พระนางพญาเสน่ห์จันทน์48พระที่ไม่ควรมองข้าม(สะสมไว้)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 28 พฤศจิกายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา
    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="49%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=18>
    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ องค์ต้นแบบ




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG] ประวัติมหาวิทยาลัยนเรศวร

    มหาวิทยาลัยนเรศวร มีสถานภาพที่ได้พัฒนาสืบต่อกันมาหลายขั้นตอน โดยเริ่มต้นจากการเป็น "วิทยาลัย
    วิชาการศึกษาพิษณุโลก" เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2510 ซึ่งวิทยาลัยการศึกษาพิษณุโลกสังกัดกรมการฝึกหัดครูกระทรวง
    ศึกษาธิการ ในขณะนั้นมีคณะวิชาเพียงคณะเดียว คือ คณะศึกษาศาสตร์ ทำหน้าที่ผลิตครูระดับปริญญาตรีหลักสูตรการศึกษา
    บัณฑิตเพียงหลักสูตรเดียว ภายหลังจากการเป็นวิทยาลัยการศึกษาได้ 7 ปี ก็ได้ รับการยกฐานะขึ้นเป็น "มหาวิทยาลัยศรี-
    นครินทรวิโรฒ วิทยาเขตพิษณุโลก" เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2517 โดยมีรองอธิการบดีเป็นผู้บริหารสูงสุด สำหรับหน่วยงาน
    ที่รับผิดชอบด้านการจัดการศึกษานั้นมีสถานภาพเป็นส่วนหนึ่งของ 4 คณะวิชา คือคณะศึกษาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะ
    สังคมศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ โดยมีรองคณบดีคณะต่างๆ เป็นผู้บริหาร (คณบดีอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
    ประสานมิตร) รวมเวลาการเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ 16 ปี จึงได้พระราชาทานนามมหาวิยาลัยแห่งใหม่นี้ว่า
    "มหาวิทยาลัยนเรศวร" โดยได้เปิดสอนสาขาวิชาใหม่ๆ ที่สนองตอบความต้องการของชุมชน ทั้งด้านวิทยาศาตร์และ-
    เทคโลโนยีและด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์



    <HR style="COLOR: orange" align=right width="100%" SIZE=1 hr>[​IMG] ปรัชญามหาวิทยาลัยนเรศวร

    มหาวิทยาลัยนเรศวร มีอุดมการณ์มุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามรอยเบื้องยุคลบาท สมเด็จพระนเรศวร
    มหาราช ผู้พระราชทานความเป็นไท ความสงบ ความผาสุก แก่ปวงชนชาวไทยมาแล้วในอดีต
    มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงมุ่งมั่นที่จะสืบสานสังคมไทยเป็นไทจากอวิชชา โดยค้นคว้าและสะสมองค์
    ความรู้ เพื่อผลิตบัณฑิตให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการและมีคุณธรรมจริยธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีงามในการดำรงชีวิตและ
    สร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสงบสุขและสันติสุขมุ่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี
    เพื่อเป็นมรดกของชาติสืบต่อไป
    มหาวิทยาลัยนเรศวร มีนโยบายหลักที่จะขยายโอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุมจังหวัดในเขตพื้นที่
    ที่ให้บริการภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด วิทยาเขตสารสนเทศพระเยา 6 จังหวัดในเขตภาคเหนือตอนบน และอีก 12 ศูนย์
    บริการในจังหวัดต่างๆ ทั่วไปประเทศ ประกอบด้วยการจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก
    ที่จ. พิษณุโลกจำนวนทั้งสิ้น 132 สาขาวิชา ใน 16 คณะ 2 วิทยาลัย และวิทยาเขตสารสนพะเยา จำนวน 38 สาขาวิชาใน
    6 สำนักวิชา โดยจัดกลุ่มตามศาสตร์วิทยาการของแต่ละสาขาเป็น 3 กลุ่มคือ
    - กลุ่มมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ประกอบด้วย
    คณะมนุษยศาสตร์, คณะสังคมศาสตร์, คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์, คณะนิติศาสตร์,
    คณะศึกษาศาสตร์, วิทยาลัยนานาชาติ
    - กลุ่มวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีประกอบด้วย
    คณะเกษตรศาสตร์ทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, คณะวิศวกรรมศาสตร์, คณะวิทยาศาสตร์,
    คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, วิทยาลัยพลังงานทดแทน
    - กลุ่มวิทยาศาตร์ ประกอบด้วย
    คณะแพทย์ศาสตร์, คณะทันตแพทย์ศาสตร์, คณะเภสัชศาสตร์, คณะพยาบาลศาสตร์, คณะสหเวช-
    ศาสตร์, คณะสาธารณสุขศาสตร์, คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์

    ปัจจุบันมหาวิทยาลัยนเรศวรมีจำนวนนิสิตในทุกสาขาวิชา จำนวน 27,128 คน



    <HR style="COLOR: orange" align=right width="100%" SIZE=1 hr>[​IMG] วัตถุประสงค์

    - เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    - เพื่อจัดสร้างศาลา "เทพรัตน์" กลางสระบัว สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป ภปร. พระพุทธรูปประจำ
    มหาวิทยาลัยนเรศวร และพัฒนาภูมิทัศน์ บริเวณสระให้เป็นสถานที่เพื่อการสันทนาการของบุคคลาการและประชาชน
    - เพื่อก่อตั้งกองทุนบัณฑิตคืนถิ่น " สิรินทร " สำหรับช่วยเหลือนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรที่มาจากถิ่น
    ทุรกันดาร ได้มีโอกาสในการศึกษาที่ดี
    - เพื่อดำเนินกิจกรรมพิเศษทางวิทยาลัย



    <HR style="COLOR: orange" align=right width="100%" SIZE=1 hr>[​IMG] ความเป็นมาของชื่อพระ

    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เป็นพระที่กรมศิลปากรได้ทำการเปิดกรุพระได้จากวัดร้างนอกเมืองสุโขทัย
    เก่า 2 วัดด้วยกัน เมื่อคราวขุดแต่งบูรณะโบราณ สถานเมืองเก่าของจังหวัดสุโขทัย และได้ทำการเปิดกรุที่วัดต้นราวจันทน์
    เป็นวัดแรกเมื่อปี พ.ศ.2506 กับวัดตาเถรขึงหนัง (วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม) เป็นกรุที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2508
    สำหรับการเปิดกรุนั้น ปรากฏว่ามีกลิ่นหอมตลบอบอวลออกมาเป็นกลิ่นหอมที่รัญจวนใจยิ่งนักกลิ่นหอม
    ประหลาดนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นกลิ่นหอมดอกว่านเสน่ห์จันทน์ ที่มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม พระเครื่องที่พบภายใน
    กรุนั้นก็อบอวลด้วยกลิ่นว่านเหมือนกัน จึงได้ขนานนามเป็นมงคลว่า พระนางพญาเสน่ห์ ด้วยมีพุทธลักษณะขององค์พระ
    ละม้ายกับพระนางพญาของ เมืองพิษณุโลก และกำแพงเพชร
    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ที่ได้เปิดกรุทั้ง 2 ครั้งนี้ปรากฏว่ามีแต่เนื้อดินเท่านั้นพระเนื้อชินไม่มีปรากฏเลย
    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ของวัดตาเถรขึงหนังหรือวัดศรีพิจิตกิรติกัลยาราม โดยที่วัดนี้ทางกรมศิลปากร
    ได้พบหลักศิลปากรได้พบหลักศิลาจารึกครึ่งท่อน หลักหนึ่งได้บอกไว้ว่าเป็นวัดที่พระมเหสีของพระเจ้าลิไทเป็นผู้ทรงสร้างไว้
    โดยที่วัดตาเถรขึงหนังนั้นปรากฏว่าเมื่อปี พ.ศ. 2499 นายมะลิ โคกสันเทียะ อดีตหัวหน้าหน่วยศิลปากร
    ที่ 3 สุโขทัย ได้พบหลักศิลาจารึกจมดินอยู่ที่บริเวณวัดทางด้านทิศตะวันตกของพระเจดีย์ใหญ๋เข้าหลักหนึ่ง ศิลาจารึกหลักนี้
    เป็นหินชนวนเขียวชำรุด โดยศิลาจารึกท่อนบนที่พบสูง 72 ซม. กว้าง 68 ซม. จารึกเป็นอักษรภาษามคธ เขียนด้วยอักษรขอม
    มี 2 บรรทัด ส่วนภาษาไทยเขียนด้วยอักษรไทย สมัยสุโขทัยมี 15 บรรทัด
    จากข้อความในศิลาจารึกกล่าวได้ความว่า วัดนี้ในสมัยสุโขทัยมีนามว่า วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม สร้าง
    เมื่อ พ.ศ. 1943 ตรงกับสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 2 (พระยาไสยลือไท) ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระมหาธรรมราชาที่1
    (พระยาลิไท) โดยโปรดให้ไปอาราธนา สมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ ซึ่งเป็นพระสังฆราชมาจากเมืองกำแพงเพชรให้มาเป็น
    ประธานในการจัดสร้าง ด้วยเหตุนี้ วัดจึงมีนามว่าวัดศรีพิจิตรกิรติกัลยารามตามนามพระสังฆราชพระองค์นั้น ทั้งนี้สมเด็จ
    พระราชชนนีศรีธรรมราชมาดาผู้สร้างพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ จากรพะนามแสดงว่าทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองนคร
    ศรีธรรมราช รวมทั้งพระนามของสมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ พระสังฆราชศาสนาด้วยเช่นกัน ที่น่าจะสืบทอดมาจากเมือง
    นครศรีธรรมราชตามประวัติพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์ในสมัยสุโขทัย
    ดังนั้นพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ที่กรมศิลปากรขุดได้จากในพระเจดีย์ใหญ่ที่วัดนี้ จึงเป็นพระสำคัญ
    เพราะเป็นพระที่พระมเหสีพระเจ้าแผ่นดินสุโขทัยและพระสังฆราชสมัยสุโขทัยทรงสร้าง ด้วยเหตุดังกล่าวพระนางพญา
    เสน่ห์จันทน์นี้ จึงเป็นพระเครื่องที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
    พุทธลักษณะ พระนางเสน่ห์จันทน์เป็นพระปางมารวิชัยประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานชั้นเดียวอยู่ใน
    ทรงกรอบรูปสามเหลี่ยม
    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นพระเครื่องสกุล พระนางพญาที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุความ
    เก่าถึงประมาณ 600 ปี สร้างขึ้นในยุคสมัยสุโขทัยก่อนพระนางพญาพิษณุโลก ซึ่งสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระนางพญา
    เสนห์จันทน์มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดด้วยพุทธศิลปะยุคสุโขทัยบริสุทธิ์มีความอ่อนช้อยหวานซึ้งเป็นเลิศ จัดเป็นพระที่มี
    ตระกูลสูง ครั้งนี้นับได้ว่ามีการสร้างขึ้นใหม่อย่างเป็นทางการ ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช
    กุมารี เจริญพระชนมายุ 50 พรรษา และได้รับพระกรุณาธิคุณ พระราชทานอักษรนามาภิไธย ส.ธ. ประดิษฐานที่ด้านหลัง
    ของพระนางพญาเสน่ห์จันทน์

    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​



    <HR style="COLOR: orange" align=right width="100%" SIZE=1 hr>
    [​IMG] ภาพพิธีมังคลาภิเษกมวลสารมงคล

    ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกอบพิธีกดพิมพ์พระ
    นางพญาเสน่ห์จันทน์ เป็นปฐมฤกษ์ จำนวน 9 องค์ ภายในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ 29 มิถุนายน 2548


    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="66%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=231>[​IMG]

    </TD></TR><TR><TD height=210>[​IMG]


    </TD></TR><TR><TD height=40>คณะกรรมการจัดสร้างประกอบพิธีสรวงเทวดาบูชาฤกษ์

    โดยมี คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เป็นประธาน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="38%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=231>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="66%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=220>[​IMG]

    </TD></TR><TR><TD height=227>[​IMG]


    </TD></TR><TR><TD height=40>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="49%" align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width="50%" height=18>
    พระพรหมมุนี


    วัดบวรนิเวศ


    </TD><TD width="50%">พระเทพภาวนาวิกรม (ธงชัย)
    วัดไตรมิตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=Fixfont height=213 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="38%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=188>[​IMG]


    </TD></TR><TR><TD height=25>พระพิธีธรรม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
    สวดคาถามงคลจักรวาล


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] รายนามและคณาจารย์ในพิธี ประกอบด้วย

    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาวอยุธยา
    - หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี
    - หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา
    - พระอาจารย์ไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก
    - หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน อยุธยา
    - หลวงพ่อวุฒิโชค วัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ
    - หลวงพ่อขาว วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา
    - พระอาจารย์วันดี วัดอุบลวนาราม นนทบุรี
    - พระอาจารย์วิเชียร วัดไทรทอง กาญจนบุรี
    - พระอาจารย์สนม วัดท้ายน้ำ พิจิตร

    [​IMG] คณะกรรมการดำเนินงาน

    - ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ ประธานกรรมการ
    - รองศาสตราจารย์ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี รองประธานกรรมการ
    - รองศาสตราจารย์กมล การกุศล กรรมการ
    - ดร.สำราญ ทองแพง กรรมการ
    - รองศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ นพรัก กรรมการ
    - รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา จันทร์ศิลา กรรมการ
    - นายไพโรจน์ เทพวัลย์ กรรมการและเลขานุการ
    - นางดุษฎี ภาชนะพรรณ์ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
    - นางวรลักษณ์ ศรีทองคำ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
    - นางกมลทิพย์ กมลวรเดช กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เนื้อว่านหน้าเงิน

    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG] [​IMG]


    </TD></TR><TR><TD>พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เนื้อว่านหน้าเงิน

    สร้าง 15,000 องค์ (สูงประมาณ 3.2 ซม. กว้างประมาณ 2.3 ซม.)
    บูชาองค์ละ 500 บาท


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    6. พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เนื้อว่าน

    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="100%" height=275>[​IMG] [​IMG]

    </TD></TR><TR><TD>พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เนื้อว่าน

    สร้าง 40,000 องค์ (สูงประมาณ 3.2 ซม. กว้างประมาณ 2.3 ซม.)
    บูชาองค์ละ 300 บาท (หมด, sold out)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    7. พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เนื้อหยก

    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG] [​IMG]

    [​IMG]



    </TD></TR><TR><TD>พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เนื้อหยก
    สร้าง 15,000 องค์ (สูงประมาณ 3.2 ซม. กว้างประมาณ 2.3 ซม.)
    บูชาองค์ละ 1,000 บาท


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG] พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เนื้อหยก

    สร้างด้วยกรรมวิธีเทคนิคสมัยใหม่ทุกองค์จะมีความคมชัดเหมือนกัน แต่จะต่างกันที่สีสันของหยก ซึ่ง
    อาจมีความเข้มอ่อนไม่เท่ากัน หยกที่นำมาจัดสร้าง เป็นหยกแท้ทุกองค์ โดยคนจีนมีความเชื่อกันว่าเป็นของมงคลชั้นสูงที่มี
    พลัง จึงควรแค่แก่การนำมาจัดสร้างพระครั้งนี้

    8. พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ชุดพิเศษ
    <TABLE class=Fixfont cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="100%" height=265>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา http://www.siristore.com/Products/Nangpraya_Sanaechan3.asp
     
  2. hippopo1

    hippopo1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +303
    บูชาได้ที่ไหนล่ะเนี่ย ขอรายละเอียดหน่อยค่ะ
     
  3. ตรีนิสิงเห

    ตรีนิสิงเห เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    810
    ค่าพลัง:
    +1,339
    บูชาได้ที่วิหารหลวง วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลกนะคับ
     
  4. patchayas

    patchayas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +216
    สร้างตั้งแต่ปี 48 ตอนนี้ยังมีอยู่หรือครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...