ประสบการณ์ตรง(ห่วยๆ)การฝึกมโนมยิทธิครั้งแรก

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย solardust, 9 มิถุนายน 2016.

  1. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    เรื่องสมัยหนุ่มๆนะครับ หลังฝึกกสิณไฟจนตาเสียได้ที่ไปแล้ว
    อยากรู้ว่าฝึกยังไงตาถึงเสียก็ไปตามอ่านซีรีย์ผมเอาเองนะครับ เรื่องเกี่ยวกับการฝึกกสิณไฟผิดวิธีในเว็ปนี้นี่แหละ

    กลับมาเข้าเรื่องต่อ
    สมัยทำงานปีแรกๆ ได้เจอกับเพื่อนคนนึงที่เป็นสานุศิษย์ของทางวัดท่าซุง
    เพื่อนคนนี้เอาหนังสือเกี่ยวกับการฝึกสมาธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาให้อ่าน แล้วก็ชวนมาฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลมด้วย

    ตอนนั้นประสบการณ์เรื่องการฝึกสมาธิก็เริ่มพอตัวแล้วนะครับ เริ่มถอดจิตออกจากร่างเนื้อได้แล้ว
    พอได้อ่านพระไตรปิฏกก็พอจะเข้าใจว่า การที่เราถอดจิตออกจากร่างเนื้อได้นั้น ท่านเรียกว่ามโนมยิทธิเต็มกำลัง

    ---------------------------------------------------
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค

    ภิกษุนั้น ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อนิรมิตรูปอันเกิดแต่ใจ
    คือ นิรมิตกายอื่นจากกายนี้ มีรูปเกิดแต่ใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง

    ดูกรอัมพัฏฐะ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงชักไส้ออกจากหญ้าปล้อง
    เขาจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า นี้หญ้าปล้อง นี้ไส้หญ้าปล้องอย่างหนึ่ง ไส้อย่างหนึ่ง ก็แต่ไส้ชักออกจากหญ้าปล้องนั่นเอง

    อีกนัยหนึ่ง เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงชักดาบออกจากฝัก
    เขาจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า นี้ดาบ นี้ฝัก ดาบอย่างหนึ่ง ฝักอย่างหนึ่ง ก็แต่ดาบชักออกจากฝักนั่นเอง

    อีกนัยหนึ่ง เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงชักงูออกจากคราบ
    เขาจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า นี้งู นี้คราบ งูอย่างหนึ่ง คราบอย่างหนึ่ง ก็แต่งูชักออกจากคราบนั่นเอง

    ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแล ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อนิรมิตรูปอันเกิดแต่ใจ
    คือนิรมิตกายอื่นจากกายนี้ มีรูปเกิดแต่ใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง

    แม้ข้อนี้ก็เป็นวิชชาของเธอประการหนึ่ง.

    -----------------------------------------------------
     
  2. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    ส่วนตัวนะครับ ใครที่มีอาการที่แบบว่า บังเอิญจิตหลุดออกจากกายเนื้อ หรือเคยมีประสบการณ์แบบนี้อยู่นะครับ
    ให้รู้ไว้นะครับ ว่าโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ ถ้ามันหลุดออกมาได้ แปลว่าเคยทำได้มาก่อน และบุญเก่าได้ตามมาเตือนแล้วว่าให้ทำดีต่อ
    สิ่งที่ควรทำคือ กลับไปฝึกใหม่ ฝึกสมาธิธรรมดานี่แหละครับ ของเก่าที่เคยทำได้มาในชาติก่อนๆกำเนิดก่อนๆก่อน
    มันจะค่อยๆรวมตัวกลับมาเอง

    นอกเรื่องอีกละ...คนแก่ก็เงี้ยไหลไปเรื่อย...เข้าบ้านสายลมเลยก็แล้วกัน...
    พอเข้าไปถึงด้านในก็เห็นคนนั่งล้อมกันเป็นวงๆ วงละประมาณสิบคนได้ ตรงกลางวงจะมีครูฝึกอยู่คนนึง
    พอนั่งลงครูฝึกก็จะบอกประมาณว่า (จำไม่ได้นะครับ หลาย(สิบ)ปีดีดักมาแล้ว...) ให้ตัดขันธุ์ห้า ให้ทำใจให้สงบ
    ให้นึกถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ขอบารมีท่านให้ช่วยสงเคราะห์ อะไรประมาณนี้

    แต่ให้ตายเหอะ...ผมไม่รู้จักหลวงพ่อมาก่อน ไม่เคยเห็นรูปมาก่อน
    เพิ่งได้อ่านหนังสือสอนนั่งสมาธิของหลวงพ่อที่เพื่อนเอามาให้ยืมเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง
    ครูก็ดีใจหาย อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า นึกถึงรูปหลวงพ่อไว้นะทุกคน เป็นพระสวมแว่นท่าทางใจดี
    แต่ครูครับ....ผมจะนึกออกมั๊ยครับเนี่ย ตอนนั้นภาพที่นึกออกเป็นหลวงปู่ขาวนะครับ
    คือรู้จักพระสายหลวงปู่มั่นแค่ 2-3 องค์แค่นั้น ที่รู้จักก็เพราะหนังสือพระป่าที่พ่อซื้อไปไว้ที่บ้าน ไม่งั้นเนี่ยไม่รู้จักใครเลยจริงๆ...
     
  3. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    ประมาณซัก 5-10 นาทีให้หลัง ครูก็บอกว่าให้ไปกันที่เจดีย์จุฬามณีบนดาวดึงส์ เราก็ไปนะครับ กำหนดจิตไปตามที่ครูฝึกบอก
    ซักพักก็ได้ยินเสียงครูถาม อ้าวนับดูซิมากันครับหรือยัง....เราก็หันซ้ายหันขวา ไม่เห็นมีใครซักคน นี่สวรรค์มันโล่งขนาดนี้เชียวหรือฟะ....
    ซักพักก็ได้ยินเสียงคนข้างๆ..."ครบแล้วครับ"...
    ค่อยใจชื้นขึ้นมานิดนึง ถึงเราจะไม่เห็นใคร แต่ก้ยังมีคนเห็นเราอยู่...55
    ตัวคอร์สครึ่งกำลังเนี่ยสภาพมันคล้ายๆกับ เราอยู่สองที่ในเวลาเดียวกันนะครับ
    จะบอกให้ละเอียดก็ไม่รู้จะบรรยายยังไง คงต้องให้ไปลองเอง

    ครูก็ถามว่าเห็นเจดีย์จุฬามณีมั๊ยทุกคน?...สวยมั๊ย?...ได้ยิน 2-3 คนบอกว่าสวยนะครับ แต่ผมเงียบ
    เห็นเจดีย์เหมือนกัน เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่....เก่าๆ....ได้ยินครูฝึกบอกว่าให้กราบคนโน้น กราบคนนี้ เต็มไปหมด
    แต่สำหรับผมวันนั้นนะครับ โดดเดี่ยวอยู่คนเดียวหน้าเจดีย์ ถึงจะรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ก็มองไม่เห็นใครซักกะคน
    แม้แต่ท่านพี่ทวารบาลสองท่าน ที่ยืนอยู่ที่ทางเข้าเจดีย์ ก็เห็นเป็นรูปสลักเทวดาที่ทางเข้าเฉยๆ
    ครูฝึกบอกว่าให้ไหว้ท่านพี่ทวารบาลทั้งสองท่าน เราก็....อือ...ม....ก็ไหว้รูปสลักที่มองเห็นนั่นแหละ

    ซักพักครูฝึกก็บอกให้ทุกคนเข้าไปในเจดีย์ เราก็เดิน(ลอย)เข้าไปนะครับเห็นพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นึง องค์ใหญ่มาก
    ครูฝึกก็ถามว่าเห็นพระพุทธเจ้ามั๊ยทุกคน....ให้เข้าไปกราบพระพุทธเจ้า
    เราก็ไปนะครับ เข้าไปกราบพระพุทธรูปปูนปั้นที่เราเห็นน่ะแหละ แล้วก็กลับลงมาตอนที่ครูฝึกบอกให้เลิก
     
  4. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    เรื่องนึงที่สังเกตุเห็นเกี่ยวกับตัวเจดีย์นี่นะครับ ความกว้างที่มองเห็นจากด้านนอก กับความกว้างด้านในเนี่ยไม่ได้เกี่ยวกันเลย
    เหมือนมันขยายออกไปได้เรื่อยๆตามจำนวนคนที่เข้ามา ผมมองไม่เห็นใครนะครับ แต่รู้สึกได้ว่ามีคนทยอยกันเข้ามาในเจดีย์เรื่อยๆ

    ทุกวันนี้เวลาใครอธิบายเรื่องสภาพอาคารบ้านเรือนในสวรรค์เป็นแบบที่ไปเห็นมาเนี่ย จะเชื่อเลยว่าเคยไปมาจริงๆ
    ตึกบ้าอะไร ขยายออกไปได้เรื่อยๆ ขยายแต่ด้านในด้วยนะครับ ด้านนอกเท่าเดิม...
    คือก่อนจะกลับตามที่ครูฝึกบอกเนี่ยผมถอยออกมาดูขนาดเจดีย์ แล้วเดินเข้าไปชะโงกหน้าดูพื้นที่ในเจดีย์ 2-3 รอบได้นะครับ
    ดูจนมั่นใจว่า ขนาดภายนอกกับภายในเนี่ย มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย แล้วก็กลับมา

    ทีแรกไม่คิดว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนะครับ คือมันเป็นตราบาปในใจผมเลย
    ผมไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลม แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแล้วก็ไม่เคยไปอีกเลย
    เวลาใครมาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ผมก็อ้อมๆแอ้มๆ เปลี่ยนเรื่องคุยไปเป็นเรื่องอื่น
    อายชาวบ้านเข้าครับ ยิ่งคนที่รู้ว่าผมเก็บเวลมาถึงไหนแล้วเนี่ย แทบอยากจะมุดดินหนีไปตรงนั้นเลยทีเดียว
    เก็บเวลมาตั้งนาน ทำได้แค่เนี้ย....
     
  5. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    แล้วอยู่ดีๆเอาเรื่องนี้มาโพสต์ทำไม
    คือเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน เข้าไปในเว็ปวัดท่าขนุน ไปอ่านเจอ (ตรงไหนไม่รู้จำไม่ได้)
    ว่าช่วงแรกๆ หลวงพ่อฤาษีท่านก็เห็นคล้ายๆกับที่ผมเห็นเนี่ยแหละ
    หลวงพี่เล็กท่านเล่าว่า หลังจากที่หลวงพ่อฤาษีท่านฝึกต่ออีกประมาณสามปีท่านถึงจะเห็นโลกทิพย์ตามสภาพจริง
    จากนั้นท่านก็เริ่มสอนคนให้ฝึกตามท่าน

    แต่ก็มีข้อแม้นะครับ คือท่านฝึกคนที่เคยได้มโนมยิทธิมาแล้วในชาติก่อนๆกำเนิดก่อนๆ
    ใครไม่เคยได้มาก่อนก็ต้องไปไล่เบี้ยมาตั้งแต่ฌาน 1-2-3-4 โน่นแหละครับ
    ท่านว่าคนที่ได้มโนมยิทธิเต้มกำลังมาเป็นแสนชาติแล้ว ท่านถึงจะเอามาฝึกครึ่งกำลัง
    คนที่เริ่มจากศูนย์ หรือไม่เคยได้มาก่อนเนี่ย ฝึกแบบนี้ไม่ได้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2022
  6. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    กลับมาเข้าเรื่องต่อ ที่อยากจะแชร์เรื่องนี้ก็เพื่อ เป็นกำลังใจสำหรับคนที่ไปฝึกมาแล้วไม่ได้เห็นแบบที่คนอื่นๆเห็นกันเนี่ย
    หลวงพี่เล็กบอกว่า หลวงพ่อฤาษีท่านใช้เวลาสามปีนะครับ
    เราก็เผื่อใจไว้ซะหน่อยว่าของมันต้องใช้เวลา ค่อยๆฝึกไปทีละนิด ทีละนิด เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง

    ส่วนของผมนี่เจอกันรอบเดียวจบ หลังจากวันนั้นก็ยังไปทำบุญที่บ้านสายลมตามปรกติ แต่ไม่เคยย่างกรายเข้าไปฝึกมโนอีกเลย เสียเซลฟ์ครับ
    พอได้อ่านเรื่องของหลวงพ่อฤาษีจบเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อนนี่ ทำให้สำนึกได้เลยว่าเสียโอกาสไปหลายสิบปีทีเดียว

    หลังจากวันนั้น ก็มีเหตุให้ไปทำบุญกับคณะเล็กๆที่ฝึกมโนมยิทธิด้วยกันอีก 1-2 ครั้ง
    เรื่องนึงที่สังเกตุได้ก็คือ ถ้าสมาธิเราทรงตัว พวกครูฝึก กับพระสงฆ์องค์เจ้าที่มีตาใน ท่านมองปราดเดียวรู้เลยว่าเราเป็นใคร
    นั่งอยู่เฉยๆนี่ นอกจากจะบอกได้ว่าเราฝึกกรรมฐานกองไหนอยู่ ยังบอกได้ด้วยว่าเราเป็นใคร เก็บเวลมาประมาณไหนแล้ว
    ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว ท่านก็มองปราดเดียวเหมือนกันนะครับ แต่มองผ่านไปเฉยๆ
     
  7. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    มีวันนึง ตอนนั่งบนรถทัวร์ อยู่ๆก็มีครูฝึกคนนึงเดินดุ่มๆขึ้นมาบนรถ มองซ้ายมองขวาตั้งแต่แถวหน้า มาจนแถวหลังสุด
    คือผมซุกอยู่แถวหลังสุดนะครับ ไปทำบุญกับเค้า แต่ไม่อยากคุยกับใคร กลัวชาวบ้านเค้าชวนคุยเรื่องผลการฝึกมโนมยิทธิ
    รู้สึกเป็นปมด้อยนิดๆเลยไปมุดอยู่หลังรถ

    ครูฝึกก็เดินมาหยุดข้างหน้าผม แล้วก็ถามว่าไอ้หนูเก็บเวลอยู่ใช่ไหม? (ไม่ได้ใช้คำว่าเก็บเวลนะครับ แต่ผมชอบคำนี้เลยใช้คำนี้)
    ป้าหาคนถือบายศรีอยู่ ป้าทำบายศรีมาบูชาพระพุทธเจ้า ไปถือบายศรีให้ป้าทีนะ เดินนำหน้าไปแล้วทำตามที่ป้าบอกนะลูก....
    เราก็รับหน้าที่ถือพานไปวางบนแท่นที่วัด (วัดไหนก็ไม่รู้นะครับ ไม่รู้จัก)

    ซักพัก ครูฝึกก็นำสวดมนต์ แล้วก็บอกว่าให้ตั้งใจกราบพระพุทธเจ้า ท่านเสด็จมาแล้ว.......
    ....วินาทีนี้นี่....หนักกว่าตอนไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลมอีกนะครับ ไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็ยังก้มกราบลงไปตามที่ครูฝึกบอก...
    สิ่งเดียวที่เห็นคือ รัศมีทรงกลม เลื่อมสลับลายไปมา ประมาณ 5-6 ชั้น ซ้อนกันอยู่เป็นวงๆ สวยมาก
    ถึงแทบจะมองไม่เห็นสีเลยแต่ก็รู้ว่า มีหลายสีมากประมาณสีรุ้งเลย

    ซักพักครูฝึกก็บอกให้ลืมตา ก็ได้ยินคนรอบๆคุยกันเรื่องพระพุทธเจ้าที่เพิ่งเสด็จกลับไป
    จิตตกสองเท่าเลยทีนี้ มีแต่ผมที่เห็นวงแสงเหมือนวงรัศมี หลายคนเห็นท่านเต็มองค์ หลายคนเห็นพระเนตรบ้าง พระโอษฐ์บ้าง
    เรานั่งหน้าสุดแท้ๆ ไม่ได้ช่วยให้เห็นชัดสุดเลย...(จริงๆเรื่องแบบนี้ มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับนั่งหน้านั่งหลังอยู่แล้วนะครับ)

    หลังจากทริปนั้น ก็ไม่มีผมไปด้วยอีกเลย....เสียเซลฟ์สองเท่า รู้สึกเหมือนเรายังไม่ดีพอที่จะไปร่วมทริปกับเขา
    แต่ไม่เสียกำลังใจนะครับ ยังคงฝึกสมาธิ เจริญสติอยู่เรื่อยๆตามแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย
    ทำไม่ได้เหมือนเขา แต่เราก็ไม่ได้ถอดใจ ฝึกไปเรื่อยๆ
    ถ้ามันต้องใช้เวลาอีกแสนชาติ ก็จะฝึกมันไปอีกแสนชาติแหละครับ มีเวลาเหลือเฟืออยู่แล้ว
     
  8. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    การนึกถึงครูบาอาจารย์นั้น ถ้าไม่รู้จักตัว ก็ให้นึกถึงแต่ชื่อ
    เหมือนที่คนเขาบูชาพระพุทธเจ้า หรือบูชาพระสีวลีนั่นแหละครับ
    ไม่เคยมีใครเห็นรูปหรือตัวจริงหรอก รูปปั้นที่ทำไว้ก็ไม่เหมือนตัวจริง
    แค่นึกถึงชื่อกับขออัญเชิญบามีมาก็ใช้ได้
     
  9. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    มันเป็นเหมือนการพูดนำ เพื่อให้เรานึกภาพตาม=สะกดจิตหมู่
    ถ้าจิตของเรายังมีสติอยู่มาก มันก็จะเป็นการนึกสร้างภาพตามคำพูดของเขา
    แล้วเราก็จะไปดึงเอาภาพเจดีย์เก่าๆตามที่เราเคยเห็นตามวัดต่างๆที่มีอยู่ในความทรงจำนั่นแหละครับ มันไม่ใช่ว่าเราไปที่เจดีย์จุฬามณีจริงๆหรอก ของมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
     
  10. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ผมมีความคิดเห็นว่า คนที่ถอดกายทิพย์ได้จริงๆ(วิญญาณออกจากร่าง) ไม่สมควรที่จะได้ยิน
    เสียงด้วยหูของกายหยาบแล้ว ยิ่งการเปล่งเสียงสนทนากันด้วยกายหยาบ ยิ่งไม่ควรจะมี
    คนที่ถอดกายทิพย์(ถอดจิต)ออกไปจากร่าง กายหยาบสมควรเหมือนคนหลับหรือคนที่ตายแล้ว ควรจะนิ่งๆ กระดุกกระดิกไม่ได้ จนกว่า
    กายทิพย์หรือวิญญาณจะกลับเข้าร่าง
    แต่นี่อะไรกัน ? มีการถามตอบกันในห้องปฏิบัติ ด้วยปากและหูของกายหยาบ
    ก็แสดงว่ากายหยาบยังเคลื่อนไหวได้ แบบนี้ไม่ใช่การถอดกายทิพย์แล้วครับ
    มันแค่การสะกดจิตหมู่เท่านั้นเอง พูดให้ฟังแล้วนึกจินตนาการภาพไปตามคำพูด
     
  11. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ผมมีความรู้สึกตลกตรงที่อาคารในโลกทิพย์มันยืดได้หดได้เหมือนกับของที่สร้างจากยางในโลกมนุษย์นี่แหละ 555
     
  12. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    ตามที่ผมเข้าใจ ที่จริงไม่ใช่แค่อาคารเท่านั้น พื้นที่ต่างๆก็เช่นกัน ยืดได้หดได้ หายไปเฉยๆก็ได้ ทั้งสวรรค์ทั้งนรก
    นรกขุมต่างๆก็มีสภาพคล้ายกัน มันจะขยายออกตามกำลังบาปของคนที่เข้าไป
    คนยิ่งเยอะยิ่งเบียดเสียดเป็นไม่มี สัตว์นรกหนึ่งตนต้องการที่เท่าไรสำหรับการลงโทษ พื้นที่เท่านั้นก็ปรากฏขึ้นจนพอดี

    ถ้าไม่มีสัตว์ที่ต้องเข้าไป แม้แต่สถานที่นั้นก็ไม่ปรากฏ เหมือนกับว่ามันไม่เคยอยู่มีมาก่อน
     
  13. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    แจ่มครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...