ร่วมทอดผ้าป่าสร้างรพ.แพทย์แผนไทยเอกชน รักษาฟรี วัดตรีสุทธิธรรม จ.สุพรรณบุรี 11พค.68

#มหากาพย์พระพิทักษ์สหโรคา #กิจกรรมวันวิสาขบูชา #ทอดผ้าป่าเพื่อการสาธารณสงเคราะห์ ครบจบในโพสต์เดียว
#การสร้างโรงพยาบาล
นับเป็นการทำสาธารณกุศลที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืน เป็นการให้สุขภาพที่ดี
และถือเป็นการช่วยชีวิตผู้อื่น จึงนับว่าเป็นมหาทานแก่มหาชน ที่สามารถ สะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเองได้ด้วย เพราะตัวผู้บริจาคทานนี้ก็สามารถ
เข้ารับการบริการที่โรงพยาบาลได้เช่นกัน
.
#วันวิสาขบูชานี้ หลวงพ่อไก่ พระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ #วัดตรีวิสุทธิธรรมขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อการสาธารณสงเคราะห์ (สร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยเอกชน : รักษาฟรี)
โดยในวันวิสาขบูชาที่จะถึงนี้ วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น.
จะมีงานบุญทอดผ้าป่าสามัคคี ณ ศาลาทรงธรรม วัดตรีสุทธิธรรม ต.สระกระโจม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
ท่านสามารถร่วมบุญตามกำลังศรัทธา หรือร่วมบริจาคแบบกองบุญ
กองบุญ ละ 2,000 บาท (ผู้บริจาคจะได้รับของที่ระลึกจากทางวัด และผ้าไตร 1 ผืน สำหรับถวายในพิธี หรือนำมาถวายกับองค์หลวงพ่อไก่ เวลามาขึ้นกราบในช่วงก่อนวันงาน หรือหากไม่ได้มาเอง จะฝากถวายก็ได้)
ท่านสามารถขอใบอนุโมทนาบัตร e-donation เพื่อหักภาษี ได้ทุกรายการ แจ้งโอนพร้อมให้รายละเอียดทาง inbox แฟนเพจนี้ได้เลย
----
ชื่อบัญชี วัดตรีวิสุทธิธรรม ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 739-0200-928
----
*** ก่อนกดโอนเงิน เช็กชื่อบัญชีและรายละเอียดให้ถูกต้องนะคะ ป้องกันมิจฉาชีพสวมเลขบัญชี***
#อานิสงส์ของการสร้างโรงพยาบาล
นับเป็นบุญที่เกิดขึ้นทั้งวันทั้งคืน เพราะได้ช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้ป่วย
ทุกคนทั้งวันทั้งคืน และย่อมเกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ป่วยเอง ต่อครอบครัว
ของผู้ป่วย ต่อสังคมและประเทศชาติ ทำให้จิตใจสงบร่มเย็น มีสง่าราศีผ่องใส สุขภาพร่างกายเเข็งเเรง หากร่วมกับการที่ท่านเป็นผู้รักษาศีลห้า โดยเฉพาะงดเบียดเบียนชีวิตสัตว์หรือบุคคลอื่นแล้วล่ะก้อ ท่านจะมีอายุ
ยืนยาว เวลาแก่ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีคนคอยดูเเลท่าน
#นับเป็นทานของพระโพธิ์สัตว์ อานิสงส์ยิ่งใหญ่เทียบ ‘ปัญจมหาบริจาค’ เจ้าคุณพิพิธ ท่านเคยแสดงไว้ว่า “การบริจาคให้โรงพยาบาล เป็นการสร้างประโยชน์มหาศาลต่อมนุษยชาติโดยไม่เลือกหน้า ไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา นับเป็นทาน เป็นอานิสงส์ของพระโพธิสัตว์เจ้า ดังเช่นเจ้าแม่กวนอิมที่ทรงช่วยเหลือผู้คน
หรือในสมัยพระพุทธเจ้าครั้งเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร บุญใหญ่จริงๆ
ถ้าเป็นทานบารมี มี 5 ประการ ได้แก่ 1.ทานบริจาค คือการบริจาคทรัพย์
ช่วยเหลือคนขาดแคลน 2.บริจาคอวัยวะ 3.บริจาคชีวิต (เช่นพวกกู้ภัย ผจญเพลิงฯลฯ) ตัวเองเป็นตายไม่รู้ แต่ชีวิตที่ตัวเองช่วยนั้นรอด ก็ถือว่าได้ทำทานยิ่งใหญ่นี้ 4.บริจาคลูกเป็นทาน 5.บริจาคภรรยาเป็นทาน ทั้ง 5 ประการนี้
คือปัญจมหาบริจาค #เป็นทานของโพธิสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติ ศาสนาใดก็ตาม ถ้าทำอย่างนี้ นี่คือโพธิสัตว์”
การบริจาคทรัพย์เพื่อเป็นทานในการสร้างโรงพยาบาล เพื่อช่วยชีวิตผู้คน จึงเปรียบเสมือนกับการให้ชีวิต ดังเช่นที่หลวงพ่อไก่มักสอนศิษย์เสมอว่า " ให้ชีวิต ย่อมได้ชีวิต คือเป็นที่รักของผู้อื่นและมีอายุยืนยาว " ครูบาอาจารย์บางท่านให้ความเห็นว่า สร้างโรงพยาบาลยังได้บุญมากกว่าสร้างโบสถ์วิหาร เนื่องจากโบสถ์วิหารมีการใช้น้อย ปีหนึ่งบวชไม่กี่ครั้ง แต่โรงพยาบาลที่รับรักษาผู้คนจากทิศทั้งหก ทั้งใกล้ไกล ปีหนึ่งๆ เป็นแสนคน เรียกว่าเป็นบุญที่มีอานิสงส์มากในทางปริมาณ ทั้งยังรักษาทั้งพระสงฆ์สามเณรและอุบาสกอุบาสิกา ไม่เพียงแต่รักษาประชาชนทั่วไปเท่านั้น
#สร้างโรงพยาบาลวิถีพุทธยิ่งถือว่าเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาโดยตรง อานิสงส์ย่อมส่งผลต่อมรรคผลพระนิพานเป็นที่หวังได้
คุณหมอบางท่านเรียกว่าเป็น "โรงพยาบาลของพระพุทธเจ้า" เพราะแนวนโยบายในการจัดตั้งโรงพยาบาลพระพิทักษ์สหโรคา เพื่อสืบทอดหลักธรรมคำสอนที่เรียกว่า"ธรรมโอสถ" โดยตรง และอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด โดยคำขวัญของโรงพยาบาลมาจากโอวาทธรรมของพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ ที่กล่าวไว้ว่า "รักษาคน เพื่อรักษาธรรม"
ใครมีเวลาน้อย อ่านมาถึงตรงนี้ อยากร่วมบริจาค ร่วมสร้างโรงพยาบาลของพระพุทธเจ้า เชิญได้เลย ทำบุญได้ตามกำลังตามศรัทธา โอนแล้วอย่าลืมแจ้งใน inbox และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลด้วยจร้าา
--------------------------------------------------------------------
ชื่อบัญชี วัดตรีวิสุทธิธรรม ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 739-0200-928
--------------------------------------------------------------------
ท่านสามารถขอใบอนุโมทนาบัตร e-donation เพื่อหักภาษี ได้ทุกรายการ แจ้งโอนพร้อมให้รายละเอียดทาง inbox แฟนเพจนี้ได้เลย

แต่ถ้าใครมีเวลา ลองมาฟังเรื่องยาว เรื่องราวของ #ธรรมะบำบัดองค์รวม และ #คลินิกการแพทย์แผนไทยพิทักษ์ศาสนวงศ์ ตลอดจนความเป็นมาของ #โครงการจัดตั้งโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา กันต่อได้เลยค่ะ
#คลินิกการแพทย์แผนไทยพิทักษ์ศาสนวงศ์ รักษาฟรี คุณก็มาได้ !
เป็นคลินิกการกุศล (ไม่คิดค่ารักษา) เปิดบริการเมื่อศุกร์ที่ 12 เมษายน 2562 เป็นวันแรก หนึ่งในโครงการสาธารณสงเคราะห์ของวัดตรีวิสุทธิธรรม ก่อตั้งขึ้นตามดำริของพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ หรือ "หลวงพ่อไก่" เจ้าอาวาสวัดตรีวิสุทธิธรรม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบำบัดรักษาผู้ป่วยอย่างมีมาตรฐาน ถูกต้องตามกฏหมาย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
.
โดยในการรักษาใช้แนวทาง "ธรรมะบำบัดองค์รวม" เป็นโมเดลผสมผสานการรักษาทางกาย ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย และการรักษาทางจิตใจ ด้วยหลักธรรมโอสถ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บูรณาการร่วมกับหลักธรรมชาติบำบัดต่างๆ เพื่อปรับพฤติกรรมของผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพกาย-จิต ดีขึ้นอย่างยั่งยืนและเป็นองค์รวม ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นแนวทางการแพทย์วิถีพุทธ-วิถีธรรมที่ครบวงจรที่สุด เพราะได้รวมการให้ความรู้เพื่อป้องกันโรคกลับมาเป็นซ้ำและการฟื้นฟูสุขภาพในระยะยาวไว้ด้วย (ผู้ป่วยจึงต้องมารักษาต่อเนื่องเป็นคอร์ส)
.
ซึ่งผู้ป่วยที่จะมาเข้ารับการรักษาที่คลินิกฯ จะต้องลงทะเบียนเข้าคอร์สเพื่อรับการรักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน / 1คอร์ส ด้วยยาสมุนไพรและหัตถการทางการแพทย์แผนไทยต่างๆ ซึ่งผู้ป่วยจะได้เข้าพักค้างคืนในวัดตรีวิสุทธิธรรม และได้เข้าร่วมการปฏิบัติธรรม ซึ่งก็คือ "ธรรมโอสถ" ควบคู่ไปด้วย เช่น การบวชเนกขัมมะ (รักษาศีล การฟังธรรม การทำวัตรสวดมนต์ การเดินจงกรม การทำสมาธิ การทำบุญใส่บาตร การออกกำลังกายด้วยฤาษีดัดตน ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตใจควบคู่กับการรักษาโรคและฟื้นฟูสุขภาพทางร่างกายไปพร้อมๆ กัน
.
#ธรรมะบำบัดองค์รวม โมเดลหลวงพ่อไก่ "เรียบง่าย-ลึก-ครอบคลุม"
ดังแนวคิดที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ผู้มาเข้ารับการรักษาที่คลินิก กลุ่มที่ชอบปฏิบัติธรรม จะกล่าวว่าตนมาถือศีลบวชชีพรามณ์ (บวชเนกขัมมะ) แล้วได้รับการรักษาฟรีที่คลินิกเป็นของแถม หรือผู้ที่ยังยึดมั่นในการรักษาโรค อาจจะกล่าวว่าตนตั้งใจมารักษาโรคที่คลินิกการแพทย์แผนไทยฯ แล้วได้รับของแถมเป็นการสร้างบุญบารมี ได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมที่วัดตรีวิสุทธิธรรมก็ได้ ซึ่งแนวทางการปฏิบัติคู่ขนานดังกล่าวทำให้ทั้งผู้ป่วยและผู้ปฏิบัติธรรมได้มีเวลาดูแล-รักษา-ฟื้นฟูสุขภาพกายใจของตนเองอย่างได้อย่างเต็มที่ และต่อเนื่อง ส่งผลดีอย่างมากต่อการฟื้นฟูสุขภาพตามหลักการบำบัดทางการแพทย์แผนไทย รวมถึงการควบคุมอาหารและปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติบำบัด-นาฬิกาชีวิต
ที่ว่า #เรียบง่าย คือทุกคนสามารถทำตามได้ (แม้ต้องฝืนใจ แต่ก็ไม่ต่างจากการปฏิบัติธรรมทั่วไป) ที่ว่า #ลึก คือแต่ละกิจกรรมที่หลวงพ่อไก่ดำริให้ทำ ล้วนซ่อนคุณค่าความหมายหรือธรรมะที่ลึกซึ้ง ถึงไม่เข้าใจ แค่มีศรัทธาก็ทำได้ และได้รับผลดี ซึ่งเมื่อทำๆ ไปก็จะเข้าใจ รู้ได้ด้วยจิตตน ที่ว่า #ครอบคลุม คือการรักษาครอบคลุมทุกโรค (สหโรคา) เพราะรักษาที่ต้นเหตุ(ต้นธาตุ) กิจกรรมการปฏิบัติธรรมโอสถ มุ่งรักษาจิตซึ่งเป็นต้นธรรม
.
#รักษาคนเท่ากับรักษาธรรม
เพราะการเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก การรักษาชีวิตมนุษย์จึงมีอานิสงส์มาก ยิ่งเป็นการรักษาชีวิต ที่ทำให้ผู้ไข้ได้พบพระสัทธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจึงเป็นการรักษาที่มีอานิสงส์สูงสุด ได้บุญที่สุด เพราะยาที่เหนือยาทั้งปวงคือธรรมโอสถ รักษาโรคกิเลสพันห้าตัณหาร้อยแปด เมื่อรักษาหายขาดแล้วคือไม่ต้องกลับมาเกิดมาทุกข์อีก หลวงพ่อไก่สอนหมอ คือแพทย์แผนไทยรุ่นใหม่ ให้ทำหน้าที่รักษาคน เพื่อรักษาธรรม ไม่ได้รักษาเพื่อเงินรายได้ เพื่ออามิสสินจ้าง หรือเพื่อลาภยศสุขสรรเสริญ ซึ่งเป็นแนวทางของแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ดังนั้นแพทย์แผนไทยที่มาประจำคลินิกทุกคนเป็นจิตอาสา ไม่มีค่าตอบแทน แต่มา "รักษาคนเพื่อรักษาธรรม"
ยิ่งไปกว่านั้น แนวทางการรักษาของแพทย์แผนไทย(แผนธรรม) ในตัวมันเองก็เป็นการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรง ในการให้คำ
แนะนำแก่ผู้ไข้ จึงถือเป็นการให้ธรรมะ เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนาอีกนัยหนึ่งด้วย เพราะการปฏิบัติธรรมโดยเนื้อแท้แล้วก็คือ "การปฏิบัติตนตามทำนองคลองธรรม(ชาติ)" ด้วยการกินอาหารธรรมชาติ (เน้นมังสวิรัต) การรักษาศีล การผ่อนคลายความเครียดด้วยสมาธิ ฯลฯ ย่อมสอดคล้องกับวิถีธรรมชาติ เป็นผลให้กายใจจิต มีความสมดุล มีเสถียรภาพ มีพลังงานบวก จนเกิดสุขภาพองค์รวมที่ดีตามธรรมชาติ (หากเกิดความเสื่อมก็เป็นไปตามธรรมชาติและสามารถแก้ได้ด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ)
อนึ่ง การสร้างบุญบารมีที่เกิดจากการปฏิบัติทานศีลภาวนานี้ ย่อมเป็นพลานิสงส์ ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจและร่างกายของผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้ในปัจจุบัน ในทางธรรมนอกจากการบำบัดกายและจิตแล้ว ยังมีการบำบัดทางวิญญาณอีกด้วย โดยใช้รูปแบบการกรวดน้ำขออโหสิกรรมให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ทุกๆ ครั้งที่ผู้ป่วยได้กระทำความดีหรือกุศลกรรมต่างๆ ตามหลักของกรรมและการให้ผลของกรรม ซึ่งเป็นสัมมาทิฐิ เป็นความเชื่อหลักในพระพุทธศาสนา หากเปรียบเทียบกับหลักด้านจิตวิทยา การบำบัดทางจิต (Psychotherapy) การกรวดน้ำ สามารถถูกมองว่าเป็น "การใช้พิธีกรรม (ritual) เพื่อช่วยรักษาจิตใจ เป็นการแสดงออกถึงการให้อภัย การปลดปล่อยความรู้สึกผิด และการเสริมสร้างความหวัง" ได้อีกด้วย
.
#หลักธรรมะบำบัดองค์รวม #ถือเป็นมรดกธรรม ที่หลวงพ่อไก่หรือท่านพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ ได้ตกผลึกจากการศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จากการปฏิบัติพระกรรมฐาน ซึ่งเป็นการปฏิบัติทางจิตอย่างอุกฤษฏ์ แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่านเองสมัยหนุ่มๆ ทั้งยังได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องธาตุ 4 ขันธ์ 5 จนแตกฉาน เกิดญาณอภิญญา โดยญาณที่สำคัญที่สุดตัวสุดท้าย คือ อาสวักขยญาณ ทำให้เข้าใจหลักธรรมโอสถอย่างลึกซึ้ง แตกฉาน เช่นเดียวกับพ่อแม่ครูอาจารย์พระป่าทั้งหลายในอดีต ที่จบกิจจบการศึกษาในวิชาของพระพุทธเจ้านั่นเอง โดยท่านได้ทุ่มเทเวลาให้กับศึกษาค้นคว้าแนวทางการบำบัดผู้ไข้ในสมัยพุทธกาล ของบรมครูแพทย์แผนโบราณปู่ชีวกโกมารภัจจ์ และพระฤาษีต่างๆ ตามที่มีปรากฎสืบทอดจากคัมภีร์โบราณ ร่วมกับอภิญญาญาน ตลอดจนแนวทางของพระหมอยาอย่าง "หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า" หรือจากตำรายาในสมัยพระนารายณ์จวบจนถึงสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (**ซึ่งเป็นบรมครู-บูรพาจารย์ที่ทุกท่านจะได้บูชาในพิธีไหว้ครูวันวิสาขบูชา)
ประสบการณ์ที่หลากหลายเหล่านี้ได้ถูกตกผลึก กลั่นกรองด้วยจิตด้วยธรรมที่บริสุทธิ์ จนเกิดเป็นญาณหยั่งรู้ที่ลึกซึ้งกว้างไกล ได้กลายเป็นแนวทางปฏิบัติและคำสอนที่หลวงพ่อได้นำมาถ่ายทอดสั่งสอนให้ลูกศิษย์ทุกวันเป็นเวลากว่า 10 ปี จนเกิดองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทย แบบที่ไม่มีวุฒิบัตรหรือปริญญาบัตร จากสถาบันหรือสำนักเรียนไหนๆ จะให้ได้ ต่อมาเมื่อหลวงพ่อได้ลูกศิษย์กลุ่มใหญ่เป็นแนวร่วม "รักษาตน" ด้วยความรู้ที่หลวงพ่อสอน จนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีใจเป็นจิตอาสาพร้อม "รักษาธรรม" คือทำงานหนักถวายงานพระศาสนาอยู่กับหลวงพ่อทั้งเต็มเวลาและครึ่งเวลาจำนวนหนึ่ง ที่ได้ไปเรียนไปสอบรับใบอนุญาต เป็นแพทย์แผนไทยได้ตามกฏหมายแล้ว หลวงพ่อก็ได้เดินหน้าสนับสนุนให้ศิษย์กลุ่มนี้เปิดคลินิกการแพทย์แผนไทย เพื่อให้บริการรักษาฟรีแก่ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดตรีวิสุทธิธรรมอย่างเต็มรูปแบบจนถึงปัจจุบัน
สำหรับศิษยานุศิษย์แล้ว หลวงพ่อไก่ท่านเป็นประจักษ์พยานถึงคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ที่ท่านได้กล่าวว่า รู้จิตตนดีแล้ว ย่อมรู้จิตผู้อื่น (เจโตปริยญาณ) ศึกษากายจากพระกัมมัฏฐานอสุภะอสุภัง จนเห็นกายตนอย่างแตกฉานดีแล้ว ย่อมเห็นกายผู้อื่นได้หมด (ทิพยจักขุ) สิ่งเหล่านี้ในปัจจุบัน กลายเป็นเรื่องยาก และเหนือนิสัยของปุถุชนคนธรรมดาที่จะสามารถเข้าใจได้ หลวงพ่อก็สอนให้หมอสัมภาษณ์คนไข้อย่างละเอียด และรายงานท่านทุกวัน โดยท่านก็จะชี้ให้เห็นหลักในการสังเกตวินิจฉัยโรค แบบโบราณควบคู่ไปกับแนวทางที่แพทย์แผนไทยแต่ละท่านได้เรียนมา นอกจากนี้ท่านก็ไม่ปฏิเสธการใช้เครื่องมือแพทย์สมัยใหม่ (แนวแพทย์แผนไทยประยุกต์) ที่มีการใช้ผลจากห้องปฏิบัติการต่างๆ ของแผนปัจจุบัน เข้ามาร่วมด้วย
.
จึงกล่าวได้ว่าหลักธรรมบำบัดองค์รวม เป็นการบูรณาการหลักธรรมโอสถ เข้ากับศาสตร์การรักษาโรคของแพทย์แผนไทยและหลักธรรมชาติบำบัด อย่างสมบูรณ์และจริงแท้ที่สุด ดังคำขวัญว่า "รักษากายด้วยแพทย์แผนไทย รักษาใจด้วยธรรมโอสถ" ซึ่งเป็นมรดกธรรมที่หลวงพ่อไก่อยากฝากไว้ในแผ่นดิน ให้ลูกหลานได้สืบทอดเป็นวิชาความรู้ เป็นแนวคิด เป็นวิถีปฏิบัติ เป็นตำรับยา เป็นอาหาร เป็นผลิตภัณฑ์ เป็นอะไรก็ตามที่ใช้พิทักษ์รักษาชีวิตของ "ศาสนวงศ์" คือกุลบุตรธิดาอนุชนคนรุ่นหลังทั้งหลาย อย่างยั่งยืนและสามารถพึ่งตัวเองได้ สิริรวมเป็นหลักธรรมบำบัดองค์รวม ที่ใช้เป็นแกนหลักของกิจวัตรประจำวัน ของชาววัดตรีวิสุทธิธรรมนั่นเอง
(**ในมุมมองของหลวงพ่อไก่ ท่านให้การรักษาโดยไม่แบ่งแยกไม่จำเป็นต้องเป็นชาวพุทธเท่านั้น จะเชิ้อชาติใดศาสนาใด ก็สามารถนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ปฏิบัติตามหลักศาสนาของตนได้)
.
ซึ่งปลายทางที่สุดของการรักษาด้วยธรรมบำบัดองค์รวมนั้น คือการปฏิบัติสู่ทางพ้นทุกข์ คือมรรคผลพระนิพพาน นั่นเอง
"จากรักษากาย สู่การรักษาใจ" เพื่อภารกิจที่ยิ่งใหญ่คือการ "รักษาธรรม"
#โรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา
.
จากหลักการและประสบการณ์ดังกล่าว ของคลินิกการแพทย์แผนไทยพิทักษ์ศาสนวงศ์ หลวงพ่อพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ได้ปรารถธรรมอันเป็นอนาคตังไว้ว่า ท่านเห็นว่าในอนาคตคนจะศรัทธาในการเข้าวัดปฏิบัติธรรมน้อยลง แต่มีความเชื่อมั่นในการแพทย์ที่เป็นระบบระเบียบ แต่สะดวกสบายมากขึ้น จึงควรจะสร้างให้เกิดโรงพยาบาลที่มีการให้บริการที่สะดวกและมีมาตรฐานที่สูงขึ้น ก็จะสามารถรองรับความต้องการของผู้ป่วยได้ในวงกว้าง จะทำอย่างไรให้ธรรมบำบัดองค์รวมเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลได้ ก็จะช่วยชีวิตคนได้อย่างยั่งยืนมากขึ้นไปด้วย..
.
ในระยะต่อมา คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อไก่กลุ่มหนึ่ง ได้รวมตัวกันจัดตั้งมูลนิธิพระพิทักษ์สหโรคา เพื่อสืบสานปณิธานของท่านในการสงเคราะห์ผู้ป่วยและผู้ยากไร้ โดยมีโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย โดยได้รับมอบที่ดินจากหลวงพ่อไก่และผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งอยู่ติดวัดตรีวิสุทธิธรรม ให้ก่อสร้างเป็นอาคารโรงพยาบาล ที่มีลักษณะเป็นอาคาร 6 เหลี่ยม 6 ชั้น สามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 60 เตียง และมีแผนกต่าง ๆ เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกเภสัชกรรมไทย แผนกนวดไทยและตอกเส้น รวมถึงห้องวิจัยยาและห้องประชุม เพื่อรองรับการรักษาและการวิจัยด้านการแพทย์แผนไทยอย่างครบวงจร
.
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาในองค์หลวงพ่อไก่ พระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์เป็นหลัก จากนั้นได้ขยายไปสู่สาธารณะชนในวงกว้างขึ้น ตลอดจนได้รับความร่วมมือจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าและทอดกฐินสามัคคีของทางวัดตรีวิสุทธิธรรม ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565 ภายใต้ "โครงการสาธารณสงเคราะห์" ของวัดตรีวิสุทธิธรรม อาทิเช่น ธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมจัดแคมเปญ "เติมบุญ" จัดระดมทุน และเป็นเจ้าภาพใหญ่กฐินสามัคคีในปี 2566 เป็นต้น ซึ่งจากความร่วมมือกันของทุกฝ่ายทำให้การก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล ได้ดำเนินไปอย่างมั่นคงและรวดเร็ว (ขณะขึ้นกำลังขึ้นโครงสร้างชั้นที่ 5) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปีหน้า
.
อย่างไรก็ดี ทางโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา ยังขาดทุนสนับสนุนอีกมาก ทางมูลนิธิฯ จึงได้เปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาตลอดทั้งปี เพื่อร่วมกันสร้างสถานพยาบาลที่ให้การรักษาฟรีแก่ผู้ป่วยและผู้ยากไร้แห่งนี้ได้สำเร็จในเร็ววัน
#ผ้าป่าสามัคคีเพื่อการสาธารณสงเคราะห์ #สร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา #ประจำเทศกาลวิสาขบูชา
ในครั้งนี้ ทางวัดตรีวิสุทธิธรรม นำโดยท่านพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ ก็ยังคงเมตตาให้ทางวัดได้จัดกิจกรรมทอดผ้าสามัคคีขึ้นในวันวิสาขบูชา อันเป็นวันพระใหญ่ ถือเป็นวันพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบรมครูของสัตว์โลก ที่ได้ประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันสำคัญของโลกของพุทธศาสนิกชน ของคณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อไก่ และของชาววัดตรีวิสุทธิธรรมทุกคน ได้ถือเป็นโอกาสที่จะได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณ ในการจัดพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ และได้ร่วมกันสืบศาสนาอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการปฏิบัติธรรม สวดมนต์ข้ามคืน และได้ทำมหาทานคือการทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนโครงการสาธารณสงเคราะห์ สร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคาไปพร้อมกัน
.
ยิ่งไปกว่านั้น ในงานนี้ ผู้มาร่วมงานยังได้มีโอกาสร่วมเททองหล่อ
"พระรอดนาลันทา" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหมอยาแห่งนาลันทา หรือ
“พระพุทธเจ้าองค์ดำ” อีกด้วย
#พระรอดนาลันทา ทางเลือกและทางรอดของที่พึ่งทางจิตใจในปัจจุบัน
พระพุทธเจ้าองค์ดำ เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่หลุดรอด
จากการถูกทำลายของกองทัพมุสลิมเติร์ก อนึ่งหลวงพ่อดำองค์นี้ นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์มีพลังพุทธานุภาพด้านรักษาโรค ที่คนไทยอาจไม่รู้แต่ชาวโลกรู้ดี
.
ผู้ศรัทธาจากทั่วโลกต่างก็เดินทางไปกราบสักการะ ขอพรเพื่อรักษาโรคให้หายมานับรายไม่ถ้วนแล้ว. ทางวัดตรีวิสุทธิธรรมได้มีผู้มีจิตศรัทธาเป็นเจ้าภาพหล่อพระรอดนาลันทา องค์จำลอง เพื่อประดิษฐานไว้ให้ชาวพุทธในประเทศไทย ได้กราบไหว้สักการะและขอพรเป็นขวัญกำลังใจสืบต่อไป
.
กล่าวได้ว่า "พระรอดนาลันทา" เป็นสัญลักษณ์ของความอยู่รอดปลอดภัน แคล้วคลาดจากภัยร้ายทางศาสนาและทางโลก นั่นก็คือภัยสงครามและภัยพิบัติต่างๆ ด้วยเหตุนี้พระอาจารย์ใหญ่ หรือหลวงพ่อไก่ท่านได้เล็งเห็นถึง "พลังของการอยู่รอด" จึงได้ดำริให้จัดสร้างพระพุทธรูป "พระรอดนาลันทา" องค์จำลอง ในประเพณีหล่อพระในวันวิสาขบูชา ปี 2568
#เราต้องรอดให้ได้ไปพร้อมๆกัน
ยุคนี้เป็นยุคที่แปลกประหลาด เทคโนโลยีพัฒนาเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก
แต่กลับเชื่อมั่นได้น้อย และกลายเป็นยุคที่มีความปลอดภัยต่ำกว่าในยุคอดีต
เพราะผู้ใช้เทคโนโลยีคือมนุษย์นั้นกลับมีจิตใจที่ตกต่ำลง
จนเกิดเป็นวิกฤตศรัทธา ไม่เพียงแต่ผู้คนมีสภาพจิตใจที่ตกต่ำไม่ไม่อยู่ในศีลในธรรม จนเมื่อเอาจิตเช่นนั้นไปมองพระสงฆ์องคเจ้าหรือวัดวาอาราม ก็มองเห็นแต่ความเสื่อมของศาสนา ทำให้หมดศรัทธาในพุทธศาสนา ศาสนิกกลายเป็นผู้ที่ทำลายศาสนาเสียเอง ด้วยการปฏิบัติมิชอบไม่ประกอบด้วยศีลด้วยธรรม โกงกินคอรัปชั่นกันทุกภาคส่วน จนกลายเป็นว่าคนไทยยุคนี้ วิ่งหาที่พึ่งยึดเหนี่ยวทางใจ คนรุ่นใหม่ที่เรียกว่าอินฟลูเอ็นเซอร์ กลับพาผู้คนวิ่งเข้าหาหมอดู พึ่งพาคุณไสย ใส่วัตถุมงคล เกิดเป็นวิถีมูเตลู ยิ่งหลงในความงมงายกว่าคนยุคก่อนหน้านี้ไปเสียอีก หลวงพ่ออธิบายว่า "เหตุเกิดจากความไม่มีศีลมีธรรมของผู้คน" ไม่มีศีลไม่มีคุณธรรมคือไม่มีหลักมั่นเป็นพื้นฐานทางจิตใจ ทำให้จิตใจหวั่นไหวไม่มั่นคง เพราะหลงกิเลสตัณหาจึงต้องอยู่ด้วยความร้อนเร่าหวาดหวั่นระแวง จนเกิดความเครียดเกิดโรคจิตโรคประสาทขึ้นมาก ประกอบกับภัยธรรมชาติ (จากผลการทำลายธรรมชาติของมนุษย์เอง) มาซ้ำเติมเสมือนฟ้าดินลงโทษ กลายเป็นสารพัดภัยพิบัติโถมเข้าใส่ผู้คนในยุคปัจจุบัน
ท่ามกลางสภาวะพิบัติภัยเหล่านี้ เกิดที่พึ่งขึ้นมามากมายหลายรูปแบบ แต่ไม่มีที่พึ่งใดเลยที่จะมั่นคงเท่าพึ่งพระพึ่งธรรม ในท่ามกลางทะเลแห่งความทุกข์ เกาะที่มั่นอันเป็นหลักที่แท้จริงของเราได้ ก็ยังเป็นพระรัตนตรัยอยู่นั่นเอง กล่าวได้ว่า"พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่อาศัย เป็นสรณะอันประเสริฐที่สุดที่แท้จริง (ที่แท้ทรู) ถ้าทุกข์ใจไม่รู้จะพึ่งใคร ก็ให้มาวัด
วัดที่พึ่งได้ ที่มีพระสงฆ์ที่พึ่งได้ยังมีอยู่ ครูอาจารย์ที่ให้ด้วยใจ ให้ด้วยความบริสุทธิ์แห่งจิตใจก็ยังมีอยู่ พระธรรมคำสั่งสอนแนวทางการปฏิบัติของแท้ก็ยังมีอยู่ ถ้าใครเอาไปทำตามก็ย่อมได้ผลคลายทุกข์ ทำให้ "รอด" ได้อยู่ แม้ในสภาวะที่รอดยากมากๆ แต่พวกเราศิษย์พระตถาคตก็รอดมาได้โดยตลอด
ในสภาวะที่ทุกคนกำลังประสบภัยพิบัติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และอยากเป็นผู้มีชีวิตรอด ก็ต้องมาบูชาขอพร "พระรอดนาลันทา"
#อ่านถึงตรงนี้สายตรงสายหลวงพ่อไก่ต้องมา #ไม่มาไม่ได้แล้ว ต้องมา #แสดงความกตัญญูบูชาพ่อแม่ครูอาจารย์ มาไหว้ครูบูรพาจารย์ #สายหมอมาไหว้ครูหมอยา #สายมูมาหล่อพระรอดนาลันทา #สายเปย์ต้องมาทำบุญทอดผ้าป่า
#กำหนดการกิจกรรมวันวิสาขบูชา
วันที่ 10 พ.ค. 2568
19.00 น. ทำวัตรเย็นและพิธีคล้องมงคล 9 ชีวิต
22.00-03.00 น. สวดมนต์ข้ามคืน
วันที่ 11 พ.ค. 2568 (เวลาโดยประมาณ)
06.00 น. ใส่บาตรหลวงพ่อไก่
08.00 น. มหาบวงสรวง (หลังจากนั้น เจ้าภาพติดต่อรับผ้าไตรและของที่ระลึกเตรียมร่วมขบวนแห่ผ้าป่า)
13.00 น. พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ /พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี/พิธีหล่อพระรอดนาลันทา /พิธีมุทิตาจิตหลวงพ่อ
19.00 น. เวียนเทียนวันวิสาชบูชา จากนั้นทำวัตรเย็น
ไหว้ครูบูรพาจารย์ วันวิสาขบูชา เป็นประเพณีแห่งความดีงามที่ลูกศิษย์วัดตรีวิสุทธิธรรมได้ดำเนินมากว่า 10 ปี ไม่มาไม่ได้แล้วงานนี้ต้องมา มาร่วมกิจกรรมทั้งสองวัน หรือจะมาใส่บาตร-ทอดผ้าป่า-หล่อพระ วันเดียวก็ยังดี
#วิสาขบูชา #วัดตรีวิสุทธิธรรม #โรงพยาบาลแพทย์แผนไทย
#โรงพยาบาลแพทย์แผนไทยพระพิทักษ์สหโรคา
#หล่อพ่อรอดนาลันทา
#ไหว้ครูบูชาบูรพคณาจารย์ #ทอดผ้าป่าสร้างโรงพยาบาลสืบทอดพระพุทธศาสนา #เททองหล่อพระรอดนาลันทาเป็นขวัญกำลังใจ
https://www.facebook.com/PRwattri?locale=th_TH