พระตำรับและอิทธิฤทธิ์ของว่าน

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 18 ตุลาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    กำเนิดว่าน



    [​IMG]
    ต้นพญาว่าน ​


    ว่านเป็นพืชที่เกิดขึ้นโดยวิวัฒนาการตามธรรมชาติเช่นเดียวกับบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ฉะนั้นจึงไม่สามารถสืบสาวราวเรื่องได้ว่า ว่านชนิดใดเกิดตั้งแต่เมื่อใด เท่าที่ปรากฏในตำราสมุดข่อย ซึ่งได้เป็นมรดกตกทอดกันต่อ ๆ มา ตั้งหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น ปรากฏดังนี้


    พระตำหรับว่าน


    สิทธิการิยะ ยังมีฤาษี ๔ องค์ในแผ่นดินนี้ มีฤทธาอานุภาพยิ่งกว่าบรรดาโยคีฤาษีทั้งปวง ทั้ง ๔ องค์นี้มีนามว่า กะวัตฤาษีองค์หนึ่ง กะวัตพันฤาษีองค์หนึ่ง สัพรัตถนาถฤาษีองหนึ่ง จังตังกะปิละฤาษีอีกองค์หนึ่ง พระฤาษี ๒ องค์ใน ๔ องค์นี้ ได้ให้ธาตุทั้ง ๔ ตั้งอยู่เป็นอธิบดีแก่บรรดาสรรพสิ่งทั้งปวง ส่วนท่านฤาษีองค์ที่ ๔ คือท่านจังตังกะปิละนั้นได้ตั้งบรรดากบิลว่านต่าง ๆ ขึ้นไว้สำหรับท้าวพระยาทั้งปวงอันรู้จักคุณพระรัตนตรัย คือพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสงฆ-รัตนะ ทั้งยังรู้จักอดกลั้นต่อบรรดาอกุศลกรรมทั้งหลายอีกด้วย เพื่อสำหรับท้าวพระยาและสมณชีพราหมณ์ทั้งปวง จนได้รู้จักสรรพคุณและสารประโยชน์จากว่านต่าง ๆ เหล่านั้น ไปช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บและช่วยปกป้องผองภยันตรายทุกข์ภัยนา ๆ ประการแก่ผู้เฒ่าผู้แก่แลคนทั้งปวงทั่วกัน”

    ตามที่กล่าวนี้แสดงว่า ได้เคยมีการรวบรวมบรรดาว่านต่าง ๆ เข้าเป็นหมวดหมู่ สำหรับสั่งสอนประชาชนต่อ ๆ มาให้รู้จักถึงชนิดว่าน ลักษณะและสรรพคุณ หรือประโยชน์ของว่านมาแล้วในอดีต ทั้งแสดงว่าการกระทำอย่างนี้ได้กระทำในสมัยเมื่อพระพุทธศาสนาได้เกิดมีแล้ว คือไม่นานเกินกว่า ๒๕๐๐ ปีมานี้เองอย่างแน่นอน

    โดยปรกติพระฤาษีหรือท่านผู้ทรงวิทยาคุณขลังต่าง ๆ ย่อมพำนักอาศัยอยู่ตามป่าสูงหรือในถ้ำตามภูเขา ฉะนั้นบรรดาชาวป่าชาวดอยที่มีถิ่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จึงพลอยได้รับความรู้ในเรื่องว่านยาจากท่านเหล่านั้นเอง และคงรักษาความรู้ ไว้ด้วยการบอกเล่าสืบทอดต่อมาจนทุกวันนี้ การนับถือิทธิฤทธิ์ของว่านจึงยังคงมีแพร่หลายอยู่ในหมู่ชนชาวป่าชาวดอยเหล่า นั้นตลอด
    มาจนบัดนี้ ได้แก่พวกกะเหรี่ยง, ละว้า, ข่า, ขมุ, ยาง, แม้ว, เย้า, ชอง, ต้องสู้, เขมร และลาวที่อยู่นอก ๆ เขตชุมนุมชนออกไป ถึงในเมืองไทยเราตามแถวชาวชนบทชั้นนอก ๆ ก็ยังคงมีผู้เลื่อมใสเชื่อถือในอภินิหารของว่านอยู่อีกไม่น้อยเหมือนกัน

    [​IMG]
    ว่านจั๊กจั่น ​
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    อิทธิฤทธิ์ของว่าน

    ว่านต่าง ๆ มีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยไปกว่าเวทย์มนต์พระคาถาเหมือนกัน โดยสามารถป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ได้ เช่นอยู่ยงคงกระพันชาตรี (คือใช้ของมีคมเช่นมีดฟันถูกร่างกายแล้วไม่เข้าเป็นบาดแผลตามปรกติทั่ว ๆ ไป อย่างมากเป็นเพียงรอยขีดบนผิวหนังเล็ก ๆ มีเลือดออกซิบ ๆ หรือบวมนูนเพราะรอยถูกฟันอย่างแรงให้แลเห็นเท่านั้น หรือใช้ปืนยิงมาก็ทำให้ยิงไม่ดัง ไม่มีลูกปืนออกมาถูกตัว หรือถ้ามีเสียงหรือมีลูกปืนออกมา ก็แคล้วคลาดไม่กระทบถูกร่างกายส่วนหนึ่งส่วนใด หรือถ้าหากกระทบถูกต้องร่างกายก็ไม่มีบาดแผลปรากฏแก่ร่างกาย นอกจากแก่เสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นรอยถูกกระสุนไหม้เกรียมหรือเป็นรูขาดเเท่า นั้น) เมื่อกินว่านเข้าไปแล้วทำให้มีกำลังวังชาเกิดขึ้นมากมาย มีใจฮึกเหิมไม่หวาดกลัวต่อบรรดาสาตราวุธทั้งปวงสามารถต่อสู้เอาชนะคนหมู่มาก ที่ลุมล้
    อมอยู่ได้ ว่านบางชนิดทำให้คนปกติดี ๆ ที่ไปถูกเข้าถึงกับเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาไปก็มี บางชนิดมีพิษถึงกับทำให้ถึงกับตายได้ก็มี บางชนิดเกิดทำให้เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมแก่ผู้มีว่านชนิดนั้นติดตัว ว่านบางชนิดทำให้เกิดเป็นเสนียดจัญไรได้ เช่น ว่านดอกทอง บางชนิดใช้เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ เช่นว่านน้ำและว่านหางจรเข้ ว่านบางชนิดสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ลอยพุ่ง เป็นดวงในเวลากลางคืน นำเอาดวงหน้าคนปลูกไปแสดงด้วย เที่ยวเพ่นพ่านดังภูตผีปีศาจ เช่นว่านกระสือเป็นต้น ทั้ง ๆ ที่ว่านมีฤทธิ์ดังกล่าวมาแล้วต่าง ๆ ก็ยังคงมีผู้สนใจศึกษาในเรื่องราวของว่านน้อยมาก ทั้งนี้เป็นเพราะขาดการเชื่อถือ และไม่มีผู้รู้ที่สามารถชี้ชัดลงไปว่า ว่านชนิดใดมีรูปร่างลักษณะอย่างใดแน่ ขาดทั้งตัวอย่างสำหรับนักศึกษาพอจะศึกษาตามหลักเกณฑ์ทางแผนปัจจุบัน ยิ่งในทางสรรพคุณและอิทธิฤทธิ์ของว่านด้วยแล้ว ยิ่งหาผู้ทรงวิทยาคุณชี้ชัดว่าว่านอย่างนี้มีสรรพคุณทางยาอย่างใด มีอิทธิฤทธิ์อย่างใดให้แน่นอนยากมาก เพราะขาดผู้ชำนาญที่เคยใช้ทดลองหรือเคยพบเคยเห็น ส่วนมากมักพูดว่าเคยพบจากตำราหรือท่านว่าแต่อย่างเดียว

    ทั้ง ๆ ที่บรรดาว่านต่าง ๆ ได้ถูกท่านโบราณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทางคาถาอาคมขลังได้รวบรวมบรรดาหัวว่านสำคัญต่างๆ ตั้ง ๓๐๘ อย่าง ทำเป็นผงผสมกับเกษรไม้หอม เช่น พิกุล บุนนาค มะลิ บัวทั้ง ๕ ประกอบด้วยผงวิเศษต่าง ๆ มีผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงตรีนิสิงเห, ผงมหาราช, ผงมหานิยม, ผง ณ หน้าท้อง, ผงอิติปิโส ๑๐๘, ผงคัมภีร์, กาฝากมะนาว, กาฝากพุต, ไคลโบสถ์, ไคลเสมา, ชานหมากและของอื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่าง โดยนำมาบดให้ละเอียดระคนรวมกันผสมน้ำมันตังอิ้วปั้นเป็นแท่ง ทำแม่พิมพ์ประทับเป็นองค์พิมพ์รูปต่าง ๆ เมื่อแห้งสนิทแล้วจึงนำเข้าพิธีพุทธาภิเศกพร้อมด้วยพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยา คุณมากรูปทำพิธีปลุกเศกคาถากำกับให้พระพิมพ์เหล่านั้นมีอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ ในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีบ้าง เป็นเมตตามหานิยมบ้าง เรียกกันว่าพระเครื่องเป็นต้น และที่พระเครื่องทรงความศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็ด้วยอภินิหารของว่านบรรดาลช่วยเหลือเกื้อกูล พร้อมทั้งคาถาอาคมที่ประกอบเป็น ๒ แรงด้วยกัน

    อิทธิฤทธิ์ของว่านนั้นจะมีคงที่ตลอดไปได้มักเป็นว่านที่ได้ปลูกติดต่อเป็นมรดกตกทอดมาจากบ รรพบุรุษเป็นเวลานานหลายชั่วอายุคนมาแล้วโดยมาก เพราะผู้ปลูกเหล่านั้นทราบเคล็ดลับของการทำให้ว่านคงทรงอิทธิฤทธิ์อยู่โดยมิ เสื่อมคลาย ส่วนว่านที่ขึ้นเองตามป่าเขาโดยธรรมชาตินั้นมักไม่ใคร่มีอิทธิฤทธิ์ ทั้ง ๆ เป็นว่านชนิดเดียวกันอย่างเดียวกัน ในการนี้ถึงแม้จะได้นำเอาว่านมาปลูก ถ้ามิได้ระมัดระวัง โดยปล่อยให้ว่านขึ้นและโรยราไปเองตามธรรมชาติหรือปล่อยให้ว่านคงอยู่ในดิน ตลอดระยะเวลาจนกว่าจะถึงฤดูฝนมาใหม่ ว่านก็จะผลิแตกต้นอีก แต่อิทธิฤทธิ์ของว่านนั้นจะจืดจางเสื่อมลงไปทุกที นาน ๆ หลายฝนเข้าก็หมดฤทธิ์ไปเอง ทั้งนี้เป็นเพราะธาตุสาร(ปรอท) ในตัวว่านลืมต้น คือหนีออกไปจากต้นในขณะเมื่อว่านโทรมในฤดูแล้ง ถ้าหากได้กู้ว่านขึ้นจากดินภายในเดือน ๑๒ วันอังคารหรือภายในเดือนอ้ายไม่เกินข้างขึ้นอ่อน ๆ วันพุธเสียก่อนแล้ว คืออย่าให้ว่านคงอยู่ในดินเลยพ้นถึงฤดูนกกาเหว่าหรือนกยูงร้องหาคู่จึงจะไม่ เสีย ถ้าปล่อยให้หัวว่านคงอยู่เลยฤดูนี้ไป ว่านนั้น ๆ ก็จะเสื่อมอานุภาพลงไปเรื่อย ๆ


    [​IMG]
    ว่านจั๊กจั่น
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    พิธี การกู้ หรือเก็บเอาว่านขึ้นเก็บไว้

    1) ให้เลือกเอาวันอังคารวันใดวันหนึ่งในเดือน ๑๒ หรือไม่เกินวันพุธข้างขึ้นอ่อน ๆ ของเดือนอ้าย เป็นวันขุดเอาหัวว่านขึ้น

    2) เวลาจะขุดว่าน ให้ใช้มือตบดินตรงใกล้กอว่านหรือต้นว่านนั้นแล้วว่าคาถาเรียกว่านไปตบดินไป สลับกัน จนกว่าคาถาใช้เรียกว่านจะจบลง จึงขุดเอาหัวว่านขึ้นมา

    3) คาถาสำหรับเรียกว่านมีดังนี้”อมขุก ๆ กูจะปลุกพญาว่านให้ลุกก็ลุก กูจะปลูกพญาว่านให้ตื่นก็ตื่น พญาว่านหนีไปอื่นให้แล่นมาหากูนี่เน้อ มาฮอดแล้วพันเฝ้าตื่น อม มะ สะ หะ หับคงทน”

    4) ในการขุดเอาว่านขึ้นใช้หัวเพื่อนำไปทำอะไรหรือติดตัวไปไหนด้วย หรือจะขุดเพื่อเก็บว่านเอาไว้เพราะมีมากเกินไป ก็ต้องใช้คาถาเรียกว่านกำกับเวลาขุดขึ้นทุกคราวไป ว่านนั้น ๆ จึงจะทรงอิทธิฤทธิ์คงที่อยู่เสมอไม่เสื่อมคลายลงเลย


    [​IMG]
    ว่านจั๊กจั่น
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ฤกษ์ในการขุดหรือปลูกว่าน

    การขุดหรือปลูกว่านให้คงมีอิทธิฤทธิ์โดยไม่เสื่อมคลายนั้น ท่านมีวันกำหนดให้ทำการใน

    เดือนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

    เดือนอ้ายหรือเดือน ๑ ใช้วันพุธ

    เดือนยี่หรือเดือน ๒ กับเดือน ๗ ใช้วันพฤหัสบดี

    เดือน ๓ กับเดือน ๘ ใช้วันศุกร์

    เดือน ๔ เดือน ๙ กับเดือน ๑๑ ใช้วันเสาร์

    เดือน ๕ กับเดือน ๑๐ ใช้วันอาทิตย์

    เดือน ๖ กับเดือน ๑๒ ใช้วันอังคาร

    ตามตำราโดยมากมักปลูกในเดือนวันอังคาร และขุดในเดือน ๑๒ วันอังคาร เหมือนกันอย่างนี้เกือบทุกเล่ม ทั้งนี้เพราะเดือน ๖ วันอังคาร เป็นฤดูฝนเหมาะแก่การปลูก และเดือน ๑๒ เหมาะแก่การขุดเอาขึ้น เพราะเป็นสมัยน้ำจะลงมาท่วมบรรดาพืชที่ปลูกกับพื้นดินนั่นเอง ส่วนวันอังคารทั้ง ๒ เดือนนั้น ก็เพราะเป็นเกณฑ์ฤกษ์ดีของเดือน ทั้งสองน้ำตกในวันอังคาร

    เคล็ดลับของการขุดว่าน เพื่อให้ต้นว่านขลังเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์คือ ในขณะที่ยกต้นว่านขึ้นจากดินที่ปลูกอยู่เดิมเมื่อขุดออกได้แล้ว ให้ร้องว่า ขะโมย…ขะโมย…ขะโขย ๓ ครั้ง ดังนี้แล้ว จึงนำว่านนั้นไปปลูกตามพิธีการปลูกว่านแต่ละชนิดให้ถูกต้องต่อไป เมื่อทำได้ดังนี้ ต้นว่านนั้นจะคงความขลังความศักดิ์สิทธิ์ตามอิทธิฤทธิ์ที่มีโดยมิเสื่อมคลาย

    [​IMG]
    ว่านจั๊กจั่น
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    วิธีปลูกว่าน

    เพราะว่านเป็นกายสิทธิ์มีคุณฤทธิ์โดยเฉพาะตัวของว่านเอง ฉะนั้นการปลูกจึงต้องมีพิธีรี-ตรองมากกว่าการปลูกพืชธรรมดาทั่วไป เช่นในการปลูกว่านจะต้องหาวันฤกษ์ดีของเดือนที่จะปลูก เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้ปลูกเองกับเป็นการเพิ่มคุณฤทธิ์ให้แก่ว่านไปด้วยใน ตัว โดยมากมักปลูกกันในวันอังคาร เดือน ๖ เพราะเป็นหน้าฝนเหมาะแก่การปลูกพืชชนิดนี้มากกว่าเดือนอื่น ดินที่ใช้ปลูกว่านต้องเป็นดินสะอาดปราศจากวัตถุพวกมูลสัตว์ต่าง ๆ เจือปน และเป็นดินบริเวณกลางแจ้งไม่มีอะไรบัง ควรร่อนเอาแต่ส่วนละเอียด ๆ ไปใช้ ดินมี ๒ สี คือดำกับแดง

    1. เป็นดินร่วน

    2. เป็นดินปนทราย

    3. เป็นดินเผาไฟแล้วทุบให้ละเอียด ทิ้งตากน้ำค้างไว้คืนหนึ่ง

    4. เป็นอิฐเผาไฟแล้วทุบให้ละเอียด

    5. หญ้าแห้งสับเป็นท่อน ๆ ขนาดครึ่งนิ้ว สำหรับผสมปนกับดินหรือดินปนทราย

    เวลาเอาหัวว่านลงแล้ว เวลากลบดินอย่ากลบให้ดินแน่นเกินไปนัก เพื่อน้ำที่รดจะได้ซึม

    ได้ ง่าย หากกดดินแน่นหัวว่านเกินไป น้ำซึมได้ช้า ทำให้หัวว่านชุ่มน้ำเกินไปอาจเน่าเสียโดยง่าย และส่วนมากควรเหลือหัวว่านให้โผล่พ้นดินสักนิดหน่อยเพื่อสะดวกในการแตกต้น ขึ้นใหม่


    [​IMG]
    ว่านจั๊กจั่น
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    คาถาในการรดน้ำว่านเมื่อปลูกแล้ว

    ว่านสำคัญ ๆ ที่มีคุณฤทธิ์มาก จำเป็นต้องเศกคาถากำกับในเวลาก่อนรดน้ำ คาถามีต่าง ๆ กันดังนี้

    ๑. “อิติปิโสภควา อรหังสัมมาสัมพุทโธ วิชาจรณสัมปันโน สุขโต โลกวิทู อนุตตโร ปุ-ริสสธัมมสารถี สัตถา เทว มนุสสานัง พุทโธ ภควาติ” ว่าจบ ๑ บ้าง ๓ จบบ้าง ๗ จบบ้าง แล้วจึงรดน้ำ

    ๒. “สัพเพเตโรคา สัพเพเตภะยา สัพเพเตอันตรายา สัพเพเตอุปัททวา สัพเพเตนิมิตา อวมังคลาวินาสสันตุ” เสก ๙ จบ แล้วจึงรดน้ำ

    ๓. “มหาลาโภ โหตุ ภวันตุเม” ๓ จบจึงรดน้ำ

    ๔. “นโมพุทธายะ” จบหนึ่งบ้าง ๓ จบบ้าง ๗ จบบ้าง และตามกำลังวันคือวันอาทิตย์ ๑ จบ ถึง เสาร์ ๗ จบบ้าง จึงรดน้ำ

    ในการปลูกว่านลงกระถาง ควรเอาออกตั้งไว้ในที่แจ้งเพื่อรับแสงแดดในตอนเช้าและตอนบ่าย ส่วนตอนกลางวันแดดจัดมาก ควรทำร่มบังแดดให้ เพราะการปลูกในกระถางนั้นดินไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้มากเหมือนอย่างพื้นดิน ซึ่งรากของว่านอาจสามารถซอกซอนดูดน้ำตามพื้นดินมาบำรุงลำต้นให้ชุ่มชื้นกัน ความร้อนของแดดได้

    อนึ่ง ขณะที่เริ่มปลูกใหม่ ๆ ควรระมัดระวังในเรื่องแสงแดด อย่าให้ถูกจัดนัก และเรื่องดินอย่ากดให้แน่นเกินไป น้ำอย่ารดให้ชุ่มโชกโชน เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการเล่นว่านมากเหลือเกิน ถ้าผู้ปลูกไม่เอาใจใส่ทนุถนอมว่านมักเน่าจากรากและหัวหรือเกิดเหี่ยวแห้งเฉา ตายเป็นส่วนมาก

    เพื่อให้ว่านสำคัญ ๆ ที่ปลูก เกิดผลศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นในอิทธิฤทธิ์แน่นอนสมเจตจำนงหรือตำราที่กล่าวไว้ควรใช้แผ่น ทองแดงลงยันต์ด้วยอิติปิโสแปดทิศ ซึ่งเข้าพิธีปลุกเศกอย่างดีแล้ว พร้อมด้วยสิ่งอาถรรภ์อันเป็นมงคลหรือผงศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ตามสมควรมาฝังไว้โคนต้นว่านที่ปลูกไว้นั้น

    ในขณะจะทำการขุดว่าน ควรเอาน้ำมนต์ที่เสกด้วยสัพพาสีแปดจบ พรมให้ทั่วต้นว่าน และบริเวณโคนต้นโดยรอบเสียก่อนแล้วจึงขุด ก็จะเพิ่มอิทธิฤทธิ์แก่ว่านนั้น ๆ ยิ่งขึ้น

    ประเภทของว่านอยู่คงกระพันชาตรี
    ว่านสบู่นั่งแท่น ว่านสบู่นางใย ว่านประกายเหล็ก ว่านสามพันตึง ว่านหนุมาน ว่านอาหนัง ว่านเพชรหลีก ว่านเกราะเพชรพระยา ว่านเพชรน้อย ว่านสบู่หยวก ว่านสบู่สัน ว่านสบู่หนังแห้ง ว่านสบู่หมึก ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านขันหมาก ว่านพญากา ว่านพญากระบือ ว่านคงคา ว่านหนุมาน ว่านเพชรกลับ ว่านตัวไหม ว่านกำแพงเจ็ดชั้น ว่านคีบ ว่านพระเจ้าห้าพระองค์ ว่านพระฉิม ว่านสากเหล็ก ว่านหญ้า ณ รังษี ว่านคางคก ว่านพญาแร้งคอดำ ว่านพญาหัวเสือ ว่านพญาดาบหัก ว่านกระทู้ ว่านกระท่อมเลือด ว่านขมิ้นอ้อย ว่านกำแพงขาว ว่านนิลปัตร์ ว่านมหาเมฆ ว่านแสงอาทิตย์

    ประเภทว่านเมตตามหานิยม
    มี ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว ว่านเสน่ห์จันทร์เขียว ว่านแสงทอง ว่านหญ้า ณ รังษี ว่านพญาหมอก ว่านนางมาคะวะดี

    ประเภทว่านแก้พิษร้าย แก้อาถรรพณ์
    จ่าว่าน ว่านกำบัง ว่านอึ่ง ว่านจากงจืด หรือว่านรางจืด ว่านเพชรหึง ว่านเพชรหลีก ว่าน นารายณ์ ว่านนางกวัก ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านคงคา ว่านพญางู ว่านนางคำ ว่านกระจายหางดอก ว่านกำแพงเจ็ดชั้น ว่านงาช้าง ว่านคีบหรือว่านพญาปลิง ว่านเศรษฐีเรื่อนนอก ว่านขอทอง ว่านพระตะปะ ว่านพระอาทิตย์ ว่านม้า ว่านข่า (แก้คุณผี และยาเบื่อ) ว่านพญานก ว่านพญาเสือ ว่านสะดุ้ง ว่านมเหศวร ว่านผักปรัง ว่านโรหิณี ว่านล้อมทั่วมฤคีห้าร้อย ว่านปลาไหลเหลือง ว่านแสงจันทร์ ว่านปลาไหลม่วง ว่านปลาไหลขาว ว่านงูเห่า ว่านนางคุ้มภัย

    ประเภทว่านล้างอาถรรพณ์ของขลัง
    ว่านพญาอังกุลี ว่านนาดลดา ว่านสมอ ว่านพญาแร้งแค้น ว่านเชือกเขามูกหลวง ว่านเบี้ยโหรา ว่านพญาริดตีนปู ว่านพญากลอย

    ประเภทว่านรักษาโรค
    ว่านคันพระมาลาม่วง ว่านเด็นเหลือง ว่านกระบรูเลือด ว่านสิงหะโมรา ว่านชักมดลูก ว่านงาช้าง ว่านจั๊กจั่น ว่านปลาไหลใหญ่ ว่านเช้าค่ำ ว่านมหาประสาน ว่านขมิ้นอ้อยหรือพญาว่าน ว่านกลอยจืด ว่านกำแพงขาว

    ประเภทว่านอัปมงคล
    ว่านผีโพง ว่านผีปอบ ว่านผีกระสือ จะลอยได้ในตอนกลางคืน
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านมงคลต่างๆ

    ว่าน ไม้ประดับนามมงคล
    " ว่าน" คำที่ใช้เรียกนำหน้าชื่อต้นไม้โดยเฉพาะต้นไม้ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร และไม้ประดับบางชนิด ว่านหลายชนิดถูกเรียกว่า "ว่าน" จนติดปากและเป็นที่รู้จักกันมาแต่โบราณ จากการสืบค้นพบว่ามีการกล่าวถึงว่านในหนังสือตำรายาไทยชื่อ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ รวบรวมโดย พระยาพิศประสาทเวช ในปี พ.ศ. 2452 และ หนังสือชื่อ แพทย์ตำบล เล่ม1 รวบรวมจัดพิมพ์โดย พระยาแพทย์พงศา วิสุธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) ต้นตระกูลสุนทรเวช ในปี พ.ศ.2464 หนังสือทั้งสองเล่มกล่าวถึงว่าน 5 ชนิดเท่านั้นคือ ว่านกีบแรด ว่านนางคำ ว่านหางช้าง ว่านน้ำ ว่านเปราะ หลังจากปี พ.ศ. 2464 เป็นต้นมา ว่านจึงเริ่มเป็นที่แพร่หลาย มีตำราที่กล่าวถึงลักษณะว่าน ตำราที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับว่าน ใน ปี พ.ศ. 2476 หลวงประพัฒน์สรรพากร รวบรวมหนังสือชื่อ ตำรากระบิลว่าน จนเป็นที่ยอมรับในหมู่นักเล่นว่านและนับว่าเป็นตำราที่ให้ความรู้เรื่อง ว่านอย่างสมบูรณ์ที่สุด แม้ราชบัณฑิตสถานยังยอมรับและใช้เป็นหนังสืออ้างอิงในการชำระพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตสถาน โดยนิยามไว้ว่า "ว่าน คือพืชที่มีหัวบ้าง ที่ไม่มีหัวบ้าง ใช้เป็นยาบ้าง ใช้อยู่ยงคงกระพันบ้าง" เห็นได้ว่าความหมายตามพจนานุกรม ว่านคือพืชที่มีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้ บางชนิดปลูกเพื่อใช้เป็นยาสมุนไพร เป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันอันตราย พิษสัตว์กัดต่อย ยาเบื่อเมา ยาสั่ง ยาเสพติด สามารถดับพิษร้ายให้หายได้ ว่านแต่ละชนิดมีคุณานุภาพบันดาลให้เกิดผล เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา มีคนเคารพนับถือ มีความเชื่อกันว่าการปลูกเลี้ยงว่าน ถ้าทำให้ถูกต้องตามพิธีการ ให้ความสำคัญว่าว่านเป็นของศักสิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ ก็ต้องมีพิธีมากกว่าการปลูกเลี้ยงธรรมดา เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปลูกเลี้ยงและเป็นการเพิ่มฤทธิ์ธานุภาพ ให้แก่ว่าน เช่น เวลารดน้ำต้องเศกคาถากำกับเป็นบทเป็นตอนต่างกันไป สามจบ เจ็ดจบหรือตามอายุของผู้ปลูกเลี้ยงแล้วแต่ชนิดของว่าน การขุดก็ต้องทำในวัน เดือน ต่างๆ กัน ทั้งข้างขึ้น ข้างแรม เช่น การขุดเก็บว่านมักเลือกวันอังคาร วันใดวันหนึ่งในดือนสิบสองหรือไม่เกินวันพุธข้างขึ้นของเดือนอ้าย เวลาขุดใช้มือตบดินใกล้กอว่านหรือต้นว่าน แล้วเศกคาถาเรียกว่านไปตบดินไปจนจบคาถา จึงคอยขุดนำหัวว่านขึ้นมา นับจาก พ.ศ. 2484 ความนิยมว่านก็ค่อยๆ ห่างหายไป จนกระทั่ง พ.ศ. 2500 ความนิยมว่านให้ความสำคัญกับว่านกลับมาอีกครั้งหนึ่ง มีการรวบรวมจัดพิมพ์หนังสือว่านขึ้นมาอีกหลายฉบับ โดยเฉพาะหนังสือ ว่านกับคุณลักษณะ รวบรวมโดย นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ จัดพิมพ์จัดจำหน่ายในนามของ สมาคมพฤกษศาสตร์แห่งประเทศไทย เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมจากนักเล่นว่านมาก ปัจจุบันผู้ที่ให้ความสนใจว่านไม่เพียงชื่นชอบเหมือนผู้เลี้ยงว่านในสมัย ก่อนเท่านั้น แต่ยังให้ความสนใจในเรื่องต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในด้านอื่นๆ หลายรูปแบบ รวมทั้งการสนใจว่านในเชิงพฤกษาศาสตร์ ซึ่งมีการจัดแบ่งว่านได้ถึง 34 วงศ์ (Family) 512 สกุล (Genus) และ กว่า 1700 พันธุ์ (Species) มีทั้งว่านที่ให้ประโยชน์ทางยาสมุนไพรรักษาโรค ว่านที่มีชื่อเป็นมงคลนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ซึ่งมีความเชื่อว่าว่านเหล่านี้เมื่อปลูกเลี้ยงแล้วจะส่งผลให้ทำมาค้าขึ้น นำโชคลาภวาสนา มาสู่ผู้ปลูกเลี้ยง เช่นว่านที่เว็บไซท์ ๑๐๘ พรรณไม้ไทย นำเสนอนี้เป็นเพียงบางส่วนของว่านที่เป็นมงคลนาม มีความสวยงาม และเป็นที่นิยมของผู้ปลูกเลี้ยงทั่วไป
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    วงศ์พลับพลึง

    วงศ์พลับพลึง
    AMARYLLIDACEAE




    [​IMG]
    กวักแม่ทองใบ

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Hymenocallis spp.
    วงศ์ AMARYLLIDACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -

    ลักษณะ ทั่วไป ว่านกวักแม่ทองใบ เป็นว่านที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีลักษณะกลมคล้ายหอมหัวใหญ่ ผิวนอกของหัวมีสีเขียวอ่อน เนื้อในหัวสีขาว มองดูเผินๆ จะเหมือนกับต้นพลับพลึง แต่ไม่ใช่เพราะไม่มีลำต้นเหนือดินอย่างพลับพลึง มีก้านใบแตกออกจากหัว โคนของก้านใบเป็นกาบสั้นๆ ก้านใบด้านบนแบนแต่ด้านหลังนูน กลางใบมีร่องสีเขียวเข้ม ใบยาวประมาณ 25-30 ซม. หน้าใบเป็นเส้นอย่างเห็นได้ชัด มีความหนาพอประมาณ แตกใบออกเป็น 2 ข้างสลับกันข้างละใบ เป็นใบรูปหอก ปลายใบมนแหลม โคนค่อยๆ สอบเข้าหาก้านใบ ดอกสีขาว เหมือนดอกพลับพลึง มีเกสรสีเหลือง กลิ่นหอม มีก้านช่อดอกยาว ออกดอกเป็นกลุ่ม กล่มละหลายดอก มีกลีบดอกขนาดเล็กสีขาวโคนกลีบดอกมีผังผืดสีขาวเชื่อมระหว่างกลีบดอก การปลูก ควรปลูกในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี กลบดินแค่ครึ่งหนึ่งของหัวว่าน อย่ากดดินให้แน่นนัก และให้รดน้ำทุกเช้า-เย็น ระวังอย่าให้น้ำขังเพราะจะทำให้หัวว่านเน่าได้

    การขยายพันธุ์ โดยการแยกหัว

    ความ เป็นมงคล เป็นว่านมหานิยม เหมาะที่จะปลูกไว้หน้าบ้านหรือร้านค้าขาย ดูแล้วสวยงาม จึงดึงดูดให้ผู้พบเห็นเกิดความสนใจ เรียกโชคลาภเข้าร้านเข้าบ้านไม่ขาด​

     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่าน''สี่ทิศ'' ไม้มงคลเสริมดวงชะตา

    <TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=770 bgColor=#ffffff align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: justify" vAlign=top>
    มีความเชื่อเกี่ยวกับว่านสี่ทิศว่า ถ้าเลี้ยงว่านสี่ทิศให้ออกดอกพร้อมกันได้ทั้งสี่ดอกหรือสี่ทิศผู้ที่ปลูกเลี้ยงจะมีโชคลาภ และหาก ว่าในช่วงที่ว่านสี่ทิศกำลังออกดอกทั้งสี่ทิศอยู่นั้น ผู้เลี้ยงคิดจะทำอะไรหรือริเริ่มอะไร ก็จะประสบแต่ความสำเร็จสมหวังทุกประการ แต่ถ้าว่านสี่ทิศออกดอกไม่ครบทั้งสี่ดอก หรือออกดอกแค่ 2 หรือ 3 ดอก ก็เชื่อว่าจะไม่เป็นผลดีต่อผู้เลี้ยง เหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดแก่ผู้เลี้ยง

    </TD></TR><TR><TD><HR></TD></TR><TR><TD align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%" align=middle><!-- < 600 -->[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: justify" vAlign=top width="50%">
    ชื่อวิทยาศาสตร์: Hippeastrum johnsonii.

    วงศ์: AMARYLLIDACEAE(วงศ์พลับพลึง)

    ชื่อสามัญ: Wan-See-Til

    ชื่ออื่นๆ: -

    ลักษณะทั่วไป:

    ว่านสี่ทิศเป็นพันธุ์ไม้ในวงศ์พลับพลึง มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดินมีลักษณะคล้ายกับหอมหัวใหญ่ ส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือดินเป็นส่วนของก้านใบ และตัวใบเท่านั้น ลักษณะของใบเป็นสีเขียว รูปหอกยาวเรียว ปลายมน ขอบใบเรียบ ใบกว้างประมาณ 3-5 ซม. และยาวประมาณ 25–30 ซม. ก้านดอกจะแทงสูงขึ้นจากกอ มีความประมาณ 25-30 ซม. ดอกออกตรงปลายก้านดอก มีสีชมพูตรงปลายดอก ดอกแยกออกเป็น 6 กลีบ เมื่อบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 6-8 ซม. และจะทยอยกันบานทีละ 4 ดอก จึงนิยมเรียกกันว่า “ว่านสี่ทิศ”


    การปลูกว่านสี่ทิศ :

    ควรปลูกในดินปนทราย ให้น้ำ และความชื้นปานกลาง ว่านสี่ทิศเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบแสงแดดมาก จึงควรต้องปลูกในที่แจ้ง จึงจะเจริญเติบโตและมีดอกได้ดี

    การขยายพันธุ์ :

    ขยายพันธุ์โดยแยกหน่อ หรือแยกหัวไปปลูกใหม่

    ความเชื่อเกี่ยวกับว่านสี่ทิศ :

    เชื่อกันว่าถ้าเลี้ยงว่านสี่ทิศให้ออกดอกพร้อมกันได้ทั้งสี่ดอกหรือสี่ทิศผู้เลี้ยงจะมีโชคลาภ และหากว่าในช่วงที่ว่านสี่ทิศกำลังออกดอกทั้งสี่อยู่นั้น ผู้เลี้ยงคิดจะทำอะไร ก็จะประสบความสำเร็จทุกประการ แต่ถ้าหากว่า ว่านสี่ทิสออกดอกไม่ครบทั้งสี่ดอก หรือออกดอกแค่ 2 หรือ 3 ดอก ก็จะไม่เป็นผลดีแก่ผู้เลี้ยงเหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดแก่ผู้เลี้ยง​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านนกคุ้ม

    [​IMG]

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Eurycle ambeinensis (Loud)
    วงศ์ AMARYLLIDACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -


    ลักษณะ ทั่วไป ว่านนกคุ้มเป็นว่านที่มีหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะหัวว่านคล้ายหัวว่านกระชายดำ หัวเป็นแง่งกลมๆ ติดกันเป็นพืด ใบแทงขึ้นมาจากหัวใต้ดิน หน้าใบมีลาย คล้ายปีกนก ก้านใบยาวประมาณ 15-20 ซม. ก้านใบแข็ง และมีร่องก้านใบรูปใบค่อนข้างกลม ปลายใบมนแหลมเล็กน้อย โคนใบมนเว้าเข้าหาก้านใบ ซึ่งว่านนี้จะมีความสวยงามอยู่ที่ใบ ดอกมีสีขาวปนม่วงเล็กน้อย ลักษณะของดอกเป็นสามเหลี่ยม


    การปลูก ปลูกในดินร่วนปนทรายหยาบ ควรปลูกในกระถางปากกว้างหรือกระถางปากบานทรงเตี้ยให้กระถางมีขนาดใหญ่พอ สมควร เพื่อให้การเจริญเติบโตและการแตกหน่อของหัวว่านเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และได้ปริมาณมาก ควรรดน้ำให้ชุ่มทั้งเช้าและเย็นทุกวัน แต่อย่ารดให้ถึงกับโชกเกินไปจะทำให้หัวว่านเน่าได้ง่าย ให้จัดวางกระถางว่านไว้ในที่ร่มรำไร อย่าให้โดดแดดจัดจะทำให้ขอบใบไหม้ และอาจเฉาตายได้


    การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

    ความเป็นมงคล เชื่อกันว่าถ้าปลูกว่านนกคุ้มไว้ในบริเวณบ้าน จะให้คุณในทางป้องกันอันตรายต่างๆ โดยเฉพาะป้องกันอัคคีภัยได้เป็นอย่างดี
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านนางล้อม

    [​IMG]

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Anamirta cocculus
    วงศ์ MENISPERMACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -


    ลักษณะ ทั่วไป เป็นว่านที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ในหนึ่งกอจะมีหัวใหญ่อยู่ 1 หัว อยู่ตรงกลางกอ มีหัวเล็กๆ ซึ่งเกิดทีหลังเรียงรายอยู่รอบๆ หัวใหญ่ ลักษณะของหัวเป็นสีเขียว กลมเรียวเป็นมัน ใบแตกตรงส่วนยอดของหัวว่าน ใบคล้ายใบกุยช่ายพื้นใบสีเขียว ใบแคบเล็ก ยาว ขอบใบทั้งสองข้างใบจะเป็นเส้นขนานปลายใบแหลม ผิวและขอบใบเรียบ ไม่มีจัก ไม่มีก้านใบ

    การปลูก ให้ปลูกในดินร่วนปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี และควรปลูกใส่กระถางปากกว้าง ทรงเตี้ย แล้วจัดวางกระถางว่านไว้ในที่ร่มรำไร อย่าให้โดดแดดจัด รดน้ำเฉพาะตอนเช้า เพียงวันละหนึ่งครั้งก็พอ รดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าให้แฉะ เพราะจะทำให้หัวว่านเน่าได้

    การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกหัว

    ความ เป็นมงคล ว่านนางล้อมเป็นว่านมหามงคล ปลูกไว้ในบริเวณบ้าน จะช่วยป้องกันคุ้มครองบ้านเรือนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ได้ ทำให้ครอบครัวมีความอยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากศัตรูหรืออมิตรทั้งหลาย
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านมหาโชค

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ Eucharis spp.
    วงศ์ AMARYLLIDACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -


    ลักษณะ ทั่วไป ว่านมหาโชคมีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ภายในหัวจะเป็นกลีบเรียงตัวซ้อนกันอยู่ คล้ายหัวหอมใหญ่ ส่วนที่โผล่พ้นผิวดินจะเป็นกาบใบ ใบ และดอกเท่านั้น ใบลักษณะคล้ายใบพาย ปลายใบแหลม โคนใบค่อยๆ สอบเข้าหาก้านใบ พื้นใบสีเขียวเป็นมัน มีเส้นเรียงเป็นแถวตามแนวยาวของใบเล็กน้อย ก้านดอกเป็นทรงกรวยยาวประมาณ 30-40 ซม. ตรงปลายก้านแยกออกเป็น 5–7 ก้าน มีดอกสีขาวปลายก้าน มีกลีบเรียงซ้อนๆ กันเป็นทรงกลม 6 กลีบ มีเกสรกลางดอกเป็นสีเหลืองอ่อน และยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย

    การปลูก ควรปลูกในดินปนทราย รดน้ำแต่ปานกลางพอให้ดินชุ่ม และให้ได้รับแสงแดดรำไร

    การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อไปปลูก


    ความ เป็นมงคล เชื่อกันว่าหากเลี้ยงว่านให้เจริญงอกงามดี ผู้เลี้ยงจะมีโชคลาภในทุกๆ ทาง ไม่ว่าจะเป็นวรรณะ พละกำลัง อนามัยที่สมบูรณ์ และความสุข
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านมหาลาภ

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ Phaedranassa spp.
    วงศ์ AMAPYLLIDACAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ ว่านหงสาวดี


    ลักษณะ ทั่วไป ว่านมหาลาภมีลักษณะต้นเหมือนว่านมหาโชค คือลำต้นเป็นหัวใต้ดิน หัวเหมือนหอมหัวใหญ่แต่มีขนาดเล็กกว่า ใบรูปใบพาย แต่ค่อนข้างสั้นและป้อม ปลายใบโค้งมนแหลม โคนใบค่อยๆ สอบเข้าหาก้านใบ พื้นใบเรียบสีเขียวเป็นมัน ก้านใบจะยาวกว่าใบเล็กน้อย ก้านดอกพุ่งตรงขึ้นมาจากกลางลำต้นสูงประมาณ 30-40 ซม. ออกดอกเป็นกลุ่มแล้วทยอยกันบาน ดอกสีแสดปนเหลือง กลีบดอกค้อนข้างเล็กและยาว ปลายกลีบมน เกสรยาวลงสู่พื้นดิน ส่วนปลายเกสรงอนขึ้นเล็กน้อย ช่อดอกหนึ่งๆ มีดอกประมาณ 3–7 ดอก ขึ้นกับความสมบูรณ์ของต้น

    การปลูก ว่านมหาลาภเจริญงอกงามได้ดีในดินร่วนปนทราย และผสมดินลูกรังสีแดงด้วย ควรให้มีการระบายน้ำที่ดี เพราะหากน้ำขังจะทำให้หัวว่านเน่าได้ หากปลูกในกระถางปากกว้างจะเหมาะมาก เพราะใบจะปกคลุมปากกระถางดูสวยงาม เป็นไม้ที่ไม่ชอบแดดจัดนักจึงควรจัดให้ได้รับแสงปานกลาง รดน้ำแต่ตอนเช้า

    การขยายพันธุ์ โดยการแยกต้น

    ความ เป็นมงคล ว่านมหาลาภมีคุณประโยชน์ด้านเมตตามหานิยม ปลูกไว้ย่อมเกิดลาภผลทวีคูณหลายประการ มักปลูกเป็นต้นไม้เสี่ยงทาย หากเจริญงอกงาม ออกดอกดกดี ผู้ปลูกมักจะได้ลาภจากการเสี่ยงโชคเสมอ ในทางกลับกันหากว่าต้นอับเฉาไม่ออกดอกเป็นลางบอกเหตุว่าจะอับโชค เสียทรัพย์ เชื่อกันว่าการปลูกว่านมหาลาภควรปลูกในวันศุกร์ข้างขึ้นจะดีที่สุด
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านรางนาก

    [​IMG]

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Hippeastrum spp.
    วงศ์ AMARYLLEDACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -


    ลักษณะโดยทั่วไป
    ว่านรางนากเป็นหัวกลมคล้ายหอมหัวใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ใบจะงอกจากหัว ลักษณะใบหนาและแข็ง โคนใบจะเป็นกาบในรูปหอก ปลายใบแหลมมน ขอบใบเรียบ ไม่มีจัก ใบสีเขียวเข้ม หน้าใบมีร่องกลางใบเป็นสีขาวลากยาวตลอดใบ โคนใบด้านหลังเป็นสีแดง หรือแดงปนม่วง ดอกลักษณะเดียวกับว่านสี่ทิศ มีสีชมพูแสด โดยก้านดอกจะมีสีเขียวนวลยาวสูงพ้นใบ ดอกเป็นรูปกรวย ปลายดอกแยกออกเป็น 6 กลีบ ช่อหนึ่งจะมีดอก 2–4 ดอก

    การปลูก
    ว่านรางนากชอบดินร่วนปนทราย ควรมีอิฐทุบละเอียดผสมผงถ่าน หรือใบไม้ผุ เวลาปลูกให้หัวว่านโผล่พ้นดินเล็กน้อย รดน้ำปานกลางเช้า–เย็น ควรอยู่ที่แดดร่มรำไร ปลูกในกระถางทรงเตี้ยจะงามยิ่งนัก

    การขยายพันธุ์
    ขยายพันธุ์โดยการใช้หัว

    ความเป็นมงคล
    เชื่อว่าว่านรางนากเป็นว่านเมตตามหานิยม หากปลูกในร้านค้าจะทำให้มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น

     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านไชยมงคล

    [​IMG]

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Crinum spp.
    วงศ์ AMARYLLEDACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ ศรีกันไชย เศรษฐีสอด


    ลักษณะ ทั่วไป เป็นว่านมีหัวเหมือนหอมหัวใหญ่ มีลำต้นซึ่งประกอบด้วยกาบก้านใบเรียวซ้อนกันหลายกานลำต้นสีขาว ใบเหมือนใบพลับพลึง แต่มีขนาดแคบกว่า พื้นใบสีเขียว ปลายใบมักมัดสอดอยู่อีกปลายใบหนึ่งต่อเนื่องกันไป ดอกสีขาวเหมือนดอกพลับพลึง

    การปลูก ควรปลูกด้วยดินร่วนปนทรายชอบน้ำ แต่อย่าให้แฉะ ควรจัดวางกระถางว่านไว้ในที่ร่ม หรือให้ถูกแสงแดดเพียงรำไร รดเช้าเย็น

    การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการใช้หัว

    ความ เป็นมงคล เป็นว่านทรงอำนาจช่วยคุ้มครองป้องกันภัยให้กับผู้ปลูกเลี้ยงจนตลอดบริเวณ บ้านเรือน หัวมีสรรพคุณเป็นยาใช้กินหรือตำพอกแผลถอนพิษแมลงสัตว์กันต่อยได้ดี
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านวงศ์บอน

    วงศ์บอน
    ARACEAE




    [​IMG]

    เสน่ห์จันทน์เขียว

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalomena spp.
    วงศ์ ARACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -

    ลักษณะทั่วไป เป็นว่านที่เกิดจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ลำต้นโผล่ขึ้นมาเหนือดิน มีลักษณะเป็นกอกลม คล้ายต้นบวบมีสีน้ำตาลไหม้ ใบเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนเว้า พื้นใบและก้านใบมีสีเขียว ช่วงใบถี่ ขอบใบเรียบไม่มีหยัก ใบออกตรงส่วนยอดของลำต้น ออกดอกเป็นกลุ่มระหว่างกาบของก้านใบ ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกจำปีตูมมีสีเขียว มีกาบดอกห่อหุ้มเกสรอยู่ และมีลักษณะเป็นแท่ง ว่านเสน่ห์จันทน์เขียวมี 2 ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเกสรจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และอีกชนิดหนึ่งเกสรไม่มีกลิ่นหอม

    การปลูก เสน่ห์จันทน์เขียวเป็นว่านที่ปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่จะเจริญงอกงามได้ดีในดินปนทราย ควรปลูกในที่ร่มหรือที่ร่มรำไร ให้มีแสงแดดส่องได้เพียงเล็กน้อย ถ้าถูกแสงแดดจัดนานจะทำให้ใบไหม้ การให้น้ำควรให้สม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น เพราะว่านเสน่ห์จันทน์เขียว เป็นไม้ที่ต้องการความชื้นสูงพอสมควร

    การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อจากหัวเดิมมาปลูกใหม่

    ความเป็นมงคล เสน่ห์จันทน์เขียวเป็นว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม ปลูกเลี้ยงไว้เพื่ออำนวยโชคลาภและทำให้ผู้เป็นเจ้าของมีเสน่ห์ การพบปะผู้คนก็จะมีแต่คนชอบคนรักในตัวผู้เป็นเจ้าของว่าน และเป็นว่านที่เหมาะที่จะปลูกไว้ตามร้านค้าและบ้านเรือนเพราะจะทำให้มี ลูกค้าหรือแขกบ้านไปมาหาสู่อย่างมิตรอย่างสม่ำเสมอ
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    เสน่ห์จันทน์แดง

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalomena rubescens
    วงศ์ ARACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -


    ลักษณะทั่วไป เป็นว่านที่เกิดจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ลำต้นอยู่เหนือผิวดิน ไม่มีการแตกกิ่งก้านสาขา ลำต้นประกอบด้วยก้านใบหลายๆ ก้าน ก้านใบกลมยาวมีสีเขียวอมแดงหรือสีเขียว หากเลี้ยงได้สมบูรณ์ก้านใบอาจเป็นสีแดงปนดำหรือสีแดงเลือดหมูตลอดทั้งก้าน โดยไม่มีสีเขียว ใบมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ โคนใบมนเว้า ปลายใบแหลม และขอบใบเรียบไม่มีหยัก พื้นใบสีเขียว ว่านเสน่ห์จันทน์แดงออกดอกเป็นกลุ่ม คล้ายดอกจำปีตูม ประกอบไปด้วยกาบดอกห่อหุ้มแท่งเกสรอยู่ภายใน ทั้งดอกและก้านดอกเป็นสีแดง


    การปลูก ควรปลูกในดินร่วนหรือดินปนทราย เป็นว่านที่เจริญเติบโตได้ดีทั้งในที่ร่มและที่มีแสงแดดจัด แต่เป็นว่านที่ชอบน้ำมาก จึงควรรดน้ำสม่ำเสมอทั้งเช้าเย็น


    การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

    ความเป็นมงคล ว่านเสน่ห์จันทน์แดงจะเป็นมงคลในเรื่องของมหานิยม ถ้าปลูกไว้ในบริเวณบ้าน ก็จะเป็นศรีมีเสน่ห์แก่ครอบครัว ผู้ใดจะคิดบุกเข้ามากระทำการร้ายใดๆ ก็จะไม่สำเร็จและจะทำให้ผู้ที่คิดร้ายนั้นกลับมีจิตเมตตาขึ้นมาแทน
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    เสน่ห์จันทน์ขาว

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ Alocasia lindenii
    วงศ์ ARACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ -


    ลักษณะทั่วไป เสน่ห์จันทน์ขาวเป็นว่านที่ลำต้นโผล่ขึ้นมาจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ประกอบไปด้วยกาบใบที่ห่อหุ้มลำต้นอยู่ มีลักษณะคล้ายกับต้นบอน ลำต้นเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นรูปใบโพธิ์ พื้นใบสีเขียวและมีสีขาวประอยู่ทั่วใบ ปลายใบแหลมเรียว โคนใบเว้าเข้าหาก้านใบ และถ้าใบสมบูรณ์ดี เส้นกลางใบก็จะเป็นสีขาว ใบอ่อนแตกตรงส่วนยอดของลำต้น โดยจะมีก้านใบกลมตรงชูขึ้นมาและก้านใบก็จะมีขาวด้วย ดอกสีขาวอมเขียวออกดอกเป็นกลุ่ม ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกจำปีตูม มีกลีบเดียวกลางดอกมีเกสรเป็นรูปแท่ง มีก้านดอกยาวสีขาว


    การปลูก ควรปลูกในดินปนทรายหรือดินที่มีการระบายน้ำได้ดี อย่าให้ถูกแสงแดดจัดอาจทำให้ตายได้ ควรปลูกในที่มีแสงแดดรำไร ว่านเสน่ห์จันทน์ขาวเป็นว่านที่ชอบน้ำมาก จึงควรรดน้ำทุกเช้าและเย็น


    การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ


    ความเป็นมงคล เป็นว่านที่มีอำนาจในทางเสน่ห์ ปลูกขึ้นที่ไหนหรือบ้านใดสามารถเป็นเสน่ห์เรียกคนไปที่นั่นได้ ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าเป็นว่านเชิงเสน่ห์ระหว่างชายและหญิง และถ้านำหัวว่านมาแกะเป็นรูปนางกวักก็จะเป็นเสน่ห์แก่ผู้ที่ทำอาชีพค้าขาย
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    เสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    <DD> </DD><DD>ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalomena
    วงศ์ ARACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ ว่านศรีมหาโพธิ์ </DD><DD>
    ลักษณะทั่วไป เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์มี ลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ก้านใบกลมเรียวสีเขียว บริเวณโคนแผ่ออกเป็นกาบโอบหุ้มลำต้นแบบสลับโดยรอบ ใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบกลมและหยักเว้า เส้นกลางใบและเส้นใบทางด้านบนเป็นร่องลึกสีเขียวอ่อนทางด้านล่างนูนเป็นสัน แผ่นใบหยักเป็นคลื่น ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะนอนขนานกับพื้นดิน ราก ลำต้น ก้านใบ หักดมจะมีกลิ่นหอม ยอดอ่อนแทงออกมาก่อนจะคลี่ใบ มีหน่ออ่อนตามข้างหัว ดอกคล้ายดอกจำปีตูม สีเขียวอ่อน </DD><DD>
    การปลูก ใช้ดินร่วนผสมอิฐเผาไฟทุบละเอียด นำไปตากน้ำค้างหนึ่งคืน เอามาใช้เป็นดินปลูก วางหัวว่านตรงกลางกระถาง โดยปลูกให้หัวโผล่ กดดินพอแน่นรดน้ำพอเปียกชุ่ม วางกระถางในที่ร่มแต่ให้ถูกแดดรำไร เป็นว่านที่ไม่โทรมเหมือนว่านอื่นๆ ที่จะทิ้งใบบางฤดู แต่ว่านนี้จะทรงตัวอยู่ได้ตลอดทั้งปี </DD><DD>
    การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ </DD><DD>
    ความเป็นมงคล ใช้เป็นสิริมงคลในด้านการค้า และเมตตามหานิยม เชื่อกันว่าหากนำหัวว่านมาแกะเป็นรูปพระ แล้วใส่สงในขันสำริด เทน้ำมันจันทน์ลง เสกด้วยคาถา นำน้ำมันมาทาที่หน้าผาก ผู้คนที่พบปะจะนิยมรักใคร่สนิทสนม ต้อนรับขับสู้ เอ็นดูและเมตตา หากนำน้ำมันมาทาตัวจะเกิด นะจังงัง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากอุบัติภัย อันตราย หากนำน้ำมันมาใส่หัวใส่มือ จะสามารถทำกิจการงานใดๆ สำเร็จสมดังมุ่งหมาย </DD>
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ว่านแสงอาทิตย์

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalomena Rubescens Kunth
    วงศ์ ARACEAE
    ชื่อสามัญ -
    ชื่ออื่นๆ ว่านตะกร้อ, ว่านกระทุ่ม (ภาคเหนือ), ว่านแสงไฟ


    ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ล้มลุกที่นำมาจากต่างประเทศ หัวเป็นเหง้าใต้ดิน ขนาดใหญ่ มีการแตกเป็นแง่งได้ เช่นเดียวกับหัวข่า ก้านใบสั้นส่วนใหญ่แผ่ออกเป็นกาบสีแดงโอบหุ้มกันเป็นลำกลมแบน สูง 30-50 ซม. ใบรูปรียาว ขนาดกว้าง 14-20 ซม. ยาว 30-40 ซม. ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบเบี้ยว ขอบใบมีขลิบสีแดงโดยรอบทางด้านบน เส้นกลางใบเป็นร่องสีแดง ขอบของร่องสีขาว เส้นใบนูนออกในลักษณะตั้งฉากกับเส้นกลางใบ แผ่นใบสีเขียว ด้านล่างแผ่นใบอ่อนมีสีแดง ใบแก่จะมีสีแดงเรื่อๆ เส้นกลางใบนูนเป็นสันสีแดงเข้มกว่าแผ่นใบเมื่อถูกไฟหรือแสงอาทิตย์ใบจะห่อ และด้านล่างใบจะมีเงาสะท้อน เป็นว่านที่ไม่โทรมทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อน งามได้ตลอดปี

    การปลูก ควรปลูกในดินร่วนปนทราย เป็นว่านที่ชอบอยู่ในที่ชื้นเย็น และถูกแสงแดดรำไร

    การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ

    ความเป็นมงคล ถือเป็นว่านทางโชคลาภ หากนำหัวว่านพกติดตัวเดินทางไกลจะเป็นอำนาจแก่ตน คุ้มครองอันตรายทั้งปวง ผู้ที่จะนำว่านนี้มาใช้ต้องชำระร่างกายและจิตใจให้สะอาดเสียก่อน คือ ต้องถือศีล 5 หรือศีล 8
     

แชร์หน้านี้

Loading...