เรื่องเด่น ประวัติหลวงพ่อปาน ตอนท้ายชีวิตของหลวงพ่อปาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 29 มีนาคม 2022.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    136911.jpg


    ประวัติหลวงพ่อปาน
    ตอนท้ายชีวิตของหลวงพ่อปาน


    ลูกหลานทั้งหลาย วันนี้เป็นวันสรุปเรื่องราวของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคจะพยายามสรุปให้จบกันไป จะไม่พยายามเล่าเรื่องให้มันยาวนัก ต่อมาเมื่อหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อายุล่วงเข้า ๖๑ ปี ตอนนี้ท่านป่วยครั้งแรก ความจริงเรื่องการป่วยก็ป่วยกันอยู่เป็นปกติแต่ทว่าอาการป่วยที่จะตายคราวนี้ท่านป่วยมาก เมื่อป่วยมาก คณะศิษยานุศิษย์ในกรุงเทพก็เอาไปรักษาที่บ้านหลวงประธานถ่องวิจัย ที่บ้านหม้อรักษาอยู่ประมาณ ๑ เดือนท่านก็กลับเป็นอันว่า หาย

    หลังจากป่วยคราวนี้แล้ว ท่านแจ้งให้แก่บรรดาคณะศิษยานุศิษย์ แล้วก็ท่านพระครูรัตนภิรมย์ เจ้าวาสวัดบ้านแพน อีกองค์หนึ่งทราบว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปอีก ๓ ปีท่านจะตาย ท่านบอกไว้ว่าอย่างนั้นนะ ท่านบอกว่าอีก ๓ ปีจะตาย ท่านจะตายวันแรม ๑๔ ค่ำเดือน ๘ เวลาประมาณ ๖ โมงเย็น นี่ท่านประกาศไว้ก่อนนะว่า ท่านจะตาย ตอนนั้นฉันกำลังเป็นลิงหน้าพลับพลา ท่านสั่งให้ฉันเขียนจดหมายถึงหัวหน้าลูกศิษย์ของท่านแต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ส่งไปเฉพาะหัวหน้าลูกศิษย์นะ ว่าท่านให้ไปบอกว่า ท่านจะตาย อีก ๓ ปีท่านจะตายคณศิษยานุศิษย์ทุกคนมีความประสงค์ต้องการอะไรจากท่านก็ขอให้พากันมา ข่าวลือว่าท่านจะตายนี่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วที่สุด ก็ปรากฏว่า มีคณะศิษยานุศิษย์บ้าง แล้วก็ที่ไม่ใช้บ้าง คือว่าเป็นลูกศิษย์ใหม่บ้าง ก็พากันมาหาท่าน

    ตอนนี้ท่านสงเคราะห์ทุกอย่าง
    คำว่า สงเคราะห์ทุกอย่าง ก็หมายความว่า สงเคราะห์ด้านการรักษาโรค คาถาอาคมที่เป็นประโยชน์ คำว่าคาถาอาคมที่เป็นประโยชน์นะ ที่เป็นโทษท่านไม่ให้กับใคร แล้วนอกจากนั้นท่านก็สอน เวลาคนเขามาหาท่าน ท่านก็พูดเฉพาะศีล สมาธิ ปัญญา เป็นสำคัญ ให้ทุกคนรู้ตัวว่าตัวเองจะต้องตาย แล้วก็จงอย่าประมาทให้สร้างแต่ความดี ในระหว่างที่หลวงพ่อสั่งให้ฉันเขียนจดหมายไปหาบรรดาศิษยานุศิษย์ คนที่รับฟังหรือรับข่าว บางทีก็รับเขาไม่ครบ คนที่รับข่าวหลายคนเขาเข้าใจว่า หลวงพ่อปานตายแล้ว ไอ้นี่ซิยุ่ง มันชักจะยุ่งกันใหญ่ทุกคนโผล่ขึ้นมาหาเห็นหลวงพ่อปานนั่งคุยกับชาวบ้าน แขกมาหาท่านแต่ละวันเป็นร้อย ตอนนี้นับร้อยกัน ๓ ปี ก่อนจะตาย มีแขกไม่ใช่มาเป็นสิบ ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงถึง ๕ โมงเย็น หลวงพ่อต้องรับแขกหนัก บริเวณที่ท่านรับแขกมีความกว้าง ๒ วา คือ ๔ เมตร แล้วก็ยาว ๑๒ เมตร ที่เต็มตลอดเวลา

    หมายความว่าคนที่มาทีหลังยังเข้าไม่ได้ก็คอยกันอยู่ข้างนอกก่อน แล้วใครเข้าไปถึงก็ไปคุยกับท่าน บรรดาคนที่มาที่ยังไม่เข้าไปพบกับท่านเห็นท่านกำลังคุยอ้าวอยู่ เพราะตอนนี้ท่านไม่ได้เป็นอะไร เขาถามกันว่า ไอ้เจ้าลิงดำมันองค์ไหน บางคนไปถามชนฉันเข้า เลยถามเขาว่าทำไมล่ะ เขาเลยบอกว่า ไอ้เจ้านี่มันบ้า มันเขียนจดหมายไปได้ บอกว่าหลวงพ่อตายแล้ว เอาเข้านั่นหลวงพ่อกำลังนั่งคุยอ้าวอยู่ มันบอกว่าหลวงพ่อตาย แปลก ไอ้พระองค์นี้น่ากลัวจะไม่ใช่พระนา ดีไม่ดีถ้าเป็นพระก็เป็นพระบ้า หรือไม่ยังงั้นก็มีนิสัยหมาติดมาด้วย ส่งข่าวไม่ตรงตามความเป็นจริง หลวงพ่อยังดีอยู่ ยังคุยกับคนอ้าวๆ มันส่งจดหมายส่งข่าวไปได้ว่า หลวงพ่อตาย

    เออ…ลูกหลานเอ๋ย ฟังแล้วก็จำไว้ด้วยนะ ความจริงหนังสือทุกฉบับฉันเขียนไปนะ เขียนตามคำสั่งของหลวงพ่อท่าน หลวงพ่อท่านบอกว่า ท่านจะตายหลังจากนั้น ๓ ปีท่านจะตาย ลูกศิษย์ทุกคนต้องการอะไรให้มาเอาจากท่าน ท่านจะให้ตามความประสงค์ แต่สิ่งที่ไม่เป็นโทษ ถ้าส่วนใดที่เป็นโทษท่านไม่ให้ใคร ฉันเข้าใจเอาเองนะ เข้าใจว่าหลวงพ่อจะตักเตือนบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ว่า

    ๑.ท่านจะตายแล้ว
    ประการที่ ๒ ท่านตั้งใจจะสั่งสอนคณะศิษยานุศิษย์ของท่านว่าทุกคนจะต้องตาย และให้ทุกคนปฏิบัติอยู่ในความดี

    แต่ว่าเจ้าคนรับข่าวหรือคนส่งข่าวต่อนะซิ มันคงจะส่งข่าวกันไม่ถูกหรือว่าส่งข่าวไม่ครบ หนังสือของฉันส่งข่าวออกไปชัดเจนว่า หลวงพ่อท่านสั่งไปยังงั้น แล้วท่านให้ฉันเซ็นชื่อของฉัน ท่านไม่เซ็นชื่อของท่านเอง นี่ก็แปลกดีเหมือนกัน จากพวกนั้นมันมามันเกิดอยากจะเตะฉันขึ้นมา มันหาว่าแช่งหลวงพ่อ ฮือ…ดีเหมือนกันนะ ตามใจเขา

    ในที่สุดเมื่อเขาไปพบหลวงพ่อเขาก็ถามข้อความนี้ หลวงพ่อบอกว่า ฉันเองเป็นคนสั่งเขาให้เขียนว่า ฉันจะตายในอีก ๓ ปีข้างหน้า แล้วเขาอ่านให้ฉันฟังเขาเขียนตามนั้น แต่ว่าพวกแกละมั้งที่รับข่าวผิด เรื่องนี้ก็เป็นอันว่าพับไป แล้วเขาทั้งหลายเหล่านั้นก็ถามหลวงพ่อว่า ก็หลวงพ่อยังดีๆ นี่ขอรับ ทำไมหลวงพ่อจึงจะบอกว่าหลวงพ่อจะตาย หลวงพ่อท่านบอกว่า ฉันรู้สึกตัวว่า ฉันจะตายนะ แต่ความจริงฉันรู้ตัวว่าฉันจะตายมาหลายหนแล้ว คราวป่วยหนักคราวนี้ฉันก็รู้ตัวฉันว่าจะตาย แต่พอดีเท้ามหาราชเขามาต่อชีวิตฉันให้ เขาต่อให้ฉันอยู่อีก ๓ ปี แล้วเขาก็บอกฉันด้วยว่า อีก ๓ ปีข้างหน้า ถ้าพ้นไปแล้วอยู่ไม่ได้ แต่ความจริงชีวิตของฉันนี่น่ะเขาต่อให้หลายครั้งแล้ว คำว่า “ฉัน”ในที่นี้หมายถึงหลวงพ่อปาน เรื่องนี้ก็เป็นอันว่าพับกันไป

    ตอนนี้ท่านก็สอน ศีล สมาธิ ปัญญาเมื่อใครเข้าไปก็ตาม ท่านก็พูดให้ฟังง่ายๆ พูดย่อฟังชัด ให้เข้าใจว่าทุกคนจะต้องตาย ถ้าตายแล้วส่วนที่ต้องไปก็มีอบายภูมิ เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นสัตว์ เกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นพรหม ไปนิพพาน แล้วส่วนใหญ่ท่านสอนด้านวิปัสสนาญาน ใครจะเรียนอะไรกับท่านก็ตาม ท่านสอนแนวนั้น แล้วท่านก็โน้มเข้ามาว่า ถึงแม้ว่าเราจะมีคาถาอาคมของดียังไงก็ตาม เราก็ต้องตาย แล้วก่อนที่จะตายนั้น ควรจะเลือกทางเดินเอา อย่างน้อยที่สุดเราควรไปสวรรค์ชั้นกามาวจรให้ได้ แล้วท่านก็อธิบายว่า การที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ วัดวาอารามต่างๆ เรียกว่า ไม่มีขอบเขตสร้างกันถึง ๔๐ วัด เฉพาะรื้อวัดสร้างวัดของเขาจริงๆ นะ แล้วก็สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ ทำบุญสุนทานต่างๆ ทั้งหมดนี่ไม่ใช่ว่า ท่านห่วงตัวท่าน ท่านห่วงบรรดาประชาชนทั้งหลายว่าทุกคนจะได้ร่วมกันทำบุญ มากบ้าง น้อยบ้างโดยทรัพย์สินบ้าง ด้วยกำลังกายบ้างทุกคนที่ได้ช่วยงานท่านอย่างนี้ อย่างน้อย ทุกคนจะต้องไปเกิดบนสวรรค์
    /ต่อ…ขอให้ทุกคนนะ

    ประวัติหลวงพ่อปาน โสนันโท
    (พระครูวิหารกิจจานุการ)
    หน้า ๒๙๒ - ๒๙๔ วัดบางนมโค
    อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
    Punpisit
     

แชร์หน้านี้

Loading...