ประสพการณ์ การฝึก อรูปญาน 4 อย่าง

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย nilakarn, 12 มกราคม 2020.

  1. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    มีใครฝึก อรูปญานทั้งสี่แบบ ถึงขั้นไหนกันบ้างครับ
    จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    การฝึกอรูปกสินขั้นที่หนึ่ง คือ
    อรูปกสินขั้นอากาสัง หรือ
    อรูปกสินชั้นอากาส หรือ
    อรูปกสินจับอากาส หรือ
    อรูปกสินจิตแผ่ไปในอากาส หรือ
    อรูปกสินแผ่ไปไม่สินสุด หรือ
    อรูปกสินว่างไปไม่สิ่นสุด หรือ
    อรูปกสินเวิ้งว้างไม่สิ้นสุด หรือ
    อรูปกสินอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน

    อรูปกสินขั้นนี้ จะต้องมี
    การแผ่จิตออกไปนอกตัว และจะต้องมี
    ความรู้สึกเวิ้งว้างไม่มีที่สิ้นสุด ปรากฏขึ้นพร้อมกัน
    ซึ่งจะแตกต่างจาก การถอดจิตออกไปท่องเที่ยว
    การถอดจิตจะยกจิตไปท้้งตัวก็ได้
    ถอดจิตไปอย่างเดียวก็ได้
    แต่ อรูปญานขั้นอากาส จะใช้วิธีการ
    แผ่จิตออกไปสัมผัส สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา
    โดยไม่ได้เคลื่อยย้ายจิตออกจากร่าง
    ถ้าใครฝึกแล้ว รู้สึกว่า จิตอยู่นอกตัว
    ก็แสดงว่า ผิดหลักการฝึก
    จะกลายเป็น การถอดจิต ทันที



     
  3. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ขออนุญาติเล่าให้ฟังแบบนี้ในอีกมุมนะครับ
    ถือว่าแลกเปลี่ยนประสบการ์ณกันนะครับ
    และจะไม่สรุปว่า อะไรผิดอะไรถูกนะครับ

    ๑.อรูปฌานขั้นที่ที่ ๔ ไม่มีทางที่จะฝึกได้นะครับ
    ต้องทิ้งเอา เป็นนัยยะพอเข้าใจนะครับ
    คำว่า '' ทิ้งเอา '' สำหรับบุคคลที่ใช้งานทางจิตได้ปกติ
    มานานพอสมควรในระดับหนึง จะเข้าใจครับ


    ๒.การไปถึงกำลังระดับอรูปฌานได้นั้น ต้องขึ้นด้วยรูปฌานก่อนเสมอ
    แต่มีบางกิริยาต่อไปนี้ ที่สามารถเข้าถึง สภาวะอรูปฌานได้ชั่วคราว
    เช่น การนอนหลับแล้วเข้าไปเหมือนมองเห็นแต่ดวงดาวและเหมือนรู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้
    หรือ การไม่เคยฝึกอะไรมา แล้วนอนๆ หรือ นอนเล่นๆแล้วเข้าได้
    หรือ การนั่งสมาธิแบบไม่ขึ้นด้วยรูปแต่เข้าได้
    หรือ นั่งทำธุระตอนเช้า ตาเห็นอากาศเคลื่อนไหวอะไรได้
    พวกนี้เป็นสภาวะชั่วคราว ไม่ได้สร้างให้จิต เกิดกำลังจิตได้
    แต่สามารถเอาไว้ซ้อม บังคับ การเปลี่ยนแปลงของอากาศเล่นได้

    ๓.เมื่อทิ้งรูปได้แล้ว จะต้องมีกำลังสมาธิ กำลังสติเพียงพอ
    ที่จะควบคุมจิตให้อยู่นิ่งๆในกายได้ก่อน ปกติถ้าจะมีกำลังทำแบบนี้ได้
    จะต้องเข้าสภาวะฌาน ๔ จริงๆได้อย่างน้อยประมาณครั้งที่ ๓ หรือ ๔ ครับ
    ไม่งั้น จะถูกดูเข้าไปในภาพนิมิต ก่อนที่จะทิ้งภาพได้ และจะทำอะไร
    ไม่ได้เลย



    ๔.ระดับกำลังฌาน ๔ จะไม่เงียบเหมือน อุปจารสมาธินะครับ
    ให้นึกดู แค่เรานั่งสมาธิจิตสงบนิดหน่อย เรายังได้ยินเสียงภายนอกชัดเจน
    ระดับกำลังฌาน ๔ จริง แค่เสียงลมพัด ก็รู้สึกว่าหูแทบแตก
    ยุงบินผ่าน เสียงเหมือนผึ้งมาเป็นฝูงนะครับ....

    ๕ การส่งจิตจะเงียบๆ การไปแบบเงียบๆทั้งหลาย แล้วไปโผล่
    ยังสถานที่ต่างๆนั้น ไม่ว่า จะอยู่ในท่านอน หรือ ว่านั่งสมาธิอยู่
    พวกนี้ ยังถือว่าเป็นการส่งจิตออกไป และที่สำคัญก็คือ
    การออกไปปรากฏ ณ ที่ใดก็ตาม และไปแล้วไม่เข้าใจอะไร
    คือ ไม่ทราบว่าที่ใด และที่พบเจอเป็นใคร ตลอดจิตไม่ทัน
    ในระหว่างทางที่กำลังจะไปถึง สถานที่นั้นๆ
    ในทางปฏิบัติ เราถือว่า กำลังสติทางธรรมเราไม่พอ
    หรือว่า ยังอ่อนอยู่


    ๖. การถอดกายทิยพ์ หรือ ทั่วไปมักเรียกการถอดจิตแบบมีกายละเอียดนั้น
    การออกไปได้ แบบหกคะเมนตีลังกา อย่างนี้เรียกว่า กำลังสติยังอ่อน
    การจะออกได้แบบปกติ นั้น จะค่อยๆลุกออกจากเนื้อนี้ และกายทิพย์
    ที่ออกไปนั้น ก็คือ การอุปโลกน์อีกกายขึ้นมา ตามระดับภูมิธรรมของ
    บุคคลนั้นๆ และถ้าจับสังเกตุอะไรได้ จะมีเส้นสายใยเส้นหนึ่ง
    เราเรียกว่า สายใยวิญญาน ที่จะเชื่อม กายทิพย์หรือกายอุปโลกน์นี้ไว้
    กับร่างกายเราอยู่เสมอ..... และเส้นสายใยวิญญานนี้
    หากได้รับการกระทบกระเทือน แล้วจะทำให้ถึงขั้นเป็นอันตราย
    ถึงขั้นวิปลาสได้ หรือไม่ถ้าถูกตัด ก็จะกลับเข้ากายเนื้อไม่ได้เลย....
    ดังนั้น ทั่วไป บุคคลที่จะทำได้ จะมีพันธมิตรหรือครูบาร์อาจารย์
    ทางภพภูมิคอยดูแลตรงนี้ให้อยู่ครับ

    ๗ อรูปฌานที่ ๑ ถึง ๓ นั้นใช้กำลังสมาธิระดับเดียวกันครับ
    ในทางปฏิบัติ เราจะมานึกเอาไม่ได้เลย ว่าจะพิจารณาอะไร
    เมื่อสามารถ เข้าถึงกำลังระดับอรูปฌานได้หลังขากที่ทิ้งรูปนะครับ


    ๘ เราจะต้องวางอารมย์เรื่องที่จะพิจารณาไว้ก่อนในระหว่างวัน
    คือ จะนึกๆว่า จะพิจารณาอะไร ในอรูปฌานที่ ๑ ๒ และ ๓ แล้ว
    ทำๆไม่สนใจซะนี่คือการวางอารมย์
    และพอถึงสภาวะอรูปฌานจริงๆ หรือ ผ่านข้อที่ ๓ จากข้างบนแล้ว
    เรื่องที่จะพิจารณา มันจะขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติครับ
    การไประลึก คิดว่าจะพิจารณาเรื่องอะไร แม้ว่าจะสามารถ
    เข้าถึงกำลังระดับอรูปฌานได้จริงนั้น มันจะกลายเป็นความคิด
    แล้วสภาวะสมาธิจะถอยหลังกลับมา ในสภาวะเริ่มต้นนั่นสมาธิ
    ทันทีภายในเวลา เสี้ยววินาทีครับ

    ๙. หากว่า ท่านทำข้อที่ ๑ ถึง ๘ ที่กล่าวมาได้แล้วนั้น
    ในเวลาลืมตาปกติ ท่านจะมีความสามารถเล่นกับพลังงาน
    ไม่ว่าภายในหรือภายนอก ไม่ว่ารับ ดึง ดูด ส่ง
    ได้ในเวลาลืมตาปกติ ครับ คือ ทำได้ง่ายๆเหมือนหายใจนี่หละครับ
    พลังงานภายในภายนอก รวมทั้งพลังงานกสิณกองต่างๆได้ด้วยครับ


    ๑๐ สภาวะการแผ่ตัวจิตออกไปข้างนอก มันก็คือ การขยายตัวจิต
    ที่ปกติจะก่อตัวเป็นวงกลม เพราะการเกิด
    ออกไปแบบไร้รูปร่างและไม่มีขอบเขต กรณีนี้เราใช้สำหรับ
    การกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลครับ

    ๑๑. สภาวะการนำอรูปฌานไปใช้งานนั้น ตัวจิตที่อยู่ในกายจะเข้าสู่
    แนววิถีของแกนพลังงาน(ทั้งแกนสัมผัส และแกนเชื่อมพลังงานภายนอก)
    ก่อนที่จะเข้าเรื่มเข้าสู่สภาวะว่าง ตามวิญญานในลักษณะกระแส
    และเข้าสู่อากาศ เพื่อเชื่อมโยงเล่านกับพลังงานอื่นๆทั้งจากภายนอก
    และภายใน ไม่ว่า ในวัตถุ ดวงจิตภายนอกและอื่นๆครับ


    ๑๒. เรื่องแบบนี้ บางครั้งต้องอาศัยประสบการณ์จริงในการได้สัมผัส
    พบเจอด้วยตนเอง ถึงจะพอเข้าใจได้

    ๑๓. ย้ำว่า ผู้ที่ผ่านอรูปฌานมา จิตในเวลาปกติจะมีความสามารถ
    ทางจิตในด้านพลังงานเกิดขึ้นปกติ และสามารถใช้งานทางจิต
    ด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
    ได้เป็นปกติ ไม่มีทางที่จะไม่มีความสามารถทางจิตอะไรเลย


    ๑๔. และใช้งานทางจิตไปเป็นระยะเวลานานพอสมควร
    จนจิต เกิดเวทนาได้แล้วนั้น จุดนี้คือ จุดเริ่มของ
    คำว่า ทิ้ง พอทิ้งๆไป ก็จะเป็นตัวเริ่ม
    ของอรูปฌาน ที่ ๔ ซึ่งถ้าเข้าได้มันจะเข้าได้ของมันเอง
    เพราะมันอยู่เหนือ การใช้กาย และ จิต ใช้กำลังสมาธิ
    กำลังจิตเป็นตัวนำในการเข้าแล้ว.... เป็นไปตามวาระแห่งตนครับ

    ๑๕. การใช้จิตนำ สมาธินำ กำลังจิตนำ หรือความชำนาญในการเข้านำ
    ยังถือว่า เป็นมิจฉาทิฐิอยู่ แต่ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อยู่
    แต่สุดท้ายยังไง ก็ต้องทิ้งครับ จนกระทั่งเป็นอัตโนมัติครับ


    ๑๗.แยกให้ออกนะครับ เคยนั่งได้ เคยเข้าได้ เคยเจอกิริยาโน้น
    กิริยานี้ ไม่ว่าระดับไหน กิริยาอะไร ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด
    ความสามารถทางจิตนะครับ ซ้ำอาจจะทำให้หลงตนเองได้ว่าเป็น
    ผู้มีความสามารถ ซ้ำยังทำให้ติดสภาวะได้แบบไม่รู้ตัว
    ซ้ำร้ายยังเป็นตัวขวางในการเข้าถึงความสำเร็จของกรรมฐาน
    กองต่างๆในระดับใช้งาน พูดง่ายๆเราจะฝึกกรรมฐานอะไร
    ก็ไม่สำเร็จจำนำมาใช้งานจริงๆ เพราะ
    ความสามารถทางจิต เราจะดูในเวลาใช้งานจริง
    ในชีวิตประจำวันปกติ แบบลืมตา ว่าใช้เมื่อไหร
    ที่ใดก็ได้ แบบชิวๆ ในเวลาไม่กี่วินาทีนะครับ
    ข้อสุดท้าย ฝากไว้พิจารณานะครับ



    ปล.''ยิ่งทิ้งยิ่งอัตโนมัติ'' เป็นนัยยะนะครับ
    รับรองไม่หาย ไม่เสื่อม มีแต่จะพัฒนาครับ
    ที่เสื่อมนะ คือ ยังอยู่ในระหว่างทางการฝึก
    ยังอยู่ในสภาวะของนิมิตที่เข้าถึงระหว่างทาง
    ยังไม่ถึงระดับที่ นำมาใช้งานได้จริง
    ในชีวิตประจำวัน มันมีเสื่อมอยู่ครับเรื่องธรรมดา
     
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
  8. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    วัดป่าโสมพนัส จังหวัดสกลนคร
    ถือว่า เป็นสถานที่ที่ฝึก สติปัฏฐานสูตร ได้ดีที่สุดตอนนี้ครับ
    ควรที่ผู้ฝึกปฏิบัติธรรม ควรจะไปฝึกสักครั้งหนึ่งก่อนตาย
    วิธีฝึกของท่าน ถูกต้องที่สุด ในขณะุนี้
    ควรที่วัดป่าทั่วๆไป ควรเอาเยี่ยงอย่าง การสอนของท่าน
    มาทำที่วัดตนเองบ้าง
     
  10. BENATO

    BENATO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,582
    ค่าพลัง:
    +1,917
    เมื่อนานมาแล้ว.. ไม่ทราบจะเรียกว่ามันว่าอะไรหรือนิยามมันว่าอย่างไรนะครับ เพราะไม่ได้สนใจอะไรมาก.. ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้สนใจหรือจะทำแบบนั้นแล้วครับ สำหรับผมที่ผ่านมาตอนนั้นคือ..นั่งสมาธิ แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองออกไปอยู่นอกโลกในท่านั่งขัดสมาธิ แล้วมองกลับมายังโลก พร้อมกับแผ่เมตตา ความรู้สึกเหมือนกับเราเอาลมหายใจที่กลั้นอยู่ ณ ขณะนั้นปล่อยออกมาเป็นรัศมี(จากบริเวณท้อง)เราลงสู่ฐานหรือพื้น แผ่เป็นวงกลมสีเหลืองทองใสขยายออกไปแนวระนาบขนานกับพื้น โดยมีขอบเขตของเส้นรอบวงเป็นเปลวไฟสีทองที่กำลังลุกไหม้อยู่ชัดเจน ส่วนรัศมีของเส้นขอบวงขยายไปแค่ไหนนั้นไม่ทราบได้ เพราะไม่ได้สนใจและไม่ได้ประมาณไว้ครับ เพราะมันเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในห้วงเวลาระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ..

    ปล. ที่ผ่านมาเคยทำลักษณะนี้มาก่อนแล้ว 4-5 ครั้ง เริ่มครั้งแรก(ที่บ้าน)..จะมีรัศมีออกไประแวกข้าง ๆ บ้านเป็นสีขาวใส แต่ยังไม่มีเปลวไฟปรากฏของเส้นขอบวงกลม แต่เส้นขอบวงกลมที่ขยายออกไปนั้นมีความชัดเจนครับ

    เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ นะครับ มิได้จะโอ้อวด / เพราะปัจจุบันนี้ก็อย่างที่บอก ไม่ได้สนใจทำแล้วนะครับ..มันหยุดทำแบบนี้ของมันไปเองครับ

    ส่วนเปลวไฟที่แผ่ออกไป มิได้มีเจตนาทำร้ายใคร แค่เผากิเลสในใจ.. เท่านั้น / ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2021
  11. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014

    แบบนี้ เค้าจะนิยมเรียกกันว่า กายทิพย์ หรือ กายละเอียด ครับ
    สามารถบังคับบัญชามันได้ เหมือนกับการ ขับรถ
    เอาไว้ใช้ ไปโน่น มานี่ ได้ ไป สวรรค์ นรก ไปท่องเที่ยวได้
    แต่ไม่ทำให้ใคร บรรลุธรรม ได้ จะต้อง เจริญความเสื่อมของญาน ช่วย
    จะทำให้ บรรลุธรรม ได้ ในขณะที่เข้าญาน
     
  12. BENATO

    BENATO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,582
    ค่าพลัง:
    +1,917
    มันเป็นแค่เหตุการณ์หนึ่ง ๆ ในห้วงการฝึกแผ่เมตตา โดยส่วนตัวของผมเท่านั้นเองครับ.. /
     
  13. bird180531

    bird180531 นาย Bio

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2021
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +324
    ไม่เป็นครับ กสิน พยายามแล้วครับ ทำไม่ได้
    ไม่เข้าใจเลยจริงๆ....
    วานผู้รู้ช่วยอธิยาย คำว่า กสิน หน่อยครับ
    ที่เราต้องหัด เพราะจะได้เข้าสมาธิได้ไวครับ
    (ไม่เอาไปเล่นทางไม่ดีครับ)สัญญา....
    ขอวิธี การปฎิบัติ และทางนำไปใช้ครับ
     
  14. bird180531

    bird180531 นาย Bio

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2021
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +324


    เราไม่รู้ว่าคือแบบไหน
    แต่ถ้า เราสามารถ ปล่อยเส้นเหมือนใยแผ่ออกไป เราสามารถควบคุม มันได้โดยใช้...
    สามารถ มัด ประมวลผลสิ่งต่างๆได้ ละก็ไม่รู้จบ แต่มันค่อนข้างคิดไปเองอะสิ(สู้มาร อสูร
    อย่างเมามันเลย ตัวอะไรไม่อะไรมาหมด
    อยากบอกว่า (ถ้าตายจิตตายจริงนะ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...