ยันต์เกราะเพชรกับการภาวนาคาถา "สัมปฏิจฉามิ"

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 31 กรกฎาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : .................................

    ตอบ : การรับยันต์เกราะเพชร ถ้าท้องแรกๆ น่ะดี ถ้าคลอดออกมาเป็นผู้ชายยันต์จะติดตัวประมาณ ๗ วัน ถึงจะเข้ากระดูกหมด มันจะเห็นชัดๆ ถ้าเป็นผู้หญิงจะเข้าหมดเลย ตายเผาแล้วจึงจะเห็น ยันต์มันจะติดอยู่ตรงกระดูก ถ้าใครรับยันต์เกราะเพชรไปแล้วรักษาไว้ได้ยันต์จะติดอยู่ที่กระดูกทุกคน เก็บกระดูกก็จะเห็น แต่ถ้าอยากพิสูจน์ระยะสั้น ๆ ก็หาคนท้องแรกไป หาไปหลายๆ คนหน่อย ถ้าคนไหนเป็นผู้ชายก็ได้เห็นเลย แสดงว่าผู้ชายสู้ผู้หญิงไม่ได้

    ถาม : ...............................

    ตอบ : การภาวนาคาถา สัมปฏิจฉามิ สัมปฏิจฉามิ แปลว่า สำเร็จทุกอย่าง ใช้ได้กับเรื่องที่ต้องการสำเร็จให้ว่าไปเลยได้ทั้งนั้น เรื่องของการทำไสยศาสตร์จริงๆ ไม่น่ากลัวนะ เหตุที่ไม่น่ากลัวก็เพราะกำลังใจของเขามันตั้งใจจะเบียดเบียนคนอื่น ในเมื่อตั้งใจเบียดเบียนคนอื่นมันจะไม่เข้าถึงจุดสุดท้ายของตัวสมาธิเพราะว่าจุดสุดท้ายของตัวสมาธิมันจะมีตัวอุเบกขาอยู่ ถ้าตั้งใจจะเบียดเบียนคนอื่นกำลังใจไม่เป็นอุเบกขา ถ้าหากว่าเราตั้งใจภาวนาอยู่เป็นปกติ อารมณ์ใจแค่เกินอุปจารสมาธิไปนิดจะไม่มีไสยศาสตร์อะไรทำอันตรายเราได้เลย ต้องไม่เผลอ ทีนี้ถ้าหากแก้กันตามสาย ของหลวงพ่อท่านปลุกยันต์เกราะเพชรขึ้นมามันจะสะท้อนกลับหมด อีกอย่างหนึ่งท่านให้นึกถึงพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า เรวัตตะ สมัยของท่านจะมีพวกทำไสยศาสตร์เหมือนกัน หนักอยู่เหมือนกันบางทีคนฟังเทศน์อยู่มันทำดิ้นพลาดๆ กลางศาลาเลยก็มี

    เพราะฉะนั้นพระองค์ท่านจะมีความชำนาญในด้านนี้อยู่มาก ท่านแนะนำว่าให้นึกถึงพระพุทธเจ้ามีนามว่า เรวัตตะ แล้วตั้งใจภาวนาว่า สัมปจิตฉามิใครกลั่นแกล้งเราก็จะมีอันเป็นไปเอง อย่าไปเสียเวลาไปทำเขาเลย เพราะฉะนั้นถ้าเจอวิธีนี้เขาก็คงเข็ดไปอีกนาน ทำเมื่อไหร่ตัวเองโดน สมเด็จพระพุทธเจ้าเรวัตตะทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า เรวัตโต รติวัทฒโน พระพุทธเจ้านามว่า เรวัตตะผู้มีราตรีอันเจริญ คือมีสติอยู่เสมอ ราตรีเจริญ ก็คือว่าทำสมาธิกันทั้งวันทั้งคืน พวกบรรดาสำนักต่างๆ ที่เขาแก้ให้นี่ไม่ค่อยไว้ใจเขา เพราะว่าเขาเอาออกได้ เขาก็ใส่คืนได้บางทีมันจะอยู่ในลักษณะที่ว่าให้เราหาประโยชน์ให้เขาตลอด

    ถาม : อย่างนี้แล้วเราอยากทราบว่าใครทำได้มั้ยคะ ?

    ตอบ : ต้องถามเขา เพราะโดยมารยาทแล้วเขาก็บอกไม่ได้ โดยมารยาทแล้วเขายอมช่วยเรานี่ถือว่าเต็มที่แล้ว ของพระเราต้องยอมรับกฏของกรรมใช่มั้ย ? ทางด้านโน้นเขายอมช่วยเราเขาก็เสี่ยงมากแล้วถึงขนาดไปเปิดเผยตัวนี่ถือว่าเป็นการประกาศศัตรูโดยตรง เดี๋ยวลำบาก มีอยู่เที่ยวหนึ่งไปหาพระที่ วัดเขาอ้อจะเอามาทำน้ำมนต์แก้พวกนี้ พวกไสยศาสตร์นี่เขามีความสามารถสูงจริงๆ เลยถึงเวลาเราไปช่วยเขา ครั้ง , สองครั้งนี่เขาจะรู้เลยว่าเป็นเรา แล้วต่อไปมันจะทำใส่เราแล้วล่ะ ?

    ถาม : โดยที่เราไม่ได้ทำคืนเขาๆ จะทราบเลย ?

    ตอบ : จ้าเขาจะรู้เลย ทีนี้พอเขาทำไม่ได้เพราะเราอยู่ ทีนี้เขาก็มีวิธีคือ ทำเราแทน ประเภทที่ว่าเบี่ยงประเด็น เอาพระของวัดอื่นมาทำน้ำมนต์ กระแสมันเป็นของสำนักนั้น ถึงเวลาเขาจับได้ก็ไปถล่มสำนักนั้นไม่เกี่ยวกับเรา แต่อันนั้นมันขี้โกงหน่อย ตั้งแต่เอาพระของสำนักเขาอ้อมานี่ยังไม่เคยใช้เลย เพราะว่ามันยังพอไหว



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๔
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...