##พระกริ่งปวเรศเจ้าสัว จ่อซัว 座山.......พระกริ่งที่เป็นตำนานไปแล้ว##หมดเเล้ว

ต้นเเบบ พระกริ่งอรหัง วัดราชาธิวาส ที่อัญเชิญ พิมพ์เป็นต้นเเบบพระกริ่งปวเรศจ่อซัวในครั้งนี้


พระพักษ์ออกไปทางหน้าจีนเเละตาเป็นตั๊กเเตนโตเหมือนพระโบราณริ้วรอยเเห่งจีวรบางพริ้วพอเป็นรอยให้เห็นเนื่องด้วยพระองค์ต้นเเบบหล่อด้วยดินไทยการติดรายละเอียดถือว่าทำได้ยากยิ่งเเละพระองค์นี้ถือได้ว่าสวยงามในบรรดาพระทั้งหมดที่เทในครั้งนั้นเรียกว่าโบราณถูกใจผมก็เเล้วกัน


มีบัวคู่หลังเป็นเอกลักษณ์ของพระกริ่งปวเรศ

ก่อนที่โอกาสอันดีจะผ่านไปผมเองได้รวบรวมเงินซื้อพระเกศโบราณตั้งเเต่สมัยเชียงเเสน กำเเพงเพชร อยุธยา รัตนโกสินทร์ เเละ รัชกาล รวมมากกว่า16พระเกศ เเละได้ไปขอความเมตตา พระมหาเถระมิอาจเอ่ยนามท่านเป็นศิษย์ของสมเด็จพระสังฆราชแพเเละเจ้าคุณศรีสนธิ์ กรุณามอบชนวนปากจอกของก้านชนวนพระกริ่งพรหมมุนีเเละของเจ้าคุณศรีหนักเกือบครึ่งกิโล พร้อมกันนี้ยังได้ชนวนสัมฤทธิ์ปี2482ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เเละ เงินพดด้วงสมัยอยุธยาเเละสมัย ร1-2-3 รวมทั้งเงินรางที่เจ้าคุณศรีสนธิ์เสกเอาไว้อย่างดี

อีกทั้งได้ชิ้นส่วนฐานพระสมัยสุโขทัยของพระครูวิมลคุณากร หลวงพ่อศุข วัดมะขามเม่าที่ตกทอดมาอย่างชัดเจนที่สุด พร้อมด้วยชนวนตะกั่วสนิมเเดงเมืองกาญจนบุรี เหล็กยอดพระธาตุ ยอดฉัตรต่างๆ รวมทั้งของโบราณล้ำค่าอื่นๆ
มาในกาลครั้งนี้ผมเองได้ออกเงินนับเเสนบาทเพื่อหล่อพระกริ่งสำคัญเป็นพุทธบูชา ด้วยเงินตัวเองไม่ได้เงินกองกลาง หล่อพระชุดนี้ไว้เป็นที่ระลึกหล่อเททองทีละองค์ที่บ้านคนวังหน้า มี พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อยเป็นประธาน


ใครสนใจติดต่อสอบถามรายะเอียดล่วงหน้าได้ที่0819299151
<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->ถ้าต้องการบูชาวัตถุมงคล
กรุณาโอนเข้าบัญชี ทันตแพทย์หญิง นัทธมน วัฒนอรุณวงศ์
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์
สาขาย่อยเซ็นทรัลรามอินทรา.
ชื่อบัญชี นัทธมน วัฒนอรุณวงศ์
เลขที่บัญชี 292-211102-8<!-- google_ad_section_end -->

ปล.ไม่เน้นเพื่อจำหน่ายให้หมดหรือจะออกขายเพราะพระชุดนี้ตั้งใจจะเก็บไว้ในอนาคตเพราะมวลสารล้ำค่าจริงๆเเค่ค่ามวลสารก้อนับหลายเเสนบาทเเล้ว<!-- google_ad_section_end -->

 

ชนวนการหล่อพระครั้งที่จะหล่อวันพ่อปีนี้ประกอบด้วย
1 ปากจอกส่วนสุดท้ายของชนวนพระกริ่งพรหมมุนีของสมเด็จพระสังฆราชแพ
2 ชนวนพระกริ่งชินราชอินโดจีน
3 ชนวนพระกริ่งชินบัญชร
4 ชนวนพระกริ่งยอดฟ้ายอดยิ่งยศ
5 ชนวนพระกริ่งนรรัตน
6 ชนวนพระกริ่งมหาสุรสิงหนาท
7 ชนวนพระกริ่งพุทธสโร
8 ชนวนพระกริ่งชินะปุตโต
9 ชนวนพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรือง
10ชนวนของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
11ชนวนยอดพระเกศพระพุทธรูปโบราณ 16 เกศ
12ชนวนสัมฤทธิ์พันปีลพบุรี
13ชนวนสัมฤทธิ์พันปีบ้านเชียง
14จ้าวน้ำเงินอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา
15ชินยอดเสาวัดพระพุทธบาท
16ชินตะกั่วสนิมเเดง กาญจนบุรี
17ชินกรุเก่าลพบุรี
18เงินรัชกาลที่ห้าหลังตราเเผ่นดิน
19เงินพดด้วงสมัยอยุธยาเเละรัตนโกสินทร์ 1-2-3
20เงินราง พดด้วง ของเจ้าคุณสรีสนธิ์
21ชนวนหล่อพระหลวงพ่อทวด วัดดีหลวง ชนวนหล่อพระหลวงพ่อทวด วัดเเค ชนวนหล่อพระพุทธของวัดธาตุน้อย
22เเผ่นจารพระยันต์108 ตามตำราของสมเด็จพระสังฆราชแพ เเละพระยันต์สาย หลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อเขาอ้อ เเละอีกหลายสาย<!-- google_ad_section_end -->

 

หากใครประสงค์อยากจะได้

ติดต่อ0819299151
ข้อกำหนด
1.เป็นผู้มีจิตศรัทธาเเละประสงค์อยากจะนำพระไปห้อยห้ามไปเก็บ
2.ผู้ประสงค์จะต้องนำเงินพดด้วยสมัยอยุธยาหรือรัตนโกสินธิ์มาด้วย1 เม็ดเเละต้องของเเท้
3.นำปัจจัยมาให้ครบจำนวนก่อนหล่อพระวันที่5ธันวาคม
มีให้ทำบุญ108องค์ ผู้ทำบุญ30000บาทมอบพระให้เป็นที่ระลึก
1องค์ คนเเสดงความจำนงพร้อมโอนเงินก่อนวันหล่อ
5ธันวาคมเท่านั้นเงินทุกบาทไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆเเม้เพียงบาท
เดียวถวายสร้างเมรุให้วัดเชิงท่า ลพบุรี


จะบริจาคอย่างเดียวโดยไม่รับพระก็ได้นะครับติดต่อสอบถามรายละเอียดที่

0819299151

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->ถ้าต้องการบูชาวัตถุมงคล
กรุณาโอนเข้าบัญชี ทันตแพทย์หญิง นัทมน วัฒนอรุณวงศ์
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์
สาขาย่อยเซ็นทรัลรามอินทรา.
ชื่อบัญชี นัทธมน วัฒนอรุณวงศ์
เลขที่บัญชี 292-211102-8<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->

 

เปิดใจผู้สร้างพระกริ่งเนื้อชั้นครู
ในบรรดาพระกริ่งที่สร้างมาทั้งหมดทุกครั้งผมทำการเททองหล่อที่วัดทั้งหมดทุกครั้งมาครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งเเรกที่จะหล่อที่บ้าน คนวังหน้า ซึ่งมีพระประธานมหาจักรพรรดิ์เเละรูปหล่อหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่พร้อมด้วยเสาหลักเมืองจากที่ต่างๆที่รวบรวมมาเป็นสื่อเเห่งพลังงานจนพ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อยกล่าวว่า รูปเหมือนเเละตัวท่านจะอยู่ที่บ้านหลวงพ่อทวดหลังนี้

นับได้ว่าสถานที่เเห่งนี้มีความสำคัญเป็นอันมากเเละเป็นที่ส่วนตัวเเละส่วนบุคคลเป็นครั้งเเรกที่หล่อพระภายในบ้านเเละเป็นการเททองในวันพ่อโดยพ่อในอดีตชาติคือ พ่อท่านหวาน เเละพ่อปัจจุบัน ของผมร่วมเททองพร้อมกันเเละบุญอันเกิดจากการหล่อพระพุทธเเม้เพียงองค์เล็กเเต่อานิสงค์ไม่เล็กตามไปด้วยเป็นบุญใหญ่ สะอาดบริสุทธิ์ เเละการเททองนี้พ่อท่านหวาน เททองเดี่ยวไม่ต้องให้ใครมาช่วยเดี่ยวเลย พ่อท่านหวานบอกเองว่าตัวท่านหนะอยู่นานเท่าไรก็ไม่รู้ บอกให้ศิษย์รู้เป็นในๆ

ใครจะไปรู้หลังจากอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เเละ อาจารย์นอง วัดทรายขาว
มรณภาพจากไป วงการพระเครื่องต่างกล่าวขานถึงพระเกจิอาจารย์ต่างๆ
ว่าต่างเป็นสายตรงหลวงพ่อทวด เเต่หารู้ไม่ว่า มีพระมหาเถราจารย์รูปหนึ่งที่เป็นพระสหธรรมิกสนิทสนมกับอาจารย์ทิมเเละเป็นศิษย์พี่ที่อาจารย์นองรักเหมือนพี่ในสายเลือด นั่นคือ พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย นั่นเอง<!-- google_ad_section_end -->

 

คำว่า”เจ้าสัว”หรือภาษาจีนเรียกว่า”จ่อซัว”หมายถึงผู้มีทรัพย์ผู้อุปถัมภ์หนุนนำวาสนาบารมี ความเจริญรุ่งเรือง มั่งมีศรีสุข ตามหลักฮวงจุ้ยจีน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547เป็นต้นไป ฮวงจุ้ยโลกจะเข้าสู่ยุคที่8 เป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งในยุคที่ 8นี้ ตามหลักศาสตร์แล้วจะเป็นยุคของความเจริญรุ่งเรืองในแถบเอเชีย ตั้งแต่ประเทศจีนลงมาเป็นลักษณะของมังกรพาดผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านไทยลงไปจนจรดทวีปออสเตรเลีย แต่เภทภัยที่มากับยุคที่8 คือเรื่องโรคระบาดและภัยธรรมชาติ ดังจะเห็นว่าเกิดโรคไข้หวัดนก หวัดซาร์ แผ่นดินไหว น้ำท่วม และภัยธรรมชาติต่างๆ เป็นเครื่องบอกเหตุตำแหน่ง”จ่อซัว” คือตำแหน่งของพลังที่เกื้อหนุนในทุกๆด้าน เป็นตำแหน่งแห่งโชคลาภ ความร่ำรวย

ดังนั้น จึงนำความหมายคำว่า”เจ้าสัวหรือจ่อสัว” มาตั้งชื่อเพื่อความเป็น ศิริมงคลแก่ผู้ที่มีไว้บูชา

เป็นที่รู้กันว่า เจ้าสัว หมายถึงคหบดี หรือคนที่มั่งมี แต่คำนี้เดิมจะใช้ในรูป เจ๊สัว ครับ

ในสมัยกรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๑-๒-๓ เท่าที่เห็นตามหนังสือเก่าๆ และในจดหมายเหตุเห็นเรียกกันว่า ‘เจ๊สัว’ ทั้งนั้น แม้แต่ในพระราชพงศาวดาร รัชกาลที่ ๔ ฉบับของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) ท่านก็เรียกว่า ‘เจ๊สัว’

ทราบอยู่อย่างหนึ่งว่า บรรดาเจ๊สัวหลายต่อหลายคนนั้น ก่อนจะร่ำรวยมั่งคั่งจนเรียกกันว่า ‘เจ๊สัว’ นั้น ก่อนหน้านี้เรียกกันว่า ‘จีน’ แล้วตามด้วยชื่อ เช่น จีนกุน จีนเรือง จีนสอน เมื่อมั่งคั่งเป็นเศรษฐีแล้วจึงเรียกกันว่า ‘เจ๊สัว’ หรือ ‘แจ๊สัว’ ตามถนัดปาก

น่าจะราวสมัยรัชกาลที่ ๔-๕ นี้เองที่ เจ๊สัว ค่อยเลือนหายไปและ เจ้าสัว ถูกใช้แทนที่

เป็นที่รู้กันว่า เจ้าสัว หมายถึงคหบดี แต่คำนี้เดิมจะใช้ในรูป เจ๊สัว ครับ

น่าจะราวสมัยรัชกาลที่ ๕ นี้เองที่เจ๊สัวค่อยเลือนหายไปและเจ้าสัวถูกใช้แทนที่

คำว่า เจ๊สัว หรือ เจ้าสัว นี้มาจากภาษาจีนสำเนียงแต้จิ๋วว่า จ่อซัว (座山 - จีนกลางว่า จว้อซาน)

จ๋อ 座 เป็นคำเดียวกับที่แปลว่าที่นั่ง แต่ในที่นี้ในความหมายว่า เป็นปึกแผ่นมั่นคง
ซัว 山 แปลว่าภูเขา
รวมความ จ่อซัว (เสียงจ๋อกลายเป็นจ่อเมื่อตามหลังด้วยเสียงสามัญตามหลักการออกเสียงจีนแต้จิ๋ว) แปลได้ว่าขุนเขาอันมั่นคง หมายถึงคหบดีนั่นเอง

 

ภาพพระกริ่งปวเรศองค์จริงของวัดบวรนิเวศ



สมเด็จพุฒโฆษาจารย์ พุฒ วัดสุวรรณาราม ศิษย์องค์สำคัญของสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัสนเทพวราราม

ท่านได้มรณภาพไปเมื่อไม่นานนี้ ผมเองมีวาสนาได้รับมอบชิ้นอัฐิของสมเด็จท่านไว้บูชาประจำตระกูล มากาลสำคัญครั้งนี้ผมเองคิดว่าบรรจุอัฐิท่านใต้ฐานพระกริ่งปวเรศเจ้าสัวรุ่นนี้จึงจะเหมาะเเละควรคู่เเละนับเป็นมหามงคลอันหาที่เปรียบมิได้จริงๆ

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=text1 vAlign=top align=left height=20>"เหรียญนี้ พอจับปุ๊บ จิตจะตั้งมั่นที่กลางอกทันทีโดยไม่ต้องกำหนดใดๆทั้งสิ้น ในจิตจะบอกเลยว่า เจ้าของเหรียญนี้มีอายุมาก พลังเหมือนเหรียญพระคณาจารย์ยุคเก่า ที่จะมีกระแสแรงสั่นสะเทือนของพลังแผ่ซ่านนำหน้าออกมาก่อนเลย คล้ายๆกับหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคก็ไม่ปาน"
"พลังที่เสกเหรียญนี้ มีวิชชาประกอบกับธาตุรู้แบบพระสายวัดป่ากำกับอีกชั้นหนึ่ง แต่ผู้เสกใช้จิตตานุภาพมากกว่าวิชชา"
และ
"ผู้เสกมีวาสนาบารมีสูงมากและมี Dignity(อำนาจราชศักดิ์)สูงมากๆด้วย พลังทางด้านมหาบารมีมหาอำนาจจึงแรงกล้ามากๆ โดยความแรงของจิตตานุภาพนั้น ใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับพลังที่ปรากฏอยู่ในพระบางรุ่นของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร หรือพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอำนาจจิตที่ทรงฤทธานุภาพยิ่งเลยทีเดียว..!!!!!!"
หน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โยคะ" <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>DSC06144(2).gif </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD class=text1>"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) </TD></TR></TBODY></TABLE>ในยุคนี้ ยังมีพระระดับสมเด็จพระราชาคณะที่ทรงภูมิจิตภูมิธรรมสูงใกล้เคียงกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชถึงเพียงนี้อยู่อีกหรือนี่..?!?!" <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>DSC06146.gif </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=text1 vAlign=top align=left height=20>สมเด็จพระสังฆราชแพเคยรับสั่งเป็นเชิงพยากรณ์กับฉันสมัยที่ยังเป็นมหาพุฒว่า ต่อไปฉันจะได้เป็นพระผู้ใหญ่ของวงการคณะสงฆ์ จะมารับใช้พระองค์อย่างไรได้ ต่อไป ฉันไม่ต้องไปรับใช้พระองค์ท่านอีกแล้ว จนเมื่อเหตุการณ์มาถึงตอนที่ฉันเป็นสมเด็จนี่ แล้วย้อนนึกไปถึงวันเก่าๆแล้วคิดทบทวนดู ก็ทำให้ได้รู้ว่า อันสมเด็จพระสังฆราชแพนั้น ท่านทรงญาณวิเศษล่วงรู้อนาคตได้แจ่มแจ้งจริงๆ...."

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ สุวัฑฒนมหาเถระ) วัดสุวรรณาราม กรุงเทพมหานคร <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>Picture-060616153013720(2).jpg </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD class=text1>"เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT) </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สาธุ สาธุ สาธุ โมทนาผลบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยครับ

 

ตอนนี้พระกริ่งปวเรศรุ่นเจ้าสัวต้นเเบบกำลังดำเนินการอยู่นะครับวันอังคารจะได้ชมภาพกันนะครับ พระกริ่งรุ่นนี้ไม่ว่าจะการสร้างพระกริ่งครั้งไหนคงขาดมวลสารสำคัญอย่างยอดเกศยอดฉัตรเเละยอดเจดีย์ไม่ได้

 

สุดยอดอีกแล้วครับพี่หมอ

 

เงินพดด้วงที่ผมเพิ่งซื้อมาเมื่อสองวันก่อน




















พดด้วง เป็นเงินตราของไทยโบราณ ใช้แลกเปลี่ยนหมุนเวียนในประเทศไทยเป็นเวลายาวนาน ประมาณกว่า 600 ปี ตั้งแต่กรุงสุโขทัยอยุธยาจนถึง กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยทำจากแท่งเงินบริสุทธิ์ตามน้ำหนักพิกัดของราคา ทุบปลายทั้งสองข้างให้งอเข้าหากัน มีรูปร่างคล้ายลูกปืนโบราณ ชาวต่างประเทศเรียกเงินชนิดนี้ว่า “Bullet Coin”
ในสมัยสุโขทัย ยังไม่มีการผูกขาดการผลิต เงินพดด้วง จึงมีความหลากหลายในเนื้อเงินที่ใช้ทำ ตลอดจนน้ำหนักและขนาด ต่อมา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ทางการจึงห้ามราษฎรผลิตเงินตราขึ้นเอง เงินพดด้วงจึงได้มาตรฐาน และมีตราประทับ 2 ดวงเป็นสำคัญ คือ ตราประจำแผ่นดินและตราประจำรัชกาล เงินพดด้วงใช้หมุนเวียนอยู่เป็นระยะเวลายาวนาน จนถึงในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) การค้าเฟื่องฟู การผลิตเงินพดด้วงด้วยแรงงานคน ไม่สามารถจะผลิตได้ทันความต้องการ ด้วยความจำเป็นต้องรีบผลิตเงินตราจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สั่งเครื่องทำเหรียญกษาปณ์เข้ามา แต่ก็ยังให้ใช้เงินพดด้วงต่อไป จนมีการประกาศยกเลิก วันที่ 20 ตุลาคมพ.ศ. 2447 และให้ใช้เหรียญกษาปณ์กลมแบนตามแบบของยุโรปเป็นเงินตราของประเทศไทย
<!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 1/1000000Post-expand include size: 0/2048000 bytesTemplate argument size: 0/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwikicache:idhash:155222-0!1!0!!th!4 and timestamp 20101102053831 -->
<!-- /bodytext --><!-- catlinks -->

 

เงินพดด้วงที่จะลงไปหลอมเเต่ละองค์องค์ละ1เม็ด
ใครเอาพดด้วงมาเองก็มาหล่อด้วยตนเองเลยครับ
รุ่นนี้จะหล่อให้สมเป็นพระกริ่งเจ้าสัว เป็นพระกริ่งรุ่นประวัติศาสตร์
ไม่มีพระยุคนี้ที่หล่อทีละองค์ดินไทยเเล้วยังใช้เงินพดด้วงสมัยอยุธยาอันเก่าเเก่มาหล่ออย่างนี้เเล้วละครับหายากเเล้วละครับ

 

จะนำภาพเมรุเก่าที่รื้อทิ้งไปแล้วเเละภาพใบอนุญาติจากวัดเชิงท่า ให้ดำเนินการสร้างพระกริ่งเจ้าสัวในครั้งนี้ จากเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า

ภาพเมรุเก่า สมัยหลวงพ่อถม วัดเชิงท่า สร้างเมื่อปี2508โดยประมาณ




รื้อเมรุเก่าที่ชำรุดตั้งเเต่ฐานถึงปล้องควันซึ่งเสียหายจากอยุที่นานมากๆ







เดินสำรวจบริเวณรอบๆเมรุทั้งหมด



เจ้าอาวาสฝากบอกว่าวันลอยกระทงปีนี้วางศิลาฤกษ์เมรุ



ดวงทองคำปรากฏคล้ายๆกับดวงทองคำเดิมที่ปรากฏใกล้กับตัวองค์หลวงพ่อถม วัดเชิงท่า
ซึ่งไม่เเน่ใจหรือเป็นเหตุบังเอิญสุดคาดจะเดาหรือไม่เเน่อาจจะเป็นวิญญาณอันเป็นทิพย์สภาวะของพระเดชพระคุณหลวงพ่อถมจากเบื้องบนลงมาอนุโมทนาในบุญการสร้างเมรุใหม่ครั้งนี้

 

ภาพแบบก่อสร้างเมรุ วัดเชิงท่า มาให้ชม ครับ

 

ตอนนี้มีคนเเสดงตวามจำนงเข้ามาเรื่อยๆเนื่องด้วยประการต่างๆดังนี้
ประการเเรก พระกริ่งเจ้าสัวรุ่นนี้มีมวลสารสืบชนวนพระกริ่งรุ่นเก่าที่สำคัญเเละหายากหลายรุ่น
ประการที่สอง พระกริ่งรุ่นนี้ทำก้นด้วยเเผ่นทองคำเเท้ๆ
ประการที่สาม ผู้ทำบุญพระกริ่งชุดนี้จะได้รับการจารึกชื่อบริเวณเมรุที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำความดีเป็นสาธารณประโยชน์ในครั้งนี้

 

ก้านชนวนหนึ่งในสามก้านสุดท้ายของรวมชนวนพระกริ่งสมัยสมเด็จพระสังฆราชแพล้วนๆของอาจารย์หนู นิรันดร์ เเดงวิจิตร
มอบให้ผมในฐานะศิษย์คนสุดท้ายเพื่อสืบชนวนสร้างพระกริ่งต่อจากตัวท่าน ท่านเองบอกว่าเธอมาช้าไปไม่งั้นได้ไปมากกว่านี้

อาจารย์หนู นิรันดร์ เเดงวิจิตร ท่านเป็นอดีตพระครูในฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราชแพ เเละ เป็นช่างเเต่งพระกริ่งชั้นครู
ท่านบอกไว้ว่าสมัยสมเด็จพระสังฆราชแพท่านต้องนำเงิดพดด้วงผสมไปเสมอๆเเละยังมีเคล็ดอีกหลายอย่างที่ท่านบอกให้ผมทราบ



ชนวนพระกริ่งปวเรศ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2530 ผมเองได้รับมอบจากช่าง ขุน นายช่างหล่อพระกริ่งที่สืบทอดวิชชาจากคุณตาซึ่งเป็นนายช่างหล่อที่หล่อพระกริ่งเเละบาตรน้ำมนต์ให้สมเด็จพระสังฆราชแพ




ชนวนพระกริ่งของเจ้าคุณศรีสนธิ์ ที่ได้รับมอบจากหลานชายเเท้ๆของเจ้าคุณศรีสนธิ์ ซึ่งท่านหวงมากกว่าจะได้มา ต้องพยายามไปๆมาๆหลายสิบรอบกว่าจะได้ชนวนสุดหวงของท่า เพราะนี่คือของจริงๆไม่ใช่นวนิยายเเต่งเพื่อขายของ ตัวจริงสายตรงเจ้าคุณศรี




เงินรางโบราณที่เหลือจากการหล่อพระกริ่งหน้าไทย 2482เนื้อเหลืองของสมเด็จพระสังฆราชแพที่อยู่กับตัวเจ้าคุณศรีสนธิ์ ทั้งเป่า เสก ลงสารพัดเเบบสุดๆก่อนจะละสังขารจากโลกนี้ไป เงินรางประวัติศาสตร์นี้ต้องบอกว่าโชคดีที่ตกทอดมาสู่พระรุ่นนี้อย่างอัศจรรย์

ตัวจริงเสียงจริง










ชนวนพระกริ่งอรหัง วัดราชาธิวาส 2493 ของดั้งเดิมที่หาได้ยากยิ่ง ซึ่งผสมจากชิ้นส่วนพระสมัยสุโขทัยกำเเพงเพชร จำนวนมากเเละเสกโดย พระอาจารย์สิงห์ หลวงปู่เทศน์ วัดหินหมากเป้ง


เงินพดด้วง สมัยอยุธยาของเจ้าคุณศรีสนธิ์ที่เหลือจากการหล่อพระกริ่งสมัยสมเด็จพระสังฆราชแพ ซึ่งเงินนี้จะตอกตราสัญลักษณ์มงคลต่างๆเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นตราช้าง ตราต่างๆที่เป็นมงคล เงินพดด้วงนี้เป็นของล้ำค่าที่หลานเจ้าคุณศรีสนธิ์หวงเเละมอบให้ผมเก็บรักษาเอาไว้ซึ่งบอกได้เลยว่าครั้งนี้พิเศษจริงๆไม่ธรรมดาเลยละครับ





ปากจองชนวนพระกริ่งพรหมมุนีซึ่งตกทอดมาสู่หลานเจ้าคุณศรีสนธิ์เเละมอบให้ผมด้วยความเมตตาเก็บไว้เป็นส่วนตัวนำมาหล่อพระกริ่งเจ้าสัวในครั้งนี้







ชินเงินหัวเสาของวัดพระพุทธบาทสระบุรีสมัยพระเจ้าทรงธรรม อยุธยา ซึ่งชินเงินนี้เองกล่าวกันว่าหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ได้นำไปเป็นมวลสารหลักในการทำเเผ่นตะกรุดโสฬส อันลือลั่นที่หาคนรู้น้อยที่สุด

เพราะนี่คือของสูงที่เคียงคู่พระพุทธบาทมายาวนานหลายร้อยปี ซึ่งชินก้อนนี้ได้ตกทอดถึงคนข้างวัดเเละได้นำมามอบให้ผมเพื่อสร้างพระประวัติศาสตร์ให้สมกับพระรุ่นเจ้าสัวจริงๆ

 

ภาพบรรยากาศในวัดเชิงท่า

 

สุดยอด เยี่ยมยอด มากครับพี่หมอ

เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมส่งชนวนแบบยอดๆไปให้ครับ