รู้ชีวิตจากเส้นสายลายเซ็น

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย paang, 15 กันยายน 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [​IMG]

    รอยหมึกที่จารึกผ่านปลายปากกาโดยใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที สิ่งนี้กำหนดชะตาชีวิตคุณ - เชื่อหรือไม่?

    เรากำลังพูดถึงลายเซ็นที่เป็นเครื่องหมายแสดงตัวตนของคนหนึ่งคน ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์ เชื่อกันว่า ลายเซ็น สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ดวงชะตาบุคคลผู้เป็นเจ้าของลายเซ็นได้

    "การพยากรณ์เรื่องลายเซ็นจะบอกอดีต ปัจจุบัน อนาคต นอกจากนี้ยังบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของลายเซ็นกับคนรอบข้าง บอกลักษณะอุปนิสัยใจคอ แนวโน้มเรื่องของความรัก อาชีพ หน้าที่การงาน และสำคัญที่สุดคือบอกเรื่องของสุขภาพ" เอกพงศ์ บูรณไพบูลย์ ครีเอทีฟฝ่ายกิจกรรม จากคลื่น 89 บานาน่า

    เอฟเอ็ม ผู้สนใจศาสตร์การพยากรณ์จากลายเซ็นมากว่า 4 ปี เริ่มต้นเล่า

    เอกพงศ์ บอกว่า เดิมทีเขาไม่ได้มีความสนใจเรื่องการทำนายโชคชะตา ทั้งยังมองว่าเป็นเรื่องงมงาย แต่เมื่อได้ลองพิสูจน์กับตัวเองถึงได้ประจักษ์รู้ในความมหัศจรรย์

    "เมื่อก่อนผมทำงานเกี่ยวกับเด็ก แล้วได้ใช้ศิลปะบำบัด คือเราอ่านเด็กจากรูปภาพ พยายามให้เด็กทำกิจกรรม อยากรู้ประวัติเด็กก็ให้วาดแผนที่ความคิดของตัวเองว่ามาจากไหน โรงเรียนเป็นอย่างไร ที่บ้านมีกี่คน เพราะเราสามารถอ่านเขาจากรูปที่วาดได้ พอมาวันหนึ่งได้เจอเพื่อนที่ไปเรียนมา เราก็รู้สึกว่า เขางมงาย แต่เขาก็สามารถทักเราถูก เลยลองหยิบเลขนั่นเลขนี่มาให้เขาทาย ปรากฏว่าเขาทักทุกอย่างถูกต้องหมดเลย"

    ความทึ่งในศาสตร์แห่งตัวเลขทำให้ครีเอทีฟมือดีเริ่มมีความสนใจในเรื่องโหราศาสตร์ แต่ยังไม่ได้ปักใจจะศึกษาอย่างจริงจัง เพราะมองว่า ตัวเลขกับคนหัวศิลป์อย่างเขาไปด้วยกันไม่ค่อยได้ จนเมื่อมาพบเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไปเรียนเกี่ยวกับศาสตร์ของลายเซ็นมา และมองว่าเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจจึงค่อยๆ เริ่มศึกษา

    "เส้นบางเส้น เราแค่ตวัดออกมานิดเดียว ทำไมถึงอ่านครอบครัว อ่านถึงอาชีพพ่อแม่เรา อ่านถึงสภาพบ้านเราว่าเป็นแบบไหน ลักษณะบ้านเป็นอย่างไร ที่ดินเป็นอย่างไร สุขภาพเป็นอย่างไร ก็เลยเกิดความสนใจ และให้เพื่อนแนะนำอาจารย์ผู้สอนให้ นั่นก็คือ อาจารย์นงลักษณ์ ศุภผล"

    ในการเรียนศาสตร์ของลายเซ็น เอกพงศ์ บอกว่า เริ่มแรกต้องเรียนรู้เรื่องของเส้นก่อน เพราะเส้นแต่ละเส้นจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของน้ำหนักและความพลิ้วไหว ซึ่งในความต่างนี้เองที่เป็นตัวบ่งชี้ภาวะอารมณ์ รวมถึงอุปนิสัยใจคอเจ้าของลายเซ็นนั้นได้

    "อีกอันหนึ่งคือ การหาธาตุ คำนวณหาราศีธาตุว่าคนนี้เกิดราศีธาตุไหน ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง อันนี้ต้องถามจากวันเดือนปีเกิด เพื่อที่เราจะมาพิจารณาดูว่า เขาเซ็นผิดธาตุหรือเปล่า ถ้าเซ็นผิดธาตุก็จะเกิดปัญหา อย่างเช่นคนเกิดราศีธาตุดิน แต่เซ็นเป็นธาตุน้ำ ก็แสดงว่าเขาไม่มั่นคง ผิดพลาด และอาจเป็นโรคเบาหวานได้"

    เมื่อเรียนรู้เรื่องเส้นและธาตุแล้ว ก็ต้องนำทั้งสองอย่างมาประกอบกัน เพื่อหาความสมดุล

    "ลายเซ็นอะไรก็ตามที่เป็นเหลี่ยมๆ ลักษณะสี่เหลี่ยม เราจะถือว่าเป็นธาตุดิน ดินเป็นลักษณะของความมั่นคง ของการเรียนรู้ไม่จบสิ้น เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่เซ็นเป็นลักษณะธาตุดิน คนนั้นมักชอบในเรื่องของการเรียนรู้ไม่ซ้ำแนว ส่วนคนที่เซ็นปิดกลมทั้งหมด พวกนี้จะเก่งเรื่องการหาข้อมูล ถือว่าเป็นลักษณะของคนธาตุทอง ถ้าโค้ง มน กลม เราถือว่าเป็นธาตุลมและธาตุน้ำ ซึ่งธาตุลมสามารถเข้าได้กับทุกธาตุ ถือว่าไม่เสีย ส่วนธาตุไฟ จะมีลักษณะแหลมคม ตัดๆ พันๆ ถือว่าเป็นธาตุของข้าราชการ"

    บางตำราบอก ลายเซ็นที่ตัดๆ พันๆ ถือว่าไม่ดี คล้ายเป็นลายเซ็นฆ่าตัวเองนั้น หมอดูนักครีเอทีฟเผยว่า จริงๆ แล้วคนที่เซ็นตัดๆ พันๆ ถือเป็นคนเก่งคนหนึ่งที่กล้าตัดสินใจ กล้าเสี่ยงที่จะทำอะไรต่างๆ นานา บุคคลที่เซ็นแบบนี้จะมีความรู้ลุ่มลึกกว่าคนอื่น เพราะเป็นคนขยันหาข้อมูล และมั่นใจในการกระทำของตัวเอง

    สำหรับคนที่ไม่มีลายเซ็น แต่เขียนเป็นลายมือ สามารถเข้าได้กับทุกราศีธาตุ แต่ใช่ว่าจะไม่มีจุดสังเกตเอาเสียเลย เพราะน้ำหนักเส้น และการตวัดปลายปากกา รวมถึงการวางพยัญชนะระหว่างช่องไฟ เหล่านี้มีผลต่อการทำนายทั้งสิ้น

    ส่วนคนที่เซ็นชื่อแล้ววาดรูปประกอบกุ๊กกิ๊ก ตามตำราว่าเป็นลายเซ็นของศิลปิน หรือผู้ที่ทำงานในแวดวงศิลปศาสตร์ อย่างเช่น นักร้อง นักแสดง ซึ่งการเซ็นในลักษณะนี้ถือเป็นจุดเด่นของบุคคลกลุ่มดังกล่าว ซึ่งหมอเอกพงศ์บอกว่า จะไม่แนะนำให้เปลี่ยน เพราะศิลปินเป็นกลุ่มคนที่ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา ลายเซ็นของเขาจึงเป็นสิ่งดึงดูดให้คนอื่นเข้ามาสนใจ

    "การเรียนศาสตร์เรื่องลายเซ็น มันมีความซับซ้อนมาก คอร์สแรกจะเป็นเพียงแค่การบอกปัจจุบัน เพราะลายเซ็นมันเป็นปัจจุบันขณะ ก็ต้องลงเรียนคอร์สต่อไป 4 ปีที่ผ่านมา ผมลงเรียนซ้ำอยู่เรื่อยๆ เพราะเราจะเจอเคสแปลกๆ อยู่ตลอด การได้เจออาจารย์บ่อยๆ ก็จะดีกับตัวเรา คือสามารถสอบถามหรือปรึกษาอาจารย์ได้ อีกอย่าง โหรา แปลว่า กาลเวลา โหราศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยกาลเวลา เพราะฉะนั้นกาลเวลาไม่มีที่สิ้นสุด"

    ถามว่า ลายเซ็น เป็นศาสตร์การดูชะตาที่ง่ายที่สุดหรือเปล่า เอกพงศ์ รีบบอกว่า ความยากง่ายขึ้นอยู่กับความสนใจ เช่นตัวเขาเองถนัดด้านศิลป์ก็เลือกที่จะเรียนลายเซ็น อีกอย่างคือ การพยากรณ์ลายเซ็นไม่มีอุปกรณ์ยุ่งยาก มีแค่กระดาษกับปากกาเท่านั้น

    "ผมชอบที่สุดนะ เพราะว่าง่าย ไปที่ไหนเราสามารถใช้ได้เลย ถ้าเทียบกับศาสตร์อื่นๆ ที่เคยเรียนมา อย่างเลข 7 ตัว 4 ฐาน ความแม่นยำมีสูงก็จริง แต่ไปไหนเราก็ต้องพกตำราปฏิทิน 100 ปี เพื่อเทียบหาวันเวลาของเขา ซึ่งมันก็ลำบากหน่อย ส่วนศาสตร์อื่นๆ ที่ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์และน่าสนใจก็อย่างเช่น การดูใบไม้ ดูกากใบชา หยดหมึก ซึ่งอันนี้ถือว่าแปลก และยังไม่แพร่หลายมาก น่าเรียนต่อเพิ่มเติม"

    ที่สุดแล้ว ในการพยากรณ์อะไรก็แล้วแต่ หมอดูหัวศิลป์คนนี้แนะนำว่า ภาษาในการสนทนาสื่อสารถือว่ามีความจำเป็นมากที่สุด เพราะคนที่มาพึ่งพาหมอดูส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีปัญหา หรือหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ หน้าที่ของหมอดูจึงต้องทำให้เขาสบายใจ และเดินกลับไปอย่างมีความสุข
     

แชร์หน้านี้

Loading...