รวบรวมข่าวสาร ติดตามสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 (ไข้หวัดหมู)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Nakamura, 27 เมษายน 2009.

  1. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    ไข้หวัดหมู หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่ควรรู้จัก <hr style="color: rgb(246, 214, 133);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message -->
    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

    ข่าวคราวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด หมูในประเทศเม็กซิโก จนคร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบคน ซึ่งผู้เสียชีวิตเฉพาะในประเทศเม็กซิโก มีถึง 149 คน (ตัวเลขทางการ ณ วันที่ 28 เมษายน 2552) เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนานาชาติเป็นอย่างมาก ล่า สุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเตือนว่า สถานการณ์ขณะนี้มีความรุนแรงมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะลุกลามไปทั่วโลก ทำให้หลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับโรคชนิดนี้ เกิดความสงสัยว่า "โรคไข้หวัดหมู" คืออะไร และจะสามารถป้องกันได้อย่างไร วันนี้กระปุกอาสามาบอกต่อกันค่ะ

    [​IMG] รู้จักโรคไข้หวัดหมู

    "โรคไข้หวัดหมู" เป็นไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ สามารถพบได้ทั้งในหมูเลี้ยง และหมูป่า ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้ง H1N1, H1N2 และ H3N2 ไข้หวัดหมูส่วนใหญ่มักแพร่ระบาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว แต่สามารถพบเชื้อได้ตลอดทั้งปี สำหรับโรคไข้หวัดหมูที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกานั้น เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน ซึ่งไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากเป็นการผสมกันของสารพันธุกรรมไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์, ไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ และไข้หวัดหมูที่พบในทวีปเอเชีย และยุโรป ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูอย่างใกล้ ชิด เนื่องจากหวั่นวิตกว่า เชื้อ H1N1 อาจจะกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายยิ่งขึ้น

    [​IMG] กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ

    กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไข้หวัดหมู คือ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู คนฆ่าหมูหรือชำแหละเนื้อหมู คนขายเนื้อหมู รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับหมู และผู้บริโภคเนื้อหมูที่ปรุงไม่สุก

    [​IMG] การติดต่อโรคไข้หวัดหมู

    เชื้อไข้หวัดหมู มีการติดต่อเหมือนกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนทั่วไป และเชื้อจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามปกติคนจะไม่ติดเชื้อไข้หวัดหมู ยกเว้นผู้ที่ไปสัมผัสใกล้ชิดกับหมู ก็อาจติดเชื้อไข้หวัดหมูมาได้ แต่มักไม่ค่อยพบกรณีนี้ ทั้งยังไม่ค่อยพบกรณีไข้หวัดหมูระบาดจากคนสู่คนอีกด้วย แต่กรณีโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในเม็กซิโกอยู่ขณะนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า มีการติดต่อจากคนสู่คน เพราะผู้ป่วยบางรายไม่เคยมีประวัติสัมผัสหมูแต่อย่างใด

    ทั้งนี้เชื้อโรคจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และสามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่นด้วยการไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด และสามารถติดต่อได้จากมือ หรือสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ทั้งนี้เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา แต่ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู

    ขณะที่นักวิชาการขององค์การอนามัยโลก ระบุไว้ว่า โรคไข้หวัดหมู มีอัตราการแพร่ระบาดมากกว่าโรคซาร์ส และไข้หวัดนก แต่อัตราการเสียชีวิตมีน้อยกว่า คืออยู่ที่ร้อยละ 5-7 ขณะที่โรคไข้หวัดนกมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 60

    [​IMG] อาการของโรคไข้หวัดหมู

    เมื่อเชื้อไข้หวัดหมูเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะปรากฎอาการที่คล้ายกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่มีอาการรุนแรงกว่า และรวดเร็วกว่า นั่นคือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปอดบวม คลื่นไส้ อาเจียน จากนั้นเชื้อจะแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต จึงทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการทรงตัวผิดปกติ เดินเอนไปเอนมาเหมือนคนเมาสุรา นอกจากนี้อาจสูญเสียการได้ยินจนถึงขั้นหูหนวกได้ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที


    [​IMG] การรักษาโรคไข้หวัดหมู

    ทางสหรัฐอเมริกา ระบุว่า โรคไข้หวัดหมูสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ คือ วัคซีนแอนตี้ไวรัส "ทามิฟลู" (Tamiflu) และ "รีเลนซา" (Relenza) แต่ทั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า วัคซีนเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเพียงใด เนื่องจากไข้หวัดหมูที่แพร่ระบาดอยู่ขณะนี้ เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น จึงต้องมีการศึกษาพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ เพื่อใช้ในการรักษาให้มีประสิทธิผลมากขึ้นต่อไป

    [​IMG] การป้องกันโรคไข้หวัดหมู

    โรคไข้หวัดหมู แม้จะเป็นสายพันธุ์หมู แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหมูโดยตรง เพราะเป็นไข้หวัดใหญ่ที่ติดต่อจากคนสู่คน ดังนั้นจึงสามารถรับประทานหมูได้ หาก ไม่แน่ใจ ให้ปรุงเนื้อหมูให้สุกเสียก่อน คือ ผ่านความร้อนที่อุณหภูมิ 75 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือต้มในน้ำเดือด ก็จะสามารถทำลายเชื้อให้หมดไปได้

    ทั้งนี้ วิธีการป้องกันการติดต่อของโรคได้ดีที่สุด คือ การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด และล้างมือบ่อยๆ

    ในส่วนของผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก รวมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียและเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศใกล้เคียง ควรติดตามสถานการณ์และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด และหากมีอาการไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

    สำหรับประเทศไทยนั้น ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ยังไม่พบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูในประเทศ ดังนั้นก็ไม่ต้องตื่นตระหนกไปหรอกค่ะ แต่ถ้าหากยังไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์จากโรคไข้หวัดหมู แนะนำว่าให้รับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุกแล้วดีกว่า และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ อีกทั้งติดตามข่าวสารอยู่เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตค่ะ




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG] [​IMG]
    ddc.moph.go.th
    uniserv.buu.ac.th

    ---------------------------------------------

    ติดตามสถานการณ์ไข้หวัดหมูด้วย Google Maps

    ขณะนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับ ข่าวไข้หวัดใหญ่ H1N1 Swine Flu หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ที่เกิดในประเทศเม็กซิโก (ชื่อตามที่กระัทรวงสาธารณสุขบอกให้เรียก เพื่อไม่ให้เกิดความหวาดวิตกจนเกินไปในผู้บริโภคเนื้อสุกร) ไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้มีความรุนแรงน้อยกว่าไข้หวัดนก แต่ระบาดเร็วกว่า

    ผมนำแผนที่จาก Google Maps ซึ่งมีผู้จัดทำขึ้นเพื่อ update ข้อมูลการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่นี้ มาฝากพวกเราที่สนใจครับ

    เครื่องหมายสีชมพูคือผู้ที่น่าสงสัยว่าจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 Swine Flu
    เครื่องหมายสีม่วง คือผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 Swine Flu
    ถ้าภายในเครื่องหมายไม่มีจุด หมายถึงเสียชีวิตแล้ว
    เครื่องหมายสีเหลือง คือผู้เข้าข่ายติดเชื้อ แต่พิสูจน์แล้วว่าไม่ติดเชื้อ H1N1 Swine Flu

    <iframe marginheight="0" marginwidth="0" src="http://maps.google.com/maps/ms?ie=UTF8&hl=en&t=p&msa=0&msid=106484775090296685271.0004681a37b713f6b5950&ll=32.639375,-110.390625&spn=15.738151,25.488281&output=embed" scrolling="no" width="425" frameborder="0" height="350"></iframe>
    <small>View H1N1 Swine Flu in a larger map</small>

    Tracking H1N1 Swine Flu: ติดตามสถานการณ์ไข้หวัดหมูด้วย Google Maps|Thaiblogzine

    -------------------------------------------------
    <!-- google_ad_section_start -->ติดตามแผนที่แสดงสถานะการณ์การระบาดของโรคนี้ในแต่ประเทศจาก RSOE EDIS

    RSOE EDIS - Pandemic Monitoring System<!-- google_ad_section_end -->

    credit : Thank U

    ---------------------------------------------------

    มาเข้าใจเรื่องเฟสของการเตือนภัยการระบาดของ WHO กันครับ

    จากที่ WHO ได้ประกาศว่า ขณะนี้การระบาดของ influenza สายพันธุ์ใหม่ มาถึง Phase ที่ 5 แล้ว ซึ่งทั้งหมดนั้นจะมี 6 ระดับ หรือ 7 ระดับ ถ้าเรารวมระยังหลังวิกฤตมาด้วย ซึ่งก็ถือว่าระยะ 5 นี่ ค่อนข้างจะรุนแรง

    เรามารู้กันดีกว่าว่า แต่ละระดับนั้นมีอะไรมั่งครับ <!--MsgFile=0-->[​IMG]

    Phase 1 ครับ ระบาดเฉพาะในสัตว์ แต่ยังไม่ระบาดเข้าสู่คนครับ ช่วงนี้เชื้อจะยังไม่มีการพัฒนาให้เจริญเติบโตได้ในมนุษย์ <!--MsgFile=1--><center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    Phase 2 ครับ เริ่มมีการแพร่กระจายการระบาดในสัตว์เป็นวงกว้าง ช่วงนี้เชื้อจะเริ่มมีการพัฒนาจนสามารถติดต่อเข้าสู่มนุษย์ได้แล้วครับ ช่วงนี้จะมีโอกาสเสี่ยงถ้าเข้าใกล้กับสัตว์ที่เป็นโรค <!--MsgFile=2--><center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    Phase 3 ครับ เริ่มมีการแพร่ไปยังมนุษย์ได้มากขึ้น, แต่ยังไม่มีการระบาด และติดต่อไปยังมนุษย์ด้วยกัน. แต่ virus ก็ยังมีการเพิ่ม level of transmissibility ได้อยู่ครับ <!--MsgFile=3--><center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    Phase ที่ 4 ตรงนี้แหล่ะที่ ระบาดไปในคนภายในพื้นที่หรือประเทศเดียวกัน ทาง WHO ถึงขนาดให้คำจำกัดความว่าเป็น community-level outbreaks ซึ่งต้องรีบรายงานให้ทาง WHO ทราบ ในช่วงระดับนี้นี่แหล่ะครับ ที่เราต้องยอมรับเลยว่า รัฐบาลเม็กซิโก โดยเฉพาะทางกระทรวงสาธารณสุขที่นั่นไม่มีการเตือนออกมา จนก่อให้เกิดระดับที่ 5 ครับ <!--MsgFile=4--><center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    Phase 5 และนี่คือการเตือนภัยในปัจจุบันของ WHO ครับเพราะพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อนี้แล้วในประเทศอื่นที่ติดต่อมากกว่า 2 ประเทศ นั่นคือการแพร่ระบาดในระหว่างประเทศ แต่ในบางประเทศส่วนมากจะยังไม่มีการระบาดเกิดขึ้น และ การระบาดอย่างรุนแรงกำลังคืบเข้ามาครับ โดยที่ ณ เวลานี้ทาง WHO ได้ออกมาประกาศแล้วว่า อาจจะมีสิทธิ์ได้เจอการประกาศเตือนภัยการระบาดของโรคนี้ในระดับ 6 แน่ครับ <!--MsgEdited=5-->แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 52 09:16:14 <!--MsgFile=5-->
    <center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    Phase 6 มีการระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งในประเทศที่อยู่ใน WHO และไม่อยู่ใน WHO และ ลามไปยังทวีปอื่น ๆ ในระดับนี้เนี่ยจะหมายถึง ทวีปอื่น ๆ ที่โดนระบาดเนี่ย ไม่ใช่แค่ 1-2 คน ตามที่เราเห็นแล้วครับ แต่จะเทียบเท่ากับประเทศแหล่งกำเนิดโรคระบาดนั้นด้วยเลย เป็นระดับที่สูงที่สุดในการระบาด <!--MsgFile=6--><center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    อ๊ะ ๆ ๆ ๆ อย่าเพิ่งคิดกันไปไกลนะครับว่าขั้นที่ 7 คือคนตายทั้งโลก

    ขั้น ที่ 7 หรือเราเรียกว่าระยะหลังระบาดครับ ปริมาณการระบาดจะลดลงครับ เพราะเนื่องจากผู้คนจะเริ่มมีการสร้างภูมิต้านทาน คนที่สามารถปรับตัวสร้างภูมิต้านทานเอาตัวรอดมาได้ก็จะมีร่างกายแข็งแรงขึ้น รวมทั้งอาจมีการคิดค้นยา และวัคซีนได้ทันท่วงที ดังนั้นการระบาดในช่วงนี้จะค่อย ๆ ลดลงไป

    แต่ !!! เชื้อไวรัสก็ไม่ได้อ่อนไปกับเรานะครับ เพราะเชื้อไวรัสเองก็มีการปรับตัวภายในคนทั่วไปที่ยังคงเป็นพาหะอยู่ รอวันที่จะระบาดมาในรอบ 2 ซึ่งเราจะเรียกมันว่า second wave ครับ ซึ่งจะรวดเร็วกว่าเดิม

    และในขั้นสุดท้าย คือ post-pandemic period,ช่วงนี้เชื้อจะกลับสู่ภาวะปกติ อาจจะเพราะมีภูมิต้านทานที่มากเพียงพอแล้ว จนเชื้อไวรัสจะให้อาการไม่ต่างกับหวัดทั่ว ๆ ไป ยังไงก็ตามในช่วงนี้ยังต้องมีการควบคุมอยู่เพื่อไม่ให้เชื้อเกิดการพัฒนาได้ ในขั้นสูงกว่าเดิมครับ <!--MsgFile=7--><center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    credit : Pantip
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2009
  2. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    คุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ทางบ้านรักษาเป็นประจำได้ใช้ผ้าปิดหน้าก่อนหน้าที่จะมีข่าวได้สักพักแล้ว

    เพราะคุณหมอเองก้อทราบว่ามีไข้หวัดตัวใหม่ที่ร้ายแรงคุณหมอก้อย้ำกับที่บ้านว่าไม่จำเป็นอย่าพาเด็กมาโรงพยาบาล

    น่าจะเป็นมาก่อนหน้านี้ แต่เพิ่งลงข่าวหรือว่าเพิ่งประกาศให้ประชาชนได้รู้ ทั้งๆที่คุณหมอหลายโรงพยาบาลได้ใช้ผ้าปิดหน้าก่อนที่จะมีข่าวว่าระบาดที่แม็กซีโก
     
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สำหรับ การคาดการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้น ในกรณีที่

    เกิดโรคระบาดรุนแรงและมีคนตายมากๆนี่

    ประการแรกคน จะไม่ยอมออกจากบ้าน หรือไปในที่ชุมนุมชน พวกโรงหนัง ห้างสรรพสินค้า

    ไม่เดินทาง เพราะรถเมล์ รถแอร์ เครื่องบินนี่ เป็นแหล่งพาหนะเชื้ออย่างดี โดยเฉพาะตู้แอร์ หรือท่อแอร์นี่ มีฝุ่น มีเชื้อโรคมากมายครับ

    ดังนั้นบ้านเมือง จะเงียบเชียบ การทำธุรกิจ ธุรกรรมหยุดชงัก

    หากมีการแจ้ง ว่า การติดเชื้อนอกจากทางอากาศยัง เกิดจากอาหารด้วย ล่ะก็

    คราวนี้ ตองกินเจหรืองดเนื้อสัตว์กันหมดแบบตามคำทำนายแน่นอนครับ


    มีการประเมินคร่าวๆ ในประเทศไทยว่า

    หากระบาดแบบ ควบคุมไม่ได้ คาดว่า จะมีผู้ติดเชื้อประมาณ หนึ่ง ในสาม ของประเทศ หรือ 20 ล้านคน

    และเสียชีวิต ประมาณ 5 ล้านคน (ประเมินแบบต่ำแล้ว)

    ซึ่งจะมีปัญหามาก หากผู้เสียชีวิตเป็นบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็นด่านแรกๆ เพราะจะทำให้ผู้ทำการรักษายิ่งน้อยลงไปอีก

    ไม่ต้องพูดถึง วัคซีน เพราะทางเม็คซิโกเอง ยังมีวัคซีนเพียง 3000 โดส เท่านั้น และก็ไม่ได้ผลในการรักษา 100 เปอร์เซนต์ด้วย

    คราวนี้ เรามาลองดูการดุแลสุขภาพ ในเชิงป้องกันโรคกันดูครับ
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สำหรับ การป้องกัน โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ในแบบวิทยาศาสตร์ก่อน

    1. หลีกเลี่ยงการ รับเชื้อทางอากาศ จากผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่มีโอกาสมีความเสี่ยงที่จะป่วย หลีกเลี่ยง การอยู่ในที่ สาธารณะ ที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศดีพอ และเป็นแหล่งเพาะเชื้อ เช่น โรงพยาบาล โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า

    2. หากจำเป็น ต้องอยู่ในที่สาธารณะ ไม่ต้องอาย ใช้ผ้าปิดจมูก ปาก โดยหากเป็นไปได้ มีหน้ากากกรองอากาศของสามเอ็มรุ่น เอ็น 95 ซึ่งใช้กรองป้องกันเชื้อโรคได้ กรองสารเคมีได้ (ในระดับหนึ่ง)

    หากไม่มีใช้ผ้าปิดจมูก โดยเราสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพให้ผ้าปิดจมูกได้โดย จุ่มหรือชุบในน้ำยา ฆ่าเชื้อเดทตอล จางๆก่อนเพื่อช่วยฆ่าเชื้อที่ผ่านผ้าปิดจมูกได้อีกพอสมควร

    3. หมั่น ล้างมือ ด้วยสบู่หรือ ยาฆ่าเชื้ออ่อนๆเสมอ ให้เป็นปกติ โดยล้างให้ทั่วจนถึงข้อมือ

    เวลาอาบน้ำ ใช้สบู่อ่อนๆ ล้างจมูก ในรูจมูกด้วย เพื่อลดเชื้อโรคที่สะสมในโพรงจมูก

    กลั้วคอเวลาบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก ก็ช่วยลดเชื้อในปากและช่องคอส่วนบนได้

    4.เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ให้ตัวเราเอง โดยออกกำลังกาย สม่ำเสมอ งดเหล้า บุหรี่ อย่าอดนอน หรือนอนดึก

    ทานสมุนไพร วิตามิน อาหารเสริม และอาหารที่เสริม สุขภาพ ในเชิงป้องกันให้เป็นปกติ

    กลุ่มสมุนไพรต้านเชื้อจุลชีพ แบบพื้นฐานมี กระชาย กระเทียม ขมิ้นชัน

    ส่วนอาหารเสริมกลุ่มที่เสริม ภูมิคุ้มกัน มี L- Glutamine


    5. ทำโซนนิ่ง ที่สะอาดปลอดเชื้อใน บ้าน โดยเฉพาะ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น(ซึ่งทุกคนในบ้านต้องอยู่ร่วมกัน) ห้องครัว ห้องอาหาร

    ถูบ้าน ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (เดทตอล)

    6. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปลอดเชื้อ ที่ใช้วัสดุ ที่ลดการก่อเชื้อโรค ซึ่ง มีทั้ง ในครัว ห้องน้ำ และ สี ทาห้อง พวกที่ใช้ โลโก้ Microban

    ใช้เครื่องกรอง หรือเครื่องฟอกอากาศ โดยเลือกที่มีการรับรองการฆ่าเชื้อไวรัสในอากาศ ได้ หรือใช้แอร์ที่ฟอกอากาศได้

    เพื่อลดปริมาณเชื้อโรคในที่พักอาศัย ลดได้มากก็ยิ่งลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

    ล้างแอร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วน อินดอร์ยูนิต เพื่อไม่ให้มีฝุ่นสะสมเชื้อโรค


    ลองทำดูตามที่พอทำได้ครับ
     
  5. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6726 ข่าวสดรายวัน

    กักสาวไทย! ผงะ-ติดหวัดมาจาก"เม็กซิโก"

    รพ.จุฬารับดูแล เร่งตรวจหาเชื้อ จังโก้ตายพุ่ง152 ส่อลามทั่วโลก! เขียงหมูไทยวูบ กินไก่-ปลา-เนื้อ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ตรวจหมู - เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจลูกหมูในฟาร์มแห่งหนึ่งในจ.ราชบุรี ไม่พบว่ามีการติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโก ซึ่งองค์การอนามัยโลกยืนยันว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คนเท่านั้น ตามข่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ไทยระทึกร.พ.จุฬาฯ รับตัวสาวไทย เพิ่งเดินทางกลับจากเม็ก ซิโกพร้อมอาการป่วยไข้หวัด กักตัวไว้เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อถึงใคร พร้อมเร่งตรวจพิสูจน์เชื้อว่าเป็นไข้หวัดเม็กซิโกหรือไม่ ขณะที่นายกฯมอบหมายเสธ.หนั่น เป็นหัวหน้าทีมต้านโรคในไทย สั่งด่วนตั้งวอร์รูมรับมือทันที เผยผลกระทบตกถึงตลาดเนื้อหมูไทยจนได้ คนไทยจำนวนมากปลอดภัยไว้ก่อน หันไปกินไก่-เนื้อ-ปลาแทน ทั้งที่หมอย้ำว่าโรคไม่ติดต่อด้วยการกินหมูก็ตาม ด้านองค์การอนามัยโลกปรับระดับการระบาดจาก 3 เป็น 4 ชี้เป็นเรื่องยากจะหยุดยั้งไข้หวัดเม็กซิโกไม่ให้ลามไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก เพราะเป็นโรคที่ติดต่อง่าย แฉคนเม็กซิโกสังเวยชีวิตแล้ว 152 ศพ

    -จุฬาฯแถลงมีคนไข้ต้องสงสัย1

    เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 เม.ย. รศ. น.พ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหาร พร้อมด้วย รศ.น.พ.รัฐพลี ภาคอรรถ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านผู้ป่วยวิกฤต และศ.น.พ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก แถลงข่าวชี้แจงกระแสข่าวคนไทยได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก โดยรศ.น.พ.ธีระพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลจุฬาฯ ยังไม่มีคนไข้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก มีเพียงผู้สงสัยที่อาจเข้าข่ายป่วยด้วยโรคดังกล่าว ซึ่งเป็นเพศหญิง จำนวน 1 ราย มีอาชีพรับราชการในหน่วยงานหนึ่ง อายุ 42 ปี โดยหญิงดังกล่าวได้เดินทางไปปฏิบัติราชการที่ประเทศเม็กซิโกระหว่างวันที่ 3-11 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเดินทางต่อไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 11-19 เม.ย. และกลับประเทศไทยโดยอยู่ภายในประเทศเป็นเวลา 3 วัน จากนั้นเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 22-25 เม.ย. ซึ่งระหว่างนั้น คือวันที่ 23 เม.ย.มีไข้สูง แต่ก็ลดลง และเริ่มมีไข้สูงอีกในวันที่ 26 เม.ย. ก่อนจะเข้ารับการรักษาอาการล่าสุดที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ในวันนี้

    "ขณะนี้แพทย์รับตัวไว้ดูอาการ เนื่องจากสงสัยว่าอาจมีอาการติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ยังไม่ระบุว่าเป็นสายพันธุ์ใด โดยอาการล่าสุดไข้ต่ำลงมาก แต่ต้องเฝ้าดูอาการอีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นได้แยกคนไข้ไว้ในห้องปลอดเชื้อ และจะตรวจเชื้อ จำพวกสารคัดหลั่ง อาทิ เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ไปตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อเพาะเชื้อ ก่อนจะรายงานให้กระทรวงสาธารณสุขทราบอย่างเป็นทางการ" รศ.น.พ.ธีระพงศ์กล่าว

    ต่อข้อถามว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นบุคลากรในโรงพยาบาลหรือไม่ รศ.น.พ.ธีระพงศ์ กล่าวว่า ควรเรียกว่าข้าราชการในหน่วยงานหนึ่งจะดีกว่า ไม่ใช่บุคลากรในโรงพยาบาล และไม่อยากให้สืบว่าเป็นใคร เพราะเป็นสิทธิของคนไข้ที่จะไม่เปิดเผยชื่อ ที่สำคัญขณะนี้คนไข้ยังไม่ใช่ผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก

    -รู้ผลการตรวจเชื้อแน่ชัดในคืนนี้

    ศ.น.พ.ยง กล่าวว่า อยากชี้แจงว่าคนไข้รายนี้ยังไม่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขณะนี้เพียงสงสัยเท่านั้น เนื่องจากมีประวัติเดินทางไปประเทศเสี่ยง ทางคณะแพทย์ก็รับไว้เพื่อเฝ้าดูอาการ ซึ่งจะมีการตรวจเชื้อเพื่อยืนยันผลอีกครั้งภายใน 46 ชั่วโมง ซึ่งไม่น่าเกินคืนนี้ก็สามารถทราบผลได้ หากพบว่าเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ก็ต้องมาพิจารณาว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ หรือไข้หวัดใหญ่ธรรมดา หากเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ธรรมดาก็ไม่น่ากังวล แต่หากเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ก็จะมีการตัดสินใจว่าจะให้ยาอย่างไรต่อไป ขณะนี้โรงพยาบาลมีการเตรียมความพร้อมรอบด้าน ไม่อยากให้บุคลากรในโรงพยาบาล รวมทั้งประชาชนทั่วไปวิตกกังวล เพราะจริงๆ แล้วเชื้อดังกล่าวตายง่ายมาก แค่ถูกแสงยูวี หรือความร้อนก็สามารถทำลายเชื้อตัวนี้ได้

    "มาตรการการเฝ้าระวังของประเทศไทยถือ ว่าเข้มแข็งมาก โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข มียาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์สำรองถึง 3.2 ล้านเม็ด และยังไม่มีปัญหาดื้อยา เรื่องนี้จึงไม่ต้องกังวล ขณะที่วัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอก็ยังสามารถใช้กับไวรัสสายพันธุ์นี้ได้ ส่วนที่จะผลิตวัคซีนเฉพาะเพื่อรองรับไวรัสดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้สูง แต่คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน" ศ.น.พ.ยงกล่าว

    ต่อข้อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจริงๆ มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ถึง 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ศ.น.พ.ยง กล่าวว่า ไม่มี ได้รับรายงานเพียงหญิง 1 รายเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด แค่รับดูอาการเพื่อเป็นการป้องกันเท่านั้น

    รศ.น.พ.รัฐพลี กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลมีการเตรียมความพร้อมแล้ว โดยหากมีคนไข้ที่มีไข้สูงกว่า 37.7 องศาเซลเซียส และมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ที่สำคัญมีประวัติเดินทางไปประเทศที่มีการแพร่ระบาดเชื้อภายใน 1 สัป ดาห์ ได้แก่ เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ และแคนาดา แพทย์จะรับตัวเพื่อติดตามอาการ โดยจะแยกไว้ที่ห้องปลอดเชื้อ และนำเชื้อเข้าตรวจห้องปฏิบัติการ หากไม่พบเชื้อก็สามารถกลับบ้านได้

    -จะติดเทอร์โมสแกนทุกสนามบิน

    นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จะมีการออกแถลงการณ์คำเตือนประชาชนฉบับที่ 1 ให้รู้ว่ามีความเสี่ยงในการเดินทางไปประเทศเม็กซิโก บางเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศที่มีการแพร่ระบาด แต่ในช่วงนี้หากไม่จำเป็น ขอให้เลื่อนหรือชะลอการเดินทางไปยังเมืองที่เป็นพื้นที่ที่เกิดการระบาดจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง และหากจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่ระบาด ขอให้เลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอจาม หลีกเลี่ยงการเข้าไปยังสถานที่แออัด พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพื้นที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด ส่วนมาตรการป้องกันไม่ให้โรคแพร่เข้ามาในประเทศไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย.นี้ สธ.จะประสานไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เชิญบริษัททัวร์ทุกแห่งมาประชุมชี้แจงมาตรการการป้องกันโรคที่กรมควบคุมโรค โดยจะขอความร่วมมือให้บริษัททัวร์ตรวจสอบย้อนหลัง 14 วัน ว่ามีนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้หรือไม่ หากมีขอให้บริษัททัวร์ติดตามดูแลนักท่องเที่ยวว่ามีอาการป่วยหรือไม่ หากมีให้แจ้งกระทรวงสาธารณสุขทราบ

    นายวิทยา กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ สธ.ได้ติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ หรือเทอร์โมสแกนเนอร์ เพิ่มอีก 1 ตัว ที่สนามบินนานาชาติเกาะสมุย โดยจะหารือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนเนอร์ให้ครบทุกแห่ง และในวันที่ 29 เม.ย.นี้ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ที่รัฐสภา เวลา 14.00 น. จะเสนอให้มีการขอความร่วมมือทุกสายการบินแจกแบบฟอร์มสอบถามประวัติการเดินทางผู้โดยสารว่าผ่านประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคหรือไม่ หากมีการเดินทางจะจัดเคาน์เตอร์พิเศษในการรองรับผู้โดยสารกลุ่มนี้

    -เผยมีสต๊อกยารองรับ3แสนคน

    ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิทยา ให้สัมภาษณ์ถึงสต๊อกยาทามิฟลูของไทยในขณะนี้ว่า มีพอสำหรับผู้ป่วยไม่น้อยกว่า 3 แสนราย ส่วนมาตรการดูแลป้อง กันนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เชียง ใหม่ และภูเก็ต ซึ่งยังไม่พบความผิดปกติอะไร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงต้องเพิ่มมาตรการป้องกันมากขึ้น โดยจะต้องย้อนประวัติดูว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีชาวเม็กซิโก และสหรัฐ อเมริกาเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยจะต้องมีการสอบประวัติและติดตามดูอาการอีกสักระยะ ทั้งนี้ จะต้องประสานขอข้อมูลกับสำนัก งานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้ง ส่วนบริเวณ ชายแดนนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีรายงานการแพร่ระบาดรอบเขตแดนไทย ดังนั้น บริเวณชายแดนต่างๆ ก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องระมัด ระวังมากขนาดนั้น

    เมื่อถามว่าในส่วนของคนไทยที่จะป้องกันการติดเชื้อจะต้องทำอย่างไรบ้าง นายวิทยา กล่าวว่า ถ้ามีผู้ป่วยเป็นไข้หวัด เบื้องต้นก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ถ้าใครที่สงสัยเพราะไปพบเจอกับชาวอเมริกันหรือชาวเม็กซิกันในช่วงที่ผ่านมา และสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อมา ก็ขอให้แจ้งกับแพทย์ที่ดูแลรักษาอาการ เพื่อจะเข้าสู่ระบบการตรวจสอบ เพราะขณะนี้มีห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ 14 ศูนย์ ที่จะดำเนินการตรวจสอบได้ และก็ยังมีรถตรวจสอบเคลื่อนที่อีก 6 คัน ที่สามารถตรวจหาเชื้อได้ภายใน 4 ชั่วโมง ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่พบเชื้อแพร่ระบาดในประเทศไทย เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้คนไทยเริ่มกลัวการบริโภคเนื้อหมู นายวิทยา กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่ากังวลมากนัก เพราะรายงานขององค์การอนามัยโลก และศูนย์ป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ไม่มีข้อบ่งชี้ว่ามีการแพร่ระบาดจากหมู

    -มาร์คให้เสธ.หนั่นหน.ทีมสู้โรค

    เวลา 12.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมครม.รับทราบการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดูแลปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดเม็กซิโก โดย ครม.เห็นว่าระบบการเฝ้าระวังจะต้องทำในลักษณะที่เชื่อมโยงได้ทุกหน่วยงานอย่างมีเอกภาพ จึงได้มีการมอบหมายให้พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการที่จะดูแลมาตรการการเฝ้าระวัง โดยทำงานประสานกับองค์การอนามัยโลก(WHO) และต่างประเทศ เพราะวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือประเทศที่มีผู้ติดเชื้อควรจะต้องมีมาตรการดูแลป้องกันตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจในเรื่องการดูแลและเฝ้าระวังได้ง่ายขึ้น

    ผู้สื่อข่าวถามว่าองค์การอนามัยโลก เพิ่มระดับของโรคไข้หวัดเม็กซิโกเป็นระดับ 4 รัฐบาลไทยจะเพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังให้เข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย และกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ไว้แล้ว และลักษณะการเฝ้าระวังจะใช้รูปแบบคล้ายกับช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก โดยจะมีคณะกรรมการเป็นผู้ดูแลและมีกระทรวงวิทยาศาสตร์และกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินงานด้วย นอกจากนั้นยังจะประสานกับองค์การอนามัยโลกเพื่อให้มาตรการต่างๆ สามารถดูแลตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งจะทำให้การทำงานง่ายกว่า

    ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องประกาศห้ามประชาชนเดินทางไปประเทศเม็กซิโกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่เราจะให้ข้อมูลต่างอย่างเต็มที่ว่าการระบาดขณะนี้มีที่ไหนอย่างไรบ้าง แต่ผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่พบว่ามีการติดเชื้อและมีการระบาดของโรคนั้นต้องมีการเฝ้าระวัง และเข้าสู่กระบวนการที่เข้มข้นมากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่ามาตรการของรัฐบาลนั้นต้องการให้คนที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีความเชื่อมั่น และตราบเท่าที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศไทย เราก็จะรักษามาตรฐานนี้ไว้เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่ามาประเทศไทยแล้วปลอดภัย

    -ผวาถึงระดับ5-ระบาดข้ามทวีป

    น.พ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะ ฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข จากการที่องค์การอนามัยโลก(WHO) ประกาศยกระดับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่มาจากเม็กซิโก เป็นระดับ 4 ว่า การยกระดับขึ้นเป็นระดับ 4 หมายถึง มีการติดต่อจากคนสู่คนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม-ปัจจุบัน และมีการแพร่ระบาดขยายพื้นที่ในเมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก และชายแดนของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการแพร่ระบาดระดับ 4 ถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด หากควบคุมการระบาดไม่ได้ และขยับระดับเป็นระดับ 5 ซึ่งเป็นการระบาดข้ามทวีป จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก ดังนั้นประเทศต่างๆ จะต้องให้การสนับสนุนในการป้องกันเชื้อไม่ให้มีการแพร่ระบาด

    น.พ.คำนวณ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย หลังจากมีการประกาศยกระดับสถานการณ์ แม้จะยังไม่พบการติดเชื้อในประเทศไทยก็จะต้องใช้มาตรการป้องกันตัวเอง โดยเน้นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อเข้ามาในประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการเดินทางเข้าประเทศ หากพบผู้ต้องสงสัย หรือผู้ป่วย จะต้องสามารถสกัดและควบคุมการแพร่เชื้อให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา โดยในวันที่ 29 เม.ย. จะมีการเรียกประชุม สมาคมนักท่องเที่ยว เพื่อชี้แจงมาตรการการดูแลลูกทัวร์ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเฝ้าระวังหากมีอาการเจ็บป่วย ให้พบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค

    -แฉจังโก้ปิดโรงเรียน-โรงหนัง

    น.พ.คำนวณ กล่าวว่า ขณะนี้เม็กซิโกได้ใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคอย่างเต็มที่ โดยห้ามกิจกรรมการชุมนุมทุกประเภท เช่น โรงภาพยนตร์ การเข้าโบสถ์ ปิดโรงเรียน ป้องกันตัวเองโดยการสวมหน้ากาก และคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางออกอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ WHO มีการประชุมประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา หากพบว่ามีการแพร่ระบาดข้ามทวีปที่ไม่ใช่เป็นการพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อมาจากประเทศเม็กซิโก ก็อาจจะมีการยกระดับสถานการณ์การระบาดเป็นระดับที่ 5 แต่หากไม่พบผู้ป่วยเพิ่มหลังจากพบผู้ป่วยสุดท้ายทิ้งช่วงนาน 2-3 สัปดาห์ อาจมีการลดระดับการระบาดเพราะถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เนื่องจากเชื้อมีระยะการฟักตัว 7-10 วัน

    น.พ.คำนวณ กล่าวว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรคได้เพิ่มการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง จากเดิมที่ใช้คัดกรองผู้ป่วยไข้หวัดนก เป็น 5 ข้อ คือ อยู่ในพื้นที่ที่มีการป่วยตายของสัตว์ปีก มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก ใกล้ชิดสัมผัสผู้ป่วย เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดเม็กซิโก และเป็นบุคลากรทางการแพทย์หรือไม่ หากผู้ป่วยมีประวัติเข้าข่ายนิยามโรคก็จะต้องแยกผู้ป่วยออกจากผู้ป่วยอื่น และส่งเชื้อตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม การรายงานตัวเลขผู้ป่วยของประเทศต่างๆ เช่น สเปน นิวซีแลนด์ ในขณะนี้ยังเป็นเพียงผู้ป่วยต้องสงสัยเท่านั้น เนื่องจากมีอาการไข้หลังจากเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง ซึ่งต้องรอการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นกัน จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก

    -หมอหนั่นสั่งตั้งวอร์รูมรับมือ

    พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาไข้หวัดเม็กซิโก เปิดเผยว่า วันพุธที่ 29 เม.ย. เวลา 14.00 น. ที่อาคารรัฐสภา ตนได้เรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน โดยรวมกันเป็นวอร์รูม การทำงานจะใช้มาตร ฐานเดียวกับการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก เบื้องต้นทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดจากหมู แต่เกิดจากคนไปสู่คน ไม่ใช่หมูมาสู่คน และภายหลังการประชุมตนจะชี้แจงรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ให้ประชาชนทราบเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกกับปัญหานี้

    นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดหมูในประเทศสหรัฐและเม็กซิโก สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอย่างมากนั้น ยืนยันว่าทางสนามบินสุวรรณภูมิ จะยังคงเข้มงวดกับผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้ร่วมมือกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกน (Thermoscan) เพื่อตรวจผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางจากต่างประเทศผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ ได้มีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิที่สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 4 จุด โดยสนามบินสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงประมาณวันละ 8 เที่ยวบิน หรือมีผู้โดยสารเดินทางผ่านเฉลี่ย 2,500-3,000 คน/วัน

    ทั้งนี้ ผู้โดยสารทุกคนจะต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับอุณหภูมินี้ โดยได้มีการกำหนดอุณหภูมิปกติไว้ที่ 36 องศาเซลเซียส และหากพบผู้โดยสารมีอุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนด หน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์จะปรากฏแถบสีแดงขึ้นมาทันที พร้อมกับมีเสียงดังเตือนถึงความผิดปกติ จากนั้นแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขจะตรวจร่างกายเบื้องต้น และซักถามประวัติของผู้โดยสารรายนั้นๆ ก่อนส่งไปตรวจซ้ำที่โรงพยา บาลบำราษฎร์นราดูรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

    -สุวรรณภูมิแจกเอกสารหวัดหมู

    นายเสรีรัตน์ กล่าวต่อว่า ผู้โดยสารที่เดินทางจากต่างประเทศเพื่อเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนกว่า 98% จะผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ แม้ว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะไม่มีเที่ยวบินที่บินตรงจากเมืองที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินไว้ อย่างไรก็ตาม สนามบินสุวรรณ ภูมิ ในฐานะที่เป็นด่านแรกของประเทศไทยที่จะต้อนรับผู้โดยสารจากต่างประเทศที่มีเป็นจำนวนมาก ทางสนามบินสุวรรณภูมิจึงให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันโรคดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและป้องกันโรคไข้หวัดหมูไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศไทย จึงได้มีการตรวจผู้โดยสารระหว่างประเทศทุกคน โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารเดินทางมาจากเมืองที่ WHO ประกาศเตือนไว้ และแวะเปลี่ยนเที่ยวบินที่เมืองอื่นก่อนเข้าสู่ประเทศไทยทาง สนามบินสุวรรณภูมิจะมีการตรวจเข้มเป็นพิเศษ รวมทั้งมีการแจกเอกสารข้อควรปฏิบัติจากกระทรวงสาธารณสุข (Health Beware Card) เพื่อให้ผู้โดยสารได้เฝ้าระวังสุขภาพของตนเองหากภายใน 14 วันหลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ หากพบว่ามีอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น มีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตัว ตัวเหลืองตาเหลือง อุจจาระร่วง ต้องเข้าพบแพทย์ทันที โดยสามารถติดต่อกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-3333

    ทั้งนี้ ทางสนามบินสุวรรณภูมิจะยังคงตรวจเข้มผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดหมูในประเทศไทย

    -ดันไทยเป็นศูนย์กลางต้านโรค

    นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายการ์ดเนอร์ เมอร์เรย์ ประธานองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (โอเออี) ว่า เตรียมเสนอขอความเห็นชอบจากหน่วยงานของรัฐ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้กรมปศุสัตว์กรุงเทพมหานครเป็นที่ตั้งของสำนักงานสาขาของโอเออีในประเทศไทย ตามที่โอเออีเสนอ ก่อนที่จะนำเสนอครม. เพื่อให้ความเห็นชอบในการลงนามต่อไป

    ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ก็ยินดีให้ความร่วมมือกับทางโอเออี ในการจัดตั้งองค์การดังกล่าวขึ้น เนื่องจากเห็นว่าประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เช่น การพัฒนามาตรการที่เหมาะสมในการควบคุม ป้องกัน และกำจัดโรคระบาดสัตว์ รวมถึงการสร้างระบบการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา การรายงานโรคและข้อมูลสุขภาพสัตว์ และข้อกำหนดฉุกเฉินเมื่อเกิดโรคระบาดสัตว์ อีกทั้งยังก่อให้เกิดการพัฒนามาตรฐานของการค้าในสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์ เป็นต้น

    สำหรับประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการตั้งสำนักงานสาขาขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเครือข่ายด้านโรคระบาดสัตว์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาด้านปศุสัตว์ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนในด้านวิชาการ การวิจัย มาตร การควบคุมโรคระบาดสัตว์ การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา การค้าสินค้าปศุสัตว์ และสวัสดิภาพของสัตว์อีกด้วย ขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้นในฐานะประ เทศสมาชิกขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 174 ประเทศทั่วโลก ที่สามารถแสดงถึงการสร้างความเชื่อมั่นของการส่งสินค้าปศุสัตว์ไทยไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ขณะนี้ประเทศไทยมีประเทศญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปเป็นตลาดหลัก

    -สาธารณสุขออกแถลงการณ์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ข้อความว่า เนื่องจากในขณะนี้ได้เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (สายพันธุ์ เอช1 เอ็น1) แพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คน มีผู้ป่วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยปอดบวม และผู้เสียชีวิตกระจายไปมากในหลายเมืองของประเทศเม็กซิโก และจากข้อมูลองค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 27 เม.ย. 2552 มีผู้ป่วยที่มีผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการในเม็กซิโก 28 ราย ในสหรัฐอเมริกา 40 ราย แต่ผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรงและไม่มีผู้เสียชีวิต โดยพบผู้ป่วยใน 5 มลรัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย 7 ราย เท็กซัส 2 ราย นิวยอร์ก 28 ราย แคนซัส 2 ราย และโอไฮโอ 1 ราย นอกจากนั้นยังพบผู้ป่วยติดเชื้อหลังกลับจากเม็กซิโกในแคนาดา สเปน และสกอตแลนด์

    เนื่องจากปัจจุบันโรคติดเชื้อต่างๆ สามารถแพร่ระบาดระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อนี้เข้ามาในประเทศ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ดำเนินมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มระดับความเข้มข้นของการเฝ้าระวังผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ ร่วมกับการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการ การรักษาพยาบาลผู้ป่วย การสำรองยาต้านไวรัส เวชภัณฑ์ต่างๆ และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ และการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ผู้เดินทางที่สนามบินนานาชาติ โดยแจกบัตรเตือนเรื่องสุขภาพ และวัดไข้ด้วยเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ สำหรับการป้องกันโรคนี้ กระทรวงสาธารณสุขขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตน ดังนี้

    -แนะหลีกเลี่ยงไปประเทศระบาด

    1. หากไม่จำเป็น ควรเลื่อนหรือชะลอการเดินทางไปยังประเทศที่เป็นพื้นที่เกิดการระบาดจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง 2. หากจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่เกิดการระบาด ให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ หรือเช็ดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางการในพื้นที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด 3. ผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เกิดการระบาด ถ้ามีอาการของไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยเนื้อตัวมาก ฯลฯ ภายใน 7 วันหลังจากเดินทางกลับ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้กระดาษทิชชู หรือผ้าเช็ดหน้าปิดปากจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างเข้มงวด 4. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดย 4.1 รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ดื่มน้ำสะอาดและนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และสุรา 4.2 หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการไอ จาม 4.3 หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ภายในบ้านหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน ต้องรีบแจ้งสำนักงานสาธารณสุขหรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อเข้าดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดทันที หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค หมายเลข 0-2590-3333 และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 28 เม.ย. 2552

    -อนามัยชี้หวัดหมูลามโลกแน่

    ความคืบหน้าไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ หรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกระบาดในต่างประเทศ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ปรับระดับความรุนแรงการแพร่ระบาดของโรคจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 หมายถึงสภาวะที่เชื้อมีการติดต่อจาก "คนสู่คน" และแพร่ระบาดในชุมชนอย่างต่อเนื่อง

    ดร.เคอิจิ ฟุคุดะ รองผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ขณะนี้สายเกินไปแล้วที่จะพยายามควบคุมไม่ให้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดออกนอกเม็กซิโก ดังนั้น ประเทศต่างๆ จึงควรให้ความสำคัญกับการวางแผนป้องกันผลกระทบให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด

    "ยังพอมีทางที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะไม่กลายเป็นโรคระบาดลามทั่วโลก เพียงแต่นานาประเทศต้องช่วยกันออกมาตรการป้องกันไม่ให้ประชาชนติดเชื้อ ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้แนะนำให้ใช้มาตรการปิดพรมแดนหรือจำกัดการเดินทาง เพราะไวรัสสามารถลอยไปตามอากาศได้อย่างอิสระ ในยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งผู้คนทั่วโลกขึ้นเครื่องบินไปสู่จุดหมายได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ไม่มีภูมิภาคใดจะรอดพ้นการระบาดของไวรัสไปได้" ดร.ฟุคุดะ กล่าว

    - เม็กซิโกตาย152-ห้ามจูบกัน

    รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ล่าสุด องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญออกจากกรุงโรมลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริงบริเวณฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในเม็กซิโก ภายหลังมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าเป็นจุดแรกที่พบผู้ติดเชื้อ เพื่อดูว่าต้นตอการระบาดครั้งนี้เป็นเพราะมีคนไปสัมผัสติดไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกโดยตรงจากหมูจริงหรือไม่ ก่อนเชื้อจะเริ่มแพร่ระบาดในลักษณะคนสู่คน

    วันเดียวกัน ที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ นายโฮเซ แอง เจล คอร์โดวา รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโก แถลงว่า ยอดผู้ติดเชื้อและคาดว่าติดเชื้อมีประมาณ 1,600 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตและต้องสงสัยว่าเสียชีวิตเพราะติดโรคเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 152 ราย แต่ในจำนวนนี้พิสูจน์ชัดว่าตายเพราะโรคดังกล่าวในเบื้องต้นแค่ 20 ราย ทางการยังสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศไปจนถึงวันที่ 6 พ.ค. ประกาศห้ามประชาชนจูบทักทายกัน รวมทั้งกำลังพิจารณาว่าจะปิดระบบขนส่งมวลชนชั่วคราวหรือไม่ และมีข่าวว่ากลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสที่คนเม็กซิโกแตกตื่นสวมหน้ากากป้องกันเชื้อโรค แสร้งสวมหน้ากากปิดหน้าปิดตาทำทีเข้าไปดูนาฬิกาหรูในแผนกอัญมณีของห้างสรรพสินค้าซานบอร์ส จากนั้นใช้อาวุธปืนปล้นนาฬิกาไปหลายเรือนก่อนหลบหนีไปโดยที่ทั้งพนักงาน รวมทั้งกล้องวงจรปิดมองไม่เห็นหน้าคนร้าย

    -เกาหลีสงสัยมีคนติดเชื้อแล้ว

    สำนักข่าวเอพีและบีบีซีสรุปสถานการณ์ไข้หวัดเม็กซิโกในประเทศอื่นๆ ว่า กลุ่มพบผู้ติดเชื้อแน่นอนแล้ว ประกอบด้วย สหรัฐติดเชื้อ 50 รายกระจายอยู่ในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย แคนซัส เท็กซัส และโอไฮโอ ตามด้วยแคนาดา 6 ราย นิวซีแลนด์ 3 ราย อังกฤษ 2 ราย สเปน 1 ราย อิสราเอล 1 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากเม็กซิโก ขณะที่ประเทศในกลุ่มพบผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดเชื้อและรอผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ฝรั่งเศส บราซิล เปรู กัวเตมาลา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้

    สำหรับข่าวไข้หวัดเม็กซิโกในทวีปเอเชีย ศูนย์ควบคุมโรคเกาหลีใต้แถลงว่า ผลตรวจร่างกายสตรีวัย 51 ปี ซึ่งเพิ่งกลับจากเม็กซิโกพบว่าอาจติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโก แต่ต้องรอการตรวจวิเคราะห์โดยละเอียดขั้นสุดท้ายอีกครั้ง และทางการยังนำตัวผู้โดยสารพร้อมลูกเรือ 300 กว่าคนบนเครื่องบินลำเดียวกับสตรีรายนี้มาตรวจด้วย ส่วนที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ รัฐบาลสั่งตั้งกล้องตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางถึงสนามบินและประกาศขอความร่วมมือในหมู่ประชาชนว่าอย่ากอดจูบหรือสัมผัสกันในที่สาธารณะ

    -อาเซียนแนะบัญญัติ10ประการ

    ดร.หยวน กว็อกยัง หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยฮ่องกง หนึ่งในนักจุลชีววิทยาแถวหน้าของฮ่องกง เตือนว่า มีแนวโน้มสูงที่โลกกำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นของการระบาดครั้งใหญ่ เพราะเมื่อดูจากสถิติผู้ป่วยเฉพาะในสหรัฐจะพบว่าเป็นการติดเชื้อจากคนสู่คนชัดเจน ไม่ได้เกิดจากการสัมผัสพาหะนำโรคหรือหมูโดยตรง แสดงว่าเชื้อติดต่อแบบคนสู่คนง่ายมาก อย่างไรก็ตาม ไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกนี้เท่าที่ตามดูข้อมูลเชื่อว่าไม่ร้ายแรงถึงชีวิตเหมือนไวรัสโรคไข้หวัดนกในคน

    ด้านคณะทำงานด้านสุขภาพ สำนักงานเลขาธิการอาเซียน ออกบัญญัติคำแนะนำ 10 ประการ เลี่ยงการติดเชื้อและแพร่เชื้อไข้หวัดเม็กซิโก รวมถึงโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ดังนี้ (1.) ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดมือให้แห้ง หากไม่มีน้ำ ให้ใช้กระดาษเช็ดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ หรือเจลล้างมือ (2.) เลี่ยงการใช้มือสัมผัสตา จมูก หรือปาก เพราะมืออาจจับต้องสิ่งของที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่ปนเปื้อนอยู่ (3.) เลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย เลี่ยงสัมผัสมือหรือจูบกับผู้อื่นในพื้นที่ที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาด (4.) หากป่วยควรพักอยู่บ้าน เลี่ยงสถานที่มีคนหนาแน่น ป้องกันแพร่เชื้อให้ผู้อื่น

    (5.) หากไอหรือจาม ควรใช้กระดาษชำระปิด ปากและจมูก แล้วทิ้งในถังขยะให้เรียบร้อย หากไม่มี ควรไอหรือจามกับแขนเสื้อ อย่าใช้มือ เพราะเชื้อจะแพร่จากมือไปสู่ผู้อื่นได้ หากเป็นไปได้ควรสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันการแพร่เชื้อ (6.) หากป่วยควรอยู่ห่างจากผู้อื่น (7.) ฝึกนิสัยเพื่อการมีสุขภาพแข็งแรง ได้แก่ งดบุหรี่ นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมความเครียด ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ (8.) พบแพทย์หากมีสัญ ญาณของการป่วยหนัก เช่น หายใจลำบาก อาเจียนรุนแรง (9.) หากป่วยควรเลี่ยงการเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะ หากป่วยหลังเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาดต้องไปพบแพทย์ และ (10.) ติดตามข่าวสารและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอ

    -เขียงหมูอยุธยาขายไม่ออก

    สำหรับความเคลื่อนไหวตามจังหวัดต่างๆ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนคร ศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้สั่งให้ปศุสัตว์ จ.พระนคร ศรีอยุธยา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันตรวจสอบโรงฆ่าสัตว์ทุกแห่งในพื้นที่รับผิดชอบว่ามีการปฏิบัติตามมาตรฐานตามที่ขอรับใบอนุญาต และตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์และกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ ทั้งนี้ เน้นให้ทุกภาคส่วน เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดเจ้าหน้าที่ออกชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะตามตลาดสดต่างๆ ทั้ง 16 อำเภอ ถึงลักษณะโรค การแพร่ระบาดโรค การป้องกันโรค เพื่อป้องกันและไม่ทำให้ชาวบ้านเกิดความตื่นตระหนกตามกระแสข่าว

    สำหรับบรรยากาศการค้าขายในตลาดสด โดยเฉพาะเนื้อหมู พบว่าประชาชนผู้บริโภคเริ่มตื่นตระหนกไปกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นถึงอันตรายของโรคดังกล่าว เช่น ตลาดสดเจ้าพรหม อ.พระนครศรีอยุธยา ตลาดสดแกรนด์ อ.อุทัย ตลาดประตูน้ำพระอินทร์ อ.บางปะอิน ซึ่งกระแสข่าวไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโก หรือไข้หวัดหมู ที่เกิดขึ้นในแถบประเทศอเมริกากลาง ทำให้หมูสดตามเขียงหมูต่างๆ เริ่มที่จะขายไม่ออก เนื่องจากประชาชนในไทยเกรงว่าหากบริโภคหมู อาจจะทำให้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโกได้

    -หันไปกินไก่-ปลาแทน

    ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจับจ่ายเลือกซื้อเนื้อหมูภายในตลาดสดแม่กิมเฮง เขตเทศบาลนครนครราชสีมาว่า บรรยากาศตามเขียงหมูต่างๆ เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่คอยมีประชาชนออกมาเลือกซื้อเนื้อหมูไปรับประทานเหมือนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สาเหตุหลักน่าจะมาจากราคาหมูที่แพงและการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมู ส่งผลให้ขณะนี้ยอดจำหน่ายหมูตามเขียงหมูต่างๆ ตกลงกว่าร้อยละ 50

    ด้านนางภัทรดร ไกรวัฒนา อายุ 59 ปี แม่ค้าขายหมูภายในตลาดสดแม่กิมเฮง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากที่เนื้อหมูมีการปรับราคาสูงขึ้น ยอดจำหน่ายเนื้อหมูที่ร้านของตนเองก็ตกอยู่แล้ว พอมามีกระแสข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูอีก ยิ่งทำให้ยอดจำหน่ายหมูของร้านตนเองมียอดตกลงไปอีกถึงร้อย 50-70 ส่งผลให้ตนเองจำเป็นต้องลดปริมาณการสั่งเนื้อหมูมาจำหน่ายลง เพื่อไม่ต้องการให้ขาดทุนหรือมีเนื้อหมูเหลือ ส่วนประชาชนที่มาเลือกซื้อเนื้อนั้นมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมที่เคยซื้อเป็นกิโลกรัม เปลี่ยนมาซื้อทีละครึ่งกิโลกรัม และเป็นขีดแทน บางรายหันไปซื้อปลา ไก่ ไปรับประทานแทน

    -ตรวจเข้มด่านกักสัตว์44แห่ง

    ที่จ.หนองคาย น.พ.อิทธิพล สูงแข็ง นาย แพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ออกรณรงค์แจกจ่ายเอกสารประชาสัม พันธ์เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ที่กำลังระบาดในต่างประเทศ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย ได้จัดพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับการให้ข้อมูลความรู้ความเข้าใจโรคดังกล่าว นำออกมาแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดินทางเข้าออกด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว และตามจุดผ่อนปรนอีก 6 จุดในพื้นที่ จ.หนองคาย ให้ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง

    ขณะที่ดร.นิรันดร เอื้องตระกูลสุข ผู้อำนวยการสำนักควบคุมโรคระบาดสัตว์ กรมปศุสัตว์ พร้อมคณะออกติดตามการดำเนินงานในการควบคุมโรคระบาดสัตว์ ตามแนวชายแดน ที่จ.หนองคาย เพื่อเตรียมรับสถานการณ์หากเกิดโรคระบาด เน้นประชาชนอย่าตระหนกโรคระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก

    ดร.นิรันดร เปิดเผยว่า ทางกรมปศุสัตว์ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะด่านกักกันสัตว์ระหว่างประเทศที่มีอยู่จำนวน 44 ด่านทั่วประเทศ ให้เข้มงวดในเรื่องของโรคต่างๆ ที่มาจากสัตว์ และโรคอื่นๆ ที่ติดต่อมาถึงคนได้

    -คนเขมรก็ผวา-เลิกกินหมู

    ที่ตลาดศูนย์การค้าจังหวัดกำแพงเพชร นายวันชัย สุทิน ผวจ.กำแพงเพชร ร่วมกับน.พ.ณัฐพร วงศ์สุทธิภากรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร และนายอัมพล ไพรสุวรรณา ปศุสัตว์จังหวัดกำแพงเพชร ร่วมตรวจแผงจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละที่มีอยู่เป็นจำนวนมากภายในตลาดแห่งนี้

    พ่อค้าแม่ค้าเนื้อสุกร กล่าวว่า ส่วนใหญ่ทราบข่าวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และผู้บริโภคยังไม่เกิดความหวั่นวิตกมากเกินไปนัก มีการค้าขายตามปกติ แม้ยอดซื้อจะลดลงกว่าเดิมลงมาบ้าง น่าจะเป็นสาเหตุที่เกิดจากราคาเนื้อสุกรจากฟาร์มที่มีราคาแพงขึ้น ทำให้เนื้อสุกรชำแหละมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งราคาในวันนี้อยู่ที่ เนื้อหมูแดง กิโลกรัมละ 120 บาท ปนมัน 100 บาท สามชั้น 100 บาท มันแข็ง 60 บาท และมันเปลวราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท เศรษฐกิจในขณะนี้ไม่ค่อยจะดีด้วย

    ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่มีการเปิดตลาดนัดจำหน่ายสินค้าที่บริเวณตลาดไทย ซึ่งอยู่ในเขตแดนของประเทศไทย ปรากฏว่าชาวกัมพูชาแห่เข้ามาหาซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคฝั่งไทยกันอย่างคึกคัก แต่หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูไปทั่วโลก ทำให้ชาวกัมพูชาไม่กล้าที่จะซื้อเนื้อหมูไปทำเป็นอาหารรับประทาน แต่ซื้อเนื้อวัว ไก่และปลาแทน ซึ่งพ่อค้าชาวไทยที่นำเนื้อหมูมาขายประจำในตลาดนัดจำนวน 5 ร้าน ได้งดการจำหน่ายเนื้อหมูไปแล้ว

    -มข.เปิดศูนย์ตรวจไข้หวัด

    ที่จ.ปทุมธานี นายปรีชา บุตรศรี ผวจ.ปทุม ธานี พร้อมด้วยนายโชคชัย เดชมรธัญ นายอำเภอเมืองปทุมธานี และนายเมธี เกตุอดิศร ปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจเยี่ยมฟาร์มเลี้ยงหมู ชื่อปทุมรัฐฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ 48/6 หมู่ 2 ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี

    นายปรีชากล่าวว่า ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดออกตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของฟาร์มเลี้ยงหมูต่างๆในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีอยู่ถึง 40 ฟาร์ม ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด สำหรับที่ปทุมรัฐฟาร์ม ที่ได้เข้ามาตรวจเยี่ยมดูแลสภาพของฟาร์มซึ่งอยู่ในขั้นมาตรฐาน มีระบบความเข้มงวดกับบุคคลเข้า-ออก ต้องใส่เสื้อคลุม ใส่รองเท้าบู๊ต มีน้ำยาล้างให้ถูกสุขลักษณะ

    ที่จ.ขอนแก่น รศ.ภูมิภักดิ์ พิทักษ์เขื่อนขันธ์ ผอ.สำนักบริหารการวิจัย ม.ขอนแก่น รศ.ดร. กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ม.ขอนแก่น รศ. น.พ.บุญส่ง พจนสุนทร อาจารย์ภาควิชาอายุร ศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ไข้หวัดเม็กซิโก โดยรศ.ดร.กิตติชัยกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ควรประมาท เพราะมีโอกาสแพร่กระจายสู่ไทยได้ เนื่องจากโรคไข้หวัดเม็กซิโกเป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ ทำให้โรคนี้มีการแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว และการควบคุมป้องกันโรคกระทำได้ยากมาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยศูนย์วิจัยและบริการตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อระบาดใหม่ ตระหนักถึงศักยภาพในการติดต่อและแพร่กระจายของโรคไข้หวัดเม็กซิโกจากหมูสู่คนและผลกระทบความเจ็บป่วยและทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหากมีการแพร่ระบาด จึงได้เปิดบริการการตรวจวินิจฉัยการติดไข้หวัดเม็กซิโกสายพันธุ์ใหม่ทางห้องปฏิบัติการขึ้นทั้งในคนและหมู โดยการตรวจวินิจฉัยนี้สามารถที่จะรายงานผลได้ภายใน 48 ชั่วโมง หลังได้รับตัวอย่างที่ตรวจ โดยจะเริ่มให้บริการผู้ป่วยได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2552 เป็นต้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

    -หมอแนะกินร้อน-ช้อนกลาง

    นายวิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขเลย กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจึงหวัดเลย ขอคำแนะนำในการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ดังนี้ ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จะได้มีภูมิคุ้มกันโรคได้ดีที่สุด กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ให้กินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลางเมื่อกินกันหลายคน และให้ล้างมือบ่อยๆ จะได้ไม่นำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะ ก่อน-หลังรับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ?ห้องส้วม หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัด มีคนแน่นเกินไป ผู้ที่มีอาการเป็นไข้คล้ายหวัด ให้ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลโดยเร็ว และจะต้องสวมผ้าปิดปากปิดจมูก รวมทั้งผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการดังกล่าว ต้องสวมผ้าปิดปากปิดจมูกด้วย ช่วยกันเฝ้าระวัง หากมีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศหรือแหล่งที่ได้ประกาศว่าพบโรคนี้ ให้แจ้งอสม.เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อร่วมกันเฝ้าระวังบุคคลดังกล่าวและคนใกล้ชิด หากมีอาการไข้ ไอ จะได้ให้การรักษาโดยเร็ว

    -บินไทยวางมาตรการรับมือ

    พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักเลขานุการรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบิน ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤต เป็นผู้รับผิดชอบในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก และประสานงานหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก โดยในส่วนของหน่วยงานภายใน ประสานให้แต่ละฝ่ายดำเนินการตามมาตรการ และประสานกับหน่วยงานภายนอกในการติดตามการออกมาตรการจากภาครัฐบาล เพื่อนำมาตรการมาดำเนินการปฏิบัติ รวมทั้งสรุปรายงานผลการดำเนินการให้ฝ่ายบริหารรับทราบ

    สำหรับมาตรการหลักของการบินไทยจะคำนึงถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสารและการดำเนินการด้านสุขลักษณะ เพื่อให้มีการรักษาความสะอาดสูงสุด ในการให้บริการทั้งบนเครื่องบินและการบริการภาคพื้นดิน โดยมาตรการต่างๆ จะเป็นมาตรการใกล้เคียงกับที่เคยใช้ปฏิบัติในคราวที่เกิดโรคระบาดซาร์ส เมื่อปี พ.ศ. 2546 และโรคระบาดไข้หวัดนก ในปี พ.ศ. 2547 ได้แก่ มาตรการในการคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก และมาตรการการรักษาความสะอาดในห้องผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทั้งด้านอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการบริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งได้ผลดีและได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก อนึ่ง ฝ่ายครัวการบินไทย ได้นำโครงการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ตามมาตรฐานคุณภาพ โดยระบบ Good Agricultural Practice มาใช้ในการคัดเลือกวัตถุดิบในการผลิตอาหารของครัวการบินไทย จึงมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารได้รับการรับรองด้านสุขอนามัย นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประสานกับกรมปศุสัตว์อย่างใกล้ชิดในการกำหนดมาตรการขนส่งหมู และผลิตภัณฑ์จากหมู เพื่อความแน่ใจในความสะอาด ก่อนที่จะนำมาบริการให้แก่ผู้โดยสาร

    ไต่สวนคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน "ลอร์ด ออฟ วอร์"

    <STYLE>P { MARGIN: 0px}</STYLE>เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่ห้องพิจารณาคดี 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานคดีหมายเลขดำที่ อผ.3 /2551 ที่อัยการฝ่ายต่างประเทศ เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องขอส่งตัว นายวิคเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท ( Viktor Bout ) หรือบอริส ( Boris ) หรือ วิคเตอร์ บัท ( Viktor But หรือ Viktor Budd ) หรือวิคเตอร์ บูลาคิน ( Viktor Bulakin ) หรือวาดิม มาโควิช อมินอฟ ( Vadim Markovich Aminov ) สัญชาติรัสเซีย อดีตเคจีบี ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามระดับโลก เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
    โดยการสืบพยานพยานในวันนี้ ศาลได้เรียกนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ มาเป็นพยานเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อกฎหมายอนุสัญญาภาคีต่างประเทศ ซึ่งศาลได้อธิบายให้โจทก์ –จำเลย ฟังว่า พยานดังกล่าวเป็นส่วนที่ศาลได้รียกมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน ตามที่ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 กฎหมายฉบับใหม่ที่ออกมาบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2551 ให้อำนาจศาลเรียกพยานมาสอบถามเพิ่มเติมได้ โดยนายวีระศักดิ์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตอบคำถามศาลเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามอนุสัญญาต่างประเทศว่า การขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ทางการสหรัฐ ยื่นคำร้องขอมานั้น เป็นการปฏิบัติตามสนธิสัญญาซึ่งไทย รัสเซีย และสหรัฐ ต่างก็เป็นสมาชิกในสหประชาชาติ ส่วนการจะมีภาระผูกพันต่อการปฏิบัติอนุสัญญาหรือไม่ ก็ต้องดูว่าได้มีลงนามเป็นภาคีในอนุสัญญาแล้วหรือไม่ ถ้ายังไม่เซ็นต์ก็ยังไม่มีผลการบังคับ
    ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยการก่อการร้าย ปี ค.ศ.1949 มีการลงนามไว้อย่างไร นั้นนายวีระศักดิ์ กล่าวว่า จะขอทำหนังสือแจ้งรายละเอียดส่งให้ศาลภายหลัง เมื่อศาลถามว่าแล้วในต่างประเทศมีกฎหมายต่อวิธีการปฏิบัติที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างไร นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ตัวอย่างในประเทศสหรัฐ ฯ แคนาดา และประชาคมยุโรป หรืออียู ส่วนใหญ่มีกฎหมายภายในประเทศเกี่ยวกับการก่อการร้าย ส่วนประเทศรัสเซีย จะเป็นอย่างไรพยานไม่ทราบ
    สำหรับองค์กรก่อการร้ายที่สหรัฐ ฯ ระบุในคำร้องเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนคดีนี้ พยานก็เคยได้ยินชื่อกลุ่ม FARC ว่าเป็นขบวนการติดอาวุธอยู่ในประเทศโคลัมเบีย แต่ทั้งนี้กลุ่ม FARC ดังกล่าวจะมีชื่อเป็นองค์กรก่อการร้ายหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับภาคีอนุสัญญาว่าระบุอย่างไร แต่ทราบว่าในประเทศสหรัฐ แคนาดา และประชาคมยุโรป ระบุชื่อ FARC เป็นองค์กรก่อการร้าย
    เมื่อศาลถามว่า ก่อนหน้านี้สื่อ ได้ใช้ชื่อกลุ่ม FARC ว่า เป็นกบฏและค้ายาเสพติด นั้นถูกต้องหรือไม่ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าสหประชาชาติ ระบุให้กลุ่มFARC เป็นองค์กรก่อการร้ายหรือไม่ และเมื่อศาลถามถึงกรณีที่มีสื่อต่างประเทศและทางการรัสเซีย กล่าวถึงการพิจารณาคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน นายวีระศักดิ์ ตอบศาลว่า ทางการไทย ได้ชี้แจงแล้วว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปฏิบัติตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม ซึ่งการพิจารณาคำร้องขอดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยในส่วนของศาล ที่ให้เป็นดุลยพินิจผู้พิพากษาในการพิจารณา โดยที่รัฐบาลไทย และการเมืองไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงศาล ซึ่งทั้งประเทศไทย สหรัฐ และรัสเซีย ควรต้องเคารพการอำนาจอธิปไตยและใช้ดุลยพินิจของศาลที่จะมีคำตัดสินต่อไป โดยไม่อาศัยการพิจารณาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    เมื่อศาลถามย้ำว่า การซื้อค้าอาวุธสงคราม เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ นายวีระศักดิ์ ตอบว่า ขึ้นอยู่กับลักษณะผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งโดยทั่วไปการซื้อขายอาวุธโดยรัฐบาลจะเป็นไปตามข้อปฏิบัติทางการที่กำหนดขึ้น
    ภายหลังนายวีระศักดิ์ เบิกความเสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดสืบพยานที่ได้ออกหมายเรียกมาสอบถามเพิ่มเติมอีกในส่วนของ นายวีรชัย พลาศรัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ในวันที่ 19 พฤษภาคม นี้ เวลา 09.00 น.
    ขณะที่นายวีระศักด์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวย้ำถึงคำเบิกความในวันนี้ว่า ตนได้เบิกความ ในประเด็นกว้างๆ ที่ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมาย เนื่องจากตนไม่ได้มีส่วนในการพิจารณาคำร้องคดีนี้ตั้งแต่ต้น แต่ทั้งนี้จะได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยการก่อการร้าย และอื่นๆ ให้ศาลทราบภายหลังโดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนความเห็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และหลักปฏิบัติการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามอนุสัญญา ฯ อธิบดีกรมสนธิสัญญา ฯ จะเป็นผู้เบิกความให้ศาลทราบต่อไป

    นปช.โชว์คลิปอ้างทนายพธม.ยั่วยุม็อบเพชรบุรีซ.5-7

    <STYLE>P { MARGIN: 0px}</STYLE>เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นำโดยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย น.พ.เหวง โตจิราการ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ร่วมแถลงข่าว โดยนายสมยศ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมาอย่างไม่เป็นไปตามหลักสากล ทำให้เกิดความรุนแรง นปช.ได้รวบรวมภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ปรากฎว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่ถนนเพชรบุรี ซอย 5 และซอย 7 มีกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวในกลุ่มพันธมิตรฯปรากฎอยู่ โดยมีภาพชัดเจนว่านายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯได้เข้าไปควบคุมกลุ่มวัยรุ่นบริเวณดังกล่าว ให้มีการทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯไปอยู่บริเวณนั้น จึงน่าเชื่อว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเกิดจากการพยายามสร้างสถานการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯร่วมด้วย
    นายสมยศ กล่าวอีกว่า และเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้นปช.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ให้รัฐบาลสนับสนุนการผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือคปพร. 2.ให้รัฐบาลยุติการกระทำที่เป็น 2 มาตรฐานทุกกรณี ยุติการคุกคามและใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มบุคคลที่แสดงออกถึงสิทธิเสรีภาพโดยเปิดเผย 3.ให้หลักประกันเสรีภาพของสื่อสารมวลชน โดยให้นำอุปกรณ์และทรัพย์สินที่ยึดไปจากสถานีโทรทัศน์ดี สเตชั่น วิทยุชุมชนอย่างไม่มีเงื่อนไข และ4.ขอให้รัฐบาลสนับสนุนและหลักประกันในสิทธิการรวมตัวและเคลื่อนไหว โดยไม่มีการแทรกแซง ให้ใช้สถานที่ราชการในการชุมนุม และยุติการใช้วิธีสกปรกแทรกแซงการชุมนุม
    นายสมยศ กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ขอยกเลิกจัดชุมนุมที่จ.อุดรธานี เนื่องจากนายขวัญชัย ไพรพนา ถูกคุกคาม โดยจะจัดวันที่ 9 พ.ค. จะยังมีการชุมนุมใหญ่ที่วงเวียนพระนารายณ์ จ.ลพบุรี ตั้งแต่เวลา 17.00 น.- 22.00 น. อย่างแน่นอน
    นายจรัล กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่ถนนเพชรบุรีซอย 5 แ ละ 7 นั้น มีส.ส.มุสลิมของพรรคประชาธิปัตย์พยายามสร้างข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไปเผามัสยิด ทำให้เป็นเรื่องส่งหนังสือไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้เป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต ทั้งที่จริงๆแล้วเป็นเพียงว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นมุสลิมจะเข้าไปละหมาดเท่านั้น ไม่ได้จะเข้าไปเผา หรือทำลายมัสยิด คนเสื้อแดงไม่โง่ขนาดนั้น แต่ก็เข้าใจได้เพราะคนแถวถนนเพชรบุรี และนางเลิ้งเป็นคนที่ฝักใฝ่กับกลุ่มพันธมิตรและพรรคประชาธิปัตย์
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว ได้เปิดคลิปวีดีโอเหตุการณ์ความวุ่นวายบริเวณถนนเพชรบุรี ซอย 5 และ 7 โดยมีภาพนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มหัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
     
  6. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6727 ข่าวสดรายวัน


    ร้าง





    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ร้านอาหารในกรุงเม็กซิโกซิตี เมืองหลวงเม็กซิโก ร้างสนิทมีลูกค้าอยู่แค่โต๊ะเดียว หลังเกิดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาด ประชาชนจำนวนมากไม่กล้าออกจากบ้าน และหลีกเลี่ยงการอยู่ในแหล่งชุมนุมชน เมื่อ 29 เม.ย. (เอพี)

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]




    กทม.แจก1แสนชิ้น หน้ากาก สาวไทยไม่หวัดหมู

    หมอรพ.จุฬาแถลงยืนยัน บินไทย-ฉีดฆ่าเชื้อเครื่อง มะกันตายแล้ว-ลามเบียร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    โล่งอก- คณะแพทย์ร.พ.จุฬาฯ แถลงข่าวอาการผู้ป่วยที่เฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เม็ก ซิโก ที่ห้องประชุม ตึกสก. ว่า ผู้ป่วยหญิงที่เฝ้าระวัง แคˆเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดาเท่า นั้น เมื่อวันที่ 29 เม.ย.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ไทยโล่งอกผลการตรวจรักษาสาว ไทย ที่บินไปเม็กซิโกติดเชื้อกลับมา หมอโรงพยาบาลจุฬาฯแถลงผลตรวจพิสูจน์ไม่ใช่ไข้หวัดหมู แค่หวัดธรรมดา อีก 2-3 วันก็ให้กลับบ้านได้ สาธารณสุขพร้อมรับคนไทยในเม็กซิโกกลับ เบื้องต้นส่งหน้ากากป้องกันเชื้อไปให้ 5 พันชุด ขณะที่กทม.รับมือเชื้อโรคพันธุ์ใหม่ รณรงค์แจกหน้ากาก 1 แสนชิ้นให้แท็กซี่-นักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยง เผยเชื้อยังลาม มะกันมีตายแล้ว 1 ศพ ขณะที่เยอรมนีติดเชื้อ 3 คน อียิปต์ผวา รมว.สาธารณสุขสั่งฆ่าหมูทั่วประเทศ 2.5 แสนตัว

    -โล่งอก-สาวไทยหวัดธรรมดา

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่ ร.พ. จุฬาลงกรณ์ ศ.น.พ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก กล่าวว่า ผลการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการของผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในเม็กซิโก ที่เป็นหญิงวัย 42 ปี ที่เดินทางไปยังประเทศเม็กซิโกระหว่างวันที่ 3-11 เม.ย.และไปแคลิฟอร์เนียจนวันที่ 19 เม.ย.จึง กลับมาถึงประเทศไทย และเริ่มมีอาการไข้ จนได้เดินทางมาโรงพยาบาลจุฬาฯ ในวันที่ 28 เม.ย. โรงพยาบาลได้ตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง พบว่า หญิงรายดังกล่าวมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 เท่านั้น ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในเม็ก ซิโกแต่อย่างใด

    ศ.น.พ.ยง กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากแหล่งใด เนื่องจากช่วงระยะเวลาฟักตัวของเชื้อ หญิงดังกล่าวอาจอยู่ในไทยหรืออาจติดจากบนเครื่องบิน ซึ่งไข้หวัดใหญ่ที่ตรวจพบเป็นสายพันธุ์ที่มีอยู่ทุกประเทศอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่มีการเปิดเผยช้า เนื่องจากรอผลการยืนยันจากห้องปฏิบัติการอย่างเป็นทางการที่เพิ่งทราบผลเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 29 เม.ย. สำหรับผู้ป่วยรายนี้ ขณะนี้ไม่มีอาการไข้ อาการเป็นปกติดี คาดว่าจะกลับบ้านในเร็วๆ นี้

    ศ.น.พ.ยง กล่าวว่า ไม่มีใครจะทราบได้เลยว่า เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ในคน ไข้หวัดใหญ่ในหมู และไข้หวัดนกจะรวมกันหรือไม่ แต่ตามหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ก็สามารถเป็นไปได้ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่มีใครทราบและยังไม่เกิดขึ้นด้วย อีกทั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก มีการกลายพันธุ์เป็นปกติอยู่แล้ว แต่เปลี่ยนแปลงแบบทีละเล็กละน้อย อย่างไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 ที่มีอยู่ในไทย 4 ปี ก็พบว่ามีการกลายพันธุ์ แต่ก็มีเรื่อยๆ เป็นไปตามพัฒนาการ ซึ่งต้องเฝ้าระวัง

    -สั่งกระจายยาต้านไวรัสทุกร.พ.

    เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรม รามา การ์เด้นส์ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวในการเปิดประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ทั่วประเทศว่า กรณีหญิงสาวชาวไทยวัย 42 ปี ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโกซึ่งเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขณะนี้ผลการตรวจวิเคราะห์เชื้อจากห้องปฏิบัติการยืนยัน ว่าไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก หากในอนาคตมีการประกาศพบผู้ป่วยในประเทศไทย แสดงว่ามาตรการป้องกันโรคไม่ให้เข้าประเทศไทยล้มเหลว จะต้องเริ่มมาตรการที่ 2 ทันทีนั่นคือ การสืบหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็วว่าอยู่ที่ไหน โดยที่สสจ.และโรงพยาบาลทุกแห่งจะต้องรับผู้ป่วย โรคหวัดทุกคนที่เข้ารับการรักษาทันที ไม่มีสิทธิปฏิเสธการรับผู้ป่วยแล้วให้ไปรับการรักษาที่หน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ จากนั้นนำผู้ป่วยเข้ามาตรการคัดกรองโรคและยืนยันเชื้อทันที โดยนับตั้งแต่วันเดียวกันนี้ สสจ. ทั่วประเทศ จะต้องเร่งกระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ทุกแห่ง และหากพบว่าพื้นที่ไหนยังไม่ได้รับยาให้แจ้งมาที่สธ. โดยจะต้องเร่งดำเนินการให้เรียบร้อยภายในวันที่ 2 พ.ค.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในระดับพื้นที่หากเกิดวิกฤตการระบาดของโรคนี้ในประเทศไทย

    -เพิ่มจนท.จุดสแกนสนามบิน

    ด้านนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณ สุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข (วอร์รูม) กรมควบคุมโรค ว่า ขณะ นี้ได้กำชับให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจที่มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ หรือ เทอร์โมสแกน อย่างน้อยจุดละ 5 คน จากเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 30 คนต่อวัน รวม 3 ผลัด โดยมีจุดตรวจทั้งหมด 4 จุด เพื่อสามารถรับมือในกรณีที่มีผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ มีอาการเป็นไข้ อุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนด เป็นจำนวนมากได้ เพราะเทอร์โมสแกน เป็นด่านแรกในการป้องกันการระบาดของโรคสร้างความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง โดยสธ. จะจัดทีมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลบำราศนราดูร และสถาบันราชประชาสมาสัย เพิ่มอีก วันละ 6-10 คนด้วย หากเกิดสิ่งผิดปกติ สธ.มีทีมแพทย์ที่เตรียมพร้อมการดูแลในทุกโรงพยาบาลอยู่แล้ว

    นายมานิต กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ล่าสุดพบว่า มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกจาก 149 รายเป็น 152 ราย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเพียง 3 ราย แสดงให้เห็นว่า เม็กซิโกสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในประเทศที่มีความ การเตรียมพร้อมรับมือ ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร

    -เรียกร้องตั้งชื่อหวัดเม็กซิโก

    ด้านน.พ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ที่เดินทางมายังประ เทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 เม.ย.พบว่ามีผู้ที่มีอาการไข้สูงกว่า 37 องศาเซล เซียส รวมทั้งสิ้น 5 ราย ซึ่งเมื่อตรวจสอบรายละเอียดมีการซักถามประวัติแล้วปรากฏว่า ไม่ได้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในการระบาด แต่มาจากประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี อย่างไรก็ตาม ได้แนะนำให้เฝ้าระวังโรคต่อไปอีก 14 วัน หากอาการไข้ไม่ลดลงให้ติดต่อกลับมายังแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป

    น.พ.คำนวณ กล่าวว่า ขณะนี้องค์การอนา มัยโลก (WHO) ยังเรียกโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ว่า "โรคไข้หวัดหมู" (Swine Flu) และยังไม่มีการตั้งชื่อโรคอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความสับสนว่าอาจจะเกิดจากเชื้อไวรัสในหมูติดสู่คน และกระทบกับการปศุสัตว์ได้ ประเทศไทยจึงขอให้เรียกชื่อโรคนี้ตามหลักวิชาการคือ ไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโก พร้อมทั้งได้ส่งหนังสือถึง WHO ขอให้ทบทวนการตั้งชื่อโรคดังกล่าวใหม่ โดยเข้า ใจว่าขณะนี้มีหลายประเทศที่เรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อโรคเช่นเดียวกับประเทศไทย

    -หมอเตือนอย่าแห่ฉีดวัคซีนหวัด

    วันเดียวกัน ศ.น.พ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสและอาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชนที่กำลังตื่นตระหนกจนแห่ไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามสถานพยาบาลต่างๆ ว่า การฉีดวัคซีนป้อง กันโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีให้บริการอยู่นั้นไม่สามารถ ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในเม็กซิโกแต่อย่างใด เพราะแม้แต่สหรัฐอเมริกา ยังออกมาชี้แจงกับสาธารณะว่า วัคซีนในท้องตลาดไม่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกได้ เพราะแม้ว่าตัวเชื้อจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 ก็ตาม แต่ก็มีความแตกต่างกันมากพอควร

    "ในวัคซีนที่จำหน่ายในท้องตลาดจะสามารถ ป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 และสายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 และไข้หวัดใหญ่ชนิดบี แม้ว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั่วไปที่ระ บาดตามฤดูกาล ซึ่งวัคซีนสามารถป้องกันได้จะมีไวรัสเอช 1 เอ็น 1 เช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก แต่ก็ถือว่ามีความแตกต่างมากพอสมควร และไม่สามารถระบุได้เลยว่าวัคซีนในปัจจุบันจะป้องกันไข้หวัดเม็กซิโกได้บ้างหรือไม่ได้เลย" ศ.น.พ.ประเสริฐ กล่าว

    -เผยสถานการณ์ไข้หวัดหมู

    เวลา 14.20 น. ที่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถาน การณ์ระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

    น.พ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ราย งานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโก ว่า โรคไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวพบผู้ป่วยรายแรกเป็นชาวเม็กซิโก เมื่อวันที่ 18 มี.ค. และมีการระบาดรุนแรงที่สุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยแล้ว 2,498 ราย เสียชีวิตแล้ว 159 ราย เป็นชาวเม็กซิโกทั้งหมด ซึ่งประมาณการได้ว่าเม็กซิโกได้รับความสูญเสียทางรายได้จากการระบาดของโรคนี้ ประมาณวันละ 57 ล้านเหรียญสหรัฐ

    น.พ.ศุภมิตร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีพบผู้ป่วยในอีก 6 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐ แคนาดา นิวซีแลนด์ อิสราเอล อังกฤษ และสเปน โดยเฉพาะในสหรัฐ พบมีผู้ป่วย 68 ราย ใน 6 รัฐ ประกอบด้วย นิวยอร์ก โอไฮโอ แคน ซัส แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และอินเดียนนา อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังไม่มีการพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดใหม่ทั้งในคนและสัตว์ รวมทั้งไม่มีผู้ป่วยแต่อย่างใด

    -สกัดเชื้อไม่ให้เข้ามาในไทย

    น.พ.ศุภมิตร กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย มีมาตรการการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2548 เป็นปีแรก เนื่องจากมีการระบาดของโรคไข้หวัดนกเป็นครั้งแรกของโลก และมีการปรับแผนให้สอด คล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ มีเป็นการใช้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ฉบับที่ 2 ระ หว่างปี 2551-2553 หรือ แผนปฏิบัติการแม่บทการเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ พ.ศ. 2552 ในกรณีที่ไทยยังไม่พบว่ามีเชื้อไข้หวัดใหญ่ดังกล่าว ดังนั้นมาตรการป้องกันโรคที่สำคัญคือ การสกัดโรคที่อยู่นอกประเทศไม่ให้เข้ามาในประเทศไทยให้สำเร็จ โดยการเฝ้าระวังโรคตามด่านตรวจคน เข้าเมืองสนามบินต่างๆ ให้เข้มงวด เพื่อค้นหาผู้ป่วยรายแรกให้เร็วที่สุด ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ แต่หากมาตรการนี้ล้ม เหลวมีผู้ติดเขื้อหลุดรอดจากระบบเฝ้าระวังโรคเข้ามาในประเทศไทยได้ และแพร่เชื้อทำให้มีผู้ป่วยเกิดขึ้น มาตรการแก้ไขที่สำคัญคือ การ ชะลอการระบาดให้ช้าที่สุด เพื่อบรรเทาความเสียหายด้านชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจและสังคม เพราะจากโมเดลการระบาดของโรค หากมีผู้ป่วย 1 ราย แพร่เชื้อในรุ่นแรก จะมีผู้ป่วยเพิ่มเป็น 2 ราย และการระบาดรุ่นที่ 2 จะมีผู้ป่วยเพิ่มเป็น 2 เท่าคือ 4 ราย และจากนั้นจะเกิดการระบาดใหญ่แบบก้าวกระโดดได้

    -ส่งหน้ากากให้ไทยในเม็กซิโก

    นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการเตรียมพร้อมรับมือหากมีผู้ป่วยเข้ามาในประเทศไทย ขณะนี้ได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งในกรุงเทพฯ เตรียมห้องปลอดเชื้อเพื่อแยกผู้ป่วย โดยมีห้องว่างประมาณ 50 ห้องทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งการสำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ให้ผู้ป่วย 3.2 แสนคน ส่วนกรณีชาวไทยที่อยู่ในประเทศเม็กซิโกที่ลงทะเบียนกับกงสุลไทยในเม็กซิโก มีจำนวน 105 คน หากมีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น สธ. จะต้องเตรียมห้องพักแยกรองรับ ซึ่งอาจจะต้องปิดโรงแรม 1 แห่ง สำหรับการกันพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังโรค โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนการร้องขอหน้ากากอนามัย จำนวน 5 พันชุด ให้เจ้าหน้าที่ และประชาชนไทยที่อยู่ในเม็กซิโก ซึ่งสธ. พร้อมจัดส่งให้ทันทีในวันที่ 30 เม.ย.

    นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้นายกฯ ได้รับการประสานจากเลขาธิการอาเซียน ว่าควรจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐมนตรีสาธารณสุขกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถาน การณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก โดยได้ประสานไปยังสมเด็จฮุนเซน นายกฯ ประเทศกัมพูชา ซึ่งสมเด็จฮุนเซน ตอบรับว่าต้องการให้ไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุม ซึ่งขณะนี้เลขาธิการอาเซียน อยู่ระหว่างการประ สานรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนว่ามีความพร้อม เข้าร่วมประชุมหรือไม่ หากมีความพร้อมจะกำหนดประชุมได้ภายในสัปดาห์หน้าทันที

    พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คณะกรรมการอำนวยการฯ เห็นชอบร่วมกันมอบหมายให้ น.พ.ศุภมิตร และน.พ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค มีหน้าที่แถลงข้อมูลวิชาการ และ ให้ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีหน้าที่แถลงในกรณีพบผู้ป่วยต้องสงสัย เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและไม่สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม และให้มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบ คอบ โดยขอให้โรงพยาบาลต่างๆ รายงานข้อ มูลผู้ป่วยมายังศูนย์ปฏิบัติการเท่านั้น

    -การบินไทยสั่งล้างเครื่องบิน

    วันเดียวกัน พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ในวันที่ 30 เม.ย.การ บินไทยจะสาธิตและแถลงข่าวการดำเนินการป้อง กันโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก โดยจะทำความสะอาดเครื่องบินที่บินกลับมาจากประเทศที่มีความเสี่ยง ซึ่งขณะนี้การบินไทยจะทำความสะอาดเครื่องบิน เปลี่ยนระบบการกรองอากาศ เช็ดฆ่าเชื้อ อบฆ่าเชื้อ ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการของการบินไทย "ยืนยันว่ามาตรการในการป้อง กันโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกของการบินไทยได้มาตรฐาน เช่นเดียวกันกับการป้องกันโรคซาร์สและโรคไข้หวัดนก ซึ่งปัจจุบันเราได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนเครื่องบินทุกลำเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคอยู่แล้ว" พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์กล่าว

    พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า สำหรับมาตร การหลักของการบินไทยจะคำนึงถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสารและการดำเนินการด้านสุขลักษณะ เพื่อให้มีการรักษาความสะอาดสูงสุด ในการให้บริการทั้งบนเครื่องบินและการบริการภาคพื้นดิน โดยมาตร การต่างๆ จะเป็นมาตรการใกล้เคียงกับที่เคยใช้ปฏิบัติในคราวที่เกิดโรคซาร์ส และโรคไข้หวัดนก มาตรการในการคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก และมาตรการการรักษาความสะอาด ในห้องผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทั้งด้านอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการบริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ซึ่งได้ผลดีและได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบริษัทท่าอากาศ ยานไทย (ทอท.) ซึ่งรับผิดชอบดูแลสนามบินสุวรรณภูมินั้น ได้เตรียมความพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่กระทรวงสาธารณสุข ในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา โดยได้ร่วมมือกับด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหว่าง ประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกน (Thermoscan) เพื่อตรวจผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางจากต่างประ เทศผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ

    -กทม.ให้แท็กซี่สวมหน้ากาก

    ที่ศาลาว่าการ กทม. พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก โดยมี พ.ญ.วรยา เหลืองอ่อน ตัวแทนจากสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมบรรยายให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง อนามัยเขตทั้ง 50 เขต และโรงพยาบาลสังกัด กทม.ทั้ง 9 แห่ง กว่า 250 คนร่วมรับฟัง

    พ.ญ.มาลินีกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในเม็กซิโก โดยให้ประสานกับเกสต์เฮาส์ โรงแรม และสถานประกอบการทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่าน ถ.สุขุมวิท และ ถ.ข้าวสาร หากพบนักท่องเที่ยวที่มีอาการเป็นไข้หวัดหลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 14 วัน ให้โทร.แจ้งมาที่ศูนย์ปฏิบัติการและศูนย์ข้อมูลโรคไข้หวัดนก กทม. โทรศัพท์ 0-2354-1836 และ 0-2245-8106 หรือที่สายด่วน สธ. 1669 ตลอด 24 ช.ม.เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจสอบในพื้นที่ เพราะหากเกิดการติดเชื้อจะต้องควบคุมให้ได้ตั้งแต่นาทีแรก และ กทม.จะแจกเอกสารถามตอบให้ความรู้เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ให้สถานประกอบการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมทั้งคนไทยด้วย

    พ.ญ.มาลินีกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 1 พ.ค. นี้ เวลา 13.00 น. กทม.จะเชิญโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิก และร้านขายยากว่า 100 แห่งทั่งกรุงเทพฯ เพื่อให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่ ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ใน กทม. ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงให้มีการป้องกันตัวเองจากโรคดังกล่าว โดยการสวมหน้ากากขณะขับรถ เพราะ คนขับรถแท็กซี่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารชาวต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง อาจเสี่ยงต่อการติดโรคโดยการไอ จาม หรือการสัมผัสประตูรถที่ผู้ป่วยสัมผัสเอาไว้ได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.พร้อมคณะ จะเดินทางไปแจกหน้ากากอนามัยตามโรงแรม เกสต์เฮาส์ สหกรณ์แท็กซี่ จำนวน 1 แสนชิ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก

    -มะกันหวัดหมู-ตายศพแรก

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) แถลงว่า พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ เอ/ เอช1เอ็น1 หรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกในสหรัฐรายแรกแล้ว เป็นเด็กอายุ 23 เดือน หรือ 1 ปี 11 เดือน อาศัยอยู่ในรัฐเท็กซัส และถือเป็นผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หมูรายแรกนอกประเทศเม็กซิโก ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมเนื้อหมูร้องขอให้รัฐบาลสหรัฐยกเลิกเรียกชื่อว่าไข้หวัดใหญ่หมู หรือ Swine Flu เพราะโรคนี้ไม่ได้ติดจากการบริโภคหมู เมื่อผู้บริโภคเกิดความสับสนทำให้ธุรกิจค้าเนื้อหมูได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่แพทย์บางคนเตือนว่าไม่ควรเปลี่ยนชื่อ เนื่องจากเป็นศัพท์เทคนิคที่ถูกต้องและไวรัสดังกล่าวมีเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูรวมอยู่ด้วยจริง

    สำหรับสถานการณ์ในเม็กซิโก ทางการกำลังสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีข่าวว่า ด.ช.เอดการ์ เฮอร์นันเดซ วัย 5 ปี อาจเป็นชาวเม็กซิโกรายแรกๆ ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ ขณะนี้คณะแพทย์เรียกด.ช.เอดการ์ว่า "ผู้ ป่วยหมายเลข 0" อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีประชา กรหนาแน่น 3,000 คน ในเมืองลากลอเรีย รัฐเวราครูซ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเม็กซิโก ซิตี จุด ที่โรคระบาดหนัก และมีกระแสข่าวลือว่าเชื้ออาจแพร่กระจายมาจากฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดใหญ่ของบริษัทสมิธฟิลด์ฟู้ดส์ ประเทศสหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนดังกล่าว แต่นายแลร์รี่ โป๊ป ผู้บริหารสมิธฟิลด์ ยืนยันว่า หมูทุกตัวในฟาร์มปลอดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

    -ลามเยอรมัน-ติดเชื้อ 3 ราย

    ด้านกระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโกแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตและคาดว่าเสียชีวิตเพราะติดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็น 159 ราย ติดเชื้อและสงสัยว่าติดเชื้อ 2,400 กว่าราย อย่างไรก็ตาม ผลพิสูจน์ล่าสุดจากห้องปฏิบัติการองค์ การอนามัยโลกชี้ว่าเบื้องต้นมีชาวเม็กซิกันเสียชีวิต เพราะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่แค่ 7 รายเท่านั้น

    ความเคลื่อนไหวในทวีปยุโรป สถาบันโรคติดต่อโรเบิร์ต คอช กรุงเบอร์ลิน แถลงว่า พบชาวเยอรมันติดโรคไข้หวัดเม็กซิโกสายพันธุ์ใหม่ เอช1เอ็น1 เป็นครั้งแรกรวม 3 ราย เป็นผู้หญิงผู้ชายวัย 30 ตอนปลาย อาศัยอยู่ในแคว้นบาวาเรีย และผู้หญิงวัย 22 ปี ชาวเมืองฮัมบูร์ก ทั้งหมดเพิ่งเดินทางกลับจากเม็กซิโก นอกจากนั้น ยังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 5 ราย ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูในตลาดทั่วเยอรมนีหล่นฮวบ

    ในแถบทวีปเอเชีย นางนิโคลา โรซอน รัฐ มนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย เผยว่า เพื่อป้อง กันไม่ให้เชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกเข้ามาแพร่ระ บาดในประเทศ รัฐบาลได้ให้อำนาจใหม่กับเจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโกได้ทันที และยังมีอำนาจในการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคบนเครื่องบินหรือตามท่าเรือต่างๆ ได้ด้วย ขณะนี้ทางการกำลังรอฟังผลตรวจผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโก 91 คน ซึ่งผลการตรวจจะออกมาภาย ใน 2 วันข้างหน้า

    -ฮุนเซนเรียกร้องถกอาเซียน

    ที่กรุงพนมเปญ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี กัมพูชา ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก และยังกินเนื้อหมูต่อไปได้ตามปกติ รัฐบาลจะใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม รวมถึงการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบิน เพื่อตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้า และเตือนให้ประชาชนเตรียมการรับมือโรคนี้ แม้ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อในกัมพูชาก็ตาม

    "ผู้นำประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรจัดการประชุมฉุกเฉินร่วมกัน ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องร่วมมือกันเพื่อรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก เพราะเชื้อสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าไข้หวัดนก" สมเด็จฮุนเซน ระบุ

    ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันดิบที่ซื้อขายในตลาดเอเชียยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง จากความหวั่นวิตกว่าการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจที่อ่อนแออยู่แล้วยิ่งซบเซาลงอีก โดยราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 39 เซ็นต์ ไปเคลื่อนไหวอยู่ที่บาร์เรลละ 49.53 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ขยับลง 30 เซ็นต์ อยู่ที่ 49.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

    -อียิปต์สั่งฆ่าหมูทั้งประเทศ

    นักวิเคราะห์ระบุว่า มีความกังวลว่าไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาห กรรมการบิน ทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดลง ภายหลังหลายประเทศได้ออกประกาศเตือนเรื่องการเดินทางไปเม็กซิโก และสายการบินหลายแห่งได้รับผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก ความหวั่นวิตกว่าการเดินทางทางอากาศจะลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่แล้วฉุดให้ราคาน้ำมันลดลง

    ค่ำวันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ว่า นายฮาเทม อัล-กาบาลี รัฐมนตรีสาธารณสุข แถลงว่า รัฐบาลมีคำสั่งฆ่าหมูทั้งประเทศโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ระบาดในอียิปต์ ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรอียิปต์ระบุว่า ทั่วประเทศมีหมูประมาณ 250,000 ตัว เลี้ยงและบริโภคเฉพาะในหมู่ชนกลุ่มน้อยชาวคริสเตียน นิกายคอปติก

    -แผงหมูชี้คนยังซื้อเท่าเดิม

    นายประวิช นาคสุข อายุ 40 ปี พ่อค้าขายหมู แผงตลาดประชานิเวศน์ 1 เปิดเผยว่า ภายหลังจากกระแสข่าวเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโก หรือไข้หวัดหมูที่เกิดขึ้นในแถบประเทศอเมริกากลางเผยแพร่ออกมาในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมาไม่ส่งผลกระทบต่อแผงหมูของตน ซึ่งยังมีลูกค้ามาซื้อเนื้อหมูปกติเหมือนเดิมและไม่ได้ลดลง แต่สิ่งที่ลดลงนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องของจำนวนหน่วยการซื้อจากที่เคยซื้อหนึ่งกิโลลดลงเหลือครึ่งกิโล เป็นผลสืบเนื่องจากราคาเนื้อหมูแพงมาก่อนที่จะมีผลมาจากกระแสข่าวหวัดหมู เชื่อว่าเป็นเพราะกระแสของข่าวที่ออกมานั้นได้ระบุไว้ว่าการแพร่ระบาดของไข้หวัดเชื้อสายเม็กซิโกนั้นเป็นการแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คน ไม่ได้มาจากหมูมาสู่คน ทำให้การบริโภคหมูนั้นไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด

    ด้านนางสาวสายฝน วรรณพิรุณ อายุ 39 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเล แผงตลาดประชานิเวศน์ 1 เปิดเผยว่าข่าวเชื้อไข้หวัดหมูที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลให้ลูกค้าของแผงตนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หรือหันมาซื้ออาหารทะเลเพิ่มมากขึ้น ตนคิดว่าเป็นเพราะไข้หวัดเม็กซิโกนั้นไม่ได้มีผลเสียร้ายแรงมากเหมือนตอนกระแสไข้หวัดนก ที่มีการเสียชีวิตของสัตว์ปีกและมีการกำจัดกันอย่างชัดเจน อีกส่วนหนึ่งตนเชื่อว่าสาเหตุที่คนไม่หันมาบริโภคอาหารทะเลในช่วงนี้ อาจมีสาเหตุจากราคาของอาหารทะเลค่อนข้างสูง เพราะชาวประมงไม่สามารถออกไปจับปลาได้เนื่องจากมีพายุมรสุมที่เข้ามา

    -แม่ค้าของทะเลระบุขายได้เพิ่ม

    ผู้สื่อข่าวรายงานที่ตลาดพรานนก ช่วงบ่าย ย่านฝั่งธนฯ บรรยากาศก็ยังมีประชาชนพ่อบ้านแม่บ้านไปเดินหาซื้ออาหารสดไปทำอาหารก็ตามปกติ แม้ว่าจะมีข่าวการระบาดของไข้หวัดเม็กซิโก ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์บรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดพรานนกว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง

    นางวาสนา ปานน้อย อายุ 42 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเล ซึ่งขายอาหารสดประเภท กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก กล่าวว่าในช่วงที่มีข่าวไข้หวัดหมูระบาดนั้นเป็นที่แตกตื่น ก็ทำให้มีลูกค้าหันมาซื้อพวกอาหารทะเลไปบริโภคซึ่งดูแล้วก็มากเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ทำให้อาหารทะเลมีการปรับราคาสูงตามไปด้วย แต่ทางร้านเราก็ยังขายอาหารในราคาเดิมปกติเพื่อดึงลูกค้าไว้ ลูกค้าที่มาซื้อก็เป็นลูกค้าขาประจำ

    นายสุขแจ่ม ชายเทียบ อายุ 29 ปี เป็นพ่อค้าขายไก่สด กล่าวว่า ตนขายไก่สดมานานกว่า 5 ปีช่วงนี้ที่มีข่าวไข้หวัดหมูระบาดก็ไม่ได้ทำให้ขายไก่ได้ดีมากกว่าเดิม แต่ก็พอขายได้หากไก่ขายดีราคาขายส่งก็เพิ่มขึ้นไปด้วย

    นางฉวี แป้นสะอาด อายุ 41 ปี แม่ค้าขายหมูเขียงอยู่หน้าวัดละครทำ กล่าวว่าตนขายหมูมานาน 13 ปี ปีนี้เป็นปีที่วิกฤตที่สุด เพราะราคาหมูแพงขึ้นมาก จนทำให้ผู้บริโภคลดน้อยลงไป และยิ่งมีไข้หวัดหมูระบาด ก็ทำให้ประ ชาชนไม่ค่อยซื้อหมูไปบริโภคเพราะกลัว จากที่เคยขายได้วันละกว่า 100 กิโล แต่ตอนนี้ลดไปกว่าครึ่งหนึ่งเลย ตนขอวิงวอนให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือและทำความเข้าใจให้ประชาชนเข้าใจว่าหมูสามารถบริโภคตามปกติ และทำให้ราคาหน้าฟาร์มหมูลดราคาลงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคหมู

    -โฆษกมะกันชี้เด็กเม็กซิโก

    เอเอฟพีรายงานจากนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่า กลุ่มล็อบบี้ผลประโยชน์ภาคเกษตร กรรมและเศรษฐกิจพยายามกดดันให้องค์การอนามัยโลก เปลี่ยนชื่อเรียกไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโกไม่ให้มีคำว่า "หมู" เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าหมูอย่างหนัก อีกทั้งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่าพบไวรัสโรคนี้ในหมูและไม่ได้ติดจากหมูสู่คน โดยชื่อใหม่ที่เสนอให้อนามัยโลกพิจารณา เช่น ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกและไข้หวัดใหญ่อเมริกาเหนือ

    เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังมีข่าวพบเด็กอายุ 1 ปี 11 เดือนตายด้วยโรคไข้หวัดเม็กซิโกรายแรกในสหรัฐ ล่าสุด นางเคที่ บาร์ตัน โฆษก หน่วยงานสาธารณสุขเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ทางภาคใต้ของสหรัฐ ชี้แจงว่า เด็กคนดังกล่าวไม่ใช่ชาวอเมริกัน แต่เป็นเด็กเม็กซิโก ซึ่งญาติๆ พาข้ามพรมแดนเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลในเมือง ฮูสตัน<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE class=tborder id=post2071697 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>

    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2071697 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=tborder id=post2071697 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สันโดษ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2071697", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ของฝาก เอาใจ สำหรับคนกลัวโรคไข้หวัดหมูค่ะ

    (rose)ปลีกวิเวก[/COLOR]<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2009
  8. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อียิปต์สั่งฆ่าหมูเกลี้ยง UN แย้งทำไม่ถูก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    อียิปต์ซึ่งเคยเกิดไข้หวัดนกระบาดสั่งฆ่าหมูทุกตัวในประเทศ หวังป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกระบาด แต่สหประชาชาติแย้งว่าเป็นมาตรการที่ไม่ถูกต้อง เพราะเชื้อไม่ได้แพร่จากหมูสู่คน



    อียิปต์มีผู้เสียชีวิต 26 คน เมื่อครั้งไข้หวัดนกระบาด ผู้เชี่ยวชาญเกรงว่าหากเกิดไข้หวัดใหญ่ระบาดอีก ไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็ตาม อาจส่งผลเสียหายหนัก อียิปต์มีประชากร 80 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นตามลุ่มแม่น้ำไนล์ ชุมชนแออัดทั้งในและรอบกรุงไคโร ส่วนหมูนั้นเลี้ยงโดยชนกลุ่มน้อยชาวคริสต์ รัฐบาลแถลงวานนี้ว่าจะเริ่มฆ่าหมูทุกตัวในประเทศและจะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่าฟาร์มหมูในอียิปต์ไม่ถูกสุขอนามัย ทำให้ประชาชนหวาดกลัว

    ด้านนายโจเซฟ โดเมเนช หัวหน้าเจ้าหน้าที่สัตวบาลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ชี้ว่า การที่อียิปต์ฆ่าหมูทั้งประเทศมากถึง 400,000 ตัว เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะโรคนี้ไม่ใช่ไข้หวัดหมู เอฟเอโอพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่อียิปต์แต่ไม่สำเร็จ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อินเดียพบผู้ต้องสงสัยไข้หวัดเม็กซิโกแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ไข้หวัดเม็กซิโก ลามเอเชีย อินเดีย พบ ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 1 ราย แพทย์กักตัว เพื่อรอดูอาการ


    นสพ.ไทม์ส ออฟ อินเดีย รายงานว่า พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในเม็กซิโกในอินเดีย 1 ราย ซึ่งเพิ่งจะเดินทางกลับจากสหรัฐ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะนี้ ผู้ต้องสงสัยถูกกักตัวอยู่เพื่อรอดูอาการ โดยแพทย์เป็นผู้ตรวจ พบผู้ป่วยต้องสงสัยรายล่าสุดนี้ ที่บ้านพัก

    ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นชาวอินเดีย ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศและได้เดินทางจากรัฐเท็กซัส มายังเมืองไฮเดอราบัด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    วิชาการชี้ไม่ช้าก็เร็ว “หวัดจังโก้” มาถึงไทยแน่ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 พฤษภาคม 2552 06:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>นักวิชาการยันเชื้อหวัดจังโก้มาถึงประเทศไทยแน่ แต่บอกไม่ได้ว่าความเสี่ยงจะมากเพียงใด ชี้ ขณะนี้การแพร่กระจายของโรคอาจยกระดับเป็นระดับ 6 ด้วยซ้ำ เพราะการแพร่จากคนสู่คนทำได้ง่ายมาก

    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลกไวรัสสู่คน กล่าวว่า แนวโน้มที่ประเทศไทยจะมีการติดเชื้อผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกนั้น อาจมีผู้ป่วยแน่ๆ แต่ทั้งนี้ คงบอกไม่ได้ว่าประเทศไทยจะมีผู้ป่วยเมื่อใด และขณะนี้มีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด เสี่ยงกี่เท่าหรือกี่เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าวในขณะนี้แทบจะเรียกได้ว่ายกระดับมากกว่าระดับ 5 ที่มีการติดต่อจากคนสู่คน และแพร่กระจายข้ามประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ไปเป็นระดับ 6 ที่มีการข้ามทวีปได้ด้วยซ้ำ เพราะลักษณะการแพร่กระจายมันติดต่อกันจากคนสู่คนได้ง่ายมาก

    “มาตรการนี้ไม่ใช่หน้าที่ของ สธ.เพียงอย่างเดียว แต่สถานพยาบาลแต่ละแห่งจะต้องรับทราบตัวเองว่าจะมีแผนปฏิบัติการอย่างไร ตั้งแต่มีผู้ป่วยเดินทางมาถึงยังโรงพยาบาล จะแยกผู้ป่วยอย่างไร คัดกรองอย่างไร ส่งเชื้อไปตรวจยังห้องปฏิบัติการอย่างไร เมื่อผู้ป่วยกลับบ้าน จะมีการแจกคู่มือและวิธีการสอบถามอาการอย่างไร วิธีการขั้นตอนดังกล่าวจำเป็นที่สถานพยาบาลทุกแห่งในประเทศไทยควรมีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมแผนการดำเนินการทดลองสถานการณ์จริง เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งขณะนี้ รพ.จุฬาฯได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยมีการประชุมเตรียมความพร้อมเรื่องดังกล่าว” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สหรัฐฯปิดโรงเรียน 300 แห่งใน 11 มลรัฐ ผวาภัยหวัดเม็กซิโก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 พฤษภาคม 2552 04:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=335 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=335>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แพทย์ตรวจร่างกายของเด็กน้อยรายหนึ่ง ขณะที่สหรัฐฯสั่งปิดโรงเรียนกว่า300แห่งหลังหวัดเม็กซิโกลุกลามขึ้นเรื่อยๆ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี - โรงเรียนราว 300 แห่งใน 11 มลรัฐทั่วสหรัฐฯ ถูกสั่งปิดเมื่อวันพฤหัสบดี(30) ท่ามกลางความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก กระทรวงศึกษาธิการแถลง

    โรงเรียนส่วนใหญ่ที่ต้องปิดทำการเรียนการสอนนั้นอยู่ในนิวยอร์กและเท็กซัส สองมลรัฐที่ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อหวัดนี้สูงถึง 111 ราย นิวยอร์ก 50 ราย เท็กซัส 26 ราย ขณะเดียวกันก็มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายในเท็กซัส เป็นเด็กเล็กชาวเม็กซิโก ซึ่งถือเป็นเคสแรกเคสแรกที่พบการตายนอกเม็กซิโก

    นอกจากนี้ในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(30) จอน คอร์ซิเน ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อ2009 H1N1 5 ราย หลังจากทางรัฐได้รับผลตรวจจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ

    ก่อนหน้านี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ยืนยันการแพร่ระบาดใน 11 รัฐ คือ แคลิฟอร์เนีย เทกซัส แคนซัส นิวยอร์ก โอไฮโอ อินดีแอนา นิว เจอร์ซีย์ แอริโซนา แมสซาชูเซตส์ มิชิแกน และเนวาดา ขณะเดียวกันหน่วยงานอื่นๆยืนยันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีกที่เดลาแวร์ โคโลราโด มินนิโซตา จอร์เจียและเนบราสกา

    คำสั่งปิดโรงเรียนดังกล่าวกระทบต่อเด็กราว 169,000 คน จากราว 55 ล้านคน ข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการระบุ ทั้งนี้สถานศึกษาบางแห่งมีกำหนดเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ หลังปฏิบัติการตรวจหาผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโกเสร็จสิ้น

    แถลงการณ์ของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯยังระบุด้วยว่ามีกรณีต้องสงสัยผู้ติดเชื้อหวัดบ้างในมหาวิทยาลัยเช่นกัน โดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนีย อย่างไรก็ตามยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดปิดการเรียนการสอน

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของเด็กชาวเม็กซิกันวัย 23 เดือนในมลรัฐเทกซัสเมื่อวันพฤหัสบดี(29) พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อควบคุมผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้

    นอกจากนี้ โอบามายังได้เรียกร้องให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขในระดับท้องถิ่นดำเนินการเฝ้าระวัง และแนะให้ปิดโรงเรียนถ้ามีคำยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อด้วย

    อย่างไรก็ตาม โอบามา ยืนกรานจะไม่มีการสั่งปิดพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโกที่มีความยาวถึง 3,169 กิโลเมตรอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่เชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกได้และถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก"รุนแรงแค่ไหน ฟังทัศนะของนักวิทยาศาสตร์เอเชีย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 เมษายน 2552 23:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    เจ้าหน้าที่ไทยฉีกสารเคมีป้องกันโรคระบาด บนเครื่องบินของการบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ

    เอเจนซี- องค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกกำลังจะกลายเป็น โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง (pandemic) แล้ว หลังจากที่พบว่าไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่กระจายในมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วมาก

    ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 10 ปี ที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีการระบาดของโรคซึ่งมีศักยภาพถึงขั้นกลายเป็น โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง โดยก่อนหน้านี้คือกรณีของ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส์) ในปี 2003 และไข้หวัดนกสายพันธุ์ "เอช5เอ็น1" ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายแรกในฮ่องกงเมื่อปี 1997 จากนั้นก็มีการแพร่ระบาดสู่มนุษย์อยู่เป็นพักๆ

    นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำในเอเชียซึ่งผ่านประสบการณ์การรับมือกับซาร์ส์และไข้หวัดนกมาแล้ว ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไว้ดังต่อไปนี้

    **กวนยี นักจุลชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง**

    "เห็นได้ชัดว่าไวรัสนี้กำลังกลายโรคระบาดแพร่กระจายประจำถิ่น (endemic) ในบางประเทศแล้ว เชื้อไวรัสนี้มีฤทธิ์อ่อนมาก แต่นี่เป็นแค่รูปแบบหนึ่งเท่านั้น เมื่อปี 1918 ไข้หวัดใหญ่สเปน กลายเป็นโรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง ในระลอกแรกของการระบาดเชื้อก็มีฤทธิ์อ่อนเช่นกัน แต่พอถึงฤดูใบไม้ร่วง และโรคเข้าสู่ระลอกที่ 2 ก็มีคนเสียชีวิตมากมาย ดังนั้นไวรัสนี้จะเหวี่ยงไปข้างไหน เรายังไม่สามารถรู้ได้

    ในขณะนี้ มีโอกาสที่มันจะเป็นเชื้อที่มีฤทธิ์อ่อน แต่เราไม่สามารถบอกปัดไปเลยว่ามันจะไม่เปลี่ยนแปลงกลายเป็นเชื้อที่สำแดงฤทธิ์รุนแรง และกระทั่งเมื่อมันเปลี่ยนไปมีฤทธิ์อ่อนลงไป มันก็ยังสามารถทำให้คนตายได้อยู่ดี ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ติดเชื้อ

    แล้วใครกันที่จะกล้าพูดว่าเชื้อนี้จะไม่กลับไปรวมเข้ากับ (เชื้อไข้หวัดนก) เอช5เอ็น1 ในกรณีของโรคระบาดแพร่หลายกว้างขวางนั้น อัตราการติดเชื้อจะอยู่ในระดับสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และโอกาสที่ไวรัสนี้จะพบและผสมกับ เอช5เอ็น1 ก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นไหนๆ ถ้าเชื้อนี้เข้าไปในอียิปต์, อินโดนีเซีย อันเป็นท้องถิ่นที่เอช5เอ็น1แพร่ระบาดอยู่ มันก็สามารถเปลี่ยนไปกลายเป็นเอช5เอ็น1ที่ทรงพลังมากๆ ซึ่งสามารถติดต่อระหว่างคนกับคนได้อย่างยิ่ง คราวนี้แหละเราจะต้องลำบากกันมากๆ มันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรม

    สำหรับในตอนนี้ เราจำเป็นต้องจำกัดการติดต่อ และรักษาคนป่วย แยกพวกคนป่วยออกมา และทำการกักกันโรคต่อคนป่วยเหล่านี้ เรามีความสามารถเพิ่มขึ้นมากในการรับมือกับเชื้อนี้ ภายหลังเผชิญกับโรคซาร์ส และเชื้อเอช5เอ็น1มาหลายยกแล้ว นี่เป็นเรื่องทีเห็นชัดเจน และเราก็มียาต่อต้านไวรัสที่ใช้ได้ผลอีกด้วย

    **โลวิงหลก ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อในฮ่องกง**"การระบาดระลอกแรกนี้สามารถที่จะควบคุมจำกัดวงเอาไว้โดยอาศัยภูมิอากาศ เมื่อฤดูร้นอมาถึง ฤดูระบาดของไข้หวัดใหญ่ก็จะยุติลงในเขตอเมริกาเหนือ ดังนั้นผลกระทบในช่วงแรกจึงจะอยู่ในระดับไม่มากนัก

    แต่เมื่อถึงฤดูหนาวในปีนี้ เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม อาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดการระบาดลอกใหญ่จริงๆ และถึงตอนนั้นก็อาจมีการล้มตาย ฤดูกาลคือปัจจัยสำคัญในเรื่องนี้

    มีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะเกิดแรงกระทบอย่างรุนแรง(ในเวลานี้) ในภูมิภาคซีกโลกใต้ เพราะที่นั่นกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวในตอนนี้ นิวซีแลนด์และออสเตรเลียอาจพบกลุ่มของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อของการระบาดระลอกแรกมากกว่า การกำหนดว่าจะเน้นไปที่มาตรการอะไรจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในเวลานี้ ผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีผู้ติดเชื้อที่เป็นการติดต่อจากคนอื่นอีกต่อหนึ่ง (secondary infection) ขึ้นแล้วในนิวยอร์ก ... เรื่องนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศอื่นๆ ด้วย"

    **มาซาโต ทาชิโร จากสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของญี่ปุ่น และสมาชิกในคณะกรรมการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก** เขาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ นิกเคอิ หนังสือพิมพ์ธุรกิจภาษาญี่ปุ่น เอาไว้ดังนี้

    "ไวรัสนี้ยังมีฤทธิ์ค่อนข้างอ่อนและมีความรุนแรงพอๆ กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั่วไปที่ติดต่อกันด้วยการสัมผัสระหว่างคนกับคน ผมไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเชื้อที่มีฤทธิ์รุนแรง แต่ผมคิดว่ามันเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่แตกต่างจากไวรัส 'เอช1เอ็น1'ทั่วไป ผู้ป่วยที่เคยติดไวรัส 'เอช1เอ็น1' ของไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จะไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวใหม่นี้ ดังนั้นมันจึงจะมีความว่องไวในการแพร่กระจาย

    ผลกระทบเชิงสังคมของปัญหาด้านสาธารณสุขจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ เห็นได้ชัดเจนว่ายังน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่นกเอช5เอ็น1 ซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงมากกว่า จึงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการอย่างเดียวกัน แทนที่จะรับเอาคำนิยามอย่างเข้มวดของความรุนแรงในแต่ละระดับที่ประกาศกันออกมา ควรที่จะใช้คำนิยามที่ยืดหยุ่นจะดีกว่า

    อันตรายต่อสุขภาพจากไข้หวัดนก และอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดนกนั้นสูงกว่าไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้มาก ผมเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าเราจะใช้ยาต้านไวรัสจนหมดสต๊อก และไร้อาวุธที่จำเป็นจะต้องมีในการต่อสู้กับไข้หวัดนก อันตรายใหญ่หลวงที่สุดสำหรับมนุษยชาติในตอนนี้ยังคงเป็นไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช5เอ็น1

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/View...=9520000048763
     
  12. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก"รุนแรงแค่ไหน ฟังทัศนะของนักวิทยาศาสตร์เอเชีย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 เมษายน 2552 23:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    เจ้าหน้าที่ไทยฉีกสารเคมีป้องกันโรคระบาด บนเครื่องบินของการบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ

    เอเจนซี- องค์การอนามัยโลกระบุว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกกำลังจะกลายเป็น โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง (pandemic) แล้ว หลังจากที่พบว่าไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่กระจายในมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วมาก

    ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 10 ปี ที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีการระบาดของโรคซึ่งมีศักยภาพถึงขั้นกลายเป็น โรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง โดยก่อนหน้านี้คือกรณีของ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส์) ในปี 2003 และไข้หวัดนกสายพันธุ์ "เอช5เอ็น1" ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายแรกในฮ่องกงเมื่อปี 1997 จากนั้นก็มีการแพร่ระบาดสู่มนุษย์อยู่เป็นพักๆ

    นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำในเอเชียซึ่งผ่านประสบการณ์การรับมือกับซาร์ส์และไข้หวัดนกมาแล้ว ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไว้ดังต่อไปนี้

    **กวนยี นักจุลชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง**

    "เห็นได้ชัดว่าไวรัสนี้กำลังกลายโรคระบาดแพร่กระจายประจำถิ่น (endemic) ในบางประเทศแล้ว เชื้อไวรัสนี้มีฤทธิ์อ่อนมาก แต่นี่เป็นแค่รูปแบบหนึ่งเท่านั้น เมื่อปี 1918 ไข้หวัดใหญ่สเปน กลายเป็นโรคระบาดแพร่หลายกว้างขวาง ในระลอกแรกของการระบาดเชื้อก็มีฤทธิ์อ่อนเช่นกัน แต่พอถึงฤดูใบไม้ร่วง และโรคเข้าสู่ระลอกที่ 2 ก็มีคนเสียชีวิตมากมาย ดังนั้นไวรัสนี้จะเหวี่ยงไปข้างไหน เรายังไม่สามารถรู้ได้

    ในขณะนี้ มีโอกาสที่มันจะเป็นเชื้อที่มีฤทธิ์อ่อน แต่เราไม่สามารถบอกปัดไปเลยว่ามันจะไม่เปลี่ยนแปลงกลายเป็นเชื้อที่สำแดงฤทธิ์รุนแรง และกระทั่งเมื่อมันเปลี่ยนไปมีฤทธิ์อ่อนลงไป มันก็ยังสามารถทำให้คนตายได้อยู่ดี ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ติดเชื้อ

    แล้วใครกันที่จะกล้าพูดว่าเชื้อนี้จะไม่กลับไปรวมเข้ากับ (เชื้อไข้หวัดนก) เอช5เอ็น1 ในกรณีของโรคระบาดแพร่หลายกว้างขวางนั้น อัตราการติดเชื้อจะอยู่ในระดับสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และโอกาสที่ไวรัสนี้จะพบและผสมกับ เอช5เอ็น1 ก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นไหนๆ ถ้าเชื้อนี้เข้าไปในอียิปต์, อินโดนีเซีย อันเป็นท้องถิ่นที่เอช5เอ็น1แพร่ระบาดอยู่ มันก็สามารถเปลี่ยนไปกลายเป็นเอช5เอ็น1ที่ทรงพลังมากๆ ซึ่งสามารถติดต่อระหว่างคนกับคนได้อย่างยิ่ง คราวนี้แหละเราจะต้องลำบากกันมากๆ มันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรม

    สำหรับในตอนนี้ เราจำเป็นต้องจำกัดการติดต่อ และรักษาคนป่วย แยกพวกคนป่วยออกมา และทำการกักกันโรคต่อคนป่วยเหล่านี้ เรามีความสามารถเพิ่มขึ้นมากในการรับมือกับเชื้อนี้ ภายหลังเผชิญกับโรคซาร์ส และเชื้อเอช5เอ็น1มาหลายยกแล้ว นี่เป็นเรื่องทีเห็นชัดเจน และเราก็มียาต่อต้านไวรัสที่ใช้ได้ผลอีกด้วย

    **โลวิงหลก ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อในฮ่องกง**"การระบาดระลอกแรกนี้สามารถที่จะควบคุมจำกัดวงเอาไว้โดยอาศัยภูมิอากาศ เมื่อฤดูร้นอมาถึง ฤดูระบาดของไข้หวัดใหญ่ก็จะยุติลงในเขตอเมริกาเหนือ ดังนั้นผลกระทบในช่วงแรกจึงจะอยู่ในระดับไม่มากนัก

    แต่เมื่อถึงฤดูหนาวในปีนี้ เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม อาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดการระบาดลอกใหญ่จริงๆ และถึงตอนนั้นก็อาจมีการล้มตาย ฤดูกาลคือปัจจัยสำคัญในเรื่องนี้

    มีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะเกิดแรงกระทบอย่างรุนแรง(ในเวลานี้) ในภูมิภาคซีกโลกใต้ เพราะที่นั่นกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวในตอนนี้ นิวซีแลนด์และออสเตรเลียอาจพบกลุ่มของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อของการระบาดระลอกแรกมากกว่า การกำหนดว่าจะเน้นไปที่มาตรการอะไรจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในเวลานี้ ผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีผู้ติดเชื้อที่เป็นการติดต่อจากคนอื่นอีกต่อหนึ่ง (secondary infection) ขึ้นแล้วในนิวยอร์ก ... เรื่องนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศอื่นๆ ด้วย"

    **มาซาโต ทาชิโร จากสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของญี่ปุ่น และสมาชิกในคณะกรรมการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก** เขาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ นิกเคอิ หนังสือพิมพ์ธุรกิจภาษาญี่ปุ่น เอาไว้ดังนี้

    "ไวรัสนี้ยังมีฤทธิ์ค่อนข้างอ่อนและมีความรุนแรงพอๆ กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั่วไปที่ติดต่อกันด้วยการสัมผัสระหว่างคนกับคน ผมไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเชื้อที่มีฤทธิ์รุนแรง แต่ผมคิดว่ามันเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่แตกต่างจากไวรัส 'เอช1เอ็น1'ทั่วไป ผู้ป่วยที่เคยติดไวรัส 'เอช1เอ็น1' ของไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จะไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวใหม่นี้ ดังนั้นมันจึงจะมีความว่องไวในการแพร่กระจาย

    ผลกระทบเชิงสังคมของปัญหาด้านสาธารณสุขจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ เห็นได้ชัดเจนว่ายังน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่นกเอช5เอ็น1 ซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงมากกว่า จึงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการอย่างเดียวกัน แทนที่จะรับเอาคำนิยามอย่างเข้มวดของความรุนแรงในแต่ละระดับที่ประกาศกันออกมา ควรที่จะใช้คำนิยามที่ยืดหยุ่นจะดีกว่า

    อันตรายต่อสุขภาพจากไข้หวัดนก และอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดนกนั้นสูงกว่าไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้มาก ผมเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าเราจะใช้ยาต้านไวรัสจนหมดสต๊อก และไร้อาวุธที่จำเป็นจะต้องมีในการต่อสู้กับไข้หวัดนก อันตรายใหญ่หลวงที่สุดสำหรับมนุษยชาติในตอนนี้ยังคงเป็นไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช5เอ็น1

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/View...=9520000048763
     
  13. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->aries<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2072729", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    การบรรยายประชุมวิชาการ เรื่อง สมุนไพร : ไข้หวัดใหญ่ – ไข้หวัดนก

    โดย : ดร.ภญ.อัญชลี จูฑะพุทธิ


    สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์ (วันพุธ)
    เรื่อง "สมุนไพร : ไข้หวัดใหญ่ - ไข้หวัดนก"
    โดย ดร.ภญ. อัญชลี จูฑะพุทธิ
    วันที่ 28 ธันวาคม 2548 เวลา 10.00 - 12.00 น.
    ณ ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒน์ฯ

    โรคไข้หวัดนก (Bird flu) เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ (Infiuenza) ชนิดหนึ่งที่เกิดกับสัตว์ปีก มีชื่อทางวิชาการว่า ไข้หวัดใหญ่สัตว์ปีก (Avian influenza หรือ Avain flu) ซึ่งไข้หวัดนกหรือไข้หวัดสัตว์ปีกเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดหรือสายพันธุ์เอ (type A) ซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่ในคนส่วนใหญ่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัสชนิดนี้ นอกจากจะสามารถติดต่อได้ในคนแล้วยังติดต่อในสัตว์อื่นๆเช่น เป็ด ไก่ ได้อีก เชื้อไวรัสนี้มีทั้งสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคอย่างรุนแรงและไม่รุนแรง เนื่องจากไข้หวัดนกเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่ง ดังนั้นการระบาดใหญ่ทั่วโลกของไข้หวัดใหญ่ที่ผ่านมาจึงเป็นการเกิดมีสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้น สำหรับสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในประเทศไทยขณะนี้คือ สายพันธุ์ H5N1 ซึ่งเป็นชนิดที่รุนแรง

    การระบาดของไข้หวัดใหญ่ครั้งใหญ่ในคน



    ปีที่ระบาด ชื่อไข้หวัดใหญ่
    สายพันธุ์ย่อย
    จำนวนคนตาย

    2461 – 2462
    ไข้หวัดใหญ่สเปน

    (Spanish Flu)
    H1N1
    20 – 50 ล้านคน

    2500 – 2501
    ไข้หวัดใหญ่เอเชีย

    (Asian Flu)
    H2N2
    100,000 คน

    2511 – 2512
    ไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง

    (Hong Kong Flu)
    H3N2
    700,000 คน


    ความแตกต่างของไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่

    โรคไข้หวัดนก เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่งที่เกิดกับสัตว์ปีก โดยโรคดังกล่าวเกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า ชนิดหรือสายพันธุ์เอ (type A) สำหรับไข้หวัดใหญ่ที่เกิดในคนมีทั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดหรือสายพันธุ์ เอ (type A) บี (type B) และซี (type C) ไวรัสไข้หวัดนกมีความแตกต่างจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ แบ่งประเภทเป็นสายพันธุ์ย่อย ๆ ตามโปรตีน 2 ชนิด ที่อยู่บริเวณผิวนอกของเชื้อไวรัสเป็นหลัก ได้แก่

    1. ฮีมแอกกลูนินิน (Hemagglutinin, HA หรือ H) เป็นโปรตีนที่จับกับตัวรับบนผิวเซลล์ ทำให้ ไวรัสเข้าเซลล์ที่อยู่ชั้นลึกเข้าไปได้ HA มี 15 ชนิดย่อย
    3 ชนิดย่อยที่พบทั่วไปในคน : H1 , H2 และ H3
    3 ชนิดย่อยที่ระบาดในสัตว์ปีก : H5 , H7 และ H9
    2. นิวรามินิเดส (Neuraminidase, NA หรือ N) เป็นเอนไซม์ย่อยไกลโคโปรตีน ทำให้ไวรัสรอดจากการดักจับของเยื่อเมือกในทางเดินหายใจ ไวรัสจึงรุกลามได้ NA มี 9 ชนิดย่อย แต่มี 2 ชนิดย่อยเท่านั้น (N1 และN2) ที่พบกระจายทั่วไปในคน


    นอกจากนี้ไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอ ที่เป็นสาเหตุและก่อให้เกิดโรค(Pathogenesis) ยังสามารถ จัดกลุ่มตามพันธุกรรมและความรุนแรงที่ก่อให้เกิดโรคได้ 2 กลุ่ม ดังนี้

    1. กลุ่มที่มีความสามารถในการก่อโรคสูง (highly pathogenic avian influenza) ทำให้เกิดอาการ รุนแรงและมักทำให้สัตว์ปีกที่ติดเชื้อตาย ได้แก่ ไวรัสชนิดย่อย H5 และ H7 เช่น H5N1 , H7N7 , H7N3การติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่มีความสามารถในการก่อโรคสูงในคน อาจทำให้เกิดอาการไม่รุนแรง เช่น เชื้อไวรัส H7N3 หรือ H7N7 หรืออาจทำให้เกิดอาการรุนแรงถึงตายได้ เช่น เชื้อไวรัส H5N1
    2. กลุ่มที่มีความสามารถในการก่อโรคต่ำ (low pathogenic avian influenza) ไม่ทำให้เกิดอาการ รุนแรงในสัตว์ปีกที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกส่วนมาก จัดอยู่ในกลุ่มนี้ หากคนติดเชื้อไวรัสกลุ่มนี้จะมีอาการอ่อนๆ เช่น เยื่อตาอักเสบ(conujunctivitis) หรืออาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เชื้อไวรัสกลุ่มนี้ เช่น H9N2 , H7N2 เชื้อไวรัสไข้หวัดนกพบกระจายทั่วไปในนกทั่วโลก นกในธรรมชาติบางชนิดโดยเฉพาะนกน้ำ (water bird) เป็นแหล่งอาศัย (host) ของไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยเชื้ออาศัยอยู่ในลำไส้ และเป็นพาหะของโรคนี้ได้โดยปล่อยเชื้อออกมาในอุจจาระ น้ำลาย น้ำมูกและแพร่เชื้อไปให้สัตว์ปีกที่เป็นสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ เป็ด หรือหมู

    การติดต่อไข้หวัดนกจากสัตว์สู่คน


    เชื้อไวรัสอยู่ในส่วนลำไส้ของสัตว์ปีกเป็นส่วนใหญ่ และพบได้ในระบบทางเดินหายใจ เชื้อไวรัสไข้หวัดนกจึงแพร่กระจายออกมากับอุจจาระ น้ำมูก สิ่งคัดหลั่งอื่นๆ ปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ดิน พืช จึงสามารถรับเชื้อผ่านทางเดินหายใจ ปาก เยื่อบุต่างๆ หรือทางบาดแผลได้ ทำให้เชื้อไวรัสสามารคติดต่อสู่คน ได้ดังนี้

    1. ติดต่อจากการสัมผัสกับสัตว์ป่วยหรือสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสโดยตรง โดยไวรัสจะติดมากับมือ เมื่อเผลอเอามือไปขยี้ตาหรือแคะจมูก เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อบุตาหรือเยื่อบุจมูก หรือสูดหายใจเอาละอองที่มีเชื้อไวรัสเข้าไป หรือโดยการรับประทานเนื้อหรือเลือดสัตว์ป่วยที่ปรุงไม่สุก
    2. ติดต่อจากสัตว์ปีกติดโรคสู่สัตว์ตัวกลางถึงคน เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอในสัตว์ปีกบางครั้งข้ามไปยังสัตว์อีกชนิดหนึ่ง เช่น หมู ได้ เช่น ปี 1986 ที่เนเธอร์แลนด์ สุกรติดเชื้อจากสัตว์ปีก และมีผู้ใหญ่ติดเชื้อจากสุกร มีอาการปอดบวมอย่างหนัก 1 ราย
    3. ติดต่อสัตว์ปีกติดโรคสู่คนถึงคน มีรายงานจากประเทศไทยถึงความน่าจะเป็นของการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกจากคนสู่คน โดยเป็นการติดต่อ ระหว่างคนในครอบครัวเดียวกัน โดยติดต่อจากลูกสู่แม่ โดยแม่ไม่มีประวัติสัมผัสไก่ ที่จังหวัดกำแพงเพชรโดยการติดต่อนี้จะต้องเป็นความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด (intimate contact)

    ไข้หวัดนกในสัตว์ปีก


    การติดต่อ ติดต่อทางระบบทางเดินอาหาร โดยการติดเชื้อจากมูลสู่ปากเป็นวิธีที่พบบ่อยที่สุด หรือติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ เพราะสัตว์ที่ติดโรคจะมีเชื้อไวรัสออกมาทาง น้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระ


    ระยะฟักตัว ตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงถึง 3 วัน


    อาการ อาจตายกระทันหันไม่แสดงอาการ หรือ ซึม ซูบผอม ไม่กินอาหาร ไอ จาม ขนยุ่ง ลดการออกไข่ หายใจลำบาก หน้าบวม หงอน/เหนียงบวม หงอน/เหนียงคล้ำ ท้องเสีย อาการทางประสาท


    อัตราตายของสัตว์ปีกจากโรคไข้หวัดนก = 90-100%

    ไข้หวัดนก H5N1 ในคน


    ระยะฟักตัว เมื่อเริ่มระบาดในปี 2540 ที่ฮ่องกง ผู้ป่วยเกือบทุกรายมีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก 2-4 วันก่อนมีอาการ ปัจจุบันอาจนานถึง 8 วัน


    อาการนำ มีไข้สูง >38 0C ร่วมกับอาการไอ หายใจลำบาก เจ็บคอปวดกล้ามเนื้อ และมีอาการปอดอักเสบตามมา บางรายมีอาการท้องเดิน อาเจียน ปวดท้อง


    การดำเนินโรค มีอาการปอดอักเสบ เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบประมาณวันที่ 5 อาจมีหรือไม่มีเสมหะหรือเสมหะมีเลือดปน มีภาวะปอดอักเสบ หากมีภาวะปอดบวมรุนแรง จะนำไปสู่ภาวะ Acute Respiratory Distress Syndrome ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลวเกิดไตวาย การเสียชีวิตมักเกิดจากการหายใจล้มเหลว พบว่าในปี 2547 อัตราตายในเด็กของประเทศไทยสูงถึง 89%

    การรักษาโรคไข้หวัดนก


    1. มักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากมี ภาวะการหายใจล้มเหลว
    2. ยาปฏิชีวนะชนิด broad-spectrum
    3. ยาต้านไวรัส Oseltamivir
    4. ยาสเตียรอยด์ (corticosteroid)

    แนวทางการรักษาด้วยยาต้านไวรัส


    • ยาต้านไวรัส Oseltamivir (ชื่อการค้า ทามิฟลู Tamiflu) ต้องให้ตั้งแต่ในระยะแรกของโรค ภายใน 24 ชั่วโมง หลังเริ่มมีอาการป่วย
    • ขนาดใช้ในกรณีอาการไม่รุนแรงในผู้ใหญ่ คือ 75 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นติดต่อกัน นาน 5 วัน
    • ในรายที่มีอาการรุนแรง มีการหายใจล้มเหลว ควรเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า (150 มก.)

    การใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดนก


    วัคซีนสำหรับไข้หวัดนก จะต้องเตรียมในลักษณะเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาใหม่ๆ ทุก 2-3 ปี เนื่องจากไวรัสมักมีการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วตามธรรมชาติ ณ ปัจจุบันนี้มีแนวทางในการใช้วัคซีนป้องกัน ดังนี้


    1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สำหรับฉีดในคน

    ช่วยป้องกัน Reassortment ระหว่างไวรัสไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ในคน ป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถติดต่อจากคนสู่คน อันจะทำให้เกิดการระบาดใหญ่ (pandemic) ได้บุคคลที่ควรได้รับวัคซีนชนิดนี้ คือกลุ่มเสี่ยงที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดนก ได้แก่
    • เกษตรกรที่ทำงานเกี่ยวกับสัตว์ปีก
    • เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์/พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมสัตว์ปีก
    • บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วย หรือทำงานในห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับไข้หวัดนก


    2. วัคซีนไข้หวัดนก สำหรับฉีดในคน

    มีการผลิตวัคซีนจากเชื้อไข้หวัดนกที่ระบาดที่ฮ่องกง เมื่อปี 2540 แต่พบว่ามีประสิทธิภาพต่ำต้องฉีด 2 เข็ม ร่างกายจึงจะสร้างภูมิคุ้มกัน และเนื่องจากเชื้อกลายพันธุ์เร็วมาก วัคซีนที่ผลิตขึ้นคาดว่าจะใช้ควบคุมโรคได้ประมาณ 2-3 ปี ดังนั้นจึงต้องผลิตวัคซีนแบบใหม่เพื่อให้สามารถควบคุมโรคได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ขณะนี้เริ่มมีการผลิตวัคซีนจากเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ที่ระบาดในปี 2547 แล้ว อยู่ในระหว่างการวิจัยระยะที่ 1 วัคซีนชนิดนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดนกจากสัตว์ปีกสู่คน


    3. วัคซีนไข้หวัดนก สำหรับฉีดในสัตว์ปีก

    ปัจจุบันรัฐบาลยังไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิดนี้ในประเทศไทย เนื่องจากมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
    ข้อดี
    1. ช่วยลดความสูญเสียของเกษตรกร ทำให้มีสัตว์ป่วยหรือตายน้อยลง
    2. ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อสู่สิ่งแวดล้อม
    ข้อเสีย
    1. การใช้วัคซีนอาจทำให้ต้องใช้เวลาในการกำจัดโรคยาวนานมากขึ้น
    2. ประเทศคู่ค้าของไทยบางประเทศมีข้อกำหนดห้ามนำเข้าไก่เนื้อที่ฉีดวัคซีน
    3. การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพไม่ดีเท่ามาตรการทำลายสัตว์ปีก

    ข้อจำกัดของการใช้วัคซีนไข้หวัดนก


    1. การใช้วัคซีนรบกวนมาตรการกำจัดโรค
    2. การใช้วัคซีนไม่ได้เป็นการป้องกันโรคที่มั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์
    3. วัคซีนไม่สามารถยับยั้งการแพร่เชื้อแบบทันทีทันใด
    4. วัคซีนที่ผลิตจากแหล่งต่างกัน อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่างออกไป เมื่อใช้ในพื้นที่อื่น
    5. สัตว์ที่ได้รับวัคซีนอาจไม่เกิดภูมิคุ้มกันที่สามารถต้านเชื้อไวรัสเมื่อเกิดการระบาดจริง

    สมุนไพร : ไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดนก


    การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกเป็นปัญหาสำคัญทั้งต่อระบบเศรษฐกิจและสุขภาพของประชาชน ในการแก้ไขสถานะการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย จึงต้องการการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ได้องค์ความรู้เข้ามาแก้ไขปัญหา ทั้งแนวทางการแพทย์สมัยใหม่ และการแพทย์ดั้งเดิมตาม ภูมิปัญญาในอดีต โดยเฉพาะสมุนไพรที่มีศักยภาพในการนำมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาในการ ดูแลสุขภาพของคนและสัตว์ ขณะนี้มีสมุนไพรที่จะกล่าวถึง 2 กลุ่มใหญ่ ดังนี้


    1. สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) ประกอบด้วยสมุนไพร

    1.1 พลูคาว / ผักคาวตอง (Houttuynia cordata)

    จากการศึกษาในหลอดทดลอง น้ำมันระเหยการกลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) เอชไอวี (HIV-1) โดยสารสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสดังกล่าว ได้แก่ methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde


    1.2 ทองพันชั่ง (Rhinacanthus nasutus)

    ส่วนเหนือดินของทองพันชั่งมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ Rhinacanthin E และ Rhinacanthin F


    1.3 Epigallocatechin (EGCG)

    EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดลองมีฤทธิ์ ยับยั้งไม่ให้ไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งชนิด A และ B เข้าเซลล์& ลดการติดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตสุนัขได้อย่างมีนัยสำคัญ


    1.4 บีทรู้ท (Beta vulgaris)

    บีทรู้ท = Beet root, sugarbeet ใช้ทำน้ำตาล เมื่อหยอดสารสกัดด้วยน้ำของบีทรู้ทเข้าจมูกหนูถีบ จักรหลายครั้ง ก่อนหยอดไวรัส H1N1 พบว่าช่วย ป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้บางส่วนลดปริมาณเชื้อในปอดหนู ลดอัตราการตายของหนู ยืดเวลามีชีวิตของหนู เมื่อเทียบกับหนูกลุ่มที่ได้รับไวรัสหยอดจมูกอย่างเดียว


    1.5 ใบเตย (Pandanus amaryllifolius)

    ใบเตยมีสารจำพวกเลกติน (lectin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) เท่ากับ15.63 microM


    1.6 สาร Aloe emodin

    Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่พบได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลองนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ นอกจากนี้ สาร aloe emodin ยังยับยั้งไวรัสที่ก่อโรคเริม และงูสวัดได้อีกด้วย


    1.7 ยี่โถ (Nerium indicum)

    สารสกัดด้วยเมทานอล และสารสกัดด้วยเมทานอลกับน้ำของยี่โถมีฤทธิ์ต้านเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ดี โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งเชื้อได้ 50% (IC50) เท่ากับ 10 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร


    2. สมุนไพรกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunomodulator / Immunostimulant)


    2.1 กระเทียม

    2.1.1 Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมเตรียมโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งไว้นานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิห้องแล้วนำมาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ดีเท่าการให้วัคซีน


    2.1.2 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระเทียมที่มีสาร allicin มีการศึกษาวิจัยในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กลุ่มควบคุมได้รับยาหลอก และกลุ่มทดลองได้รับกระเทียมรับประทานวันละ 1 แคปซูล นาน 12 สัปดาห์ ระหว่างฤดูหนาว (พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) และให้คะแนนสุขภาพ และอาการหวัดทุกวัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับกระเทียมมีโอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากลุ่มยาหลอก และเมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า


    2.2 โสม (Ginseng)


    2.2.1 สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดลองให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มก. วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่รวมกันหลายคน (institutional setting) จำนวนรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (ฤดูหนาวปี 2543 -44) เพื่อศึกษาประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจอย่างเฉียบพลัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการของกลุ่มยาหลอกสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างมีนัยสำคัญ (7/101 และ 1/97) และการลดลงของความเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกลุ่มที่ได้รับยา CVT-E002 เท่ากับ 89%


    2.2.2 สารสกัดโสมอเมริกันที่มี poly-furanosyl-pyranosylsaccharides ทดลองให้สารสกัดนี้หรือยาหลอก วันละ 2 แคปซูลนาน 4 เดือน แก่ผู้ที่เคยป่วยเป็นหวัดอย่างน้อย 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ โดยใช้ตัวอย่างเป็นกลุ่มได้รับโสม 73 คน กลุ่มยาหลอก 96 คน พบว่า

    • จำนวนครั้งที่เป็นหวัดโดยเฉลี่ยต่อคน กลุ่มโสม ต่อ กลุ่มยาหลอก คือ 0.68 ต่อ 0.93*
    • อัตราส่วนของคนที่เป็นหวัด 2 ครั้งหรือมากกว่า กลุ่มโสม ต่อ กลุ่มยาหลอก คือ10% และ 28%*
    • คะแนนความรุนแรงของอาการหวัด กลุ่มโสม ต่อ กลุ่มยาหลอก คือ77.5 ต่อ 112.3*
    • จำนวนวันที่มีอาการหวัดสำหรับการเป็นหวัดทุกครั้ง กลุ่มโสม ต่อ กลุ่มยาหลอก คือ 10.8 ต่อ 16.5 วัน*


    2.2.3 Standardized ginseng extract (Ginsana G115) ทดลองให้สารสกัดนี้ในขนาด 100 มก.หรือยาหลอกแก่อาสาสมัคร นาน 12 สัปดาห์ และให้ anti-influenza polyvalent vaccine ในสัปดาห์ที่ 4 จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ พบว่า กลุ่มที่ได้ยาหลอก ป่วยด้วยโรคไข้หวัด/ไข้หวัดใหญ่ เป็น 42/113 คน กลุ่มที่ได้รับโสม ป่วยด้วยโรคไข้หวัด/ไข้หวัดใหญ่ เป็น 15/114 คน ซึ่ง ทั้งสองกลุ่มพบว่าแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ Natural killer (NK) activity ในสัปดาห์ที่ 8 และ 12 ในกลุ่มที่ได้รับโสม สูงกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกเกือบ 2 เท่า


    2.3 Echinacea มี 3 ชนิด คือ Echinacea purpurea , Echinacea pallida , Echinacea angustifolia ส่วนที่ใช้ คือ ส่วนเหนือดิน (น้ำคั้น) และราก ประกอบด้วยสารสำคัญ ดังนี้


    2.3.1 Alkamides พบในรากและดอก พบมากในรากของ E. angustifolia และพบบ้างในน้ำคั้น E. purpurea


    2.3.2 Cichoric acid พบมากใน E. purpurea มีฤทธิ์กระตุ้น phagocytosis ถูกสลายด้วยเอนไซม์ในพืช ปริมาณในแต่ละผลิตภัณฑ์แตกต่างกันได้มาก



    2.3.3 Polysaccharides พบมากในน้ำคั้นส่วนเหนือดิน พบสารนี้ 2 ชนิดใน E. purpurea มีฤทธิ์กระตุ้น phagocytosis และเพิ่มการสร้างอนุมูลอิสระของออกซิเจนจาก macrophage


    2.3.4 Glycoproteins พบมากในรากของ E. purpurea และ E. angustifolia มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของ B cells และ macrophage


    โดยสารสกัดแอลกอฮอล์กับน้ำ (aqueous ethanol) ของราก Echinacea purpurea, ราก Echinacea pallida, ราก Baptisia tinctoria, ต้น Thuja occidentalis เมื่อให้หนูถีบจักรได้รับสารสกัดในน้ำดื่ม และหยอดไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เข้าจมูกหนู พบว่า สารสกัดดังกล่าวช่วย เพิ่มอัตราการรอดตาย (survival rate) เพิ่มระยะเวลาเฉลี่ยที่มีชีวิต (mean survival rate) ลดปริมาณไวรัสในปอด (viral titer) และ ลดการ consolidation ของปอด
    การศึกษา Echinacea เปรียบเทียบกับ ฟ้าทะลายโจร


    ศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลในการเป็นยาเสริมเพื่อบรรเทาอาการหวัดในเด็ก 130 คน โดยให้กินยา 10 วัน โดยแบ่งเป็น


    กลุ่ม A ใช้ยามาตรฐาน กับ ยา Kan Jang (53 คน) เป็นตำรับยาที่มี standardized extract SHA-10 ของฟ้าทะลายโจรอยู่ด้วย
    กลุ่ม B ใช้ยามาตรฐาน กับ ยา Immunal (41 คน) เป็นตำรับยาที่มีสารสกัด E. purpurea
    กลุ่ม C ยามาตรฐานอย่างเดียว (39 คน) พบว่า ยาเสริม Kan Jang มีประสิทธิผลดีกว่า Immunal โดยพบอาการของโรครุนแรงน้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณน้ำมูก และอาการคัดจมูก ช่วยเร่งให้หายเร็วขึ้น ช่วยลดปริมาณการใช้ยามาตรฐานลง เมื่อเทียบกับ กลุ่ม B & กลุ่ม C

    งานวิจัยสมุนไพรกับไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย


    1. ฟ้าทะลายโจร

    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Andrographis paniculata
    วงศ์ : Acanthaceae
    ส่วนที่ใช้ : ใบ หรือส่วนเหนือดิน
    สารสำคัญ : สารกลุ่มไดเทอปีนแลคโตนเช่น แอนโดรกราโฟไลด์ นีโอแอนโดรกราโฟไลด์ โดยฤทธิ์ที่พบจากการศึกษาในหลอดทดลองหรือสัตว์ทดลอง ได้แก่ ฤทธิ์ต้านอักเสบ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดไข้ และต้านอนุมูลอิสระ


    ประสิทธิผลในการบรรเทาโรคระบบทางเดินหายใจ
    • บรรเทาอาการไข้เจ็บคอ ขนาด 6 กรัม/วัน แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง
    • บรรเทาอาการหวัด
    • ป้องกันหวัด (ยังไม่แน่ชัด)


    ศ.นพ.วิษณุ ธรรมลิขิตกุล (2534) วิจัยร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ โรงพยาบาล ชุมชนหลายแห่งให้ผู้ป่วยที่มีเป็นไข้เจ็บคอรับประทานฟ้าทะลายโจรแคปซูลในขนาด 3 ก./วัน หรือ 6 ก./วัน แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 7 วัน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาพาราเซตามอลขนาด 3 กรัม/วัน ในวันที่ 3 หลังรักษา ผู้ป่วยที่ได้รับฟ้าทะลายโจรขนาด 6 กรัม/วัน หายจากไข้และอาการเจ็บคอไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ได้รับยาพาราเซตามอล แต่ทั้งสองกลุ่มหายจากไข้และอาการเจ็บคอมากกว่ากลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรขนาด 3 กรัม/วันอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผลการรักษาไม่มีความแตกต่างกันในวันที่ 7 ซึ่งผลงานวิจัยนี้จึงนำไปสู่การบรรจุยาจากสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในบัญชียาหลักแห่งชาติสำหรับรักษาอาการไข้เจ็บคอโดยให้รับประทานในขนาด 6 กรัม/วัน แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง


    ประสิทธิผลในการบรรเทาอาการหวัด

    • ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
    • ฤทธิ์ต้านอักเสบ
    • ฤทธิ์ลดไข้


    Hancke และคณะ (2538) ทดลองให้สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราโฟไลด์ (androgra-pholide) 4% ในขนาด 1200 มิลลิกรัมต่อวัน แก่ผู้ป่วยโรคหวัด (common cold) 28 คน แล้ววัดผลใน วันที่ 4 หลังได้รับยา พบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรสามารถลดอาการเจ็บคอ เหนื่อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับยาหลอก 33 ราย โดยไม่รายงานว่าทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากการใช้ยา


    Caceres และคณะ (2542) ได้ทดลองให้ยาเม็ดฟ้าทะลายโจรซึ่งมีสารสกัด 100 มก./เม็ด ที่มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์และดีออกซีแอนโดรกราโฟไลด์รวมกันไม่น้อยกว่า 5 มก./เม็ด ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3 เวลา ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด 102 คน เทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก 106 คน โดยให้ผู้ป่วยระบุความรุนแรงของแต่ละอาการเมื่อเริ่มให้ยา และหลังได้รับยา 2 วัน และ 4 วันตามลำดับ พบว่า วันที่ 2 หลังได้รับยา ความรุนแรงของอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ และในวันที่ 4 หลังได้รับยา ความรุนแรงของทุกอาการได้แก่ อาการไอ (ทั้งความแรงและความถี่) เสมหะ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหู นอนไม่หลับเจ็บคอ ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ


    องค์การอนามัยโลกจึงได้แนะนำให้ใช้ฟ้าทะลายโจรในการบรรเทาอาการหวัดในเอกสาร WHO monographs of selected medicinal plants Volume 2 ภายใต้ monograph “Herba Andrographidis”

    ปัจจุบันมีการใช้ฟ้าทะลายโจรในซีกโลกตะวันตกมากขึ้น จากการศึกษาวิจัยของ Swedish Herbal Institute ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดฟ้าทะลายโจรของสถาบันนี้ เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรรักษาโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ และไซนัสอักเสบที่ขายดีที่สุดในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ความนิยมในการใช้สมุนไพรนี้เพื่อรักษาโรคหวัดได้แพร่หลายไปยังประเทศอื่นในซีกโลกตะวันตกแล้ว ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียโดยมีการแนะนำสมุนไพรนี้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นใน website ต่าง ๆ มากมายภายใต้ชื่อสมุนไพร ‘Andrographis’

    ขณะนี้ สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกำลังอยู่ในระหว่าง การศึกษาวิจัยทางคลินิก โดยร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เพื่อประเมินประสิทธิผลในการบรรเทาอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ของฟ้าทะลายโจร


    การทดลองใช้ฟ้าทะลายโจรในไก่

    นักวิจัยไทยในหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ และคณะเกษตรศาสตร์และสัตวแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้ศึกษาวิจัยการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรในไก่เพื่อทดแทนยาปฏิชีวนะ หรือใช้เป็น performance enhancer หรือ growth promotor ในไก่มาหลายปีแล้ว พบว่าฟ้าทะลายโจรมีผลบวกต่อไก่ อย่างชัดเจน และมีศักยภาพในการนำมาใช้ทดแทนวัตถุสังเคราะห์ที่เติมในอาหารไก่ (feed additive) ได้ จากรายงานการวิจัย พบว่าฟ้าทะลายโจรสามารถ

    • ช่วยเพิ่มอัตราการเลี้ยงรอดของแม่ไก่และเพิ่มความ เข้มของสีไข่แดงในไก่ไข่
    • ช่วยให้ระดับภูมิคุ้มกันต่อ IBD virus ในไก่สูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
    (IBD = Infectious Bursal Disease เกิดจาก Birnavirus ไปกดภูมิคุ้มกันของไก่ ทำให้ไก่ติดเชื้อโรคฉวยโอกาสได้ง่าย เบื่ออาหาร ผอม ถ่ายเหลว และตายได้)


    2. แมงลักคา หรือ Phyto-1

    ชื่อวิทยาศาสตร์: Hyptis suaveolens Poit.
    ชื่อวงศ์: Lamiaceae (Labiatae)


    งานวิจัยของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

    • จากการศึกษาในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่าสารสกัดแมงลักคาเข้มข้น 5 มก./มล. สามารถลดการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3N2 ของเซลล์เพาะเลี้ยงได้ 93%
    • การศึกษาพิษเรื้อรังในหนูขาว พบว่าขนาดที่ใช้เป็นยาไม่ทำให้เกิดพิษในหนูขาว
    • จากการวิจัยทางคลินิกระยะที่ 1 เพื่อศึกษาความปลอดภัยของสารสกัด Phyto-1 แคปซูลพบว่ามีความปลอดภัยไม่ทำให้เกิดความผิดปกติในอาสาสมัครสุขภาพแข็งแรง

    ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำลังดำเนินการศึกษาวิจัยทางคลินิกในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อยู่


    3. โป๊ยกั๊ก หรือ จันทน์แปดกลีบ (Chinese Star Anise)

    โป๊ยกั๊กมีการปลูกอยู่ใน 4 มณฑลของประเทศจีนได้แก่ ฟูเจี้ยน กวางดง กวางสี และยูนนาน และในประเทศเวียดนาม โดยจะเก็บเกี่ยวในเดือนมีนาคม–พฤษภาคม ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตยา Tamiflu ได้ทำสัญญากับ supplier ที่จำหน่ายโป๊ยกั๊กเกือบทั้งหมดในประเทศจีนไว้แล้ว กล่าวกันว่า 90% ผลผลิตโป๊ยกั๊กของจีนในปัจจุบันใช้เพื่อการผลิตยา Tamiflu


    การสังเคราะห์ Tamiflu จากสารตั้งต้นในโป๊ยกั๊ก

    การผลิตยา Tamiflu หรือ oseltamivir ต้องสังเคราะห์จากสารตั้งต้นชื่อ shikimic acid ซึ่งเป็นสารที่พบมากในพืชสกุล Illicium ซึ่ง “โป๊ยกั๊ก” หรือ Illicium verum Hook. F. ที่มีชื่อสามัญว่า Chinese star anise, star anise เป็นพืชที่เป็นแหล่งสำคัญของสาร shikimic acid การผลิตยา Tamiflu ต้องเริ่มจากกระบวนการสกัดเมล็ดโป๊ยกั๊กที่เหมาะสมเพื่อให้ได้สาร shikimic acid ออกมาในปริมาณมาก ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน การหมัก (fermentation) การสกัด (extraction) การแยกสาร (isolation) และ การทำให้สาร shikimic acid ที่แยกออกมาได้ มีความบริสุทธิ์ (purification) ก่อนที่จะนำไปใช้ในขบวนการผลิตยา Tamiflu ต่อไป


    การกินโป๊ยกั๊กช่วยป้องกันไข้หวัดนกได้หรือไม่ ?

    จากการที่การผลิตยา Tamiflu ต้องอาศัยสาร shikimic acid จากโป๊ยกั๊กของจีนเท่านั้น ทำให้เกิดความยากลำบากในการเพิ่มปริมาณการผลิตTamiflu เพราะวัตถุดิบมีปริมาณจำกัดและไม่แน่นอน และมีราคาแพง และจากกระบวนการสกัดสารตั้งต้น จึงได้คำตอบว่า การกินโป๊ยกั๊กไม่ช่วยในการป้องกันไข้หวัดนก


    ควรเร่งปลูกโป๊ยกั๊กเพื่อใช้ผลิตทามิฟลูหรือไม่ ?

    มีการค้นคิดวิธีการใหม่ในการผลิตยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ เช่น ให้แบคทีเรียผลิต shikimic acid ให้ หรือ ผลิตยาชนิดใหม่ที่ไม่ต้องใช้ shikimic acid ในขบวนการสังเคราะห์ เนื่องจากในอนาคต เชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ H5N1 คงจะดื้อต่อยาทามิฟลูทำให้ใช้ไม่ได้ผล จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งปลูกโป๊ยกั๊ก


    สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดนก หรือโรคไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ปีก ก่อให้เกิดผลกระทบในทางกว้างทั้งด้านเศรษฐกิจ และการสาธารณสุข มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไข้หวัดนก มีการทำลายไก่ เป็ด ในพื้นที่เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรค มีการตื่นตัวในการศึกษาวิจัยและพัฒนายาต้านไวรัสและการใช้วัคซีน โดยมีมุมมองทั้งตัวยาแผนปัจจุบันและยาแผนไทย โดยเฉพาะสมุนไพรไทยที่จะมีศักยภาพออกฤทธิ์ช่วยยับยั้ง การเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หรือกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย นับเป็นการเร่งด่วนที่ผู้เกี่ยวข้องจะมีแผนการลงทุนวิจัยด้านสมุนไพรที่พัฒนาเป็นยาแผนไทย เพื่อสามารถนำมาใช้กับผู้ติดเชื้อหรือสัตว์ปีกที่ติดโรคได้ในอนาคตต่อไป.


    เรียบเรียงโดย
    กลุ่มงานพัฒนาวิชาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร
    สถาบันการแพทย์แผนไทย

    สร้างเมื่อ 07 - ก.พ.- 49

    จาก http://www.dtam.moph.go.th/alternati...ory.php?id=357
     
  14. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    เกษม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2072974", true); </SCRIPT>
    ผู้สนับสนุน กิตติมศักดิ์


    [​IMG]


    นายกฯ เม็กซิโกซิตี้ ชี้มาตรการปิดร้านค้า-บริการ คุมหวัดใหญ่ไม่สำเร็จ


    [​IMG]


    เม็กซิโกซิตี้ 1 พ.ค.-นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี้ เตือนประชาชนอาจต้องดำเนินชีวิตอย่างยากลำบากต่อไป หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

    นายมาร์เซโล เอบราร์ด นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี้ ระบุว่ามาตรการของรัฐบาลที่ประกาศให้ธุรกิจร้านค้าและบริการที่ไม่มีส่วนสำคัญและจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสาธารณชนปิดดำเนินการชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-5 พฤษภาคม เพื่อหวังหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มของผู้คนนั้น ไม่ประสบความสำเร็จในการควบคุมเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกไม่ให้แพร่ระบาดหนัก เพราะจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 176 คนแล้ว มาตรการดังกล่าวจะยิ่งทำให้ประชาชนดำรงชีวิตอย่างยากลำบากมากขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของกรุงเม็กซิโกซิตี้อย่างรุนแรง

    ด้านองค์การอนามัยโลกบอกว่า จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีความจำเป็นที่จะยกระดับการเตือนภัยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจากระดับ 5 เป็นระดับ 6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด แต่ก็เตือนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดกำลังเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-01 05:13:02


    อนามัยโลกประกาศตั้งชื่อให้ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่แล้ว


    [​IMG]


    เจนีวา 1 พค. - องค์การอนามัยโลกประกาศตั้งชื่อโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่มาจากเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 ว่า โรคไข้หวัดใหญ่เอ ไม่ใช่ไข้หวัดหมูซึ่งเป็นชื่อเรียกต่อ ๆ กันมาก่อนนี้ หลังจากมีแรงกดดันจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และรัฐบาลนานาประเทศ

    แถลงการณ์ในเว็บไซต์องค์การอนามัยโลก www.who.int/en ระบุว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทางองค์การจะเรียกชื่อไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่นี้ว่า ไข้หวัดใหญ่เอ (เอช1เอ็น1) ทั้งนี้เชื้อไวรัสดังกล่าว แม้เคยได้ชื่อว่าไข้หวัดหมู แต่กลับพบเชื้อในคนเท่านั้น โดยเป็นการรวมกันของไวรัสหมู คน และนก จึงทำให้เกิดไวรัสกลายพันธุ์และไม่พบว่าหมูป่วยด้วยเชื้อโรคตัวนี้

    เว็บไซต์องค์การอนามัยโลก ประกาศว่า การบริโภคเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์หมูที่ปรุงสุกอย่างดี ไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส สำหรับการเรียกชื่อไข้หวัดหมู ส่งผลให้นานาประเทศระงับการนำเข้าหมูจากเม็กซิโกและสหรัฐ ซึ่งเป็นต้นตอการระบาด ส่วนรัฐบาลอียิปต์สั่งฆ่าหมูให้หมด ทำให้อุตสาหกรรมอาหารรวมทั้งรัฐบาลสหรัฐและยุโรป เรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อโรคใหม่ เนื่องจากคนมักคิดว่าเป็นไวรัสที่มาจากหมู .- สำนักข่าวไทย

    2009-05-01 09:48:25


    ญี่ปุ่นพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกรายแรก


    [​IMG]


    ญี่ปุ่น 1 พ.ค. - ญี่ปุ่นพบผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกรายแรก เป็นเด็กนักเรียนมัธยมในเมืองโยโกฮามา

    นายโยอิจิ มาสุโซเอะ รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่น ระบุว่า ผลการทดสอบในเบื้องต้นเชื่อว่า นักเรียนชายวัย 17 ปี ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองโยโกฮามา ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเดียวกับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาด หลังนักเรียนคนดังกล่าวเดินทางไปยังรัฐบริทิช โคลัมเบีย ของแคนาดา ระหว่างวันที่ 10-25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติกำลังตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม และทำการวิเคราะห์โครงสร้างดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสที่พบ

    ทั้งนี้ หากผลตรวจออกมายืนยันว่าเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกจริง เด็กนักเรียนคนดังกล่าวก็น่าจะเป็นผู้ป่วยรายแรกของญี่ปุ่น และขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับทางการเมืองโยโกฮามา กำลังเร่งสอบสวนว่า มีผู้ได้รับเชื้อรายอื่นอีกหรือไม่. - สำนักข่าวไทย
     
  15. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ราคาเนื้อหมูดิ่งลงจากความกังวลไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก

    [​IMG]


    มิลวอคกี้ 1 พค. - ราคาเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์หมูในสหรัฐ ดิ่งลงตามความกังวลที่มีต่อการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกระบาดไปทั่วโลก ขณะที่พ่อค้าต่างกังวลว่าปริมาณความต้องการจะลดลงเนื่องจากผู้คนหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมู

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐ กล่าวว่า ไวรัสเอช1เอ็น1 ซึ่งทำให้เกิดโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ไม่ได้ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุกอย่างดี แต่เป็นการติดต่อระหว่างคนด้วยกัน ไม่ใช่การติดต่อจากหมูสู่คน ราคาเนื้อหมูสันใน เดือนมิถุนายน มีราคาปอนด์ละ 64.52 เซนต์ ที่ตลาดชิคาโก ลดลงร้อยละ 3.3 ในขณะที่เนื้อหมูแช่แข็ง ลดลงร้อยละ 2.1 เป็นปอนด์ละ 74.92 เซนต์ ซึ่งผู้บริโภคจำนวนมากและบางประเทศต่างเลิกบริโภคเนื้อหมู หรือยกเลิกการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากหมู

    สำนักงานการค้าสหรัฐ รายงานว่า ประเทศผู้นำเข้าเนื้อหมูสหรัฐรายใหญ่ เช่น รัสเซียและจีน สั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์หมูจากรัฐแคลิฟอร์เนีย แคนซัส และนิวยอร์ก ส่วนประเทศอื่น ๆ เช่น อินโดนีเซีย ยูเครน ฟิลิปปินส์ และเซอร์เบีย ต่างห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์หมูบางประเภทจากสหรัฐทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย

    2009-05-01 10:52:42

    ที่มา http://news.mcot.net/international/<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ตามติด " ไข้หวัดหมู " กับไอโฟนแอพฯ
    ;k01;k01;k01;k01​
    โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th - 1 พฤษภาคม 2552 เวลา 08:14 น.
    ช่วงนี้ประเด็นข่าวที่เราได้ยินกันทุกวันเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของ "ไข้หวัดหมู" หรือไข้หวัดใหญ่ในเม็กซิโก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเนื่องจากติดเชื้อที่สูงถึง 177 รายแล้ว การติดตามข้อมูลข่าวสารในรูปแบบต่างๆ ที่แพร่สะพัดบนเน็ต ตลอดจนไวรัสคอมพิวเตอร์ทีเกาะกระแสนี้ด้วยเช่นกัน ล่าสุดได้มีบริษัทแห่งหนึ่งพัฒนาแอพฯบนไอโฟน เพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของไข้หวัดหมูเรียบร้อยแล้ว​
    [​IMG]
    สำหรับแอพฯบนไอโฟนดังกล่าวมีชื่อว่า Swine Flu Tracker พัฒนาโดยบริษัท IntuApps ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของแอปเปิ้ลก่อนที่จะใส่เข้าไปใน App Store ในส่วนของการทำงานของโปรแกรม Barry Schwartz จาก IntuApps ได้แสดงหน้าจอตัวอย่างของการทำงานไว้ในบล็อกของเขา โดยมันจะติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับไข้หวัดหมูในหลายๆ ทางไม่ว่าจะเป็น ระดับความรุนแรงที่ประกาศโดย WHO แผนที่ที่ได้รับการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อและผู้ต้องสงสัยที่ต้องคอยเฝ้าระวัง ลักษณะอาการของผู้ติดเชื้อที่ควรทราบ และรายงานข่าวด่วนเกี่ยวกับไข้หวัดหมู

    [​IMG]

    ทุกวันนี้คงไม่มีใครมองเรื่องของไข้หวัดหมูเป็นเรื่องตลกอันเนื่องจากชื่อของมันอีกต่อไป แต่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่ประชากรโลกจะต้องเฝ้าระวังและจับตาเป็นพิเศษ การพัฒนาแอพพลิเคชัน Swine Flu Tracker บน iPhone จึงถือว่าเป็นการช่วยให้ผู้ใช้ไอโฟนที่มีแอพฯ ตัวนี้ได้ทราบความเคลื่อนไหวของมฤตยูร้ายนี้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะการได้ทราบถึงพื้นที่เสี่ยงที่ไม่ควรไป และที่น่าประทับใจไปกว่านั้นก็คือ ทาง IntuApps มีความตั้งใจทีจะแจกจ่ายแอพฯตัวนี้ให้ฟรี เมื่อมันเข้าไปอยู่ใน App Store อีกด้วย


    [​IMG]


    <!-- ที่มา :
    http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02com04290152&day=2009-01-29ionid=0209

    -->
    Tags: ไข้หวัดหมู swine flu ไอโฟน iphone application

    ขอบคุณข้อมมูลจาก : http://www.rssthai.com/reader.php?t=it&r=13927
     
  17. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ไวรัสคอมพิวเตอร์ " ไข้หวัดหมู "
    โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th - 30 เมษายน 2552 เวลา 15:39 น.

    ;k01;k01;k01;k01

    แม้จะยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูจนเสียชีวิตในประเทศญี่ปุ่น แต่กลับปรากฎว่า พบไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ชื่อเหมือนกัน (Swine Flu Computer Virus) กำลังแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่าน โดยได้มีประกาศแจ้งเตือนออกมาล่าสุดวันนี้ (30 เม.ย. 2552)

    สถาบันโรคติดเชื้อในประเทศญ๊่ปุ่น หรือ NIID ได้โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ของทางสถาบันระบุว่า พบอีเมล์ที่เขียนด้วยภาษาญี่ปุ่นพร้อมไฟล์แนบที่มีชื่อว่า "information on swine flu"แพร่กระจายอยู่ในอินเทอร์เน็ต
    "ทางสถาบันฯได้รับรายงานว่า มีอีเมล์ที่ระบุว่าส่งมาจาก NIDD แพร่กระจายอยู่ในอินเทอร์เน็ต โดยอีเมล์ฉบับดังกล่าวจะมาพร้อมกับไฟล์แนบชื่่อ information on swine flu" อย่างไรก็ตาม ทางสถาบันฯ ไม่ได้ให้รายละเอียดชนิดของมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ ตลอดจนสิ่งเลวร้ายที่มันทำ ส่วนต้นฉบับอีเมล์ถูกส่งมาจากโดเมน @yahoo.co.jp โดยจะแพร่กระจายด้วยการส่งไปยังผู้ใช้บนอินเทอร์เน็ตด้วยวิธีการสุ่ม
    นอกจากจะมีรายงานการพบไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ใช้เหตุแห่งความกลัวที่เกิดขึ้นกับผู้คนทั่วโลกเกี่ยวกับไข้หวัดหมูแล้ว ล่าสุดไซแมนเทคออกมาแจ้งว่า มีการส่งอีเมลืพร้อมไฟล์แนบ PDF ที่อาศัยช่องโหว่ของ Adobe Reader โดยไฟล์อันตรายดังกล่าวจะใช้ชื่อว่า Swine influenza frequently asked questions.pdf เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์นี้ขึ้นมา มันจะส่งโค้ดมัลแวร์ชื่อ infoStealer เข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ทันที ข้างล่างคือ ภาพไฟล์ pdf อันตราย


    [​IMG]

    ทางบริษัทยังได้ให้ข้อมูลของ 10 อันดับอีเมล์ที่สแปมเมอร์ใช้บรรทัดหัวเรื่องเกี่ยวกับ Swine Flu เพื่อหวังผลทางการตลาด โดยมี่หัวข้อ (subject) ที่พบดังต่อไปนี้
    1. Swine flu in USA
    2. Salma Hayek caught swine flu!
    3. US swine flu statistics
    4. Swine flu in Hollywood!
    5. NY victims of swine flu
    6. Swine flu worldwide!
    7. Madonna caught swine flu!
    8. First US swine flu victims!
    9. Will swine flu attack USA?
    10. US swine flu fears

    <!-- ที่มา :
    http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02com04290152&day=2009-01-29ionid=0209

    -->
    Tags: ไข้หวัดหมู swine flu เม็กซิโก คอมพิวเตอร์ ไวรัส ญี่ปุ่น

    ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.rssthai.com/reader.php?t=it&r=13927
     
  18. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ;k01;k01;k01;k01

    New Zealand Students who Traveled to Mexico Quarantined on Pig Flu Potential



    [​IMG]

    It is belived that 10 students "likely" have swine flu after returning from a school trip to Mexico, The New Zealand Health Minister Tony Ryall said none of the patients was seriously ill and they seemed to be recovering. The students traveling students had tested possitive for influenza, but it was still not tested if they had swine flu. Governments across Asia began quarantining those that had traveled to Mexico and that had symptoms of the deadly virus; in that same not, some issued travel warnings for Mexico.

    Obama video on Pig Flu

    CBS-YouTube video where Obama tries to calm the public about the global Pig Flu outbrake.

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/fSUeotBPaLc&hl=en&fs=1&color1=0x234900&color2=0x4e9e00 width=640 height=505 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>

    Sources: CBS,

    ;k01;k01;k01;k01
    Governments around the World taking Precautions as Pig Flu Reaches Global Status


    As the spread of the deadly Swine Flu virus speeds up in Mexico and starts entering other countries such as the United States, New Zealand, Canada, and Israel, countries are taking necessary precautions to prevent the virus from reaching a pandemic in their own countries. This measures include quarantining some sick travelers from Countries known to have the pig flu virus. The United States Homeland Security has released a quarter of its 50 million antiviral medicatons to be delivered to the cities and towns as a preemptive measure to combat the sperad of the flu infections. Source: AP

    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/LIyA5X0wJ1Y&hl=en&fs=1&color1=0x234900&color2=0x4e9e00 width=640 height=505 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>



    Pig Flu Companies, Ready for a Swine Flu Outbreak


    Kleiner Perkins Caufield & Byers
    Venture Capital firm with shares in two public companies: BioCryst Pharmaceuticals, and Novavax
    Roche Holding AG
    Owner of Tamifly which might be effective against the swine flu virus

    Glaxo Smith Kline
    Maker of Relenza which might also be effective agains the pig flu virus

    Biocryst Pharmaceuticals
    Maker of key enzymes that block the action of influenza viruses
    Novavax
    Viral vaccine maker

    [​IMG]

    http://pigflu.com/ ;k01;k01
     
  19. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    Swine Flu Theory Investigated: Intensive Farming


    [​IMG]
    A team from the UN Food and Agriculture Organisation (FAO) is on its way to Mexico Tuesday April 28 with the purporse of investigating the origin of the swin flu cases in Mexico.
    The chief veterinary officer of the FAO, Joseph Domenech, told the BBC that rumours that people had been falling ill last month near some intensive pig farms meant the FAO had to act: "[We had] no indication of human cases of direct contact with pigs but this can never be totally sure and the probability that this virus could come from pigs directly could not be anyway ruled out totally"
    It is believed that the origin of the current pig flu epidemic took place in an industrialized American-Mexican where a 4-year-old boy acquired the illness first. The boy, who survived the influenza infection, is Mexico's earliest known case of the pig-bird-human chimera virus, Health Secretary Jose Angel Cordova said Monday. The boy lives near a pig farm run by a U.S.-Mexican company, Granjas Carroll, in the municipality of Perote, in Veracruz state on the Gulf of Mexico. The 4-year old contracted the disease on April 2, Cordova said, one of a group of residents who came down with what was at the time labeled a particularly bad case of the flu. Testing confirmed that the disease contracted by the boy was due to the same strain of virus that has caused the epidemic.
    People contracting pig flu from pig farming is not uncommon, in fact, it happens everywhere in the world; what is highly uncommon is that after the virus contracted from the animal is acquired it is transferred from human-to-human as is the case of the current epidemic.

    Sources: BBC, AFP

    http://pigflu.com/content/swine-flu-theory-investigated-intensive-farming
     
  20. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    Pig Flu level of alerness raised from 4 to 5, very close to Pandemic

    The World Health Organization has raised the level of pandemic alert from 4 to 5; 6 is considered a pandemic. But both levels 5 and 6 are considered to raise the awareness to great concern according to the World Health Organization. Chart showing the WHO pig flu levels of alertness.

    [​IMG]

    Follows the statement by WHO Director-General, Dr Margaret Chan:

    "Based on assessment of all available information, and following several expert consultations, I have decided to raise the current level of influenza pandemic alert from phase 4 to phase 5. Influenza pandemics must be taken seriously precisely because of their capacity to spread rapidly to every country in the world. On the positive side, the world is better prepared for an influenza pandemic than at any time in history. Preparedness measures undertaken because of the threat from H5N1 avian influenza were an investment, and we are now benefitting from this investment. For the first time in history, we can track the evolution of a pandemic in real-time. I thank countries who are making the results of their investigations publicly available. This helps us understand the disease. I am impressed by the work being done by affected countries as they deal with the current outbreaks. I also want to thank the governments of the USA and Canada for their support to WHO, and to Mexico. Let me remind you. New diseases are, by definition, poorly understood. Influenza viruses are notorious for their rapid mutation and unpredictable behaviour. WHO and health authorities in affected countries will not have all the answers immediately, but we will get them. WHO will be tracking the pandemic at the epidemiological, clinical, and virological levels. The results of these ongoing assessments will be issued as public health advice, and made publicly available. All countries should immediately activate their pandemic preparedness plans. Countries should remain on high alert for unusual outbreaks of influenza-like illness and severe pneumonia. At this stage, effective and essential measures include heightened surveillance, early detection and treatment of cases, and infection control in all health facilities. This change to a higher phase of alert is a signal to governments, to ministries of health and other ministries, to the pharmaceutical industry and the business community that certain actions should now be undertaken with increased urgency, and at an accelerated pace. I have reached out to donor countries, to UNITAID, to the GAVI Alliance, the World Bank and others to mobilize resources. I have reached out to companies manufacturing antiviral drugs to assess capacity and all options for ramping up production. I have also reached out to influenza vaccine manufacturers that can contribute to the production of a pandemic vaccine. The biggest question, right now, is this: how severe will the pandemic be, especially now at the start? It is possible that the full clinical spectrum of this disease goes from mild illness to severe disease. We need to continue to monitor the evolution of the situation to get the specific information and data we need to answer this question. From past experience, we also know that influenza may cause mild disease in affluent countries, but more severe disease, with higher mortality, in developing countries. No matter what the situation is, the international community should treat this as a window of opportunity to ramp up preparedness and response. Above all, this is an opportunity for global solidarity as we look for responses and solutions that benefit all countries, all of humanity. After all, it really is all of humanity that is under threat during a pandemic. As I have said, we do not have all the answers right now, but we will get them. Thank you."



    Pig Flu Statistics
    Statistics:


    159 dead in Mexico, 1,614 infected
    1 dead, 109 infected in the United States
    13 infected in Canada
    10 infected in New Zealand
    20 suspected, 4 confirmed infected in Spain
    8 suspected cases in Chile
    7 suspected in Venezuela
    4 suspected cases in Colombia
    14 suspected, 5 confirmed in Britain
    3 infected in Germany
    2 infected in Israel

    1 infected in Austria
    1 Suspected case in South Korea ( first reported in Asia )

    Areas Affected:
    Mexico: Mexico State and San Luis Potosi State
    USA: Arizona, California, Indiana, Kansas, Massachusetts, Michigan, Nevada, New York, Ohio, South, Carolina, Texas
    Canada: Nova Scotia
    New Zealand: Quarantined


    Updated May-1-09 @ 2:00 AM ET

    http://pigflu.com/content/pig-flu-level-alerness-raised-4-5-very-close-pandemic
     

แชร์หน้านี้

Loading...