พ่อเมืองอุบลฯนำร่องข้าราชการเข้าวัดฟังธรรม

พ่อเมืองอุบลฯนำร่องข้าราชการเข้าวัดฟังธรรม
ส่งเสริมวัฒนธรรมสวนะเจริญรอยตามหลัก 10 ประการ
<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>

รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เนต​

ปัจจุบันสังคมไทยตกอยู่ในท่ามกลางปัญหามากมายหลายด้าน ทำให้เกิดกระแสสังคม มีความคิดแตกแยก ขาดจริยธรรม การเข้าสู่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นเครื่องมือรับใช้ อันเป็นเหตุให้สังคมไทยเกิดภาวะสับสนอย่าง รุนแรง การปรับตัวบุคคลในการทำงานจำเป็นต้อง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และให้เกิดความเป็นธรรม ข้าราชการส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมบริโภควัตถุนิยมรอบข้างที่รุกเร้าและยั่วยวน ทำให้เกิดหนี้สินผูกพันอย่างไม่รู้จบสิ้น ขาดสติขาดความยั้งคิดที่จะดำเนินชีวิตตามหลัก พอเพียง การที่จะช่วยให้ข้าราชการรู้จักใช้ รู้จักประหยัด ทำให้ชีวิตมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น จึงควรมีการนำพาจัดโครงการเข้าวัดฟังธรรมเพื่อกล่อมเกลาจิตใจ และเน้นหลักพอเพียง ให้มีคุณธรรมจริยธรรม ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุนิยม และหลงงมงายมั่วสุมอยู่กับอบายมุขทั้งปวง และมีจิตใจที่งดงามพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ

นายชวน ศิรินันท์พร ผวจ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ตระหนักถึงคุณค่า และคุณภาพของข้าราชการทุกคน เพื่อก้าวไปข้าง หน้าในการร่วมพัฒนาสถาบันและประเทศชาติ จึง ได้จัดตั้งโครงการ “ข้าราชการไทยข้าราชการธรรม น้อมนำพุทธศาสน์” ขึ้น เนื่องจากสังคมข้าราชการในปัจจุบันยังต้องการการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา มีจริยธรรม คุณธรรม พร้อมที่จะรับใช้ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน มีมาตรฐานในการบริการเดียวกัน ดังนั้นการที่ประเทศชาติจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง จำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากภาครัฐ ซึ่งวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้กับโครงการนี้ เพื่อสร้างความสามัคคี ทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชพลีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เพื่ออุปถัมภ์และส่งเสริมวันธรรมสวนะทางพุทธศาสนา หรือวันพระ ให้ประชาชนเห็นความสำคัญและเข้าวัดทำบุญมากขึ้น เพื่อเป็นการกล่อมเกลาจิตใจให้ข้าราชการเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในการทำงานปฏิบัติหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบ รวมทั้งจะทำให้ครอบครัวดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุข มีความพอเพียง

นายชวน กล่าวอีกว่า ทุกวันธรรมสวนะ หรือ วันพระ คือ วันขึ้น หรือ แรม 8 ค่ำ หรือ 15 ค่ำ จะพาหัวหน้าส่วนราชการทั้งจังหวัดเข้าวัด ตามโครงการที่จัดขึ้น เริ่มจากทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหาร รับศีล ฟังธรรม โดยจะหมุนเวียนเข้าวัดในเขตเทศบาล และวัดที่สำคัญ รวมจำนวน 26 วัด สำหรับในต่างอำเภอให้หัวหน้าส่วนราชการเป็น แกนนำพาข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างหน่วยงานเข้าวัดที่อยู่ในแต่ละอำเภอ และวัดที่อยู่ใกล้เคียง หมุนเวียนกันไปหรืออย่างน้อยทุกหน่วยราชการต้องเข้าวัดฟังธรรมเดือนละ 2 ครั้งขึ้นไป และให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติเป็นนโยบายของจังหวัดอย่างเคร่งครัดตลอดปี 2552

ขณะที่ พระครูวิลาศกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดหลวง และเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 1 กล่าวว่า วัดหลวงเป็นวัดที่สร้างเป็นวัดแรกของเมืองอุบล ราชธานี โดยพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ หรือเจ้าคำผง ลงมาปราบกบฏเขมร และพักทัพ อยู่ที่คุ้มหลวง หรือวัดหลวงเมืองอุบลฯใน ปัจจุบัน ซึ่งเจ้าคำผง เห็นว่าวัดหลวงที่ได้ พำนักอยู่นั้น ทรุดโทรมลง มาก จึงได้บูรณะวัดหลวงขึ้นใหม่ โดยสร้างองค์พระเจ้าใหญ่องค์หลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์แรกคู่บ้านคู่เมืองอุบลขึ้น เพื่อให้ประชาชนในสมัยนั้นได้สักการบูชา พร้อมทั้งสร้างโบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญ หอพระไตรปิฎก โดยฝีมือของช่างชาวเวียงจันทน์ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระประทุมวรราชสุริยวงศ์ ได้ตั้งชื่อว่า “วัดหลวง” ซึ่งตรงกับนามของเจ้าคำผง ที่ชาวเมืองเรียกนามท่านว่า เจ้าองค์หลวง และที่วัดหลวงนี้ตั้งแต่โบราณสืบมาทางราชการได้ใช้เป็นที่ทำพิธีถือนำพิพัฒน์สัตยา จวบจนมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2475 จึงได้ยกเลิกไป

เจ้าอาวาสวัดหลวง กล่าวว่า การที่ทางจังหวัดได้จัดโครงการข้าราชการไทยข้าราชการธรรม น้อมนำพุทธศาสน์ โดยเริ่ม โครงการที่วัดหลวงเป็นวัดแรก ซึ่งเป็นนิมิต หมายที่ดีที่เริ่มโครงการที่วัดแรกของเมืองอุบลฯ ซึ่ง ทางคณะสงฆ์ทุกวัดจะให้การสนับสนุน เพราะเป็น โครงการที่ดีมาก ที่จะนำพาให้ข้าราชการเข้าวัดฟัง ธรรมในวันสำคัญของพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น แต่เดิมมาไม่มีหน่วยงานใด หรือองค์กรใดของรัฐจะให้ความสนใจนำพาข้าราชการเข้าวัด ซึ่งมองเห็นวัดเป็นเพียงสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาเท่านั้น จึงถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย และหากผู้ปกครองบ้านเมืองข้าราชการขาดหลักธรรมใน การปกครองและบริหารราชการ สังคมประชาชนราษฎรก็จะอ่อนแอไปด้วย ซึ่งทางเจ้าอาวาสยังได้แนะนำให้ ข้าราชการเข้าถึงธรรมะ โดยให้ปฏิบัติตนเจริญรอยตามเบื้อง พระยุคลบาทแห่งองค์พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันได้แก่ หลักทศพิธราชธรรม 10 ประการ คือ
1. ทาน ให้ปันช่วยชาวประชา
2.ศีล รักษาความสุจริต
3.บริจาค บำเพ็ญกิจด้วยความเสียสละ
4.อาช ชวะ ปฏิบัติภารกิจด้วยความซื่อตรง
5.มัทวะ ทรงความอ่อน โยนและเข้าถึงคน
6.ตบะ พ้นความมัวเมาด้วยเผากิเลส
7.อักโกธะ ถือเหตุผลไม่โกธา
8.อวิหิงสา มีอวิหิงสานำร่มเย็น
9.ขันติ ชำนะเข็นด้วยอดทน
10.อวิโรธนะ ปฏิบัติตนมิให้คลาดเคลื่อนจากหลักการ ทั้ง 10 ประการนี้

ทางด้าน นายอาคม มีชัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดแรกที่จัดโครงการนำข้าราชการไทยเข้าวัดฟังธรรมในวันพระ หรือวันธรรมสวนะ โดยกิจกรรมจะมีขั้นตอนตั้งแต่ นำข้าราชการทุกหน่วยงานทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม รักษาศีล โดยในตัวจังหวัดจะนำข้าราชการเข้าปฏิบัติธรรมที่วัดที่สะดวกที่จะไปปฏิบัติธรรม โดยไม่เน้นว่าจะเป็นวัดเล็กหรือวัดใหญ่ และโครงการนี้จะมีไปจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2552 ก็จะทำการประเมินข้าราชการ เพื่อปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป.

พงค์ภัค-บัญชา วิทยา​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
----------

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=196405&NewsType=1&Template=1