ผีกับสถานที่ลี้ลับในอิหร่าน

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 31 ตุลาคม 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    [​IMG]


    เรื่องมีอย่างนี้คะ เดือนมกรานี้ดิฉันจะไปเมืองไทยจากยุโรป แต่หัวหน้าที่ดิฉันเป็นอาสาสมัครในสังกัดอยู่ เขาจะให้ดิฉันไปลงอยู่ที่อิหร่านสองสามอาทิตย์ก่อนจะต่อเครื่องไปเมืองไทย และที่ที่จะให้ไป คือที่ แคนดาวาน ในเมือง
    ตาบริซ กับ ชีราซ ซึ่งที่พักจะเป็นโรงแรมบ้านที่ขุดเข้าไปในเขาหินลาวาสมัยโบราณ ซึ่ง คนแถวนั้นเขาเรียกกันว่าปล่องไฟนางฟ้า อีกอาทิตย์ต้อง ไป นากค์ อิ รอสแทม ซึ่งแถวนั้นเขาไม่ได้นับถือ อิสลามกัน แต่นับถือ โซโรเอสเทรียล ต้องไปดูพิธีกรรมบูชาไฟโบราณ ที่หน้าวิหารของจักรพรรดิ ดาเลียส และ ไปดูไฟโบราณ ทีชาวโซโรเอสเตอร์ จุดต่อเนื่องกันแต่โบราณมาจนยุคปัจจุบันคือ 2500 ปี ไฟที่จุดนี้ไม่เคยดับเลย ลูกหลานจุดต่อเนื่องกันมาหลายพันปีจนปัจจุบัน

    ปกติแล้วดิฉันจะสวดมนต์บทสั้นๆทุกคืน ยิ่งเวลาไปนอนต่างแดน แต่ไม่เคยสวดชิณฯที่ต่างแดนอีกเลย เพราะเคยเจอดีทุกครั้งที่สวด แต่ ที่ที่ หัวหน้าจะให้ไปนอน ที่โรงแรมบ้านเขาหินโบราณนั้น ดิฉันไม่แน่ใจว่าควรจะสวดบท สรรเสริญพระพุทธเจ้าปกติ สั้นๆ หรือ สวดชิณฯ หรือ ไม่ต้องสวดมนต์เลย จึงจะดี แต่ มีสมาชิค ที่เขาเคยไปนอนกันมาก่อนบอกโดนผีหลอกกัน บอกผี ที่นั้นเฮี้ยนมากๆ เพราะที่พักแห่งที่สองจะอยู่ในหมู่บ้านโบราณของพวกโซโรเอสเทรียล และคนแถวนั้นยังอยู่กัน โบราณยังไงก็ยังงั้น คนที่เป็นอาสาสมัครที่เคยไปมาก่อน กลับมาเล่าว่าขนาดเป็นมุสลิมก็โดนหลอก

    คงเพราะบริเวณนั้นเค้าเป็นโซโรเอสเทียลกัน แล้วจะให้ดิฉันไปอยู่นั้นเกือบเดือน อย่างนี้อยากทราบว่าควรจะสวดมนต์ไหม และไล่ผีอย่างไรถ้าต้องเจอ เพราะคนที่เขาไปนอนบอกเจอทุกคน

    หลังจากช่วงปีใหม่นี้ดิฉันคงไม่ได้เข้ามาในเวปนี้บ่อยๆเพราะต้องเดินทางไปหลายที่ที่ไม่มีอินเตอร์เนต หรือ สัณญาณโทรศัพท์ แต่ช่วงกุมพา ก็จะกลับมาอีกครั้ง........ นี้เป็นภาพที่ นากค์ อิ รอสแทม ที่พวกโซโรเอสเทรียลเขาไปประกอบพิธีกัน เมืองที่ดิฉันจะไปจะอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านหมดเลย ใกล้ๆทะเลสาปแคสเปี้ยน อากาศค่อนข้างเย็น




    [​IMG]



    [MUSIC]http://k002.kiwi6.com/hotlink/y463mqrzah/warsaw_village_-dakhabaha_mustafa_sandel.mp3[/MUSIC]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2013
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    เรื่องที่ ๑๕๗
    ตายจากคน (ผู้หญิงแขก) ไปเกิดเป็นเปรตมาขอบุญอาตมาแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก

    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน

    "..อาตมาเดินทางไปภาคใต้เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้ไปพักที่บ้านพักของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนจะนอนอาตมาก็บูชาพระ คือบูชาความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อบูชาพระแล้วก็นอน เมื่อนอนลงไปแล้วก็คิดถึงการเดินทางมาสายใต้คราวนี้ อารมณ์จิตก็น้อมนึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้าและนึกถึงความดีของท่านผู้มีพระคุณ คือบรรดาท่านบุพการีทั้งหลายที่ได้ปกป้องคุ้มครองรักษาผืนแผ่นดินไทยนี้ไว้ให้พวกเราได้อาศัยมาจนถึงปัจจุบันนี้ และคิดถึงองค์สมเด็จพระบรมครูทรงกล่าวว่า "โลกนี้ไม่มีอะไรทรงตัว" ทุกชาติทุกภาษาทุกกาลทุกสมัยต้องตายไปหมด แม้แต่ในสมัยที่องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงพระชนม์อยู่ก็เหมือนกัน พอคิดอย่างนี้ใจก็สบาย เห็นว่าร่างกายของเรานี้ไม่ช้าไม่นานเท่าไรมันก็จะสิ้นไป ทำท่าว่าจะหลับ ปรากฏว่าพบผีผู้หญิงแขกประมาณ ๓๐-๔๐ คน แต่งตัวเป็นสาวแขกธรรมดา เป็นพวกนับถือศาสนาอิสลาม หัวหน้ายกมือไหว้ทั้งหมดก็ยกมือไหว้

    จึงถามว่า "เมื่อเธอนับถือศาสนาอิสลามแล้วมาไหว้พระในพระพุทธศาสนานี่ ไม่เป็นการผิดระเบียบของศาสนาเธอหรือ" เธอตอบว่า "เป็นผีไม่ผิด เพราะว่าผีต้องการอย่างเดียว คือความดีของผู้ที่เราจะเข้าไปไหว้" จึงถามว่า "อาตมามีความดีอะไร" เธอตอบว่า "ความดีที่เห็นง่ายๆ ก็คือ ผีมาท่านเห็นได้" ก็บอกว่า "ก็เธอทำให้ฉันเห็นนี่ ฉันก็เห็นซิ ถ้าเธอไม่ทำให้ฉันเห็น ฉันจะเห็นได้อย่างไร" เธอตอบว่า "คนทั้งหลายทำให้เห็นมามากแล้วไม่มีใครเห็น พระในพระพุทธศาสนาก็มากมายแสดงให้ปรากฏก็ไม่ยอมเห็น บรรดาแขกด้วยกันแสดงให้ปรากฏก็ไม่เห็น"

    ถามว่า "พวกเธอไม่ได้ตกนรกรึ ศาสนาของเธอแนะนำให้ลงนรกมากกว่าไปสวรรค์ เพราะว่าการจะกินอะไรก็ต้องฆ่าด้วยมือเอง ถือว่าสัตว์เป็นอาหารของชาวบ้าน" เธอตอบว่า "กิจการฆ่านั้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องของผู้ชายไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง ผู้ชายเขาทำและผู้หญิงก็ทำต่อ ฉะนั้นพวกฉันจึงเลียบๆ เคียงๆ อยู่ใกล้นรก" แสดงว่าพวกเธอเป็นเปรตแต่ว่าเป็นเปรตระดับเบาเพราะไม่ได้ลงมือฆ่าสัตว์เอง ได้ถามว่า "พวกเธอมาเพื่อประสงค์อะไร"

    เธอตอบว่า "เธอตั้งใจจะมาขอบุญกุศล" จึงถามว่า "บุญในศาสนาพุทธจะเข้าไปถึงคนในศาสนาอิสลามได้อย่างไร" เธอตอบว่า "ศาสนาไหนไม่สำคัญ เป็นผีแล้วรับได้หมด แม้แต่นรกสวรรค์ก็ไม่ได้แยกนรกแขก นรกไทย จะเป็นศาสนาไหนก็ตามลงนรกเดียวกัน ขึ้นสวรรค์ก็เขตเดียวกัน เป็นพรหมก็เหมือนกัน ถ้าบุญถึง" อาตมาเห็นหน้าพวกเธอเศร้าๆ เลยเห็นใจบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นละก็อย่าพูดมากเลย เดี๋ยวเธอจะอยู่ไม่ได้นาน ให้ตั้งใจโมทนา" อาตมาจึงได้อุทิศส่วนกุศลว่า "ผลบุญใดพึงให้ประโยชน์ความสุขแก่เราเพียงใด ขอเธอทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้และจงได้รับประโยชน์และความสุขเช่นเดียวกับเราจะพึงได้รับนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

    บรรดาสาวแขกทั้งหลายก็พากันกราบ ๓ ครั้ง กราบครั้งแรกเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพเดิม กราบครั้งที่สองก็เห็นภาพเดิม พอกราบครั้งที่สามเงยหน้าขึ้นมาคราวนี้แพรวพราวไปด้วยเครื่องประดับ อาตมาถามว่า "เธอจะไปไหน" เธอตอบว่า "ไปเป็นบริวารเขาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็ยังดีกว่าเป็นสัตว์นรก และเป็นบริวารของเทวดาก็ดีว่าเป็นหัวหน้าของคนในเมืองมนุษย์" เธอบอกอีกว่า "จากนี้ไปเธอมีความสุข"

    ในเมื่อบรรดาสาวน้อยและสาวใหญ่ทั้งหลายเปลี่ยนกายจากคนเป็นเทวดา ด้วยอำนาจปัตตานุโมทนามัย เป็นการพิสูจน์ว่าคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ไร้ผล เพราะพระองค์ทรงกล่าวว่า "บุญย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยอำนาจปัตตานุโมทนามัย คืออนุโมทนาในความดี ยินดีกับความดีที่บุคคลอื่นทำแล้ว เป็นกิริยาที่ทำให้เกิดบุญ และเป็น ๑ ในพรหมวิหาร ๔ คือตัวมุทิตา

    เป็นอันว่าทุกคนที่เกิดมาในโลกมนุษย์ ถึงแม้จะมีเชื้อชาติ รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ภาษา แตกต่างกันไปก็ตาม จะเป็นชนชาติใด ภาษาใด ศาสนาใดก็ตาม ในที่สุดก็ต้องตายเหมือนกันหมด เมื่อตายแล้วก็ต้องไปเกิดใหม่ทุกคน ดังที่องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสไว้ว่า "ตายแล้วไม่สูญ" และแดนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแดนนรก แดนสวรรค์ แดนพรหม และแดนพระนิพพาน ก็เป็นที่เดียวกัน ไม่มีการแยกนรกแขก นรกไทย สวรรค์ก็เขตเดียวกัน เป็นพรหมก็เหมือนกัน ถ้าบุญถึงเขตนั้น.."





    ผมว่าน่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อนน่ะ การที่จะบอกว่าสวดมนต์เป็นเหตุทำให้ผีต่างชาติมารบกวน เพราะคนไทยเองสวดมนต์ในประเทศไทยก็โดนผีรบกวนได้ ดังนั้นการที่สรุปว่าเพราะการสวดมนต์ในต่างประเทศที่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา ทำให้มีผีมากวนเป็นสิ่งที่ไม่ถูก ยกตัวอย่างเช่น


    จากหนังสือประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เรียบเรียงโดยท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปัณโณแห่งวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ได้บันทึกประวัติตอนหนึ่งของแม่ทัพธรรมแห่งภาคอีสานเอาไว้ว่าพระอาจารย์มั่นสมัยที่ท่านไปบำเพ็ญเพียร ณ ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ท่านได้พบกับพญานาคที่เป็นมิจฉาทิฐิตนหนึ่งดังปรากฎข้อความดังต่อไปนี้.....

    ....ในถ้ำเชียงดาว ซึ่งมิใช่ถ้ำที่ยาวเข้าไปในกลางเขาที่ประชาชนชอบเข้าไปเที่ยวกันเป็นประจำ แต่เป็นถ้ำหนึ่งที่สูงขึ้นไปกว่าถ้ำที่ท่านพักอยู่ ท่านว่าในถ้ำที่ท่านพักมีพญานาคตนหนึ่ง รักษาถ้ำอยู่เป็นประจำมาเป็นเวลานาน แต่รู้สึกจะเป็นพญานาคมิจฉาทิฐิ จึงชอบกล่าวโทษพระอย่างไม่มีประมาณแห่งความพอดี

    ขณะที่พระอาจารย์มั่นท่านพักอยู่ถ้ำนั้น มักถูกพญานาคที่รักษาถ้ำตำหนิติเตียนด้วยเรื่องต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เวลาแผ่เมตตาให้ส่วนกุศล ก็รู้สึกว่าจะรับได้ยาก นั่นก็เพราะคงจะเคยมีกรรมกับพระมานานยังไม่จบสิ้นลงได้ ดังนั้น ขณะที่ท่านพำนักอยู่ที่นั่น จึงถูกคอยจ้องจับโทษอยู่เป็นประจำแทบทุกอิริยาบถแม้ขณะหลับก็ตาม

    ตอนกลางคืนเวลาท่านใส่รองเท้าเดินจงกรมมีเสียงดังบ้าง ก็ว่าสมณะอะไรเดินจงกรมมีเสียงดังราวกับเสียงม้าแข่ง ไม่สำรวมระวังบ้างเลย เสียงรองเท้ากระทบดินและหินกระเทือนทั่วภูเขา ไม่คิดว่าใครจะมีความลำบากรำคาญบ้างเลยนิ

    ทั้งที่ท่านก็เดินไปมาอย่างเบา ๆ ในท่าสำรวมของผู้บำเพ็ญธรรมไม่ผิดไปจากปรกติธรรมดาเลย

    พอท่านทราบว่าพญานาคจ้องจับผิดโทษ ท่านก็พยายามระวังเดินเบา ๆ ก็ยังถูกว่าอีก ว่าสมณะอะไรเดินจงกรมราวกับเขาด้อมจะยิงนก บางครั้งเท้าท่านก็ไปสะดุดหินทางจงกรม มีเสียงดังตุ๊บตั๊บบ้าง เท่านั้นก็ว่าสมณะอะไรเดินจงกรมราวกับเขาเต้นระบำโป๊ โขยกเขยกไม่สำรวมระวังเอาบ้างเลย

    บางคราวท่านตกแต่งทางจงกรมให้พอเดินได้สะดวกไม่ขระขระเกินไป พอยกหินมาวางเรียงรายตามทางจงกรม ก็ว่าสมณะอะไรไม่สมควรจับโน่นโยนนี่อยู่ไม่เป็นสุข ไม่คิดว่าหัวใครจะแตกเพราะความกระทบกระเทือนจากความอยู่ไม่เป็นสุขของตน ไม่ว่าการไปการมา การเข้าออกในบริเวณนั้น ท่านต้องได้ทำความระมัดระวังเป็นพิเศษ แม้เช่นนั้น ก็ยังคงได้รับความตำหนิจากพญานาคมิจฉาทิฐิจนได้

    ตอนกลางคืนท่านพักจำวัด ขณะหลับไปอวัยวะส่วนต่าง ๆ อาจไหวติงไปบ้าง พอตื่นนอนขึ้นมา ความรู้สึกที่บันทึกไว้โดยตลอดก็บอกว่าพญานาคตำหนิว่าท่านนอนทำเสียงตุกติกบ้าง เสียงหายใจฟูดฟาดบ้าง เสียงกรนบ้าง ร้อยแปดพันประการที่จะสรรหามาจ้องจับผิดโทษ

    ขณะที่ท่านกำหนดจิตดูพญานาคตนที่ขี้โมโหและแสนจ้องจับผิดโทษเก่งทีไร ปรากฎว่าพญานาคตนนี้ก็จะโผล่หัวออกมาคอยจ้องมองท่านอยู่เป็นประจำประหนึ่งว่ามันไม่ยอมพลิกสายตาไปที่อื่นเลย ถ้าเป็นคนก็เรียกว่าหน้าเสือใจยักษ์ ไม่ยอมรับส่วนบุญจากใครเลยนอกจากตั้งหน้าตั้งตาสร้างแต่ความโมโหโทโสอันเป็นไฟเผาตัวอยู่ตลอดเวลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2013
  3. namitta

    namitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,061
    ค่าพลัง:
    +3,517
    แถวนั้น คือพวกบูชาไฟ ลอง โมรปริตรหรือ อาทิตตปริยายสูตร ก็ได้ครับ สรรเสริญธาตุไฟเหมือนกัน ไม่ขัดกันด้วย
     
  4. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เดี๋ยวเย็นๆจะมาเล่าในลายละเอียดที่เคยเจอๆมาให้ฟังคะ ปกติก็ไม่ได้มาแบบแลบลิ้นปลิ้นตาอะไรหรอกนะ แต่มา ธรรมดาเราก็ตกใจแล้ว บางเจ้า รู้ด้วยว่าเขาทำให้เรากลัว และพยาม อยู่ห่างๆ แต่ ก็จะยังอยู่ที่ที่เราอยู่ แต่ไม่เข้าใกล้
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เด่วจะเล่าให้ฟังอย่างนี้นะครับ..ถ้าให้เทียบเคียงจากภาพที่คุณ Duss เอามาลงให้ดูนะครับ
    คือจะว่าเค้ามาหลอกหรือไล่เลยซะทีเดียวก็ไม่เชิงนะครับ..
    หรือว่าเป็นเพราะการสวดมนต์เลยก็ไม่เชิง ลองอ่านดูประกอบ
    ความเข้าใจก่อนนะครับ...
    เท่าที่ดูนะครับ เค้าจะมีภพภูมิอยู่ด้วยกัน
    ประมาณ กลุ่ม
    กลุ่มที่ ๑
    จะเป็นกลุ่มที่เคยเกี่ยวข้องหรือรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกลัทธิความเชื่อ
    การบูชาหรือการบูชาอะไรที่เกี่ยวกับธาตุมาก่อนนี่หละครับ.คือ ถ้าเทียบกับบ้านเราก็คือ คล้ายกลุ่มๆหมอผี
    หรือกลุ่มบูชาสิ่งที่ตนคิดว่าศักดิ์สิทธิ์
    ซึ่งเค้าจะพอมีเรื่องสัมผัสทางจิตอยู่บ้าง
    แต่ความเป็นทิพย์ไม่มากซึ่งกลุ่มนี้จะอยู่รวมกันและ
    ในกลุ่มนี้จะมีภพภูมิที่ดีสุดคือเป็นกลุ่มภูมิน้องๆเทวดา
    ที่สีผิวจะออกขาวๆผ่องๆหน่อยแต่ว่าจะเป็นหญิง นอกนั้นเป็นชายหมด..​

    กลุ่มที่ ๒ ก็คือกลุ่มที่พอจะมีกำลังจิต มีความเป็นทิพย์ออกไปในทางป้องกัน
    ในกลุ่มนี้จะพอมีส่วนที่เริ่มออกไปทางด้านความดี
    คล้ายๆกลุ่ม ๑ และเป็น และกลุ่ม ๓ ที่มีกำลังจิตออกทางป้องกันผสมกับนิสัยแรงๆ(คือยังเป็นมิจฉาทิฐิอยู่)..
    กลุ่มที่ ๒ และ จะอยู่รวมกัน...

    ถ้าเราเข้าไปอยู่ในสถานที่แห่งนี้.ถ้าทำตัวกลมกลืนกับวัฒนธรรมเค้าโอกาสที่จะไม่สัมผัส
    อะไรเลยก็เป็นได้ครับ..แต่ถ้าสวดมนต์หรือทำอะไรอย่างนี้ ทั้ง ๒ กลุ่มจะมีบ้างส่วนที่ไม่ชอบ

    .แต่เรามีวิธีที่จะทำให้เค้ามาเป็นมิตรและไม่ทำอะไรเราได้อยู่ครับ.หรือว่าเค้าไม่เป็นมิตรแต่เค้าก็ไม่ทำอะไร..
    .ด้วยการขอบารมีพระรัตนตรัยและครูบาร์ทางภพภูมิแล้วเราถึงแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้ไป..
    โดยที่ตัวเราไม่ต้องใช้บารมีตัวเอง
    หรือกำลังใจตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็จะพอได้. หรือขอบารมีพระรัตนตรัยกับบารมีครูบาร์
    อาจารย์ให้รวมกันเป็นหนึ่งด้วยกันก่อน แล้วค่อยเอาบารมีเราไปรวม แล้วแผ่เมตตาก็จะ
    ป้องกันการโดนรบกวนได้ครับ..เพราะว่าทั้งกลุ่มนี้จะมีความเคารพและยำเกรงในบารมี
    ของพระรัตนตรัยและครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิอยู่ครับ..

    ถ้าใช้บารมีตนเองเราต้องมั้นใจ
    ในการรักษาความดีของตนเอง เมตตาของตนเอง.จนความสามารถพิเศษทางจิตบางอย่างตลอด
    จนกายละเอียดในตนเองของเราว่าจะต้องมีระดับภพภูมิที่สูงกว่าเค้าตอนนั้น
    ถึงจะทำให้เค้าเกรงใจเราครับ.
    .ต่อให้เราพอมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือว่าพอมีกำลังจิตในระดับหนึ่ง ถ้าจะไปวัดกับกลุ่มนี้เรียกว่าคงอัดกัน
    ยันเช้าแม้ว่าทำอะไรเราไม่ได้.แต่ก็สร้างความรำคาญให้เราพอสมควร.
    .ยังไงอ่านแล้วลองพิจารณา
    วิธีการอย่างที่ได้เล่าให้ฟังก่อนครับ

    ซึ่งต้องอาศัยการฝึกซ้อมเพื่อป้องกันการเหนื่อย อาจเป็นเหตุให้กำลังใจตกและเพื่อให้ชินกับอารมย์ที่จิตเป็นทิพย์ไว้ร่วมด้วยจะดีมากๆครับ
    วิธีการก็คือ.ให้เห็นเป็นแบบคล้ายๆดวงจิตหรือดวงธรรมทางด้านภพภูมิแบบ
    ที่คุณ Duss เห็นแล้วหายไป.แต่ตอนขอบารมีให้รักษาสภาวะจิตแบบที่เห็น
    แต่ให้กำหนดขึ้นมาให้นิ่งๆตรงกลางหน้าฝากแทน.ถ้าเห็นเป็นวงกลมสีขาวๆได้
    ตอนขอบารมีพระรัตนตรัยกับครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิมารวมและขยายออก
    ได้หน่อยหนึ่งตอนรวมกับบารมีเรา..ถือว่าพร้อมใช้งานในกรณีนี้ได้ครับ.
    อืมอีกอย่างตอนที่คุณทำอย่างนี้ คุณ Duss จะเห็นดวงธรรมที่คุณเคยเห็นเป็นปกติก่อนนะครับ.
    แต่อาจจะชัดเจนและสว่างกว่าเล็กน้อยเรื่องธรรมดาไม่มีไร
    หากต้องได้ไปอยู่แถวนั้นจริงๆนะครับ..

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
     
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    มนต์ขลังแดนศักดิ์สิทธิ์

    [​IMG]


    ช่วงนี้ไม่ได้ค่อยมาเล่าอะไรยาวๆเพราะกลับจากข้างนอกมาก็เหนื่อยมากนอนอย่างเดียวแต่จิตใจกลับรู้สึกดีขึ้นมากอย่างน่าประหลาด เพราะได้เงินเก็บสะสมมากขึ้น และมีจุดมุ่งหมายว่าเราจะทำอะไรบ้าง


    ก่อนจะมาเล่าเรื่องผี ขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่แปลกลึกลับศักดิ์สิทธิ์ ทางโลกตะวันออกกลางที่เล่าเอาไว้ในโพสต์แรก ความจริงแล้วดิฉันก็ชอบทุกประเทศ ในโลก เพราะแต่ละที่ต่างก็มีดีต่างกันไป แต่ สำหรับอิรักกับอิหร่านนั้น สองประเทศนี้มีความลึกลับอะไรบางอย่างที่น่าดึงดูดใจ ซึ่งจะเล่าให้ฟังในลำดับต่อไป แต่อย่างแรกจะเล่าคร่าวๆให้ฟังก่อนว่า สองประเทศนี้ ประชาชนที่อยู่อาศัยปัจจุบันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนอิรักนั้น สืบเชื้อสายมาจากอาหรับ ส่วนคนอิหร่านเป็นชาวเปอร์เซียกับอารยัน

    เป็นต้นตระกูลของชาวยุโรปทั้งปวง .....แม่ของดิฉันเคยไปอิรักท่านบอกว่า แอร์ และสจ็วตหญิงชายชาวอิรักนั้นหน้าตาสวยหล่อ สูงใหญ่มาก ราวกับไม่ใช่คนแต่เป็นเทพเจ้า หล่อราวกับไม่ใช่คน ส่วน สาวอิรักก็สวยมาก

    ในขณะที่อิหร่านคือชาวเปอร์เซีย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองประเทศนี้มีอาณาเขตพื้นทีที่ใหญ่มาก ทำให้มีประชากรหน้าตาหลากหลาย แต่ทั้งสองกลุ่มนั้นไม่ถูกกันเป็นอย่างมากด้วยหลายๆเรื่อง


    แต่ ในที่นี้จะไม่ขอพูดถึงทัั้งคนอิรักคนอิหร่านในปัจจุบัน แต่ที่ดิฉันสนใจคือ ในสมัยโบราณนั้น สองประเทศนี้ติดกันและทั้งคู่ก็ต่างมีมหานครที่สุดยอดแห่งความมหัศจรรย์ของโลก มีตำนานความเชื่อลึกลับ พิศวงมากมาย ในสมัยโบราณนั้นอิรักคือ อาณาจักรอาณาจักร เมโสโปเตเมียที่ยิ่งใหญ่ที่รวม นคร บาบิโลเนีย อะคานเดีย อัสสิเรี่ยน เข้าไว้ในอาณาเขต เมโสโปเตเมีย


    เป็นต้นกำเนิดตำนานนางเงือกชาติแรกของโลก มีที่มาที่ไปยังไง เคยเล่าไปแล้วในกระทู้ประวัติศาสตร์ผียุโรป และราชินีแห่งรัตติกาล เทวี อิชตาร์ เป็นรูปปั้นหญิงงามปีศาจที่มีท่อนบนเป็นคนมีปากเป็นนกฮูก และปีกนก ส่วนท่อนขาเป็นนกแบบนางไซเรน


    ส่วนอิหร่านสมัยก่อนนั้นคืออาณาจักร อลาไมต์ หรือ สุเมเรี่ยน ซึ่งในสมัยก่อนรู้จักกันกว้างขวางว่า ซูเซียน่า ในสมัยจักรพรรดิ ดาเรียส 1 ทรงมีพระธิดา นามว่า เจ้าหญิง อนาฮีต้า ซึ่งกลายเป็นเทวีที่บูชากันต่อมาในฐานะ
    เทวีแห่งความรู้ ชื่อขอนางในยุคแรก คือ อรัดวี สุระ อนาฮีต้า เป็นภาษา อวาตา ภาษาของชาวอารยันที่อยู่ทางตะวันออกของอาณาจักรเปอร์เซีย คือ แบกเธรีย ปัจจุบันคือ กันดาฮา หรือ นคร คันธาระ ในอัฟกานีสถาน เทวี อนาฮีต้า หรือเทวี อรัดวี ก็คือ พระแม่สรัสวตี ในศาสนาฮินดูของอินเดียนั้นเอง ใน ประเทศ อาเมเนีย คือ คำว่า อนาฮีท หรือ อนาชีท


    นอกจาก นากซ์ อิ รอสแทม ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพของจักรพรรดิดาเรียสแล้ว สถานที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในประวัติศาสตร์ เปอร์เซีย อลาไมต์ และ ซาเซไนต์ ก็คือ ชีราซ หรือ เพอร์ซิโพลิส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก นากซ์ อิ รอสแทม ซึ่ง เป็นชื่อ วีรบุรุษในเทพปกรนัมของเปอร์เซีย


    อันนี้จะเป็น รายนามชื่อ ชนชาติ ที่อาศัยอยู่ในเขตอิหร่านสมัยโบราณเมื่อ 2800 ปี ที่แล้วทั้งหมดได้แก่


    ชาว มีดัส


    ชาว อารยัณ


    ชาว ซากาเธี่ยน อยู่ใกล้ซาโกส


    ชาว คอร์ดูชี : ปัจจุบันคือ ชาว เคิร์ด


    ชาวไซทิอี : บรรพบุรุษสายแรกของชาวเคิร์ด


    ชาว ริวโคซิรี่ : ชาวซีเรียขาว


    ชาว อราโคเซี่ยน


    ชาว แคสเปี่ยน


    ชาว คาดูซิอี้


    ชาว แบคเธรียน


    ชาว พาเธี่ยน : ปัจจุบันคือ แขกปาทาน หรือ พวกปากีสถานและปัณจาบในอินเดียทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ


    ชาว กัมโพจัส : อาศัยทางตะวันออกของอิหร่าน คือ อัฟกานีสถาน หรือ ที่ ไทยเราเพี้ยนมาเรียก เป็น กัมโพชะ จนเป็นเหตุให้ พยามอ้างอิงว่าศาสนาพุทธเกิดในไทย


    ชาว อราโคเซี่ยน


    ชาว ควาเรสเมี่ยน


    ชาว ไซโตซามาเที่ยน


    ชาว ซารางเจี่ยน


    ชาว ไซเธีย


    ชาว ซามาเธี่ยน : บรรพบุรุษ ชาว สลาวิก ในรัสเซีย กับ โปลแลนด์


    ชาว โรโซรานี่ : บรรพบุรุษ ชาวยุโรปตะวันออกเช่น ชาวรูเมเนีย บังแกเรีย


    ชาว ซองเดียน : บรรพบุรุษชาวอุซเบกีสถาน


    ชาว เลซีเกรซ : บรรพบุรุษ ชาวยูเครน หรือ รัสเซียใต้


    ชาว ไซเรซ : อาศัยบริเวณ ทะเลดำใต้ เทือกเขา คอเคซัส


    ชาว ดาฮาเอส

    ชาว อลัน : บรรพบุรุษชาว ออสซาเธี่ยน ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาคอร์เคซัส


    ชาว อาริมัสปี : อาศัยอยู่ตอนเหนือ ไซเธีย


    ชาว ศากะ : อาศัยอยู่ในเขตไซเธีย, คาซัคสถาน, และยุโรปตะวันออก และมีบางส่วนที่แพร่เข้าไปในอินเดียทางใต้เทือกเขา ฮินดูกูช และ เมือง บูเซพฮารา


    ชาว ปารมะ


    ชาว กัมโพจัส : แพร่เข้าไปที่ เนินเขาอะเล และ ทางเหนือเทือกเขาฮินดูกูช

    ชาว ปารนี : อยู่แถวเทือกเขาอ็อคซัส บางส่วนอัฟกานีสถานและ ทาจิกีสถาน


    ชาว มาซากาเท่ : เป็นชาวอิหร่านประเภท นอร์หมัด เดินทางย้ายที่ร่อนเร่คาราวานไปเรื่อยๆไม่เป็นหลักแหล่ง


    ชาว อัสวากัส : บรรพบุรุษชาวพัชตุน ในอัฟกานีสถาน/ พัชตุนเป็นกลุ่มชาวอัฟกานีสถานประเภท หน้าคล้ายชาวยุโรปกว่าแขกทุกชนิด


    ชาว ซิมเมเรี่ยน


    ชาว ไซจินนาอี้


    ชาว ซิโอไนต์


    ชาว ฮิปทาไลต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2013
  7. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    หมู่บ้านนี้ผีดุ

    [​IMG]





    แคนดาวาน เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของอิหร่านอยู่ติดๆไปทางใต้จอร์เจีย เมืองนี้ทั้งเมืองทำจากเขาหินลาวาที่คตั้งแต่สมัยโบราณขุดเข้าไปทำเป็นบ้าน อากศที่นี้ค่อนข้างเย็นใกลเคียงยุโรปตะวันออก ปกติจะราวๆ 18 องศา เย็นกำลังดีไม่หนาวมากและไม่ร้อน แต่ฤดูหนาวก็มีหิมะเช่นกัน
    ความจริงบ้านหินภูเขาไฟแบบนี้ ที่ตุรกีก็มีและออกสวยกว่า ขาวสะอาดเป็นทรงเหมือนหอคอยราปุณเซล ในเทพนิยาย ดิฉันเคยเขียนเรื่องบ้านทรงน่ารักๆในประเทศทางตะวันออกที่อยู่ติดตะวันตกเอาไว้ ในหัวข้อเมืองมหัศจรรย์กลางทะเลทราย จะมีภาพบ้านแปลกๆหลายแบบใครสนจก็ดูได้ในลิงค์นี้


    แต่ในหัวข้อนี้จะมาพูดถึงประสบการณ์ และสถานที่ลึกลับผีๆในอิหร่าน
    หมู่บ้านนี้โบราณมากแต่ที่แคดาวาน ไม่ใช่พวกโซโรเอสเตอร์ แบบแถว เอสฟาฮาน และ ชัค ชัค ที่ แคนดาวาน คนที่นี้เป็นชิอะห์ธรรมดาแต่ถ้าใครไปพักและไม่ใช่อิสลามอาจต้องระวังผีบรรพบุรุษผู้ย้ายเข้ามาในเขตบ้านหินเหล่านี้หลายพันปีก่อน
    [/SIZE][/B]





    [​IMG]




    [​IMG]




    [​IMG]




    [​IMG]



    [​IMG]


    เดี๋ยวจะมาเล่าต่อทีหลังเกี่ยวกับเรื่องผีบ้านคนรู้จักที่เมืองแขก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2013
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    นั้นคือเหตุผลว่าทำไมดิฉันถึงเลือกจะไปอิหร่าน นักปราชญ์ว่า ได้อ่าน ได้ฟัง ใยจะลึกซึ้งเท่าได้ เห็น ได้สัมผัส ดิฉันค่อนข้างเชื่อมั่นว่า ต้นกำเนิดความเชื่อทางศาสนาต่างๆนั้นมาจาก อิหร่าน ดิฉันเคยไปมาแล้วทีนึงแต่เป็นที่บ้านคนรู้จัก ซึ่งอยู่ทางตะวันออก ในเมือง มาชาด สถานที่ที่ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ก็เคยผ่านมา แต่ประเทศนี้ใหญ่มากและยังมีอะไรที่น่าเรียนรู้อีกเยอะ เกี่ยวกับศาสนาต่างๆ เออลืมบอกไปว่าที่บ้านของเพื่อนชาวชิอะห์นั้นเองที่ดิฉันโดนผีหลอก แต่ คนอื่นๆเขาอยู่กันมาชั่วนาตาปีก็ไม่เคยโดน คงจะแบบคุณนพฯกล่าว เพราะผีคงมาทัก คนต่างศาสนาที่สวดมนต์ ของศาสนาอื่น ส่วนลายละเอียดว่าเจอยังไงจะเล่าต่อทีหลัง
     
  9. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ว่าจะมาเล่าต่อแต่รอให้เวปหายป่วยก่อนแล้วกัน โพสต์รูปไม่ได้ เล่าไปก็มองไม่เห็นภาพ:'(
     
  10. ker-kanok

    ker-kanok Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +96
    ครับอยากฟังมารอนะครับ แล้วเพลง วอร์ซอ อะไรนี่แหละ เพราะไปอีกแบบ แบบแขกๆๆ ครับ
     
  11. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    เพลงแรก วง วอร์ซอ วิลเลจ แบนด์ ของ โปลแลนด์, เพลงที่สอง ดักคาบาฮา แนว แขกที่อยู่ในรัสเซีย หรือยูเครน, ส่วน สองเพลงหลัง มุสตาฟา แซนเดล ป็อบตุรกี

    ดิฉันคงไม่มาเล่าต่อในนี้ เพราะย้ายไปพันทิพย์ กะ บอร์ด ต่างประเทศ anthroscape แทน เพราะมี คนสนใจแนวๆเดียวๆกันมากกว่า ซึ่งดิฉันชอบให้ความรู้หรอพูดคุยแลกเปลี่ยนกับกลุ่มคนที่มี base ใกล้ๆกันก็ สนุกกว่า และสิ่งที่เราพูด เขาสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ในคนจำนวนมาก ดิฉันเลยเลือกไปบอร์ดอื่นมากกว่าคะ ส่วนพลังจิตก็ยังใช้อยู่จะเฉพาะเรื่อง ธัมมะ ธัมโม เท่านั้นนะคะ

    ความจริงดิฉันมีเรื่องที่จะเล่าเยอะมาก แต่ไม่เสียหลายก็ได้เห็นได้ฟังอะไรมามากพอสมควรตั้งแต่เด็กๆเพราะมีคุณตาเป็นนักเดินทางเหมือนกัน และท่านก็ถ่ายทอดหลายๆเรื่องให้ดิฉันฟังด้วยนะคะ
     
  12. tanaxxir

    tanaxxir เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +190
    คุณ DuchessFidgette ถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมอยากขอให้ แชร์ link ของBoard Panitp ให้ด้วยครับ จะได้ไปติดตามต่อ ขอบคุณครับ
     
  13. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    จริงๆดิฉันชอบบอร์ดนี้มากกว่าพันทิปคะ เพราะบอร์ดพันทิปสีมันดำๆ พิมพ์ไม่สะบายตา ตัวหนังสือก็เล็ก เอาไงดี แต่บอร์ดนี้ก็มีปัญหาโพสต์รูปไม่ได้ โอเค ดิฉันจะเล่าพวกเรื่องลึกลับในบอร์ดนี้ต่อแต่พันทิป เอาไวเกี่ยวกับ แอนโทโพโลจี้ ละกัน บอร์ดทางเมืองไทยนี้มันทำไม่ค่อยมาตรฐาน หลายวันแล้ว เวปควรจะแก้ไข ให้รูปโพสต์ได้สักที ตังค์ก็บริจาคไปตั้งหลายครั้งแล้ว
     
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เดินทางไปบ้านเพื่อนที่มาชาด

    เมืองนี้อยู่ค่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิหร่านติดไปทางอัฟกานีสถานแต่ถ้าเดินทางไปด้านบนๆทิศตะวันตกก็จะไปถึงทะเลสาปแคสเปี้ยน ซึ่งทะเลสาปแห่งนี้ เป็นทะเลสาปที่ใหญ่มากดูๆไปคล้ายทะเลเหมือนกันและมีคลื่นเหมือนทะเลจริงๆ..... แต่ดิฉันไม่ได้ไปที่แคสเปี้ยนคะ ไปแค่มาชาด ในอิหร่านแต่คาดว่าถ้าหลังจากได้ทำธุระเสร็จก็จะไปอิหร่านอีก อยากไปอยู่หลายๆเดือน รักประเทศนี้ ลึกลับดี ชอบเขาทีมันมีเป็นชั้นๆสุดลูกหูลูกตาและมีบุคคลสำคัญของโลกมากมายเคยเดินทางมาที่นี้ เช่น โอมา คะยัม มาโคโปโล เจงกีส ข่าน พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช

    บ้านเพื่อนของดิฉันอยู่ในเขต ไนชาเปอร์ เป็นลูกสาวของคหบดีในเมืองนั้น บ้านของเธอหลังใหญ่อยู่ตีนเขาและมีต้นไม้สีเหลืองๆระปรายในฤดูใบไม้ร่วงและอากาศก็เย็นสบายดีไม่ร้อน น่าอยู่มาก ที่อิหร่านมีกฏแปลกๆมากมายไว้ใช้ควบคุมผู้หญิง เช่น ตำรวจฮิยาบ ที่คอยสอดส่องดูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งตัวไม่เรียบร้อยออกจากบ้าน เช่น ฮิยาบมีเครื่องประดับ ผู้หญิงห้ามนุุุ่งกางเกงยีน ตำรวจฮิยาบจะเป็นชายสองคนกับหญิงชราเดินมาหา ผู้หญิงที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย และสั่งให้ พันฮิยาบใหม่เดี๋ยวนั้น


    นอกจากนี้ผู้หญิงก็ห้ามไปซื้อ หนังในร้านขาย หนัง ถ้าอยากดูต้องให้พ่อ พี่ชาย น้องชาย ลูกชาย หรือ สามีไปซื้อ แม้แต่ในงานเลี้ยงก็แยกหญิงชาย ซึ่งงานเลี้ยงจะเป็นเวลาที่ผู้หญิง แต่งตัวมาประชันกันได้เต็มที่ ในงานแต่พอจบงานก็เปลี่ยนชุดกลับบ้าน ส่วนนิศัยของคนอิหร่านนั้น ดีมาก ซื่อ และใจดีมาก ความจริงดิฉันไม่ได้ไปคลุกอะไรกับเรื่องประเพณีวัฒนธรรมนี้เท่าไร โดยมากจะเป็นไปเที่ยว ตามภูเขา ตามสถานที่โบราณต่างๆเสียมากกว่า


    คนอิหร่านนั้นจะไม่ถูกกับคนอาหรับ อันนี้จะไม่ขอพูดถึง เพราะยาวว่าทำไมเขาจึงไม่ถูกกัน ส่วนดิฉันเองก็ไม่ค่อยถูกกับคนอาหรับเช่นกัน และส่วนตัวคิดว่าคนอิหร่านนิสัยดีกว่าคนอาหรับ และมีมารยาทกว่ามากๆ ส่วนอาหรับนั้นจะพูดมากและขี้โกหก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  15. Jaad

    Jaad สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
    ติดตามรออ่านอยู่นะคะ คุณ DuchessFidgette ^^
     
  16. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ผีที่มาชาด

    [​IMG]

    ห้องที่เพื่อนให้ไปนอน เป็นห้องของเล่นเด็ก ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวเพื่อนทุกๆคืนที่ดิฉันไปนอนและปิดไฟแต่ยังไม่ทันหลับดิฉันจะได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้อง ทุกคืนตอนหลังเที่ยงคืน ก็เริ่มกลัวๆก็ไปเล่าให้เจ้าของบ้านเขาฟัง เขาก็บอกว่า อยู่กันมาตั้งนานก็ไม่เคยเจอไร ไม่มีอะไร ไปไปมาๆเลยหาว่าเป็นเพราะเราไม่มีพระเจ้าเลยโดนผีหลอกอีก ดิฉันก็เลยไม่ได้ว่าอะไร ก็นอนต่อกี่คืนๆ ก็มีเสียงคนเดินมาหน้าห้องนอนตลอดมาหยุดที่ประตูและเดินต่อมาที่ข้างเตียง ดิฉันก็เอาผ้าคลุมหัวอย่างเดียวเลยให้หลับ

    ประมาณอาทิตย์ที่สองได้ก็เจอแบบนี้อีก เลยเปิดไฟ เสียงก็หายไป กระทั้งอาทิตย์ที่สาม เพื่อนก็มาบอกว่า ให้ปิดไฟนอน เพราะพ่อกับแม่เธอว่าเอา เปลืองไฟ พอทีนี้ปิดไฟก็มาอีก ดิฉันก็สวดชิณบัญชรไปประมาณสองคืน คืนที่สาม ยังไม่ทันหลับ กำลังเคล้มๆ มากันอย่างหน้าใจหาย เป็นขบวนคน พร้อมดลตรี พาเรตประหลาดๆ ตีเสียงกลองดังมากจนทำเราตกใจหัวซุกหัวซุน..... จำไม่ได้แล้วว่ากี่คนแต่เป็นผู้ชายสองคนสามคนได้ ถือไม้ปลายแหลมใหญ่ยาว ด้านบนมีร่างมนุษผู้ชายโดนทิ่มทะลุออกปาก ตาก็เปิดด้วย กางแขนสองข้าง สั่นร่องแร่งตามเสียงกลองพาเรตดังๆนั้น ชายสองสามคนนั้น หน้าตาเหมือนคนตะวันออกอย่างจีน แต่คนที่โดนทิ่มนั้นหน้าตาคมๆเป็นคนคอร์เคเซี่ยนเหมือนแขกผสมฝรั่ง ชายสองสามคนนั้น หน้าตาเหมือนคนจีน เดินพาเรตถือไม้ปลายแหลมที่เสียบคนจากทวารทะลุปากเดินแห่เข้ามาในห้องที่เรากำลังนอนอยู่และขะเย่าไม้ที่ทิ่มคนนั้นไปมา ร่างด้านบนที่โดนไม้เสียบก็สั่นตาม แขนขาร่องแร่งสยองขวัญมาก จนดิฉันไม่อยากมองและหึดหัดจะลุกขึ้นจากเตียง แต่มันขยับตัวบังคับไม่ได้ ในใจก็สวดมนต์ให้วุ่นไปหมด แต่ในที่สุดก็พยามบังคับดึงร่างกายจนลุกขึ้นมาได้

    พอตอนเช้าดิฉันก็เก็บข้าวของย้ายไปนอนโรงแรมแทน เพื่อนก็ถามว่าทำไม โกรธที่ไม่ให้เปิดไฟตอนกลางคืนเหรอ เราก็บอก เปล่า และเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง เพื่อนก็บอกว่า เป็นเพราะเราไม่สวดมนต์ถึงพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าเลยโดนผีหลอก และก็เล่าให้ฟังว่า ทีเมืองนี้แต่ก่อนเป็นทางผ่านสมัยมองโกล บุกมารุกรานเปอร์เซียก่อนจะต่อไปยุโรปพวกนี้กลายเป็นปีศาจเพราะไม่นับถือศาสนา แต่พวกมองโกลรุ่นหลังในที่สุดก็แต่งงานกับชาวเปอร์เซียไปบ้าง และเปลี่ยนเป็นอิสลาม ก่อนจะย้ายไปตั้งเมือง เป็นอุซเบกีสถานปัจจุบัน ชาวยุโรป และ เปอร์เซียสมัยก่อนเกลียดมองโกลมากเพราะชอบมารุกรานประเทศอื่น พวกนี้ยึดไปไกลถึง กรีกเลยทีเดียว ในอนาคต ดิฉันจะไป อิหร่านฝั่งตะวันตกบ้าง เพราะอยากไปดู อาณาจักรของชาว อารยัณ และก็อยากไป ปากีสถานด้วย....

    เมือง ชิทรอลว์ หรือ เขต นูรีสถาน ได้ขึ้นชื่อฉายาจากคนในปากีสถานว่า หมู่บ้านลูกสาวสวย เป็นอีกเมืองที่ นักท่องเที่ยวจะไป ถ่ายรูป คนในหมู่บ้านกลางเขา คือ จุประสงค์ของทัวร์ ไป นูรีสถาน หลักๆ คือ ไปดู ลูกสาวหมูบ้านชาวอารยัณ นี้อย่างเดียวเลย เพราะเชื่อ ว่าชนเผ่านี้ใน ปากีสถานเผ่า นี้เป็นชาวอารยัณ และแต่ละคนจะเป็นคนปากีสถานที่ผมทอง และมีตาสีแปลกๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • mashshad.JPG
      mashshad.JPG
      ขนาดไฟล์:
      102.2 KB
      เปิดดู:
      5,532
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2013
  17. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องสถานที่ลึกลับกับความเชื่อแปลกๆแถบ อิรัก อิหร่าน และ ปากีสถานซึ่ง บริเวณพื้นที่เหล่านี้คือ อู่ อารยะธรรม ซึ่งมีเรื่องผีเรื่องลึกลับมากมายอยู่เหือนกัน เผื่อถ้าใครในนี้อยากไปจะได้ไกด์ไลน์ว่าควรจะไป พิสูจน์เรื่องราวตื่นเต้นลึกลับที่ไหนได้บ้าง
     
  18. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อาหารจานโปรดของฉันคือ...

    [​IMG]


    ดิฉันชอบอาหารตุรกีประยุกค์คะ เพราะมันอร่อยดี รสผสมกันลงตัวระหว่าง อาหารฝรั่ง
    ที่หอมออกหวานมันๆกินได้ไม่เบื่อ ผสมกับกลิ่นพริกแกงแบบแขก และความจัดจ้านแบบอินเดียสุรินัมเม่ซึ่งคล้ายไทย
    วันนี้ไปซื้อแกะเนื้อดีมาจากร้านขายของชำของชาวเติร์ก ดิฉันเคยมีเพื่อนชาวตุรกีที่เรียนทำอาหารนานาชาติ
    สอนให้เล็กน้อยเพราะเธอเคยทำให้ดิฉันกินมาก่อน ก็เลยรู้วิธีว่าทำยังไง เป็นโรตีแกงแกะที่อร่อยมากๆ ส่วนผสมก็มีดังนี้

    1.) เนื้อแกะ ส่วนขาติดมันเล็กน้อย ครึ่งโลก็พอ กินได้สองวัน

    2.) พริกสุรินัม หนึ่งลูก สีเหลือง สีแดง หรือ สีส้มก็ได้ พริกสุรินัมเม่ มีชื่อรู้จักกันเป็นทางการว่า มาดาม ไชนีส
    เป็นพริกที่มีรูปทรงมันจะกลมๆเหมือนฟักทองผี และมีสีสันสวยงามหลากสีมีกลิ่นหอมต่างจากพริกขี้หนูเมืองไทย
    และเผ็ดกว่ามากๆ ประมาณ ที่เค้าไว้ใส่ในแกงทางปักษ์ใต้ หรือมลายู- อินโด แต่กลิ่นหอมใส่อาหารแล้วรู้สึกดีบอกไม่ถูก

    3.) น้ำมันพืช หนึ่งช้อนโต๊ะ

    4.) น้้ำเปล่าสามแก้ว

    5.) หัวหอมสับละเอียดหนึ่งถ้วย

    6.) แครอท หันหนึ่งหัว จะใส่หรอไม่ใส่ก็ได้

    7.) มาจี้ หรือผงหมักเนื้อสัตว์ให้มีรสชาติ หรือ ใส่ คะนอร์ก็ได้เหมือนกัน

    8.) พริกแกง มาซาล่า สีเหลืองแบบเผ็ด

    9.) น้ำกระทิครึ่งถ้วยกาแฟเล็ก

    10.) แผ่นโรตีตุรกีชนิดนุ่ม

    11.) คาดามามผง หรือเม็ดก็ได้


    วิธีก็ทำตามรูปถ่าย 1-20




    [​IMG]





    1.) เอาเนื้อแกะล้างน้ำเย็นแล้วคลุกกับผงคาดามาม หรือที่เรียกยี่หร่า กับเกลือ
    และมะนามนิดหน่อยสักสองสามนาทีหันสไลด์เนื้อแกะไม่ต้องบางมาก เสร็จแล้วเอาหอมซอยลง
    ไปพัดกับน้ำมันในหม้อจนพอเหลืองก็เอาเนื้อแกะลงผัดในหม้อ ใส่มาจี้หรือผงหมักเนื้อสัตว์ลงไป
    ที่ดิฉันใช้จะเป็นผงหมักรสสเต็ก


    2.) หั่นพริกสุรินัมใส่ชิ้นบางๆสักสองชิ้นก็พอให้หอมไม่งั้นเผ็ดเกิน ลงผัดกับเนื้อแกะและหัวหอม
    ที พัดไปสักสิบนาที เต็มน้ำสองแก้วลงหม้อและใส่ กะทิลงไปครึ่งถ้วย ตามด้วย พริกแกง มาสซาล่า

    3.) เสร็จแล้วใส่ ยี่หร่าหรือ คาดามาม ลงไป นิดหน่อย และใส่ แครอท ลงไป เคี้ยวยี่สิบนาทีจน
    น้ำเหือดก็เต็มใหม่อีกสองถ้วย

    4.) เปิดไฟเตาให้อ่อน ตั้งทิ้งไว้งั้น คอยมาดูเต็มถ้าน้ำแห้ง อย่าทิ้งไปนานแกะมันเนื้อนุ่มกว่าเนื้อ
    วัวเยอะ และ ต้มไม่นาน ประมาณ ครึ่งชั่วโมงหลังก็กินได้
    แล้ว

    5.) ระหว่างรอจะปิดไฟเตาก็เอาแผ่นโรตีใส่เตาอบ แค่นาทีสองนาทีให้ร้อนก็พอไม่งั้น มันจะ
    แข็งเกิน เราจะกินแบบนุ่ม พอเสร็จเอาโลตีออก ตักแกงแกะใส่เข้าไป แล้วม้วนโลตีแบบสี
    เหลี่ยมจัตุรัสยาวๆ แล้วก็กินได้




    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • food.jpg
      food.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      5,894
    • goreme.JPG
      goreme.JPG
      ขนาดไฟล์:
      124.4 KB
      เปิดดู:
      6,280
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2013
  19. Jaad

    Jaad สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
    คุณ DuchessFidgette คะ คนอินเดีย อิรัก อิหร่าน บังกลาเทศ ปากีสถาน เขาว่าคนประเทศแถบนี้ตัวเหม็น เพราะกินเครื่องเทศเยอะ จริงไหมคะ
     
  20. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301



    Edit - ที่เจอมา ก็เป็นบางคนคะเหมือนกะไทยนี้แหละคะ บางคนก็เหม็นบางคนก็ไม่เหม็น ตั้งแต่ที่เจอมา ตลอดสามปี เจอที่เหม็น แค่สองคนเองคะ เป็นผู้ชายตุรกี กะ อีกคนผู้หญิงแขกทางยุโรปตะวันออกใต้น่าจะซูเรีย ที่อ้วนนะคะ หุ่นแบบบึบๆ อ้วนก็เหม็น แต่ถ้าคนผอมธรรมดาไม่เหม็นคะ และสวยโครตๆ เคยเจออินเดียหน้าประมาณ ญาญ่า อุริสยา สเปอร์บัน แต่สวยกว่า และขาว ผิวกระๆ หน้าคมชัดกว่า ตาแบ๋วๆเเหมือนตุ๊กตา และแต่งตัวน่ารักมากๆ การแต่งตัวพวกนี้แม้พวกไม่โพกหัวก็จะออกเจ้าหญิงๆ เป็นเสื้อแขนตุ๊กตา ทำผมลูกจัน ที่มวยผมมี คล้ายๆเข็มหมุดหลายๆอัน ที่หัวเข็มมี ดอกไม้เล็กๆ ปักอยู่ที่มวยผม เข็มหมุดเล็กๆจะมีหลายอันมาก ปักตามข้อเปราะ ผมเปียที่เขาม้วนเอาไว้เป็นมวยผม คือ ทำผมเว้อร์เหมือนเจ้าสาวมากแม้จะมาแค่โรงเรียน แต่แต่งตัวเหมือนไปงานแต่งงาน สวยมากเลย และนุ่งกระโปรงบานๆรองเท้าส้นสูง พวกนี้สวยจริงๆ

    ยิ่งโมร็อกคัน ตุรกี สาระพัดประเทศ ไม่มีตัวอย่างจะยกให้เห็นคะ แต่รู้ว่าสวยละเมียดมากๆ ขาวๆ ตัวเล็กๆ จมูกเล็ก ปากเล็ก ใส่ชุดเหมือนนาง ภิกษุณี ประจำวิหารเทพกรีกในหนัง.... ประมาณจอร์เจี้ยน

    แต่ส่วนตัวชอบแบบผิวแทน หน้าเรียบๆ ตาสีๆแปลกๆ ทางอินเดียราชาสถาน






    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • t.JPG
      t.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.9 KB
      เปิดดู:
      2,882
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...