เรื่องเด่น มส.ลงเรือช่วยน้ำท่วม!ภาพชัดพระไม่ทิ้งโยม

วันศุกร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560, 16.16 น.

มส.ลงเรือช่วยน้ำท่วม!ภาพชัดพระไม่ทิ้งโยม




ชาวบ้านประทับใจ! พระระดับมหาเถรสมาคม นำทีมลุยช่วยน้ำท่วมด้วยตนเอง หลั่งน้ำตารับการช่วยเหลือ มั่นใจสถาบันพระพุทธศาสนาพึ่งได้

ภาพพระราชาคณะระดับรองสมเด็จอย่างเช่นพระพรหมวชิรญาน กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ลงเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคอีสานที่จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2560ที่ผ่านมา หลังจากได้มอบหมายให้พระในฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ลงพื้นที่ช่วยตลอดระยะเวลาที่น้ำท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา ภาพดังกล่าวยังความประทับใจให้กับผู้ประสบภัยและผู้พบเห็น


ร.ท.,ดร.บรรจบ บรรณรุจิ อดีตอาจารย์จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย อาจารย์ประจำหลักสูตรสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้ออกมาทำความเข้าใจผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Banjob Bannaruji – บ้านบรรณรุจิ ความว่า

@ ในภาพที่เห็น พระพรหมวชิรญาน กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ หลังจากได้อยู่เบื้องหลังการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคอีสานมาตลอด คราวนี้นำทีมพระเถระระดับภาคและรองภาคออกตรวจงานพร้อมให้การช่วยเหลือวัดและประชาชนทึ่ประสบภัยน้ำท่วม ตามมติของมหาเถรสมาคม

@ พระมหาเถระและพระเถระทั้งหมดนี้ คำนึงถึงพระวินัย แต่ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงธรรมะ คือหลักธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สังคมไทยคนเดือดร้อนยังมีอยู่มาก ในพระาชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ ๒๕๐๕ จึงบัญญัติงานด้านสาธารณสงเคราะห์ไว้ด้วยให้คณะสงฆ์ได้ทำแก่สังคมอย่างไม่เลือกชนชั้นและไม่เลือกศาสนา
นึ่คือความใจกว้างของพระพุทธศาสนา ที่คณะสงฆ์ได้เป็นทางผ่านให้คนมีทุกข์กับผู้ช่วยเหลือได้พบกัน พระที่ออกไปทำงาน ท่านต้องรู้ว่าท่านต้องทำบนพื้นฐานของพระธรรมวินัย คือมีเมตตากรุณาซึ่งเกื้อกูลให้เห็นคุณค่าของความเป็นพระ

@ ผมเข้าใจว่า งานครั้งนี้ถือเป็นการออกภาคสนามเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของคณะสงฆ์ไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับของมหาเถรสมาคม ซึ่งคงไม่มีใครตำหนิได้ ถ้าไม่ดัดจริตเป็นผู้ดีเคร่งครัดศาสนากันเกินความเป็นจริง

(คำว่า ดัดจริต ผมใช้อธิบายพฤติกรรมของที่แสร้งทำตัวว่าเคร่งศาสนา พูดจานุ่มนวลเรียบร้อย มีเจ้าค่ะ เจ้าขา แต่นิสัยแท้จริงไม่ใช่ ถ้าถูกขัดใจจะหยาบคายออกมาทันที ต่อมา มีคนนำไปใช้กันเยอะ หลายแห่งหลายที่ บางครั้งเลยเข้าใจว่า ผู้กำลังใช้คือผม ทั้งๆที่ไม่ใช่ แต่ไม่เป็นไรใช้ไปเถอะ ถ้าไม่ดัดจริตก็ไม่กระเทือน แต่ถ้าดัดจริตจริงก็จะกระเทือน ผู้ดีจอมปลอมก็จะเวิกเพ้ยหยาบคายออกมาทันที นึ่แหละทึ่เรียกว่า ดัดจริต เพราะไม่ใช่ของจริง)

@ คนกำลังประสบภัยเขาเดือดร้อน เขาต้องการคนช่วยจริง เขาไม่สามารถรอการช่วยเหลือแบบเอาหน้ารอการช่วยเหลือชนิดที่ต้องมีการทำข่าวให้สาธารณชนล่วงรู้ก่อน

@ คนมีทุกข์จากภัยทึ่ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว นาข้าวนับพันไร่จมหายหมด เขารู้ว่า หากพูดถึงความทุกข์ก็คงไม่มีคำพูดใดสะท้อนความทุกข์ออกไปได้หมด นอกจากน้ำตา และเวลาที่มีคนมาช่วยเหลือแม้จะให้แค่ยังชีพอยู่ได้ เขาดีใจก็ไม่มีคำพูดใดสะท้อนความดีใจออกไปได้หมด นอกจากน้ำตา พระจากมหาเถรสมาคมไปครั้งนี้จึงได้เห็นทั้งน้ำตาของความทุกข์ใจและน้ำตาแห่งความดีใจไปพร้อมๆกัน

@ เราชาวพุทธทั้งหลายจึงต้องกราบขอบพระคุณพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม และคณะ ที่ร่วมกันลงภาคสนามลุยน้ำช่วยผู้ประสบภัยครั้งนี้ ทำให้พระเณรและชาวบ้านผู้ประสบภัยเกิดขวัญกำลังใจ แลมั่นใจในสถาบันพระพุทธศาสนาว่าเป็นที่พึ่งได้จริง และหากเป็นอย่างนี้ตลอดไป การจะเชิดชูให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง แม้รัฐธรรมมนูญจะยังใส่ไว้ไม่ได้ แต่เพราะชาวพุทธไทยที่ทุกข์ยากยังมีอยู่อีกเยอะ คนเหล่านี้แหละเขาจะช่วยผลักดันให้

@ เชิ่อผมเถอะ ผมอยู่กับคนจนมานาน อยู่จนรู้ใจ รักใครแล้วรักเลย คิดหรือว่า ทำอย่างนี้เขาจะไม่รักพระ ไม่รักพระพุทธศาสนา

คิดดูเถอะครับ แล้วพวกเขาจะปล่อยให้ผู้ที่เขารัก และสถาบันทึ่เขารักถูกทำลายลงละหรือ ?

ครับ ! ศรัทธาประชาชนแข็งแกร่งกว่ากำแพงใดๆ ไม่เชื่อมาพิสูจน์กันต่อไป



ขอบคุณที่มา
http://www.banmuang.co.th/news/region/89025