พฤศจิกายน)
    - Kane ได้รับการว่าจ้าง และเป็นสมาชิกคนแรกของยานขนส่งระหว่างอาณานิคมชื่อ HMS Sabretooth ของสหราชอาณาจักรในเครือสหภาพยุโรป
    From Alien DVD.

    2117 (วันที่ 3 พฤศจิกายน)
    - Brett ได้รับการว่าจ้างเป็นวิศวกรเฉพาะทางบนยานบรรทุกสินค้าของบริษัท Weyland-Yutani ชื่อ USCSS Nonnabo
    From Alien DVD.

    2117 (วันที่ 1 ธันวาคม)
    - Ripley ได้รับการว่าจ้างเป็นพนักงานประกันภัยบนยานบรรทุกสินค้า ชื่อ USCSS Sephoria ของบริษัท Weyland-Yutani
    From Alien DVD.

    2118 (วันที่ 13 กันยายน)
    - Lambert แต่งงานใหม่กับ Lordan Hussett ผู้บริหารบนยานกู้ภัย Leggatt ของ Ridton Corp
    From Alien DVD.

    2118 (วันที่ 21 กันยายน)
    - Kane ได้ทำงานเป็นผู้บริหารบนยานกู้ภัยชื่อ USCSS Kenamor ของบริษัท Weyland-Yutani
    From Alien DVD.

    2118 (วันที่ 11 ตุลาคม)
    - Lambert ทำงานเป็นต้นหนให้กับบริษัท Weyland-Yutani บนยานสอดแนมชื่อ Adowa
    From Alien DVD.

    2119 (วันที่ 6 พฤศจิกายน)
    - Ripley ทำงานเป็นพนักงานประกันภัยบนยานบรรทุกสินค้าชื่อ USCSS Sotillo ของ บริษัท Weyland-Yutani
    From Alien DVD.

    2119 (วันที่ 7 ธันวาคม)
    - The Tremolino ถูกปลดออกจากหน้าที่ ทำให้เหล่าสมาชิกของยานต้องแยกย้ายกันไป (อีตา Dallas ตกงานอีกแล้ว)
    From Alien DVD.

    2120 (วันที่ 3 มกราคม)
    - Lambert หย่ากับ Lordan Hussett
    From Alien DVD.

    2120 (วันที่ 4 มกราคม)
    - Dallas รับหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาของยาน USCSS Nostromo (ยังดีที่มีงานใหม่ให้ทำน่ะเนี่ย).
    From Alien DVD.

    2120 (วันที่ 5 มกราคม)
    - Kane และ Lambert ได้รับการว่าจ้างเป็นลูกเรือของยาน USCSS Nostromo ในฐานะกรรมการบริษัท และต้นหน
    From Alien DVD.

    2120 (วันที่ 7 มกราคม)
    - USCSS Nostromo เตรียมตัวออกเดินทางจากท่าเรือ Solomon เพื่อไปยังดาว Thedus.
    Estimate based on information from Alien and guess work.

    2120 (วันที่ 10 สิงหาคม)
    - Ellen Ripley เข้าร่วมเป็นสมาชิกของยาน USCSS Nostromo ในภารกิจขนถ่ายแร่ที่ดาว Thedus ในฐานะพนักงานประกันภัย
    From Alien DVD.

    2120 (วันที่ 10 กันยายน)
    - Parker และ Brett เข้าร่วมเป็นสมาชิกของยาน USCSS Nostromo ในภารกิจขนถ่ายแร่ที่ดาว Thedus โดยรับหน้าที่เป็นวิศวกรบนยาน
    From Alien DVD.

    2121 (วันที่ 2 เมษายน)
    - Harold Andrews เกิดที่ Barnsley, Yorkshire , สหราชอาณาจักร



    2121 (เมษายน)
    - ยาน USCSS Nostromo เดินทางมาถึงดาว Thedus และเริ่มการขนถ่ายแร่.

    2121 (วันที่ 12 มิถุนายน)
    - ยาน USCSS Nostromo เดินทางออกจาก Thedus พร้อมกับสินแร่ 20,000,000 ตัน ระหว่างการเดินทางกลับสู่โลก คอมพิวเตอร์ของยานชื่อ Mother ได้ปลุก Ash (ID# 111/C2/01X) จากเครื่องจำศีล



    From Alien. Date is from Alien DVD.

    2122 (วันที่ 3-6 มิถุนายน)
    - USCSS Nostromo ได้รับสัญญาณลึกลับจากดาว LV-426 ซึ่งเป็นดาวในระบบดาวเคราะห์ Zeta-2-Reticuli กัปตัน Dallas , กรรมการบริษัท Kane และต้นหน Lambert ได้ลงไปสำรวจยังเดเรลิก ที่นั่นเขาได้รับพบกับไข่ซีโนมอร์ฟจำนวนมาก หนึ่งในเฟซฮักเกอร์ได้จู่โจมเข้าที่ใบหน้าของ Kane และวางตัวอ่อนลงในลำคอของเขา เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นเชสเบิร์นเตอร์ และทะลวงอกของเขาออกมา จากนั้นมันก็เติบโตสู่ตัวเต็มวัย และได้สังหาร Dallas กับ Brett

    Ripley พบความจริงว่า บริษัท Weyland-Yutani ต้องการตัวอย่างของเอเลี่ยน โดยมอบภารกิจลับนี้ให้กับหุ่นดรอยด์ระบบไฮเปอร์ไดซ์ชื่อ Ash เพื่อทำหน้าที่ปกป้องตัวอย่างเหล่านี้ และ Mother ก็มีส่วนรู้เห็นด้วย ทางด้าน Ash ได้เข้าทำร้าย Ripley แต่ด้วยความช่วยเหลือของ Parker ทำให้เธอรอดมาได้ ผู้รอดชีวิตทั้งหมดเตรียมตัวหลบหนีออกจาก Nostromo แต่ในระหว่างนั้นเอง Parker และ Lambert ก็ได้จบชีวิตลง จากการโจมตีของเอเลี่ยน Ripley ได้ติดตั้งระบบให้ยาน Nostromo ทำลายตัวเอง ส่วนเธอได้หลบหนีออกมาทางกระสวยกู้ภัยชื่อ Narcissus พร้อมกับแมวชื่อ Mr Jones เอเลี่ยนได้ติดตามทั้งคู่มาบนกระสวย แต่ Ripley ก็ได้จัดการส่งมันออกไปนอกอวกาศทาง airlock จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เข้าสู่เครื่องจำศีล เป็นอันจบเรื่องราวในเอเลี่ยนภาคแรก
    From Alien. See further notes on this one.

    รูป : เดเรลิกบนดาว LV-426

    [​IMG]

    กระสวย Narcissus

    [​IMG]


    คอมพิวเตอร์หลัก Mother

    [​IMG]

    ภารกิจลับที่บริษัท Weyland-Yutani มอบหมายให้ Ash และ Mother

    [​IMG]

    หนึ่งในสองผู้รอดชีวิตจากเอเลี่ยนภาคแรก (Mr Jones )

    [​IMG]

    2122 (สิงหาคม)
    - ดาวเทียมที่ติดตั้งบนกระสวย Narcissus เกิดการขัดข้อง
    From Aliens (novel).
    - กระสวย Narcissus ออกนอกเส้นทาง
    From Alien.

    2123
    - ยาน USCSS Nostromo ถูกบันทึกว่า หายสาบสูญ
    Estimate only.

    เพิ่มเติม

    - ยาน Nostromo เป็นยานขนส่งเชิงพาณิชย์ (รหัสติดตั้ง คือ 180942609) มีความเร็ว 0.12 ปีแสง ตัวยานแบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ ได้แก่
    A-level : ประกอบไปด้วยห้อง CRYOTUBEs หรือ เครื่องจำศีล , ตัวคอมพิวเตอร์หลักที่ชื่อ Mother , ห้องทำงานของ Ash , ห้องพยาบาล และส่วนที่สำคัญที่สุด คือ สะพานเรือ
    B-level : ประกอบไปด้วยห้องเก็บของ อาหาร และอุปกรณ์ยังชีพ
    C-level : ประกอบไปด้วยห้องเครื่องจำนวนมาก และล้อยานสำหรับการลงจอด

    โครงสร้างของยาน (ก่อนการปรับปรุงในปี 2116)
    ความยาว : 243.8 m
    ความกว้าง : 164.6 m
    น้ำหนัก : 72.05

    โครงสร้างของยาน (หลังการปรับปรุง)
    ความยาว : 1500 m
    ความกว้าง : 978.7 m
    น้ำหนัก : 880.8

    [​IMG]

    ห้องพยาบาล

    [​IMG]

    - Ridton Corp เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่บนโลก โดยทำธุรกิจเกี่ยวกับยานขนส่งและกู้ภัยระหว่างดวงดาว โดย Brett และ Lambert เคยทำงานให้กับบริษัทนี้

    แผนผังดาราศาสตร์

    <!-- m -->http://time.absoluteavp.com/pics/galmap.gif<!-- m -->

    คำอธิบาย (อาจมีเพิ่มเติมภายหลัง)

    เขต แดนหลักๆ แบ่งเป็นสองส่วน คือ Core system และ Outer Rim Territories โดยส่วนของ Core system นับจากดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งอาณานิคมที่อยู่ในเขตนี้มีระบบที่รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือ SOL system ส่วนเขตใน Outer Rim ดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตมากนัก เพราะ นอกจากไม่ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์แล้ว บรรยากาศส่วนใหญ่ยังเต็มไปด้วยแก๊สที่เป็นพิษอีกด้วย แต่ชาวอาณานิคมก็แก้ปัญหาด้วยการสร้างเครื่องปรับเปลี่ยนชั้นบรรยากาศ ดาวทีสำคัญในเขตนี้ได้แก่ระบบดาว Zeta 2 Reticuli (สังเกตในรูปด้านล่าง) ซึ่งเป็นที่ตั้งของดาวเคราะห์ LV-426 , ดาว Fiorina 161 ซึ่งเป็นดาวคุมขังนักโทษ และเป็นดาวที่อยู่ในเส้นทางไปกลับระหว่าง Core system และ LV-426 รวมทั้งเป็นสถานที่เกิดเรื่องในเอเลี่ยนภาค 3

    Credit from <!-- m -->The Alien Universe Timeline<!-- m -->

    เพื่อความไม่เยิ่นเย่อขอรวมตัวละครไว้ที่เดียวเลยละกันไล่จากซ้ายไปขวา

    ปี 2127 - 2179

    2127 (วันที่ 5 พฤษภาคม)
    - Michael Bishop เกิดที่ New York สหพันธ์อเมริกา
    2128 (วันที่ 10 ตุลาคม)
    - Johnathan Clemens เกิดที่ Redditch, Worchestershire สหราชอาณาจักร
    2137 (วันที่ 2 กันยายน)
    - Al Apone เกิดที่ Detroit, รัฐ Michigan สหพันธ์อเมริกา
    2138 (วันที่ 30 มกราคม)
    - Leonard Dillon เกิดที่ Baltimore, รัฐ Maryland สหพันธ์อเมริกา
    2142
    - S. Gorman เกิดที่ Montreal, Quebec แคนาดา (UA)
    2144
    - Russ Jorden เกิดที่ Burbank, รัฐ California สหพันธ์อเมริกา
    2145 (วันที่ 25 กรกฎาคม)
    - Mark Drake (A23/TQ2.0.47619E7) เกิดที่ Austin, รัฐ Texas สหพันธ์อเมริกา
    2146
    - Ann Jorden เกิด
    2149 (วันที่ 17 พฤษภาคม)
    - William Hudson (A08/TQ1.0.41776E3) เกิดที่ Fort Worth, รัฐ Texas สหพันธ์อเมริกา
    2150 (วันที่ 30 มีนาคม)
    - Carter J. Burke เกิดที่ New York สหพันธ์อเมริกา
    2151
    - Timothy Crowe เกิด
    2151 (วันที่ 31 กรกฎาคม)
    - Dwayne Hicks (A27/TQ4.0.48215E9) เกิดที่ Alliston, รัฐ Alabama สหพันธ์อเมริกา
    2152 (วันที่ 25 เมษายน)
    - Daniel Spunkmeyer (A23/TQ6.0.92810E7) เกิดที่ Montreal, Quebec แคนาดา (UA)
    2153
    - Jeanette Vasquez (A03/TQ.0.15618E4) เกิดที่ Los Angeles, รัฐ California สหพันธ์อเมริกา
    2157
    - อาณานิคม Hadley’s Hope ถูกก่อตั้งขึ้นบนดาวเคราะห์ LV-426 หรือ Acheron ทางด้านเดเรลิกก็ไม่มีการส่งสัญญาณออกมาอีก นับตั้งแต่การสำรวจของลูกเรือนอสโทรโม เมื่อ 35 ปีก่อน (เนื่องจากตัวยานเสียหายจากความร้อนของลาวา)
    From Aliens. ในภาพยนตร์ Van Leuwan บอกว่า โคโลนี่ถูกก่อตั้งขึ้นกว่า 20 ปี ตาม Timeline นี้ จะให้เป็นเวลา 22 ปี

    [​IMG]

    และสุดท้าย

    - Rebecca Newt Jorden

    [​IMG]


    2177 (วันที่ 23 ธันวาคม)
    - Amanda Ripley-McClaren เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
    From Aliens.

    2179 (ประมาณวันที่ 16 พฤษภาคม)
    - Shuttlecraft Narcissus ถูกค้นพบโดยหน่วยกู้ภัย Ellen Ripley และ Mr Jones ได้รับการช่วยชีวิต

    2179 (วันที่ 8 มิถุนายน)
    - Ripley มาถึงสถานีอวกาศ Gateway และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ที่นั่น เธอได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับการออกนอกเส้นทางของกระสวย Narcissus และล่องลอยเป็นเวลานานถึง 57 ปี

    2179 (วันที่ 12 มิถุนายน)
    - Ripley ออกจากโรงพยาบาล และถูกไต่สวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับเอเลี่ยนถูกเพิกเฉย หลังจากนั้น ริปลี่ย์ได้เริ่มงานใหม่เป็นคนขับหุ่นขนย้าย (Powerloaders) ที่ท่าขนส่ง
    - จากเรื่องราวที่ริปลี่ย์เล่า ทำให้ Carter Burke ติดต่อไปยังอาณานิคม Hadley’s Hope บนดาว Acheron ให้ส่งคนไปสำรวจเดเรลิก
    From Aliens

    2179 (วันที่ 19 มิถุนายน)
    - Russ และ Ann Jorden ถูกส่งตัวไปยังเขตกันดารของ LV-426 เพื่อตรวจสอบเดเรลิกตามคำสั่งของ Carter Burke พร้อมกับลูกๆของพวกเขา คือ Timmy และ Newt
    From Aliens.

    2179 (วันที่ 21 มิถุนายน)
    - ครอบครัวของ Jorden ค้นพบเดเรลิก และในระหว่างการตรวจสอบ Russ ก็ถูกจู่โจมโดยเฟซฮักเกอร์ ครอบครัวของเขาจึงรีบพาตัวกลับมายัง Hadley’s Hope
    - สงครามระหว่างเอเลี่ยน และชาวอาณานิคมแห่ง Hadley’s Hope เปิดฉากขึ้น
    From Aliens


    " เดเรลิกในปี 2179 ซึ่งเสียหายจากลาวาของภูเขาไฟ "

    2179 (วันที่ 3 กรกฎาคม)
    - ศูนย์การปกครองระหว่างอาณานิคมเสียการติดต่อกับกับโคโลนี่ Hadley’s Hope บนดาว LV-426

    2179 (วันที่ 6 กรกฎาคม)
    - Ripley เข้าร่วมกับ Bruke , หน่วยรบแห่งกองพันที่ 2 และกรมทหารที่ 9 เดินทางไปยังดาว Acheron โดยยาน USS Sulaco

    2179 (วันที่ 26 กรกฎาคม)
    - แนวป้องกันสุดท้ายของชาวอาณานิคม Hadley’s Hope ถูกตีแตกโดยฝูงเอเลี่ยน

    2179 (วันที่ 27 กรกฎาคม)
    - ยาน USS Sulaco เดินทางมาถึง LV-426.

    2179 (วันที่ 27 กรกฎาคม - เริ่มต้นภารกิจ)
    - ยาน dropship ถูกปล่อยออกจากยาน Sulaco และเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ

    2179 (วันที่ 27 กรกฎาคม - เริ่มภารกิจไป 0:50:00 นาที)
    - ยาน dropship ลงจอดได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับเหล่านาวิกโยธิน
    - พบผู้รอดชีวิตหนึ่งคน คือ Newt และจากการสแกนหาเครื่องรับส่งข้อมูลประจำตัว (Personal Data Transmitters : PDT's) ทำให้สามารถระบุตำแหน่งของชาวอาณานิคมได้ อยู่ที่สถานีเดินพลังงาน ข้างใต้ระบบหล่อเย็นของเครื่องปรับเปลี่ยนชั้นบรรยากาศ

    2179 (วันที่ 27 กรกฎาคม - เริ่มภารกิจไป 5:19:00 นาที)
    - ชาวอาณานิคมทั้งหมดถูกค้นพบเป็นศพ สิบโท Dietrich พบผู้รอดชีวิตหนึ่งคน แต่เธอตายทันทีต่อหน้าพวกเขา เมื่อเชสเบิร์นเตอร์เจาะอกของเธอออกมา

    2179 (วันที่ 27 กรกฎาคม - เริ่มภารกิจไป 5:33:00 นาที)
    - เหล่านาวิกโยธินถูกบุกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวจากฝูงเอเลี่ยน สิบโท Dietrich, พลทหาร Frost, พลทหาร Crowe, พลทหาร Wierzbowski, จ่าสิบเอก Apone และพลทหาร Drake ถูกฆ่าไม่ก็ถูกจับตัวไปตลอดการปะทะที่เกิดขึ้น (ผู้ถูกจับตัวไป คือ Dietrich และ Apone ถูกวางตัวอ่อนในร่างโดยที่ยังไม่ตาย แต่พวกเขาก็จบชีวิตในเวลาต่อมา จากการระเบิดของเตาปฎิกรณ์ของเครื่องปรับเปลี่ยนชั้นบรรยากาศ)
    - Ripley และ Newt พร้อมกับ ร้อยโท Gorman , สิบโท Hicks, พลทหาร Hudson และ พลทหาร Vasquez พวกเขาตัดสินใจที่จะทำลายทั้งโคโลนี่ด้วยนิวเคลียร์ แต่ทุกอย่างเลวร้ายลง เมื่อนักบินของยาน dropship ได้แก่ สิบโท Ferro และ PFC Spunkmeyer ถูกฆ่าตายโดยเอเลี่ยน ทำให้ยานกระแทกกับพื้น และแหลกเป็นชิ้นๆ เหล่าผู้รอดชีวิตจึงต้องกลับไปรวมตัวกันในโคโลนี่หลัก และปิดกั้นเส้นทางเข้าสู่ตัวอาคารทุกทาง

    เรียงลำดับขากซ้ายไปขวา

    - สิบโท Dietrich ถูกจับไปเป็นโฮสต์ให้กับเอเลี่ยน
    - พลทหาร Frost โดนลูกหลงจากปืนไฟของ Dietrich ก่อนจะร่วงลงไปเสียชีวิต
    - พลทหาร Crowe เสียชีวิตจากแรงระเบิด เมื่อกระเป๋าที่บรรจุกระสุน และระเบิดมือของเขาเกิดติดไฟขึ้น
    - พลทหาร Wierzbowski เสียชีวิตจากการโจมตีของเอเลี่ยน
    - สิบโท Ferro นักบินของ Dropship ถูกเอเลี่ยนกระซวกตายคาที่นั่งคนขับ

    [​IMG]


    2179 (วันที่ 28 กรกฎาคม – 4 ชั่วโมงก่อนเตาปฎิกรณ์ของเครื่องปรับเปลี่ยนชั้นบรรยากาศจะระเบิด)
    - เครื่องปรับเปลี่ยนชั้นบรรยากาศเกิดการขัดข้อง เนื่องมาจากการทำรังของเอเลี่ยน ผลจากกระสุนของ smart-gun และการกระแทกของยาน dropship แรงระเบิดจะทำลายทุกอย่างในรัศมี 30 กิโลเมตร
    - กลุ่มผู้รอดชีวิตจึงตัดสินใจให้ Bishop ออกไป เชื่อมสัญญาณโดยตรงกับดาวเทียมเพื่อเรียกให้ยาน dropship ลำที่สองจาก Sulaco ลงมารับพวกเขา
    - Burke ต้องการตัวอย่างของเอเลี่ยนกลับไปยังโลก จึงแอบปล่อยเฟซฮักเกอร์สองตัว เข้าจู่โจมริปลี่ย์ และนู้ด แต่ด้วยไหวพริบของริปลี่ย์ และความช่วยเหลือจากเหล่านาวิกโยธิน ทำให้ทั้งคู่ปลอดภัย
    - ก่อนที่จะได้รุมประชาทัณฑ์ Bruke ฝูงเอเลี่ยนก็เข้าโจมตี พร้อมกับการติดต่อจาก Bishop ถึงยาน dropship ที่กำลังลงมารับ

    2179 (วันที่ 28 กรกฎาคม - 42 นาทีก่อนเกิดการระเบิด)
    - Newt นำทาง Ripley, Hicks, Vasquez และ Gorman ออกจากตัวโคโลนี่ผ่านทางปล่องระบายอากาศ ระหว่างการปะทะ Hudson และ Bruke ถูกฆ่าตาย , Vasquez และ Gorman ได้ระเบิดตัวเองไปพร้อมกับเอเลี่ยน ส่วน Newt ก็ถูกเอเลี่ยนจับตัวไป

    2179 (วันที่ 28 กรกฎาคม - 26 นาทีก่อนเกิดการระเบิด)
    - ยาน dropship ลำที่สองลงจอด แต่ริปลี่ย์จะไม่ออกเดินทางจนกว่าจะช่วย Newt ได้

    2179 (วันที่ 28 กรกฎาคม - 15 นาทีก่อนเกิดการระเบิด)
    - Ripley ตามสัญญาณจากเครื่องติดตามไปยังสถานีหลักที่ใกล้พังทลาย และสามารถช่วยชีวิต Newt ไว้ได้ แต่ในระหว่างการหลบหนี Ripley ได้เผชิญหน้ากับนายเหนือหัวของเหล่าเอเลี่ยนทั้งมวล หรือ ควีนเอเลี่ยน

    2179 (วันที่ 28 กรกฎาคม - 2 นาทีก่อนเกิดการระเบิด)
    - Ripley และ Newt กลับขึ้นไปยังยาน dropship และหลบหนีออกจาก LV-426 ก่อนที่สถานีจะระเบิดเป็นจุลในอีก 2 นาทีต่อมา

    2179 (วันที่ 28 กรกฎาคม)
    - ราชินีได้ติดตามทั้งคู่ขึ้นมา ทันทีที่ dropship เทียบท่าบนยาน Sulaco ราชินีก็เปิดฉากไล่ล่ากลุ่มผู้รอดชีวิตในทันที เหยื่อรายแรก คือ Bishop ที่ถูกหางของเธอจ้วงแทง และตัดขาดสองท่อน
    - ริปลี่ย์เข้าต่อสู้กับควีนตัวต่อตัวด้วยหุ่น powerloader และส่งราชินีของเหล่าอสูรร้ายออกสู่ห้วงอวกาศ
    From Aliens.
    หมาย เหตุ : การระเบิดของเครื่องปรับเปลี่ยนชั้นบรรยากาศได้ทำลายเดเรลิก และเอเลี่ยนทุกตัวบนดาว LV-426 (ข้อมูลจาก Alien Resurrection ในรายงานของ Dr Gediman)

    2179 (วันที่ 9 สิงหาคม - 2100)
    - พิธีศพของ Newt และ Hick เริ่มขึ้น ร่างของทั้งคู่ได้รับการฌาปนกิจลงในเตาหลอม ระหว่างพิธีนั้นเอง เอเลี่ยนสายพันธุ์ใหม่หรือ Runner ได้ก่อกำเนิดขึ้นจากร่างของ Spike

    2179 (วันที่ 10-12 สิงหาคม)
    - Runner ได้แผลงฤทธิ์เป็นครั้งแรก โดยการโจมตีนักโทษชื่อ Murphy ทำให้เขาร่วงลงไปยังพัดลมยักษ์ที่ตัดเขาเป็นชิ้นๆ เหยื่อรายที่สองและสาม คือ นักโทษชื่อ Boggs และ Rains ในขณะที่พยานคนหนึ่ง คือ นักโทษ Golic หนีรอดจากเงื้อมมือมัจจุราชไปได้
    - Ripley ได้เปิดการทำงานของ Bishop อีกครั้ง เพื่อสอบถามความจริง และพบว่า มีตัวอ่อนเอเลี่ยนตามทั้งคู่มายัง Fiorina 161 ระหว่างอยู่ในห้องพยาบาล นายแพทย์ Johnathan Clemens ถูกเชือดเป็นรายที่ 4 ริปลี่ย์จึงได้ออกไปเตือนผู้คุมชื่อ Andrews แต่เขาก็ถูกสอยไปอีกรายต่อหน้าต่อตาพวกนักโทษ
    - ริปลี่ย์ และนักโทษที่เหลือ ร่วมมือกันวางกับดักที่จะเผามันให้ตาย แต่ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ทำให้นักโทษเกือบทั้งหมดตายด้วยกับดักของตนเอง ส่วนริปลี่ย์สงสัยถึงพฤติกรรมของ Runner ที่ไม่ยอมทำร้ายเธอ จึงได้เอกซเรย์ร่างกายของตนเอง และพบความจริงอันโหดร้ายว่า มีตัวอ่อนราชินีอยู่ในร่างของเธอ
    - ริปลี่ย์ พร้อมกับเหล่าผู้รอดชีวิตอีกสามคน คือ Robert , Morse และ Leonard Dillon ได้ร่วมมือกันเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อปิดฉากเรื่องราวทั้งหมด Dillon ได้ล่อ Runner ไปยังบ่อหลอมแร่ และสั่งให้ Morse เทตะกั่วร้อนลงไปในบ่อหลอม โดยหวังจะปลิดชีวิตตนเองไปพร้อมกับ Runner แต่ด้วยพลังชีวิตอันน่าเหลือเชื่อ มันกลับจะกระโจนขึ้นมาจากบ่อหลอมโดยไม่สะทกสะท้าน แต่จุดจบของมันก็มาถึง เมื่อริปลี่ย์เปิดสปริงเกอร์ และฉีดน้ำออกมา ทำให้ร่างอันร้อนระอุของมันแหลกเป็นชิ้นๆ
    - Michael Bishop ร่างมนุษย์ต้นแบบของหุ่นดรอยชื่อ Bishop เดินทางมาถึงดาว Fiorina โดยยานชื่อ Patna และเกลี้ยมกล่อมริปลี่ย์ให้ยอมมอบตัวอ่อนราชินีที่อยู่ในร่างของเธอ
    - Warder Francis Aaron ถูกยิงเสียชีวิต ขณะเข้าขัดขวาง Bishop และเพื่อจบทุกอย่าง ริปลี่ย์กระโดดลงสู่เตาหลอม เปลวเพลิงได้แผดเผาร่างของเธอไปพร้อมกับราชินีที่ฝักตัวออกมา เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง คุกบนดาว Fiorina 161 ก็ถูกปิดตาย คณะของ Bishop เดินทางกลับพร้อมกับผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว คือ Morse และตัวอย่างเนื้อเยื่อดีเอ็นเอของริปลี่ย์

    หุ่น Powerloader แม้จะดูเก้งก้าง อืดอาด แต่ก็สามารถใช้ต่อสู้ได้เหมือนกัน

    [​IMG]


    สิ้นสุดศตวรรษที่ 22
    - นักโทษชื่อ Morse ได้เขียนหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบน Fiorina 161 และวีรกรรมอันกล้าหาญของ Ellen Ripley ที่ได้สละชีพตนเองเพื่อกำจัดอสูรร้ายไปตลอดกาล แต่หนังสือของเขาก็ถูกแบนและห้ามขายในเวลาต่อมา
    From Alien : Resurrection (novel).

    เพิ่มเติม

    - เกี่ยวกับ Michael Bishop แต่เดิมแฟนๆต่างประเทศมีการสรุปไว้แล้วว่า บิชอปคนที่เกิดในปี 2127 คือ มนุษย์จริงๆที่เอาตัวเองเป็นต้นแบบในการสร้างหุ่นดรอยด์ที่ชื่อเดียวกัน แต่หลังจาก AVP ออกฉาย และมีคนหน้าตาแบบเดียวกับบิชอป (ก็นักแสดงคนเดียวกันนี้หว่า) ทำให้สมมติฐานใหม่กลายเป็นว่า บิชอปที่ปรากฏตัวในเอเลี่ยนภาค 3 เป็นหุ่นดรอยด์ด้วย นั่นหมายความว่า บริษัท Weyland-Yutani สร้างหุ่นดรอยด์โดยใช้ประธานบริษัทที่ชื่อ เวย์แลนด์ เป็นต้นแบบ พร้อมกับตั้งชื่อใหม่

    - VAN LEUWEN (Paul Maxwell) เขาเป็นเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการเชิงพาณิชย์ระหว่างดวงดาว หรือ The INTERSTELLAR COMMERCE COMMISSION (มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สถานี Gateway) ซึ่งเขาได้สอบสวนริปลี่ย์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนอสโทรโม และลูกเรือของยาน แน่นอนว่า เขาไม่เชื่อสิ่งที่ริปลี่ย์พูด และสั่งยึดใบอนุญาตการบินของริปลี่ย์อย่างไม่มีกำหนด

    - Motion Tracker เป็นอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในระยะ 25 เมตร มันถูกใช้โดยเหล่านาวิกโยธินแห่งอาณานิคม ในเอเลี่ยนภาคสอง

    แถมนิดนึง

    ดีไซน์เอเลี่ยน เห็นว่ามาจากอวัยวะเพศทั้งนั้น เนื่องจากจิตวิทยาด้านการสืบพันธุ์ ความรุนแรง มันกระตุ้นสัญชาตญาณดิบในตัวมนุษย์ได้ดีมาก อาจเพราะเหตุนี้ เอเลี่ยนจึงมีแฟนๆติดตามมากมายทั้งทีหน้าตามันน่าเกลียด อิอิ

    หัวเอเลี่ยน - ชาย
    Face Hugger - ของหญิงชัดๆ
    Egg Silo - เต้านม
    การโจมตีของเอเลี่ยนที่ใช้ลิ้นพุ่งเสียบ - ...คิดเอาเองว่าคืออะไร เสียบเข้าเสียบออกเนี่ย
    การ ที่ Chest Burster ทะลุออกจากอกเหยื่อ - เคยอ่านว่าเค้าตีความการถึงจุดสุดยอด คือทั่วร่างกระตุกเกร็ง ก่อนจะนิ่งไป (ตาย) ซึ่งความตายของชีวิตหนึ่ง หมายถึงการกำเนิดของอีกชีวิตหนึ่ง (เอเลี่ยน) นั่นเอง
     
  6. นะมะนะอะ

    นะมะนะอะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +83
    ขยันโพส จิงๆ ชื่นชมๆ
     
  7. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
  8. mib8gdviNz

    mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ข้อมูลเยอะมากเลยครับ หะ ๆ ๆ
     
  9. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    เกมส์เล่น น๊อคแล้ว อะครับ มันดี
     
  10. klang601

    klang601 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +84
    สุดยอดมากครับในเรื่องการหาข้อมูล

    นับถือ ๆ
     
  11. Hikikomori

    Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    อ่านมันมาก
     
  12. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    จงมึนงง จงไร้สติ รัสปูตินใช้เจ้าต้องทำ

    ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อ่านแล้วชอบครับผม
     
  13. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    อ่านเรื่องแล้วสนุกดีครับ
     
  14. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
  15. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +1,182
    <iframe src="http://writer.dek-d.com/robokobo/writer/view.php?id=579675" style="display: none;">
    </iframe>นึกว่าหนังซะอีกโด่..
     
  16. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ขอสูตรโกงเกมหน่อยครับ อิอิอิ ขอบคุณครับ
     
  17. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    จงมึนงง จงไร้สติ รัสปูตินใช้เจ้าต้องทำ

    เกมส์ก็สนุกดีน่ะ ลองซะน่ะ
     
  18. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    สงสัยดูเอลี่ยนมากไป
     
  19. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ตกลงพรีเดเตอร์ตัวไหนเก่งสุดครับ
    แล้วเอเลี่ยนตัวไหนเก่งสุดครับ

    ผมดู AVP2 แล้ว เอเลี่ยนที่เกิดจากพรีเดเตอร์ไม่ค่อยเก่งเลยครับ
    สงสัยไม่มีอาวุธ ส่วนพรีเดเตอร์ใน AVP2 ที่มาโลกคนเดียว
    ผมว่า เก่งมากเลยครับ คนเดียวลุยเอเลี่ยนเป็นฝูง

    เสียดาย แบทแมน VS พรีเดเตอร์ ไม่ถูกสร้างออกมา
    ผมดูตัวอย่างหนังสั้น ๆ แล้ว สนุกดีเหมือนกันครับ

    [​IMG]

    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/jOZVp9NFhQE&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/jOZVp9NFhQE&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
  20. Rasputin

    Rasputin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +95
    พรีเดเตอร์ภาคใหม่ เข้าโรง summer ปีนี้

    ก็อย่างที่เนื้อหาบอกล่ะครับ พรีเดเตอร์นั้นแบ่งเป็นแคลน หรือกลุ่ม แต่ล่ะกลุ่มก็จะมีผู้นำของแต่ล่ะกลุ่ม ซึ่งมีความสามารถแตกต่างกันออกไป ส่วนใน avp 2 นั้น ชื่อ wolf พรีเดเตอร์ครับ ผ่านศึกมามากมายครับ ดูจากรอยสัก ที่หน้ากาก และใบหน้าที่เป็นแผลเป็น เขี้ยวหักไปอันนึง ยังไงก็คอยติดตาม พรีเดเตอร์ ภาคใหม่น่ะครับ จะเข้าโรงหน้าร้อนปีนี้แหละ หรือ พรีเดเตอร์ 3 นั่นเอง เนื้อหาภาคใหม่นี้ พรีเดเตอร์ จะจับมนุษย์ที่มีความเชี่ยวชาญ อาวุธ หรือใน การรบไป 8 คน ไปปล่อยบนดาวของพรีเดเตอร์แล้วเริ่มล่า โดยภาคใหม่นี้ จะมีพรีเดเตอร์ ใหม่อีก 3ตัว ชื่อ dog predator hawk predator และตัวสุดท้าย ราชาดำนักล่าด้านมืดของพรีเดเตอร์ ชื่อ black super predator ตัวสุดท้ายนี่น่าสนใจดีครับ
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...